ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC KRISLAY] Pièce de la Love...

    ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER 1

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 56


    แสงอาทิตย์ในฤดูใบไม้ผลิสาดส่องผ่านห้องนอนเข้ามา ผ้าม่านผืนยาวริมหน้าต่างพลิ้วไหวจากแรงลงที่พัดผ่านมาทางหน้าต่างห้องที่เจ้าของห้องเปิดรับลมเย็นในกลางคืน

                    ร่างเล็กบนที่นอนขยับตัวหนีแสงอาทิตย์เล็กน้อย ก่อนดวงตาหวานจะลืมขึ้นมือสวยเอื้อมไปคว้าโทรศัพท์มากดดูเวลาครู่หนึ่งก่อนจะเก็บลงที่เดิมแล้วจัดการบอกตัวเองให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำ และเตรียมพร้อมกับการเป็นนักศึกษามหาลัยวันแรก

     

    ตื่นเต้น!

     

    จางอี้ชิง ยิ้มให้กับเงาของตัวเองในกระจกหลังจากจัดการกับตัวเองเสร็จ ผมสีน้ำตาลอ่อนพลิ้วไหวเล็กน้อย ลักยิ้มข้างแก้มทำให้คนตัวเล็กดูน่ารักขึ้นมาอีกเท่าตัว อี้ชิงคว้ากระเป๋าสีม่วงใบโปรดขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะเดินลงไปยังด้านล่างของบ้าน

     

    ว่าไงสุดหล่อตื่นแต่เช้าเชียว เสียงของคนเป็นพ่อเอ่ยแซว ใบหน้าหวานส่งยิ้มให้ก่อนจะนั่งลงเคียงข้าง เรียวแขนเล็กตวัดโอบกอดพ่อด้วยความรัก

     

    ก็ผมตื่นเต้นนิครับ วันนี้จะไปมหาลัยวันแรก จะได้เจอพี่ๆในคณะ เพื่อนๆเยอะแยะ พูดจบก็คลายอ้อมกอดจากคนเป็นพ่อวิ่งไปกอดคนเป็นแม่ที่เดินออกจากห้องครัวด้วยแก้วกาแฟและนมสด

     

    กินนมสักนิดก่อนไปมหาลัยลูกรัก หนูจะได้ไม่หิวระหว่างทำกิจกรรมรับน้อง ส่งแก้วนมให้ลูกชาย เลย์รับมาดื่มรวดเดียวหมดแล้วหันไปส่งยิ้มน่ารักให้คนทั้งสองของบ้าน

     

    หมดแล้ว ผมไปก่อนนะฮะจะได้ไม่สาย

     

    ไม่ลืมอะไรแล้วนะลูก โทรศัพท์ กระเป๋าเงิน หมวก พัด คนเป็นแม่เอ่ยถามลูกชายของตนเพื่อความแน่ใจ อี้ชิงพยักหน้าพลางตบกระเป๋าให้คนเป็นแม่มั่นใจ ก่อนจะออกจากบ้านไป

     

     

                    เนื่องจากวันนี้มหาลัยเปิดเทอมเป็นวันแรกทำให้การจราจรดูจะวุ่นวายนิดหน่อย เขาเลยตัดสินใจใช้การเดินเท้าแทนการนั่งรถ เหนื่อยนิดหน่อย แต่สำหรับวันนี้อี้ชิงสัญญากับตนเองแล้วว่าจะทำให้เป็นวันที่มีความสุขที่สุด

     

     

    อยู่ไหนนะคณะสถาปัตย์...วิศวะ..แพทย์.. เสียงหวานงึมงำๆอยู่คนเดียวตรงหน้ามีบอร์ดขนาดใหญ่ติดกระดาษบอกสถานที่รับน้องของแต่ละคณะเอาไว้

     

