ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์รักสาวพริตตี้

    ลำดับตอนที่ #2 : งานมอเตอร์โชว์ 100% แก้ไขคำผิด

    • อัปเดตล่าสุด 30 ม.ค. 58






             งานมหกรรมยางยนต์ มอเตอร์โชว์ 2014 (Motor Show 2014) ภายใต้แนวคิด "Drive in my dream" หรือยางยนต์ในฝันของฉัน ความสวยงามและสีสันของการออกแบบสะกดตากับผู้คนได้เป็นอย่างดีเป็นรถในฝันของใครหลายๆคน มาพร้อมกับพริตตี้สาวสวยที่ยืนโพสท่าถ่ายรูปกับรถยนต์สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ที่มาชมอย่างมาก
     
             ในบูทของบริษัทในเครือตระกูลเลิศวงค์วิทยา บริษัทนำเข้ารถยนต์รายใหญ่ของประเทศมีคนมุงดูเยอะเป็นพิเศษโดยเฉพาะหนุ่มๆที่ล้อมรอบเวทีต่างยืนมองและถือมือถือขึ้นมาถ่ายรูปพริตตี้สาวสวยเซ็กซี่เธออยู่ในชุดแซกสีแดงรัดรูปจนจะเป็นเนื้อเดียวกับผิวขาวอมชมพูของเธอ และสั้นพอเห็นขาอ่อนน้อยๆ ข้างบนเป็นสายเดียวเล็กๆถึงกลางหลัง ส่วนหน้าอกก็กว้างพอน่ามองเวลาเดินจะเห็นความเคลื่อนไหวของหน้าอกอิ่ม และรองเท้าบูทยาวถึงเข่าส้นสูงถึงหกนิ้ว ใบหน้าแต่งเติมสีสันอย่างลงตัว ชวนเซ็กซี่ให้คนมองตาค้าง  เธอยืนถือไมโครโฟนโฆษณาสรรพคุณของรถหรูข้างตัวเธอ พร้อมโพสท่าให้ช่างภาพถ่ายรูป หลังจากที่เธอพูดจบหนุ่มๆก็เข้ามาหาเธอทำเป็นสอบถามเรื่องรถกันเป็นแถวซึ่งเธอก็เต็มใจตอบเพราะเป็นงานของเธอ หนุ่มๆเริ่มรุ่มเธอเกือบจะไม่เห็นตัวเธอเลย


            เวพัฒน์ เลิศวงค์วิทยา ประธานหนุ่มหล่อมากับสูทเต็มยศ เจ้าของบริษัทรถนำเข้ารายใหญ่ที่สุดในประเทศวันนี้เขามาที่งานด้วยเพื่อดูความเรียบร้อย เดินมากับลูกน้องคนสนิทหนึ่งคน ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็ทำเอาพริตตี้แต่ล่ะคนที่กำลังทำงานอยู่มองตาค้าง พูดคุย เชิญให้ดูรถของบริษัทตน เวพัฒน์ไม่ได้สนใจอะไรเขาแค่ยิ้มๆให้แค่นี้ก็ทำเอาพริตตี้ต่างใจละลายแล้ว เวพัฒน์เดินดูบูทของบริษัทอื่น ไปเรื่อยๆจนเดินมาหยุดเห็นบูทของบริษัทตนเองเห็นว่ามีหนุ่มๆรุ่มรถหรูอยู่จำนวนมาก

    "มีคนสนใจ คอนิกเส็กก์ อาเกียร่า อาร์ ขนาดนี้เลยหรอ" เวพัฒน์เอ่ยเพราะไม่อยากจะเชื่อว่ารถราคาเกือบห้าสิบล้านจะมีคนมุ่งดูเยอะเหมือนดูคอนเสิร์ตขนาดนั้น วิมุติลูกน้องคนสนิทเองก็สงสัย

    "แต่ผมว่า มันแปลกๆนะครับนาย แต่ล่ะคนถือโทรศัพท์ถ่ายรูปกันไม่หยุดเลย และที่เห็นนี่ก็มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น" วิมุติเอ่ยขึ้นจากภาพที่เห็น ยังกะจุดศูนย์รวมประชุมผู้ชายไทย

    "วิมุติ นายไปดูซิ ว่าเกิดอะไรขึ้น"

