คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : INTRO
De jardin
เสียงหยาดฝนสาดกระเซ็นกระทบบานหน้าต่าง เสียงหวีดหวิวของสายลมที่แสนจะบาดหู อากาศเย็นๆชื้นๆจากภายนอกแทรกซึมกับช่องว่างเพียงเล็กน้อยที่มีลอยหวิวเข้ามาภายในห้องนอนสีชมพูหวาน ร่างเล็กที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือของตนอยู่บนที่นอนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะใช้เท้าทั้งสองข้างช่วยกันเขี่ยผ้าห่มสีเดียวกับตัวห้องขึ้นมาห่ม
พรึ่บบบ!!
“อ๊ากกกกกกกก !!” เสียงหวีดร้องดังลั่นตัวบ้านที่เงียบสงบอันเกิดจากเสียงฟ้าร้องโครมใหญ่ แสงสว่างแปลบจากท้องฟ้าเป็นเส้นยาว และ ไฟสีส้มอ่อนๆในห้องนอนดับลง อี้ชิงสะดุ้งขึ้นจากที่นอนคว้าไฟฉายจกหัวเตียงมาเปิดและผันตัวออกจากห้อง
‘ไอฝนบ้า จะตกทำไมนักหนา ไม่รู้รึไงว่าคนไม่โสดแต่แฟนไม่มาหาแบบเขา มันทรมานขนาดไหน เหงานะ!’ คิดไปด้วยเดินลงจากบันไดบ้านไปด้วย
ทันทีที่เท้าแตะลงที่ปลายบันไดขั้นสุดท้าย แสงสว่างจากหลอดไฟทั้งหมดในตัวบ้านที่คนเป็นแม่เปิดทิ้งไว้ก่อนจะออกไปทำธุระก็สว่างขึ้นและดับลงไปอีกครั้ง
“เฮ้ยยยย!!” เสียงร้องอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นเป็นครั้งที่สอง และครั้งนี้ก็มีบางสิ่งบางอย่างในมือของเด็กหนุ่มถูกเขวี้ยงออกไป
ปั่กกก!!
“โอ้ย!” เสียงอุทานจากคนที่หน้าประตูบ้านสีขาว แสงฟ้าแลบเป็นพักๆฉายให้เห็นร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูกำลังยืนกุมศีรษะของตนอยู่ แม้จะไม่ชัดเจน แต่อี้ชิงก็มั่นใจ ว่ามีคนบุกรุกเข้ามาในบ้านของตน
“ใครอ่ะ?” เสียงใสที่แฝงไปด้วยความหนักแน่นและหวาดกลัวเอ่ยขึ้น มือข้างที่ถือโทรศัพท์กดลงบนหน้าจอเพื่อ
ขอแสงสว่างรำไรจากจอนั่น ก่อนจะส่องไปตามทางเดิน
แน่ะ เห็นแค่รองเท้าเองง่ะ
“พี่เอง” เสียงทุ้มเอ่ยตอบเรียบๆ อี้ชิงขมวดคิ้วเป็นปม เท้าที่ค้างอยู่ตรงบันไดขั้นสุดท้ายค่อยๆถอยกลับขึ้นไปทีละก้าว
“ไฟฉายนายพังแล้วนะเลย์ ” เลย์ เหรอ? มีไม่กี่คนหรอกนะที่จะเรียกเขาแบบนี้ จะมีก็แค่ คนในครอบครัว และก็พี่รหัส
“น..นาย เป็นใคร ตอบมาสักทีสิ!” เสียงใสเอ่ยถามออกไปอีกครั้ง ตอนนี้เขาอยู่บนบันไดขั้นที่ห้าแล้ว คงจะวิ่งทันอยู่ถ้าหากไอนั่น มันจะบุกมาทำร้ายเขา
“ฉันนะเหรอ...อ๊า..ติดสักที” แสงไฟสีส้มฉายสว่างไปทั่วห้อง ใบหน้าที่ก้มวุ่นวายอยู่กับไฟฉายเมื่อครู่เงยหน้าขึ้นสบตาคนที่ยืนสั่นอยู่บนบันไดบ้าน ก่อนจะยกยิ้มให้
“ฉันนะเหรอ ฉันชื่อ คริสเพื่อนสนิทไอซูโฮพี่รหัสนายนั้นแหละ” คนหน้าหวานบนบันได ค่อยๆก้าวลงมาจากบันไดช้าๆ
“ละ..แล้วพี่เข้ามาที่บ้านผมได้ยังไง ทำไมไม่ไปบ้านพี่ซูโฮล่ะ ห่างจากบ้านผมไปสองซอยเองนะ!” ไม่ชอบเลย ไม่ชอบผู้ชายคนนี้เลย ชอบมาทำให้หัวใจเขาเต้นแรง ไม่ชอบเลยจริงๆ!
