ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เล่ห์ร้าย 2 100% แก้ไขคำผิด
เรียนเสร็จเป็นเวลา 12.00 น. เมยาวีไม่รอช้ารีบออกจากห้องไปที่หน้ามหาวิทยาลัยเพื่อโบกแท็กซี่ จุดมุ่งหมายคือบริษัทเลิศวงค์วิทยา
"รถอะไรจะติดขนาดนี้เนี่ย" เมยาวีบ่นพึมพำในขณะที่เธอนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ด้านหลังคนขับ มองนาฬิกาที่ตอนนี้เป็นเวลา 12.40 น สักพักใหญ่รถแท็กซี่ก็วิ่งมาจอดอยู่หน้าบริษัทเลิศวงค์วิทยาเธอไม่รอช้ารีบจ่ายเงินแล้วลงจากรถทันที เธอตรงไปที่แผนกประชาสัมพันธ์
"ดิฉันมาพบคุณเวพัฒน์ค่ะ" เมยาวีเอ่ยอย่างเร่งรีบ
"นัดไว้หรือป่าวค่ะ"หญิงสาวที่ทำหน้าประชาสัมพันธ์ตอบ
"นัดค่ะ"
"รอสักครู่นะค่ะ"หญิงสาวรีบต่อโทรศัพท์ถึงเลขาหน้าห้องท่านประธานสักพักก็หันมาหาเมยาวี
"เชิญค่ะ ชั้น 18 อยู่ทางขวาตรงไปสุดทางค่ะ"
"ขอบคุณค่ะ"พอรู้ที่หมายเมยาวีรีบขึ้นลิฟท์ทันที่โดยที่เธอมองนาฬิกาซึ่งตอนนี้เป็นเวลา
13.05 น.ลิฟท์เปิดออกบอกให้คนข้างในรู้ว่าถึงชั้น 18 แล้ว เธอเดินไปที่ห้องประธานทันที " อยู่ทางขวาตรงไปสุุดทาง" เธอพูดเบาๆเพื่อย้ำสิ่งที่ประชาสัทพันธ์บอก และในที่สุดเธอก็มาถึงหน้าห้องซึ่งมีป้ายติดไว้ ว่า ห้องท่านประธาน ทางซ้ายมือมีเลขานั่งอยู่
"คุณเมยาวีหรือป่าวค่ะ" เลขาหน้าห้องถามอย่างสุภาพ เธอมองเมยาวีอย่างวิเคราะห์ว่าเด็กนักศึกษามาหาท่านประธาน
"ใช่ค่ะ"
"เชิญด้านในค่ะ"
"กว่าจะเข้าได้"เมยาวีบ่นเบาๆเพราะเธอรู้สึกว่ามันหลายด่านมากกว่าจะเข้าพบชายหนุ่ม
เมยาวีเคาะประตูก่อนที่จะเดินเข้าไป เธอเดินไปหยุดกลางห้อง ห้องทำงานขนาดใหญ่ เรียบหรูด้วยดีไซน์ ตกแต่งด้วยกระจกมองเห็นบรรยากาศกรุงเทพจากที่สูง ชายหนุ่มยืนมองออกไปทางกระจกเขาเห็นตั้งแต่เมยาวีลงจากรถแท็กซี่ และตอนนี้เธอก็อยู่ข้างหลังเขา เวพัฒน์ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะหันมาหาหญิงสาวที่ตอนนี้ก็คงยืนอยู่
"บ่ายโมงสิบสามนาที"เวพัฒน์ทักหญิงสาวที่คำพูดนี้
"ค่ะ ฉันมาตรงเวลา"เมยาวีกวนกลับ
"ตรงอย่างไง บ่ายโมงสิบสามเนี่ยนะ คุณมาเลยไปสิบสามนาที"เวพัฒน์ตั้งใจจะแกล้งหญิงสาวแต่มันไม่ง่ายเลย
