ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่ว๊ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง

    ลำดับตอนที่ #3 : 3:ไม่ต้อง โบตันเอาอยู่

    • อัปเดตล่าสุด 24 มิ.ย. 56


    และแล้ว...

     

     

    ฐานที่หนึ่ง ‘spirit’ ก็ผ่านไปด้วยความกดดันที่มากเหลือล้น  จากการเข้าฟังพี่พูดถึงความเป็นคน  สิ่งที่ถูกที่ผิดและก็คำเทศนายาวเหยียดนั้นทำให้ผมเลื่อมใสเลย  เฟรชชี่ทุกคนต่างเดินออกจากห้องประชุมเป็นแถวด้วยใบหน้าสงบนิ่ง  ผมเองก็ทำหน้าสงบนิ่งเหมือนกันนะ...แต่พอคิดว่าฐานต่อไปอาจจะไม่ได้เจอพี่แล้วมันก็...

     

     

    ฮรือออออออออออออออออ  ขอผมสิงอยู่ฐานนี้ไปตลอดทั้งวันเลยได้มั้ยครับ!

     

     

    “อ่าวไอ้น้อง  ทำไมทำหน้าหงอยแบบนั้นวะ?”

     

     

    มีรุ่นพี่ที่คุมฐานเดินเข้ามาตบบ่าผมเบาๆ  ผมจึงทำได้แต่เพียงส่งสายตาที่โศกเศร้าตอบกลับไปพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่  พอเงยหน้ามองไปยังข้างหน้าก็เจอพี่ที่แสนน่ารักกำลังนั่งดูดน้ำแปบซี่อย่างสบายใจ  ผมจึงทำเนียนเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วพูดเสียงดัง

     

     

    “ผมอยากให้ประชุมนานกว่านี้ครับ”

     

     

    “ทำไมวะ?  แปลกคน”

     

     

    “ผมอยากมอง พี่นานๆครับ”

     

     

    พรูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

     

     

    “แค่กๆๆๆๆๆ”

     

     

    สงสัยผมคงจะเล่นมุกเสี่ยวเกินจนเจ้าตัวได้ยินปุ๊บก็สำลักน้ำทันที  ผมเลยรีบเข้าไปช่วยตบหลังพี่เบาๆ  รุ่นพี่คนอื่นๆที่เห็นว่าบุคคลสำคัญกำลังอาการแย่ก็โกลาหลทันที  ตะโกนโหวกเหวกหาทั้งน้ำเปล่าทั้งทิชชู่  แม้แต่ยาอมแก้เจ็บคอก็ไม่เว้น  ผมหยิบแก้วน้ำเปล่าที่รุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งยื่นมาให้แล้วส่งให้พี่ที่กำลังไออยู่

     

     

    “กินน้ำก่อนนะครับ”

     

     

    “แค่กๆๆ  เพราะมึง”

     

     

    “ฮ่าๆๆๆๆ”

     

     

    พี่รีบแย่งแก้วน้ำในมือผมไปกิน  ไม่นานพี่ก็หยุดไอทำให้สภานะการณ์กลับมาสู่สภาวะปกติ  เฟรชชี่ที่หยุดยืนดูก็โดนรุ่นพี่ต้อนให้เดินต่อไป  และแน่นอนผมเองก็ต้องไปด้วยเช่นกัน

     

     

    “ใครให้มึงเรียกกูว่า พี่   มึงท้าทายกูใช่มั้ย!!!

     

     

    พี่ลุกขึ้นชี้หน้ามาทางผมแล้วปล่อยออร่าน่ากลัวออกมา  เอาจริงๆผมก็กลัวเล็กๆนะแต่พอดีที่บ้านไม่ได้เคร่งเรื่องปากตรงกับใจเพราะเห็นว่าความหน้าด้านสำคัญฟ่า  ผมเลยยืนยิ้มอยู่ที่เดิม

     

     

    “มึงเป็นใครมาจากไหนถึงมีสิทธิเรียกกูอย่างนั้น!!  ห๊ะ!

     

     

    “งั้นผมเรียกพี่ว่า ที่รัก ก็ได้ครับ”

     

     

    “สก๊อตจั๊มพ์ 50 ครั้ง!! ปฏิบัติ!!!!!

     

     

    “ง่ะ!

     

     

    “สก๊อตจั๊มพ์ 100 ครั้ง!!  ปฏิบัติ!!!!

     

     

    เหยดดดดดดดดดดดดดดดดดดด...

     

     

    ผมรีบทำตามที่พี่สั่งก่อนที่จำนวนครั้งมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆๆ  ทำไมพี่ต้องโหดร้ายกับผมแบบนี้ด้วยล่ะครับ  ปีหนึ่งเสียใจ~~  แล้วพี่ก็หัวเราะในลำคอพรางมองผมด้วยสายตาเหยียดหยามก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้อองประชุม  พวกรุ่นพี่คนอื่นๆก็มาล้อมผมไว้แล้วก็เร่งให้ผมทำให้เสร็จ  เพราะเฟรชชี่คนอื่นๆเขาเดินกันไปไกลแล้ว  สุดท้ายผมจึงต้องรีบวิ่งสุดชีวิตเพื่อไปเข้าฐานต่อไป

     

     

     

     


















     

     

    เมื่อถึงเวลาประมาณเที่ยง  ผมกับเชียร์ก็พากันลากสังขารมานั่งหอบอยู่ตรงโต๊ะในโรงอาหาร  จะอะไรซะอีกล่ะ!  กลุ่มผมโดนวิ่งรอบสนามฟุตบอล 10 รอบภายในเวลา 15 นาทีเนื่องจากทำกิจกรรมไม่สำเร็จ...ใครมันจะไปวิ่งทันวะแม่งกว่าHPในตัวของเราทั้งคู่จะคืนกลับมาก็นั่งหอบกันนานเลย  คนในโรงอาหารเยอะขึ้นเรื่อยๆเป็นสัญญาณบอกพวกผมว่าอาหารกำลังจะหมดต้องรีบไปช่วงชิงมา

     

     

    “ปีหนึ่งจะกินอะไร?”

