ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Infection : เชื้อสยอง ครองโลก

    ลำดับตอนที่ #4 : Episode 4 : Survivor (ผู้รอดชีวิต)

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 63


    3 เมษายน 2563 เวลา 16:00 น.

    ไทเลอร์,เฟรดดี้,ป๊อปปี้และจีน่าได้ติดอยู่ในร้านสะดวกซื้อที่ข้างนอกมีฝูงซอมบี้หลายสิบตัวพยายามจะพังหน้าต่างเข้ามาในร้านให้ได้

       “งานเข้าแล้ว!!!เราจะออกจากที่นี่ยังไงเนี่ย???”  เฟรดดี้กวาดสายตาไปรอบๆร้านเพื่อหาทางออกอื่น

       “ใจเย็นๆก่อนนะมันต้องมีทางออกสิ”  ป๊อปปี้มองไปรอบๆร้านเพื่อหาทางออกอื่นเช่นกัน

       “มันไม่มีทางออกทางอื่นหลอก…”  โรเจอร์ที่โดนชั้นวางของทับอยู่ได้พูดขึ้นมา

       “พวกแกทุกคนต้องตายอยู่ที่นี่พร้อมกับฉัน555”

       “หุบปากของแกไปซะ!!!”  จีน่าตะโกนบอกโรเจอร์

       “ถึงพวกแกรอดออกไปได้ยังไงหัวหน้าของฉันก็ต้องตามเก็บพวกแกอยู่ดี”  โรเจอร์ยังคงพูดต่อ

       “แกหมายความว่ายังไง”  ไทเลอร์นั่งคุกเข่าลงแล้วคุยกับโรเจอร์

       “กลุ่มของฉันเป็นกลุ่มที่ใหญ่มาก…แล้วพวกเราก็เป็นใหญ่ที่สุดในตอนนี้ ผู้รอดชีวิตทุกคนจะต้องเชื่อฟังพวกเรา “The majority” ถ้าพวกแกเจอกับหัวหน้ากลุ่มของเราพวกแกต้องไม่รอดแน่ๆ”  โรเจอร์ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มของเค้าให้ฟัง

       “แล้วทำไมหัวหน้าแกต้องตามไล่ล่าพวกฉันด้วยหล่ะ”  ไทเลอร์ถามโรเจอร์

       “ก็พวกแกฆ่าพวกฉันไงหล่ะ!!!”  โรเจอร์ตะคอกใส่ไทเลอร์

       “แกสำคัญตัวเองมากไปรึป่าวหัวหน้าของแกจะมาสนใจอะไรกับคนอย่างแก ฉันดูๆแล้วเนี่ยพวกแกก็เป็นลูกกระจ๊อกแค่นั้นเอง”  จีน่าด่าโรเจอร์ไป

       “เฮ้!!!พวกนายฉันคิดอะไรออกแล้ว”  เฟรดดี้ตะโกนบอกไทเลอร์กับจีน่า

       “ไปกันเถอะจีน่า”  ไทเลอร์บอกจีน่าให้ไปคุยกับเฟรดดี้

       “มีอะไรเฟรดดี้…เจอทางออกแล้วหรอ”  ไทเลอร์ถามเฟรดดี้

       “ไม่เชิงหลอก…แต่ฉันรู้แล้วว่าเราจะออกไปจากที่นี่ยังไง”

       “งั้นหรอ…ยังไงหล่ะ”

       “เราก็ปล่อยให้พวกผีดิบมันเข้ามาไง”

       “จะบ้าหรอ!!!ถ้าเราปล่อยมันเข้ามาเราก็โดนพวกมันรุมแทะน่ะสิ”

       “ก็จังหวะที่พวกมันเข้ามานั่นแหละ…ฉันคิดว่าไอโจรนั่นจะเป็นตัวล่อให้พวกเราออกไปในตอนที่มันพวกผีดิบกำลังรุมกินมันอยู่เราก็รีบพังหน้าต่างแล้วรีบวิ่งออกไปกัน”  เฟรดดี้เล่าแผนทั้งหมดให้กับไทเลอร์ฟัง

