ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่ว๊ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง

    ลำดับตอนที่ #8 : 8:กูไม่เตี้ยนะครับ!!!

    • อัปเดตล่าสุด 7 ส.ค. 56


     

     

     

    “แกๆ คนนั้นไงที่ลงสมัครเป็นเดือนคณะอ่า”

     

     

     

    “ไหน เฮ้ยจริงด้วยอ่ะ!  มาดูตัวจริงก็หล่อดีนะแก”

     

     

     

    “นั่นสิแก แต่ยังไงฉันก็ว่าพี่จอร์จก็หล่อกว่านะ”

     

     

     

    “โหย  มันคนละสไตล์กันนะแก พี่จอร์จน่ะแนวนักกีฬาแต่รายนี้ดูเหมือนจะเป็นแนวออกน่ารักๆนะ”

     

     

     

    “เพราะตัวเตี้ยล่ะมั้งแก เลยดูว่าน่ารักอ่ะ”

     

     

     

    ...กูไม่เตี้ยนะครับ!!!

     

     

     

    ตั้งแต่มีการประกาศรายชื่อพร้อมรูปและประวัติคร่าวๆของผู้สมัครดาวเดือนคณะทั้งทางเน็ต เสียงตามสาย ป้ายประกาศ และการบอกเล่าต่อๆกันก็เป็นเวลาเกือบสองอาทิตย์แล้ว  ชื่อของผู้สมัครดาวและเดือนทั้ง 10 คนหรือก็คือดาว 5 คน เดือน 5 คนนั้นกระช่อนไปทั่วคณะ 

     

     

     

    และแน่นอนครับ

     

     

     

    นายปีหนึ่ง  นฤวัฒน์

     

     

     

    อยู่เบอร์ 1 เลยครับ...เยสเซอร์  ไอ แอม นัมเบอร์วัน

     

     

     

    ทำไมเวลาสอบกูไม่ได้ที่หนึ่งมั่งวะ?...

     

     

     

    เวลาผมเดินไปไหนก็จะได้ยินเสียงซุบซิบๆพร้อมกับสายตาที่เหล่มองมาให้เสียวสันหลังวูบๆ  แต่จะพูดว่าค่อนข้างชินในระดับหนึ่งก็ได้นะ แหมก็มันเป็นธรรมดาของคนที่หน้าตาดีนี่น่า ช่วยมิได้...แต่ปัญหาคือ

     

     

     

    ผมเสือกตัวเตี้ยที่สุดในหมู่ผู้สมัครเดือนนี่สิครับ

     

     

     

    ทำไม!!!  เกิดมาจนตัวเท่าควายผมก็ภาคภูมิใจในความสูง 187 เซนฯของตัวเองมาโดยตลอด  นี่กูสูงตั้ง’ 187เลยนะ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่ความผิดปกติของเปรตอีก 4 บุคคลที่เหลือใช่มั้ยล่ะครับ! ตอนเกิดมาพวกเอ็งเกิดพร้อมกับกระปุกยาแคลเซียมเพิ่มความสูงกันรึไง!! ปีหนึ่งเสียใจ...  ยิ่งเพ้อแล้วก็ยิ่งเหนื่อยใจครับ  เอาเป็นว่าขอละไว้ในฐานที่ทุกคนเข้าใจ

     

     

     

    ผมกับเชียร์มานั่งปั่นงานกันที่โต๊ะม้าหินอ่อนหลังตึก  ตอนนี้เป็นช่วงเย็นๆเกือบจะห้าโมงแล้วจึงค่อนข้างจะเงียบสงบเล็กน้อยแต่บรรยากาศแบบนี้มันน่านอนชะมัดเลยแหะ...

     

     

     

    “เชียร์  ข้อนี้ทำไงอ่ะ?”

     

     

     

    “ต้องใช้วิธีนี้ไง แล้วก็จะเป็นงี้”

     

     

     

    “อ้ออออออ”

     

     

     

    ผมปรบมือให้เชียร์แล้วก็นั่งตั้งใจต่อ  ใจจริงอ่ะอยากจะหยิบสมุดเชียร์ออกมาแล้วลงมือลอกเลยแต่มันก็จะทำให้ไม่เข้าใจ...จึงจำต้องมานั่งทำด้วยตัวเองแบบนี้ไงครับ ฮึกๆ

     

     

     

    “อ่าว นั่นน้องเชียร์นี่นา  ทำอะไรกันเหรอ? การบ้าน?”

