ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    teen wolf : new boy new love.

    ลำดับตอนที่ #5 : why do you said that? (แก้ไขแล้ว)

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 57


                      เลียมเดินเข้าโรงเรียนอย่างระแวง เขาไม่อยากเจอหน้าจาเร็ดเพราะเรื่องเมื่อคืนทำเอาเขาขยาดจาเร็ดไปเลย เลียมต้องเดินกลับบ้านถึงแม้ว่าพลังหมาป่าจะทำให้เขาไม่เจ็บเท้า แต่เขาก็รู้สึกไม่ดีอยู่ดี แต่อย่างน้อยเขาก็ได้รู้ว่าเขาไม่ได้ชอบผู้ชาย สิ่งที่เขารู้สึกกลัวคือรอยยิ้มของจาเร็ดมันคล้ายกับรอยยิ้มน่ากลัวในฝันมากๆ

    ไม่รู้ว่าเลียมเดินไม่ระวังหรือว่าสก๊อตเดินเข้ามาขวางทางจนทำให้เลียมชนหน้าอกเขาเข้าอย่างจัง

                    “เป็นไง เมื่อคืนคงสนุกใช่มั้ย” สก๊อตยืดอกพูด   เลียมมีท่าทีตกใจเพราะกำลังนึกถึงเรื่องในความฝันอยู่พอดี          

                    “ก็ไม่เท่าไร” เลียมพยายามยิ้มออกไป  เขาเลียริมฝีปากที่แห้งผากเมื่อยิ่งนึกก็ยิ่งเห็นใบหน้าในความฝันชัดขึ้นเรื่อยๆ

                    /มีเลียปากด้วย แสดงว่าเมื่อคงจะจัดเต็ม/ สก๊อตพูดในใจแต่มีหรือที่เลียมจะไม่ได้ยิน

                    /คุณคิดอะไรอย่าหาว่าผมไม่ได้ยินน่ะ/ เลียมไม่ชอบการพูดหาเรื่องของสก๊อต ตอนนี้เขากำลังจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่อีกครั้งเพราะเป็นพวกไฮเปอร์อยู่แล้ว  เลียมเดินกระแทกไหล่สก๊อตและนิ่วหน้าใส่เขาเพราะไม่สบอารมณ์กับความคิดของสก๊อตแล้วเดินมุ่งหน้าไปเข้าห้องเรียนที่ออดดังพอดิบพอดี

                    สก๊อตเริ่มรู้สึกผิดแต่มันก็สายไปแล้ว ป่านนี้เลียมคงโกรธเขาอีกแล้ว

                    วันนี้มีคาบซ้อมลาครอส  เมื่อถึงเวลาซ้อมทุกคนก็เข้าห้องมาเปลี่ยนชุดกันพร้อมหน้าและแน่นอนให้นั้นต้องมีจาเร็ดอยู่ด้วย  จาเร็ดเดินไปหาเลียมทันทีที่เข้ามา

                    “เรื่องเมื่อคืนฉันขอโทษนะ คือฉันชอบนายมากจนเผลอทำไม่ดีแบบนั้นไป ยกโทษให้ฉันน่ะ” คำพูดกับการกระทำช่างสวนทาง จาเร็ดพูดเสียงอ่อนแต่มือเขากลับจับบ่าเลียมไว้แรงจนรู้สึกเจ็บ   เลียมไม่ได้สบตาเขาด้วยซ้ำ เลียมรีบเปลี่ยนชุดและวิ่งออกไปในสนาม แต่เจ้าจาเร็ดน่ารำคาญก็ตื้อไม่หยุด  ขนาดวิ่งวอมอัพจาเร็ดก็ประกบเขาเหมือนตังเม 

                    สก๊อตที่เห็นว่าพวกเขาตัวติดกันขนาดนั้นก็พาลพาความรู้สึกผิดเมื่อเช้าหายไปหมด  เขายืนหายใจฟึดฟัดและกำไม่ลาครอสแน่นจนจะหัก

                    “ไอ้สองคนนั้นมันไปสนิทกันตอนไหน” สไตล์ที่กำลังหอบแฮกแทบจะเป็นลมที่ต้องวิ่งรอบสนามหลายรอบ