    อ้ะ เจอแล้ว...จัดกิจกรรมคู่กับคณะวิศวะ ให้เจอกันที่ลานเกียร์ก่อน 9 โมงเช้า ตอนนี้ก็ปาไปแปดโมงครึ่งแล้ว จากตรงนี้ไปลานเกียร์ของวิศวะก็ดูจะไกลอยู่ แล้วอีกอย่างไปทางไหน

     

    เลย์ถอยออกมาจากบอร์ดใหญ่ซึ่งแออัดไปด้วยนักศึกษาปีหนึ่ง มือเรียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเพื่อนร่วมคณะที่เจอกันเมื่อวันปฐมนิเทศ

     

    ส..สวัสดี...ชานยอล เลย์นะ ร่างเล็กตกใจนิดหน่อยหลังจากปลายสายกดรับ เสียงอึกทึกคึกโครมไหลมาตามสาย

     

    [เฮ้ ว่าไง นายอยู่ไหนฉันหานายไม่เจอ]

     

    พึ่งมาถึง ตอนนี้อยู่ตรงบอร์ดใหญ่ กำลังจะไปลานเกียร์แต่ไปไม่ถูกนะ นายล่ะอยู่ไหน

     

    [อยู่ลานเกียร์แล้ว นายรีบมาเถอะเลย์ รุ่นพี่เขาเริ่มเช็คชื่อแล้ว เอ้อ นายเดินอ้อมตึกคณะวิทยาศาสตร์มาเลยก็ได้ แล้วก็จะเจอป้ายอันใหญ่ๆ...มาครับ..มาๆ อยู่นี้ครับ..ปาร์ค..เข้าใจไหมเลย์ .. ชานยอลมาคร้าบบ] เลย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะตัดสินใจวางสายไป

     

    อ้อมคณะตึกวิทย์ แล้วจะเจอป้ายคณะ เขาเดินวนอ้อมรอบคณะตึกวิทย์มาแล้วสามรอบ มองซ้ายขวายันเงยหน้าขึ้นฟ้า ก็ยังไม่เจอวี่แววป้ายคณะวิศวะ หรือ ป้ายแสดงว่าเขาอยู่ใกล้ลานเกียร์ของวิศวะเลยแม้แต่น้อย

     

    9.15 นาที 

     

    สายแล้ว...ไม่เป็นไร คงไม่ใช่แค่เขาคนเดียวหรอกที่หลง คิดปลอบใจตัวเองคนเดียวก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาโทรหาชานยอลอีกครั้ง

     

    [ เลย์ ขาดนายคนเดียว พี่เขาจะฆ่านายแล้วรู้ไหม] เสียงทุ้มแหบห้าวดังขึ้นทันทีที่กดรับสาย

     

    ฉันหลง..ชานยอล มารับหน่อยไปไม่ถูก ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีด้วยความร้อนจากแดด

     

    [นายอยู่ไหนเนี่ย]

     

    คณะวิทยาศาสตร์ไงที่นายบอกให้อ้อมไง วนมาสามรอบแล้วยังไม่เจอเลย

     

    [นายอยู่ตรงไหนเนี่ย คณะวิทย์ไหน เลย์!!  ฉันขอโทษมันต้องคณะศิลปะศาสตร์เว้ย] ให้ตายสิ จางอี้ชิงอยากจะนั่งร้องไห้อยู่ตรงหลังตึกวิทย์

    แล้วฉันจะทำยังไงล่ะทีนี้ ปาร์ค ชานยอล ไอบ้า คนตัวเล็กเอ่ยแกล้งปลายสายที่กำลังคร่ำครวญถามคนข้างๆว่าทำไงดี เลย์เดินไปนั่งหลบแดดใต้ตึกคณะ ระหว่างรอสายเพื่อนที่บอกว่ารอก่อนเดี๋ยวไปบอกรุ่นพี่ให้

     

    [เลย์ เดี๋ยวพี่เขาจะไปรับนายนะ ฉันให้โทรศัพท์ไปกับพี่เขา เดี๋ยวนายรับสายพี่เขาด้วยล่ะกัน] เลย์ตอบรับก่อนจะกดวางสายไป ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขาไม่ใช่คนใจร้อนดังนั้นเหตุการณ์แบบนี้ถือว่าเล็กน้อยเกินกว่าจะทำให้เลย์โมโหออกมาได้

