คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บุรุษผู้มากับเงามืด >> Write by Ing (ผู้เรอโฉม)
"พลาด! พวกเจ้าบอกว่าพลาดงั้นรึ!!" เสียงห้าวต่ำสบถดังก้องไปทั่วในสถานที่ๆแห่งหนึ่งซึ่งมีเพียงความมืดปกคลุมอยู่ทั่ว ชายหนุ่มสองคนยืนตีหน้านิ่งด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอาการใดๆ
"ต่อไปห้ามพลาดอีกเข้าใจมั้ย! พวกเจ้าคงรู้ผลของการทำงานพลาด" กล่าวจบโดยทันที ร่างชายหนุ่มสองคนก็ผลุบหายไปในความมืด
++++++++++++++++++++++++++++++
"ย้ากกกกกกก" เสียงร้องเอ็ดอึงดังไปทั่วลานกว้างที่ล้อมรอบไปด้วยป่า เจ้าของเสียงคือเกรทนั่นเอง เธอกำลังซัดอาวุธคือมีดสั้น เป็นชุดๆออกไปยังเด็กสาวอีกคนที่เอี้ยวตัวหลบอย่างสบายบรื๋อ
"ตูเก่งขึ้นหรือว่าแกยังฝึกไม่ถึงขั้นวะ" เอิร์นบอกพลางกระโดดหลบมีดสั้นเล่มหนึ่งที่พุ่งเข้ามาแล้วก็ก้ม หงาย ย่อ เอี้ยว หลบเป็นพัลวันกับมีดสั้นมากมายราวกับห่าฝน
"เชอะ" ว่าแล้วเกรทก็เพิ่มความเร็วและความแรงในการขว้างมีดสั้นมากขึ้นทำเอาเอิร์นถึงกับร้องกรี้ด และต้องใช้เวทป้องกันตัวไว้
"ไหนบอกจะไม่ใช้เวทไงแก โด่" เกรทหยุดยืนพลางโยนมีดสั้นเล่มหนึ่งขึ้นอย่างสนุกสนานพร้อมกับรอยยิ้มเหี้ยม
"เวง แกเล่นจนหลบแทบไม่ทัน" เอิร์นยังคงไม่คลายคาถาเกราะกำบัง
"แล้วแกจะเก่งได้ไงวะ ศัตรูมันอาจจะเร็วกว่านี้เป็นพันๆเท่า" เกรทเอ่ยพลางยักไหล่
"แต่มันก็คงไม่มาทีละสิบทีละร้อยเป็นชุดราวกับฝูงมีดแบบแกเช่นนี้หรอก"
"อ้ะ ก็ไม่แน่ แกลองนึกถึงเกมส์ที่แกเล่นเด่ะ แม่งตบทีเดียวตายเงี้ย เหอะๆ"
"เชอะ ฝึกต่อซิ เอาเร็วกว่านี้ก็ได้ว้อย" ว่าแล้วเจ้แกก็คลายเกราะกำบังออกแล้วตั้งท่าหลบใหม่
เกรทไม่รีรอซัดอาวุธใส่เป็นเบือด้วยความเร็วนรก เอิร์นพยายามหลบ หลบและหลบ มีดบางเล่มเฉียดตัวไปในระยะเผาขน ทำเอาเสื้อที่ใส่ขาดวิ่น เลือดซิบ แต่เธอก็ไม่สน ตั้งใจมุ่งมั่นหลบลูกเดียว
"ถึงคราวตูมั่งแล้วเฟ้ย" เอิร์นกระโดดลอยตัวขึ้นสูง ทันทีนั้นลูกไฟก็พุ่งเข้ามาหาเกรทชนิดที่มันยังไม่ทันตั้งตัว เกรทเบิ่งตาโตก่อนที่จะรีบชักดาบยาวในฝักที่ห้อยอยู่ข้างเอวขึ้นมายกกันไว้ หากแต่พลังเวทมันก็รุนแรงทำเอาเจ้าตัวต้องถอยไปสองก้าว แต่ก็สามารถปัดลูกไฟนั้นออกไปพ้นได้
