คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Dorky Girl : 3 ( 100% )
Dorky Girl
3
“ นี่คือ...งานที่ฉันต้องทำ? ” เจสสิก้ายืนจ้องร่างสองร่างที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนโต๊ะไม้เนื้อดี ใบหน้าสวยเรียบตึงจนเรียกได้ว่าถมึงทึงนั่นเอง เธอรู้สึกเหมือนโดนเหยียบย่ำไม่มีชิ้นดีเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ!
การที่ทงเฮพาผู้หญิงมาพลอดรักกันในห้องนี้ ต่อหน้าของเธอ...มันแย่ที่สุด!!!
แต่เจสสิก้าก็ไม่อาจจะแสดงอาการไม่พอใจออกมาได้ เพราะฐานะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการขัดใจลูกชายเจ้าของห้างดัง ผู้ชายอย่างลีทงเฮน่ารังเกียจ น่ารังเกียจมาก!
“ มาแล้วเหรอ...อืม ตอนนี้เธอยังไม่ต้องทำอะไรนอกจากนั่งอยู่ในห้องนี้เฉยๆ จนกว่า...อา...ฉันจะคนน่ารักนี่จะเสร็จ ” เจสสิก้าทำความเข้าใจกับคำสั่งทันทีโดยอัติโนมัติ มือบางยกขึ้นปิดหูแล้วเริ่มรู้สึกพะอืดพะอมกับการกระทำแสนทุเรศของคนทั้งคู่ ตาคู่สวยหลับปี๋ รับไม่ได้เลยถึงแม้ทงเฮจะทำแบบนี้บ่อยก็ตาม
ทำยังไงดีนะ ทำยังไงถึงจะหลุดพ้น ทำยังไงถึงจะไม่ต้องมานั่งทนมองดูอะไรแบบนี้
เจสสิก้า...เธอมันก็แค่คนจน จะมีอำนาจอะไรไปสู้รบปรบมือกับพวกคนรวยกัน
ยอมรับชะตากรรมงั้นเหรอ? เหอะ! ฉันไม่ยอมโดนรังแกหรอกนะ!
“ อ๊ะ อา ทงเฮ...ทงเฮ ”
“ อืมมม ”
“ อา อา อ๊า! ”
ร่างบางผลุบหายเข้าไปในตู้เสื้อผ้าว่างเปล่าของทงเฮอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะปิดประตูตู้เพื่อตัดโลกภายนอกออกไปให้หมด เจสสิก้านั่งคุดคู้ในตู้แคบๆ มืดๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจเบื่อหน่าย เธอรู้ดีแล้วว่า...ไม่เคยเกลียดและขยะแขยงใครได้เท่ากับลีทงเฮเลย!
แควกกกก แควกกกกกกกก!!!!
แปลกจัง วันนี้ยูริอารมณ์ดีผิดปกติล่ะ น้ำตาแทบจะไหลพรากเพราะกลั้นหัวเราะมากเกินไป โอ๊ยย ไม่มีอะไรจะฮากว่านี้อีกแล้ว ประธานชเวที่น่าเกรงขามมีมุมแบบนี้กับคนอื่นเขาเหมือนกันเหรอเนี่ย?
เศษกระดาษปลิวไปรอบบริเวณจากการถูกฉีกทึ้งซะจนไม่เหลือฉาก ช่างดูเหมือนกับภาพพจน์ของซีวอนที่ถูกรองประธานติ๊งต๊องทำลายป่นปี้!
วันนี้คงเป็นวันที่สดใสถ้าหากคนทั้งโรงเรียนไม่เอาแต่จ้องมาที่เขาแล้วพากันหัวเราะ พอเห็นคนมุงอยู่ที่บอร์ดประชาสัมพันธ์เท่านั้นแหละความสงสัยในใจก็พลันกระจ่างแจ่มแจ้ง
ภาพของเขาที่นอนกุมซีวอนน้อยอย่างเจ็บปวดเหลือทน...
ยัยควอนยูริ!!!!!!!!!!!!!
“ ไม่มีสมองรึไง!!! ทำไม...ทำไมถึงได้เอารูปนี้ไปติดบอร์ด!! หัวเราะทำบ้าอะไร!! ” ซีวอนโมโหสุดขีดพาลปัดนั่นปัดนี่จนตกกระจายเต็มพื้นไปหมด ประธานมาสุขุมและเย่อหยิ่งกำลังจะกลายเป็นคนมุทะลุและควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว...เพราะควอนยูริ!
“ เดี๋ยวฉันแก้ข่าวให้เองท่านประธาน ฮ่าๆ อุ๊บส์ ฮ่าๆๆ ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าคุณจะทำแบบนั้นจริงๆ มีแค่ฉันที่รู้...ฮ่าๆๆๆๆๆ โอ๊ยย ปวดท้องง่ะ ” มันน่านัก! ไม่มีความสำนึก ซีวอนกัดฟันแน่นเมื่อร่างของยูริเริ่มทรุดลงไปนั่งกับพื้นเพราะหัวเราะมากเกินไป
“ เงียบเดี๋ยวนี้นะ!! เธอทำให้ฉันอับอาย เธอไม่ได้ตายดีแน่! ยัยคนน่ารังเกียจ...ชั้นต่ำ ” คำพูดร้ายกาจที่หลุดออกมาจากปากร่างสูงทำให้ความขบขันของยูริหายไปจนเหลือเพียงแค่ความนิ่งสงบเท่านั้น ริมฝีปากอิ่มกระตุกยิ้มแข็งกร้าว ดวงตาไร้ประกายจนว่างเปล่า
ซีวอนเพิ่มรอยร้าวให้ยูริอีกแล้ว...