    "ครับนาย"วิมุติรีบตอบรับ และเดินไปดู สักพักก่อนกลับมารายงานเจ้านาย

    "นายครับ พริตตี้ครับพริตตี้ สวยมากเลยครับผิวนี่ขาวๆ หุ่นนีเซ็กซี่เกินบรรยาย ส่วนหน้าตาก็ทั้งสวยทั้งน่ารักปากนี่บางเล็ก ตาก็กลมโต คนอะไรไม่รู้ครับสวยๆ" วิมุติบรรยายซะยกใหญ่ทำให้คนตรงหน้าที่ยืนฟังอยู่นานอยากเห็นขึ้นมาแต่ก็ทำวางฟอร์ม

    "พอแล้ว เว่อร์ไปหรือเปล่า "

    "ไม่เว่อร์น่ะครับนาย ผมพูดจริง นายก็ดูสิครับหนุ่มๆรุ่มกันใหญ่เลย" เวพัฒน์เดินเข้าไปหวังว่าจะขอดูซะหน่อยว่าจะเป็นอย่างที่ลูกน้องเขาโม้ไว้หรือเปล่า ก็เป็นจังหวะที่พริตตี้สาวสวยต้องลงจากบูทเพราะจะมีการแสดงที่ทางบริษัทเตรียมไว้ ทำให้หนุ่มๆที่มุงเริ่มทยอยออกมา เป็นขณะเดียวที่หญิงสาวกำลังลงจากบูท เวพัฒน์จึงเห็นหญิงสาวตรงหน้าได้อย่างชัด ผิวขาวหุ่นเซ็กซี่ปากบางเล็ก ตากลมโต เหมือนที่ลูกน้องเขาบอกไม่มีผิด เวพัฒน์ยังคงอึ้งอยู่ยังนั้นจนต้องมีใครบางคนมาสะกิด

    "นาย" วิมุตเรียกนายของตนเองแต่เวพัฒน์ก็ยังคงไม่ได้ยินจนต้องเรียกอีกรอบ

    "นายครับ อึ้งไปเลยหรอครับ"

    "อึ้งอะไร พริตตี้กับศัลยกรรมเป็นของคู่กันดูก็รู้" เวพัฒน์เอ่ย อย่างไม่เป็นความจริงเพราะสิ่งที่เขาเห็นดูธรรมชาติมาก

    "แต่ผมว่าไม่นะครับ คือเธอดูธรรมชาติมากม๊ากอ่ะครับ"วิมุตยังพยายามจะเถียงเพราะนายของเขาพูดตรงข้ามกับสิ่งที่เขาเห็นมา


               คนอย่าง เวพัฒน์ เลิศวงค์วิทยามีหรอจะไม่รู้ว่าอันไหนของจริงอันไหนของปลอบเขาผ่านผู้หญิงมาตั้งเท่าไรทั้ง ดารา นางแบบ ของปลอบหรือของแท้เขาก็เคยสัมผัสมาหมดแล้ว และความง่ายก็คงไม่ต่างกัน ผู้หญิงพวกนี้เห็นเงินก็วิ่งเข้ามาล่ะ

    "วิมุต ตามพริตตี้คนนั้นไปพบฉันที่ห้องรับรอง"เวพัฒน์พูดเสียงเรียบเสมือนผู้หญิงทั่วไปที่เขาอยากได้แล้วพูดจบเวพัฒน์ก็เดินไปปล่อยให้คนที่รับคำสั่ง งง 

    "อ้าว เมื่อกี๊ยังทำเป็นไม่ชอบอยู่เลย แล้วไมเป็นงี้ว่ะ"วิมุติ สบถ ออกมาคนเดียวเมื่อเจ้านายหนุ่มเดินไปแล้ว วิมุติรีบไปทำตามคำสั่งที่เจ้านายมอบให้ทันที

    "เมย์ ท่านประธานเรียกพบที่ห้องรับรอง"นิชชาหญิงสาวที่ทำงานอยู่บริษัทนี้และค่อยดูแลเรื่่องการจัดหาพริตตี้ เมยาวีเคยทำงานด้วยหลายครั้งแล้วจึงทำให้รู้จักกันดี

