ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [B.A.P] Timer Time

    ลำดับตอนที่ #3 : II

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 57


     

     

     

    II

     

     

     

    ห้องทำงานสีขาวตัดกับของตกแต่งภายในห้องที่เป็นสีดำแสงแดดยามเช้าลอดมาตามบานหน้าต่างที่มีเพียงผ้าม่านผืนบางกั้นไว้ ห้องที่ตอนนี้เจ้าของห้องกำลังหลับใหลในห้วงนิทราเมื่อตอนเช้าบนโต๊ะทำงานก็มีรูปคู่ซึ่งเป็นภาพการแต่งงานของคู่รักคู่หนึ่ง

     

     

     

     

     

    บ้านสีฟ้าหลังเล็กมีรั้วสีขาวโอบล้อมพร้อมกับพื้นที่ส่วนหย่อมหน้าบ้านอีกเล็กน้อยทำให้บ้านหลังนี้ดูน่ารักและอบอุ่น แต่เมื่อมีรถหรูขับเข้ามาจอดทำให้ดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บ้านที่น่ารักกับรถราคาแพง

     

     

    "ลงไปได้แล้วหมู" ยังไม่ทันที่จุนฮงจะพูดจบยองแจก็เปิดประตูลงจากรถโดยไม่เอ่ยคำลาเลยซักคำ

     

    "อ้วนเป็นหมูแล้วยังไม่มีมารยาทอีก !"

     

    เสียงตะโกนด่าดังออกมาจากรถผู้ลงทุนเลื่อนกระจกมาโวยวายอีกฝ่ายจึงหันไปตะโกนใส่อย่างไม่ลดละ

     

    "ใช่ ! เสียมารยาทแล้วจะทำไม ;p"

     

     

    "นี่ ยูยองแจ !"

     

    ถึงจะตะโกนยังไงอีกคนก็คงไม่ได้ยินเพราะตอนนี้เดินเข้าบ้านไปเรียบร้อยแล้ว

     

     

    "ฝากไว้ก่อน พรุ่งนี้เตรียมตัวได้เลย !"

     

    เสียงแจ้งเตือนเด้งขึ้นคนตัวเล็กรีบเดินมาอ่านก่อนตอบกลับไปทันที

     

     

    "แน่จริงก็มาตอนนี้เลยสิ ยักษ์ขี้เก๊ก!"

     

     

    บ้านหลังนี้ยองแจอยู่เพียงคนเดียวจึงดูพอดี ไม่ใหญ่เกินไปไม่เล็กเกินไป ภายในบ้านตกแต่งได้เข้ากันอย่างพอดี คนตัวเล็กวางกระเป๋าลงตรงโซฟาก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวแล้วลงมือทำงานทันที

     

     

     

     

     

     

    ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนบ้านหลังนี้ก็เต็มไปด้วยเสื้อผ้ามากมายกองรวมกันไว้เต็มไปหมด พื้นที่อันกว้างขวางเลยแคบลงไปถนัดตาเมื่อคนที่ต้องเข้ามาอยู่ด้วยไม่กี่วันก็ถึงกับอึ้งแม้จะรู้ว่าห้องต้องรกแต่ไม่คิดว่าจะรกถึงเพียงนี้

     

     

    "เข้ามาเลย ตามสบายคิดว่าเป็นบ้านมึง"

     

     

    "มึง....ยองแจไม่ได้มาบ้านมึงหรอว่ะ"

     

     

    "ถ้ามาบ้านกูคงสะอาด"

     

    น้ำเสียงตอบกลับอย่างเบื่อหน่าย กับสายตาที่มองห้องอย่างหงุดหงิด

     

     

    "มึงก็ง้อสิครับ มาหงุดหงิดทำซากอะไร"

     

     

    "ก็...เฮ้อ มึงจะให้ทำไงเล่า จะให้กูเดินไปหาแล้วบอกว่า ยองแจกลับมาอยู่ด้วยกันเถอะ งี้หรอว่ะ"

     

     