“ ชั้นต่ำ? แล้วคนชั้นต่ำอย่างฉันไม่ใช่คนเหมือนคุณเหรอ...หึ! แค่ชื่อเสียง อำนาจของตระกูลชเวมันจะดีเลิศสักแค่ไหนกันเชียวถ้ามีแต่คนเกลียดคุณน่ะ ”
“ ครอบครัวของเธอมันสกปรกโสโครกที่สุด! พ่อแม่ของเธอมันสารเลวใช่มั้ยล่ะ ดีแค่ไหนที่เธอยังเสนอหน้าอยู่ในเกาหลีได้ รู้อย่างนี้ครอบครัวฉันน่าจะส่งพวกขอทานอย่างเธอกับพ่อแม่เข้าไปนอนรอความตายอยู่ในคุกซะ!! ” ถ้าหากใครมาได้ยินคำพูดหยาบคายนี้จากปากซีวอนคงจะตกใจไม่น้อยที่ผู้ชายแสนสุขุมถูกเลี้ยงดูมาดีจะเป็นแบบนี้ แต่ไม่ใช่แน่กับยูริ...เธอรับได้ทุกอย่างที่ซัวอนกลั่นแกล้งเธอสารพัด ส่งคนมาดักทำร้ายให้เจ็บตัวกลับบ้านทุกครั้ง แล้วทำไมยูริคนนี้ถึงได้ดูร่าเริงนักล่ะ? ทำไมเธอถึงได้แกล้งซีวอนอย่างมีความสุข? ทำไมถึงได้เข้ามาเรียนในที่ไฮโซแบบนี้?
ถ้ามันไม่ใช่เพราะครอบครัวที่น่ารักของเธอน่ะ
ทำไมจะต้องดูถูกกันด้วยนะ ซีวอนที่เคยยิ้มอบอุ่นให้เธอเมื่ตอนยังเด็กหายไปแล้ว...หายไปตลอดกาล นี่เป็นเหตุผลที่ยูริมักจะบอกให้ซีวอนยิ้ม
เสียใจที่เพื่อนเพียงคนเดียวของเธอในวัยเด็กกลับเชื่อคำพูดของเด็กผู้หญิงที่เขาชอบมากกว่าเพื่อนอย่างเธอ เสียใจที่สุด...
แต่คนที่อยากให้รู้กลับไม่เคยรู้เลย...
“ แล้วทำไมไม่ทำ! คุณน่ะ...คุณไม่เคยเชื่อเพื่อนอย่างฉันเลย! คุณเห็นผู้หญิงคนนั้นสำคัญ คุณเชื่อฟังคำโกหกของเธอ แม้แต่พ่อแม่ของคุณก็หน้ามืดตามัวเชื่อคำพูดของเธอ! ผู้หญิงจอมลวงโลกคนนั้น!! ”
“ ฉันไม่เคยเป็นเพื่อนกับคนชั้นต่ำอย่างเธอ! อย่ามาดูถูกคนรักของฉัน! ”
ความรักทำให้คนตาบอด...เห็นท่าจะจริงด้วยล่ะ
“ แล้วเธอเคยรักคุณมั้ยล่ะ... ”
“ ...! ” คำพูดเรียบๆ แต่ทำให้ซีวอนเหมือนโดนไม้ตีหัว ดวงตาแทบจะถลนออกมา ซีวอนรู้ดีเสมอว่าคนที่ตัวเองรักเที่ยวคบกับคนอื่นไปทั่วแม้จะคบอยู่กับเขา คนที่เขารักไม่ได้เก็บครั้งแรกไว้ให้เขาแต่กลับเสียมันให้กับผู้ชายที่เจอกันไม่ถึงชั่วโมงในผับ ปากบอกว่ารักแต่มันไม่มีความจริงใจ ซีวอนยอมเป็นคนโง่มาตลอดเพียงเพราะรัก...รักมาก
แต่ไม่เคยรู้ว่ายูริจะดูออก...
“ เธอรู้... ” ซีวอนยืนนิ่งแข็งเหมือนกับหิน ยูริหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะก้าวถอยหลังไปติดประตู ใบหน้าสะสวยมีรอยยิ้มอ่อนโยนประดับอยู่แต่ทว่า...มันแฝงไปด้วยความสมเพช
“ อ้อ แน่ล่ะสิคุณชายชเว ฉันน่ะ...ไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกนะ คนอื่นก็ไม่โง่ มีแต่คุณกับครอบครัวของคุณเท่านั้นแหละที่โง่ น่าสงสารนะ... ”
“ ไม่ต้องมาสงสาร! เธอ...เธอมันตัวอิจฉา เธอไม่พอใจใช่มั้ยที่ใครๆ ก็รักโบรา เธอก็แค่คนไร้ค่าที่ใครๆ ก็พากันมองผ่านเหมือนไม่มีตัวตน ไม่มีใครจะโง่มารักเธอได้หรอก! ”
“ ฉันมันตัวอิจฉานี่นา แค่เสแสร้งนิดหน่อยก็มีคนติดกับแล้วล่ะ งานง่ายๆ ของตัวอิจฉานี่จริงมั้ย? คุณห่วงตัวเองก่อนเถอะ สักวันหัวใจไร้ค่าของคุณอาจจะโดนโบราเหยียบได้นะ ”
“ เธอจะต้องโดนดีแน่! ”
ยูริเดินหันหลังออกมาจากตรงนั้นด้วยรอยยิ้มสบายอกสบายใจ ดีแล้วล่ะ คนอย่างชเวซีวอนควรจะเจ็บเองซะบ้าง ผู้ชายหยิ่งยโส...สักวันนายจะต้องเสียใจ
ตอนนี้เธอควรระวังเอาไว้เพราะรู้ตัวดีว่าซีวอนจะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ แน่
เฮ้ออ ขากลับไปซื้ออุปกรณ์ทำแผลมาตุนเผื่อไว้สักหน่อยดีกว่ามั้ง...
