คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : I need you baby : { H a e S i c a } S t a r t
I need you baby
- Start -
- กำลังเริ่มต้น -
ณ ลอสแองเจลิส
เด็กหญิงตัวบางหยิบอัลบั้มรูปกองเท่าภูเขาออกมาดูพลางยิ้มร่าไปด้วยหัวเราะไปด้วยสำหรับเธอมันคงจะจริงที่ว่าภาพถ่ายเป็นการเก็บความทรงจำเมื่อวันวานได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความทรงจำเหล่านั้นมันช่างเต็มไปด้วยความสวยงามและสุขใจ ที่จริงแล้ว ‘ เจสสิก้า จอง ’ ตัวน้อยของตระกูลจองนั้นไม่ได้เติบโตที่ลอสแองเจลิส แต่เป็นที่เกาหลีต่างหากล่ะ ครอบครัวของพวกเขาย้ายมาที่นี่เนื่องจากคุณจองนั้นเป็นลูกครึ่งและมาสานต่อกิจการของครอบครัว สี่ปีแล้ว...ที่เจสสิก้าต้องจากเกาหลีมาทั้งที่ไม่อยากมา
“ คิกๆ รูปนี้ตลกจังเลย...ฉันทำแบบนั้นไปได้ยังไงกันเนี่ย คิก ” คุณนายจองอมยิ้มกับท่าทางแสนสุขของลูกสาว ก่อนจะแกล้งกระแอมไอเล็กน้อยจนเจสสิก้าเงยหน้าขึ้นมองอย่างงงงวย มือบางปิดอัลบั้มรูปลงช้าๆ ราวกับมันเป็นของล้ำค่า “ คุณแม่ ”
“ สิก้าตัวน้อยของแม่ มานี่สิจ้ะ...บอกแม่ทีว่าปีนี้ลูกสาวแม่อายุเท่าไหร่แล้ว ” คุณนายจองอ้าแขนรอรับลูกสาวตนที่เดินเข้ามาหา เจสสิก้ายิ้มหวานตามนิสัยน่ารักๆ ของเธอก่อนจะตอบ
“ สิบห้าค่ะ ปีนี้สิก้าอายุสิบห้าพอดีเลย สิก้าโตแล้วใช่มั้ยคะคุณแม่ ”
“ จ้ะ ลูกแม่โตพอที่จะเดินทางคนเดียวได้แล้ว ”
“ เอ๋? เดินทางคนเดียวงั้นเหรอคะ คุณแม่จะให้สิก้าไปไหน? ” ร่างบางเอียงคอถาม
“ แม่อยากให้ลูกแม่ไปเรียนต่อที่เกาหลีจ้ะ สิก้าอยากไปเรียนที่นั่นมั้ยคะ ” คุณนายจองแกล้งถามทั้งๆ ที่รู้ดีแก่ใจว่ายังไงซะเจสสิก้าก็ต้องไม่ปฏิเสธแน่นอน และมันก็เป็นไปตามที่เธอคิดเอาไว้ไม่มีผิด เมื่อเจสสิก้าโผเข้ากอดแม่ตัวเองอย่างแรงแถมหอมซ้ายหอมขวาจนคุณนายจองอดขำไม่ได้ ช่างออดอ้อนจริงๆ
“ เกาหลีๆๆๆ แม่คะ!! สิก้ารักแม่มาก มากที่สุดในโลกเลย! สิก้าจะไปเรียนต่อที่เกาหลีจะไปเร็วๆ เลยนะคะ สิก้าจะไปเก็บของทุกอย่างให้เรียบร้อย! สิก้าจะ... ” ลูกสาวตัวน้อยพูดรัวจนเหมือนไม่หายใจ คุณนายจองปิดปากเจสสิก้าก่อนที่เธอจะดีใจจนเป็นลมล้มพับไปซะก่อน
“ แล้วสิก้าจะไปอยู่กับใครคะ? จะอยู่คนเดียวหรือไง ”
“ สิก้า...สิก้าไม่อยากอยู่คนเดียว...สิก้าจำเส้นทางในโซลไม่ได้แล้ว พูดก็ไม่ค่อยจะคล่องแล้วด้วย...สิก้า...สิก้าไม่มีคนรู้จักเลยนะ ” แววตาสดใสหม่นลงทันทีเมื่อนึกได้ แต่คนเป็นแม่กลับยังยิ้มได้ทั้งที่ลูกสาวเศร้า นั่นเป็นเพราะเธอเตรียมการให้เรียบร้อยแล้วน่ะสิ...ทางฝั่งโน้นเองก็ตื่นเต้นจนมีอาการแบบเดียวกับเจสสิก้า คุณนายจองเริ่มมองเห็นอะไรบางอย่างแล้ว
“ เพราะแบบนี้ไงคะแม่ถึงให้ใครคนนึงมาดูแลสิก้าตอนอยู่ที่เกาหลี พี่เค้าทั้งน่ารัก ทั้งใจดี เขาน่ะป๊อบมากเลยนะ แล้วเขาก็เต็มใจดูแลลูกสาวของแม่ด้วย ”
“ ??? ”
ใครกันนะ
“ สิก้ายังจำ ‘ พี่ทงเฮ ’ ได้ใช่มั้ยจ้ะ? ”
พี่ทงเฮ!
