ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic SJ&SNSD ]Dorky Girl ยัยบ้าเอ๊ย! กล้าดียังไงมาทำให้ฉันรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : Dorky Girl : 3 ( 100% )

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 55



     Dorky Girl

    3

                “ นี่คือ...งานที่ฉันต้องทำ? เจสสิก้ายืนจ้องร่างสองร่างที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนโต๊ะไม้เนื้อดี ใบหน้าสวยเรียบตึงจนเรียกได้ว่าถมึงทึงนั่นเอง เธอรู้สึกเหมือนโดนเหยียบย่ำไม่มีชิ้นดีเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ!

               

                การที่ทงเฮพาผู้หญิงมาพลอดรักกันในห้องนี้ ต่อหน้าของเธอ...มันแย่ที่สุด!!!

     

                แต่เจสสิก้าก็ไม่อาจจะแสดงอาการไม่พอใจออกมาได้ เพราะฐานะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการขัดใจลูกชายเจ้าของห้างดัง ผู้ชายอย่างลีทงเฮน่ารังเกียจ น่ารังเกียจมาก!

     

                “ มาแล้วเหรอ...อืม ตอนนี้เธอยังไม่ต้องทำอะไรนอกจากนั่งอยู่ในห้องนี้เฉยๆ จนกว่า...อา...ฉันจะคนน่ารักนี่จะเสร็จ เจสสิก้าทำความเข้าใจกับคำสั่งทันทีโดยอัติโนมัติ มือบางยกขึ้นปิดหูแล้วเริ่มรู้สึกพะอืดพะอมกับการกระทำแสนทุเรศของคนทั้งคู่ ตาคู่สวยหลับปี๋ รับไม่ได้เลยถึงแม้ทงเฮจะทำแบบนี้บ่อยก็ตาม

     

                ทำยังไงดีนะ ทำยังไงถึงจะหลุดพ้น ทำยังไงถึงจะไม่ต้องมานั่งทนมองดูอะไรแบบนี้

     

                เจสสิก้า...เธอมันก็แค่คนจน จะมีอำนาจอะไรไปสู้รบปรบมือกับพวกคนรวยกัน

     

                ยอมรับชะตากรรมงั้นเหรอ? เหอะ! ฉันไม่ยอมโดนรังแกหรอกนะ!

     

                “ อ๊ะ อา ทงเฮ...ทงเฮ

     

                “ อืมมม

     

                “ อา อา อ๊า! ”

     

                ร่างบางผลุบหายเข้าไปในตู้เสื้อผ้าว่างเปล่าของทงเฮอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะปิดประตูตู้เพื่อตัดโลกภายนอกออกไปให้หมด เจสสิก้านั่งคุดคู้ในตู้แคบๆ มืดๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจเบื่อหน่าย เธอรู้ดีแล้วว่า...ไม่เคยเกลียดและขยะแขยงใครได้เท่ากับลีทงเฮเลย!

     

     

               

                แควกกกก แควกกกกกกกก
    !!!!

     

                แปลกจัง วันนี้ยูริอารมณ์ดีผิดปกติล่ะ น้ำตาแทบจะไหลพรากเพราะกลั้นหัวเราะมากเกินไป โอ๊ยย ไม่มีอะไรจะฮากว่านี้อีกแล้ว ประธานชเวที่น่าเกรงขามมีมุมแบบนี้กับคนอื่นเขาเหมือนกันเหรอเนี่ย?

                เศษกระดาษปลิวไปรอบบริเวณจากการถูกฉีกทึ้งซะจนไม่เหลือฉาก ช่างดูเหมือนกับภาพพจน์ของซีวอนที่ถูกรองประธานติ๊งต๊องทำลายป่นปี้!

                วันนี้คงเป็นวันที่สดใสถ้าหากคนทั้งโรงเรียนไม่เอาแต่จ้องมาที่เขาแล้วพากันหัวเราะ พอเห็นคนมุงอยู่ที่บอร์ดประชาสัมพันธ์เท่านั้นแหละความสงสัยในใจก็พลันกระจ่างแจ่มแจ้ง

     

                ภาพของเขาที่นอนกุมซีวอนน้อยอย่างเจ็บปวดเหลือทน...

     

                ยัยควอนยูริ!!!!!!!!!!!!!

     

                “ ไม่มีสมองรึไง!!! ทำไม...ทำไมถึงได้เอารูปนี้ไปติดบอร์ด!! หัวเราะทำบ้าอะไร!! ” ซีวอนโมโหสุดขีดพาลปัดนั่นปัดนี่จนตกกระจายเต็มพื้นไปหมด ประธานมาสุขุมและเย่อหยิ่งกำลังจะกลายเป็นคนมุทะลุและควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว...เพราะควอนยูริ!

     

                “ เดี๋ยวฉันแก้ข่าวให้เองท่านประธาน ฮ่าๆ อุ๊บส์ ฮ่าๆๆ ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าคุณจะทำแบบนั้นจริงๆ มีแค่ฉันที่รู้...ฮ่าๆๆๆๆๆ โอ๊ยย ปวดท้องง่ะ มันน่านัก! ไม่มีความสำนึก ซีวอนกัดฟันแน่นเมื่อร่างของยูริเริ่มทรุดลงไปนั่งกับพื้นเพราะหัวเราะมากเกินไป

     

                เงียบเดี๋ยวนี้นะ!! เธอทำให้ฉันอับอาย เธอไม่ได้ตายดีแน่! ยัยคนน่ารังเกียจ...ชั้นต่ำ คำพูดร้ายกาจที่หลุดออกมาจากปากร่างสูงทำให้ความขบขันของยูริหายไปจนเหลือเพียงแค่ความนิ่งสงบเท่านั้น ริมฝีปากอิ่มกระตุกยิ้มแข็งกร้าว ดวงตาไร้ประกายจนว่างเปล่า

     

                ซีวอนเพิ่มรอยร้าวให้ยูริอีกแล้ว...