                    “เป็นแฟนกันแล้วดิไม่ว่า” สก๊อตสบถ

                    “ห่ะ นายว่าไงนะสก๊อต” สไตล์ถามงงๆ แต่สก๊อตก็ไม่ได้ตอบอะไร ตอนนี้ทุกคนพร้อมสำหรับการซ้อมแล้ว  ทุกคนไปยืนที่ตำแหน่งของตน  เมื่อการซ้อมเริ่มขึ้นแน่นอนว่าจาเร็ดอยู่ฝั่งเดียวกับเลียม  และจาเร็ดก็ไม่รู้เป็นอะไรนักหนาต้องหาเรื่องทำให้เลียมล้มมาทับเขาให้ได้  ไม่ก็ทำเป็นช่วยเวลาเลียมล้ม เลียมชักรู้สึกไม่ชอบใจ

                    แต่อีกฝั่งหนึ่งกัปตันทีมก็กำลังเดือดปุดๆ เพราะลูกทีมมัวแต่กุ๊กกิ๊กกันจนเขากลัวจะเสียงาน ตั้งแต่ในห้องเปลี่ยนชุดที่ยืนคุยกันกระหนุงกระหนิงยังไม่พอ ตอนลงสนามซ้อมยังมาแกล้งกัน  พลอดรักกันอีก  กัปตันอย่างเขารับไม่ได้เลยจริงๆ สก๊อตคิดบางอย่างออกแต่ไม่ได้คิดเสียงดังให้เลียมได้ยิน ถึงยังไงเลียมก็คงไม่ได้ยินหรอกเพราะความรักคงทำให้เขาหูบอดตาบอไปหมดแล้ว

                    กัปตันทีมกำลังเล็งลูกทีมที่ไม่ตั้งใจซ้อมและวิ่งเข้าไปเพื่อจะขว้างลูกลาครอส เลียมทำหน้าที่ของตนอย่างสุดความสามารถเขาพยายามสกัดสก๊อตเพื่อไม่ให้ทำแต้มได้  แต่เมื่อเขาไปที่ตำแหน่งเลียม จาเร็ดก็วิ่งมาประกบเลียมด้วยติดๆ ไม่รู้อารมณ์ไหน สก๊อตวิ่งเข้าชนฝ่ายสกัดเขาอย่างจัง จนเลียมตัวลอยไปหมุนคว้างอยู่กลางอากาสก่อนจะหล่นตุบลงมาบนพื้น  เลียมรีบลุกขึ้น และวิ่งประกบสก๊อตไม่ห่างเขาพยายามจะสกัดสก๊อตแต่ด้วยความเหนือชั้นกว่า สก๊อตก็เขวี้ยงลูกด้วยท่าสุดเท่เข้าโกไปอย่างสวยงาม  เขาหันมายิ้มให้สไตล์และไม่ลืมที่จะพยักเพยิดใส่เลียม  ตลอดการซ้อมสก๊อตชนเลียมไปหลายครั้ง บางครั้งเขาก็ชนแรงจนเกินความจำเป็นจนเลียมไม่ชอบการกระทำของเขาเพิ่มมาอีกคน วันนี้ทั้งสก๊อตทั้งจาเร็ดเป็นบ้ากันไปหมดแล้ว คนนึงก็ตื้อจังอีกคนก็ไม่รู้เป็นอะไรถึงต้องชนเขาทั้งเกมขนาดนั้น  

                    การซ้อมก็เสร็จสิ้นไปด้วยดี  ในระหว่างที่ทุกคนกำลังนั่งพักอยู่ขอบสนาม สก๊อตก็มานั่งข้างเลียมและพูดเหน็บแนม

                    “นี่เลียม  นายช่วยแยกแยะเวลางานกับเรื่องรักด้วยนะ ฉันเห็นว่ามันไม่ควรเอามารวมกัน”

                    “สก๊อต ผมไม่ได้ทำอะไรแบบที่คุณพูดเลยนะ  แล้วก็ขอเถอะแลกพูดแบบนี้สักทีได้มั้ย”

                    “พูดแบบไหน”

                    “ก็แบบที่กำลังพูดอยู่ไง คุณเป็นอะไรไป ตอนแรกผมคิดว่าคุณจะเป็นรุ่นพี่ที่ดีแล้วก็เป็นอัลฟ่าที่ดี แต่ทำไมช่วงนี้คุณถึงเปลี่ยนไป”