พี่ทงเฮ!
...ของสิก้าน่ะเหรอ!?!
คนในบ้านตระกูลลีกำลังมองตามร่างสูงของคุณชายที่ปกติจะใจเย็นยิ่งกว่าอะไรดีลุกขึ้นมาวิ่งไปโน่นนี่ทั่งบ้านเพียงแค่ได้รู้ว่าน้องสาวสมัยเด็กจะเดินทางมาวันพรุ่งนี้ ทงเฮถึงกับรีบสั่งสถาปนิกระดับแนวหน้ามาจัดห้องใหม่ให้คนพิเศษ เขาเองยังลงทุนวาดแบบออกแบบเองเลยด้วยซ้ำ ท่าทางกระตือรินร้นแบบนี้มันหาได้ยากสำหรับคุณชายทงเฮ
ที่น่าแปลกใจก็คือ...คุณชายทงเฮเป็นคนอ่อยโยนและอบอุ่นแต่ก็เจ้าชู้ไม่เบา ควงสาวเข้าบ้านบ่อยเป็นว่าเล่น แต่สองสามวันมานี้ทุกสิ่งมันผิดแปลกไปจากเดิมมากโขเมื่อร่างสูงนั้นดูเหมือนจะไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าหาสิ่งที่ดีที่สุดต้อนรับแขกจากลอสแองเจลิส
เธอคนนั้นจะสวยน่ารักขนาดไหนกัน? จะสำคัญกับคุณชายทงเฮมากขนาดนั้นเชียวรึ?
ถึงจะจำได้ลางๆ ว่าสมัยเด็กคุณชายทงเฮชอบเด็กผู้หญิงคนนึงมาก แต่ผ่านมาตั้งสี่ปีใบหน้านั้นช่างเลือนรางเหลือเกิน รู้แค่ว่าเป็นเด็กหญิงตระกูลจองเท่านั้น
ทงเฮยิ้มกว้างอย่างสุขใจเมื่อห้องนอนของแขกคนพิเศษเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ตามที่เขาต้องการ ร่างสูงเดินกลับไปยังห้องนอนของตัวเองเพื่อพักผ่อนให้เพียงพอสำหรับวันพรุ่งนี้ อีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง...เขาก็จะได้เจอคนที่อยากเจอมากที่สุดในรอบสี่ปี ไม่ว่าจะทำอะไรมองไปทางไหนทงเฮก็รู้สึกว่ามันช่างสดใสและอิ่มเอมใจไปหมด
ชายหนุ่มเปิดลิ้นชักข้างเตียงที่ตนเองลืมไปซะสนิทว่ามีอะไรอยู่ในนั้นออกมา มีกล้องตัวหนึ่งปรากฏแก่สายตา ทงเฮยิ้มเมื่อนึกถึงกล้องตัวนี้ เมื่อสี่ปีก่อนมันอัดแน่นไปด้วยความทรงจำดีๆ มากมาย แต่พอสิ่งดีๆ นั้นจากไปไกลเขาก็ไม่คิดที่จะใช้มันถ่ายภาพอีก ข้างกล้องที่นอนนิ่งอยู่นั้นมีรูปมากมายกองเท่าภูเขาวางปนกันอยู่ ชายหนุ่มเลือกหยิบรูปใบหนึ่งขึ้นมาดู
เด็กผู้หญิงคนนึงกำลังกางแขนรับลมและแสงแดดที่ทอแสงลงมา ผมสีทองสดใสนั้นสะท้อนแดดจนเป็นประกายสวยงาม...รอยยิ้มราวกับนางฟ้านั่น...เจสสิก้า
คิดถึงจัง...