“โทรไปหามันแล้วมันไม่รับนะ พอดีผ่านซอยบ้านนายพอดีก็เลยจะแวะเข้ามาทัก แต่ฝนมันก็ดันตกลงมาพอดีนะ”
“ผมถามว่าที่เข้ามาได้ยังไง ผมไม่ได้ถามว่าพี่มาบ้านผมทำไม” เขาอยากจะตบปากตัวเอง ทำไมเสียงที่พูดออกไปมันแข็งกระด้างแบบนั้น หึ่ยยย! ไอบ้าจางอี้ชิง
“ก็บ้านมันไม่ได้ล็อค อีกอย่างตอนกำลังจะกดกริ่งก็ได้ยินเสียงร้องตกใจดังพอดีเลยพรวดพราดเข้ามา ว่าจะมาช่วยแต่ไหงกลายเป็นโดนไฟฉายปาหัวแบบนี้ก็ไม่รู้” ทันทีที่ร่างสูงพูดจบ แสงไฟจากกระบอกไฟฉายก็ดับลงพร้อมๆกับสัมผัสอุ่นๆบนหน้าผากของคนตัวเล็กกว่า
“สมน้ำหน้า พี่ดันไม่พูดเองว่าคนไม่ใช่ผี” ดิ้นไปมาในอ้อมแขนแกร่งสักพักก่อนจะนิ่งไป ก็อีกฝ่ายมันไม่ยอมปล่อยเขาไปนินา
“จะมีสักกี่คนที่จะกล้าบุกเข้ามาในบ้านลูกนายทหารแบบนี้” กลิ่นแชมพูอ่อนๆที่คนในอ้อมกอดใช้ประจำลอยแตะจมูกมันทำให้รู้สึกดีจริงๆ
“ปล่อยได้แล้ว เดี๋ยวกระดูกผมหักพี่โดนพ่อผมยิงผมไม่ช่วยหรอกนะ” อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆก่อนจะปล่อยคนในอ้อมแขนออกและจูงมือเล็กฝ่าความมืดขึ้นมาหย่อนตัวลงบนโซฟาตัวยาว
คริสขอยอมรับว่าเขาจำเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ได้ดีกว่าคนข้างๆเสียอีก เขามาบ้านหลังนี้บ่อย ถี่สุดๆก็ช่วงตามจีบคนตัวเล็กนี้แหละ หลังจากจีบติดก็ไม่ได้มาบ่อยเท่าไร ทำไมนะเหรอ ก็นอนค้างที่นี้เลยไง เลยไม่ได้มาบ่อยๆ แต่ค้างบ่อยๆก็เท่านั้น
“พี่จะมาหาผมก็บอกมาเถอะ ไปโยนให้พี่ซูโฮทำไม” เอ่ยขึ้นหลังจากเงียบกันไปสักครู่ ใบหน้าหวานเอียงซบลงกับไหล่หนาก่อนจะหลับตาลง กลิ่นอาฟเตอร์เชฟของผู้ชายคนนี้ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย กลิ่นนี้ กลิ่นที่เขาชอบและเป็นคนเลือก
“ไม่ได้มาหานาย จะไปหาไอซูโฮจริงๆ จะไปเล่นเกมส์กับมัน” ตอบไปพลางมือก็สาละวนอยู่กับกลุ่มผมสีน้ำ
ตาลนุ่มมือไปด้วย
“งั้นพอฝนหยุดตกพี่ก็ไปหาพี่ซูโฮเลยแล้วกันนะ ถ้าไม่อยากเดินยืมรถผมไปก่อนก็ได้” คนฟังอมยิ้มกับคำพูดประชดประชันของคนรักเล็กน้อย ก่อนจะขยี้กลุ่มผมหอมๆนั้นจนยุ่งไปหมด