                    สก๊อตเงียบให้เลียมพูดต่อ

                    “ตอนแรกคุณก็พูดเหมือนรุ่นพี่ที่มีวุฒิภาวะ แต่พักหลังๆมานี่คุณพูดไม่ค่อยดีเลย” เลียมพูดเพื่อลดความโมโหที่เขามีอยู่ไม่มากออกไป   สก๊อตพอนึกถึงก็รู้ว่านี่ไม่ใช่การกระทำของเขาเลย แล้วทำไมเขาต้องพูดไม่ดีกับเลียมด้วย 

                    “เลียมฉันเอาน้ำมาให้” ไม่ทันที่สก๊อตจะได้คิดว่าทำไมตัวเองเปลี่ยนไป  จาเร็ดก็เข้ามาอีกแล้ว

                    /เชิญตามสบายนะ ฉันไปละ/  สก๊อตบ่นในใจ  สก๊อตรู้สึกไม่ชอบใจที่เลียมสนิทสนมกับจาเร็ดแต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่แบบที่เขาคิดเลย   เขาเดินเข้าห้องเปลี่ยนชุดไป

                    “เหนื่อยมั้ย” จาเร็ดถาม แต่เลียมไม่ตอบ

                    “ก็บอกแล้วไงว่าขอโทษ  ฉันอยากให้นายยกโทษให้ฉันแล้วฉันจะทำดีกับนายทุกอย่างเลย” เลียมรู้สึกเบื่อกับคำพูดที่ออกมาจากปากของจาเร็ด

                    “ฉันไม่ได้ชอบนายจาเร็ด” เลียมตัดสินใจพูดออกไป

                    “นายว่าอะไรนะ”

                    “ฉันไม่ได้ชอบนาย เลิกตามตื้อฉันแล้วก็เลิกขอโทษฉันได้แล้ว  เพราะเรื่องระหว่างเราคงไม่มีทางเกิดขึ้น แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้น่ะจาเร็ด”

                    “นายกล้าปฏิเสธฉันจริงๆเหรอเลียม”

                    “ฉันขอโทษนายจริงๆนะ  แต่ฉันไม่รู้สึกแบบนั้นกับนายเลย  นายคงหาคนอื่นไม่ยากหรอก คนที่เขาก็ชอบนาย” เลียมลุกขึ้นเพื่อจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อ

                    “ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้กับฉัน  นายต้องได้รับการสั่งสอน” จาเร็ดพูดกับตัวเองด้วยความคับแค้น

                    “พวกนายนี่เหมาะสมกันดีนะ” เป็นสก๊อตที่พูดขึ้นเมื่อเห็นเลียมเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุด

                    “เขากับผมไม่ได้เป็นอะไรกัน ขอร้องเถอะเลิกพูดเรื่องนั้นสักที” เลียมไม่ชอบที่สก๊อตเอาแต่พูดแบบนั้น เขาอยากให้สก๊อตพูดดีๆกับเขา มันทำให้เลียมรู้สึกดี

                    “ทำไมเหรอ อ๋อลืมไป  คนไฮเปอร์แบบนายใครเขาจะชอบ นี่สงสัยคงจะไปแสดงท่าทีอารมณ์หลุดต่อหน้าจาเร็ดแล้วโดนปฎิเสธล่ะสิท่า”  และแล้วความอดทนของเลียมก็ขาดผึง เขาน้ำตาคลอเบ้าไม่คิดว่าสก๊อตจะเอาเรื่องปมด้อยของเขามาพูด  เลียมไม่รู้ว่าทำไมคำพูดของสก๊อตมันทำให้เขารู้สึกมากกว่าเสียใจ ก่อนน้ำตาจะไหล หมัดลุ้นๆของเลียมก็ลอยไปกระแทกหน้าของสก๊อตอย่างจัง ทุกคนในห้องหันมามองพวกเขาเป็นตาเดียว สก๊อตลูบหน้าตนเองและมองหน้าเลียมแบบอึ้งๆ