“ เจสสิก้า...เจสสิก้าของพี่ ” ทงเฮเหมือนคนเพ้อละเมอ ร่างสูงหลับตาพริ้มแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ วันพรุ่งนี้เขาจะทำหน้าตายังไงดีนะ จะแต่งตัวแบบไหนให้เจสสิก้าประทับใจในแรกพบ จะพูดยังไง จะยิ้มไหน คำถามมากมายลอยว่อนในหัวของทงเฮ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...ชายหนุ่มยังคงนอนหลับไปทั้งๆ ที่มีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้า
แซ่ดดด แซ่ดดด
ตั้งแต่ลงเครื่องมาเจสสิก้าก็ได้ยินเสียงพูดคุยมากมายรอบตัว ถึงโซลแล้ว...เธอไม่คุ้นกับที่นี่ไปซะแล้วสิ ร่างบางนั้นโดดเด่นเพราะผมสีทองราวกับตุ๊กตา กระเป๋าใบโตที่เธอลากมาช่างไม่เหมาะกับร่างผอมบางนั่นเลย เจสสิก้ากวาดสายตามองหาป้ายที่เขียนไว้ว่า ‘ เจสสิก้า จอง ’ จนกระทั่งมีป้ายหนึ่งชูขึ้นซึ่งมันได้เขียนชื่อของเธอเอาไว้ ร่างบางยิ้มกว้างแล้วรีบสาวเท้าไปยังตำแหน่งป้ายนั้น
“ สวัสดีค่ะ ฉันเจสสิก้า จองที่คุณตามหาค่ะ ” เจสสิก้าพูดเกาหลีเสียงดังฟังชัดถึงแม้ว่าจะพูดไม่คล่องแล้วก็ตาม ร่างสูงที่เอาป้ายบังหน้ายิ้มกว้างก่อนจะค่อยๆ ลดป้ายลง เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริง ใบหน้าหวานคล้ายผู้หญิง รอยยิ้มแสนอบอุ่นและอ่อนโยน ใบหน้าหวานของผู้ชายตรงหน้าทำให้เจสสิก้ามือไม้อ่อนทันที
“ พี่ทงเฮ... ”
“ ครับผม สี่ปีแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกันเลย สี่ปีแล้วที่พี่เอาแต่คิดถึงสิก้าฝ่ายเดียว แล้วสิก้าล่ะครับ คิดถึงพี่ทงเฮคนนี้บ้างมั้ยเอ่ย... ” ทงเฮยิ้มบางๆ เมื่อร่างบางตรงหน้าตาเริ่มแดง เจสสิก้าตัวสั่นระริกก่อนที่เธอจะวิ่งเข้ามากอดร่างสูงที่อ้าแขนพร้อมกับปล่อยโฮลั่นสนามบิน มือหนาลูบผมร่างบางปลอบประโลม ช่วงเวลานี้ช่างแสนสุขเหลือเกิน
“ พี่ทงเฮบ้า! ฮืออ สิก้าคิดถึงพี่ทงเฮจะตายอยู่แล้ว! ฮึก ” เจสสิก้าเงยหน้าขึ้นเถียงชายหนุ่ม ทงเฮนิ่งค้างไปเมื่อได้เห็นใบหน้าที่ไม่ได้เห็นมาสี่ปีเต็มๆ ตา...
สวย...สวยมากเจสสิก้า
ใบหน้าเรียวเล็กกระจ่างช่างตัดกับผมสีทองลอนคลื่นเหมือนผมตุ๊กตา ดวงตาเรียวแดงก่ำเพราะร้องไห้ ริมฝีปากอิ่มสวยยื่นออกมาอย่างงอนๆ จมูดรั้นเชิดขึ้นแสดงให้เห็นชัดว่าร่างบางนั้นดื้อมากแค่ไหน...
ทงเฮกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น พร่ำบอกถึงสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในใจตัวเองมาตลอด แต่เขาจะรู้มั้ยว่าเจสสิก้ายังเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจถึงความรักของเขา เจสสิก้ารักเขานั่นเจ้าตัวเองก็รู้ดี แต่เธอไม่รู้ว่ารักที่มอบให้ทงเฮมันคือรักแบบไหน
“ สิก้า พี่คิดถึงสิก้านะ...พี่รักสิก้า...รักมาก รัก รัก อย่าจากพี่ไปไหนอีกนะเด็กดี ”
“ สิก้าก็รักพี่ทงเฮนะ สิก้าไม่ไปไหนไกลหรอกค่ะ คิก สิก้าคิดถึงพี่ทงเฮจัง ~ ” ร่างบางกอดเขาตอบพลางยิ้มหวาน
สิก้ารักพี่ทงเฮ สิก้าไม่ไปไหนหรอก แล้วสิก้าก็จะยิ้มให้พี่ทงเฮหวานๆ แบบนี้ไปตลอดเลย
“ ต่อไปนี้พี่จะดูแลสิก้าเองนะครับ เรื่องของสิก้าก็คือเรื่องของพี่ และสิก้าก็คือของๆ พี่ ”
“ ค่ะ ” เจสสิก้าจะรู้มั้ยว่าคำพูดของทงเฮนั้นแฝงไปด้วยการแสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่ การที่ร่างบางรับปากไปง่ายๆ มันก็เท่ากับว่าดิ้นไม่หลุดแล้วน่ะสิ
ทงเฮมองใบหน้าสวยหวานนั้นด้วยความหลงใหล สี่ปีผ่านไปแล้วเจสสิก้าจะโตขึ้นมาสวยขนาดนี้เลยเหรอ? ร้ายกาจเหลือเกินนะทั้งที่อายุห่างกันตั้งห้าปีแท้ๆ สายตาของทงเฮยังคงมองร่างบางข้างๆ เป็นระยะ ส่วนเจสสิก้าดูเหมือนจะตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์ที่กรุงโซล ตลอดการเดินทางจากสนามบินไปยังคฤหาสน์ตระกูลลีร่างบางก็เอาแต่คุยจ้อกับทงเฮจนกระทั่งสิ้นสุดการเดินทาง คนรับใช้มาช่วยกันขนของลงจากรถ
