คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 4:ทำไมมึงไม่ฟังกู
“ปีหนึ่ง กลุ่มหนึ่ง!! ออกมาเข้าแถวด้านนอกเดี๋ยวนี้!!!”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ห๊ะ?”
“พ..พี่เขาเรียกแค่’ปีหนึ่ง’หรือนักศึกษาปีหนึ่ง กลุ่มหนึ่งน่ะ...”
“จะรู้เหรอเชียร์...”
ผมเหงื่อยตกทันที เอาแล้วไง รุ่นพี่พวกนั้นก็ดันพูดไม่รู้เรื่องอีก สรุปแล้วมันแค่ผมหรือทั้งกลุ่มกันแน่วะแม่ง...แต่ยังไงก็ต้องโดนทำโทษอยู่ดีไม่ใช่เหร๊ออออออออ ว่าแต่โดนทำโทษเรื่องอะไรล่ะวะ เรื่องที่ผมไปกวนตีนพี่? ว่าแล้วก็รีบหันไปมองพี่ที่อยู่ข้างๆ
“หึๆ มองอะไรวะไอ้น้อง อย่าลืมว่าผมก็ยืนอยู่กับคุณตรงนี้ตลอดนะ จะไปสั่งได้ไง”
เออว่ะ...
กำเบย
ผมเดินออกจากแถวเดินไปยังจุดที่รุ่นพี่พวกนั้นยืนอยู่ด้วยความกลัว(ในใจเล็กๆ) ทุกสายตาในโรงอาหารหันมามองผมเป็นตาเดียวกัน ทั้งเชียร์และเพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มพวกรุ่นพี่จะเอายังไงก็เดินตามมา เมื่อผมยืนประชันหน้าพวกรุ่นพี่ก็ชูป้ายชื่อที่ห้อยอยู่ตรงคอขึ้นมา
“เอ่อ...พี่ครับ พี่เรียกผมคนเดียวหรือเรียกทั้งกลุ่มเหรอครับ?”
พวกรุ่นพี่ทำหน้างงแตกไปแปบนึงแต่เมื่อเลื่อนสายตาลงมาก็ถึงบางอ้อ...ครับ ผมรู้ชื่อผมแม่งโคตรแปลก ฮรืออออออออออ
“พี่เรียกทั้งหมดนั่นแหละ! เข้าแถวด้านนอก!!”
นักศึกษาปีหนึ่ง กลุ่มหนึ่งทุกคนรีบวิ่งออกจากโรงอาหารเหมือนหนีไฟไหม้แล้วรีบตั้งแถว เอาจริงๆผมก็รู้สึกโล่งอกนิดๆนะที่ไม่ได้โดนคนเดียว...ก็นะ ย้ำว่านิดๆ...ผมพยายามแทรกแถวเข้าไปอยู่กลางๆ เอาจริงๆผมก็รู้สึกโล่งอกนิดๆนะที่ไม่ได้โดนคนเดียว...ก็นะ ย้ำว่านิดๆ...ผมพยายามแทรกแถวเข้าไปอยู่กลางๆแถวแล้วลากเชียร์ให้มาอยู่ข้างหลัง
“พวกน้องไม่เคยรู้สึกตัวกันบ้างเลยรึไง!!! เพื่อนของน้องน่ะลืมไอ้นี่ไว้กลางสนาม!!!”
แล้วรุ่นพี่คนหนึ่งก็ชูอะไรสักอย่างขึ้นมา เกิดเสียงฮือฮาเล็กน้อยตรงแถวๆด้านหน้า ผมกับเชียร์พยายามยืดคอไปมอง...
ป้ายชื่อ..
ของใครวะ
“คงไม่ต้องให้พี่อ่านชื่อนะ!! รู้ตัวก็เดินออกมา!”
แล้วผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งในกลุ่มผมก็เดินออกไปด้านหน้าผ่านทั้งเชียร์และผม ภาพที่เธอคอตกทำหน้าตาเหมือนจะร้องไห้แล้วก็เดินไปด้านหน้าแถวแลดูน่าสงสารมาก ถึงผมจะไม่ได้รู้จักเธอมากเท่าไหร่แต่ก็อดสงสารไม่ได้
“เธอรู้ใช่มั้ยว่าทำอะไรผิด!”
“...ค่ะ”
“ดี! ทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ ป้ายชื่อก็ค่อยมาเอาทีหลัง ไปวิ่งรอบสนามอีก 10 รอบ!! ไม่ต้องกินข้าว!!! ปฏิบัติ!”
เอาแล้วไง
ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้แล้วนะนั่น!!
พวกรุ่นพี่ก็ใจแข็งจริง!!! ฮึ่ยยยยยย ผมสะกดอารมณ์ของตัวเองไว้แล้วออกตัววิ่งไปตามพวกเพื่อนๆ เชียร์กับเพื่อนของผู้หญิงคนนั้นวิ่งเหยาะๆเข้าไปปลอบให้หยุดร้องไห้ ผมก็เลยเข้าไปวิ่งเหยาะๆใกล้ๆ ผมเองก็อยากจะปลอบอ่ะนะ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี...
“ไม่เป็นไรนะ หยุดร้องไห้ได้แล้ว”
“แต่..ฮึก เราทำให้ทุกคนต้องวิ่งอีก ฮือ ทั้งๆที่เพิ่งพักได้ไม่นานเอง ฮึก... เราขอโทษ...”