                    “นายคงบ้าหรือเมายาฉันไม่แน่ใจ แต่คำพูดของนายก็ไม่ต่างอะไรจากพวกขี้ยาข้างถนน” เลียมน้ำตาไหลและขว้างหมวกลาครอสที่เข้าถือเข้ามาเพื่อจะเก็บไปโดนหน้าสก๊อตซ้ำที่เดิม ตอนนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะเก็บอะไรแล้ว เขาเดินออกไปจากห้องเพราะไม่อยากเห็นหน้าของสก๊อต  เลียมเดินสะอื้น คำพูดของสก๊อตทำร้ายจิตใจของเขาอย่างที่สก๊อตไม่อาจคาดคิดได้   เขาเดินมุ่งหน้ากลับบ้านโดยไม่สนใจว่าใครจะทัก หรือว่ามีใครบางคนกำลังวิ่งตามมา

                    สก๊อตวิ่งมาพยายามจะขวางไม่ให้เขาเดินต่อ แต่เลียมก็เดินกระแทกไปแบบไม่สนใจ  สก๊อตเลยจับแขนเขาไห้หยุดเดิน

                    “จะเอาอีกใช่มั้ย  นายทำให้ฉันเป็นสัตว์ประหลาดยังไมพ่อ ตอนนี้ฉันก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดแถมยังเป็นโรคไฮเปอร์ที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ต้องโดนใครต่อใครเขาปฎิเสธงั้นใช่มั้ย นายอยากพูดแบบนี้ใช่มั้ยสก๊อต” เลียมพูดพลันน้ำตาก็ไหลจากดวงตาคู่สวยที่ตอนนี้มันแสดงอาการตัดพ้อน้อยใจและโกรธออกมาในเวลาเดียวกัน

                    “ฉันขอโทษ” สก๊อตไม่มีอื่นจะพูดนอกจากคำว่าขอโทษ

                    “ห่ะ ขอโทษเหรอ ทำไมวันนี้ฉันเกลียดคำๆนี้จัง”

                    “ฉันมันงี่เง่าที่พูดออกไปแบบนั้น”

                    “นายเพิ่งคิดออกเหรอว่าตัวเองงี่เง่าอ่ะสก๊อต” เลียมสะบัดแขนออกและตั้งท่าจะเดินต่อ  ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยน้ำตา

                    “งั้นฉันขอร้องนายอย่าร้องไห้ได้มั้ย” สก๊อตพูดจากใจจริง เขารู้สึกเจ็บในใจบอกไม่ถูกเมื่อเห็นเลียมร้องไห้

                    เลียมไม่ได้หันมาสนใจคำพูดของสก๊อตอีก   เขาปล่อยกัปตันทีมลาครอสยืนทำหน้าหมาหงอยอยู่คนเดียว

                    “นายเป็นอะไรรึเปล่าเลียม ฉันว่านายดูเหม่อๆนะ” มาสันถามเพราะสังเกตุเห็นว่าเลียมไม่มีสมาธิในการเล่นเกมเหมือนวันอื่นๆ 

                    เลียมไม่ได้ตอบเขา แต่น้ำตาของเลียมก็แทนคำพูดทุกอย่าง มาสันดึงตัวเพื่อนเข้ามากอดแล้วลูบหลังปลอบใจ

                    “นายชอบเขาใช่มั้ย” มาสันเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างในตอนเย็น

                    “ฉันไม่ได้ชอบเขา” เลียมพูดทั้งน้ำตาเขาส่ายหัวอยู่ในอ้อมแขนของมาสัน

                    “ถึงฉันจะดูออก แต่ก็เอาเถอะไม่ชอบก็ไม่ชอบ” มาสันสงสารเลียมที่กำลังร้องไห้ เขาพยายามปลอบใจ

                    “ทำไมเขาต้องพูดแบบนั้นด้วย” เลียมสะอื้นถาม

                    “........” มาสันได้แต่ลูบหลังปลอบใจ เลียมกำลังร้องไห้อย่างนักพวกเขานั่งกอดกันกลมอยู่กลางห้อง ตัวทั้งตัวของเลียมแทบจะนอนบนตักของมาสัน

                    “ฉันเสียใจมาสัน  ฉันรู้สึกเสียใจที่เขาพูดแบบนั้น” มาสันโยกตัวไปมาเมื่อเลียมเริ่มร้องไห้หนักขึ้น