“ โอ้โห ~ บ้านพี่ทงเฮยังสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ น่าอิจฉาจัง ” เจสสิก้าอดชื่นชมกับความใหญ่โตของคฤหาสน์ตระกูลลีไม่ได้
“ จะอิจฉาไปทำไมครับสิก้า ยังไงซะสิก้าก็ต้องได้อยู่ที่นี่...วันยังค่ำ ” ทงเฮลูบหัวเจสสิก้าเบาๆ อย่างรักใคร่
เจสสิก้าจะได้อยู่กับพี่ทงเฮตลอดไปจนกว่าเราจะตาย...เจสสิก้าต้องอยู่เคียงข้างพี่นะครับ
“ สิก้ารู้ค่ะ แหม...ที่นี่สวยจริงๆ นะคะ บ้านของสิก้าที่โน่นนะเล็กกว่านี้มากเลย พอมาเทียบกับที่นี่ยังกับตัวเองเป็นเจ้าหญืงหลงมาจากในนิทานแน่ะ คิกๆ ”
“ ถ้าอย่างนั้น...พี่จะเป็นเจ้าชายให้สิก้าเอง จะเป็นให้ตลอดไปเลยด้วย ” สายตาของชายหนุ่มนั้นหวานเชื่อมจนเจสสิก้าต้องแกล้งเสมองไปทางอื่นอย่างรู้สึกขัดเขิน แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อน่าสัมผัส สร้างความชอบใจให้ทงเฮเป็นอย่างมาก
“ เอ่อ...แดดเริ่มร้อนแล้วนะคะ เราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ ” เจสสิก้ายิ้มขวยเขิน
“ ครับ เราเข้าไปข้างในกันดีกว่า ยื่นมือมาสิครับสิก้า ”
“ เอ๊ะ! ” ใบหน้าสวยเหวอไปชั่วขณะกับคำพูดของคนตัวโตกว่า “ ทำไมคะ? ทำไมต้องจับมือด้วย? ”
“ พี่แค่อยากจับ...ไม่ได้เหรอครับ? ” ทงเฮขยับตัวเข้าใกล้ร่างบางแล้วยื่นหน้าจนจมูกโด่งสวยนั้นสัมผัสกับผิวแก้มสีระเรื่อพลางสูดความหอมเข้าไปเต็มปอด มือหนากอบกุมมือบางเอาไว้แน่นซะจนเจสสิก้ารู้สึกอุ่นมากจนร้อน
“ พี่ทงเฮ... ” เจสสิก้ารู้สึกไม่ชินกับการกระทำแปลกๆ ของชายหนุ่มเอาซะเลย เธอเรียกทงเฮเหมือนจะเตือนสติของเขา
“ อ่า...ครับ พี่จะพาสิก้าไปดูห้องใหม่ของสิก้านะครับ รับรองว่าสิก้าต้องชอบ ” ทงเฮจูงมือนิ่มเข้าไปในคฤหาสน์ เพียงแค่ย่างก้าวเข้าไปทุกสายตาก้จับจ้องมาที่ร่างบองของเจสสิก้าเป้นตาเดียว ทงเฮชอบพาผู้หญิงเข้าบ้านบ่อยๆ แต่ทำไมเด็กผู้หญิงคนนี้ถึงได้ดูแปลกไปจากคนอื่นนัก หรือว่านี่คือคุณหนูตระกูลจองคนนั้น?
“ ทุกคน นี่คือเจสสิก้า จอง คนที่ผมบอกว่ามากจากลอสแองเจลิสยังไงล่ะ ” คำพูดของทงเฮทำให้ทุกคนร้องอ๋อทันที เจสสิก้ารีบโค้งให้ทุกคนเก้าสิบองศารอบทิศสร้างความเอ็นดูให้ทุกคนไม่น้อยทีเดียว
น่ารัก เรียบร้อย กิริยามารยาทนุ่มนวลเหมือนลูกผู้ดี ดีกว่าผู้หญิงพวกนั้นมากโข
“ สวัสดีค่ะ ฉันเจสสิก้า จอง...ขอรบกวนด้วยนะคะ! ”
“ แหม ไม่รบกวนหรอกค่ะ ถ้ามีอะไรให้พวกเราช่วยก็บอกได้นะคะคุณเจสสิก้า อย่าได้เกรงใจเลย ป้าเต็มใจค่ะ ” แม่บ้านสูงวัยที่สุดเอ่ยขึ้นมา ร่างบางส่งยิ้มหวานไปให้ก่อนจะก้มหัวลงอีกทีนึงจนทงเฮเข้าประคองเพราะกลัวว่าหัวทุยสวยนั่นจะทิ่มพื้นซะก่อน ทุกคนอมยิ้มน้อยๆ กับท่าทางแสนห่วงใยของคุณชายทงเฮที่มีต่อร่างบางในอ้อมแขน
เฮ้อ เห็นทีคุณหนูเจสสิก้าคงจะมัดใจคุณชายทงเฮจนไปไหนไม่รอดซะแล้วล่ะมั้ง
ถึงเวลาแล้วสินะที่ผู้ชายเจ้าชู้อย่างคุณชายทงเฮจะหยุดอยู่ที่ใครสักคน
“ สิก้าครับ พี่ว่าเราขึ้นไปบนห้องของสิก้ากันดีกว่า ไว้ว่างค่อยมาทำความรู้จักกับทุกคนแล้วกันนะครับ ”
“ เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ...ทุกคนคะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ บ๊ายบาย ~ ” ร่างบางโบกมืออย่างร่าเริงก่อนที่จะเกาะแขนทงเฮเดินขึ้นบันได ตอนนี้เจสสิก้าเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองนั้นเหนื่อยมากเหลือเกิน อยากจะพักผ่อนแล้วล่ะ...