     

                ชั้นต่ำ? แล้วคนชั้นต่ำอย่างฉันไม่ใช่คนเหมือนคุณเหรอ...หึ! แค่ชื่อเสียง อำนาจของตระกูลชเวมันจะดีเลิศสักแค่ไหนกันเชียวถ้ามีแต่คนเกลียดคุณน่ะ

     

                “ ครอบครัวของเธอมันสกปรกโสโครกที่สุด! พ่อแม่ของเธอมันสารเลวใช่มั้ยล่ะ ดีแค่ไหนที่เธอยังเสนอหน้าอยู่ในเกาหลีได้ รู้อย่างนี้ครอบครัวฉันน่าจะส่งพวกขอทานอย่างเธอกับพ่อแม่เข้าไปนอนรอความตายอยู่ในคุกซะ!! ” ถ้าหากใครมาได้ยินคำพูดหยาบคายนี้จากปากซีวอนคงจะตกใจไม่น้อยที่ผู้ชายแสนสุขุมถูกเลี้ยงดูมาดีจะเป็นแบบนี้ แต่ไม่ใช่แน่กับยูริ...เธอรับได้ทุกอย่างที่ซัวอนกลั่นแกล้งเธอสารพัด ส่งคนมาดักทำร้ายให้เจ็บตัวกลับบ้านทุกครั้ง แล้วทำไมยูริคนนี้ถึงได้ดูร่าเริงนักล่ะ? ทำไมเธอถึงได้แกล้งซีวอนอย่างมีความสุข? ทำไมถึงได้เข้ามาเรียนในที่ไฮโซแบบนี้?

     

                ถ้ามันไม่ใช่เพราะครอบครัวที่น่ารักของเธอน่ะ

     

                ทำไมจะต้องดูถูกกันด้วยนะ ซีวอนที่เคยยิ้มอบอุ่นให้เธอเมื่ตอนยังเด็กหายไปแล้ว...หายไปตลอดกาล นี่เป็นเหตุผลที่ยูริมักจะบอกให้ซีวอนยิ้ม

     

                เสียใจที่เพื่อนเพียงคนเดียวของเธอในวัยเด็กกลับเชื่อคำพูดของเด็กผู้หญิงที่เขาชอบมากกว่าเพื่อนอย่างเธอ เสียใจที่สุด...

     

                แต่คนที่อยากให้รู้กลับไม่เคยรู้เลย...

     

                “ แล้วทำไมไม่ทำ! คุณน่ะ...คุณไม่เคยเชื่อเพื่อนอย่างฉันเลย! คุณเห็นผู้หญิงคนนั้นสำคัญ คุณเชื่อฟังคำโกหกของเธอ แม้แต่พ่อแม่ของคุณก็หน้ามืดตามัวเชื่อคำพูดของเธอ! ผู้หญิงจอมลวงโลกคนนั้น!! ”

     

                “ ฉันไม่เคยเป็นเพื่อนกับคนชั้นต่ำอย่างเธอ! อย่ามาดูถูกคนรักของฉัน! ”

     

                ความรักทำให้คนตาบอด...เห็นท่าจะจริงด้วยล่ะ

     

                แล้วเธอเคยรักคุณมั้ยล่ะ...

     

                “ ...! ” คำพูดเรียบๆ แต่ทำให้ซีวอนเหมือนโดนไม้ตีหัว ดวงตาแทบจะถลนออกมา ซีวอนรู้ดีเสมอว่าคนที่ตัวเองรักเที่ยวคบกับคนอื่นไปทั่วแม้จะคบอยู่กับเขา คนที่เขารักไม่ได้เก็บครั้งแรกไว้ให้เขาแต่กลับเสียมันให้กับผู้ชายที่เจอกันไม่ถึงชั่วโมงในผับ ปากบอกว่ารักแต่มันไม่มีความจริงใจ ซีวอนยอมเป็นคนโง่มาตลอดเพียงเพราะรัก...รักมาก

                แต่ไม่เคยรู้ว่ายูริจะดูออก...

     

                เธอรู้... ซีวอนยืนนิ่งแข็งเหมือนกับหิน ยูริหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะก้าวถอยหลังไปติดประตู ใบหน้าสะสวยมีรอยยิ้มอ่อนโยนประดับอยู่แต่ทว่า...มันแฝงไปด้วยความสมเพช

     

                อ้อ แน่ล่ะสิคุณชายชเว ฉันน่ะ...ไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกนะ คนอื่นก็ไม่โง่ มีแต่คุณกับครอบครัวของคุณเท่านั้นแหละที่โง่ น่าสงสารนะ...

     

                “ ไม่ต้องมาสงสาร! เธอ...เธอมันตัวอิจฉา เธอไม่พอใจใช่มั้ยที่ใครๆ ก็รักโบรา เธอก็แค่คนไร้ค่าที่ใครๆ ก็พากันมองผ่านเหมือนไม่มีตัวตน ไม่มีใครจะโง่มารักเธอได้หรอก! ”

     

                “ ฉันมันตัวอิจฉานี่นา แค่เสแสร้งนิดหน่อยก็มีคนติดกับแล้วล่ะ งานง่ายๆ ของตัวอิจฉานี่จริงมั้ย? คุณห่วงตัวเองก่อนเถอะ สักวันหัวใจไร้ค่าของคุณอาจจะโดนโบราเหยียบได้นะ

     

                เธอจะต้องโดนดีแน่! ”

     

                ยูริเดินหันหลังออกมาจากตรงนั้นด้วยรอยยิ้มสบายอกสบายใจ ดีแล้วล่ะ คนอย่างชเวซีวอนควรจะเจ็บเองซะบ้าง ผู้ชายหยิ่งยโส...สักวันนายจะต้องเสียใจ

     

                ตอนนี้เธอควรระวังเอาไว้เพราะรู้ตัวดีว่าซีวอนจะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ แน่

     

                เฮ้ออ ขากลับไปซื้ออุปกรณ์ทำแผลมาตุนเผื่อไว้สักหน่อยดีกว่ามั้ง...

