คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : หลังหอพัก
Chapter IV
เคนดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของเขา ตอนนี้ 5โมง45แล้ว เคนหันไปมองหน้ามีนอย่างไม่สบายใจเพราะถ้าเขาอยู่รอส่งมีนขึ้นรถแล้วล่ะก็ คืนนี้ได้มียุงเป็นเพื่อนคุยแน่ๆ
“มีน เคนไม่อยู่รอได้ไหม”เคนพูด
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวมีนรอรถเที่ยวต่อไปเองได้ เคนไม่ต้องอยู่รอจนมีนขึ้นรถหรอกนะ”มีนพูด
“เคนขอโทษจริงๆนะ”เคนพูดน้ำเสียงเศร้าๆ
“บอกว่าไม่เป็นไง มีนกลับบ้านอย่างนี้มาตั้งหลายครั้งแล้ว กลับแบบนี้อีกสักวันจะเป็นอะไรไป”มีนพูด
“นั่นแหละที่ทำให้เคนยิ่งไม่สบายใจ”เคนพูด
เคนนั่งมองนาฬิกาตลอดที่ป้ายรถ ตอนนี้เป็นเวลา 6 โมง 15 นาที มีนนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอย่างมีความสุขโดยที่ไม่รู้เลยว่า เคนนั้นนั่งอมทุกข์อยู่ข้างๆ เขากำลังจินตนาการภาพขณะที่เขากำลังนั่งตบยุงโดยมีหมอนลูกนึงตั้งอยู่ข้างๆกาย โดยตัวของเขานอนอยู่บนสนามหญ้าหน้าหอพัก
“เฮ้ย เคน”มีเสียงหนึ่งเรียกเขาจากอีกฟากนึงของถนน เคนรีบหันไปมองก็พบกับเพื่อนๆในหอของเขาที่ออกมาเที่ยวยืนกันครบทุกคน ทั้งๆที่ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงกว่าแล้ว วิน ปอ และ ตูนวิ่งข้ามถนนมาหาเคนที่ป้ายรถเมล์
“นี่จะก่อกบฏอะไรกันว่ะเนี่ย แม่งกลับช้ากันทั้งหอเลย”เคนถามด้วยความประหลาดใจ
“ก็ตอนแรกจะกลับให้ทันนั่นแหละ แต่ทว่าไอบอยมันหลีสาวจนพาพวกเราทุกคนตกรถกันหมด ยกเว้นไอเก่งที่มันเล่นเกมส์เพลินจนตกรถไปกับเราด้วย”ตูนพูดแล้วชี้ไปที่บอยที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่
“แล้วพวกแกจะกลับกันตอนไหนว่ะ”เคนถาม
“ข้าว่านะ ไหนๆก็กลับช้ากันแล้ว พวกเราก็ลากยาวไปจนถึงสัก2ทุ่มเลยดีมะ”ปอเสนอ
“แจ่มว่ะ”วินพูดอย่างเฮฮาแล้วหันไปตบมือแทคกับปอผู้เสนอความคิด
“แล้วพวกแกจะทำอะไรกันถึงสองทุ่มล่ะ”เคนถาม วินและตูนยิ้มขึ้นพร้อมกัน
“เคน วันก่อนข้าได้ยินแกพูดว่าในแบงค์แกมีตังค์อยู่800ใช่ป่ะ”วินถาม เคนรู้สึกว่าถึงคราวเคราะห์ของเขาอีกแล้ว
“ใช่ๆ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว แกก็เลี้ยงคาราโอเกะเพื่อนๆสัก10-20เพลงสิวะ”วินพูด
“โอเค ได้วันนี้ข้าเห็นว่าพวกแกเป็นเพื่อนกลับช้าด้วยนะเนี่ย”เคนพูด ตูนกับวินยิ้มแป้น
“เฮ้ยวันนี้ไอเคนเลี้นงคาราโอเกะโว้ย พวกเราไปแกรนด์กันเถอะ”ปอตะโกนบอกพวกเพื่อนๆที่เหลือ พวกเพื่อนๆทั้งหลายก็เฮฮากันขึ้นไปบนชั้นสามโดยทันที
