คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่2 อาจารย์ใหม่หน้าละอ่อน
อาจารย์ใหม่หน้าละอ่อน
เสียงคุยจอแจของเหล่านักเรียนปีหนึ่งซึ่งอยู่ในระหว่างการเดินไปห้องเรียนวิชาหน้ากากสังหาร หรือก็คือคือวิชา Poker face ดังขึ้น โดยหัวข้อการสนทนาก็คงไม่พ้นเรื่องอาจารย์คนใหม่ที่จะมาสอนแทนอาจารย์แม่มดแก่ๆคนก่อน
"ได้ข่าวว่าเป็นอัจฉริยะที่เก็บตัวอยู่ในป่าแถบโลแลนด์นะเธอ"เด็กสาวผมสีน้ำตาลดัดเป็นลอนใหญ่ๆกระซิบกระซาบกับเพื่อนของตนเบาๆ ทว่าคนหูดีที่ยืนอยู่ข้างหลังก็โพลงขึ้นมา
"ไม่ใช่แค่นั้นนะ อาจารย์คนนี้ยังเป็นศิษย์ที่ร่ำเรียนวิชามากับผู้อำนวยการโดยตรง แถมยังใช้เวลาแค่ปีเดียวเรียนจบทั้งๆที่ตัวเองเข้าเรียนก่อนเวลาตั้งสองปี นับว่าเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์โรงเรียนเราเชียวล่ะ"เด็กหนุ่มผมสีแดงท่าทางขี้เล่นว่า เขาผู้ที่ได้รับฉายาว่าเป็นนักข่าวประจำปีหนึ่งยิ้มน้อยๆอย่ามีถูมิ ก่อนจะเริ่มตอบคำถามที่เพื่อยิงตรงมาด้วยความสงสัย
"เห... แค่หนึ่งปีเองงั้นหรอ แล้วนายจะเอาสักกี่ปีดีล่ะ"เสียงนุ่มๆของคนเดินรั้งท้ายหันมาคุยกับคนข้างกายซึ่งดวงตาสีทองแปลกประหลาดนั้นมองไปเบื้องหน้าอย่างนิ่งเฉย
"ไม่เกี่ยวกับนายนี่"
ยังไม่ทันที่จะได้คุยกันมากกว่านี้ เด็กหนุ่มก็ตัดประโยคสนทนาด้วยการนั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมทั้งคว้าหนังสือเรียนออกมาจากช่องมิติ
ราวห้านาทีผ่านไปที่ยังไม่มีวี่เเววของอาจารย์คนใหม่ที่ว่า พวกนักเรียนจึงได้แต่คุยเล่นกันเรื่อยเปื่อย บ้างที่ขยันหน่อยก็เอาหนังสือขึ้นมาอ่านล่วงหน้าไปพลางๆก่อน
กระทั่งร่างเพรียวสูงแลดูสง่าใต้ชุดรัดกุมสีดำก้าวเข้ามาในห้อง เสียงทุกอย่างจึงเงียบลงราวกับถูกกลืนหายไปโดยอัตโนมัติ
เส้นผมสีเงินยาวจรดเอวรวบครึ่งหัวไว้ด้วยที่กลัดผมพลอยสีน้ำเงิน ปอยผมบางส่วนปรกดวงหน้างามราวรูปสลักอันไร้ที่ติเมื่อเจ้าตัวแสกมันไว้อย่างลวกๆ นัยน์ตาสีม่วงเฉกพลอยเนื้ออ่อนกวาดมองไปรอบห้อง ก่อนที่เรียวปากบางจะคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน
"ปีหนึ่งสินะ ข้าแอสทาริออส จะมาเป็นอาจารย์ประจำวิชานี้ ขอฝากตัวด้วยล่ะ"
ชั่วครู่ที่ทุกสิ่งตกอยู่ในความเงียบสงัด...
