ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [B.A.P] Timer Time

    ลำดับตอนที่ #5 : IV

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 57


     

     

     

    IV

     

     

    อากาศยามค่ำคืนอุณหภูมิค่อยๆลดลงอากาศจากเย็นสบายก็กลายเป็นความหนาวเย็นเข้ามาแทนที่ร้านอาหารเลยมีคนเดินเข้าร้านมากขึ้นแต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยรีบกลับเข้าบ้านเพราะอุณหภูมิอันหนาวเหน็บและแล้วหิมะแรกของปีก็โปรยปรายลงมา

     

     

    "คุณหมอยงดูสิ หิมะแรกของปีนี้ตกลงมาแล้ว ~"

     

     

    "เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก"

     

    ยงกุกหยิบผ้าพันคอของตัวเองมาพันไว้ให้กับร่างบางที่สวมเสื้อผ้าบางๆเท่านั้น

     

     

    "สวยเนอะ"

     

    ยงกุกไม่ตอบรับอะไรแต่ก็จ้องมองหิมะที่กำลังโปรยปรายลงสู่พื้นดินพร้อมกับตกอยู่ในห้วงของความคิดโดยฮิมชานคิดว่ายงกุกกำลังดูหิมะตกอยู่เลยไม่ได้ขัดอะไร

     

     

    "นานๆทีจะเห็นคุณหมอคนเก่งอย่างบังยงกุกเครียดนะเนี่ยมีเรื่องอะไรรึเปล่า หรือว่าจะเป็นเรื่องคนไข้คนนั้นหว่า"

     

     

    "คนไหนล่ะที่นายทาย"

     

     

    "คนไข้หน้าหวาน แฟนเก่านายไงคุณหมอบัง"

     

     

    "..."

     

     

    "เงียบแบบนี้ใช่ชัวร์ คนเค้าความจำเสื่อมก็ต้องใช้เวลาฟื้นฟู อย่าคิดมากสิ"

     

     

    "แล้วถ้าไม่ทำล่ะ"

     

     

    "หมายความว่ายังไงล่ะ อืมมม ..... มันก็ขึ้นอยู่กับนายว่าจะทำหรือไม่ทำ แต่ถึงนายไม่ทำครอบครัวของเขาก็ทำ"

     

     

    "เขาไม่เหลือใคร..."

     

     

    "งั้นหรอ ก็ยิ่งเข้าทางไม่ใช่รึไง ? คิดดีๆล่ะบังยงกุก ไปละ โชคดีนะคุณหมอยง"

     

     

     

    ผมควรทำให้ความจำคุณกลับมาใช่มั้ย

    แล้วถ้าผมไม่ทำล่ะคุณจะมองว่าผมเป็นคนไม่ดีรึเปล่า ?

     

     

     

    "คุณหมอ นี่ๆอย่ามายืนหลับน่า"

     

    แรงเขย่าอย่างแรงที่แขนกับเสียงปลุกดังอยู่ข้างหูทั้งเขย่าแขนทั้งเสียงดังซึ่งยงกุกคาดว่าถ้าไม่ตอบคนตรงหน้าตอนนี้แขนก็อาจหลุดติดมือ

     

     

    "คุณหมออออ !"

     

     

    "เสียงดังทำไมครับ"

     

     

    "ก็คุณหมอยืนหลับผมก็เลยปลุกไง"

     

     

    "ผมไม่ยืนหลับหรอกแค่คิดอะไรนิดหน่อยแค่นั้น"

     

     

    "คุณหมอมีเรื่องให้คิดเยอะสินะ ถ้าหยั่งงั้นก็ต้องพักผ่อนเยอะๆนะครับรู้มั้ย"

     

     

    "ครับ ไปอาบน้ำได้แล้วนะครับอาบน้ำดึกเดี๋ยวจะไม่สบาย"

     

    ฮิมชานยืนยิ้มแป้นก่อนจะจับมือยงกุกเดินเข้าไปในบ้านเดินตรงไปยังห้องครัวก่อนจะใช้สายตาบังคับยงกุกให้นั่งลง