"ฉันไม่ได้บอกว่าจะมาบ่ายโมงตรง ฉันบอกว่าตอนบ่ายแล้วนี่มันก็ยังอยู่ช่วงตอนบ่ายค่ะ"เมยาวียิ้มอย่างผู้ชนะ เวพัฒน์นึกไม่ถึงว่าเธอจะเล่นมุกนี้ "ร้ายจริงๆ" เวพัฒน์พูดในใจ เวพัฒน์มองหญิงสาวที่ตอนนี่เธออยู่ในชชุดนักศึกษาเขาเห็นเธอแต่งชุดนี้เป็นครั้งที่สองแล้วแล้วก็รู้ด้วยว่าเธอพึ่งเลิกเรียนด้วยตารางสอนของเธอที่วิมุตหามาให้
"นั่งซิ" เวพัฒน์เอ่ย
"ไม่เป็นไร คุณว่าธุระของคุณมาดีกว่า"เธออยากรู้เรื่องบ้านรัตนธนากูลอย่างเดียวตอนนี้จนไม่อยากนั่ง และก็เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาเชิญให้เธอนั่งแต่เธอไม่นั่งคนอยากเอาชนะอย่างเวพัฒน์จึงไม่ยอมให้เธอขัดคำสั่งเขาได้อีก
"ผมบอกให้นั่ง" คำพูดเสียงเรียบๆกับสายตาที่ดูดุขึ้นทำให้เธอขนลุกไม่น้อย เธอเลื่อนเก้าอี้มานั่งช้าๆ "ไม่ใช่ว่าฉันกลัวหรอกนะ ฉันก็แค่อยากรู้เรื่องบ้าน"เมยาวีคิดในใจ แต่ความเป็นจริงแล้วเธอก็ระแวงอยู่เหมือนกันเพราะตอนนี้อยู่ในห้องของเขาสองต่อสองเธอกลัวว่าเขาจะทำอย่างวันนั้นอีก เวพัฒน์ยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะเมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั่งลง เธอไม่รอช้ารีบพุ่งประเด็ดที่เธออยากรู้ทันที
"เรื่องบ้านรัตนธนากูล คุณหมายความว่าอย่างไง" เมยาวีถามอย่างสงสัยที่ชื่อบ้านหลังนี้หลุดออกมาจากปากเขา
"ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ผมอยากจะบอกคุณว่าตอนนี้บ้านรัตนธนากูลเป็นของผม"พูดจบเวพัฒน์ยื่นซองเอกสารให้หญิงสาว เธอไม่รอช้ารีบเปิดดูและพบว่าเป็นอย่างที่เขาพูทุกอย่างตอนนี้เขาเป็นเจ้าของบ้านถูกต้องตามกฎหมาย เมยาวีตกใจมากที่บ้านที่เขารักตอนนี้ตกไปอยู่ในมือของคนตรงหน้า
"คุณต้องการอะไร แล้วคุณรู้ได้อย่างไงว่าฉันต้องการบ้านหลังนี้"เมยาวีทั้ง งง ทั้งสับสน เธอไม่รูว่าชายหนุ่มต้องการอะไรจากเธอ
"คุณต้องการบ้านหลังนี้" เวพัฒน์ทำแกล้งเป็นไม่รู้ว่าหญิงสาวอยากได้ เขายิ้มอย่างอารมณ์ดี จนเมยาวีแปลกใจกับอารมณ์ที่ขึ้้นๆลงๆของเขา
"ใช่ ฉันต้องการบ้านหลังนี้มันเป็นบ้านของฉัน"เธอเริ่มคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่เมื่อเห็นท่าทางยิ้ม และกวนของเวพัฒน์
"เคยเป็น คุณใช้คำว่าเคยเป็นจะเหมาะกว่า เพราะตอนนี้บ้านหลังนี้มันเป็นของผมแล้วผมจะทำอะไรกับบ้านหลังนี้ก็ได้" เป็นอีกครั้งที่เวพัฒน์ทำท่าทางกวนเธอเขายิ้มอย่างผู้ชนะอีกครั้ง