                    “สายตาที่นายมองเขามันไม่เหมือนกับที่นายมองคนอื่น และการกระทำของเขาก็ด้วย”

                    “แต่จาเร็ดก็ทำแบบนั้น แต่ทำไม ทำไม.....” เลียมกำลังสับสน  จาเร็ดก็ขึ้นเสียงกับเขาในคืนนั้นแถมยังต่อยเขาด้วยซ้ำแต่เลียมไม่ได้รู้สึกตัดพ้อน้อยใจและเสียใจมากขนาดนี้ เขาแค่รู้สึกโกรธเท่านั้น

                    “เพราะนายไม่ได้ชอบจาเร็ดยังไงละเลียม แต่นายชอบอีกคนต่างหาก” มาสันอยากให้เพื่อนรู้ใจตัวเอง

                    “แล้วอีกอย่างที่เขาพูดแบบนั้นออกไป เพราะเขาอาจจะไม่ชอบใจที่นายอยู่กับจาเร็ดตลอดเวลาก็ได้นะ” มาสันพยายามอธิบาย ถ้าเขาไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทของเลียมก็คงคิดว่าเลียมกับจาเร็ดเป็นแฟนกันจริงๆเสียอีก  พวกเขาไม่ได้พูดอะไรต่อ มาสันให้เลียมขึ้นไปนอนบนเตียง   เขานอนสะอื้นจนหลับไป และคืนนี้มาสันก็เป็นห่วงเลียมมากจนต้องโทรไปบอกแฟนลับๆว่าเขาปล่อยให้เพื่อนของเขาอยู่ตามลำพังไม่ได้จริงๆ เขากลัวว่าเลียมจะทำร้ายตัวเอง  มาสันรู้ว่าเลียมเป็นคนน่าสงสารและเขารู้ว่าเลียมชอบสก๊อตมาตลอดเพราะเขาเห็นเลียมตั้งใจมาคัดตัวเข้าทีมลาครอสที่บีคอนฮิมส์เพราะอยากอยู่ทีมเดียวกับสก๊อต เลียมบอกว่าสก๊อตเป็นไอดอลของเขาแต่จากสายตาที่มองสก๊อตแล้วมันมากกว่าชื่นชมแต่เลียมคงไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นมันมากกว่าชื่นชม และที่มาสันไม่กล้าทิ้งเลียมไว้คนเดียวเพราะถ้าเกิดเลียมตื่นขึ้นมากลางดึกและเผลอคิดมากอีกถ้าเขาคิดมากจนเครียด เลียมก็จะทำลายข้าวของเมื่อไม่มีข้าวของให้ทำลายเขาก็จะทำร้ายตัวเอง มาสันเคยเห็นมาแล้ว ตอนอยู่โรงเรียนเก่าเลียมเคยทุบรถของครูคนหนึ่งซะเละเพราะครูคนนั้นล้อเขาเรื่องไม่มีพ่อและกล่าวว่าแม่เขาเป็นอีตัว

                    ในระหว่างที่มาสันกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเพราะนอนไม่หลับ เขาก็ได้ยินเสียงที่หน้าต่าง  มาสันค่อยๆเดินไปดูเพราะกลัวว่าอาจจะเป็นสัตว์ป่า  เขาเปิดหน้าต่างออกไปดูเเละได้ยินเหมือนเสียงเดินอยู่ที่ระเบียงนอกหน้าต่าง  เมื่อชะโงกหน้าออกไปดูเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นคนกำลังปืนหน้าต่างอยู่ ก่อนที่เขาจะตะโกนออกไปคนคนนั้นก็ปิดปากเขาไว้ทัน

                    “นี่ฉันเอง ฉันเอง ฉันสก๊อต” เป็นสก๊อตนั่นเอง  เขาตั้งใจจะมาขอโทษเลียมแต่ไม่คิดว่าจะมีมาสันอยู่ด้วย  มาสันที่หัวใจแทบวายก็ถอนหายใจเอามือทาบอก อย่างโล่งอกไปที

                    “เขาหลับไปแล้วล่ะ” มาสันกระซิบ  สก๊อตหันไปมองเลียมที่นอนหายใจสม่ำเสมออยู่บนเตียงนุ่ม