       “โอเค…งั้นเริ่มกันเลย”  ไทเลอร์บอกให้ทุกคนเริ่มแผน

    ไทเลอร์เตรียมตัวที่จะไปเปิดประตูเฟรดดี้ก็หยิบเก้าอี้ในร้านขึ้นมาเตรียมทุบหน้าต่างเพื่อที่จะออกไปพอได้จังหวะไทเลอร์ก็เปิดประตูปล่อยให้พวกซอมบี้เค้ามาซึ่งเป็นไปตามแผนพวกซอมบี้ยกพวกกันเดินไปหาโรเจอร์แล้วทำการกินกันอย่างเมามันเฟรดดี้ก็เอาเก้าอี้ทุบจนหน้าต่างแตกพวกเค้าทั้งสี่คนจึงหนีออกมาได้

    ในรถของจีน่า

       “เออจีน่า…คนที่แคมป์ของเธอเป็นใครกันหรอ”  ไทเลอร์ถามจีน่า

       “ก็เดซี่ไงหล่ะ”  จีน่าบอกไทเลอร์ว่าคนที่อยู่ที่แคมป์ของเธอคือเดซี่

       “ว่าไงนะ…จริงหรอเนี่ย???งั้นก็แสดงว่าครูเรเชลก็อยู่ด้วยใช่ป่ะ”  ไทเลอร์ถามถึงครูเรเชล

       “ใช่…พวกเค้าเล่าให้ฉันฟังหมดและถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาล”  จีน่าบอกไทเลอร์

       “แล้ววันนั้นเธอไปอยู่ที่ไหนมาทำไมไม่มาทำงาน??”  ไทเลอร์ถามจีน่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น

       “ถึงแคมป์แล้วฉันจะเล่าให้ฟังนะ”  จีน่าบอกไทเลอร์พร้อมกับขับรถแล้วมุ่งหน้าไปที่แคมป์

    3 เมษายน 2563 เวลา18:00 น.

    ทุกคนเดินทางมาถึงที่แคมป์จีน่าพาทั้งสามคนนำเสบียงไปเก็บก่อน

       “เธออยู่ที่นี่มานานรึยังจีน่า??”  ป๊อปปี้ถามจีน่า

       “เพิ่งมาอยู่เมื่อสองวันนี้เองตั้งแต่เจอกับคนอื่นๆน่ะ”  จีน่าตอบป๊อปปี้ไป

       “เอาหล่ะทุกคนวางไว้ตรงนี้แหละ”  จีน่าเดินทางมาถึงแคมป์ที่เอาไว้เก็บของ แล้วบอกให้ทุกคนวางเสบียงไว้ตรงนี้

       “จีน่า!!!กลับมาแล้วหรอ”  เดซี่วิ่งเข้ามาหาจีน่า

       “ใช่…แล้วดูสิฉันเจอใครด้วย”

       “ไทเลอร์!!!นายยังไม่ตาย”  เดซี่เข้าไปสวมกอดไทเลอร์ด้วยความดีใจ

       “ครูเรเชล”  ป๊อปปี้เห็นครูเรเชลก็วิ่งเข้าไปกอดครูด้วยอีกคน

       “ว่าไงจ้ะป๊อปปี้ดีใจที่ได้เจอเธอนะ”  ครูเรเชลบอกป๊อปปี้

       “แล้วพี่เฟรดดี้หล่ะครับพี่ป๊อปปี้”  บิลลี่ลูกของเรเชลถามถึงเฟรดดี้

       “อยู่นี่ไง…บิลลี่”  เฟรดดี้อ้าแขนรับเฟรดดี้ที่วิ่งเข้ามากอดเพราะทั้งสองคนชอบเล่นบอลด้วยกันจึงสนิทกันมาก

