ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC KRISLAY] Pièce de la Love...

    ลำดับตอนที่ #2 : INTRO

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 56


    De jardin
     

    เสียงหยาดฝนสาดกระเซ็นกระทบบานหน้าต่าง เสียงหวีดหวิวของสายลมที่แสนจะบาดหู  อากาศเย็นๆชื้นๆจากภายนอกแทรกซึมกับช่องว่างเพียงเล็กน้อยที่มีลอยหวิวเข้ามาภายในห้องนอนสีชมพูหวาน  ร่างเล็กที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือของตนอยู่บนที่นอนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะใช้เท้าทั้งสองข้างช่วยกันเขี่ยผ้าห่มสีเดียวกับตัวห้องขึ้นมาห่ม

     

     

                    พรึ่บบบ!!

     

    อ๊ากกกกกกกก !!  เสียงหวีดร้องดังลั่นตัวบ้านที่เงียบสงบอันเกิดจากเสียงฟ้าร้องโครมใหญ่ แสงสว่างแปลบจากท้องฟ้าเป็นเส้นยาว และ ไฟสีส้มอ่อนๆในห้องนอนดับลง อี้ชิงสะดุ้งขึ้นจากที่นอนคว้าไฟฉายจกหัวเตียงมาเปิดและผันตัวออกจากห้อง

     

    ไอฝนบ้า จะตกทำไมนักหนา ไม่รู้รึไงว่าคนไม่โสดแต่แฟนไม่มาหาแบบเขา มันทรมานขนาดไหน เหงานะ!คิดไปด้วยเดินลงจากบันไดบ้านไปด้วย

     

    ทันทีที่เท้าแตะลงที่ปลายบันไดขั้นสุดท้าย แสงสว่างจากหลอดไฟทั้งหมดในตัวบ้านที่คนเป็นแม่เปิดทิ้งไว้ก่อนจะออกไปทำธุระก็สว่างขึ้นและดับลงไปอีกครั้ง

     

    เฮ้ยยยย!!เสียงร้องอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นเป็นครั้งที่สอง และครั้งนี้ก็มีบางสิ่งบางอย่างในมือของเด็กหนุ่มถูกเขวี้ยงออกไป

     

    ปั่กกก!!

     

    โอ้ย!” เสียงอุทานจากคนที่หน้าประตูบ้านสีขาว แสงฟ้าแลบเป็นพักๆฉายให้เห็นร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูกำลังยืนกุมศีรษะของตนอยู่ แม้จะไม่ชัดเจน แต่อี้ชิงก็มั่นใจ ว่ามีคนบุกรุกเข้ามาในบ้านของตน

     

    ใครอ่ะ? เสียงใสที่แฝงไปด้วยความหนักแน่นและหวาดกลัวเอ่ยขึ้น มือข้างที่ถือโทรศัพท์กดลงบนหน้าจอเพื่อ

    ขอแสงสว่างรำไรจากจอนั่น ก่อนจะส่องไปตามทางเดิน  

     

     

    แน่ะ เห็นแค่รองเท้าเองง่ะ

     

     

    พี่เอง เสียงทุ้มเอ่ยตอบเรียบๆ อี้ชิงขมวดคิ้วเป็นปม เท้าที่ค้างอยู่ตรงบันไดขั้นสุดท้ายค่อยๆถอยกลับขึ้นไปทีละก้าว

     

    ไฟฉายนายพังแล้วนะเลย์  เลย์ เหรอ? มีไม่กี่คนหรอกนะที่จะเรียกเขาแบบนี้ จะมีก็แค่ คนในครอบครัว และก็พี่รหัส

     

    น..นาย เป็นใคร ตอบมาสักทีสิ!” เสียงใสเอ่ยถามออกไปอีกครั้ง ตอนนี้เขาอยู่บนบันไดขั้นที่ห้าแล้ว คงจะวิ่งทันอยู่ถ้าหากไอนั่น มันจะบุกมาทำร้ายเขา

     