"คุณจะทำอะไร คุณห้ามทำอะไรกับบ้านหลังนี้นะ"เมยาวีขึ้นเสียง
"ผมคิดว่าผมจะรื้อบ้านหลังนี้ทิ้งซะ แล้วก็จะทำเป็นไดร์กอล์ฟ ผมว่าธุรกิจนี้ก็ไม่เลวนะ"เวพัฒน์พูดอย่างอารมณ์ดีพูดจบเสียงหญิงสาวก็แทรกขึ้นทันที
"ไม่ได้นะคุณจะรื้อไม่ได้"
"คุณมีสิทธิ์อะไร"
เมยาวีไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้เธอจะทำอย่างไรบ้านที่เธอรัก เธอเฝ้ามองมาตลอดสามปีเธอขยันเรียนทำงานทำทุกอย่างให้ได้เงินเพื่อวันหนึ่งเธอจะไปถ่ายบ้านหลังนี้คืนมาได้ แต่วันนี้บ้านหลังนี้กำลังจะถูกรื้อไปเป็นไดร์กอล์ฟ เธอจะยอมได้อย่างไง แล้วเธอก็สัญญากับบิดามารดาไว้แล้วว่าเธอจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้บ้านหลังนี้กลับคืนมา
"คือฉัน..ฉันขอร้อง"เมยาตัดสินใจพูดออกไปในที่สุดคำขอร้องที่เธอไม่คิดจะขอจากผู้ชายคนนี้แต่เธอต้องพูดเพื่อรักษาบ้านหลังนี้เอาให้ "คุณจะให้ฉันทำอะไรฉันยอมทำทุกอย่าง แต่ขออย่างเดียวอย่ารื้อบ้านหลังนี้"น้ำเสียงที่ดูจริงจิงและอ่อนลงเพื่อขอร้อง เธอยอมทุกอย่างจริงๆ
"คุณพูดแล้วนะ ว่าคุณจะยอมทำทุกอย่าง"เวพัฒน์ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
"ค่ะ"เธอสูดลมหายใจเต็มปอดก่อนจะพูดออกไป ชายหนุ่มพยักหน้ากับคำตอบที่ได้ฟังทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามแผนที่เขาวางไว้
"คุณต้องมาเป็นเลขาส่วนตัวของผมเป็นระยะเวลาหนึ่งปีและผมจะขายบ้านหลังนี้ให้คุณในราคาที่คุณต้องการ คุณสามารผ่อนได้เท่าไรก็ได้โดยที่ผมจะไม่คิดดอกคุณเลย"
เมยาวียอมรับเลยว่าเธอตกใจในเงื่อนไขของเขามันดูดีเกินไปจนไม่หน้าไว้ใจ
"ห้าสิบเปอร์เซ็นต์จากราคาที่คุณซื้อมา"
"ได้"คำตอบของเวพัฒน์ตอบเธออย่างรวดเร็วเหมือนไม่ต้องคิด ทั้งๆที่มันเป็นจำนวนเงินหลายร้อยล้านบาทที่เขาต้องลดให้เธอ ซึ่งตอนแรกที่เธอถามไปเธอก็ไม่คิดว่าเขาจะยอม คำตอบนี้ทำเธอตกใจไม่น้อย
"แล้วฉันต้องทำอย่างไรบ้าง"
"ก็เป็นเลขาส่วนตัวของผม ทุกที่ทุกเวลาไม่มีสิทธิ์พักจนกว่าผมจะสั่งให้พัก"
"บ้า เลขาบ้าอะไรทำงานขนาดนั้น"เมยาวีขึ้นเสียงเพราะเธอไม่คิดว่าจะต้องทำงานหนักขนาดนั้น
"ผมลดราคาบ้านให้คุณถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ซึ่งมันก็หลายร้อยล้านบาท คุณจะทำงานแค่แปดโมงเช้าและห้าโมงเย็นกลับผมว่ามันไม่สมเหตุสมผลนะ แล้วผมก็ให้เงินเดือนคุณด้วยคุณไม่ต้องห่วง"