    ในระหว่างที่ทุกคนกำลังดีใจและพูดคุยกันอยู่วิลเลี่ยมก็เดินเข้ามา

       “นี่นายยังอยู่อีกหรอ”  วิลเลี่ยมถามไทเลอร์ด้วยสีหน้านิ่งๆขรึมๆ

       “…”  ไทเลอร์เงียบไม่ตอบอะไร

       “นี่นายยังจะหาเรื่องเค้าอีกหรอ??”  เดซี่ถามวิลเลี่ยม

       “คุณคงเป็นวิลเลี่ยมสินะ…ไทเลอร์เล่าเรื่องของคุณให้พวกเราฟังหมดและคุณนี่มันแย่จริงๆทิ้งเพื่อนผมไว้แบบนั้นได้ย……”  เฟรดดี้ต่อว่าวิลเลี่ยมด้วยความโมโหก่อนที่ป๊อปปี้จะมาหยุดเค้าไว้

       “พอได้แล้วเฟรดดี้…เลิกพูดได้แล้ว”  ป๊อปปี้ตบไหล่บอกเฟรดดี้

       “ฉันขอโทษด้วยนะ”  วิลเลี่ยมมองหน้าเฟรดดี้ก่อนที่จะเดินเข้าไปขอโทษไทเลอร์

       “ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจ”  ไทเลอร์ให้อภัยวิลเลี่ยมกับสิ่งที่เค้าทำลงไปในตอนแรก

       “เฮ้!!!ไอหนุ่ม…นายก่อไฟเป็นรึป่าว”  วิลเลี่ยมถามเฟรดดี้

       “อ่อเอ่อ…เป็นครับๆ”  เฟรดดี้ตอบด้วยสีหน้าที่งงๆ

       “งั้นมาช่วยฉันหน่อยคืนนี้เตรียมตัวกินมื้อเย็นมื้อใหญ่ได้เลย วันนี้ฉันตกปลาได้เยอะมาก”  วิลเลี่ยมกับเฟรดดี้ก็เดินไปช่วยกันก่อไฟเตรียมกินมื้อเย็นโดยที่ไทเลอร์ได้มองวิลเลี่ยมแปลกๆ

       “อย่าแปลกใจไปเลยจริงๆแล้วเค้าก็ไม่ใช่คนไม่ดีอะไรหลอก”  เรเชลบอกไทเลอร์

       “ใช่…เต้นท์พวกเนี้ยเค้าก็เป็นคนกางเป็นคนทำให้พวกเราในตอนนั้นเค้าก็แค่โกรธจนขาดสติไปงั้นแหละ”  จีน่าเสริมเดซี่

       “ฉันก็ไม่ได้อะไรสักหน่อย”  ไทเลอร์บอกกับทั้งคู่ก็ที่จะเดินไปทำอย่างอื่น

    เวลา20:00 น. ทุกคนมานั่งทานมื้อเย็นกัน

       “ทำไมคุณจับปลาเก่งจังเป็นนักตกปลาหรอ”  ป๊อปปี้ถามวิลเลี่ยมเพราะเค้าจับปลามาได้เยอะมาก

       “ไม่ใช่หลอกสาวน้อย…ฉันก็แค่ชอบจับปลาเฉยๆน่ะจริงๆแล้วฉันเป็นนักเดินป่าก็เลยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการเอาตัวรอดเยอะนิดหน่อย”  วิลเลี่ยมได้เล่าถึงประวัติความเป็นมาของตัวเองให้ป๊อปปี้ฟัง

       “อ๋อค่ะ”

       “ฉันเล่าเรื่องราวของฉันมาแล้ว พวกเธอลองเล่าเรื่องของพวกเธอมาด้วยสิ”  วิลเลี่ยมขอให้คนอื่นเล่าถึงเรื่องของตัวเองหน่อย

       “หนูเป็นจิตกรค่ะชอบวาดรูปมากๆแต่พอมีเรื่องบ้านี่เกิดขึ้นก็ไม่ได้มีโอกาศวาดอีกเลยค่ะ”  ป๊อปปี้เล่าถึงสิ่งที่เธอชอบทำ

       “ชอบวาดรูปมากจนวันๆไม่ทำอะไรเลยครับ”  เฟรดดี้พูดกวนป๊อปปี้

       “หุบปากน่าเฟรดดี้”