    ฉันนะเหรอ...อ๊า..ติดสักที แสงไฟสีส้มฉายสว่างไปทั่วห้อง ใบหน้าที่ก้มวุ่นวายอยู่กับไฟฉายเมื่อครู่เงยหน้าขึ้นสบตาคนที่ยืนสั่นอยู่บนบันไดบ้าน ก่อนจะยกยิ้มให้

     

    ฉันนะเหรอ ฉันชื่อ คริสเพื่อนสนิทไอซูโฮพี่รหัสนายนั้นแหละ  คนหน้าหวานบนบันได ค่อยๆก้าวลงมาจากบันไดช้าๆ

     

    ละ..แล้วพี่เข้ามาที่บ้านผมได้ยังไง ทำไมไม่ไปบ้านพี่ซูโฮล่ะ ห่างจากบ้านผมไปสองซอยเองนะ!” ไม่ชอบเลย ไม่ชอบผู้ชายคนนี้เลย ชอบมาทำให้หัวใจเขาเต้นแรง ไม่ชอบเลยจริงๆ!

     

    โทรไปหามันแล้วมันไม่รับนะ พอดีผ่านซอยบ้านนายพอดีก็เลยจะแวะเข้ามาทัก แต่ฝนมันก็ดันตกลงมาพอดีนะ

     

    ผมถามว่าที่เข้ามาได้ยังไง ผมไม่ได้ถามว่าพี่มาบ้านผมทำไม เขาอยากจะตบปากตัวเอง ทำไมเสียงที่พูดออกไปมันแข็งกระด้างแบบนั้น หึ่ยยย! ไอบ้าจางอี้ชิง

     

    ก็บ้านมันไม่ได้ล็อค อีกอย่างตอนกำลังจะกดกริ่งก็ได้ยินเสียงร้องตกใจดังพอดีเลยพรวดพราดเข้ามา ว่าจะมาช่วยแต่ไหงกลายเป็นโดนไฟฉายปาหัวแบบนี้ก็ไม่รู้ ทันทีที่ร่างสูงพูดจบ แสงไฟจากกระบอกไฟฉายก็ดับลงพร้อมๆกับสัมผัสอุ่นๆบนหน้าผากของคนตัวเล็กกว่า

     

    สมน้ำหน้า พี่ดันไม่พูดเองว่าคนไม่ใช่ผี ดิ้นไปมาในอ้อมแขนแกร่งสักพักก่อนจะนิ่งไป ก็อีกฝ่ายมันไม่ยอมปล่อยเขาไปนินา

     

    จะมีสักกี่คนที่จะกล้าบุกเข้ามาในบ้านลูกนายทหารแบบนี้ กลิ่นแชมพูอ่อนๆที่คนในอ้อมกอดใช้ประจำลอยแตะจมูกมันทำให้รู้สึกดีจริงๆ

     

    ปล่อยได้แล้ว เดี๋ยวกระดูกผมหักพี่โดนพ่อผมยิงผมไม่ช่วยหรอกนะ อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆก่อนจะปล่อยคนในอ้อมแขนออกและจูงมือเล็กฝ่าความมืดขึ้นมาหย่อนตัวลงบนโซฟาตัวยาว

     

    คริสขอยอมรับว่าเขาจำเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ได้ดีกว่าคนข้างๆเสียอีก เขามาบ้านหลังนี้บ่อย ถี่สุดๆก็ช่วงตามจีบคนตัวเล็กนี้แหละ หลังจากจีบติดก็ไม่ได้มาบ่อยเท่าไร ทำไมนะเหรอ ก็นอนค้างที่นี้เลยไง เลยไม่ได้มาบ่อยๆ แต่ค้างบ่อยๆก็เท่านั้น

     

    พี่จะมาหาผมก็บอกมาเถอะ ไปโยนให้พี่ซูโฮทำไม  เอ่ยขึ้นหลังจากเงียบกันไปสักครู่ ใบหน้าหวานเอียงซบลงกับไหล่หนาก่อนจะหลับตาลง กลิ่นอาฟเตอร์เชฟของผู้ชายคนนี้ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย กลิ่นนี้ กลิ่นที่เขาชอบและเป็นคนเลือก