     

     

    "คุณหมอยงยังไม่ได้ทานข้าวเลยนะครับ"

     

     

    "ผมทานมาจากข้างนอกน่ะ"

     

     

    "อย่าโกหกสิครับ ตัวคุณหมอไม่มีกลิ่นอาหารติดมาเลยนะ"

     

     

    "ผมไม่ค่อยทานอะไรอยู่แล้ว"

     

     

    "เป็นหมอก็ต้องรู้จักดูแลสุขภาพตัวเองด้วยสิครับอย่ามัวแต่ดูแลสุขภาพให้คนอื่น"

     

    ร่างบางหยิบจับเตรียมส่วนประกอบพร้อมทำทุกอย่างด้วยความคุ้นเคยและคล่องแคล่วเมื่อส่วนประกอบพร้อมก็ถึงเวลาเอาลงไปผัดในกะทะกลิ่นหอมก็เริ่มกระตุ้นความอยากอาหารของบังยงกุกให้เริ่มทำงาน

     

     

    "ฮิมชาน"

     

     

    "ครับ"

     

     

    "คุณต้องการให้ความทรงจำของคุณกลับมามั้ย ?"

     

    เสียงปิดเตาดังขึ้นพร้อมกับอาหารถูกตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟให้กับคุณหมอผู้นั่งลุ้นคำตอบด้วยความกังวลแต่ฮิมชานก็ยังไม่ตอบกลับเดินำปรินน้ำใส่แก้วให้ยงกุกก่อนจะนั่งลงในด้านตรงข้าม

     

     

    "ความทรงจำหรอ ถ้าผมต้องการคุณหมอจะช่วยมั้ย แล้วถ้าผมจำทุกอย่างได้คุณหมอจะยังอยู่กับผมรึเปล่า ถ้าไม่ งั้นผมก็ไม่ต้องการมันหรอก เพราะโลกใบนี้ในตอนนี้ทุกคนคือคนแปลกหน้าสำหรับผม ยกเว้นคุณหมอ"

     

     

    คำตอบกับความเหม่อลอยในดวงตาคู่สวยมีแต่ความว่างเปล่าราวกับทำยังไงก็นึกอะไรไม่ออกเมื่อยงกุกได้ฟังคำตอบพร้อมกับเห็นท่าทางของฮิมชานก็ยิ่งเครียด

     

     

    ผมต่างหากฮิมชานที่ต้องถามคุณว่าถ้าคุณจำทุกอย่างได้คุณจะยังจากผมไปอีกครั้งรึเปล่า

     

     

    ทั่วทั้งห้องเลยตกอยู่ในความเงียบต่างคนก็ต่างคิดไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมานอกจากเสียงช้อนกระทบจานที่ดังต่อเนื่องมาสักพัก

     

     

    "แล้วถ้าผมยังอยู่กับคุณ คุณยังต้องการความทรงจำกลับมารึเปล่า"

     

     

    ผมตัดสินใจแล้วแม้คุณจะจากผมไปอีกครั้ง

    ผมก็จะทำให้คุณจำผมได้ถึงแม้ผมจะต้องเจ็บปวดในตอนท้ายผมก็ยอม

     

     

     

    "ถ้าคุณหมอยังอยู่กับผม ผมก็ตกลงครับ"

     

     

    เวลาที่เลือกทั้งคู่ก็เลือกโดยที่ไม่รู้ว่าในตอนท้ายจะเกิดอะไรขึ้นคนหนึ่งเลือกเพื่อให้อีกคนจำตนเองได้แม้ตอนสุดท้ายอาจเจ็บปวด ส่วนอีกคนเลือกเพราะเป็นความต้องการของอีกคนแม้ไม่รู้ว่าความทรงจำที่หายไปนั้นเป็นแบบไหน

     

     

     

     

     

     

     

     