     

     

               

                 “ ไอ้หยา! ฮวังมิยอง นายนี่ไปโดนอะไรมาเนี่ยหัวถึงได้แตกยับเยินแบบนี้ ~! ”

     

                อาจารย์คะ ชู่วว อย่าเสียงดังนักสิคะ เดี๋ยวคนอื่นแตกตื่นหมด ทิฟฟานี่รีบตะครุบปากอาจารย์สุดสนิทนามว่าแดซองที่กำลังรับไม่ได้อย่างสุดๆ กับสภาพของเด็กหนุ่มนอนหัวอาบเลือดตรงหน้า อย่าแต่อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทำแผลเถอะ ตอนนี้ทิฟฟานี่เองก็หน้าซีดขาสั่นไปหมด รู้สึกเหมือนอาหารเช้าจะถูกขย้อนออกมาซะเดี๋ยวนี้

     

                อี๊! เลือด...เลือดจริงๆ เลยนี่นา แหวะ! สยองชะมัดเลย

     

                ก็มันแย่จริงนี่! ให้ตายๆๆ ใครกันจะใจคอโหดเหี้ยมขนาดนี้กัน แดซองส่ายหน้าไปมา เด็กสมัยนี้มันถูกเลี้ยงมายังไงกันฟะ พากันเป็นฆาตกรใจโหดกันไปหมด ( อันนี้มากไป )

     

                รีบรักษาคนเจ็บก่อนสิคะอาจารย์ เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง

     

                “ อืม ไปเอาผ้าชุบน้ำกับกะลังใส่น้ำมาซิมิยอง ทิฟฟานี่รีบพุ่งไปยังห้องน้ำอย่างรวดเร็ว คว้าได้อะไรต่อมิอะไรมาเยอะแยะทั้งที่...ไม่จำเป็น

     

                นี่ค่ะ

     

                เฮ้ยยย แล้วเธอขนอะไรออกมามากมายเนี่ย เอาแค่ผ้ากับะละมังใส่น้ำก็พอแล้วเฟ้ยย เอาเถอะๆ เดี๋ยวเราทำแผลลวกๆ ไปก่อน เดี๋ยวฉันจะไปโทรเรียกรถพยาบาลแล้วกันนะ

     

                “ ละ...แล้วผ้ากับกะละมังนี่ทำไงคะ ฉันไม่ทำนะคะ! มันน่ากลัวจะตายไป! ”

     

                ชีวิตคนสำคัญที่สุด! จัดการไปอย่าบ่น! ” ร่างอาจารย์แดซองหายลับไปแล้ว เหลือเพียงแค่ทิฟฟานี่ที่นั่งตัวแข็งทื่อกับคนเจ็บจะตายแหล่ไม่ตายแหล่ ไม่นะ! เธอไม่เคยทำแผลให้ใครเลยสักครั้ง ขนาดพวกเพื่อนๆ รองประธานนักเรียนก็ไม่เคย ~ แล้วแบบนี้มันจะไหวเร้ออออ

     

                ไอ้บ้าเอ๊ยย เราไม่รู้จักกันสักหน่อยยังจะมาสร้างปัญหาให้คนอื่นเขาอีก

     

                สาวสวยใจดี...ก็แค่กับเพื่อนเท่านั้นแหละน้า

     

                มือเรียวบิดผ้าชุบน้ำให้หมาดก่อนจะค่อยๆ แตะลงบนบาดแผลให้เบามากที่สุด ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวเพราะขยะแขยงและกลัวปนกัน ไม่นานนักคราบเลือดก็ค่อยๆ ถูกเช็ดออกจนหมดไปเหลือเพียงใบหน้าขาวใสนอนหลับตานิ่ง แถมยังคุ้นหน้าซะจนต้องเอียงคอมองใกล้ๆ

     

                เห O.o??? หมอนี่มัน...ลี จุนกิ รุ่นน้องสุดป๊อปปูล่านี่นา

     

                เหอะๆ ไปทำอีท่าไหนถึงได้โดนทุ่มจนหัวแตกล่ะเนี่ย?

     

                เอ๊ะ!?! โดนทุ่มเหรอ...แทยอน!!!

     

                ภาพเพื่อนรักตัวเล็กที่นอนอยู่กับพื้นลอยวาบเข้ามาในหัวทันที ทิฟฟานี่ลุกพรวดกำลังจะพุ่งออกจากห้องพยาบาลแต่เสียงครางเจ็บปวดของคนที่นอนสลบอยู่ทำให้ทุกอย่างชะงัก ร่างสวยสง่าหันขวับไปมองอย่างเซ็งๆ

     

                อื้อ...อ่ะ...โอ๊ยยยย

     

                “ นี่นาย! มัวแต่ร้องอยู่ได้ ไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั้ยฮะ? เสียงติดจะห้วนทำให้คนเจ็บเงยหน้าขึ้นมองทันที ดวงตาคมโฉบเฉี่ยวกับใบหน้าหวานอย่างกับผู้หญิงสมกับคำร่ำลือจริงๆ จุนกิปรายตามองรุ่นพี่คนสวยเล็กน้อยก่อนจะเมินหน้าไปทางอื่นเซ็งๆ ทำให้ทิฟฟานี่หน้าตึง

     

                เอ๊ะ ไอ้เด็กบ้านี่! คนอุตส่าห์ถามเพราะเป็นห่วงนะยะ! ไม่มีมารยาท

     

                “ รุ่นพี่...ก็คงสวยแต่หน้าตาสินะ

     

                อ๊ากกกกก ไอ้เด็กเลวววววว!!!!!! กล้าดียังไงมาว่าฉันยะ!!!

     

                “ อกตัญญู! ฉันช่วยนายไว้นะยะ ไม่รู้ป่านนี้เพื่อนฉันจะเป็นยังไงบ้างมันก็เพราะนายคนเดียว อ๊ายยย เดี๋ยวแม่จะเอาแจกันทุ่มให้หัวแตกอีกรอบหรอก! “

     

                “ ผมช่วยผู้หญิงคนนั้น...ผู้หญิงตัวเล็กๆ ผิวขาวน่ะ เธอควรจะมาดูแลผมมากกว่าผู้หญิงสวยแต่นอกแบบคุณนะ ดวงตาเฉี่ยวคมปรายตามองเล็กน้อย ผมช่วยเธอแต่ไม่ได้ให้คุณมาช่วยผมสักหน่อย เธอคนนั้นอยู่ไหนล่ะ? มอนี่มัน...ลี ฮงกิี่ใครๆ ก็รัก อในวัยเด็กกลับเชื่อคำพูดตอนยังเด็กหายไปแล้ว...หายไปตลอดกาล นี่เป็นเหตุผลที่ยูริมักจะบอกให้ซีวอนย ทิฟฟานี่อยากจะกรี๊ดดังๆ ใส่หูไอ้เด็กนี่ให้หนวก ท่าทางชะเง้อชะแง้มองหาเพื่อนของเธอยิ่งทำให้ทิฟฟานี่เอะใจอะไรบางอย่างขึ้นมา

     

                แทยอนน่ะเหรอ?