"ฉันทำไม่เป็น ฉันเรียนบัญชีไม่ได้เรียนเลขา"
"งั้นก็แล้วแต่คุณ ถ้าคุณไม่ตกลง ผมก็จะรื้อบ้านหลังนี้ซะแล้วก็จะทำเป็นธุรกิจไดร์กอล์ฟ" เวพัฒน์คิดว่าตอนนี้เขาถือไพ่เหนือกว่าเธอ
"เท่าไร คุณจะให้เงินเดือนฉันเท่าไร" เมยาวีรีบพูดก่อนที่เวพัฒน์จะเปลี่ยนใจ
"แล้วแต่คุณเลย คุณจะเอาเท่าไร"
เมยาวีคิดอยู่สักพักเธอคิดถึงรายได้ต่อเดือนที่เธอทำงานพริตตี้ซึ่งรายได้ต่อเดือนก็เกือบแสนแล้วถ้าเธอมาทำงานให้เขาเธอคงไม่มีเวลาไปรับงานพริตตี้
"สามแสน"เมยาวีเอ่ยเมื่อเธอบวกลบคูณหารในใจ
"ได้ " เป็นอีกคำตอบที่เขาตอบอย่างรวดเร็วไม่ต้องคิดเช่นเคย ทำเอาเมยาวีอึ้งไปเล็กน้อยที่เขายอมจ่ายเธอหนักขนาดนี้
"แต่ตอนนี้ฉันยังเรียนไม่จบ อีกสองอาทิตย์กว่าจะสอบเสร็จ"
"แปลว่าคุณตกลง"
"ยัง ฉันขอเวลาคิดก่อน"
"สามวันผมให้เวลาคุณสามวัน"
"หนึ่งอาทิตย์"เมยาวีรีบพูด แต่เวพัฒน์ก็ไม่ยอมเห็นเธอต่อรอง เขาก็ยิ่งขึ้น
"หนึ่งคืน"เมยาวีได้ยินเธอถึงกับร้อง
"ห๊ะ หนึ่งคืน"
"ห้ามต่อ เพราะคุณไม่มีสิทธิ์ หนึ่งคืน ผมให้เวลาคุณคิดแค่นั้น พรุ่งมาให้คำตอบผมที่นี่ และผมหวังว่าคำตอบที่ได้คงเป็นคำตอบที่ฉลาดนะ หมดธุระแล้วคุณกลับไปได้"
"รถอะไรจะติดขนาดนี้เนี่ย" เมยาวีบ่นพึมพำในขณะที่เธอนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ด้านหลังคนขับ มองนาฬิกาที่ตอนนี้เป็นเวลา 12.40 น สักพักใหญ่รถแท็กซี่ก็วิ่งมาจอดอยู่หน้าบริษัทเลิศวงค์วิทยาเธอไม่รอช้ารีบจ่ายเงินแล้วลงจากรถทันที เธอตรงไปที่แผนกประชาสัมพันธ์
"ดิฉันมาพบคุณเวพัฒน์ค่ะ" เมยาวีเอ่ยอย่างเร่งรีบ
"นัดไว้หรือป่าวค่ะ"หญิงสาวที่ทำหน้าประชาสัมพันธ์ตอบ
"นัดค่ะ"
"รอสักครู่นะค่ะ"หญิงสาวรีบต่อโทรศัพท์ถึงเลขาหน้าห้องท่านประธานสักพักก็หันมาหาเมยาวี
"เชิญค่ะ ชั้น 18 อยู่ทางขวาตรงไปสุดทางค่ะ"
"ขอบคุณค่ะ"พอรู้ที่หมายเมยาวีรีบขึ้นลิฟท์ทันที่โดยที่เธอมองนาฬิกาซึ่งตอนนี้เป็นเวลา
13.05 น.ลิฟท์เปิดออกบอกให้คนข้างในรู้ว่าถึงชั้น 18 แล้ว เธอเดินไปที่ห้องประธานทันที " อยู่ทางขวาตรงไปสุุดทาง" เธอพูดเบาๆเพื่อย้ำสิ่งที่ประชาสัทพันธ์บอก และในที่สุดเธอก็มาถึงหน้าห้องซึ่งมีป้ายติดไว้ ว่า ห้องท่านประธาน ทางซ้ายมือมีเลขานั่งอยู่