    ท่ามกลางหิมะแรกของปีโปรยปรายผู้คนต่างกางร่มเพื่อป้องกันไม่ให้โดนหิมะที่กำลังร่วงหล่นลงมาสีสันของค่ำคืนนี้คือหิมะ ที่จะมาแต่งแต้มทุกอย่างให้กลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์และยังเป็นค่ำคืนที่ใครบางคนกำลังคิดถึงคนที่มาทำให้หัวใจสั่นไหวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

     

     

     

    "น้องมุนครับ"

     

     

    "ว่าไงครับพี่แดฮยอน"

     

     

    "น้องมุนคิดว่าฤดูหนาวสำหรับน้องมุนเป็นแบบไหน"

     

     

    "เอ๋ ? หมายถึงยังไงหรอครับ"

     

     

    "น้องมุนรู้มั้ยฤดูหนาวมันทั้งเงียบเหงา อ้างว้างและแสนเศร้าแต่ตอนนี้มันกลายเป็นฤดูหนาวที่สวยงามและอบอุ่นอีกครั้ง"

     

     

    รอยยิ้มที่ส่งมาให้ตอนกลางวันยังติดอยู่ในความทรงจำรอยยิ้มที่ทั้งสดใสและดึงดูดจนไม่อาจละสายตายิ่งนึกถึงหัวใจก็ยิ่งสั่นระรัว

     

     

    "แล้วฤดูหนาวของน้องมุนเป็นแบบไหนครับ"

     

     

    เมื่อนึกถึงคำถามที่ยังไม่ได้ให้คำตอบก็ยิ่งเครียดถึงแม้แดฮยอนจะไม่ได้เร่งรัดเอาคำตอบแต่ตัวเขากลับรู้สึกอยากตอบแม้จะทำให้ตัวเองหน้าแดงด้วยความเขิลอายก็ตาม

     

     

    ฤดูหนาวของผมตอนนี้ทั้งอ่อนโยนทั้งอบอุ่นแล้วก็สดใสด้วยครับ :3

     

     

    เมื่อกดส่งข้อความเสร็จก็โน้มตัวลงนอนทันทีแต่คนตัวเล็กตอนนี้ดันนอนไม่หลับได้แต่ลุ้นว่าเขาจะเข้าใจความหมายมั้ยผลสุดท้ายก็จมอยู่ในความฝันอันแสนหวานโดยมีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ลุ้นรับมือถือสุดไฮโซ2เครื่อง!สมัครดวงรักและผลสลากฯกด *498*48# (3/ขค)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    สตูดิโอจากมีคนมากมายกลับเหลือเพียงคนสองคนจากที่กลับบ้านไปแล้วก็โดนอุ้มขึ้นรถมาที่นี่อีกครั้ง

     

     

    "มาสตูดิโอทำไมไหนบอกว่าจะไปบ้านนายไงจุนฮง"

     

     

    "ยังไม่อยากให้หมูไปบ้าน"

     

     

    "ทำไมล่ะ"

     

     

    "ไม่ต้องถามมากหรอกน่า"

     

     

    ก็แค่ตอนนี้แดฮยอนมันอยู่บ้าน เดี๋ยวเสียบรรยากาศ

     

     

    เมื่อยิ่งก้าวเข้ามาก็ยิ่งมืดยองแจเลยหยุดเดินไม่ยอมเดินตามจุนฮงไปความเงียบที่ผิดปกติเลยทำให้จุนฮงหันกลับมาแต่ไม่เจอยองแจเลยรีบเดินกลับมา

     

     

    "ยองแจ"

     

     

    เสียงอ่อนโยนดังขึ้นอย่างปลอบประโลม ยองแจที่ตอนนี้นิ่งงันไม่ยอมขยับไปไหนพยายามข่มความรู้สึกและปลอบตัวเองจนร่างสูงโผล่มาความรู้สึกนั้นก็หายไป

     

     

    "ไม่เป็นไรนะจุนฮงอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่กลัวนะครับคนดี"

     

     

    จุนฮงดึงยองแจเข้ามากอดเพื่อให้ยองแจหายกลัวความแนบชิดทำให้รู้ว่าคนในอ้อมกอดตัวสั่นมากแค่ไหน  จุนฮงเลยจับมือยองแจเอาไว้ก่อนจะพาเดินไปด้วยกัน