     

                “ หือ เธอคนนั้นชื่อแทยอนเหรอ

                “ ทำไม...นายชอบเพื่อนฉันรึไงกัน ~ ฉันหวงน้าคนนี้น่ะ เธอแกล้งลากเสียงยาวกวนๆ ไม่โง่หรอกนะ...ดูแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเด็กนี่คิดอะไรกับแทยอนแน่ๆ ฮันแน่ ที่รักของฉันขายออกแล้วเหรอเนี่ย ทิฟฟานี่อมยิ้มน้อยๆ

     

                ก็น่ารักดีนะ คุณเป็นเพื่อนเธอเหรอ งั้นผมขอฝากตัวด้วยละกันนะ เพราะต่อไปนี้คุณจะต้องได้เจอผมบ่อยขึ้นแน่นอน ผมลีจุนกิ เด็กหนุ่มหน้าหวานเหมือนผู้หญิงยื่นมาออกมาตรงหน้าและมีเหรอที่ทิฟฟานี่จะไม่รับไมตรีนั้น ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มที่ทั้งน่ามองและเจ้าเล่ห์ไปในเวลาเดียวกัน

     

                แน่นอนลีจุนกิ อย่างน้อยถ้านายจะดึงแทยอนออกมาจากไอ้ประธานบ้าดีเดือดนั่นได้น่ะนะ

     

                รอดูความสนุกได้เลย...หุ หุ


        เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เจสสิก้านั่งถอนหายใจเงียบๆ ในตู้เสื้อผ้าอันคับแคบนี้ ไม่ว่าจะเงี่ยหูชิดประตูตู้กี่ครั้งบทรักอันร้อนแรงก็ดูท่าว่าจะไม่จบง่ายๆ ใบหน้าสวยบูดบึ้งและหงุดหงิดกับเหตุผลงี่เง่าที่ทำให้เธอต้องขาดเรียน

     

                โดดไปกี่คาบแล้วเนี่ย เฮ้ออ ไม่ได้พกนาฬิกาซะด้วยสิ

     

                ไม่นานนักแต่เจสสิก้าแทบระเบิดตัวเองเสียงนั้นก็หยุดลง หยุดจนได้! ร่างบางลุกขึ้นก่อนจะเปิดประตูตู้แต่คนข้างนอกกลับเร็วกว่า...

                ร่างเปลือยท่อนบนของประธานลีทำให้เจสสิก้าหันหน้าหนีคอแทบเคล็ด ตัวต้นเหตุหัวเราะน้อยๆ แล้วแกล้งขยับเข้าใกล้ร่างบางอีกหน่อย

     

                ไม่หวั่นไหวก็ให้มันรู้ไปสิ เจสสิก้าจองก็ไม่ได้วิเศษวิโสมาจากไหนนี่

     

                เธอนี่ซื่อสัตย์ดีจังเลยนะ ยิ้มกวนอารมณ์ เจสสิก้าหันขวับมาจ้องหน้าเคืองๆ

     

                ฉันไม่ใช่หมานะคะ

     

                “ แล้วสนใจมาเป็นหมาของฉันมั้ยล่ะ? ทงเฮขยับเข้าโอบเอวบางหน้าด้านๆ เจสสิก้าขืนตัวออกเล็กน้อยพลางเบือนหน้าหนี นอกจากจะไม่ยอมใส่เสื้อแล้วยังไม่ยอมอาบน้ำหลังจากเสร็จกิจกรรมอย่างว่าด้วย! กลิ่นคาวจากตัวทงเฮมันน่าสะอิดสะเอียนจริงๆ ให้ตายสิ...

     

                ไม่! ปล่อยฉันเถอะค่ะ ท่าทางลุกลี้ลุกลนราวกับรังเกียจเขาเต็มแก่ เจสสิก้าไม่เคยเป็นแบบนี้ไม่ว่าทงเฮจะถือวิสาสะสัมผัสร่างบอบบางมากแค่ไหนก็ตาม แต่ครั้งนี้กลับทั้งผลักทั้งดิ้น ทงเฮขมวดคิ้วเล็กน้อยกับความผิดปกตินี้

     

                เฮ้ ปกติเธอไม่เป็นแบบนี้นี่

     

                “ ปล่อยฉันก่อน! ฉันเหม็นจะตายอยู่แล้ว! ”

     

                “ เหม็น?

     

                “ ปล่อย! ” ร่างบางเริ่มตะโกนเสียงดังจนทงเฮต้องคลายอ้อมกอดออกงงๆ ร่างสูงมองคนตรงหน้าที่ตอนนี้เอาแต่สูดลมหายใจเข้าปอดยกใหญ่อย่างสงสัย พลางก้มสำรวจตัวเองบ้าง น้ำสีขาวขุ่นจากกิจกรรมรักเมื่อชั่วครู่เปรอะเปื้อนบนหน้าท้องแกร่ง แม้แต่เจ้าตัวก็กำลังมารู้

     

                อื้อหือ นี่ถ้ายัยนั่นที่ทำเลอะบนตัวเขาแบบนี้อยู่ที่นี่ด้วยมีเคลียร์ยาว!

     

                กล้าดียังไงมาทำให้เขาเลอะ บ้าเอ๊ย!

     

                “ ฉันว่าฉันต้องเข้าเรียนแล้วล่ะ คุณเองก็จัดการตัวเองให้เรียบร้อยนะคะ ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีซะบ้างไม่ใช่เอาแต่...ฉันไปก่อนนะคะ

     

                “ เดี๋ยวสิ! ฉันเรียกเธอมาทำความสะอาดคราบบนโต๊ะนั่นต่างหาก

     

                “ ไม่ค่ะ

     

                “ เจสสิก้า! เฮ้! ยัยบ้าเอ๊ยยยยย เจสสิก้ากลับก้าวฉับๆ ออกจากห้องไปโดยไม่หันมามองทงเฮอีกเลย คนถูกเมินเลยได้แต่โวยวายคนเดียวอย่างขัดใจ

     

                ในห้องเรียน

     

                สิก้า ~ เธอหายไปไหนมาเนี่ย นี่มันคาบสองแล้วนะ ยูริรีบดึงเจสสิก้ามานั่งอย่างแนบเนียนรอดพ้นจากสายตาอาจารย์หน้าห้อง เจสสิก้าทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะหยิบสมุดมาจดเนื้อหา ไม่คิดที่จะตอบคำถามเพื่อนแม้แต่น้อย

     

                ยูรินี่ยังไง ถามมันประจำแล้วได้คำตอบแบบเดิมๆ ยังจะถามมันอยู่อีกเหรอ...