"ไม่เลวนี่B1" เอิร์นไม่รีรอร่ายเวทอีกชุด คราวนี้ลูกไฟพุ่งมาห้าลูกรวด
"ไอ้ชั่วB2" เกรทสบถดังลั่นพร้อมกับกระโจนหนีอย่างหวุดหวิดแต่ผมที่หยิกหยอยและฟูของเธอก็โดนลูกไฟลามเลียปลายผมไปเล็กน้อย "กี้ส ผมดุจไหมของช้านนน"
"อ่าว แอมซอรี่เอบีนอมอล จุ้พๆ" เอิร์นขยิบตาให้ พลางหัวเราะงอหงาย
ยังไม่ทันที่เกรทจะตอบโต้อะไร ก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้น บริเวณป่าทั้งป่าสั่นครืนไปหมด บังเกิดรอยแยกของพื้นดินบางช่วง ทำเอาสองสาวทรงตัวแทบจะไม่ได้ ซักพักทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาเงียบสงัดเหมือนเดิม ไม่มีเสียงสัตว์ป่าใดๆร้อง ต้นไม้บางต้นถึงกับล้มลง โขดหินบางแห่งทรุดไปกับรอยแยกนั้นอย่างน่าหวาดเสียว เสียงถล่มครืนของหน้าผาดังขึ้นมาเพียงแว้บหนึ่งก่อนจะหายไป
"กี่ริกเตอร์วะเนี่ย แม่ง สึนามิเหรอวะ" เอิร์นพยายามตั้งสติแล้วมองดูรอยแยกที่มันแตกร้าวเป็นทางมีขนาดกว้างประมาณหนึ่งฝ่ามือ
"ฉันว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ กลับบ้านก่อนดีกว่าฟ่ะ"
"เฮ้ยาย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย แผ่นดินไหวเมื่อตะกี้" เอิร์นผลักประตูบ้านเข้ามาถามเสียงดังลั่น เห็นยายเฒ่าและชายวัยกลางคนนั่งอยู่ตรงใจกลางห้องสีหน้าเครียดๆ
"มีอะไรรึเปล่า จุ๊กกรู" เกรทยื่นหน้าเข้าไปถาม
"พวกเจ้าต้องไปกันแล้วล่ะ" ยายเฒ่าเอ่ยเสียงเรียบ แต่เหมือนเป็นเสียงเรียกจากนรกสำหรับเด็กสาว
"อะไรยาย! จะไล่กันแล้วเหรอ แง้" เอิร์นพูดสะบัดๆ ทำหน้ามุ่ย
"ผลึกแห่งดินกำลังมีปัญหา" คาร์ลพูดเสียงทุ้มต่ำ ก่อนจะยกชาจิบ
"มะ...ม่ายนะ พวกเราฝึกวิชากันได้เดือนเดียวเอง เก็บเลเวลไม่ถึงไหนจะให้ไปลุยบอส ตายสิพวก" เอิร์นพูดขึ้นอย่างนิสัยคนติดเกมส์
"ถึงเวลาแล้ว... ไม่มีทางเลือก... การออกเดินทางคือการฝึกฝนตัวเองอีกอย่างหนึ่ง พลังของพวกเจ้าในตอนนี้มิใช่พลังที่แท้จริง จงจำคำของข้าไว้ พลังแห่งผู้ที่ถูกเลือกจักตื่นขึ้นต่อเมื่อพวกเจ้าได้รู้จักใน "สิ่งนั้น" อย่างแท้จริง"