     

    ไม่ได้มาหานาย จะไปหาไอซูโฮจริงๆ จะไปเล่นเกมส์กับมัน ตอบไปพลางมือก็สาละวนอยู่กับกลุ่มผมสีน้ำ

    ตาลนุ่มมือไปด้วย

     

    งั้นพอฝนหยุดตกพี่ก็ไปหาพี่ซูโฮเลยแล้วกันนะ ถ้าไม่อยากเดินยืมรถผมไปก่อนก็ได้ คนฟังอมยิ้มกับคำพูดประชดประชันของคนรักเล็กน้อย ก่อนจะขยี้กลุ่มผมหอมๆนั้นจนยุ่งไปหมด

     

    พี่! ผมพึ่งสระนะ เสียงใสหวีดขึ้นอีกครั้ง หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะดึงแขนของคนขี้โวยวายมาพาดลงตัวของตนเอง

     

    อย่างอนเลยนะ  เดี๋ยวพ่อนายมายิงพี่ทำไงล่ะ ไม่มีคนให้กอดแบบนี้ไม่เหงารึไง ถามถึงกอดแล้วมาจูบเบาๆที่ปากเขาทำไมล่ะเนี่ย

     

    เฮ้ย! ไม่ไหวนะ ชอบทำให้เขินตลอดเลย

     

    เงียบซะงั้น หลับแล้วรึไง  อี้ชิงอ่า เสียงทุ้มเอ่ยถามเขย่าไหล่เล็กเบาๆ

     

    เปล่า..ไม่ได้หลับ

     

    งั้นเป็นอะไร เงียบไปพี่ก็นึกว่าเราหลับ อากาศยิ่งน่านอนอยู่

     

    ก็ไม่ได้เป็นอะไร ก็แค่เขิน พี่ถามผมว่าไม่กลัวเหงาเหรอ แล้วมาจูบผมเนี่ยนะ อีกคนหัวเราะอีกครั้ง ใบหน้าหวานยู่ลงทันทีที่ได้ยินเสียงหัวเราะจากอีกฝ่าย วันนี้หัวเราะบ่อยเชียวนะ ชิ

     

    อ้าว เป็นแฟนกันก็ต้องจูบได้สิ

     

    รู้แล้วว่าเป็นแฟนกันจูบได้ แต่ถ้าผมติดพี่มากกว่านี้แล้วถ้าวันหนึ่งพี่เกิดอยากทิ้งผมล่ะ ผมไม่ขาดใจตายรึไงกัน ให้ตายสิ! คริสหลงไอเด็กน่ารักจางอี้ชิงก็ตรงนี้แหละ รู้สึกยังไงก็พูดออกมาหมด ชอบมาก ชอบจริงๆ

     

    จะทิ้งลงได้ยังไงน่ารักขนาดนี้ อีกอย่างกว่าพี่จะจีบนายติดแทบจะถอดใจไปก่อนซะแล้ว ไม่ทิ้งหรอก ไม่ทิ้งแน่ๆคนนี้ 

     

    ..เออก็ดี

     

    ความมืดภายในตัวห้องหายวับเมื่อแสงไฟสว่างฉายชัดออกมาจากหลอดไฟบนเพดาน คริสหลับตาปี๋เมื่อแสงสว่างที่เกิดขึ้นกะทันหันสะท้อนเข้าตาสักครู่ดวงตาคมค่อยๆลืมขึ้น เหลือมองร่างเล็กในอ้อมกอดก่อนจะเผลอยิ้มออกมา

     

    หลับอีกแล้วสินะ..  ผมไม่เคยจะมองว่าไอคนตัวเล็กในอ้อมกอดผมน่าเบื่อหรือน่ารำคาญเลยครับ เขานะเป็นคนสำคัญของผมมากจริงๆ  และเป็นคนที่ผมรักมากจริงๆ  