     

                ก็ไม่พ้นเรื่องอีตาประธานลีลามกนั่นน่ะแหละน่า

     

                อารมณ์เสียอีกแล้ว นี่แทยอนกับฟานี่ก็ยังไม่มาเลย คนพวกนั้นช่างร้ายกาจ...อ่า ชีวิตของทุกคนไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว ยูริก้มหน้าก้มตาพูดงึมงำในลำคอ แต่เจสสิก้าเห็นด้วยเป็นที่สุด!

     

                “ อืม ร้ายกาจมาก

     

                “ เห็นมั้ยล่ะ! ฉันทนไปได้ยังไงเนี่ย คนบ้าอำนาจพวกนั้นน่าจะโดนโค่นล้มนะ

     

                “ ตั้งใจเรียนเหอะน่า

     

                “ สิก้าอ่า

     

                ขืนปล่อยให้พูดมากกว่านี้มีหวังโดนเฉดหัวไปยืนนอกห้องแน่ เพราะฉะนั้นเงียบไปเลยนะเพื่อนรัก! ฉันต้องการเรียนเพื่อยัยยั้งความคิดสาปแช่งประธานลีนั่น

     

                อืม ประธานลีทงเฮ จงหายไปจากโลกใบนี้ซะ!!!

     

     

               
                 “ นั่นเธอจะไปไหนน่ะ คยูฮยอนมองคนตัวเล็กตาขวางเมื่อแทยอนลุกขึ้นทุลักทุเล มือกุมท้องไว้แน่นเพื่อบรรเทาความเจ็บ หลังจากที่คยูฮยอนทายาให้แล้วเขาก็บังคับให้เธอนั่งอยู่เฉยๆ ไปก่อนสักพัก แต่ว่านอกจากรอยช้ำที่ท้องจะไม่หายเจ็บแล้วมันยังเจ็บขึ้นมากกว่าเดิมและช้ำอีก ขยับนิดขยับน้ำตาแทบเล็ดแน่ะ

     

                “ ฉันต้องไปเรียน ท่านประธานก็ควรไปเรียนได้แล้วนะคะ จะมามัวนั่งอยู่เฉยๆ ในห้องนี้ไม่ได้นะคะ อา...เจ็บจัง แล้วก็ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยทายาให้ฉัน บุญคุณครั้งนี้ฉันสาบานว่าจะทำดีกับท่านประธานให้มากขึ้นกว่าเดิมอีก

     

                พูดได้มากเหมือนเดิม...

     

                ไม่ต้องไปก็ได้น่า ฉันเป็นใครทุกคนรู้ดี ไม่ว่าใครหน้าไหนมันกล้าขัดก็เจอดีแน่ เธอจะกลัวอะไรฮะ!? ” คยูฮยอนพูดฉุนๆ เจ็บขนาดนี้ ( เพราะใครล่ะ ) ยังจะกระเสือกกระสนไปเรียนอีก

     

                ก็เพราะทุกคนรู้ว่าฉันเป็นแค่นักเรียนจนๆ ที่โชคดี๊โชคดีได้เข้ามาเรียนที่นี่ รู้ว่าฉันไม่มีปัญญาไปสู้ใครเขาได้และฉันก็รู้ดีด้วยว่าถ้าเกรดฉันตกเมื่อไหร่...ฉันจะโดนเด้งค่ะ เพราะฉะนั้นฉันยอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้ ฉันรู้ว่าคุณไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจต่อไปนั่นแหละค่ะดีแล้ว ใช่สิ มองคยูฮยอนแล้วหันกลับมามองตัวเองทีไรมันช่างต่างกับไม่มีที่ติ เด็กสาวจนๆ แสนธรรมดาทำงานเอาเป็นเอาตายกับคุณชายที่ถูกเลี้ยงสุขสบายในบ้านหลังโต ไม่มีอะไรรันทดกว่านี้อีกแล้วมั้ง

     

                ไม่แปลกเลยสักนิดที่ท่านประธานไม่ชอบฉัน

     

                อยากรวยมั้ยล่ะ ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ งานสบายๆ ก็มีตั้งเยอะแยะนี่ ทำงานในผับ ในซ่อง หรือขายตัว แค่นี้เธอก็มีกินมีใช้แล้ว

     

                “ ...!?! ” แทยอนนิ่งอึ้ง ดวงตากลมเบิกกว้างทั้งรู้สึกเสียใจ ผิดหวัง และน้อยใจ ครั้งนี้คำพูดของร่างสูงมันเหมือนจะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิงความเป็นคนจนแหลกละเอียด ทุกครั้งที่คำพูดร้ายกาจหลุดออกมาแทยอนก็รับมันได้ แต่ว่าครั้งนี้...ร่างเล็กกลับทนไม่ได้ ไม่ไหว...

                แทยอนยืนนิ่งค้างราวกับถูกสาปให้เป็นหิน ใบหน้าร้ายกาจยังคงแสยะยิ้มเหมือนจะตอกย้ำให้รู้ว่า

     

                คิม แทยอน ช่างไร้ค่า...

     

                ไม่หนักหนาไปหรอกสำหรับคนอย่างเธอ ก็แค่...เอาตัวเข้าแลก แลกกับเงินก้อนโตในคืนเดียวเลยนะ อืมม ฉันเสนอให้เอามั้ยล่ะ ฉันน่ะมีเพื่อนชอบสเป็คแบบเธอเยอะแยะเลย หรือว่าเธอจะบริการให้ฉันคนแรกดีล่ะ...ฉันน่ะจ่ายไม่อั้นนะ หึ หึ

     

                พอเถอะ คิมแทยอนไม่มีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมล่ะ...

     

                คิมแทยอนคนไร้ค่าก็มีหัวใจนะ แล้วตอนนี้มันก็เจ็บปวดมากด้วย...

     

                พอเถอะ ก่อนที่คิมแทยอนจะทนไม่ไหว

     

                ก็แค่หยุด...