“ ไอ้หยา! ฮวังมิยอง นายนี่ไปโดนอะไรมาเนี่ยหัวถึงได้แตกยับเยินแบบนี้ ~! ”
“ อาจารย์คะ ชู่วว อย่าเสียงดังนักสิคะ เดี๋ยวคนอื่นแตกตื่นหมด ” ทิฟฟานี่รีบตะครุบปากอาจารย์สุดสนิทนามว่าแดซองที่กำลังรับไม่ได้อย่างสุดๆ กับสภาพของเด็กหนุ่มนอนหัวอาบเลือดตรงหน้า อย่าแต่อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทำแผลเถอะ ตอนนี้ทิฟฟานี่เองก็หน้าซีดขาสั่นไปหมด รู้สึกเหมือนอาหารเช้าจะถูกขย้อนออกมาซะเดี๋ยวนี้
อี๊! เลือด...เลือดจริงๆ เลยนี่นา แหวะ! สยองชะมัดเลย
“ ก็มันแย่จริงนี่! ให้ตายๆๆ ใครกันจะใจคอโหดเหี้ยมขนาดนี้กัน ” แดซองส่ายหน้าไปมา เด็กสมัยนี้มันถูกเลี้ยงมายังไงกันฟะ พากันเป็นฆาตกรใจโหดกันไปหมด ( อันนี้มากไป )
“ รีบรักษาคนเจ็บก่อนสิคะอาจารย์ เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง ”
“ อืม ไปเอาผ้าชุบน้ำกับกะลังใส่น้ำมาซิมิยอง ” ทิฟฟานี่รีบพุ่งไปยังห้องน้ำอย่างรวดเร็ว คว้าได้อะไรต่อมิอะไรมาเยอะแยะทั้งที่...ไม่จำเป็น
“ นี่ค่ะ ”
“ เฮ้ยยย แล้วเธอขนอะไรออกมามากมายเนี่ย เอาแค่ผ้ากับะละมังใส่น้ำก็พอแล้วเฟ้ยย เอาเถอะๆ เดี๋ยวเราทำแผลลวกๆ ไปก่อน เดี๋ยวฉันจะไปโทรเรียกรถพยาบาลแล้วกันนะ ”
“ ละ...แล้วผ้ากับกะละมังนี่ทำไงคะ ฉันไม่ทำนะคะ! มันน่ากลัวจะตายไป! ”
“ ชีวิตคนสำคัญที่สุด! จัดการไปอย่าบ่น! ” ร่างอาจารย์แดซองหายลับไปแล้ว เหลือเพียงแค่ทิฟฟานี่ที่นั่งตัวแข็งทื่อกับคนเจ็บจะตายแหล่ไม่ตายแหล่ ไม่นะ! เธอไม่เคยทำแผลให้ใครเลยสักครั้ง ขนาดพวกเพื่อนๆ รองประธานนักเรียนก็ไม่เคย ~ แล้วแบบนี้มันจะไหวเร้ออออ
“ ไอ้บ้าเอ๊ยย เราไม่รู้จักกันสักหน่อยยังจะมาสร้างปัญหาให้คนอื่นเขาอีก ”
สาวสวยใจดี...ก็แค่กับเพื่อนเท่านั้นแหละน้า
มือเรียวบิดผ้าชุบน้ำให้หมาดก่อนจะค่อยๆ แตะลงบนบาดแผลให้เบามากที่สุด ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวเพราะขยะแขยงและกลัวปนกัน ไม่นานนักคราบเลือดก็ค่อยๆ ถูกเช็ดออกจนหมดไปเหลือเพียงใบหน้าขาวใสนอนหลับตานิ่ง แถมยังคุ้นหน้าซะจนต้องเอียงคอมองใกล้ๆ
เห O.o??? หมอนี่มัน...ลี จุนกิ รุ่นน้องสุดป๊อปปูล่านี่นา
เหอะๆ ไปทำอีท่าไหนถึงได้โดนทุ่มจนหัวแตกล่ะเนี่ย?
เอ๊ะ!?! โดนทุ่มเหรอ...แทยอน!!!
ภาพเพื่อนรักตัวเล็กที่นอนอยู่กับพื้นลอยวาบเข้ามาในหัวทันที ทิฟฟานี่ลุกพรวดกำลังจะพุ่งออกจากห้องพยาบาลแต่เสียงครางเจ็บปวดของคนที่นอนสลบอยู่ทำให้ทุกอย่างชะงัก ร่างสวยสง่าหันขวับไปมองอย่างเซ็งๆ
“ อื้อ...อ่ะ...โอ๊ยยยย ”
“ นี่นาย! มัวแต่ร้องอยู่ได้ ไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั้ยฮะ? ” เสียงติดจะห้วนทำให้คนเจ็บเงยหน้าขึ้นมองทันที ดวงตาคมโฉบเฉี่ยวกับใบหน้าหวานอย่างกับผู้หญิงสมกับคำร่ำลือจริงๆ จุนกิปรายตามองรุ่นพี่คนสวยเล็กน้อยก่อนจะเมินหน้าไปทางอื่นเซ็งๆ ทำให้ทิฟฟานี่หน้าตึง
“ เอ๊ะ ไอ้เด็กบ้านี่! คนอุตส่าห์ถามเพราะเป็นห่วงนะยะ! ไม่มีมารยาท ”
“ รุ่นพี่...ก็คงสวยแต่หน้าตาสินะ ”
อ๊ากกกกก ไอ้เด็กเลวววววว!!!!!! กล้าดียังไงมาว่าฉันยะ!!!