“พี่! ผมพึ่งสระนะ” เสียงใสหวีดขึ้นอีกครั้ง หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะดึงแขนของคนขี้โวยวายมาพาดลงตัวของตนเอง
“อย่างอนเลยนะ เดี๋ยวพ่อนายมายิงพี่ทำไงล่ะ ไม่มีคนให้กอดแบบนี้ไม่เหงารึไง” ถามถึงกอดแล้วมาจูบเบาๆที่ปากเขาทำไมล่ะเนี่ย
เฮ้ย! ไม่ไหวนะ ชอบทำให้เขินตลอดเลย
“เงียบซะงั้น หลับแล้วรึไง อี้ชิงอ่า” เสียงทุ้มเอ่ยถามเขย่าไหล่เล็กเบาๆ
“เปล่า..ไม่ได้หลับ”
“งั้นเป็นอะไร เงียบไปพี่ก็นึกว่าเราหลับ อากาศยิ่งน่านอนอยู่”
“ก็ไม่ได้เป็นอะไร ก็แค่เขิน พี่ถามผมว่าไม่กลัวเหงาเหรอ แล้วมาจูบผมเนี่ยนะ” อีกคนหัวเราะอีกครั้ง ใบหน้าหวานยู่ลงทันทีที่ได้ยินเสียงหัวเราะจากอีกฝ่าย วันนี้หัวเราะบ่อยเชียวนะ ชิ
“อ้าว เป็นแฟนกันก็ต้องจูบได้สิ”
“รู้แล้วว่าเป็นแฟนกันจูบได้ แต่ถ้าผมติดพี่มากกว่านี้แล้วถ้าวันหนึ่งพี่เกิดอยากทิ้งผมล่ะ ผมไม่ขาดใจตายรึไงกัน” ให้ตายสิ! คริสหลงไอเด็กน่ารักจางอี้ชิงก็ตรงนี้แหละ รู้สึกยังไงก็พูดออกมาหมด ชอบมาก ชอบจริงๆ
“จะทิ้งลงได้ยังไงน่ารักขนาดนี้ อีกอย่างกว่าพี่จะจีบนายติดแทบจะถอดใจไปก่อนซะแล้ว ไม่ทิ้งหรอก ไม่ทิ้งแน่ๆคนนี้”
“..เออก็ดี”
ความมืดภายในตัวห้องหายวับเมื่อแสงไฟสว่างฉายชัดออกมาจากหลอดไฟบนเพดาน คริสหลับตาปี๋เมื่อแสงสว่างที่เกิดขึ้นกะทันหันสะท้อนเข้าตาสักครู่ดวงตาคมค่อยๆลืมขึ้น เหลือมองร่างเล็กในอ้อมกอดก่อนจะเผลอยิ้มออกมา
“หลับอีกแล้วสินะ..” ผมไม่เคยจะมองว่าไอคนตัวเล็กในอ้อมกอดผมน่าเบื่อหรือน่ารำคาญเลยครับ เขานะเป็นคนสำคัญของผมมากจริงๆ และเป็นคนที่ผมรักมากจริงๆ
สายฝนภายนอกยังไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วเบาลงเลยแม้แต่น้อย คริสเหลือบมองคนที่ซบไหล่ตนอยู่ก่อนจะถอนหายใจออกมา