     

                ฉัน...ไม่เป็นไรค่ะ...ขอบคุณ... ร่างเล็กสั่นเทิ้มไม่อาจควบคุมได้ ริมฝีปากอิ่มเม้มเป็นเส้นตรงแม้แต่ดวงตาที่สดใสกลับหม่นหมองลงถนัดตา ใบหน้าขาวซีดไร้สีเลือด

                หึ! ฉันอุตส่าห์หวังดีจะช่วยคนจนๆ อย่างเธอให้มีเงินไว้ใช้จ่ายสักหน่อย ทำไมถึงปฏิเสธล่ะ? จะอวดดีไปถึงไหน ถึงตอนนี้เธอจะอวดดียังไงสุดท้ายแล้วเธอก็จะเป็นแค่หมาจนตรอก ร่างกายมอมแมมของเธอน่ะราคาไม่สูงเท่าไหร่หรอกมั้ง จะถึงหมื่นวอนรึเปล่าเนี่ย

     

                หยุดเถอะ...ได้โปรด

     

                ทำไมคุณถึงเกลียดฉันนักล่ะคะ...ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้มีค่าอะไรขนาดนั้น แต่ว่าฉันก็ไม่ได้ขอร้องให้คุณมาช่วยเหลือนี่ ทุกวันนี้ฉันก็มีความสุขดีอยู่แล้ว คุณไม่ต้องพยายามยัดเยียดอะไรแบบนี้ให้หรอก...ฉันไม่เคยต้องการเลย

     

                “ เก่งจริงนะ...รองประธานสุดเก่ง เหอะ! สักวันเธอจะต้องหมดหนทางจนดิ้นรนมาขอความช่วยเหลือจากฉัน วันนั้นคงเป็นวันที่เธอน่าสมเพชมากที่สุด

     

                “ คุณจะบีบบังคับให้ฉันทำสินะ เด็ก...

     

                “ อะไรนะ! เธอว่าใครเด็ก! ”

     

                “ ...

     

                “ ยัยคนไร้ค่า!!! เธอรนหาที่เองนะ ได้!! ต่อจากนี้ไปเตรียมตัวรับของขวัญจากฉันได้เลย!! ”

     

                เจ้าชายในโลกแห่งความจริงเป็นอย่างนี้เหรอ?

     

                ช่วยดึงฉันเข้าไปในความฝันหน่อยได้มั้ย... 



                ร่างเล็กที่ปกติจะกึ่งเดินกึ่งกระโดดลากขาตัวเองไปข้างหน้าเอื่อยเฉื่อย คาบแรกเธอเข้าเรียนไม่ทันแล้วเลยได้แต่รอไปอีกยี่สิบนาทีก่อนที่จะเข้าเรียนคาบสอง ใบหน้าน่ารักดูหม่นหมองกว่าทุกวันแม้ว่าคำพูดร้ายกาจแบบนั้นคยูฮยอนก็มักจะใช้มันกับเธอทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันมากเกินไปนี่นา...ทำเหมือนกับว่าเธอจนตรอกจนต้องถึงขนาดขายตัวยังงั้น ไม่มีทางซะหรอกน่า...ถึงคิมแทยอนจะจนแสนจนแต่ก็ไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอก!

     

                เฮอะ! พวกคนรวย คิดว่าตัวเองมีอำนาจล้นฟ้ารึไง คนไม่มีเงินต้องโดนเหยียบย่ำรึไง

     

                แค่รอฉันเรียนจบ ฉันจะหางานทำเอาให้รวยกว่าคุณเลยคอยดู!

     

                แทยอนพาลรู้สึกเศร้ามากกว่าเดิมเมื่อหวนนึกถึงเรื่องเก่าๆ เรื่องไม่น่าจะจำกลับจำได้อย่างเหลือเชื่อ คนตัวเล็กเงยหน้ามองฟ้าสีสว่างก่อนจะยกมือขึ้นมาบังแสงแดดแล้วยืนมองอยู่อย่างนั้น โดยไม่มีทางรู้ตัวเลยว่ามีสายตามากกว่าหนึ่งคู่เฝ้ามองและจับจ้อง...

                คนตัวเล็กหน้าตามอมแมมแต่กลับดูน่ารักน่าชัง ผิวขาวสว่างยามต้องแดดยามสายมันช่างสพท้อนแสงเปล่งประกายราวกับว่ามีออร่าแผ่ออกมาจากร่างเล็กๆ นั่น ผมสีน้ำตาลประกายทองก็ดูส่องแสง รอยยิ้มเจือจางบนใบหน้าดึงดูดสายตามากจริงๆ

                ร่างสูงสองคนมองภาพนั้นตาไม่กระพริบ คนหนึ่งยืนมองมาจากบนตึกสูงแม้จะอยู่ไกลกว่าแต่กลับเห็นภาพนั้นชัดเจน ราวกับคนตัวเล็กเป็นเทพธิดาตัวน้อยๆ แต่บางสิ่งกลับทำให้ร่างสูงเปลี่ยนไปมองคนตัวเล็กด้วยใบหน้านิ่งเรียบ สายตาว่างเปล่า

     

                คิมแทยอน...ล้อเล่นกับฉันขนาดนี้ เธอคงไม่มีความสุขง่ายๆ แน่

     

                แทยอน! ” เสียงเรียกอันคุ้นเคยทำให้เธอหันไปมองทันที รอยยิ้มฉีกกว้างแทบจะลืมความหม่นหมองไปจนหมดสิ้น ทิฟฟานี่กะจะขึ้นไปหาแทยอนที่ห้องประธานบ้าเลือดนั่นแต่ดันมาเจอเพื่อนตัวเล็กของเธอกำลังยืนมองฟ้าอยู่นี่สิ ร่างสูงสง่าก้าวพรวดๆ เข้าไปกอดเพื่อนเบาๆ ราวกับกลัวว่าเพื่อนจะเจ็บ แทยอนกอดตัวด้วยความเต็มใจ

     

                เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ขอโทษนะที่ฉันไม่ช่วยเธอ ไม่โกรธฉันนะ...ที่รัก อย่าโกรธฉันนะ น้า ~ ฟานี่คนนี้ผิดไปแล้ว ประธานนั่นไม่ได้ทำอะไรบ้าๆ กับเธอใช่มั้ย

     