ร่างสูงพาร่างบางมาหยุดอยู่ตรงประตูห้องหนึ่งแล้วยื่นกุญแจให้เจสสิก้าเป็นเชิงว่าให้เปิดเอาเอง แม้จะอิดออดอยู่บ้างแต่ก็จัดการไขประตูเข้าไป ทันทีที่ประตูเปิดออก...น้ำตามากมายคลอหน่วยตาสวย หัวใจของเจสสิก้าเหมือนถูกชโลมด้วยความรู้สึกบางอย่าง...ความตื้นตันใจ ภายในห้องนั้นถูกออกแบบตามทุกอย่างในสมุดบันทึกเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนเตียง
สมุดบันทึกความฝันของเจสสิก้า...
ตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมาพี่ทงเฮดูแลมันดีขนาดนั้นเลยเหรอ? ใส่ใจทุกรายละเอียดแม้กระทั่งรู้ว่าเจสสิก้าต้องการห้องนอนแบบไหน...
“ เข้ามาสิครับ บอกพี่ทีสิว่าสิก้าชอบมันหรือเปล่า...ชอบสิ่งที่พี่ทำให้มั้ยครับคนดี ” ไม่ต้องใช้คำพูดใดๆ แต่กลับใช่หัวใจกับความรู้สึกสื่อหากัน ร่างบางโผกอดร่างสูงด้วยความปลื้มใจที่สุด เจสสิก้าสะอึกสะอื้นใบหน้าหวานซุกอยู่กับแผงอกแกร่งของชายหนุ่ม ทงเฮกอดร่างนั้นอย่างทะนุถนอมเท่าที่เขาจะทำได้
เจสสิก้าคือคนสำคัญ...ยิ่งกว่าผู้หญิงคนไหนที่เขาควงเพราะเหงา
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขามักจะใช้สมุดบันทึกเล่มนั้นเป็นตัวแทนของเจสสิก้าให้หายคิดถึง
แต่ตอนนี้มันไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เพราะเจสสิก้ากลับมาแล้ว
ความรักในวัยเด็กกำลังจะกลายเป็นรักแท้และรักมาก...ทงเฮได้แต่สัญญากับตัวเอง
เขาจะไม่ปล่อยเจสสิก้าให้หลุดลอยไปจากอ้อมกอดเขาแน่
เจสสิก้ายังคงร้องไห้ไม่หยุดและเริ่มหอบหายใจแรง ถึงแม้จะเหนื่อยจากการเดินทางและการร้องไห้แต่ตอนนี้เธอกลับไม่รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด ความอบอุ่น ความห่วงใยจากทงเฮทำให้เธอรู้สึกสุขมากจนแทบไม่อยากให้ช่วงเวลานี้ผ่านไป ชายหนุ่มประคองร่างบางให้นั่งบนเตียงโดยพิงอกเขาเอาไว้ ร่างบางกอดทงเฮแน่นราวกับหวงแหน
“ ฮึก เจสสิก้า ฮึก ขอบคุณนะคะ ฮึกๆ ขอบคุณนะคะพี่ทงเฮ ”
“ พี่เต็มใจ...เพราะพี่รักสิก้านะครับ ” ทงเฮประทับจูบลงบนกลุ่มผมนุ่ม มือหนาป้ะคองใบหน้าสวยหวานเลอะน้ำตาให้เวยขึ้นมาสบตา ใบหน้าติดหวานของทงเฮโน้มเข้ามาใกล้จนเจสสิก้าหายใจขาดห้วงเพราะความตื่นเต้น “ พี่ทำดีใช่มั้ยครับ...งั้นสิก้าก็ควรจะให้ของรางวัลพี่หน่อยนะ ไม่อย่างนั้นพี่งอนจริงๆ นะครับ ”
“ แล้วพี่ทงเฮอยากได้อะไรคะ ” ปากอวบอิ่มขยับได้เพียงน้อยนิดเพราะหน้าหวานๆ ของทงเฮโน้มมาจนปากแทบจะติดกัน แก้มของร่างบางขึ้นสีระเรื่ออีกครั้ง
“ Kiss me, please ” คำร้องขอของร่างสูงทำเอาร่างบางเบิกตากว้าง แต่สีหน้าเว้าวอนออดอ้อนของทงเฮสามารถทำให้ใจเจสสิก่าอนยวบเอาดื้อๆ ใบหน้าสวยหวานเบือนหน้าหนีไปทางอื่นอย่างเขินอายแต่ไม่วายถูกมือหนาจับให้หันมาอีก “ ว่าไงล่ะครับ ”
“ สิก้า...สิก้า...สิก้าจูบไม่เป็น ไม่เคยเลยสักครั้ง ขอเป็นอย่างอื่นได้มั้ยคะ... ”
“ Let me kiss you, please ”
พี่ทงเฮบ้า! มันต่างกันตรงไหนเนี่ย!