"คุณเมยาวีหรือป่าวค่ะ" เลขาหน้าห้องถามอย่างสุภาพ เธอมองเมยาวีอย่างวิเคราะห์ว่าเด็กนักศึกษามาหาท่านประธาน
"ใช่ค่ะ"
"เชิญด้านในค่ะ"
"กว่าจะเข้าได้"เมยาวีบ่นเบาๆเพราะเธอรู้สึกว่ามันหลายด่านมากกว่าจะเข้าพบชายหนุ่ม
เมยาวีเคาะประตูก่อนที่จะเดินเข้าไป เธอเดินไปหยุดกลางห้อง ห้องทำงานขนาดใหญ่ เรียบหรูด้วยดีไซน์ ตกแต่งด้วยกระจกมองเห็นบรรยากาศกรุงเทพจากที่สูง ชายหนุ่มยืนมองออกไปทางกระจกเขาเห็นตั้งแต่เมยาวีลงจากรถแท็กซี่ และตอนนี้เธอก็อยู่ข้างหลังเขา เวพัฒน์ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะหันมาหาหญิงสาวที่ตอนนี้ก็คงยืนอยู่
"บ่ายโมงสิบสามนาที"เวพัฒน์ทักหญิงสาวที่คำพูดนี้
"ค่ะ ฉันมาตรงเวลา"เมยาวีกวนกลับ
"ตรงอย่างไง บ่ายโมงสิบสามเนี่ยนะ คุณมาเลยไปสิบสามนาที"เวพัฒน์ตั้งใจจะแกล้งหญิงสาวแต่มันไม่ง่ายเลย
"ฉันไม่ได้บอกว่าจะมาบ่ายโมงตรง ฉันบอกว่าตอนบ่ายแล้วนี่มันก็ยังอยู่ช่วงตอนบ่ายค่ะ"เมยาวียิ้มอย่างผู้ชนะ เวพัฒน์นึกไม่ถึงว่าเธอจะเล่นมุกนี้ "ร้ายจริงๆ" เวพัฒน์พูดในใจ เวพัฒน์มองหญิงสาวที่ตอนนี่เธออยู่ในชชุดนักศึกษาเขาเห็นเธอแต่งชุดนี้เป็นครั้งที่สองแล้วแล้วก็รู้ด้วยว่าเธอพึ่งเลิกเรียนด้วยตารางสอนของเธอที่วิมุตหามาให้
"นั่งซิ" เวพัฒน์เอ่ย
"ไม่เป็นไร คุณว่าธุระของคุณมาดีกว่า"เธออยากรู้เรื่องบ้านรัตนธนากูลอย่างเดียวตอนนี้จนไม่อยากนั่ง และก็เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาเชิญให้เธอนั่งแต่เธอไม่นั่งคนอยากเอาชนะอย่างเวพัฒน์จึงไม่ยอมให้เธอขัดคำสั่งเขาได้อีก
"ผมบอกให้นั่ง" คำพูดเสียงเรียบๆกับสายตาที่ดูดุขึ้นทำให้เธอขนลุกไม่น้อย เธอเลื่อนเก้าอี้มานั่งช้าๆ "ไม่ใช่ว่าฉันกลัวหรอกนะ ฉันก็แค่อยากรู้เรื่องบ้าน"เมยาวีคิดในใจ แต่ความเป็นจริงแล้วเธอก็ระแวงอยู่เหมือนกันเพราะตอนนี้อยู่ในห้องของเขาสองต่อสองเธอกลัวว่าเขาจะทำอย่างวันนั้นอีก เวพัฒน์ยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะเมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั่งลง เธอไม่รอช้ารีบพุ่งประเด็ดที่เธออยากรู้ทันที
"เรื่องบ้านรัตนธนากูล คุณหมายความว่าอย่างไง" เมยาวีถามอย่างสงสัยที่ชื่อบ้านหลังนี้หลุดออกมาจากปากเขา
"ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ผมอยากจะบอกคุณว่าตอนนี้บ้านรัตนธนากูลเป็นของผม"พูดจบเวพัฒน์ยื่นซองเอกสารให้หญิงสาว เธอไม่รอช้ารีบเปิดดูและพบว่าเป็นอย่างที่เขาพูทุกอย่างตอนนี้เขาเป็นเจ้าของบ้านถูกต้องตามกฎหมาย เมยาวีตกใจมากที่บ้านที่เขารักตอนนี้ตกไปอยู่ในมือของคนตรงหน้า
"คุณต้องการอะไร แล้วคุณรู้ได้อย่างไงว่าฉันต้องการบ้านหลังนี้"เมยาวีทั้ง งง ทั้งสับสน เธอไม่รูว่าชายหนุ่มต้องการอะไรจากเธอ
"คุณต้องการบ้านหลังนี้" เวพัฒน์ทำแกล้งเป็นไม่รู้ว่าหญิงสาวอยากได้ เขายิ้มอย่างอารมณ์ดี จนเมยาวีแปลกใจกับอารมณ์ที่ขึ้้นๆลงๆของเขา
"ใช่ ฉันต้องการบ้านหลังนี้มันเป็นบ้านของฉัน"เธอเริ่มคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่เมื่อเห็นท่าทางยิ้ม และกวนของเวพัฒน์
"เคยเป็น คุณใช้คำว่าเคยเป็นจะเหมาะกว่า เพราะตอนนี้บ้านหลังนี้มันเป็นของผมแล้วผมจะทำอะไรกับบ้านหลังนี้ก็ได้" เป็นอีกครั้งที่เวพัฒน์ทำท่าทางกวนเธอเขายิ้มอย่างผู้ชนะอีกครั้ง
"คุณจะทำอะไร คุณห้ามทำอะไรกับบ้านหลังนี้นะ"เมยาวีขึ้นเสียง
"ผมคิดว่าผมจะรื้อบ้านหลังนี้ทิ้งซะ แล้วก็จะทำเป็นไดร์กอล์ฟ ผมว่าธุรกิจนี้ก็ไม่เลวนะ"เวพัฒน์พูดอย่างอารมณ์ดีพูดจบเสียงหญิงสาวก็แทรกขึ้นทันที
"ไม่ได้นะคุณจะรื้อไม่ได้"
"คุณมีสิทธิ์อะไร"
เมยาวีไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้เธอจะทำอย่างไรบ้านที่เธอรัก เธอเฝ้ามองมาตลอดสามปีเธอขยันเรียนทำงานทำทุกอย่างให้ได้เงินเพื่อวันหนึ่งเธอจะไปถ่ายบ้านหลังนี้คืนมาได้ แต่วันนี้บ้านหลังนี้กำลังจะถูกรื้อไปเป็นไดร์กอล์ฟ เธอจะยอมได้อย่างไง แล้วเธอก็สัญญากับบิดามารดาไว้แล้วว่าเธอจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้บ้านหลังนี้กลับคืนมา
"คือฉัน..ฉันขอร้อง"เมยาตัดสินใจพูดออกไปในที่สุดคำขอร้องที่เธอไม่คิดจะขอจากผู้ชายคนนี้แต่เธอต้องพูดเพื่อรักษาบ้านหลังนี้เอาให้ "คุณจะให้ฉันทำอะไรฉันยอมทำทุกอย่าง แต่ขออย่างเดียวอย่ารื้อบ้านหลังนี้"น้ำเสียงที่ดูจริงจิงและอ่อนลงเพื่อขอร้อง เธอยอมทุกอย่างจริงๆ
"คุณพูดแล้วนะ ว่าคุณจะยอมทำทุกอย่าง"เวพัฒน์ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
"ค่ะ"เธอสูดลมหายใจเต็มปอดก่อนจะพูดออกไป ชายหนุ่มพยักหน้ากับคำตอบที่ได้ฟังทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามแผนที่เขาวางไว้