          คำพูดของนิชชาทำให้เมยาวีคิดว่าตัวเองทำอะไรผิดหรือทำงานไม่ดีท่านประธานถึงเรียกพบ

    "เรียกเมย์หรอค่ะ มีอะไรหรือเปล่าค่ะ"

    "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เมย์รีบไปเถอะ" เมยาวีก้มลงมองตัวเอง "ชุดนี้คงไม่เรียบร้อยถ้าจะไปพบท่านประธาน"เมยาวีคิดในใจ

    "พี่นิดค่ะ เมย์ขอเปลี่ยนชุดสักครู่น่ะค่ะ ยังไงก็ไม่มีคิวของเมย์แล้ว" นิชชามองเมยาวีตั้งแต่งหัวจรดเท้า ใช่เธอยังอยู่ในชุดสาวพริตตี้

    "อืม พี่ว่าเดี๋ยวค่อยกลับมาเปลี่ยนดีกว่า รีบไปพบท่านประธานเถอะเดี๋ยวท่านจะรอนาน" นิชชารู้ดีว่าเวพัฒน์เป็นคนอย่างไร เมยาวีรีบรับคำแล้วเดินตามคนของเวพัฒน์ไป ระหว่างทางเมยาวีคิดไปต่างๆนาๆ "ท่านประธานน่าจะรุ่นเดียวกับคุณลุงแน่เลย และจะใจดีเหมือนคุณลุงหรือป่าวนะ"
    เมยาวีไม่ได้พูดออกไปให้ใครได้ยินเธอพูดคนเดียวเบาๆ


                     ที่ห้องรับรองประธานบริษัทมีโซฟาขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้องพร้อมชุดโฮมเธียเตอร์ เวพัฒน์นั่งไขว่ห้างอ่านหนังสือพิมพ์เพื่อรองสิ่งที่เขาสั่งลูกน้องของเขาไป เสียงเคาะประตูดังขึ้นเวพัฒน์รู้ทันทีว่าคนที่เขาอยากพบมาถึงแล้ว  เมยาวีเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าโซฟาเธอไม่เห็นหน้าท่านประธานเพราะหนังสือพิมพ์ยังคงปิดใบหน้าอยู่ เธอเริ่มทำตัวไม่ถูก แต่ก็ตั้งสติแล้วพูดมันออกไปได้ว่า

    "สวัสดีค่ะ ท่านประธาน เรียกดิฉันมามีอะไรหรือเปล่าค่ะ" เมยาวีเอ่ยอย่างสุภาพที่สุด

                เวพัฒน์ซึ่งรับรู้ตั้งนานแล้วว่าเธอมายืนอยู่ข้างหน้า แค่อยากรู้ว่าเธอจะทำอย่างไรพอได้ยินเสียงหญิงสาวเอ่ยเวพัฒน์ก็เอาหนังสือพิมพ์ลงทันที เขาได้เห็นหญิงสาวได้เต็มตาเธอยังอยู่ในชุดเดิมที่เขาเคยเห็นไปไม่นานนี้มันชั่งดูเซ็กซี่ที่สุด เวพัฒน์ยังคงมองเมยาวีตั้งแต่หัวจรดเท้ามองด้วยสายตาเสน่าหาและหวานเยิ่มจนคนถูกมองหัวใจเริ่มเต้นแรงขนลุกไปทั้งตัว ส่วนเมยาวีเธอก็รับรู้ได้ว่าความคิดที่เธอคิดไว้ตอนแรกเธอคิดผิด ท่านประธานยังหนุ่ม และก็หล่อมากด้วยเขาดูดีมากและดูมีเสน่ห์

    "คุณชื่ออะไร"เวพัฒน์พูดออกไปได้ในที่สุด

    "เมยาวี รัตนธนากูลค่ะ" 

    "เม-ยา-วี"  เวพัฒน์ย้ำชื่อ ที่หญิงสาวบอกอีกที "นั่งซิ" 

    "จะให้นั่งยังไงล่ะแต่งชุดแบบนี่ นั่งโซฟาต่ำขนาดนี้ก็เห็นไปถึงไหนต่อไหนกันพอดี"หญิงสาวไม่ได้พูดออกไป  "ไม่เป็นไรค่ะดิฉันยืนได้"