     

                    สายฝนภายนอกยังไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วเบาลงเลยแม้แต่น้อย คริสเหลือบมองคนที่ซบไหล่ตนอยู่ก่อนจะถอนหายใจออกมา

     

     

     

                    ห้องนอนสีชมพูหวานที่แสนจะคุ้นตา กลิ่นน้ำหอมที่เจ้าของห้องมักจะฉีดใส่ตัวเองทุกเช้าเป็นประจำลอยแฝงแทรกอ่อนๆอยู่ในอากาศ  โต๊ะหนังสือที่ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ผ้าห่มบนที่นอนสีเดียวกับตัวห้องพับไว้อย่างเรียบร้อย

     

                    คริสค่อยๆปล่อยร่างเล็กของคนที่หลับสนิทลงบนที่นอนอย่างเบามือ ก่อนจะค่อยๆดึงผ้าห่มออกจากการทับของร่างเล็กที่ตนพึ่งวางลงไป แล้วจัดการคลี่ผ้าห่มคลุมให้ ร่างสูงหย่อนตัวนั่งที่ขอบเตียงเบาๆ ดวงตาคมทอดมองไปยังใบหน้าเรียวสวย ดวงตาหวานที่ปิดสนิท ริมฝีปากบางชมพูตัดกับใบหน้าขาวๆอย่างหลงใหล

    มือเรียวเอื้อมปัดปอยผมที่ร่วงลงมาปรกหน้าคนหลับออก

     

    น่ารักจัง

     

                    ร่างสูงลุกเดินไปยังหน้าต่างห้อง ผ้าม่านถูกรวบม้วนเก็บอย่างเป็นระเบียบ หน้าต่างบานใหญ่เต็มไปด้วยหยดน้ำใสที่เกาะพราว หมอกหนาทึบในอากาศลอยบดบังสิ่งรอบตัว เมฆใหญ่หนาทึบลอยเชื่องช้าอยู่บนท้องฟ้า

     

    เลย์ครับ เช้าแล้วนะ เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเหนือศีรษะคนรัก

     

    เลย์..เลย์ครับ ดวงตาที่หลับอยู่เมื่อครู่ค่อยๆปรือขึ้น ก่อนจะปิดลงอีกครั้งพร้อมร่างเล็กที่พลิกตัวหนีไปอีกด้าน

     

    คุณแม่ให้มาตามลงไปกินข้าวแล้วนะครับ  เลย์ครับ

     

    อีก 5 นาทีหรอกนะ อื้อออ ริมฝีปากสวยขยับเอ่ยก่อนจะเงียบลงเพราะถูกทาบทับด้วยริมฝีปากอุ่นของอีกคน

     

    อี้ชิงอ่า...ตื่นนะครับคนดี คริสละริมฝีปากออกก่อนจะเอ่ยแผ่วเบาข้างหูคนรัก แขนเรียวเล็กของเลย์ตวัดขึ้นโอบรอบคอคนที่อยู่ด้านบน ดวงตาสวยปรือปรอยขึ้น ก่อนจะรั้งใบหน้าหล่อของคนรักลงมาจรดริมฝีปากตัวเองลงกับปลายจมูกของคริสแผ่วเบาแล้วผละออก ใบหน้าหวานขึ้นสีเรื่อสะบัดผ้าห่มออกแล้วรีบคว้าผ้าเช็ดตัวสีชมพูหนีเข้าห้องน้ำไป

     

    ส่วนคนโดนจุ๊บนะเหรอ

     

    น่ารักเกินไปแล้วนะจางอี้ชิง!” เสียงทุ้มตะโกนหยอกคนในห้องน้ำ ใบหน้าหล่อฉาบไปด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างมีความสุข เช่นเดียวกับคนตัวเล็กในห้องน้ำที่ยืนหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจอยู่หน้ากระจก

     

     

    ความรักของเรานะเหรอ มันเริ่มที่ตรงไหนกันนะ...?


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×