     

     

     

    "ยองแจไม่ต้องกลัวนะ จุนฮงจะจับมือยองแจไว้แล้วเดินไปด้วยกัน"

     

     

     

     

    คนโกหก

     

     

     

     

     

     

     

     

    ห้องสีขาวเต็มไปด้วยรูปถ่ายมากมายเรียงจากฤดูหนาวสีขาวไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วงสีน้ำตาลภายในรูปของทุกฤดูมีนายแบบเพียงคนเดียวที่ถ่ายทอดความรู้สึกของแต่ละฤดูออกมา ฤดูหนาวที่แสนสวยงาม ฤดูใบไม้ผลิที่แสนอ่อนโยน  ฤดูร้อนที่แสนสดใส  ฤดูใบไม้ร่วงที่แสนเงียบเหงา

    ชายเจ้าของห้องใส่สีขาวทั้งชุดกลืนไปกับสีของห้องมีเพียงผมสีดำเท่านั้นทำให้รู้ว่ามีคนอยู่ภายในห้องนี้

     

     

     

    "มันหนาวนะไม่ออกไปไม่ได้หรอ ?"

     

     

    "หิมะตกล่ะ  ไปเล่นหิมะกันนะ"

     

     

    "ฤดูหนาวที่จริงมันไม่ได้เศร้านะแต่มันสวยงามต่างหาก"

     

     

    "อยากกินไอศกรีมตอนฤดูหนาวจัง"

     

     

    ยิ่งนึกถึงความทรงจำเหล่านั้นมากเท่าไหร่รอยยิ้มของเจ้าของห้องก็ยิ่งมีมากขึ้นเขาเดินวนไปตามรูปต่างๆเริ่มตั้งแต่ฤดูหนาวที่เป็นจุดเริ่มต้นของความรัก

     

     

     

    "ไม่เอา ! ฝนตก ! เปียก !"

     

     

    "เล่นน้ำฝนกันน้าาา ~"

     

     

    "เสื้อกันฝนสีเหลืองเข้ากับเค้ามั้ยอ่ะ"

     

     

    "ไม่เอานะอย่าไปสิ ฮึก เค้ากลัวนะ จะไปจริงๆหรอ ตัวจะทิ้งเค้าไว้บ้านคนเดียวหรอ"

     

     

     

    ขี้กลัวขนาดนั้นใครจะไปกล้าทิ้ง

    แค่ห่วงความปลอดภัยของตัวต่างหาก

     

     

     

    "ร้อนจังเลยเนอะ"

     

     

    "ตากแดดงี้ดำแน่เลย"

     

     

    "เค้าทำขนมมาให้"

     

     

    "หายงอลเค้านะ  หายโกรธเค้านะ  หายโกรธเถอะนะครับ สัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้ว"

     

     

    "นี่ๆถ้าเค้าดำตัวจะรักเค้ามั้ย"

     

     

     

    ไม่รักก็คงบ้าไปแล้ว

     

     

     

    จนมาถึงฤดูใบไม้ร่วงจากรอยยิ้มอันสดใสกลายเป็นรอยยิ้มอันแสนเศร้าแล้วของเหลวใสก็เผยขึ้นในดวงตาสีรัตติกาล นิ้วเรียวค่อยๆไล้ไปตามรูปต่าง

     

     

    "ตัวรู้มั้ยว่าเค้าตัวมากๆเพราะฉะนั้นตัวก็ต้องรักเค้าด้วยรู้มั้ย"

     

     

    "ไม่เอานะ  ไว้แต่งงานกันก่อนสิเค้าถึงจะให้"

     

     

    "แหะๆเค้าขอโทษนะ"

     

     

    "เค้าอยากถ่ายรูปจังไปถ่ายรูปกันนะ"

     

     

    "อยากใส่ชุดแต่งงานจัง"

     

     

    "เรายังไม่มีรูปคู่เลยนะ มาถ่ายรูปคู่กันเถอะ"

     

     

    "ถ้าตอนนี้เค้าบอกตัวว่า...เค้ายอมเป็นของตัวอ่ะ ตัวจะว่ายังไง ?"