“ อกตัญญู! ฉันช่วยนายไว้นะยะ ไม่รู้ป่านนี้เพื่อนฉันจะเป็นยังไงบ้างมันก็เพราะนายคนเดียว อ๊ายยย เดี๋ยวแม่จะเอาแจกันทุ่มให้หัวแตกอีกรอบหรอก! “
“ ผมช่วยผู้หญิงคนนั้น...ผู้หญิงตัวเล็กๆ ผิวขาวน่ะ เธอควรจะมาดูแลผมมากกว่าผู้หญิงสวยแต่นอกแบบคุณนะ ” ดวงตาเฉี่ยวคมปรายตามองเล็กน้อย “ ผมช่วยเธอแต่ไม่ได้ให้คุณมาช่วยผมสักหน่อย เธอคนนั้นอยู่ไหนล่ะ? ” ทิฟฟานี่อยากจะกรี๊ดดังๆ ใส่หูไอ้เด็กนี่ให้หนวก ท่าทางชะเง้อชะแง้มองหาเพื่อนของเธอยิ่งทำให้ทิฟฟานี่เอะใจอะไรบางอย่างขึ้นมา
“ แทยอนน่ะเหรอ? ”
“ หือ เธอคนนั้นชื่อแทยอนเหรอ ”
“ ทำไม...นายชอบเพื่อนฉันรึไงกัน ~ ฉันหวงน้าคนนี้น่ะ ” เธอแกล้งลากเสียงยาวกวนๆ ไม่โง่หรอกนะ...ดูแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเด็กนี่คิดอะไรกับแทยอนแน่ๆ ฮันแน่ ที่รักของฉันขายออกแล้วเหรอเนี่ย ทิฟฟานี่อมยิ้มน้อยๆ
“ ก็น่ารักดีนะ คุณเป็นเพื่อนเธอเหรอ งั้นผมขอฝากตัวด้วยละกันนะ เพราะต่อไปนี้คุณจะต้องได้เจอผมบ่อยขึ้นแน่นอน ผมลีจุนกิ ” เด็กหนุ่มหน้าหวานเหมือนผู้หญิงยื่นมาออกมาตรงหน้าและมีเหรอที่ทิฟฟานี่จะไม่รับไมตรีนั้น ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มที่ทั้งน่ามองและเจ้าเล่ห์ไปในเวลาเดียวกัน
แน่นอนลีจุนกิ อย่างน้อยถ้านายจะดึงแทยอนออกมาจากไอ้ประธานบ้าดีเดือดนั่นได้น่ะนะ
รอดูความสนุกได้เลย...หุ หุ
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เจสสิก้านั่งถอนหายใจเงียบๆ ในตู้เสื้อผ้าอันคับแคบนี้ ไม่ว่าจะเงี่ยหูชิดประตูตู้กี่ครั้งบทรักอันร้อนแรงก็ดูท่าว่าจะไม่จบง่ายๆ ใบหน้าสวยบูดบึ้งและหงุดหงิดกับเหตุผลงี่เง่าที่ทำให้เธอต้องขาดเรียน
โดดไปกี่คาบแล้วเนี่ย เฮ้ออ ไม่ได้พกนาฬิกาซะด้วยสิ
ไม่นานนักแต่เจสสิก้าแทบระเบิดตัวเองเสียงนั้นก็หยุดลง หยุดจนได้! ร่างบางลุกขึ้นก่อนจะเปิดประตูตู้แต่คนข้างนอกกลับเร็วกว่า...
ร่างเปลือยท่อนบนของประธานลีทำให้เจสสิก้าหันหน้าหนีคอแทบเคล็ด ตัวต้นเหตุหัวเราะน้อยๆ แล้วแกล้งขยับเข้าใกล้ร่างบางอีกหน่อย
ไม่หวั่นไหวก็ให้มันรู้ไปสิ เจสสิก้าจองก็ไม่ได้วิเศษวิโสมาจากไหนนี่
“ เธอนี่ซื่อสัตย์ดีจังเลยนะ ” ยิ้มกวนอารมณ์ เจสสิก้าหันขวับมาจ้องหน้าเคืองๆ
“ ฉันไม่ใช่หมานะคะ ”
“ แล้วสนใจมาเป็นหมาของฉันมั้ยล่ะ? ” ทงเฮขยับเข้าโอบเอวบางหน้าด้านๆ เจสสิก้าขืนตัวออกเล็กน้อยพลางเบือนหน้าหนี นอกจากจะไม่ยอมใส่เสื้อแล้วยังไม่ยอมอาบน้ำหลังจากเสร็จกิจกรรมอย่างว่าด้วย! กลิ่นคาวจากตัวทงเฮมันน่าสะอิดสะเอียนจริงๆ ให้ตายสิ...
“ ไม่! ปล่อยฉันเถอะค่ะ ” ท่าทางลุกลี้ลุกลนราวกับรังเกียจเขาเต็มแก่ เจสสิก้าไม่เคยเป็นแบบนี้ไม่ว่าทงเฮจะถือวิสาสะสัมผัสร่างบอบบางมากแค่ไหนก็ตาม แต่ครั้งนี้กลับทั้งผลักทั้งดิ้น ทงเฮขมวดคิ้วเล็กน้อยกับความผิดปกตินี้
“ เฮ้ ปกติเธอไม่เป็นแบบนี้นี่ ”
“ ปล่อยฉันก่อน! ฉันเหม็นจะตายอยู่แล้ว! ”
“ เหม็น? ”
“ ปล่อย! ” ร่างบางเริ่มตะโกนเสียงดังจนทงเฮต้องคลายอ้อมกอดออกงงๆ ร่างสูงมองคนตรงหน้าที่ตอนนี้เอาแต่สูดลมหายใจเข้าปอดยกใหญ่อย่างสงสัย พลางก้มสำรวจตัวเองบ้าง น้ำสีขาวขุ่นจากกิจกรรมรักเมื่อชั่วครู่เปรอะเปื้อนบนหน้าท้องแกร่ง แม้แต่เจ้าตัวก็กำลังมารู้
อื้อหือ นี่ถ้ายัยนั่นที่ทำเลอะบนตัวเขาแบบนี้อยู่ที่นี่ด้วยมีเคลียร์ยาว!
กล้าดียังไงมาทำให้เขาเลอะ บ้าเอ๊ย!
“ ฉันว่าฉันต้องเข้าเรียนแล้วล่ะ คุณเองก็จัดการตัวเองให้เรียบร้อยนะคะ ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีซะบ้างไม่ใช่เอาแต่...ฉันไปก่อนนะคะ ”
“ เดี๋ยวสิ! ฉันเรียกเธอมาทำความสะอาดคราบบนโต๊ะนั่นต่างหาก ”
“ ไม่ค่ะ ”
“ เจสสิก้า! เฮ้! ยัยบ้าเอ๊ยยยยย ” เจสสิก้ากลับก้าวฉับๆ ออกจากห้องไปโดยไม่หันมามองทงเฮอีกเลย คนถูกเมินเลยได้แต่โวยวายคนเดียวอย่างขัดใจ
ในห้องเรียน
“ สิก้า ~ เธอหายไปไหนมาเนี่ย นี่มันคาบสองแล้วนะ ” ยูริรีบดึงเจสสิก้ามานั่งอย่างแนบเนียนรอดพ้นจากสายตาอาจารย์หน้าห้อง เจสสิก้าทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะหยิบสมุดมาจดเนื้อหา ไม่คิดที่จะตอบคำถามเพื่อนแม้แต่น้อย
ยูรินี่ยังไง ถามมันประจำแล้วได้คำตอบแบบเดิมๆ ยังจะถามมันอยู่อีกเหรอ...