     

    คนตัวเล็กนั่งเล่นสายสะพายกระเป๋าของตนไปมาระหว่างรอรุ่นพี่ที่ชานยอลบอกว่าจะมารับเขา ใบหน้าหวานยิ้มให้กับผลงานการผูกสายกระเป๋าสองเส้นมารวมกันเป็นรูปหัวใจของตนเอง

     

    Rrrrrrrrrr.

     

    ครับ...

     

    [น้องออกมารอหน้าตึกวิทย์เลยครับ พี่ใกล้ถึงแล้ว] เสียงทุ้มจากปลายสายทำให้เลย์ถึงกับอยากจะร้องไห้ ทำไมเสียงหล่อแบบนั้น  

     

    อ่า...ได้ครับ เอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าสีม่วงที่พึ่งผูกสายเป็นเส้นเดียวมาถือไว้ ก่อนจะพยายามแก้สายกระเป๋าให้แยกออกจากกันขณะเดียวกันสองเท้าก็เดินออกจากที่นั่งมายังหน้าตึกคณะตรงบันได

     

    ขณะกำลังยืนพยายามแกะสายกระเป๋าออกจากกันเสียงเบรกของรถก็ดังขึ้นตรงหน้า เลย์เงยหน้าขึ้นหวังจะส่งยิ้มไปให้ แต่กลับต้องหยุดลงเมื่อสายกระเป๋าที่พยายามแกะเมื่อครู่แยกออกจากกันด้วยแรงกระชากของตนทำให้สายข้างหนึ่งขาดออกจากตัวกระเป๋า เลย์ถอนหายใจอีกครั้งของวัน แล้วเงยหน้าส่งยิ้มให้คนตรงหน้า

     

    เคยเป็นไหมครับ แค่เงยหน้ามองส่งยิ้มให้ใครสักคนที่พึ่งเคยเห็นหน้า หัวใจกับเต้นแรงอย่างประหลาด รู้สึกอากาศรอบตัวร้อนขึ้นมาแบบผิดปกติ

     

     

    ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้พี่ต้องลำบาก

     

    ไม่เป็นไรครับ..ขึ้นรถเถอะเดี๋ยวจะสายหนักกว่าเดิม พูดจบก็ส่งยิ้มบางๆให้เขาพร้อมกับมือที่เอื้อมมาถือกระเป๋าเป้ที่ขาดเมื่อไม่นานไปถือไว้เอง แม้เขาจะปฏิเสธแล้วก็ตาม

     

     

    ให้ตายสิ คนอะไรทำให้จางอี้ชิงใจเต้นแรงได้ขนาดนี้...

     

    ตลอดทางเลย์ได้แต่นั่งเงียบ ปกติเขาก็ไม่ใช่คนช่างพูดอยู่แล้วยิ่งกับคนที่พึ่งเคยเห็นหน้ายิ่งพูดไม่ค่อยจะออก ในใจก็นั่งนึกเสียใจกับการจากลาของสายสะพายของกระเป๋าเป้ใบโปรด สักพักก็มีหน้ากับรอยยิ้มบางๆของคนด้านหน้าที่กำลังขับรถลอยเข้ามาแทรก แล้วก็นะ ลอยมาเมื่อไร ใจก็เต้นแรงทุกที

     

    หลงไกลซะด้วยนะครับ เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมกับหันมามองคนข้างหลังเล็กน้อย

     

    อ่อ เออ ก็นิดหน่อยมั้งครับ อ่า เขินแปลกๆ

     

    ครับนิดหน่อย สามกิโลเอง เพื่อนเรางอแงวิ่งวุ่นไปหมด ไอเด็กคนสูงๆนั้น

     

    ขอโทษนะครับที่ทำให้ลำบากพี่...