ชั่วครู่... ก่อนที่เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มยิ่งกว่าเจอดาราของนักเรียนหญิงก็ดังขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่
"กรี๊ดดด~~!! น่ากิน(?) จังเลย"
"หล่ออ่ะ! เธอเห็นมั้ย ยิ้มตะกี๊กระชากใจจริงๆ"
"อาจารย์อายุเท่าไหร่ค๊าาา"
"อาจารย์มีแฟนรึยังเอ่ย"
คำถามที่ยิงออกมาไม่หยุดจนอาจารย์หนุ่มเกือบพรุนไปทั้งตัว ทำให้เขาต้องกระแอมไอน้อยๆเพื่อให้เสียงเงียบลง ก่อนจะเอ่ยเสียงนุ่มนวลชวนฝัน
"แอสทาริออส เทียร์ ออคลิเคียร์ อายุสิบหกปี สถานะปัจจุบันขออุบไว้เป็นความลับละกันนะครับ"พูดพลางเดินไปยืนหน้าห้อง ก่อนจะเริ่มอธิบายรายละเอียดของวิชาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แม้ในใจจะอยากรีบสอนเเล้วชิ่งกลับไปนอนอืดที่สุด
"วิชาหน้ากากสังหาร คือวิชาที่มีความสำคัญมากสำหรับนักฆ่าที่จำเป็นต้องเก็บซ่อนความรู้สึกและปลอมตัวอยู่บ่อยๆ เรียนสัปดาห์ละห้าคาบ สี่หน่วยกิจ ซึ่งสำหรับเทอมนี้เราจะมาเรียนการใส่หน้ากากบทบาทต่างๆตั้งแต่พระราชายันโสเภณี"
เมื่อเข้าสู่บทเรียน เหล่านักเรียนที่เคยส่งเสียงดังก็ตั้งหน้าตั้งตาฟัง ซึ่งเป็นอาการปกติของการเปิดเทอมวันแรกๆที่ไฟยังแรงดีอยู่ ไปๆมาๆก็จะกลายเป็นขี้เกียจเสียครึ่งห้อง
อย่าถามเลยว่าเพราะอะไรถึงรู้ ก็เรื่องแบบนี้น่ะมันธรรมดาจะตายไป!
"เอาล่ะ พูดถึงหน้ากาก พวกคุณจะนึกถึงอะไรครับ....เชิญ"ถามพลางพยัคหน้าไปทางเด็กสาวผมสีดำซึ่งยกมือขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ เจ้าหล่อนหน้าแดงระเรื่อ ก่อนจะตอบด้วยท่าทางประหม่า
"สิ่งที่ปกปิดใบหน้าที่แท้จริงสินะคะ"
"ใช่แล้ว ตามรูประธรรมมันก็คือสิ่งที่ไว้ใช้ปิดซ่อนใบหน้า"คนผมสีเงินส่งยิ้มบางที่ทำให้เด็กสาวแทบลมจับ ก่อนจะกลับมาพูดต่อ
"แต่ถ้าหากพูดถึงหน้ากากในเชิงของนักฆ่าอย่างเราล่ะครับ มีใครตอบได้มั้ยว่าหมายถึงอะไร"แอสทาริออสถามเนิบๆ ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบห้องซึ่งเงียบกริบ กระทั่งเสียงนิ่งๆเสียงหนึ่งได้ดังขึ้น
"การปกปิดอารมณ์ ความรู้สึกทั้งหมดของตัวเอง เเละสร้างสีหน้าขึ้นมาใหม่อย่างแนบเนียน ดังนั้นเราจึงเรียกว่ามันคือหน้ากาก"
คำตอบจากเด็กหนุ่มผมสีดำสนิทรับกับนัยน์ตาสีทองสว่างสร้างความพอใจให้กับเขาในระดับหนึ่ง แต่มันก็ยังไม่พอ
"คุณเก่งมากที่สามารถจำบรรทัดที่สิบสี่ถึงสิบห้าของหน้าที่ยี่สิบได้อย่างไม่ตกหล่น แต่ความหมายทั้งหมดไม่ได้มีอยู่แค่นั้น คุณเนวิคาเร่"อาจารย์หนุ่มเอ่ยนามสกุลของคนตรงหน้าได้ในทันที เพราะมีเพียงคนตระกูลเนวิคาเร่เท่านั้นที่จะมีตาสีทองเช่นนี้ได้
"หน้ากาก.... คือสิ่งที่ใช้ซ่อนเร้นครับ เราสามารถเก็บซ่อนความรู้สึกทั้งหมดหรือกระทั่งตัวตนของพวกคุณทั้งหมดไว้ภายใต้หน้ากากนั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะสามารถสร้างหน้ากากที่มีอานุภาพมากแค่ไหน คุณอาจทำหน้าเศร้า ทั้งที่ในใจคุณแสนมีความสุข"มือเรียวโบกผ่านใบหน้าของตน เพียงชั่วครู่ จากสีหน้ายิ้มแย้มก็พลันเปลี่ยนเป็นเศร้าโศก