                “ ก็...พูดจาร้ายกาจเหมือนเดิมน่ะแหละ ฉันไม่อยากจะจำเท่าไหร่หรอก ฉันเหนื่อยมากๆ เลยล่ะ สงสัยเย็นนี้ต้องไปโบสถ์หน่อยล่ะ แทยอนพูดเสียงเนือยๆ ซบหน้าลงกับไหล่ทิฟฟานี่แล้วถูไถไปมาดูเหมือนคนช่างอ้อน

     

                ผู้ชายบ้าอะไรปากเสียที่สุดเลย! อย่าไปยอมหมอนั่นมากนะแท

     

                “ ฟานี่...นั่นใครน่ะ? ดูเหมือนว่าแทยอนจะไม่ได้สนใจฟังสิ่งที่เธอตักเตือนสักเท่าไหร่ แต่กลับมองไปยังผู้ชายหน้าหวานคนหนึ่ง คนที่ทิฟฟานี่เองก็ลืมไปเลยว่าเขาตามมาด้วย คนสวยกรอกตามองฟ้าอย่างหงุดหงิด เธอรำคาญเจ้าเด็กนี่จะแย่! เอาแต่ถามเรื่องแทยอนไม่หยุดแถมยังเอาแต่พล่ามบ้าบอไร้สาระเกี่ยวกับรักแรกพบอะไรนั่นอีก เพื่อแผนการบางอย่างที่พลาดไม่ได้เธอจึงจำใจต้องดึงรุ่นน้องหน้าหวานมาแนะนำตัว

     

                แท...นี่รุ่นน้องฉันเอง ชื่อลีจุนกิ...

     

                “ เอ๋ ลีจุนกิเหรอ? ชื่อคุ้นๆ นะว่ามั้ย ท่าเกาคางนั่นน่ารักเป็นบ้า! จุนกิอย่างจะขอเป็นแฟนซะตอนนี้ไปเลยด้วยซ้ำ ทิฟฟานี่ปรายตามองรุ่นน้องที่มองแทยอนตาหวานเยิ้มเหยียดๆ

     

                ไม่หรอกมั้งแท ก็คงเป็นแค่เด็กผู้ชายทั่วไปนั่นแหละ ท่าทางก็ดูยังกับผู้หญิง

     

                “ พี่ฮะ...ผมโตแล้วนะ จุนกิทำท่าเขินได้อย่างน่ารักทีเดียวถ้าไม่ติดที่ว่าทิฟฟานี่ดูออก...ไอ้เด็กนี่มันเสแสร้งชัดๆ! แก้มใสขึ้นสีเรื่อหน่อยๆ ดูใสซื่อราวกับเด็กน้อยร้ายเดียงสา ทำเอารุ่นพี่คนสวยอยากจะพุ่งเข้าไปบีบคอให้ตาย เซ้นท์ดูคนของทิฟฟานี่ไม่พลาดอยู่แล้ว ได้คุยกันไปหน่อยเธอก็พอจะรู้ได้ว่าลีจุนกิต้องไม่ใช่เด็กน่ารักอย่างที่แสดงออกเป็นแน่ แต่คงจะร้ายลึก

     

                เฮอะ! แอ๊บแบ๊วเข้าไปเถอะย่ะ อย่างแทยอนคงไม่มองเด็กแบบนายหรอก

     

                แทยอนน่ะชอบผู้ชายที่เหนือกว่าตัวเองทุกด้านต่างหากล่ะ! แอ๊บแบบนี้คงจีบติดหรอก

     

                แล้วพวกเธอสองคนไปรู้จักกันได้ยังไงล่ะ เอ๊ะ แต่นายก็หน้าคุ้นๆ นะ เราเคยเจอกันมั้ย

     

                “ น่าน้อยใจจังเลยนะครับ ทั้งที่เมื่อไม่ถึงชั่วโมงมานี้...ผมเพิ่งจะช่วยพี่เอาไว้แท้ๆ จุนกิเอ่ยเสียงเศร้า หน้าหวานนั้นดูสลดวูบจนแทยอนรู้สึกว่าตัวเองความจำสั้นเกินไปแล้วจริงๆ ร่างเล็กขยับเข้ากระซิบกับเพื่อนสาว

     

                ฟานี่ เด็กนี่มาช่วยฉันตอนไหนอ่ะ

     

                “ ก็ตอนที่เธอจะโดนประธานโจวทุ่มแจกันใส่ไง! ”

     

                “ ฮะ!?! เฮ้ยยย ฉันจำได้แล้ว! เอ่อ...จุนกิ! ขะ...ขอโทษนะที่ฉันดันจำผู้มีพระคุณไม่ได้ ตอนนี้ฉันจำได้แล้ว...ขอบคุณนะ นายเป็นคนดีจังเลย รอยยิ้มน่ารักๆ จากรุ่นพี่ที่แอบชอบทำให้หนุ่มน้อยหน้าหวานยิ้มกว้างทันทีไม่เหลือร่องรอยความเศร้าแม้แต่น้อย

     

                พี่จำผมได้แล้ว

     

                “ อื้ม ตอนนั้นฉันตกใจน่ะก็เลยไม่ได้จดจำมากเท่าไหร่ ฉันขอบคุณนายมากเลยนะ

     

                “ อยากขอบคุณผมเหรอครับ อืมม งั้นเลี้ยงไอติมผมตอนเย็นนี้สิครับ! รับรองว่าผมจะหายโกรธพี่เลย แล้วก็จะทำตัวเป็นเด็กดีกับพี่ครับ ทิฟฟานี่ถึงกับขมวดคิ้วฉับ แต่คิดไปคิดมาเป็นเธอเองนี่นาที่คิดจะเอาเด็กนี่มาใกล้แทยอน แหม...รุกเร็วขนาดนี้ทำเอาเธอเหวอไปเลย

     

                เลี้ยงไอติมเหรอ? อ๊า...อืมม ก็ได้ วันนี้มีงานไม่มากเท่าไหร่ ไปกินแป๊บเดียวเองเนอะ

     

                “ เอามือถือพี่มาสิครับ ผมจะโทรหาพี่เอง

     

                “ หา? ต้องแลกเบอร์ด้วยเหรอ...