       “แล้วนายหล่ะไอหนุ่มนายทำอะไรมาก่อน”  วิลเลี่ยมถามเฟรดดี้บ้าง

       “คือผมทำธุรกิจส่วนตัวครับเป็นบริษัทเกี่ยวกับการขนส่งสินค้านำเข้าและส่งออกจริงๆผมต้องไปทำงานที่ประเทศจีนกับคุณพ่อแล้วด้วย เพราะบริษัทใหญ่ของพวกเราอยู่ที่นั่นแต่เรื่องบ้านี่ก็เกิดขึ้นสักก่อน”  เฟรดดี้เล่าเรื่องของตัวเองบ้าง

       “เอ้อจีน่า…ว่าแต่ทำไมวันนั้นเธอถึงไม่มาทำงานหล่ะ”  ไทเลอร์ถามจีน่าถึงสาเหตุที่เธอไม่ได้มาทำงาน

       “จริงๆวันนั้นฉันก็กำลังจะไปทำงานนั่นแหละแต่ทางที่ฉันขับรถไปมันได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นฉันเห็นคนตายที่ถูกห่อศพไปเรียบร้อยแล้วจู่ๆเค้าก็ลุกขึ้นมากัดหน่วยพยาบาลที่เข้าไปช่วยฉันเลยขับรถหนีออกมาแต่ขับไปทางไหนก็เจอแต่คนไล่กัดไล่กินกัน”  จีน่าตอบไทเลอร์(อุบัติเหตุที่จีน่าเจอคืออันเดียวกับที่ไทเลอร์เจอเมื่อตอนepisode แรก)

       “เรื่องที่เราฝันมันเกิดขึ้นจริงหรอเนี่ย”  ไทเลอร์พูดในใจ

       “ไทเลอร์นายเป็นอะไรรึป่าว”  จีน่าเห็นสีหน้าของไทเลอร์ดูไม่ดีเลยถามไป

       “ป่าวไม่มีอะไร”

       “แม่ครับๆ…ผมง่วงนอนแล้ว”  บิลลี่บอกเรเชลพร้อมกับหาวเพื่อแสดงให้แม่รู้ว่าตัวเองง่วงจริงๆ

       “กินปลาให้หมดก่อนลูก…ลุงวิลเลี่ยมเค้าอุตส่าห์ไปเก็บมาให้”  เรเชลบอกบิลลี่เพราะเกรงใจวิลเลี่ยม

       “ผมไม่อยากกินแล้วผมอิ่มแล้ว”  บิลลี่เริ่มงอแง

       “ไม่ได้นะลูกยิ่งสถานการณ์แบบนี้มันยิ่งหากินยาก”  เรเชลพยายามกล่อมลูกตัวเองให้กินข้าวให้หมด

       “ไม่เป็นไรหลอกครับยังไงผมก็ต้องไปหาปลาทุกวันอยู่แล้วแต่มีข้อแม้พรุ่งนี้เธอต้องมาช่วยฉันหาปลานะหนุ่มน้อย”  วิลเลี่ยมบอกให้บิลลี่มาช่วยเค้าหาปลาในถานะที่เค้ากินไม่หมด

       “ได้เลยครับ”  บิลลี่พูดพร้อมกับรีบวิ่งไปที่เต้นท์ของตัวเอง

       “ฉันว่าเราควรรีบดับไฟได้แล้วจุดทิ้งไว้แบบนี้นานไม่ได้หลอกเดี๋ยวพวกผีมันจะแห่กันมา”  จีน่าบอกทุกคน

    ทุกคนจึงดับไฟแล้วแยกย้ายกันไปนอน

    เป็นอย่างไรกันบ้างกับตอนนี้ถือว่าเป็นตอนที่นำเสนอเรื่องราวของแต่ละคนก็แล้วกันเนอะถ้าเกิดชอบไม่ชอบตรงไหนคอมเมนท์บอกได้นะคะจะได้ไปปรับปรุงอย่าลืมกดติดตามและกดเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะคะ ติดตามตอนต่อไปในวันศุกร์จร้าาาา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×