    "ตามใจ"เวพัฒน์พูดเสียงเรียบไม่ไม่ค่อยพอใจเท่าไร"ผมจะไม่อ้อมค้อมนะ  เท่าไร" คำพูดของเวพัฒน์ทำเอาคนฟังถึงกับ งง ว่าหมายถึงอะไร

    "หรือจะหมายถึงค่าจ้าง งานนี้"เมยาวีคิดในใจเพราะเธอไม่รู้จริงๆว่าหมายถึงอะไร "หรือว่าไม่ใช่"เธอจะตอบอย่างไรดีล่ะ

    "เท่าไร หมายถึงอะไรหรอค่ะ"เมยาวีถามย้ำอีกครั้ง

    "ทำเป็นไม่รู้เรื่องไปได้ว่าหมายถึงอะไร หึ ทำเป็นไม่เคย หรือจะเป็นวิธีโก่งค่าตัว"เวพัฒน์คิดในใจ

    "ผมถามว่า ค่าตัวคุณที่จะมานอนกับผมคืนนี้อ่ะ เท่าไร"
     
                คำพูที่ออกมาจากปากชายหนุ่มทำเอาคนตรงหน้าถึงกับอึ้ง เธอไม่อยากจะเชื่อเลยกับสิ่งที่เธอได้ยิน ตอนนี้เธอโกรธมากแล้วมือมันก็กำอย่างอัตโนมัติ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อรวบรวมคำพูดที่คิดว่าสุภาพที่สุด

    "คงไม่ล่ะค่ะ ท่านประธานหมดธุระแล้วใช่ไหมค่ะงั้นดิฉันขอตัว" เมยาวีหันหลังเพื่อกลับไปที่ประตูหวังจะออกจากห้องโดนไม่ฟังคำอนุญาตจากท่านประธานหนุ่ม

    "หนึ่งแสน"เสียงเวพัฒน์ดังขึ้นเมื่อหญิงสาวหันหลังให้ 

                 เค้าไม่เคยจะมาต่อรองเจรจาเรื่องแบบนี้กับผู้หญิงคนไหน ทุกครั้งถ้าเขาสนใจใครก็แค่บอกให้ลูกน้องจัดการให้และเขาก็ไม่ชอบบังคับใคร ถ้าใครไม่เต็มใจเขาก็ไม่ว่าแต่ที่ผ่านมาก็ไม่มีคนไหนจะปฏิเสธเพราะด้วยเงินจำนวนไม่น้อยที่เขาเสนอให้ก็เป็นที่พอใจกับสาวๆทุกคนที่เข้ามา แต่กับเธอนี่เค้าอุส่าห์มาคุยด้วยตนเองแต่คำตอบที่ได้มันไม่ได้ทำให้เขาพอใจเลยสักนิด

    "หรือมันจะเป็นวิธีการเพิ่มมูลค่าให้ตัวเอง เพื่อจะเรียกร้องค่าตัว"เวพัฒน์ไม่ได้พูดออกไป

              เมยาวีได้ยินราคาที่เค้าเสนอมายิ่งทำให้เธอโกรธมากขึ้น อยากจะไปชกคนพูดสักทีสองทีนี่เธอเป็นคนนะไม่ใช่สิ่งของที่ใครจะมาซื้อก็ได้ ใช่อยู่เธอทำงานพริตตี้มาเกือบสามปีเรื่องแบบนี้พอจะเคยเจอมาบ้างแต่ที่เจอก็แค่มาหมาหยอกไก่ไม่เคยเรียกมาคุยในห้องตรงๆแบบนี้เธอเกลียดที่สุดคนที่มองว่าอาชีพของเธอเป็นอาชีพยังว่า เธอหันหน้ามาหาท่านประธานหนุ่มซึ่งตอนนี้คงรอฟังคำตอบจากเธออยู่ เธอจะพยายามอีกครั้งอีกครั้งเดียวเท่านั้นเธอสูดลมหายใจยาวและเอ่ยว่า

    "ดิฉันยังยืนยันคำเดิมค่ะ"เมยาวีพูดแล้วรีบหันหลังไปทันทีก่อนที่เธอจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ หญิงสาวพูดจบเวพัฒน์รีบสวนกลับทันที