“ สิก้า... ” ร่างบางอ้าปากจะปฏิเสธ แต่ทงเฮกลับยื่นมือมาปิดปากอิ่มสวยไว้ก่อน
“ ไม่ต้องทำอะไรนอกจากสิ่งที่พี่บอกให้สิก้าทำ โอเคนะครับ หืมมม ”
“ เอางั้นเหรอคะ... ” ร่างบางยังทีท่าทีลังเล
“ เชื่อฟังผู้ใหญ่นะคนดี ”
“ สิก้า...ก็ได้ค่ะ...สิก้าจะเชื่อฟังพี่ทงเฮ ” จบคำพูดนั้นริมฝีปากของชายหนุ่มก็ทาบทับมาที่ปากอิ่มสวย ทงเฮไม่ได้ใช้ลิ้นอย่างที่เคยทำ ไม่ได้ขยับริมฝีปากใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่แตะแผ่วเบาแต่กลับรู้สึกถึงรสหวานที่แผ่ซ่านไปทั่ว พอดูดซับความหวานจากริมฝีปากอิ่มจนพอใจแล้วเขาจึงค่อยละเลียดและขบเม้มเนื้อปากนิ่มแรงบ้างเบาบ้าง เจสสิก้าใจเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอรู้สึกปั่นป่วนจนต้องบีบไหล่หนาแน่น ความหวานซาบซ่านที่ร่างสูงมอบให้มันช่างแปลกใหม่สำหรับเด็กอย่างเธอ ร่างบางห่อเกร็งทันทีที่มือหนาสอดเข้าไปในเสื้อแล้วลูบไล้เอวกิ่วไปยังแผ่นหลังของเธอ ทงเฮพึงพอใจกับการได้สัมผัสร่างบาง
“ อื้อ...พี่ทงเฮ...สิก้า... ” เจสสิก้าหน้าแดงจัดมากแถมยังพูดตะกุกตะกักด้วย น่าอายที่สุด!
“ มีอะไรจะบอกพี่งั้นเหรอ หื้มมม พูดมาสิครับ ” เหมือนจะสนุกกับการได้แกล้งอีกฝ่าย มือบางพยายามจะตะครุบมือซุกซนของทงเฮ แต่ชายหนุ่มกลับจับมือบางนั้นให้มาคล้องคอของตัวเองแทน ทงเฮแกล้งไล้มือไปตามหน้าท้องราบ มือบางจิกลงไปที่ไหล่หนาทันทีอย่างตื่นตระหนก
“ พะ...พอแล้ว! พี่ทงเฮอ่ะ...สิก้าไม่เอาแล้ว ” พลางดิ้นยุกยิกบนตักของทงเฮ
“ แต่พี่ไม่พอนี่ครับ ทำไงดี... ” เจสสิก้าอ้าปากค้างกับคำพูดแสนตรงแฝงความหื่น ( นิดๆ ) ของร่างสูง ทันใดนั้นคนโลภมากอย่างทงเฮก็อาศัยจังหวะนี้ทิ้งตัวลงบนเตียงพร้อมกับโอบรัดร่างบางของเจสสิก้าให้ล้มตามลงมา
“ พี่ทงเฮ!! คนบ้า! สิก้าบอกแล้วไงคะว่าพอแล้ว! ” ร่างบางแหว แต่แทนที่คนโดนว่าจะโกรธหรืออาจจะยอมปล่อยกลับกลายเป็นว่าหัวเราะลั่นอย่างสนุกสนานแล้วยังเด้งตัวขึ้นมาจูบที่ปากอิ่มของคนด้านบน
“ พี่ทงเฮ!! ”
“ ฮ่าๆๆๆ ” ทงเฮเด้งตัวขึ้นมาจูบเจสสิก้าที่หน้าแดงด้วยความโกรธปนอายอีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้ง แต่สำหรับเขากลับไม่รู้สึกว่ามันพอ...