     

                “ ต้องแลกสิครับ มันสำคัญมากเลยนะ เผื่อผมต้องปรึกษาอะไรกับพี่ไงครับ พี่เป็นรองประธานนี่นา

     

                แค่กินไอติมเนี่ยนะ? ในมือถือของฉันยังมีเบอร์ไม่ถึงสิบเลยด้วยซ้ำอ่ะ

     

                มันยุ่งยากไปมั้ย ก็แค่นัดสถานที่กันก็พอแล้วนี่ ไม่จำเป็นอะไรที่จะต้องแลกเบอร์พร่ำเพรื่อนะ ในโทรศัพท์ของแทยอนมีแต่เบอร์ คนสำคัญและสนิท ด้วยเท่านั้นแหละ ทิฟฟานี่เปรยขึ้นเสียงดังฟังชัด ดวงตาจิกกัดเด็กหนุ่มอย่างเปิดเผย จุนกิจ้องรุ่นพี่คนสวยอย่างขุ่นเคืองไม่น้อยเหมือนกัน ทั้งที่บอกว่าจะช่วยแต่ไหงกลับลำแบบนี้

     

                งั้นก็ยิ่งสมควรมากๆ เลยล่ะครับ เพราะผมมักจะถูกคนอื่นรังแกประจำเลย ผมสู้เขาไม่ได้เลยฮะ ผมคงอ่อนแอเกินไป...ผมไม่ควรจะมารบกวนพวกพี่ใช่มั้ยครับ?

     

                เหลือเชื่อ...ทั้งที่เสแสร้งแต่กลับเนียบเนียนจนจับไม่ได้

     

                ทั้งสายตา ท่าทาง ทุกอย่างดูสมจริงไปหมดจนน่าทึ่ง

     

                ลีจุนกิ นายไม่ใช่คนธรรมดาๆ สินะ

     

                เปล่านะ! เปล่าเลย โธ่...นี่นายโดนรังแกทำไมไม่มาแจ้งพวกฉันแต่แรกเลยล่ะ แทยอนพอได้ยินดังนั้นก็รีบลูบหลังแกร่งเป็นเชิงปลอบใจ ยิ่งทำให้จุนกิได้ใจเข้าไปใหญ่

     

                พี่ครับ...ช่วยผมด้วย คนพวกนั้นจะรังแกผม

     

                “ ไม่เป็นไร นายต้องมีเบอร์พวกฉันเอาไว้นะ เอามือถือมานี่ จุนกิยื่นมือถือให้ง่ายดาย สายตาจับจ้องคนตัวเล็กกำลังกดเบอร์เอาเป็นเอาตายอย่างสบายใจ ใบหน้าหวานหันมายกยิ้มให้ทิฟฟานี่กวนๆ ริมฝีปากขยับไม่มีเสียง

     

                ผมเจ๋งใช่มั้ยล่ะ

     

                มือเรียวเอื้อมไปดึงรุ่นน้องหน้าหวานเข้ามาใกล้ก่อนจะหรี่ตามองจับผิดโดยที่จุนกิยิ้มกวนอารมณ์แตกต่างกับรอยยิ้มหวานให้แทยอนสิ้นเชิง

     

                นายน่ะ...ไม่ใช่แค่ลีจุนกิเด็กหนุ่มธรรมดาหรอกใช่มั้ย

     

                “ ผมคือลีจุนกิ

                “ นายมีเบื้องหลัง ใบหน้าสวยเฉี่ยวอยู่ห่างไม่มากเท่าไหร่นัก แต่จุนกิยังคงกล้ายื่นหน้าไปใกล้ทิฟฟานี่อีกหน่อย

     

                รู้มากเกินไปก็ไม่ดีนะครับ...ทางที่ดีพี่ควรจะอยู่เฉยๆ ดีกว่าน่า

     

                “ แทยอนน่ะ...ของฉัน! ”

     

                พี่ชอบผู้หญิง?

     

                “ รู้มากไปก็ไม่ดีนะ หึ! ” ทิฟฟานี่ผละออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับแทยอนที่เงยหน้าขึ้นมาพอดี เธอยื่นมือถือคืนให้จุนกิด้วยรอยยิ้ม จุนกิยิ้มตอบแต่ไม่วายเหล่มองรุ่นพี่อีกคนที่ตอนนี้เข้าไปสวมกอดร่างเล็กของว่าที่คนรักของเขาเรียบร้อยแล้ว

     

                จะว่าไงล่ะ...ฟานี่ไม่ได้ชอบผู้หญิงหรอก แต่เธอหวงเพื่อนน่ะ

     

                เรียบร้อยแล้วจุนกิ เดี๋ยวเย็นนี้ฉันจะพาไปเลี้ยงไอติมปลอบใจนะ โอ๊ะ! ต้องเข้าเรียนคาบสองแล้วล่ะฟานี่ ไปเร็ว! ” สองสาวผลุนผลันออกไปทิ้งให้หนุ่มน้อยหน้าหวานยืนมองตามด้วยสายตายากคาดเดา อย่างแรก...เขาคิดว่าแทยอนช่างน่ารักซะจริง ประธานโจวช่างน่าอิจฉาที่มีคนน่ารักคอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆ แทบทั้งวันแบบนั้น อย่างที่สอง...ทิฟฟานี่ หึ หึ ผู้หญิงคนนี้ฉลาดเอาการ และอาจจะเป็นอุปสรรคชิ้นสำคัญแต่ถ้าขาดไปแผนการครอบครองคนตัวเล็กก็ไม่อาจสำเร็จ

     

                ทำให้เธอเชื่องก่อนดีมั้ยทิฟฟานี่...


     

               

    TBC. 100%


    Talk :
    โอ้ววว อัพช้ามากมายเลยใช่ม้ายยยย >w<
    อยากจะบอกว่าเน็ตเค้าอาจจะไม่โดนตัดแล้ววววว
    แต่อดเสียวสันหลังไม่ได้ -_-

    มาแนวดราม่านิดนึง -.,- บางคนอาจจะ เฮ้ยย ตอนแรกๆ ยังฮาๆ อยู่เลยนี่หว่า
    นั่นสิเนอะ ตอนแรกกะจะแต่งเอาฮา ไรต์เตอร์ำไม่รู้อ่ะ! ยังไงก็ฮาปนดราม่าไปแล้วกัน

    ประกาศ!!! พระรองชื่อ ' ลี จุนกิ ' นะจ้ะ บางคนอาจจะสับสน 555+

    อยากให้เรื่องนี้มี NC ม้ายยยยยย

     

                



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×