ห้องนอนสีชมพูหวานที่แสนจะคุ้นตา กลิ่นน้ำหอมที่เจ้าของห้องมักจะฉีดใส่ตัวเองทุกเช้าเป็นประจำลอยแฝงแทรกอ่อนๆอยู่ในอากาศ โต๊ะหนังสือที่ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ผ้าห่มบนที่นอนสีเดียวกับตัวห้องพับไว้อย่างเรียบร้อย
คริสค่อยๆปล่อยร่างเล็กของคนที่หลับสนิทลงบนที่นอนอย่างเบามือ ก่อนจะค่อยๆดึงผ้าห่มออกจากการทับของร่างเล็กที่ตนพึ่งวางลงไป แล้วจัดการคลี่ผ้าห่มคลุมให้ ร่างสูงหย่อนตัวนั่งที่ขอบเตียงเบาๆ ดวงตาคมทอดมองไปยังใบหน้าเรียวสวย ดวงตาหวานที่ปิดสนิท ริมฝีปากบางชมพูตัดกับใบหน้าขาวๆอย่างหลงใหล
มือเรียวเอื้อมปัดปอยผมที่ร่วงลงมาปรกหน้าคนหลับออก
‘น่ารักจัง’
ร่างสูงลุกเดินไปยังหน้าต่างห้อง ผ้าม่านถูกรวบม้วนเก็บอย่างเป็นระเบียบ หน้าต่างบานใหญ่เต็มไปด้วยหยดน้ำใสที่เกาะพราว หมอกหนาทึบในอากาศลอยบดบังสิ่งรอบตัว เมฆใหญ่หนาทึบลอยเชื่องช้าอยู่บนท้องฟ้า
“เลย์ครับ เช้าแล้วนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเหนือศีรษะคนรัก
“เลย์..เลย์ครับ” ดวงตาที่หลับอยู่เมื่อครู่ค่อยๆปรือขึ้น ก่อนจะปิดลงอีกครั้งพร้อมร่างเล็กที่พลิกตัวหนีไปอีกด้าน
“คุณแม่ให้มาตามลงไปกินข้าวแล้วนะครับ เลย์ครับ”
“อีก 5 นาทีหรอกนะ อื้อออ” ริมฝีปากสวยขยับเอ่ยก่อนจะเงียบลงเพราะถูกทาบทับด้วยริมฝีปากอุ่นของอีกคน
“อี้ชิงอ่า...ตื่นนะครับคนดี” คริสละริมฝีปากออกก่อนจะเอ่ยแผ่วเบาข้างหูคนรัก แขนเรียวเล็กของเลย์ตวัดขึ้นโอบรอบคอคนที่อยู่ด้านบน ดวงตาสวยปรือปรอยขึ้น ก่อนจะรั้งใบหน้าหล่อของคนรักลงมาจรดริมฝีปากตัวเองลงกับปลายจมูกของคริสแผ่วเบาแล้วผละออก ใบหน้าหวานขึ้นสีเรื่อสะบัดผ้าห่มออกแล้วรีบคว้าผ้าเช็ดตัวสีชมพูหนีเข้าห้องน้ำไป
ส่วนคนโดนจุ๊บนะเหรอ
“น่ารักเกินไปแล้วนะจางอี้ชิง!” เสียงทุ้มตะโกนหยอกคนในห้องน้ำ ใบหน้าหล่อฉาบไปด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างมีความสุข เช่นเดียวกับคนตัวเล็กในห้องน้ำที่ยืนหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจอยู่หน้ากระจก
ความรักของเรานะเหรอ มันเริ่มที่ตรงไหนกันนะ...?
ความคิดเห็น