     

    คริสครับ ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เอง เลย์งงเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยชื่อใครออกมา ก่อนสมองจะประมวลผลได้ว่ารุ่นพี่ตรงหน้าคงจะชื่อคริส

     

    เวสป้าสีขาวเลี้ยวเข้าที่จอดรถ เขามองเห็นป้ายกิจกรรมสีสันแสบตาของคณะสถาปัตย์วางอยู่ข้างกันกับป้ายกิจกรรมสีดำสมปรกเลอะเทอะของคณะวิศวะ

     

    พี่คริสครับ กระเป๋าผมถือเองก็ได้ฮะ พยายามแย่งกระเป๋ามาถือเองแต่คนสูงกว่าจับมันสะพายไหล่ข้างเดียวและดันหลังเขาให้ไปยังจุดลงทะเบียน

     

     

     

    .

     

    ฮิ้ววววววววววว วว

     

    เสียงโห่ดังขึ้นทันทีที่เขาและพี่คริสเดินเข้าไปยังลานเกียร์หลังจากลงทะเบียนเสร็จ คนข้างกายชี้เป็นเชิงบอกให้ไปนั่งตรงนั้นก่อนจะส่งกระเป๋าคืนให้ เลย์โค้งขอบคุณแล้วรับกระเป๋ามาเดินตรงไปยังที่นั่งที่คริสชี้ไป

     

    เฮ้ย! เอากระเป๋าตั้งแล้วมาหน้าเวทีเลยจ้ะน้องหนูจางอี้ชิง สายขนาดนี้ต้องมีทำโทษ เสียงรุ่นพี่ร่างไม่สูงมากจากหน้าเวทีพูดผ่านโทรโข่ง เลย์ฝากกระเป๋าไว้กับชานยอลที่กำลังทำหน้าเศร้า ยกมือขอโทษขอโพยตนเป็นรอบที่สิบเห็นจะได้ ก่อนจะเดินไปยังหน้าเวที

     

    นี่ป้ายชื่อ อยากได้ไหม แต่เนื่องจากมาสาย อยากได้แค่ไหนก็ให้ไม่ได้ จริงไหมพวก!!” รุ่นพี่คนเดิมหันไปถามสมาชิกรอบข้าง ซึ่งก็ได้รับเสียงโห่เห็นด้วยกลับมาอีกระลอก

     

    สถาปัตย์จัดการดิ เด็กคณะมึงเว้ย ส่วนที่ลำบากเดือนวิศวะสุดหล่อไปรับเดี๋ยววิศวะแบบกูสานต่อเอง ฮื้ววว

     

    เคยรู้สึกเหมือนจะซวยไหมครับ ?  ตอนนี้จางอี้ชิงกำลังรู้สึกแบบนั้นเลยล่ะ รุ่นพี่สถาปัตย์หน้าสวยผมทองแนะนำตัวกับเขาว่าชื่อ คีย์ ส่งแก้วที่ข้างในบรรจุกระดาษม้วนไว้เป็นร้อยแผ่น พยักเพยิดให้ล้วงซะ

     

    แนะนำตัวเอง   เขาหยิบอ่านและส่งให้พี่คีย์ อีกฝ่ายอ่านแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก ดีใจกับรุ่นน้องที่ไม่ต้องทำอะไรแผลงๆ  ถึงในแก้วนั้นมีกิจกรรมแผลงๆอยู่ไม่ถึง 5 อัน แต่ก็อดเสียวแทนรุ่นน้องน่ารักตรงหน้าไม่ได้

     

    พวกพี่ไม่มีอะไรจะลงโทษน้องนะครับ แต่ก็ให้น้องแนะนำตัวเองให้ละเอียดนะครับ ผมพยักหน้ารับแล้วรับไมค์จากเพื่อนร่วมคณะที่นั่งถือไมค์มาถือไว้

     