     

     

     

    “...สวัสดีครับ พี่ว๊าก”

     

     

     

    ผมกับเชียร์ยกมือไหว้พี่ว๊ากพร้อมกันแล้วเคลียร์พื้นที่ให้พี่เขานั่ง  พี่ว๊ากรับไหว้แล้วนั่งลง...แน่นอนครับ  นั่งข้างเชียร์ซึ่งอยู่ตรงข้ามผมพร้อมกับเขยิบไปกระแซะๆเชียร์จนเชียร์ทำหน้าเอือมเล็กๆ  ผมไม่รู้จะทำไงก็เลยได้แต่ก้มหน้าก้มตาจับปากกาถือลิควิดแสร้งทำเป็นเด็กขยันต่อไป  แล้วโต๊ะเงียบไปสักพักจนบรรยากาศเริ่มอึดอัด  แต่จู่ๆเชียร์ก็พูดขึ้นมา

     

     

     

    “พี่ว๊ากยังไม่กลับบ้านเหรอ?”

     

     

     

    “อื้ม  นั่งลั้นล้าน่ะ”

     

     

     

    พี่ว๊ากเห็นปฏิกิริยา(หน้าเอือม)ของเชียร์ก็เลยถอยออกห่างมาเล็กน้อยแต่ก็ยังคงถือว่าชิดมากอยู่ดี  เดี๋ยวนะ...เชียร์ชวนพี่ว๊ากคุย? เฮ้ยนี่กูละเมอใช่มั้ย...

     

     

     

    “ว่างจังเลยเนอะ”

     

     

     

    “ฮ่าๆๆๆ  ให้พี่ช่วยสอนการบ้านให้มั้ยล่ะ?”

     

     

     

    “ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงว่ามันจะผิดหมด...”

     

     

     

    “หูยยย  ดูถูกมากอ่ะ  ลองสักข้อสองข้อดูก่อนแล้วค่อยมาว่ากันเถอะ  ม่ะ ขอดูหน่อย”

     

     

     

    แล้วพี่ว๊ากก็เลื่อนหนังสือที่อยู่ตรงหน้าเชียร์ให้มาอยู่ตรงกลางระหว่างสองคนก่อนจะเริ่มทำการสอนการบ้าน  บรรยากาศรอบๆก็กลายเป็นสีชมพู  หน้าเชียร์แดงระเรื่อนิดๆก่อนจะแสร้งทำเป็นสนใจการบ้านมากมาย

     

     

     

    ใช่แน่ๆ...

     

     

     

    สองคนนี้...

     

     

     

    มันต้องมี...ซัมติงแน่!!!!!!!!!

     

     

     

    เอาไงดีวะกู  เหมือนมีขวานที่มีข้อความสั้นๆเขียนไว้ตรงด้ามจับว่า”กขค.”มาปักตรงหัวเฉาะลึกถึงสมองส่วนหน้าเจ็บปวดไปถึงขั้วหัวใจ เหมือนตัวเองกลายเป็นอากาศธาตุไม่มีใครสนใจใยดี...

     

     

     

    ฮืออออออออ  กูกลับบ้านแล้วก็ได้วะ!!

     

     

     

    “อ่าว  ปีหนึ่งจะไปไหน?”

     

     

     

    เชียร์รีบคว้าข้อมือผมที่เก็บของสะพายกระเป๋าเตรียมพร้อมสะบัดตูดกลับบ้าน  ผมหันกลับไปมองสองคนที่นั่งใกล้ชิดและยังชิดใกล้กันจนแทบจะยูเนียน(ใช้ในทางคณิตศาสตร์ คือการรวมเซต)กันแล้ว  ผมทำหน้าหมาหงอยก่อนจะตอบเชียร์ไป

     

     

     

    “จะกลับบ้าน...”

     

     

     

    “งานเสร็จแล้วเหรอ? ทำไมกลับไวล่ะ”

     

     

     

    “จะกลับบ้าน...”