อะไรที่ได้จากเจสสิก้าเขาไม่เคยพอ...แต่จะละโมบโลภมากไม่รู้จักจบสิ้น
แค่เจสสิก้าหรอกนะ
เป็นเวลาที่นานมากแล้วที่ทงเฮหายลับเข้าไปในห้องนอนของเจสสิก้าแล้วยังไม่ออกมาสักที ทำเอาคนใช้ในบ้านถึงกับงงกันไปถ้วนหน้า เพราะว่าเวลาปกติแบบนี้ทงเฮยังไม่กลับเข้าบ้านหรือไม่ก็กำลังแต่งหล่อออกไปข้างนอก ทำไมวันนี้คุณชายของพวกเธอกลับเอาแต่ขลุกอยู่ในห้องของคุณหนูเจสสิก้ากัน?
ถึงอย่างนั้นเสียงหัวเราะที่เล็ดลอดออกมามันไม่ยิ่งทำให้พวกเธอสับสนหนักกว่าเดิมอีกเหรอ? ตอนนี้ใครๆ ก็รู้ว่าสองคนในห้องกำลังมีความสุขมากเพียงใดเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะสดใสที่แทบไม่เคยได้ยินมาค่อนชีวิต
บางที...คุณหน๔เจสสิก้าอาจจะเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณชายทงเฮ
เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ปราบเพลย์บอยหนุ่มได้อยู่หมัด
ในขณะเดียวกันภายในห้องนอนแสนสวยของเจสสิก้า เธอกำลังเปิดอัลบั้มรูปเก่าๆ ขึ้นมาดูโดยมีชายหนุ่มโอบประคองเกือบทั้งตัวนั่งบนตักหนา ร่างบางหัวเราะเสียงใสเมื่อเห็นรูปเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยความทรงจำแสนสวยงาม ทงเฮเองก็เพิ่งจะรู้สึกดีอย่างนี้...
“ คิก ดูหน้าพี่ทงเฮสิคะ ทำไมพี่ทำหน้าเหมือนตัวอะไรสักอย่างแบบนั้นล่ะคะ มันตลกจัง ” ร่างบางบนตักทงเฮทำหน้าตาล้อเลียนเขาได้อย่างน่ารักน่าชังที่สุด ทงเฮฉกหอมแก้มเนียนนั้นอีกครั้งจนเจ้าตัวหันมาค้อน
“ เอ๊ะ! พี่ทงเฮนี่ยังไง...สิก้าเบื่อแล้วนะที่ต้องมาให้พี่หอมเนี่ย ”
“ แต่พี่ไม่เบื่อนี่ครับ เรื่องอะไรจะให้พี่อยู่เฉยๆ เมื่อสิก้ากลับมาหาพี่แล้วล่ะครับ ” ว่าแล้วก็หมายจะหอมแก้มเนียนนั้นอีกฟอด แต่ร่างบางรู้ทันเลยเบี่ยงตัวหลบ
“ ไม่ใช่ว่าสิก้าจะรังเกียจหรือไม่ชอบที่พี่ทงเฮจะทำแบบนี้นะคะ แต่ว่าสิก้ารู้สึกว่ามันมากไป แก้มสิก้าจะช้ำหมดแล้วเนี่ย! ”
“ ไม่มากไปหรอกสิก้า มันน้อยไป...น้อยไปด้วยซ้ำ... ” ทงเฮกระชับอ้อมกอดแน่นพลางซุกใบหน้าออกแนวหวานของตัวเองบนแผ่นหลังบางๆ ของเจสสิก้า เธอเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรแต่กลับลูบหัวของชายหนุ่มเบาๆ แต่สัมผัสอ่อนโยน เจสสิก้าหันหน้าเข้าหาทงเฮก่อนจะยิ้มหวาน
รอยยิ้มที่ทำให้ทงเฮเหมือนจมดิ่งสู่ห้วงความฝัน
“ ไม่เป็นอะไรหรอกนะคะ ตอนนี้พระเจ้าให้โอกาสเราอยู่ด้วยกันแล้วนี่คะ เรื่องที่มันแล้วมาก็อย่าเก็บมันมาคิดให้ปวดหัวเลยนะคะ ความทรงจำที่ดีเราก็จดจำมันไว้ในหัวใจซะ... ” มือบางทาบลงมาบนหน้าอกด้านซ้ายของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา หน้าสวยขึ้นสีระเรื่ออย่างเขินอาย พอเจสสิก้าจะดึงมือออกก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะทงเฮยังคงจับมือของเธอทาบเอาไว้ที่หัวใจตนเหมือนเดิม เสียงหัวใจของร่างสูงที่เต้นแรงกว่าปกติทำเอาร่างบางเคอะเขินไปหมด
“ ถ้าอย่างนั้น...เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้มั้ยครับ...คนดีของพี่ทงเฮ ”
“ พี่ทงเฮ... ”
โอ๊ยยย สิก้าก็เขินเป็นนะเนี่ย >///< พี่ทงเฮนี่บ้าจริงๆ เลย
“ พี่สัญญานะครับว่าทุกอย่างมันจะไม่มีวันเหมือนเมื่อสี่ปีก่อน พี่รักสิก้ายังไงพี่ก็จะรักอย่างนั้น ต่อให้ใครหน้าไหนจะมาแยกเราจากกันอีกพี่ก็จะจับสิก้าไว้แน่นๆ ต่อให้พี่จะเจ็บเจียนตายกับการที่ได้รักพี่ก็จะเมินเฉยกับความเจ็บปวดนั่นซะ ต่อให้สิก้าหมดรักพี่ก็สาบาน...ว่าพี่จะไม่ปล่อยสิก้าให้มันคนนั้น และต่อให้สิก้าจะจากพี่ไปแสนไกล พี่ก็จะตามไปในทุกๆ ที่ ” สายตาที่เคยพราวระยับและแสนขี้เล่นของทงเฮหายไปเหลือเพียงแต่ความจริงจังและจริงใจมากเท่าที่เพลย์บอยคนหนึ่งจะมอบให้ได้ เขารู้ดี...แม้ว่าวันนี้สิก้ายังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจแต่ไม่นานเกินรอยังไงซะสิก้าก็ต้องรักแค่เขา...