    "ห้าแสน"ชายหนุ่มรู้ว่านี่คือการต่อรองราคาของหญิงสาวเค้าจึงเพิ่มจำนวนเงินให้อย่างไม่ขัดข้องแต่ก็โมโหเล็กน้อยกับคำตอบของเธอ เมยาวีได้ยินดั้งนั้นถึงกับเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่หันมาขึ้นเสียงใส่เวพัฒน์ทันควัน

    "นี่คุณ"

    "หนึ่งล้าน"เมื่อเวพัฒน์ได้ยินคำที่หญิงสาวพูดออกมายังไม่ใช่คำตกลง  ชายหนุ่มก็รีบพูดขึ้นทันทีพร้อมกับจำนวนเงินที่ก็เพิ่มให้อย่างน่าตกใจ เมยาวีไม่มีความอดทนอีกต่อไป เธอกำลังจะเอ่ยปากแต่ก็ช้ากว่าเขา

    "หรือคุณจะเอาเท่าไรก็ว่ามา"

    "คุณหยุดอวดรวยสักที เพราะฉันไม่ต้องการ ฉันไม่คิดเลยนะว่าคุณเป็นถึงประธานบริษัทมีคนนับหน้าถือตา นับถือคุณมากมาย คุณต้องดูแลพนักงานเป็นร้อยๆแต่พวกเขาจะรู้บ้างไหมว่าท่านประธานของพวกเขา.." เมยาวีหยุดพูดและสายหัว 

    เวพัฒน์ฟังที่หญิงสาวพูดถึงกับอึ้ง ไม่เคยมีใครกล้ามาด่าเขาแบบนี้

    "ทำไม ผมทำไม" เวพัฒน์ขึ้นเสียง

    "คงจะไม่มีใครเคยบอกคุณ เดี๋ยวฉันจะบอกให้ว่าคุณน่ะมีความคิดที่สกปรก ทุเรศ หื่น บ้ากาม เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น ฉันจะบอกอะไรให้อีกนะ ผู้หญิงไม่ไช่ของเล่นของผู้ชายแล้วผู้หญิงก็เป็นเพศแม่คุณควรจะให้เกียรติผู้หญิงให้มากกว่านีี" เมยาวีใส่เป็นชุดทำเอาคนตรงหน้า ทั้ง งง ทั้งโมโม เวพัฒน์ลุกขึ้นจากโซฟา ด้วยความโมโห

    "หยุด เดี๋ยวนี้นะเมยาวี  เธอไม่มีสิทธิ์มาด่าฉันแบบนี้"เวพัฒน์เปลี่ยนสรรพนามทันทีตลอดเวลาชายหนุ่มคิดว่าจะเจราจากับเธอได้ง่าย แต่มันไม่ง่ายแล้วสิ

    "ค่ะดิฉันไม่มีสิทธิ์ ถ้าคุณไม่เอ่ยคำหยาบคายกับดิฉันก่อน"

    "ทำไมห๊ะ ผู้หญิงอย่างเธอนอนกับผู้ชายมาไม่รู้เท่าไรอย่าคิดว่าฉันไม่รู้"

    "แล้วไง ก็ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างฉันหรอที่คุณอยากได้ ฉันจะบอกอะไรให้นะว่าอาชีพพริตตี้อย่างฉันมันมีเกียรติมีศักดิ์ศรีกว่าที่คุณคิด คุณนิก็แปลกก็บอกอยู่ว่าฉันนอนกับผู้ชายมาไม่รู้เท่าไรแต่ก็ยังอยากจะได้"

    "ก็เพิ่มฉันอีกสักคนจะเป็นไรไป เธออาจจะติดใจกว่าผู้ชายที่เธอเคยนอนด้วยก็ได้แล้วเงินฉันก็ถึงสักด้วยสิ"

    "ทุเรศ ให้ฉันนอนกับคุณฉันยอมนอนกับทอมดีกว่า ฉันไม่มีวันนอนกับผู้ชายอย่างคุณ คุณมัน.." อุ๊บ