     

     

     

    “อืมๆ  งั้นเดี๋ยวกลับด้วย”

     

     

     

    “จะกลับบ้าน...”

     

     

     

    เชียร์ทำท่าจะเก็บของแต่พี่ว๊ากก็จับมือเชียร์ไว้ก่อนจะกระซิบกระซาบอะไรไม่รู้กันสองคน  เอ่อ  กูก็มีตัวตนนะครับแหม

     

     

     

    “จะกลับบ้าน...กลับละ ลานะครับพี่ว๊าก”

     

     

     

    สะบัดตูดเดินหนีออกมาจากรัศมีบรรยากาศหวานแหววนั้นพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถทันที  ผมว่ามันต้องมีซัมติงกันแน่ๆ เชียร์ที่เอือมพี่ว๊ากขนาดนั้นทำไมถึงยอมให้พี่เขากระแซะๆวะ  ถ้าเป็นปกตินี่พี่ว๊ากโดนเชียร์เฉียดด้วยคำพูดไปแล้ว...เอ๊ะ  หรือพี่ว๊ากจีบติดแล้ว!?  เอิ่ม...มันไม่น่าจะง่ายขนาดนั้นม้างงง ถ้าดูจากสภาพแล้วคงต้องใช้เวลาอีกนาน  ตอนนี้คงต้องใช้คำว่า “รู้สึกดีๆต่อกัน” ก่อนสินะ

     

     

     

    ผมพยักหน้าทำความเข้าใจกับตัวเอง  รู้ตัวอีกทีก็มายืนอยู่ตรงลานจอดรถแล้ว  ก้าวเท้าเดินไปหามอไซด์คู่ใจพร้อมกับค้นหากุญแจในกระเป๋า

     

     

     

    “สัส!!

     

     

     

    “!!” 

     

     

     

    สะดุ้งเลยครับ...ผมรีบหันไปทางต้นเสียงที่อยู่ซ้ายมือทันที  เจ้าของเสียงสบถเมื่อกี้กำลังเตะล้อหลังของรถนิสสันซิลฟีสีขาวอยู่  อ่า...ไม่เข้าไปห้ามดีกว่า ดูแล้วก็คงจะเป็นรถของตัวเองล่ะมั้งนะ 

     

     

     

    แต่เอ๊ะ...

     

     

     

    เสียงมึงคุ้นๆ...

     

     

     

    “พี่!?

     

     

     

    “เหยดดดดด  ทำไมวันนี้กูซวยอย่างเน้!!!

     

     

     

    ผมรีบเดินเข้าไปยืนยิ้มตรงหน้าพี่จนแก้มแทบจะปริ  ตั้งแต่รับน้องคราวก่อนโน้นก็ไม่ค่อยได้เจอพี่เลย ต่างคนก็ต่างยุ่งๆวุ่นๆพอกันนี่เน้อออ คิดถึ๊งงงงงงคิดถึงงงงงงงงงง

     

     

     

    “รถเป็นไรอ่ะ?”

     

     

     

    “เฮ้ออออ ลืมกุญแจรถน่ะ...”

     

     

     

    “หา!!  ลืมไว้ที่ไหน  ผมไปเอามาให้มั้ย?”

     

     

     

    “ไม่ต้องๆ  คงจะติดไปกับของเพื่อนกูน่ะ”

     

     

     

    “แล้วพี่จะกลับบ้านไง?”

     

     

     

    “โบกรถเอามั้ง”

     

     

     

    ...ผมฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น  หึหึหึ

     

     

     

    “งั้นให้ผมไปส่งบ้านเอามั้ย?  ฟรีด้วยนา ไม่คิดค่าบริการเลยซ้ากกกกกกบาท”











    ----------------------------------------------------------------------------
    ขอโทษ...เค้าขอโทษษษษษษษษ ;A;
    ขอโทษที่มาอัพช้ามว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก นะคะ
    มันเป็นช่วงเคลียร์งานแล้วก็สอบ...ก็เลยยุ่งมากๆเลย
    สัญญาเลยว่าจะเขียนตอนสเปเชี่ยลมาเป็นของแทนคำขอโทษ T^T
    ยังไงก็ขอบคุณที่ยังติดตามกันค่ะ...^[]^






     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×