"กำกวมน่า ไอ้ "สิ่งนั้น" มันคืออะไรล่ะ" เกรทขมวดคิ้วถามอย่างงงๆ
"ข้าไม่รู้ แต่ข้ารู้ว่ามันเป็นคำทำนายมานานแสนนานตั้งแต่โพรมิส และ บีลีฟ ได้ใช้พลังนั้นกำจัดมารร้าย" ยายแก่พูดอย่างเลื่อนลอย สายตาเหม่อมองไปอย่างไร้จุดหมายราวกับจะมองเห็นภาพในอดีตที่ผ่านมา
"ตกลงยายอายุกี่ปีแล้วเนี่ย ผู้กล้าสองคนนั่นมันสมัยร้อยปีก่อนแล้วไม่ใช่เหรอไง"
"150ปี ถ้วน" ยายเฒ่าตอบเนิบๆ
"ห๊า...โคตรโบราณ" เอิร์นร้องลั่น แต่ไม่ยักจะมีการโต้ตอบจากยายแก่เช่นปกติ ยายแกหันมามองหน้าด้วยสีหน้านิ่งๆก่อนจะพูดคำที่ทำให้เด็กสาวทั้งสองต้องเครียดและกลืนน้ำลายแทบจะไม่ลงคอ
"เก็บของใช้ที่จำเป็นซะ เราจะออกเดินทางวันพรุ่งนี้"
"เวลาผ่านไปราวกับกระพริบตา" เกรทบ่นพลางจัดแจงอาวุธใส่ทุกที่ที่จะใส่ได้ ส่วนเอิร์นก็ก้มหน้าก้มตาเก็บของยัดใส่กระเป๋าเป้ใบบิ๊กที่ติดมาด้วยยี่ห้อบาบิลอง (บิลลาบอง)
"แกจะเอาอะไรไปนักหนาวะ เกะกะนะว้อย" เกรทถามขณะที่มองดูการกระทำของเพื่อนซี้ที่จัดแจงข้าวของอยู่
"ก็มีมือถือ แป้ง หวี กระจก เป๋าตังค์ ครีมกันแดด ผ้าอนามัย ประมาณเนี้ย" เจ้าตัวตอบมาหน้าตาเฉย ทั้งๆที่ของมันโคดจะไม่มีประโยชน์อะไรเล้ย
"เอาไปทำเพื่อ..? มือถือโลกนี้ก็ใช้ไม่ได้ เปิดเครื่องได้ก็เท่านั้นพอยังเป็นนาฬิกาได้ แต่มันก็เท่านั้นอ่านะ"
"ฉุกเฉินจริงๆอาจเป็นอาวุธได้นะขอบอก" เอิร์นแย้ง ก่อนที่จะเอาคฑาไม้แบตโยเนคซึ่งถูกดัดแปลงอีท่าไหนไม่รู้ จากเอ็นสีน้ำเงินกลายเป็นเอ็นสีทองร้อยแทน ยายเฒ่าบอกว่าเอาด้ายเวทมนตร์มาร้อยใส่แทนเพื่อที่จะไม่ให้มันขาดง่าย ส่วนด้ามก็ยังมีเครื่องประดับเล็กๆน้อยๆติดไว้ เหตุผลที่ไม้แบตคู่ใจโยเนคกลายมาเป็นคฑาประจำมือก็เพราะยายแกเชื่อว่าเป็นอาวุธประจำตัวของผู้ที่ถูกเลือกอยู่แล้ว อะไรมันจะปานน้านนนน
"แล้วไอ้เป๋าตังค์ แป้ง หวี กระจก บลาๆๆนี่ล่ะ"
"ฉันเป็นผู้หญิงก็ต้องพกไว้ แกก็ต้องใช้เหมือนกันแหละ อย่าถามมาก ตามนี้ละกันว้อย ไปนอนเลยไป๊แกอ่ะ ฉันจะนอน" เอิร์นออกปากไล่เพื่อนออกไป หากแต่มันทำหน้าสึงแล้วพูดเนิบๆ
"นี่มันห้องกรู!"