ก็ไม่พ้นเรื่องอีตาประธานลีลามกนั่นน่ะแหละน่า
“ อารมณ์เสียอีกแล้ว นี่แทยอนกับฟานี่ก็ยังไม่มาเลย คนพวกนั้นช่างร้ายกาจ...อ่า ชีวิตของทุกคนไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว ” ยูริก้มหน้าก้มตาพูดงึมงำในลำคอ แต่เจสสิก้าเห็นด้วยเป็นที่สุด!
“ อืม ร้ายกาจมาก ”
“ เห็นมั้ยล่ะ! ฉันทนไปได้ยังไงเนี่ย คนบ้าอำนาจพวกนั้นน่าจะโดนโค่นล้มนะ ”
“ ตั้งใจเรียนเหอะน่า ”
“ สิก้าอ่า ”
ขืนปล่อยให้พูดมากกว่านี้มีหวังโดนเฉดหัวไปยืนนอกห้องแน่ เพราะฉะนั้นเงียบไปเลยนะเพื่อนรัก! ฉันต้องการเรียนเพื่อยัยยั้งความคิดสาปแช่งประธานลีนั่น
อืม ประธานลีทงเฮ จงหายไปจากโลกใบนี้ซะ!!!
“ นั่นเธอจะไปไหนน่ะ ” คยูฮยอนมองคนตัวเล็กตาขวางเมื่อแทยอนลุกขึ้นทุลักทุเล มือกุมท้องไว้แน่นเพื่อบรรเทาความเจ็บ หลังจากที่คยูฮยอนทายาให้แล้วเขาก็บังคับให้เธอนั่งอยู่เฉยๆ ไปก่อนสักพัก แต่ว่านอกจากรอยช้ำที่ท้องจะไม่หายเจ็บแล้วมันยังเจ็บขึ้นมากกว่าเดิมและช้ำอีก ขยับนิดขยับน้ำตาแทบเล็ดแน่ะ
“ ฉันต้องไปเรียน ท่านประธานก็ควรไปเรียนได้แล้วนะคะ จะมามัวนั่งอยู่เฉยๆ ในห้องนี้ไม่ได้นะคะ อา...เจ็บจัง แล้วก็ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยทายาให้ฉัน บุญคุณครั้งนี้ฉันสาบานว่าจะทำดีกับท่านประธานให้มากขึ้นกว่าเดิมอีก ”
พูดได้มากเหมือนเดิม...
“ ไม่ต้องไปก็ได้น่า ฉันเป็นใครทุกคนรู้ดี ไม่ว่าใครหน้าไหนมันกล้าขัดก็เจอดีแน่ เธอจะกลัวอะไรฮะ!? ” คยูฮยอนพูดฉุนๆ เจ็บขนาดนี้ ( เพราะใครล่ะ ) ยังจะกระเสือกกระสนไปเรียนอีก
“ ก็เพราะทุกคนรู้ว่าฉันเป็นแค่นักเรียนจนๆ ที่โชคดี๊โชคดีได้เข้ามาเรียนที่นี่ รู้ว่าฉันไม่มีปัญญาไปสู้ใครเขาได้และฉันก็รู้ดีด้วยว่าถ้าเกรดฉันตกเมื่อไหร่...ฉันจะโดนเด้งค่ะ เพราะฉะนั้นฉันยอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้ ฉันรู้ว่าคุณไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจต่อไปนั่นแหละค่ะดีแล้ว ” ใช่สิ มองคยูฮยอนแล้วหันกลับมามองตัวเองทีไรมันช่างต่างกับไม่มีที่ติ เด็กสาวจนๆ แสนธรรมดาทำงานเอาเป็นเอาตายกับคุณชายที่ถูกเลี้ยงสุขสบายในบ้านหลังโต ไม่มีอะไรรันทดกว่านี้อีกแล้วมั้ง
ไม่แปลกเลยสักนิดที่ท่านประธานไม่ชอบฉัน
“ อยากรวยมั้ยล่ะ ” ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ “ งานสบายๆ ก็มีตั้งเยอะแยะนี่ ทำงานในผับ ในซ่อง หรือขายตัว แค่นี้เธอก็มีกินมีใช้แล้ว ”
“ ...!?! ” แทยอนนิ่งอึ้ง ดวงตากลมเบิกกว้างทั้งรู้สึกเสียใจ ผิดหวัง และน้อยใจ ครั้งนี้คำพูดของร่างสูงมันเหมือนจะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิงความเป็นคนจนแหลกละเอียด ทุกครั้งที่คำพูดร้ายกาจหลุดออกมาแทยอนก็รับมันได้ แต่ว่าครั้งนี้...ร่างเล็กกลับทนไม่ได้ ไม่ไหว...
แทยอนยืนนิ่งค้างราวกับถูกสาปให้เป็นหิน ใบหน้าร้ายกาจยังคงแสยะยิ้มเหมือนจะตอกย้ำให้รู้ว่า
คิม แทยอน ช่างไร้ค่า...
“ ไม่หนักหนาไปหรอกสำหรับคนอย่างเธอ ก็แค่...เอาตัวเข้าแลก แลกกับเงินก้อนโตในคืนเดียวเลยนะ อืมม ฉันเสนอให้เอามั้ยล่ะ ฉันน่ะมีเพื่อนชอบสเป็คแบบเธอเยอะแยะเลย หรือว่าเธอจะบริการให้ฉันคนแรกดีล่ะ...ฉันน่ะจ่ายไม่อั้นนะ หึ หึ ”
พอเถอะ คิมแทยอนไม่มีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมล่ะ...
คิมแทยอนคนไร้ค่าก็มีหัวใจนะ แล้วตอนนี้มันก็เจ็บปวดมากด้วย...
พอเถอะ ก่อนที่คิมแทยอนจะทนไม่ไหว
ก็แค่หยุด...