“มีนไปร้องคาราโอเกะกันนะ”เคนชวนมีนที่นั่งอ่านการ์ตูนอยู่ข้างๆ
“มีนต้องกลับบ้านแล้วล่ะ เอาไว้วันหลังแล้วกันนะ”มีนพูดน้ำเสียงเศร้าๆ
“พรุ่งนี้สิ เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาเจอกันที่ครีมแลนด์นะ”เคนพูด
“อือ อ่ะ รถมาแล้ว”มีนพูดแล้วเอาหนังสือการ์ตูนใส่กระเป๋า
“กลับบ้านดีๆนะ”เคนพูดแล้วโบกมือให้มีน
“เคนก็กลับหอดีๆล่ะ เดี๋ยวคืนนี้อย่าลืมโทรไปหานะ”มีนพูด
“อือ เคนรักมีนนะ”เคนพูด
“มีนก็รักเคนเหมือนกัน”มีนพูด แล้วเดินขึ้นรถเมล์ เคนยืนยิ้มอย่างมีความสุขตอนที่ดูรถแล่นออกไป
หลังจากที่ทุกคนร้องคาราโอเกะกันอย่างสำราญใจแล้ว ก็ต้องกลับมาลุ้นระทึกกับเหตุการณ์ที่จะเกิดในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ทุกคนนั่งใจเสียอยู่บนสองแถวโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา บอยถึงกับคิ้วขมวด ตูนนั่งหน้าซีด รถจอดลงที่หน้าปากทางเข้าหอ ซึ่งต้องเดินเข้าไปอีกเกือบกิโลจึงจะถึงหอพัก
“ถึงแล้วโว้ย ทางเข้าอเวจี”ปอพูด แล้วเดินลงจากรถเป็นคนแรก แล้วคนอื่นๆก็เดินตามลงมา และปิดท้ายด้วยเคนที่ต้องจ่ายค่ารถเผื่อทุกคน
“ชักไม่แน่ใจแล้วว่ะ ว่าเซอร์เค้าจะลงโทษแค่ให้นอนหน้าหอ”วินพูด ก่อนก้มดูนาฬิกาข้อมือโดยอาศัยแสงจากเสาไฟฟ้าหน้าปากทาง
“กี่โมงแล้วว่ะ”ยอร์กถาม เขาเป็นเด็กผิวดำ บ้านของเขาอยู่ข้างองค์การโทรศัพท์ ของอำเภอทับสะแก จ.ประจวบฯ
“อีกสิบนาที ห้าทุ่ม”วินตอบ ยอร์กใช้มือปาดเหงื่ออกจากใบหน้าด้วยความหมดอาลัยตายอยาก
“ข้าบอกแล้วให้กลับสองทุ่ม สองทุ่มพวกมึงก็ไม่เชื่อ”เก่งพูด
“มึงไม่ต้องมาพูดมากเลยไอเก่ง เพราะมึงนั่นแหละ ไปเล่นเกมส์ร้านไหนก็ไม่ยอมบอก ปล่อยให้พวกกูตามหากันเกือบครึ่งชั่วโมง”เจี๋ยพูดแบบหงุดหงิด
“ไปกันเถอะ อย่าเสียเวลามากัดกันอยู่เลย”บอยพูด แล้วเดินนำหน้าทุกคนเข้าไปในซอยเปลี่ยวที่ไร้แสงไฟ จะมีก็เพียงแสงดาวเท่านั้นที่คอยส่องแสงอันเล็กน้อยให้ทุกคนได้เห็นทาง บรรยากาศในตอนนี้เงียบสงบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ที่ได้ยินก็มีแต่เสียงหมาเห่าจากบ้านที่อยู่ตามทาง (ทำไมคนแถวนี้มันไม่เปิดไฟหน้าบ้านบ้างว่ะ)
ทุกคนเดินเข้ามาในหออย่างเงียบๆโดยไม่มีใครส่งเสียง วินกล้าตายโดยการย่องไปเช็คแม่กุญแจที่ประตูห้องอย่างเบาที่สุด บ้านของมาสเซอร์มืดสนิทไร้แสงไฟ ห้องหอก็เช่นกัน