     

     

    "เค้าขออะไรตัวอย่างนึงได้มั้ย เวลาที่ไม่มีเค้าตัวต้องอยู่ให้ได้อย่าร้องไห้นะน้ำตาตัวมีค่ากับเค้ามากๆเค้าไม่อยากทำให้ตัวเสียใจ ฮึก อย่าร้องไห้สิเค้าจะร้องตามแล้วรู้มั้ย ไอ้บ้า ! ฮึก ตัวอย่าเสียใจที่เรายังไม่ได้แต่งงานกัน  ตัวอย่าเสียใจที่ตัวทำตามคำสัญญาไม่ได้  ฮึก แต่เค้ารัก ฮึก รักตัวมากๆนะ ฮึก ถ้าตัวหมดรักเค้าแล้วก็ไม่เป็นไรถึงยังไงเค้าก็จะรักตัว.....ตลอดไป"

     

     

    เมื่อมาถึงภาพของฤดูใบไม้ร่วงภาพสุดท้ายที่มีนายแบบน้ำตาที่เคยกลั้นเอาไว้ก็ไหลลงมาไม่มีเสียงสะอื้นมีแต่ความเงียบเข้าโอบล้อมพร้อมความเจ็บปวดที่โหมเข้ามาทิ่มแทง แผลที่เคยหายกลับยิ่งเหวอะขึ้นยามนึกถึงใครอีกคนที่ตอนนี้กำลังหลับสบายในห้วงนิทราอันแสนหวาน

     

     

    ตัวจะไม่จากเค้าไปอีกแล้วใช่มั้ย ? ตัวจะแต่งงานกับเค้าใช่มั้ย ?

    เค้าไม่ได้ทิ้งตัวไปไหนเค้ารอตัวมาตลอด

    ตัวก็จะรักเค้าเหมือนกันใช่มั้ย ?

     

     

     

     

     

     

     

    เมื่อเดินเข้ามาเรื่อยๆก็เริ่มเห็นแสงสว่างเพียงน้อยนิดแต่ก็พอทำให้ยองแจรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง แสงสว่างทำให้เริ่มเห็นทางเดินยองแจอยากเอามือออกจากการเกาะกุมแต่ติดตรงที่มือใหญ่นี้จับมือเขาไว้แน่แถมยังมีเหงื่อออกอีก

     

     

    จุนฮงตื่นเต้นอะไร ?

     

     

     

    แล้วแสงสว่างที่เห็นเพียงเล็กน้อยก็สว่างจ้าขึ้นมาเมื่อเดินมาถึงด้านในตัวอักษรถูกทำให้มีแสงสว่างออกมาแล้วเสียงกระซิบอันแผ่วเบาก็ดังขึ้นที่ข้างหู

     

     

    "จุนฮงขอโทษ กลับมาอยู่ด้วยกันนะ"

     

     

    ยองแจก็ยังนิ่งราวกับกำลังประมวลผลในหัวสมองว่าเกิดอะไรขึ้น กำลังทำอะไรอยู่ และ ควรทำยังไง ตัวหนังสือส่องแสงท่ามกลางความมืดยิ่งยองแจหันไปดูใจก็ยิ่งอ่อน ทั้งคนอย่างจุนฮงกำลังเอ่ยคำว่าขอโทษทั้งๆที่ไม่เคยพูดกับใคร

     

     

    "จุนฮงรู้ว่าจุนฮงนิสัยไม่ดี แต่ที่บ้านมันเงียบไม่มียองแจมาคอยบ่นบ้านมันเงียบเพราะงั้นกลับมาอยู่ด้วยกันเถอะนะ"

     

     

    "...."