"คุณอาจจะกลายเป็นขอทาน ทั้งที่ตัวตนของคุณเป็นถึงกษัตริย์"อีกครั้งที่สีหน้าของแอสทารอสเปลี่ยนไปกลายเป็นอ่อนล้า ร่างที่เคยทระนงเเลดูสง่างามก็แลดูหม่นหมองลงอย่างน่าประหลาด
"หรือคุณจะกลายเป็น"โสเภณีชายตายั่วยวน แม้ความจริงคุณจะเป็นเพียงเด็กน้อยไร้เดียงสา"ดวงตาสีอเมทีสต์ปรือปิดลง ก่อนจะเปิดขึ้นมาใหม่ ครานี้จากแววตาอ่อนโยนก็พลันกลายเป็นหวานซึ้งพราวระริกเปี่ยมเสเน่ห์เย้ายวน ทำเอาแต่ละคนเผลอใจเต้นไปตามๆกัน
"ทุกอย่างล้วนเป็นหน้ากากครับ คือสิ่งที่สร้างขึ้นมาโดยกดความรู้สึกแท้จริงไว้ภายในส่วนลึกที่สุดของจิตใจ"พูดจบ คนผมสีเงินก็กลับมายิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นเดิม
"กฏของการเรียนวิชานี้ของข้ามีข้อเดียวเท่านั้น แต่พวกคุณทุกคนต้องปฏิบัติตามให้ได้ ไม่อย่างงั้นก็ไสหัวไปซะ แล้วอย่ามาเสนอหน้าให้ข้าเห็นในห้องนี้อีก"ประโยคอัดสุดแสนจะขัดแย้งกับท่าทางสุภาพอ่อนโยน ทำเอาทุกคนเย็นวาบ
"จงลืมทุกอย่างที่เป็นตัวเองทิ้งไป ชื่อ ฐานะ นิสัย หรือกระทั่งความเคยชินเล็กๆน้อยๆของร่างกาย ลืมมันซะให้หมด ทันทีที่เข้ามาในห้อง พวกคุณจะเป็นเพียงนักฆ่าไร้บุคลิกที่พร้อมจะยัดโปรแกรมลักษณะนิสัยต่างๆลงไปอยู่เสมอ.... สำหรับวันนี้พอแค่นี้ละกัน เลิกชั้นเรียนได้ครับ"สิ้นเสียง ความรู้สึกกดดันที่เคยมีก็พลันหายไปราวกับเป็นเรื่องตลก ทิ้งไว้เพียงความคิดหนึ่งในใจของนักเรียน
อาจารย์แอสทาริออสน่ากลัวเป็นบ้า...
ท่าทางยิ้มๆแบบนั้น ในใจคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้....
ฝ่ายอาจารย์หนุ่มมือใหม่ก็ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างนึกปวดหัว
ไอ้การที่ต้องมานั่งสอนคนอายุพอๆกัน เเล้วยังต้องมาพูดจาสุภาพๆด้วยนี่มันน่าขัดอกขัดใจเป็นบ้า
"มีอะไรงั้นหรอ คุณเนวิคาเร่"เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคนผมสีดำไม่ยอมเดินออกจากห้องไปเสียที
รีบๆไปได้แล้วโว้ยยย คนเขาจะนอน!
"ตัวตนที่แท้จริงของอาจารย์ เป็นคนแบบไหนหรอครับ"
เห็นดูหยิ่ง... ที่แท้ก็มีมารยาทกว่าที่คิดนะเนี่ย
"อืม... เอาเป็นว่าตอนนี้ข้ารำคาญพวกนัดเรียนเเล้วก็เจ้าผอ.งี่เง่านั่นสุดๆจนอยากฆ่าให้ตาย คุณจะคิดว่ายังไงล่ะ"
คำตอบซึ่งทำให้คนถามชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะโค้งน้อยๆ เเละก้าวออกจากห้องตามเพื่อนของตนไป
พูดประโยคแบบนั้นออกมาได้ด้วยเสียงอ่อนโยนหน้าตาเฉย
ทั้งที่อายุก็ต่างกันแค่ปีเดียว แต่กลับมีแรงกดดันที่มากเกินคนธรรมดา
นี่สินะ...อัจฉริยะ
******************
"เฮ้อ...."เสียงถอนหายใจดังขึ้นเป็นรอบที่ร้อยของวัน เมื่อร่างสูงแลดูสะโอดสะองก้าวออกมาจากห้องน้ำ มือเรียวขยี้เส้นผมสีเงินยวงที่เพิ่งสระมาหมาดๆด้วยหวังว่ามันจะแห้งเร็วขึ้นสักนิด
ห้องนอนของอาจารย์หรูกว่าห้องสมัยเขาเป็นนักเรียนมาก แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้เขานึกอยากสอนขึ้นมาแต่อย่างใด
ยิ่งเมื่อบวกกับต้องทนทรมานหูฟังเสียงกรี๊ดของนักเรียนหญิงทั้งวันด้วยแล้ว ในป่ายังสบายอยู่เยอะ
แม้จะไม่มีนารีให้ดูเป็นอาหารตาก็เถอะ...