“ ฉัน...ไม่เป็นไรค่ะ...ขอบคุณ... ” ร่างเล็กสั่นเทิ้มไม่อาจควบคุมได้ ริมฝีปากอิ่มเม้มเป็นเส้นตรงแม้แต่ดวงตาที่สดใสกลับหม่นหมองลงถนัดตา ใบหน้าขาวซีดไร้สีเลือด
“ หึ! ฉันอุตส่าห์หวังดีจะช่วยคนจนๆ อย่างเธอให้มีเงินไว้ใช้จ่ายสักหน่อย ทำไมถึงปฏิเสธล่ะ? จะอวดดีไปถึงไหน ถึงตอนนี้เธอจะอวดดียังไงสุดท้ายแล้วเธอก็จะเป็นแค่หมาจนตรอก ร่างกายมอมแมมของเธอน่ะราคาไม่สูงเท่าไหร่หรอกมั้ง จะถึงหมื่นวอนรึเปล่าเนี่ย ”
หยุดเถอะ...ได้โปรด
“ ทำไมคุณถึงเกลียดฉันนักล่ะคะ...ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้มีค่าอะไรขนาดนั้น แต่ว่าฉันก็ไม่ได้ขอร้องให้คุณมาช่วยเหลือนี่ ทุกวันนี้ฉันก็มีความสุขดีอยู่แล้ว คุณไม่ต้องพยายามยัดเยียดอะไรแบบนี้ให้หรอก...ฉันไม่เคยต้องการเลย ”
“ เก่งจริงนะ...รองประธานสุดเก่ง เหอะ! สักวันเธอจะต้องหมดหนทางจนดิ้นรนมาขอความช่วยเหลือจากฉัน วันนั้นคงเป็นวันที่เธอน่าสมเพชมากที่สุด ”
“ คุณจะบีบบังคับให้ฉันทำสินะ เด็ก... ”
“ อะไรนะ! เธอว่าใครเด็ก! ”
“ ... ”
“ ยัยคนไร้ค่า!!! เธอรนหาที่เองนะ ได้!! ต่อจากนี้ไปเตรียมตัวรับของขวัญจากฉันได้เลย!! ”
เจ้าชายในโลกแห่งความจริงเป็นอย่างนี้เหรอ?
ช่วยดึงฉันเข้าไปในความฝันหน่อยได้มั้ย...
ร่างเล็กที่ปกติจะกึ่งเดินกึ่งกระโดดลากขาตัวเองไปข้างหน้าเอื่อยเฉื่อย คาบแรกเธอเข้าเรียนไม่ทันแล้วเลยได้แต่รอไปอีกยี่สิบนาทีก่อนที่จะเข้าเรียนคาบสอง ใบหน้าน่ารักดูหม่นหมองกว่าทุกวันแม้ว่าคำพูดร้ายกาจแบบนั้นคยูฮยอนก็มักจะใช้มันกับเธอทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันมากเกินไปนี่นา...ทำเหมือนกับว่าเธอจนตรอกจนต้องถึงขนาดขายตัวยังงั้น ไม่มีทางซะหรอกน่า...ถึงคิมแทยอนจะจนแสนจนแต่ก็ไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอก!
เฮอะ! พวกคนรวย คิดว่าตัวเองมีอำนาจล้นฟ้ารึไง คนไม่มีเงินต้องโดนเหยียบย่ำรึไง
แค่รอฉันเรียนจบ ฉันจะหางานทำเอาให้รวยกว่าคุณเลยคอยดู!
แทยอนพาลรู้สึกเศร้ามากกว่าเดิมเมื่อหวนนึกถึงเรื่องเก่าๆ เรื่องไม่น่าจะจำกลับจำได้อย่างเหลือเชื่อ คนตัวเล็กเงยหน้ามองฟ้าสีสว่างก่อนจะยกมือขึ้นมาบังแสงแดดแล้วยืนมองอยู่อย่างนั้น โดยไม่มีทางรู้ตัวเลยว่ามีสายตามากกว่าหนึ่งคู่เฝ้ามองและจับจ้อง...
คนตัวเล็กหน้าตามอมแมมแต่กลับดูน่ารักน่าชัง ผิวขาวสว่างยามต้องแดดยามสายมันช่างสพท้อนแสงเปล่งประกายราวกับว่ามีออร่าแผ่ออกมาจากร่างเล็กๆ นั่น ผมสีน้ำตาลประกายทองก็ดูส่องแสง รอยยิ้มเจือจางบนใบหน้าดึงดูดสายตามากจริงๆ
ร่างสูงสองคนมองภาพนั้นตาไม่กระพริบ คนหนึ่งยืนมองมาจากบนตึกสูงแม้จะอยู่ไกลกว่าแต่กลับเห็นภาพนั้นชัดเจน ราวกับคนตัวเล็กเป็นเทพธิดาตัวน้อยๆ แต่บางสิ่งกลับทำให้ร่างสูงเปลี่ยนไปมองคนตัวเล็กด้วยใบหน้านิ่งเรียบ สายตาว่างเปล่า
คิมแทยอน...ล้อเล่นกับฉันขนาดนี้ เธอคงไม่มีความสุขง่ายๆ แน่
“ แทยอน! ” เสียงเรียกอันคุ้นเคยทำให้เธอหันไปมองทันที รอยยิ้มฉีกกว้างแทบจะลืมความหม่นหมองไปจนหมดสิ้น ทิฟฟานี่กะจะขึ้นไปหาแทยอนที่ห้องประธานบ้าเลือดนั่นแต่ดันมาเจอเพื่อนตัวเล็กของเธอกำลังยืนมองฟ้าอยู่นี่สิ ร่างสูงสง่าก้าวพรวดๆ เข้าไปกอดเพื่อนเบาๆ ราวกับกลัวว่าเพื่อนจะเจ็บ แทยอนกอดตัวด้วยความเต็มใจ
“ เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ขอโทษนะที่ฉันไม่ช่วยเธอ ไม่โกรธฉันนะ...ที่รัก อย่าโกรธฉันนะ น้า ~ ฟานี่คนนี้ผิดไปแล้ว ประธานนั่นไม่ได้ทำอะไรบ้าๆ กับเธอใช่มั้ย ”
“ ก็...พูดจาร้ายกาจเหมือนเดิมน่ะแหละ ฉันไม่อยากจะจำเท่าไหร่หรอก ฉันเหนื่อยมากๆ เลยล่ะ สงสัยเย็นนี้ต้องไปโบสถ์หน่อยล่ะ ” แทยอนพูดเสียงเนือยๆ ซบหน้าลงกับไหล่ทิฟฟานี่แล้วถูไถไปมาดูเหมือนคนช่างอ้อน
“ ผู้ชายบ้าอะไรปากเสียที่สุดเลย! อย่าไปยอมหมอนั่นมากนะแท ”
“ ฟานี่...นั่นใครน่ะ? ” ดูเหมือนว่าแทยอนจะไม่ได้สนใจฟังสิ่งที่เธอตักเตือนสักเท่าไหร่ แต่กลับมองไปยังผู้ชายหน้าหวานคนหนึ่ง คนที่ทิฟฟานี่เองก็ลืมไปเลยว่าเขาตามมาด้วย คนสวยกรอกตามองฟ้าอย่างหงุดหงิด เธอรำคาญเจ้าเด็กนี่จะแย่! เอาแต่ถามเรื่องแทยอนไม่หยุดแถมยังเอาแต่พล่ามบ้าบอไร้สาระเกี่ยวกับรักแรกพบอะไรนั่นอีก เพื่อแผนการบางอย่างที่พลาดไม่ได้เธอจึงจำใจต้องดึงรุ่นน้องหน้าหวานมาแนะนำตัว
“ แท...นี่รุ่นน้องฉันเอง ชื่อลีจุนกิ... ”
“ เอ๋ ลีจุนกิเหรอ? ชื่อคุ้นๆ นะว่ามั้ย ” ท่าเกาคางนั่นน่ารักเป็นบ้า! จุนกิอย่างจะขอเป็นแฟนซะตอนนี้ไปเลยด้วยซ้ำ ทิฟฟานี่ปรายตามองรุ่นน้องที่มองแทยอนตาหวานเยิ้มเหยียดๆ
“ ไม่หรอกมั้งแท ก็คงเป็นแค่เด็กผู้ชายทั่วไปนั่นแหละ ท่าทางก็ดูยังกับผู้หญิง ”
“ พี่ฮะ...ผมโตแล้วนะ “ จุนกิทำท่าเขินได้อย่างน่ารักทีเดียวถ้าไม่ติดที่ว่าทิฟฟานี่ดูออก...ไอ้เด็กนี่มันเสแสร้งชัดๆ! แก้มใสขึ้นสีเรื่อหน่อยๆ ดูใสซื่อราวกับเด็กน้อยร้ายเดียงสา ทำเอารุ่นพี่คนสวยอยากจะพุ่งเข้าไปบีบคอให้ตาย เซ้นท์ดูคนของทิฟฟานี่ไม่พลาดอยู่แล้ว ได้คุยกันไปหน่อยเธอก็พอจะรู้ได้ว่าลีจุนกิต้องไม่ใช่เด็กน่ารักอย่างที่แสดงออกเป็นแน่ แต่คงจะร้ายลึก
เฮอะ! แอ๊บแบ๊วเข้าไปเถอะย่ะ อย่างแทยอนคงไม่มองเด็กแบบนายหรอก
แทยอนน่ะชอบผู้ชายที่เหนือกว่าตัวเองทุกด้านต่างหากล่ะ! แอ๊บแบบนี้คงจีบติดหรอก
“ แล้วพวกเธอสองคนไปรู้จักกันได้ยังไงล่ะ เอ๊ะ แต่นายก็หน้าคุ้นๆ นะ เราเคยเจอกันมั้ย ”
“ น่าน้อยใจจังเลยนะครับ ทั้งที่เมื่อไม่ถึงชั่วโมงมานี้...ผมเพิ่งจะช่วยพี่เอาไว้แท้ๆ ” จุนกิเอ่ยเสียงเศร้า หน้าหวานนั้นดูสลดวูบจนแทยอนรู้สึกว่าตัวเองความจำสั้นเกินไปแล้วจริงๆ ร่างเล็กขยับเข้ากระซิบกับเพื่อนสาว
“ ฟานี่ เด็กนี่มาช่วยฉันตอนไหนอ่ะ ”
“ ก็ตอนที่เธอจะโดนประธานโจวทุ่มแจกันใส่ไง! ”
“ ฮะ!?! เฮ้ยยย ฉันจำได้แล้ว! เอ่อ...จุนกิ! ขะ...ขอโทษนะที่ฉันดันจำผู้มีพระคุณไม่ได้ ตอนนี้ฉันจำได้แล้ว...ขอบคุณนะ นายเป็นคนดีจังเลย ” รอยยิ้มน่ารักๆ จากรุ่นพี่ที่แอบชอบทำให้หนุ่มน้อยหน้าหวานยิ้มกว้างทันทีไม่เหลือร่องรอยความเศร้าแม้แต่น้อย
“ พี่จำผมได้แล้ว ”
“ อื้ม ตอนนั้นฉันตกใจน่ะก็เลยไม่ได้จดจำมากเท่าไหร่ ฉันขอบคุณนายมากเลยนะ ”
“ อยากขอบคุณผมเหรอครับ อืมม งั้นเลี้ยงไอติมผมตอนเย็นนี้สิครับ! รับรองว่าผมจะหายโกรธพี่เลย แล้วก็จะทำตัวเป็นเด็กดีกับพี่ครับ ” ทิฟฟานี่ถึงกับขมวดคิ้วฉับ แต่คิดไปคิดมาเป็นเธอเองนี่นาที่คิดจะเอาเด็กนี่มาใกล้แทยอน แหม...รุกเร็วขนาดนี้ทำเอาเธอเหวอไปเลย
“ เลี้ยงไอติมเหรอ? อ๊า...อืมม ก็ได้ วันนี้มีงานไม่มากเท่าไหร่ ไปกินแป๊บเดียวเองเนอะ ”
“ เอามือถือพี่มาสิครับ ผมจะโทรหาพี่เอง ”
“ หา? ต้องแลกเบอร์ด้วยเหรอ... ”
“ ต้องแลกสิครับ มันสำคัญมากเลยนะ เผื่อผมต้องปรึกษาอะไรกับพี่ไงครับ พี่เป็นรองประธานนี่นา ”