    "อืม มึงก็พูดได้ แต่เวลาอยู่ต่อหน้าเค้ามึงก็ปากหม.าเหมือนเดิม"

     

     

    "ก็มันแก้ไม่หายไง"

     

     

    "หล่อแต่หมานะมึงน่ะ"

     

     

    "หยุดเรื่องนี้ซะ เรื่องงานมึงอ่ะว่าไง"

     

    แดฮยอนไม่ตอบแต่เดินเอากระเป๋าไปไว้ในห้องก่อนจะออกมาเห็นจุนฮงนั่งรออยู่ตรงโซฟายาว

     

     

    "กกกน.ผญ ?"

     

    นั่นเป็นสิ่งที่แดฮยอนหยิบออกมาจากโซฟา เพียงเท่านี้แดฮยอนก็พอจะรู้เหตุผลที่ยองแจย้ายไปอยู่ที่อื่นแทนที่จะเป็นบ้านของคนในสังกัด

     

     

    "หึหึหึ"

     

     

    "หัวเราะอะไร"

     

     

    "เปล๊า ~"

     

     

    "แล้วงานมึงอ่ะ"

     

     

    "ไม่มีอะไรมาก มึงก็แค่ไปเป็นนายแบบให้กูก็แค่นั้น"

     

     

    "ก็แค่นั้น...."

     

     

    "ใช่ ทำไม"

     

    แค่นั้นห่าอะไร ไอ้เพื่อนเวรเลือกกูเป็นนายแบบถูกฤดูเกินไปละ

    และที่แน่ๆต้องถ่ายข้างนอกสตูดิโอชัวร์

     

    "นอก หรือ ใน"

     

     

    "ของแบบนี้ก็นอกอยู่แล้ว"

     

    ทายผิดซะที่ไหนเล่า !!!

     

     

    "เหอๆ หวังว่าอากาศคงดี"

     

     

     

     

     

     

    โลกอนาคตผู้คนใช้เวลาในการเดินทางรวดเร็วขึ้น ผู้คนเดินสวนกันไปมาด้วยความรวดเร็วจนเกือบชนกันในหลายครั้งแต่ก็ต้องมีเหตุการณ์ที่ไม่ใช่เกือบแต่เกิดขึ้นจริง

     

     

    "ขอโทษครับ คุณเอ่อ...เป็นอะไรรึเปล่า"

     

     

    คนสองคนเดินชนกันหน้าห้องสมุดคนหนึ่งสูงกับอีกคนตัวเล็ก จนแก้วน้ำที่คนตัวเล็กถือมาหกราดใส่เสื้อสีขาวสะอาดหมดเลย

     

     

    "ไม่เป็นไรครับ"

     

     

    "คือ เสื้อคุณเปื้อนน่ะ"

     

     

    "ไม่เป็นไรจริงๆครับ แค่นี้เรื่องเล็กน้อย"

     

    มันเล็กน้อยตรงไหน ? น้ำหกใส่เสื้อตัวเองจนเปื้อนแถมยัง ....

    แถมยังขาว -///- เหมือนจะผิด แถมยังบางขนาดนี้

     

     

    "แต่เสื้อคุณมัน..."

     

    และได้ผลจากที่คนตัวเล็กก้มหน้าก้มตาเช็ดเสื้อตัวเองอยู่ก็เงยขึ้นมามองคนทัก

     

     

    "เสื้อผม มันทำไมหรอครับ?"

     

    เอากับเค้าสิ แล้วแสงบ้านี่ก็มาเวลานี้เนี่ยนะ

    ยังจะมามองอีก ไอ่หยั่งงี้มันน่าฉุด !

     

     

    เมื่อเห็นอีกคนไม่มีทีท่าว่าจะตอบแถมยังเอาแต่มองหน้าเขาอยู่ตลอดเลยลุกขึ้นเอามือโบกไปโบกมาอยู่ตรงหน้าก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ๆ

     

     

    "เฮ้ย !"

     

     

    "ตกใจอะไรครับ ?"