                    “นายจะกลับบ้านก็ได้น่ะมาสัน เดี๋ยวฉันดูเขาให้เอง” สก๊อตรู้อาการของเลียมดี  มาสันพยักหน้าเข้าใจ เขาก็รู้ดีเหมือนกันว่าสองคนนี้ท่าทางจะวุ่นวายใจกันน่าดู 

                    เมื่อมาสันกลับไปแล้วสก๊อตก็นั่งลงข้างเตียงมองใบหน้าของคนที่กำลังหลับ ยิ่งได้เห็นคราบน้ำตาของเลียมแล้วเขาก็ยิ่งรู้สึกผิด เขาไม่น่าพูดอะไรแบบนั้นออกไปเลย  สก๊อตลูบผมเลียมอย่างแผ่วเบาเขารู้สึกว่ารุ่นน้องคนนี้หน้าสวยกว่าผู้หญิงเสียอีก  เลียมเริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้งทั้งๆที่ยังหลับอยู่ เขาเพ้อคำพูดออกมามากมาย

                    “ทำไมสก๊อตต้องพูดแบบนั้น ฉันเสียใจ” เลียมกอดผ้าห่มแล้วร้องไห้กระซิก

                    “ฉันขอโทษ” สก๊อตพูดแล้วลุกขึ้นไปที่อีกฟากหนึ่งของเตียง เขาถอดเสื้อแจ๊คเก็ตออกแล้วค่อยๆนอนลงบนเตียงทางด้านลังของคนที่กำลังร้องไห้อย่างน่าสงสาร  เลียมสะอื้นจนไหล่สั่นไหวสก๊อตกระเถิบเข้าไปไกล้และรวบกอดเขาไว้จากด้านหลัง เลียมจับมือที่กอดเขาเอาไว้ทั้งๆที่ยังหลับ แต่พอสก๊อตกอดเขา  เลียมก็ค่อยๆเงียบจนหลับสนิท  สก๊อตก็หลับตาลงเขาสู่นิทราเช่นกัน

                    “อืมมมม” แสงแดดที่แยงตาทำให้เลียมต้องยกมือขึ้นมาบังหน้าเอาไว้ เขาตั้งท่าจะลุกขึ้นแต่รู้สึกเหมือนตัวหนักๆ เลียมรู้สึกว่ามีใครกำลังกอดเขาอยู่

                    “มาสัน มาสัน ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันไม่ใช่แฟนนายนะ” เลียมพูดออกไปเพราะคิดว่าเป็นมาสัน

                    “ฉันไม่ใช่มาสัน” ทันทีที่ได้ยินเสียงนี้ อาการสลึมสลือเพิ่งตื่นนอนก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง   เลียมหันขวับไปยังมองหน้าต้นเสียงให้ชัด

                    “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”  เลียมผลักสก๊อตออก

                    “ฉันก็มาอยู่แลนาย กลัวนายจะทำร้ายตัวเอง” สก๊อตพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ไม่มีแววประชดประขันเหมือนเมื่อวาน

                    “ใครใช้คุณไม่ทราบ”  เลียมยังโกรธเขาอยู่

                    “ฉันขอโทษเลียม  ที่ฉันพูดแบบนั้นก็เพราะ...”

                    “เพราะความสะใจไง ได้ล้อปมด้อยคนอื่นคุณคงสะใจ” เลียมพูดขัดขึ้นอย่างเหลืออด  สก๊อตที่นั่งอยู่บนเตียงก็ลุกขึ้นยืนประจันหน้าเลียมที่กำลังยืนกอดอกมองเขาอย่างโกรธๆ

                    “ฟังฉันเลียม  ฉันพูดประชดนาย ก็เพราะว่าไม่ชอบเวลาที่เห็นนายอยู่กับคนอื่น แล้วก็ไม่ชอบเวลาที่จาเร็ดอยู่กับนายตลอดเวลา แล้วฉันก็ไม่อยากจะเชื่อว่านายไม่เป็นอะไรกับจาเร็ด”