                  เมยาวียังพูดไม่ทันจบ เวพัฒน์ก็กระชากตัวเธอเข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม ด้วยความโมโห เธอเห็นทอมดีกว่าเค้า เธอพูดจาแบบที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าพูด เขาจะสอนให้เธอรู้ว่าเธอไม่ควรมาเล่นกับเขา เมยาวีพยายามดิ้นแต่ชุดที่ไม่อำนวยนักและเวพัฒน์ก็ตัวใหญ่กว่ามาก มีเสียง อู้อี้ จากลำคอ มือเล็กทุบไปที่ไหล่กว้างของเขา แต่เวพัฒน์ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยตอนนี้ชายหนุ่มอย่าจะสั่งสอนผู้หญิงปากดี อวดเก่งคนนี้ให้รู้จักผู้ชายอย่าง เวพัฒน์ เลิศวงค์วิทยา

         เวพัฒน์ ถอนริมฝีปากออกเพราะรู้ว่าคนตัวเล็กตรงน่าเริ่มหายใจไม่ออก
    "นี่คุณ" มีคำพูหลุดออกมาจากปากเมยาวีแค่นั้น เวพัฒน์แค่อยากให้เธอได้หายใจบ้าง แล้วเค้าก็ก้มลงประกบปากหญิงสาวอีกครั้ง เมยาวีพยายามคิดจะทำอย่างไรถึงจะหลุดจากผู้ชายคนนี้ได้เธอรวบรวมแรงที่พอมีอยู่  กระแทกรองเท้าบูทส้นสูงหกนิ้วของเธออย่างแรงบนเท้าของชายหนุ่ม

    "โอ้ย" เสียงเวพัฒน์ร้อง แต่ยังไม่พอแค่นั้นเมยาวีอาศัยจังหวะเวพัฒน์กำลังเจ็บเท้ายกเข่ากระแทกกลางลำตัวชายหนุ่มเข้าอย่างจัง

    "โอ้ย"เสียงร้องของเวพัฒน์ดังกว่าครั้งแรกมือเค้าจับกลางลำตัวอย่างเจ็บปวดตัวเขางอเป็นกุ้ง เมยาวีรีบถอยออกมา

    "นี่มันยังน้อยไปกับสิ่งที่คุณทำกับฉัน  จำไว้นะอย่ามายุ่งกับฉัน" เธอพูดก่อนเดินออกไปจากห้อง

                หน้าห้องวิมุตยืนอยู่ด้วยความ งง เพราะเค้าได้ยินเสียงเจ้านายของเค้าร้องแต่ก็ไม่กล้าเข้าไป กลัวจะไปขัดจังหวะ   พอเมยาวีออกมาวิมุตก็จะรีบเข้าไปทันทีแต่เมยาวียกมือขึ้นห้ามไว้

    "อย่างพึ่งค่ะ อืม.. พอดีคุณเวพัฒน์กำลังปรับสภาพร่างกายให้สมดุลอยู่อ่ะค่ะ"

    "อ่อ ครับๆ" วิมุตพยักหน้า แอบคิดว่าเจ้านายเรานี่ร้ายไม่เบานี่มันห้องรับรองนะ จะรีบร้อนอะไรกันขนาดนั้น

        เมยาวีพูดจบก็รีบเดินไปทันที สักพักเสียงเรียกหาลูกน้องจากนายห้องก็ดังขึ้น

    "วิมุติ วิมุติ" เวพัฒน์ตะโกนออกมาจากในห้อง วิมุติรีบเข้าไปทันที่ ภาพที่เห็นคือเจ้านายเค้านั่งกุมเป่ากางเกงตัวง้อ

    "นาย นายครับ เป็นอะไรหรือป่าวครับ ไปโรงพยาบาลไหมครับ" วิมุติถามด้วยความเป็นห่วงแต่ก็ไม่รูหรอกว่าเจ้านายของเขาเป็นอะไร

    "ไปสืบประวัติผู้หญิงคนนั้นมาอย่างละเอียด และเร็วที่สุด ไป" เวพัฒน์เสียงดังด้วยความโมโห
    "เออ.."

    "ไป" เวพัฒน์ตะคอกใส่ลูกน้องที่มัวแต่สงสัย 

    "ครับๆ" วิมุติรีบรับคำและออกไปเพื่อไปทำตามคำสั่งทันที

    "เมยาวี แล้วเราจะได้เห็นดีกัน" 




         
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×