"คุณต้องมาเป็นเลขาส่วนตัวของผมเป็นระยะเวลาหนึ่งปีและผมจะขายบ้านหลังนี้ให้คุณในราคาที่คุณต้องการ คุณสามารผ่อนได้เท่าไรก็ได้โดยที่ผมจะไม่คิดดอกคุณเลย"
เมยาวียอมรับเลยว่าเธอตกใจในเงื่อนไขของเขามันดูดีเกินไปจนไม่หน้าไว้ใจ
"ห้าสิบเปอร์เซ็นต์จากราคาที่คุณซื้อมา"
"ได้"คำตอบของเวพัฒน์ตอบเธออย่างรวดเร็วเหมือนไม่ต้องคิด ทั้งๆที่มันเป็นจำนวนเงินหลายร้อยล้านบาทที่เขาต้องลดให้เธอ ซึ่งตอนแรกที่เธอถามไปเธอก็ไม่คิดว่าเขาจะยอม คำตอบนี้ทำเธอตกใจไม่น้อย
"แล้วฉันต้องทำอย่างไรบ้าง"
"ก็เป็นเลขาส่วนตัวของผม ทุกที่ทุกเวลาไม่มีสิทธิ์พักจนกว่าผมจะสั่งให้พัก"
"บ้า เลขาบ้าอะไรทำงานขนาดนั้น"เมยาวีขึ้นเสียงเพราะเธอไม่คิดว่าจะต้องทำงานหนักขนาดนั้น
"ผมลดราคาบ้านให้คุณถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ซึ่งมันก็หลายร้อยล้านบาท คุณจะทำงานแค่แปดโมงเช้าและห้าโมงเย็นกลับผมว่ามันไม่สมเหตุสมผลนะ แล้วผมก็ให้เงินเดือนคุณด้วยคุณไม่ต้องห่วง"
"ฉันทำไม่เป็น ฉันเรียนบัญชีไม่ได้เรียนเลขา"
"งั้นก็แล้วแต่คุณ ถ้าคุณไม่ตกลง ผมก็จะรื้อบ้านหลังนี้ซะแล้วก็จะทำเป็นธุรกิจไดร์กอล์ฟ" เวพัฒน์คิดว่าตอนนี้เขาถือไพ่เหนือกว่าเธอ
"เท่าไร คุณจะให้เงินเดือนฉันเท่าไร" เมยาวีรีบพูดก่อนที่เวพัฒน์จะเปลี่ยนใจ
"แล้วแต่คุณเลย คุณจะเอาเท่าไร"
เมยาวีคิดอยู่สักพักเธอคิดถึงรายได้ต่อเดือนที่เธอทำงานพริตตี้ซึ่งรายได้ต่อเดือนก็เกือบแสนแล้วถ้าเธอมาทำงานให้เขาเธอคงไม่มีเวลาไปรับงานพริตตี้
"สามแสน"เมยาวีเอ่ยเมื่อเธอบวกลบคูณหารในใจ
"ได้ " เป็นอีกคำตอบที่เขาตอบอย่างรวดเร็วไม่ต้องคิดเช่นเคย ทำเอาเมยาวีอึ้งไปเล็กน้อยที่เขายอมจ่ายเธอหนักขนาดนี้
"แต่ตอนนี้ฉันยังเรียนไม่จบ อีกสองอาทิตย์กว่าจะสอบเสร็จ"
"แปลว่าคุณตกลง"
"ยัง ฉันขอเวลาคิดก่อน"
"สามวันผมให้เวลาคุณสามวัน"
"หนึ่งอาทิตย์"เมยาวีรีบพูด แต่เวพัฒน์ก็ไม่ยอมเห็นเธอต่อรอง เขาก็ยิ่งขึ้น
"หนึ่งคืน"เมยาวีได้ยินเธอถึงกับร้อง
"ห๊ะ หนึ่งคืน"
"ห้ามต่อ เพราะคุณไม่มีสิทธิ์ หนึ่งคืน ผมให้เวลาคุณคิดแค่นั้น พรุ่งมาให้คำตอบผมที่นี่ และผมหวังว่าคำตอบที่ได้คงเป็นคำตอบที่ฉลาดนะ หมดธุระแล้วคุณกลับไปได้"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น