     

    จู่ๆใบหน้าคนตรงหน้ากับใครอีกคนก็ซ้อนทับกันจนคนตัวสูงพึมพำออกมาเบาๆ

     

     

    "มุน จงออบ"

     

     

    "รู้จักชื่อผมด้วยหรอ ?"

     

    คำถามนี้เรียกรอยยิ้มจากคนตัวสูงได้ทันที รอยยิ้มที่เป็นไปด้วยความสุขมากมายจนแทบระเบิดออกมา

     

     

     

    จงออบครับ ในโลกอนาคตตอนนี้พี่เจอเราแล้วนะ

    ............

     

     

     

     

     

     

     

    พื้นที่เต็มไปด้วยสีขาวทั่วเยือกเย็นและเงียบเหงากลับมีชายสองคนยืนอยู่ท่ามกลางความหนาวเหน็บนี้

     

     

    แชะ แชะ แชะ

     

    เสียงกดชัตเตอร์รัวอย่างต่อเนื่องไม่ว่านายแบบคนนั้นจะทำท่าทางอะไรจะเดินไปไหนจะทำอะไรก็ถูกบันทึกไว้

     

     

    "แดฮยอนหนาวว ~ พอแล้วไม่ได้หรอว่ะ"

     

    แชะ แชะ แชะ !

     

     

    "มึงจะถ่ายอีกเยอะป่ะว่ะ กูหนาวว ~"

     

    ไม่มีเสียงตอบรับจากช่างกล้องมีเพียงเสียงรัวชัตเตอร์ แม้นายแบบจะพูดด้วยแต่ก็มีเพียงเสียงชัตเตอร์เท่านั้นที่ตอบกลับมาจนนายแบบทนไม่ไหวหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครคนหนึ่งก่อนจะเดินหลุดเฟรมออกไป

     

     

    "ใกล้เสร็จแล้วมึงไปพักเหอะ"

     

     

    "กว่าจะพูดได้นะ"

     

     

    แดฮยอนหยักไหล่อย่างไม่แยแส เขาทำเพียงยกกล้องตัวโปรดขึ้นมาแล้วก็รัวชัตเตอร์เท่านั้น กลิ่นหอมของชาลอยมาจากที่ไหนซักแห่งทำให้แดฮยอนสนใจ ความหอมของชาลอยออกมาทำให้อากาศอันหนาวเย็นดูอบอุ่นขึ้นมาทันตา

     

     

    "จุนฮงไปร้านตรงนั้นกัน"

     

     

    "เออๆ  แค่นี้นะหมู"

     

    จุนฮงวางสายก่อนจะรีบเดินไปหาเพื่อนที่ยืนรออยู่ก่อนจะรีบเดินไปยังร้านกลิ่นชาลอยออกมาทันที

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ห้องลองเสื้อที่ตอนนี้มีผู้ขายช่วยส่งเสื้อให้กับคนด้านใน ส่วนคนด้านนอกก็ยืนรอว่าเมื่อไหร่จะออกมาบานประตูถูกเปิดออกก่อนคนด้านในซึ่งเปลี่ยนเสื้อแล้วก้าวออกมาให้คนที่ยืนรอเห็น

     

     

    "เอาตัวนี้ครับ"

     

     

    "แต่ ..."

     

     

    "ไม่มีแต่ครับ พี่..ผมทำเสื้อคุณเปื้อนนะ"

     

     

    "ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ครับคุณแดฮยอน"

     

     

    "ผมจะเอาเสื้อตัวนี้ไปซักให้ละกัน ส่วนตัวนั้นผมซื้อให้"

     

     

    "พี่...คุณ...เอ่อ...ผมเกรงใจนะครับ"

     

     

    "ขอที่อยู่แล้วก็เบอร์โทรด้วยครับ"

     

    แดฮยอนยื่นโทรศัพท์ให้จงออบเมมเบอร์ไว้ก่อนจะจดที่อยู่ให้อีกที

     

     

    "จงออบคุณอายุเท่าไหร่ ?"