"แอสทาริออสคุงงงง~~~!"เสียงนุ่มฟังดูหลั่นล๊าสุดขีดดังขึ้น พร้อมร่างสูงใต้ชุดขาวซึ่งกระโดดผลุบเข้ามาในห้องผ่านหน้าต่างซึ่งเปิดทิ้งไว้ แขนยาวกอดหมับเข้าที่เอวเพรียว ก่อนจะโดนศอกของคนถูกกอดอัดเสยจนกระเด็นไปติดกำเเพง
"โต(แก่)ป่านนี้แล้วก็อย่าเล่นเป็นเด็กๆสิครับ คุณจีเซล"เขาเอ่ยกับคนทำตัวไม่สมอายุด้วยความสมเพช ก่อนจะนั่งลงบนเตียวนุ่ม มือเรียวคล้าชุดยูคาตะขึ้นมาคลุมร่างไว้อย่างลวกๆ พร้อมโยนผ้าขนหนูที่ใช้เช็ดผมไปอีกทาง
"แล้วคุณมาหาผมดึกๆดื่นๆทำไม งานการไม่มีทำหรอครับ"เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุดเซ็งเพราะขี้เกียจปั้นหน้าสวมหน้ากากเด็กดีเต็มที
"ก็แค่มาเช็กดูว่าอาจารย์คนใหม่ทำงานเป็นยังไงบ้างเท่านั้นเอง"ตอบพลางนั่งลงบนเก้าอี้โดยไม่คิดขออนุญาตเลยสักนิด ดวงตาสีฟ้ามองดูท่าทางของแอสทาริออสพลางยิ้มร่า
การได้แกล้งศิษย์คนโปรดนี่มันสนุกจริงๆเลยให้ตายสิ!
"เหอะ อย่างคุณน่ะเงียบไปเลย ทำให้ผมต้องมาติดแหง็กอยู่ในโรงเรียนสับปะรังเคนี่แล้วยังมีหน้ามายิ้มอีกนะ โว้ยยย! เห็นแล้วมันหงุดงิดดด"เด็กหนุ่มโวยวาย เเละผู้เคราะห์ร้ายต้องรับตวามหงุดหงิดของเขาไปเต็มๆก็คือแปรงหวีผมซึ่งถูกโยนทิ้งโครม
"ใจเย็นน่า ที่ฉันให้เธอเข้ามาทำงานที่นี่มันก็มีเหตุผลอยู่นะ"
ประโยคที่ทำให้คนฟังได้แต่แค่นยิ้มออกมาอย่างฝืนๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียวกว้าง
"จะว่าไป มันก็นานเหมือนกันนะครับ...ที่ผมได้รู้จักกับคุณเนี่ย"นัยน์ตาสีม่วงคู่สวยปรือปิดลงอย่างแช่มช้า พลางรำพึงออกมาเบาๆ
"เจอคุณที่ไรมีเรื่องยุ่งทุกที"
คราวนี้คนโดนเหน็บหัวเราะน้อยๆ พลางโคลงหัวไปมา
"แต่ก็เป็นเจ็ดปีกว่าๆที่ทำให้เธอเก่งขึ้นได้ขนาดนี้ไม่ใช่หรือไง"
แอสทารีออสเทียขยับยิ้มบางบนเรียวปาก เป็นรอยยิ้มที่ดูราวกับจะประชดประชัน ก่อนจะกล่าวตัดบทสนทนา
"ผมจะนอนเเล้ว"
ดวงตาสีน้ำทะเลมองดูลูกศิษย์คนโปรดซึ่งดุท่าจะหลับไปแล้วตามที่ว่าจริงๆ ก่อนจะกระโดดผลุบหายไปทางหน้าต่าง
"ราตรีสวัสดิ์ แอสทาริออสคุง"
คล้อยหลังร่างสูงจากไปไม่นาน คนเนียนทำเป็นหลับกลับลืมตาขึ้น แววตาสีม่วงนั้นทอประกายบางอย่างซึ่งแลดูเศร้าจนน่าใจหาย
ถ้าหาก....ตอนนี้มีเธออยู่ข้างๆก็คงดีสินะ....
"เธอมองดูฉันอยู่รึเปล่า เรเรียล ตอนนี้ฉัรกำลังโดนไอ้แก่แกล้งเอาอีกแล้วนะ"เอ่ยกับตัวเอางด้วยเสียงแสนแผ่วเบา แขนเรียวถูกยกขึ้นพาดใบหน้า ปิดบังขอบตาที่ร้อนผ่าวขึ้นทุกขณะซึ่งขนาดวิชาหน้ากากนักฆ่าซึ่งเขาช่ำชองนนักหนายังไม่อาจซ่อนเร้นมันไว้ได้
ไม่น่ากลับมาที่นี่เลยจริงๆ....
"ฉันคิดถึงเธอ"
******************
ความคิดเห็น