    สวัสดีครับ จาง อี้ชิง ครับ เรียก เลย์ ก็ได้ อายุ  19 กรุ๊ปเลือด เอ วันเกิด 7 ตุลาคม  ครับ ร่างเล็กส่งยิ้มปิดท้าย ก่อนจะปิดไมค์เตรียมส่งคืน เสียแต่ว่า

     

    ละเอียดครับน้องเลย์ ละเอียดๆ ไอรุ่นพี่วิศวะคนเดิมขัดขึ้นมา ตามด้วยเสียงลูกคู่ด้านหลังตามเคย เลย์หันไปยิ้มแหยๆให้รุ่นพี่คณะตัวเองที่นั่งส่งยิ้มเอ็นดูมาให้

     

    บ้านอยู่ห่างจากมหาลัยประมาณ 10 กิโลครับ ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที ถ้าขับรถ 15-20 นาที ถ้าขึ้นรถเมล์ให้ขึ้นสาย 007 แล้วลงหน้าเซเว่นครับ เดินเข้าซอยไปอีกนิดหน่อย บ้านอยู่หลังที่ 4 ฝั่งซ้ายมือ คุณพ่อเป็นทหารเรือ ตำแหน่ง xxxx ครับ คุณแม่ทำธุรกิจร้านดอกไม้ครับ ถ้าสนใจสอบถามได้ภายหลัง เอ่อ... เอาอะไรอีกไหมครับ เสียงหัวเราะอย่างเอ็นดูดังขึ้นรอบๆทำให้เลย์ถึงกับเขิน และสงสัยว่าตนพูดอะไรผิดไป

     

    เลย์ชอบไม่ชอบอะไรเหรอ เสียงจากเด็กคณะวิศวะตะโกนถาม

     

    อ่า เราไม่ค่อยไม่ชอบอะไรนะ ส่วนใหญ่ก็ชอบหมดแหละ

     

    นิสัยของเลย์ล่ะ

     

    ก็เป็นคนใจเย็น ไม่ค่อยโกรธใครหรอก ถ้าเราโกรธเราจะบอก ถ้าขอโทษเราก็ให้อภัย แต่ถ้าโกรธหนักๆเราก็จะเงียบมั้ง ไม่รู้แฮะยังไม่เคยโกรธใครรุนแรง  หลังจากนั้นคำถามมากมายก็พรั่งพรู่เข้าใส่จนคนตัวเล็กตอบแทบไม่ทัน

     

     

     

     

    แล้วแฟนละครับ มีรึยัง


    TBC.

    คุยกันสักนิด : สวัสดีค่ะ มีคนบอกคิสเซ่ผ่านทางทวิตมาว่า ตอนอินโทรยาวเหมือนแชป 1 มากกว่า ฮ่าๆ นั่นอินโทรจริงๆค่ะ กึ่งไม่ใช่อินโทรหรอกมั้ง คือคิสเซ่ตั้งใจใช้เปิดเรื่องอ่ะค่ะ เพื่อดึงเข้าสู่เนื้อหาจริงก็คือตอนนี้ หลังจากนี้ไปก็จะเป็นแฟลชแบคที่อาอี้กับพี่คริสเขาเริ่มรู้จักกันนะค่ะ ไล่ไปเรื่อยๆนะค่ะ เอาล่ะ พูดถึงตอนนี้ คนอ่านคงเห็น ชานยอลคนหล่อมีบทบาทนะค่ะ เขาเข้ามาในฐานะเพื่อนสนิท และเพื่อนรักของอาอี้ในอนาคตค่ะ ปกติเห็นแต่ให้สองคนนี้แย่งพี่คริส คิสเซ่เลยเปลี่ยนซะ ฮ่าๆ ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรมากนะค่ะ

    ขอฝากฟิคเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกด้วยนะค่ะ แล้วก็ ...ไม่เรียกร้องคอมเม้นค่ะ แต่ถ้ามีก็จะเป็นกำลังใจมาก เปิดดูหลายรอบเจออยู่ 4 เม้น ปริ่มค่ะ ขอบคุณมาก

    ขอให้สนุกนะค่ะ
    kissye

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×