     

     

    “จะหมูหมากาไก่ก็ยัดลงท้องได้หมดแหละตอนนี้”

     

     

    ผมเดินเข้าไปต่อแถวโดยมีเชียร์เดินตามมาติดๆ  คนยิ่งเยอะมันก็ยิ่งร้อน  ทำไมประเทศไทยมันไม่อยู่ตรงขั้วโลกเหนือวะ

     

     

    แต๊กๆ

     

     

    เสียงเหมือนเคาะอะไรสักอย่างดังมาจากคนที่เข้าแถวอยู่ข้างหน้าผม  ผมจึงยืดตัวไปมองก็เห็นใบหน้าหวานๆที่คุ้นตา  เป็นพี่นี่เองงงงงงง  โอ้ยยย ทำไมแถวมันไม่เบียดกันกว่านี้นะ  จะได้มีข้ออ้างในการใกล้ชิด  อิอิน์...ว่าแต่พี่กำลังทำอะไรอยู่น่ะ

     

     

    แต๊กๆ

     

     

    เสียงนั้นมันมาจากสิ่งที่พี่เคาะอยู่ในมือ  มันคือกล่องสีขาวเล็กๆซึ่งมียี่ห้อติดว่า โบตัน เอาไว้  พี่เคาะต่อไปจนเม็ดสีดำๆเล็กนั้นออกมาจากกล่องประมาณสี่ห้าเม็ด  เมื่อจำนวนมันเป็นที่น่าพอใจแล้วพี่ก็เอามันใส่ปากอมไว้พร้อมกันทั้งหมดหลังจากนั้นก็เก็บกล่องสีขาวนั้นใส่ในกระเป๋ากางเกง

     

     

    “เจ็บคอเหรอพี่?”

     

     

    “เฮ้ย!!!

     

     

    พี่สะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงผมพร้อมกับหันมามองผมด้วยสายตาเหมือนโลกกำลังจะแตก  ผมยิ้มแบบที่คิดว่ามันดูดีที่สุดในชีวิต  ไม่นานพี่ก็สามารถกลับเข้ามาดดังเดิมได้

     

     

    “ทำไม?  ไม่เคยเห็นพี่ว้ากอมโบตันรึไง  เจ็บคอเป็นนะครับ”

     

     

    “ไม่ได้จะว่าอะไรสักหน่อย”

     

     

    “หึ...”

     

     

    “พรุ่งนี้ให้ผมทำน้ำผึ้งผสมมะนาวมาให้เอามั้ยครับ?”

     

     

    “...ไม่ต้อง  โบตันเอาอยู่”

     

     

    พี่กอดอกแล้วหันหลังให้ผมเป็นการจบบทสนทนาอันแสนสั้น  เชียร์ที่อยู่ข้างหลังผมยื่นมือมาแตะไหล่ผมเบาๆเหมือนจะเรียกให้หันไปมอง  ผมก็เลยหันไปมองตาม

     

     

    ...

     

     

     

     

    โห  แวบนึงกูคิดว่าหมีมายืนต่อแถวด้วยเลยนะเนี่ย

     

     

     

     

    “สวัสดีครับ  พี่ว้าก”

     

     

    “อ่าฮะ”

     

     

    ผมยกมือไหว้พี่ว้ากที่ยืนต่อแถวออยู่ข้างหลังเชียร์ด้วยใบหน้ายิ้มๆ  ตอนนี้ผมรู้แล้วล่ะว่าทำไมเชียร์ถึงสะกิดผม...ถ้าถามหาความช่วยเหลือล่ะก็ 

     

     

    ขอโทษว่ะเชียร์

     

     

     

    ผมส่งสายตาอนาถจิตให้เชียร์เป็นนัยๆก่อนที่เชียร์จะทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมา

     

     

    โฮรวววววววววววว  ถ้าพี่ว๊ากจะตามตื้อกันขนาดนี้นะ!!!

     

     

    ในขณะที่ผมกำลังสับสนไม่รู้จะช่วยเชียร์ยังไงก็มีเสียงรุ่นพี่ตะโกนดังไปทั่วโรงอาหารทำให้ทุกคนต่างอยู่ในความสงบ...และรอฟัง

     

     

     

    “ปีหนึ่ง  กลุ่มหนึ่ง!!  ออกมาเข้าแถวด้านนอกเดี๋ยวนี้!!!

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    “ห๊ะ?”      


    ---------------------------------------------------------------------------------------------
    มาอัพก่อนนอน 55555
    ก็คนมันไอเดียกำลังมาอ่าตัว orz
    เรารู้ว่าตอนที่ผ่านๆมามันสั้นเกินมาตราฐานไปหน่อย แต่พอดีเราไม่เคร่งเรื่องความยาวของหน้ากระดาษเพราะเห็นว่ามุกฮาสำคัญฟ่า #กำเบย
    ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
    ขอบคุณแท็ค #พี่ว๊ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง ทั้งในเฟสและทวิตที่ให้ไอเดียดีๆค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×