แค่กินไอติมเนี่ยนะ? ในมือถือของฉันยังมีเบอร์ไม่ถึงสิบเลยด้วยซ้ำอ่ะ
“ มันยุ่งยากไปมั้ย ก็แค่นัดสถานที่กันก็พอแล้วนี่ ไม่จำเป็นอะไรที่จะต้องแลกเบอร์พร่ำเพรื่อนะ ในโทรศัพท์ของแทยอนมีแต่เบอร์ ‘ คนสำคัญและสนิท ’ ด้วยเท่านั้นแหละ ” ทิฟฟานี่เปรยขึ้นเสียงดังฟังชัด ดวงตาจิกกัดเด็กหนุ่มอย่างเปิดเผย จุนกิจ้องรุ่นพี่คนสวยอย่างขุ่นเคืองไม่น้อยเหมือนกัน ทั้งที่บอกว่าจะช่วยแต่ไหงกลับลำแบบนี้
“ งั้นก็ยิ่งสมควรมากๆ เลยล่ะครับ เพราะผมมักจะถูกคนอื่นรังแกประจำเลย ผมสู้เขาไม่ได้เลยฮะ ผมคงอ่อนแอเกินไป...ผมไม่ควรจะมารบกวนพวกพี่ใช่มั้ยครับ? ”
เหลือเชื่อ...ทั้งที่เสแสร้งแต่กลับเนียบเนียนจนจับไม่ได้
ทั้งสายตา ท่าทาง ทุกอย่างดูสมจริงไปหมดจนน่าทึ่ง
ลีจุนกิ นายไม่ใช่คนธรรมดาๆ สินะ
“ เปล่านะ! เปล่าเลย โธ่...นี่นายโดนรังแกทำไมไม่มาแจ้งพวกฉันแต่แรกเลยล่ะ ” แทยอนพอได้ยินดังนั้นก็รีบลูบหลังแกร่งเป็นเชิงปลอบใจ ยิ่งทำให้จุนกิได้ใจเข้าไปใหญ่
“ พี่ครับ...ช่วยผมด้วย คนพวกนั้นจะรังแกผม ”
“ ไม่เป็นไร นายต้องมีเบอร์พวกฉันเอาไว้นะ เอามือถือมานี่ ” จุนกิยื่นมือถือให้ง่ายดาย สายตาจับจ้องคนตัวเล็กกำลังกดเบอร์เอาเป็นเอาตายอย่างสบายใจ ใบหน้าหวานหันมายกยิ้มให้ทิฟฟานี่กวนๆ ริมฝีปากขยับไม่มีเสียง
‘ ผมเจ๋งใช่มั้ยล่ะ ’
มือเรียวเอื้อมไปดึงรุ่นน้องหน้าหวานเข้ามาใกล้ก่อนจะหรี่ตามองจับผิดโดยที่จุนกิยิ้มกวนอารมณ์แตกต่างกับรอยยิ้มหวานให้แทยอนสิ้นเชิง
“ นายน่ะ...ไม่ใช่แค่ลีจุนกิเด็กหนุ่มธรรมดาหรอกใช่มั้ย “
“ ผมคือลีจุนกิ ”
“ นายมีเบื้องหลัง ” ใบหน้าสวยเฉี่ยวอยู่ห่างไม่มากเท่าไหร่นัก แต่จุนกิยังคงกล้ายื่นหน้าไปใกล้ทิฟฟานี่อีกหน่อย
“ รู้มากเกินไปก็ไม่ดีนะครับ...ทางที่ดีพี่ควรจะอยู่เฉยๆ ดีกว่าน่า ”
“ แทยอนน่ะ...ของฉัน! ”
“ พี่ชอบผู้หญิง? ”
“ รู้มากไปก็ไม่ดีนะ หึ! ” ทิฟฟานี่ผละออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับแทยอนที่เงยหน้าขึ้นมาพอดี เธอยื่นมือถือคืนให้จุนกิด้วยรอยยิ้ม จุนกิยิ้มตอบแต่ไม่วายเหล่มองรุ่นพี่อีกคนที่ตอนนี้เข้าไปสวมกอดร่างเล็กของว่าที่คนรักของเขาเรียบร้อยแล้ว
จะว่าไงล่ะ...ฟานี่ไม่ได้ชอบผู้หญิงหรอก แต่เธอหวงเพื่อนน่ะ
“ เรียบร้อยแล้วจุนกิ เดี๋ยวเย็นนี้ฉันจะพาไปเลี้ยงไอติมปลอบใจนะ โอ๊ะ! ต้องเข้าเรียนคาบสองแล้วล่ะฟานี่ ไปเร็ว! ” สองสาวผลุนผลันออกไปทิ้งให้หนุ่มน้อยหน้าหวานยืนมองตามด้วยสายตายากคาดเดา อย่างแรก...เขาคิดว่าแทยอนช่างน่ารักซะจริง ประธานโจวช่างน่าอิจฉาที่มีคนน่ารักคอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆ แทบทั้งวันแบบนั้น อย่างที่สอง...ทิฟฟานี่ หึ หึ ผู้หญิงคนนี้ฉลาดเอาการ และอาจจะเป็นอุปสรรคชิ้นสำคัญแต่ถ้าขาดไปแผนการครอบครองคนตัวเล็กก็ไม่อาจสำเร็จ
ทำให้เธอเชื่องก่อนดีมั้ยทิฟฟานี่...
TBC. 100%
Talk :
โอ้ววว อัพช้ามากมายเลยใช่ม้ายยยย >w<
อยากจะบอกว่าเน็ตเค้าอาจจะไม่โดนตัดแล้ววววว
แต่อดเสียวสันหลังไม่ได้ -_-
มาแนวดราม่านิดนึง -.,- บางคนอาจจะ เฮ้ยย ตอนแรกๆ ยังฮาๆ อยู่เลยนี่หว่า
นั่นสิเนอะ ตอนแรกกะจะแต่งเอาฮา ไรต์เตอร์ำไม่รู้อ่ะ! ยังไงก็ฮาปนดราม่าไปแล้วกัน
ประกาศ!!! พระรองชื่อ ' ลี จุนกิ ' นะจ้ะ บางคนอาจจะสับสน 555+
อยากให้เรื่องนี้มี NC ม้ายยยยยย
ความคิดเห็น