เอิร์นหยุด แล้วมองหน้าเพื่อนมันอย่างไร้อารมณ์ก่อนจะผุดลุกขึ้นไปพร้อมกับของๆมัน
กลางดึกที่แสนจะสงบ ทุกสิ่งในยามนี้เข้าสู่ห้วงนิทรารมย์ สายลมยามราตรีพัดเอื่อยๆ หอบพาเอากลิ่นดอกไม้ป่าโชยมาตามลม พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวยังคงทอแสงลงมาอย่างอ่อนแรงเผยเห็นเงาดำลึกลับประดับอยู่บนพื้นไม้ของห้องเล็กๆ ดวงตาคมกริบสีเขียวซีดจ้องมองมายัง "เหยื่อ" ที่นอนอ้าซ่าส์ชนิดไร้ความเป็นกุลสตรีที่สุด อุ้งมือมีลูกไฟเล็กๆที่เริ่มขยายใหญ่ขึ้นสว่างเรืองรอง เผยให้เห็นร่างนั้นได้ชัด
ชายหนุ่มผู้มีดวงตาคมกริบดุจพยัคฆ์สีเขียวซีด ผมสีดำรัตติกาลหากมีสีเงินแซมมาเป็นหย่อมๆประมาณว่าไปทำไฮไลท์มา ผมที่ยาวถึงกลางหลังหากถูกมัดด้วยผ้าสีขาวแล้วตวัดไขว้กันกับผมจนถึงตรงปลาย ชุดเสื้อคลุมที่แสดงถึงความเป็นผู้ใช้เวทมนตร์เด่นชัดสะท้อนแสงสีส้มเพลิงของเปลวไฟที่ลุกโชติช่วงอยู่ในอุ้งมือ
ใบหน้านั้นเรียบนิ่งไม่แสดงอาการอะไรออกมา แต่ก็ยังจับจ้องร่างบาง(ไปด้วยไขมัน)ที่พลิกตัวกลิ้งเกลือกไปมาจนคอเสื้อถึงกับไหลลู่ลงจนเห็นไหล่มนๆที่ขาวเนียนออกมาต้องแสงจันทร์
เปลวเพลิงถูกผลักออกมาพุ่งไปยังเป้าหมาย หากมันก็กระจายออกไปไม่เป็นท่าเพราะคำละเมอของ "เหยื่อ" ที่ลอยออกมา "ดราฟาชีลด์"
ร่างบางนั้นเรืองรองไปด้วยแสงสีเงินสว่างประกายราวกับเทพธิดา ยิ่งทำเอาผู้ร้ายที่ยืนอยู่ตะลึงขึ้นไปอีก
...เวทมนตร์ป้องกันตัวขั้นสูง... ไม่ง่ายเสียแล้ว... แล้วสัญลักษณ์ประหลาดนั่นอีก....
ชายหนุ่มยืนครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งหากก็สะดุ้งตัวโหยงกับเสียงประหลาดที่หลอนออกมาจากทางใดทางหนึ่ง น้ำเสียงมันยิ่งกว่ากระบือออกลูก มันดังโหยหวนไปทั่ว
"เช้ฟบะ อ้ะ อะ อะ อ้ะ คุณชอบไม๊ค่ะ ไม๊ค่ะ ผู้ชา อะ อะ อะ อะ อาย"
เสียงนั้นก้องกังวานไปทั่วห้อง ร่างบางพลิกตัวไปมาเร็วๆก่อนที่จะค่อยๆยันตัวลุกขึ้นอย่างงัวๆเงียทั้งๆที่ตาก็ยังปิดสนิทอยู่
ฟุ่บ!!
ผู้ร้ายกระโจนออกนอกหน้าต่างราวกับหายตัวไปอย่างเร็วเหนือแสง
"อะไรวะ ตีห้าแล้วเหรอเนี่ย รู้งี้ปลุกซักหกโมงก็ดีวุ้ย" ว่าแล้วก็เอื้อมไปข้างในกระเป๋าบาบิลองแล้วหยิบมือถือออกมาจิ้ม แล้วเสียงสยองนั้นก็หายไป ความจริงแล้วมันคือเสียงที่เอิร์นร้องอัดไว้แล้วตั้งเป็นเสียงปลุกนี่เอง
ทุเรศจริงๆ
ตัดฉากกลับมาด้านห้องของอีนังเกรท
แสงสลัวๆจาพระจันทร์ครึ่งเสี้ยงลอดผ่านหน้าต่างมากระทบยังใบหน้าผู้ร้ายอีกคนเผยให้เห็นดวงตาที่คมดุจพญาเหยี่ยวสีฟ้าซีด ผมสีดำไฮไลท์เงินต้องแสงจันทร์เป็นประกาย ในมือขวาบัดนี้ถือดาบยาวเท่าศอกลวดลายงดงามอยู่ในมือ นัยน์ตาคมกริบปราดมองดูเหยื่อด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียมไร้ความรู้สึก
เขาง้างดาบขึ้นพร้อมปักลงกลางอกเหยื่อเพื่อปลิดลมหายใจ!
เหอๆๆมาต่อด้วยความเร็ว ตอนแรกกะจะต่อนานกว่านี้แต่ว่าติดแรมพิศวาส เหอะๆๆๆ ไปแว้ว โยนแพะให้ kit ต่อ
ความคิดเห็น