                    “ก็นายบอกเองว่าคนอย่างฉันคงไม่มีใครเอา” เลียมเถียง

                    “ฟังฉันให้จบก่อนนะเลียม  ฉันไม่รู้ว่าพวกนายไม่เป็นอะไรกันจริงๆหรือว่าพวกนายแค่ทะเลาะกัน แต่ฉันขอบอกกับนายตามตรงว่าที่ฉันไม่ชอบเวลาเห็นนายกับจาเร็ดก็เพราะว่า...ฉันชอบนาย” สก๊อตมองเลียมอย่างจริงจัง  เลียมตะลึงไม่เชื่อหูตัวเองกับสิ่งที่ยิน เลียมมองหน้าสก๊อตนิ่ง

                    “และฉันก็ขอบอกนายเลยว่าฉันจะแข่งกับจาเร็ดเต็มที่เพื่อจะแย่งนายมา” สก๊อตไม่เคยรู้สึกต้องการใครแบบนี้มาก่อน เพราะกับอลิสันเขาก็ไม่เคยต้องแย่งเธอมาจากใคร

                    “คุณชอบผมจริงๆเหรอ” เลียมถาม

                    “ฉันแน่ใจแบบไม่เคยแน่ใจแบบนี้มาก่อนเลย” สก๊อตยิ้ม  เลียมรู้สึกเหมือนเขากำลังสับสนเพราะเขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เขารู้สึกมันคือความรู้สึกชอบหรือแค่รู้สึกดีเหมือนเพื่อนรุ่นพี่ธรรมดาทั่วไป

                    “คุณไม่ต้องแข่งกับใครหรอก แข่งแค่กับผมคนเดียว” เลียมบอกแค่นี้สก๊อตก็น่าจะเข้าใจว่าหมายถึงอะไร  เลียมจะพยายามเปิดใจเพราะเขาก็รู้สึกดีกับสก๊อต ขอแค่เวลาเขาก็น่าจะได้รู้ว่าเขาเป็นเกย์จริงๆหรือเปล่า

                    สก๊อตตามจีบเลียมอย่างเปิดเผยจนบางทีเลียมก็เผลอยิ้มให้เขาทั้งวันแบบไม่รู้ตัว  อย่างตอนเช้าสก๊อตก็ลากสไตล์มายืนรอเขาอยู่ที่หน้าโรงเรียน  พักกลางวันสก๊อตก็ชวนเลียมและมาสันมานั่งโต๊ะเดียวกับแก็งค์ของเขา สก๊อตช่วยเลียมฝึกลาครอสแบบพิเศษส่วนตัวจนคนในทีมพากันโห่แซว

                    “เลียม ช่วงนี้นายยังฝันอยู่มั้ย” สก๊อตถามระหว่างพักซ้อมลาครอส

                    “ก็มีบ้างบางครั้ง”

                    “ถ้านายฝันร้ายแบบนั้นอีกก็โทรบอกฉันนะ ฉันจะไปอยู่เป็นเพื่อน  ฉันเป็นห่วงนะรู้มั้ย” สก๊อตพูดแสดงถึงความห่วงใย

                    “สมมติว่าถ้า....เอิ่ม...ถ้าเราเป็นแฟนกันจริงๆ นายจะยังทำดีกับฉันแบบนี้อยู่มั้ย” เลียมถามเพราะเขาก็รู้ว่าช่วงโปรโมชั่น ช่วงจีบ ช่วงตื้อ ก็เป็นแบบนี้กันทุกราย พอตกลงคบเท่านั้นแหละโปรโมชั่นทุกอย่างก็หมดอายุการใช้งานทันที

                    “ถ้าฉันรักใคร ฉันไม่มีวันทำให้เขาเสียใจแน่”

                    “ก็คงต้องดูกันไปก่อน” เลียมแบะปากให้เขาแล้วหัวเราะ 

                    “ไปซ้อมต่อเถอะ” สก๊อตบอก เขาลุกขึ้นนำไปก่อนแล้วเลียมก็ลุกตาม  แต่ก่อนที่เลียมจะได้เดินตามไปจาเร็ก็มาดึงตัวเขาไว้ก่อน

                    “ที่นายปฎิเสธฉันเพราะแบบนี้ใช่มั้ย” จาเร็ดดูจะโกรธมาก

                    “เปล่านะจาเร็ด  ฉันไม่ได้ชอบนายจริงๆ”

                    “แล้วกับมันละ นายชอบมันใช่มั้ย ที่บอกให้ฉันเลิกยุ่งกับนายเพราะนายอยากไปหามันอยู่แล้วใช่มั้ย”