ผู้ชายที่ชื่อ ลี ทงเฮ เท่านั้น...
และถ้าหากไอ้คนไหนมันกล้ามายุ่งกับสิก้า ทงเฮคนนี้แหละจะกระทืบมันให้ตายคาเท้า!!!
ร่างบางนั่งฟังสิ่งที่ชายหนุ่มพูดอย่างตั้งอกตั้งใจ ดวงตาสวยเป็นประกายเหมือนจะตื่นเต้นกับคำพูดของทงเฮ แต่แววตานั้นไม่ได้สื่อถึงความรัก หลง และปรารถนาจะครอบครองเหมือนคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย ใช่...เจสสิก้าไม่เข้าใจในคำพูดของพี่ชายที่รัก แววตานั้นจึงได้แต่ส่องประกายบ่งบอกถึงความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเท่านั้น
ไม่เคยรู้เลยว่าพี่ทงเฮจะพูดได้น่าฟังขนาดนี้ อย่างกับพระเอกบอกรักนางเอกเลยแน่ะ!
ฉันโชคดีจังที่มีพี่ชายแสนดีแบบนี้ พี่ทงเฮเท่จังเลยน้า ~
“ สิก้าไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่ทงเฮพูดออกมาหรอกค่ะ ” ดวงตาใสแจ๋วทำให้ชายหนุ่มที่พร่ำเพ้อสะอึกแต่หลังจากนั้นก็ยิ้มได้อย่างสดใส “ แต่สิก้าชอบให้พี่ทงเฮพูดแบบนั้น มันเหมือน...สิก้ากำลังถูกพี่ทงเฮบอกรัก มันเป็นความรู้สึกที่ดีนะคะ พี่ทงเฮช่วยบอกรักสิก้าแบบนี้บ่อยๆ จะได้หรือเปล่าคะ? สิก้าชอบให้พี่บอกรัก ”
“ ได้สิครับ จะให้พี่บอกรักสิก้าตลอดชีวิตเลยก็ยังได้ ” ชายหนุ่มกดริมฝีปากตัวเองลงบนริมฝีปากของร่างบางเบาๆ เต็มไปด้วยความรัก
“ เอ๋ แล้วแฟนพี่ทงเฮไม่ว่าอะไรเหรอคะ? ”
คนอย่างเขาเนี่ยนะจะจริงจังกับใคร ไม่มีเลยสักคนเดียว
พี่มีแค่สิก้าคนเดียวก็พอแล้วล่ะครับ
“ พี่ไม่มีแฟนหรอกครับ ให้ตายก็ไม่คิดจะมี ”
“ ทำไมล่ะคะ พี่ทงเฮก็ออกจะหล่อ ”
“ เพราะพี่รักสิก้าน่ะสิครับ ”
เอาอีกแล้ว เสียงกระซิบแหบพร่าของทงเฮทำให้ร่างบางผุดลุกหนีไปด้วยความอาย ใบหน้ารู้สึกร้อนผะผ่าวเหมือนอยู่ในซาวน่า การะกระทำน่ารักแบบนั้นทำให้ทงเฮยิ้มขำแล้วเดินตามร่างบางไปอย่างไม่ลดละ ในห้องมีเพียงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกันแค่สองคนเท่านั้น โลกภายนอกจะเป็นยังไงไม่มีใครสนในแล้ว...
“ สิก้าไม่รู้เหรอว่าพี่รักสิก้าน่ะ ”
“ พี่ทงเฮ!! พอแล้วนะ...พูดบ่อยๆ มันไม่ดี ”
“ พี่พูดบ่อยเพราะพี่รักสิก้า... ”
“ พี่ทงเฮ!!! ”
“ ฮ่าๆๆๆๆๆ ”
Talk :
นางเอกก็สิบห้า พระเอกก็ยี่สิบ
ใครที่คิดว่าเฮมันไม่หื่นนั่นมันคือความคิดผิดๆ!
พระเอกเรื่องนี้ไม่ไหวจะเคลียร์จริงจริ๊งงงง
ความคิดเห็น