     

     

    "อย่าเงียบแบบนี้สิยองแจ ด่าก็ได้ ตบจุนฮงก็ได้ที่ทำให้ยองแจเสียใจแต่อย่าเงียบแบบนี้เลย"

     

     

    "ขออย่างนึงได้ป้ะล่ะ"

     

     

    "อะไรอ่ะ ถ้าทำได้จุนฮงก็จะทำ"

     

     

    "ถ้านายทำไม่ได้ก็ไม่ไป"

     

     

    "เอางี้เลย  งั้นก็ได้จุนฮงทำได้อยู่แล้วแค่บอกมาเดี๋ยวป๋าจัดให้"

     

     

    "สัญญา ?"

     

     

    "สัญญา"

     

     

    "ห้ามหิ้วผู้หญิงเข้าห้อง ! ทำได้ป่ะถ้าไม่ได้ก็ไม่ไป"

     

     

    "ของแบบนี้ง่ายนิดเดียว เพราะงั้นกลับมาอยู่ด้วยกันนะ"

     

     

    "งั้นก็โอเค"

     

     

     

    แค่ไม่หิ้วผู้หญิงเข้าห้องทำได้อยู่แล้วถ้ายองแจยอมตกเป็นของจุนฮงน่ะนะ ....

     

     

    จุนฮงกับยองแจที่ตอนนี้นั่งอยู่ข้างกันในสตูดิโอโดยไม่มีใครพูดอะไรจนยองแจหลับแล้วมานอนพิงไหล่หนาของจุนฮง คนตัวสูงเลยเปลี่ยนท่าให้ยองแจมานอนซบอกแทนก่อนจะกอดร่างบางนี้เอาไว้อย่างหวงแหน

     

     

     

    "มึงอ่ะรักยองแจ !"

     

     

    "กูไม่ได้รัก !"

     

     

    "ยอมรับว่ารักยองแจแล้วจะตายรึไง !"

     

     

    "เออ ! กูรักยองแจ ! พอใจมึงยังไอ้คุณจอง !"

     

     

    "เออ ! ก็แค่นี้"

     

     

    "แต่ยองแจไม่ได้รักกู !"

     

     

    "แม่งโง่อีกละ"

     

     

    "เออ กูโง่ พอใจยัง"

     

     

    "มึงนี้นะฉลาดตั้งแต่หลอกฟันสาวแต่เสือกโง่เรื่องยองแจ"

     

     

    "แล้วจะให้กูทำไงเล่า !"

     

     

    "มึงรักเค้ามึงก็บอกไป ไม่เห็นยาก"

     

     

     

    "จุนฮงรักยองแจนะ กลับบ้านกัน"

     

     

    เสียงกระซิบอันแผ่วเบาที่บอกไปคนในอ้อมกอดตอนนี้ก็คงไม่ได้ยินลมหนาวพัดผ่านมาคนในอ้อมกอดก็ยิ่งมุดตัวเข้าหาอกแกร่งมากขึ้นแล้วก็หลับต่อโดยปล่อยให้คนตัวสูงทรมานใจเพราะกลิ่นหอมอ่อนๆที่โชยออกมาจากร่างบาง

     

     

    "ยูยองแจอย่าไปทำแบบนี้กับใครรู้มั้ย ? หวง !"

     

     

    แล้วเจ้าชายก็อุ้มเจ้าหญิงขี้เซาขึ้นแล้วพากลับไปยังปราสาทอันแสนอบอุ่น

     

     

    _____________________________

     

    แทรกความตลกเล็กน้อย ฮ่าๆๆๆ ข้อความเข้าพอดีเลยเอามาแต่งซะเลย ตอนนี้เป็นตอนที่แต่งยากอ่ะเพราะในฟิคเป็นฤดูหนาวหิมะตกงี้ แต่อากาศอ่ะดิ แม่งโคตรร้อนเลย เหงื่องี้ไหลหยั่งกะเขื่อนแตก

    #เว่อๆ  รักจงออบมากเลย อั้ยย ~ #บอกทำไม ลาล่ะ สวัสดี ('-')/

    ขอบคุณทุกเม้นต์  ขอบคุณทุกวิว ขอบคุณคอส ฮือออ นายเม้นให้เราด้วยอ่ะ ซึ้ง T^T

     ปล. สามารถอ่านฟิคของคอสได้นะ แด้บัง 

    :-Daisy ✿
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×