                    “ฉันไม่ได้ทำอย่างที่นายพูด  ฉันคิดว่านายจะเข้าใจแล้วซะอีก ว่าระหว่างเราฉันคิดไม่ไกลเกินเพื่อนนะจาเร็ด”

                    “แต่ฉันอยากได้นาย” จาเร็ดพูดขึ้นเสียง

                    “นายว่าไงนะ” เลียมไม่ทันพูดจบ จาเร็ดก็ดึงเลียมเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อ  เขาจูบเลียมอย่างบ้าคลั่ง เลียมทำอะไรไม่ถูกเขาตกใจไปหมด เมื่อตั้งสติเขาก็รีบปกปัดตัวเอง  เลียมกระชากเสื้อลาครอสของเลียมออก เลียมก็ดึงมือเขาออกจากเสื้อ จาเร็ดมีแรงมากกว่าเลียมที่เป็นหมาป่าเสียอีก เลียมไม่เข้าใจและไม่ทันคิดว่าทำไมจาเร็ดถึงมีแรงมากมายขนาดนั้น  จาเร็ดดึงเขาให้ลุกขึ้นและลากไปที่ห้องอาบน้ำ เลียมรู้สึกเหมือนเลียมเลียมเอาอะไรมาโปะใส่ปากเขา สิ่งนั้นทำให้เลียมมึน  จาเร็ดเปิดก๊อกน้ำทุกก๊อกเพื่อกลบเสียง

                    “คราวนี้นายคงปฎิเสธฉันไม่ได้”  จาเร็ดผลักเขาล้มลงบนพื้นห้องน้ำ แล้วนั่งคร่อมเลียมที่ตอนนี้ตัวเปียกปอนและนอนหอบอยู่บนพื้น

                    จาเร็ดพยายามจะจูบเลียมและซอกไซร้ซอกคอเขา เลียมไม่มีแรงแม้แต่จะพูด เขามองไปรอบๆอย่างหมดหวัง ในใจเขาได้แต่ร้องเรียกชื่อสก๊อต

                    “นายโง่เองที่ปฎิเสธฉันตั้งแต่แรก...เลียม”

                    สก๊อตผิดสังเกตเมื่อไม่เห็นเลียมอยู่ในสนามซ้อม  และเขาก็รู้สึกเหมือนได้ยินเลียมเรียก แต่มองเท่าไรก็ไม่เจอ พอได้ยินอีกครั้งเขาก็รู้ว่าเป็นเสียงทางจิต

                    /นายอยู่ไหนเลียม!/   สก๊อตตัดสินใจลองพูดในใจ

                    /ช่วยฉันด้วยสก๊อตฉันอยู่ในห้องน้ำห้องเปลี่ยนเสื้อ/

                    ไม่รออะไรอีกแล้ว สก๊อตวิ่งตรงไปยังห้องน้ำ  เขารีบเข้าไปดึงจาเร็ดออกจากตัวเลียมทันทีที่เห็นภาพว่าจาเร็ดกำลังจะขืนใจเลียม  เขากระชากจาเร็ดแล้วต่อยเข้าไปหลายฉาดจนจาเร็ดวิ่งหนีออกไป  และสวนทางกับสไตล์ที่วิ่งตามเขาเข้ามา  สก๊อตไม่สนใจจาเร็ดและปล่อยให้วิ่งหนีไป  เขารีบหันมาสนใจเลียมที่นอนตัวเปียกปอนอยู่บนพื้นห้องน้ำ เสื้อลาครอสก็ขาดเพราะโดนฉีกทึ้ง   เลียมไม่ได้ตอบสนองกับการมาของสก๊อตเลย เขานอนหอบหายใจแรงและดวงตาสั่นระริกก็มองตรงขึ้นเพดาน 

                    “สก๊อต....เขาโดนวูฟแบนเล่นงาน” สไตล์พูด

                    “นายอย่าเป็นอะไรนะเลียม  มองฉันสิ ตั้งสติๆ”  สก๊อตตบหน้าให้เลียมรู้สึกตัวแต่ก็เปล่าประโยชน์  เลียมคงจะกลืนมันเข้าไป  




    kitties potter
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×