แล้วก็ปล่อยโฮออกมาอีก ทุกคนต่างถอนหายใจออกมา ก็มันช่วยไม่ได้นี่...ยังไงก็โดนทำโทษแล้วก็แค่รีบๆวิ่งแล้วไปกินข้าวก็พอ ผมหันไปมองทางข้างหน้า พวกผู้ชายบ้าพลังที่แข่งกันวิ่งก่อนหน้านี้เริ่มลดความเร็วแล้ววิ่งเหยาะๆด้วยสภาพเหมือนหมาเหนื่อย
...ผมเองก็เริ่มกลายร่างเป็นหมาเหนื่อยด้วยอีกคนแล้ว
“แฮกๆๆ”
“วิ่งช้าโว้ยยยยย!!! เร็วสิวะ!”
เสียงอันคุ้นเคยตะโกนมาจากข้างสนาม พี่ยกจานข้าวมานั่งกินอยู่บนสแตนเชียร์มองลงมาที่พวกผมเหมือนกำลังเล่นสนุกกับของเล่นอยู่ พวกเพื่อนๆของพี่ก็นั่งอยู่ข้างๆจับกลุ่มคุยกันเฮฮาปาร์ตี้...แต่คราวนี้พวกผมไม่เล่นด้วยนะครับ
“...ปีหนึ่ง”
เชียร์แตะไหล่ผมเบาๆเหมือนจะพยายามเตือนให้ผมเก็บอารมณ์ที่กำลังพุ่งปรี๊ดนี้ไว้ ผมพยักหน้าแล้วเอามือปาดเหงื่อจากนั้นก็วิ่งต่อไป
“เฮ้ยยยยย ไหวรึเปล่าน่ะ!”
เสียงเอะอะดังขึ้นมาจากทางด้านหน้า ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มเรากำลังนอนราบไปกับพื้นสนาม คนอื่นๆที่อยู่รอบๆรีบพยุงร่างของเธอขึ้นมา จากสถานการณ์ที่เห็นนี้ผมสามารถเดาได้เลยว่า...เธอเป็นลม
“เฮ้ยมึง ไปอุ้มน้องเขามาพักตรงนี้ดิวะ!!”
พี่รีบหันไปสั่งให้เพื่อนเดินไปช่วย พวกรุ่นพี่ที่โดนสั่งรีบวิ่งลงจากสแตนแล้วอุ้มเธอคนนั้นไปยังที่ร่มๆแล้วจัดการปฐมพยาบาลทันที
“ใครสั่งให้คุณหยุด!!! วิ่งต่อไปดิ!”
ปรี๊ดดดดดดดดดดด
...ไม่ไหวละครับ
...ถึงจะเป็น ’พี่’ ที่ผมชอบก็เถอะ
แต่ทำแบบนี้มันก็ทนไม่ไหวนะ
ผมเดินดุ่มๆขึ้นบนสแตนแล้วกระชากคอพี่เข้ามาใกล้ๆ ดวงตากลมโตนั้นมองผมอย่างสงสัยแต่ผมไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วยแล้ว
“พี่ต้องการอะไร! ลงโทษพวกผมใช่มั้ย!!”
“อ..อืม”
พี่สะดุ้งตกใจเมื่อผมตะคอกใส่ คงจะไม่คิดว่าผมจะโกรธถึงขนาดนี้สินะ แต่ผมก็เป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึกนึกคิดนะครับ...
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอโดนทำโทษคนเดียว!!”
“ห๊ะ? นี่มึงจะบ้าเหรอ”
“จะให้วิ่งอีกกี่รอบ บอกมา!!!”
“เฮ้ย มึงใจเย็นๆก่อนดิวะ!”
“หึ งั้นผมก็จะวิ่งไปเรื่อยๆจนกว่าพี่จะพอใจ ส่วนเพื่อนผมพี่ต้องปล่อยไป”
ผมสะบัดมือออกจากคอเสื้อพี่แล้วเดินลงไปออกวิ่งอีกครั้ง พวกเพื่อนๆที่กำลังงงแตกอยู่ว่าอะไรเป็นอะไรก็ทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งๆก่อนจะตะโกนบอกให้ผมหยุดวิ่ง
“ปีหนึ่ง! พอได้แล้วววว”
“พี่เขาบอกว่าไม่ต้องวิ่งแล้ว ได้ยินมั้ย!”
“ปีหนึ่งงงงง!!”
แฮ่ก...แฮ่ก...
เหนื่อย...
ผมรู้สึกได้ถึงความชื้นที่เสื้อแทบทั้งตัว เสียงหอบหายใจของตัวเองดังก้องในหัว
การมองเห็นเริ่มจางหายไป ขาที่เริ่มอ่อนยวบยาบ
ผมค่อยๆล้มลงกับพื้น สติที่มีอยู่ก็ดับวูบไป
แต่ก่อนหน้าที่สติจะดับไปหมด
ผมได้ยินเสียง
...ของพี่
“ทำใจดีๆนะมึง! ฮึก กูบอกแล้วไงว่าอย่าวิ่งน่ะ ทำไมมึงไม่ฟังกูล่ะ ฮือ”
...ร้องไห้?
------------------------------------------------------------
เหมือนได้กลิ่นอายดราม่า?...กำเบย
555555 อยากอ่านดราม่าน้ำตาแตกกันมั้ยแจ๊ะ ><
ความคิดเห็น