     

     

    "18 ครับ"

     

     

    "งั้นเรียกผมว่าพี่นะ"

     

     

    "พี่แดฮยอน..."

     

     

    ไม่ว่าคนตรงหน้านี้จะพูดคำนี้สักกี่ครั้งมันก็ยังดูน่ารักเสมอและคำตอบรับเสียงเรียกก็คงมีเพียงคำนี้ ....

     

     

    "ครับน้องมุน"

     

     

    สุดท้ายเมื่อสายลมได้พัดผ่านก็ได้พาให้คนทั้งสองมาเจอกันเพื่อทำคำสัญญาให้เป็นจริง

     

     

    "แต่งงานกันนะครับ"

     

     

     

     

     

     

     

     

    ห้องสีเหลี่ยมสีขาวมีเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้นกับใครอีกคนอยู่ในห้อง ห้องที่แสนเงียบเหงา

    คุณหมอเดินเข้ามาหาผู้ป่วยกำลังนั่งอยู่บนเตียงเหม่อมองออกไปยังบานหน้าต่างที่ฉายภาพท้องฟ้า แสงแดดอันสดใส หากแต่สิ่งสะท้อนภายในดวงตาคือความว่างเปล่า

     

     

    "คุณหมอมานี่หน่อยสิมีอะไรจะคุยด้วย"

     

     

    "มีอะไร"

     

     

    "นายก็รู้ใช่มั้ยว่าถึงแม้เทคโนโลยีหลายๆอย่างในตอนนี้จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องแต่กลับเรื่องบางอย่างเทคโนโลยีไม่สามารถช่วยได้"

     

     

    "กำลังพูดถึงอะไรอยู่ล่ะ"

     

     

    "ชั้นรู้ว่านายรู้ว่ากำลังพูดถึงเรื่องอะไรดังนั้น คนไข้คนนั้นน่ะรักษาแล้วแต่ .... "

     

     

     

    ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้ายิ่งทำให้คุณหมอเจ็บปวด ไม่ว่าจะเดินเข้าไปใกล้ยังไงก็ไม่หันมาสนใจ เอาแต่เหม่อมองออกไปยังนอกหน้าต่างจนเสียงเรียกอันแผ่วเบาก็ดังขึ้น

     

     

    "คิมฮิมชาน"

     

     

    เสียงเรียกอันแผ่วเบาเพื่อหวังให้คนตรงหน้าหันมาแล้วยิ้มอย่างสดใสให้ก็ต้องพังทลายลงไปเมื่อสิ่งที่เพื่อนเขาพูดนั้นเป็นจริง

     

     

    "คุณเรียกผมหรอ ?"

     

     

     

    "ความจำเสื่อม"

     

     

     

    "ครับผมเรียกคุณ"

     

    คุณหมอยังคงตอบคำถามด้วยรอยยิ้มถึงแม้มันจะไม่สดใสแต่เขาก็ยังยิ้มหากคนตรงหน้าคือคนที่เขารัก...จนหมดใจ

     

     

    "นั่นคือชื่อของผมหรอ ?"

     

     

    "ครับ นั่นคือชื่อของคุณ ตอนนี้คุณต้องพักผ่อนแล้วนะ"

     

     

    "เดี๋ยวๆแล้วคุณหมอชื่ออะไรล่ะ"

     

    คนป่วยยังไม่ยอมแพ้ถามออกมาดวงตาสวยเหมือนกวางมีคำถามเต็ทไปหมด คุณหมอห่มผ้าให้ก็ยิ้มเมื่อเห็นอีกคนมีแต่คำถาม

     

     

    "ผมชื่อ บังยงกุก"

     

     

     

     

     

     

     

     

    ร้านกาแฟเล็กๆตั้งอยู่แถวหัวมุมสวนสาธารณะอากาศหนาวอย่างนี้ทำให้คนไม่ค่อยเข้าร้านภายในร้านจึงมีคนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่ออกมาด้านนอกแล้วต้องการเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย

    ทั้งสองคนเลือกนั่งติดกระจกบานใหญ่ แล้วชาก็ยกมาเสิรฟ์ เสียงเพลงคลอเบาๆบรรยากาศอันอบอุ่นพร้อมชากลิ่นหอมละมุน

     

    "จุนฮงมึงนั่งอยู่นี่นะ"

     

     

    "จะไปไหนอ่ะมึง"

     

     

    "ถ่ายรูป มึงช่วยทำหน้าให้ฟีลแบบคนนึกถึงความรักอันอบอุ่นด้วยก็จะดี"

     

     

    พูดจบแดฮยอนก็เดินออกจากร้านทันทีโดยไม่รอให้จุนฮงตอบรับหรือปฏิเสธทั้งนั้นแดฮยอนก้าวยาวๆออกมานอกร้านเมื่อจุนฮงเห็นเพื่อนอยู่ด้านนอกก็เปลี่ยนเข้าสู่โหมดทำงานทันทีแววตาขี้เล่นก็หายไปเหลือเพียงชายหนุ่มผู้นั่งอยู่ในร้านกาแฟกับรอยยิ้มอันอบอุ่นแฝงไปด้วยความเศร้าจนสุดท้ายจุนฮงทนไม่ไหวเลยแกล้งแดฮยอนโดยการเอาหน้าติดกระจกแล้วเล่นเป็นเด็กๆเพื่อเป็นการประท้วงให้หยุดถ่าย

     

     

    "ขอโทษนะครับ"

     

     

    "ครับ"

     

     

    "อันนี้เป็นขนมตัวใหม่ของทางร้านครับ วันนี้เราแจกฟรีให้ทุกคนได้ลองชิมกันครับ"

     

     

    "อ่อ ขอบคุณครับ"

     

     

    ขนมเค้กตัวใหม่ของทางร้านหน้าตาน่ากิน ดึงให้คนคลั่งขนมอย่างจุนฮงมีดวงตาแวววาวเป็นประกาย

     

     

    "มึงต้องคุมน้ำหนักไม่ใช่หรอว่ะ"

     

     

    "ใครบอกมึงมั่วแล้ว"

     

    ศึกแย่งขนมกำลังจะเริ่มเมื่อบนโต๊ะมีเพียงขนมเค้กชิ้นเดียววางอยู่ ศึกขนมหวานยากแก่การแบ่งปันเสมอ

     

     

    "งั้นหรอแต่ยองแจสั่งว่าห้ามกินขนมหวานไม่ใช่รึไง"

     

     

    "มึงก็พูดไปเรื่อยอ่ะ โกหกเก่งนะมึงเนี่ย"

     

     

    "กูไม่ได้โกหก แต่เค้กเนี่ยกูขอ"

     

    เมื่อแดฮยอนเห็นจุนฮงเผลอก็ลากจานเค้กมาทางตัวเองทันทีก่อนลงมือตักเค้กเข้าปากอย่างอร่อย

     

     

    "ทำเป็นว่ากู มึงอ่ะอ้วนขึ้นชัดๆไอ้แด้"

     

     

    "น้ำหนักมันขึ้นได้ก็ลดได้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ"

     

     

    "งั้นมึงก็ควรลดตอนนี้ไงเพื่อน"

     

    ศึกแย่งขนมเป็นเรื่องปกติของคนทั้งคู่แต่ท่ามกลางสายตามากมายกลับมองว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะยากนักที่จะเห็นผู้ชายชอบกินขนมหวานมากขนาดนี้

     

     

     

    _________________________

     

    มันจะเป็นการตัดฉากไปมาระหว่างอดีตกับอนาคตนะ อืมมม ขอบคุณคอสมากที่เข้ามาอ่านแม้จะเป็นชิปเปอร์บังแด้ก็ตาม ขอบคุณนะ และขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน  ลาล่ะ สวัสดีจ่ะ ('-')/

    :-Daisy ✿
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×