“เฮ้ย ประตูห้องไม่ได้ล็อก”วินกระซิบ แล้วกวักมือเรียกเพื่อนๆให้รีบเข้าไปในห้อง ทุกคนก็แอบย่องเข้าไปในห้องเบาๆ
ไฟในห้องหอสว่างขึ้นมาในทันใด ทุกคนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาสเซอร์เกรียงยืนอืดอยู่ที่หน้าสวิตช์ไฟ
“เซอร์ยังไม่นอนอีกหรอ”วินถามเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พวกมึงออกไปข้างนอกให้หมด เอาหมอนออกมาด้วย”เซอร์เกรียงพูด ทุกคนทำสีหน้าหมดอารมณ์แล้วหยิบหมอนขึ้นมาคนล่ะลูก วินก้มลงหยิบผ้าห่มขึ้นมา
“ผ้าห่มไม่ต้องเอาไป”เซอร์เกรียงพูด น้ำเสียงบาดใจทุกๆคนมาก
“โห้ เซอร์ แล้วจะนอนยังเล่า ข้างนอกหนาวก็หนาว ยุงก็กัด”วินทักท้วง ทุกคนทำสีหน้าเห็นด้วย บอยเดินเข้าไปหามาสเซอร์เกรียงแล้วเกาะแขนเบาๆ
“เซอร์ ให้เอาผ้าห่มออกไปเหอะ ข้างนอกมันหนาว เดี๋ยวพรุ่งนี้เป็นหวัดแล้วสอบไม่ได้”บอยอ้อน
“ไม่ต้อง กูสั่งให้พวกมึงเอาหมอนออกไปคนล่ะลูก ก็เอาไปแต่หมอน อย่างอื่นไม่ต้องเอาไป”เซอร์เกรียงยื่นคำขาด
ทุกคนรู้ว่าไม่สามารถต่อต้านคำสั่งได้ จึงต้องจำใจหยิบหมอนขึ้นมาคนละลูกแล้วเดินออกไป เมื่อทุกคนออกมาครบแล้ว เซอร์เกรียงก็เดินตามออกมาแล้วล็อคหอ
“คืนนี้พวกมึงนอนกันตรงนี้แหละ แล้วถ้าพรุ่งนี้ยังเป็นอย่างนี้อีก กูจะให้พวกมึงนอนกับวัวในคอกนู่น”เซอร์เกรียงพูดพร้อมกับชี้ไปที่คอกวัวด้านหลังหอพักก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านของเขา
“เอาว่ะ นอนก็นอน”ปอพูด แล้ววางหมอนลงกับพื้น
“แกว่า เดี๋ยวเซอร์จะออกมาดูพวกเราไหมว่ะ”วินพูดขึ้น เคนมองหน้าเขาด้วยลางสังหรณ์แปลกๆ
“ทำไมล่ะ แกจะออกไปเที่ยวต่อรึไง”เต๋าพูด เขาเป็นเด็กหน้าตาดี ย้ายมาจากกรุงเทพฯ
“แล้วถ้าข้าไป พวกแกจะไปกับข้าไหมล่ะ”วินพูด แล้วฉีกยิ้มจนทำให้เคนรู้สึกใจคอไม่ดี
“ข้าไป ใครจะไปอีกบ้าง”บอยพูดปลุกละดม เคนยังไม่ตัดสินใจ เพราะเขาคิดว่าถ้าเขาไปแล้วเซอร์เกรียงจับได้ล่ะก็ ได้ตายกันยกหอแน่ๆ
“แกจะไปไหม เคน”วินหันมาถามเคน ถึงตอนนี้ถ้าเขาไม่อยากไปแต่ยังไงก็คงต้องไปเพราะสถานการณ์มันบีบบังคับ ในเมื่อทุกๆคนตัดสินใจจะแห่กันออกไปเที่ยวในยามราตรี ถ้าเขาไม่ไปก็คงต้องนอนกลางสนามหญ้าคนเดียว สำหรับเคนมันเหมือนการฆ่าตัวตายชัดๆถ้าให้เขานอนในที่ที่มีข่าวลือว่าพื้นที่ตรงนี้เฮี้ยนที่สุด เคนเป็นคนโรคจิตประเภทนึงที่ชอบฟัง ชอบเล่าเรื่องผี ทั้งๆที่ตัวเองนั้นก็เป็นคนกลัวผีมากๆ ถ้าให้เคนนอนที่นี่คนเดียวให้เอาปืนมายิงกันให้ตายไปเลยดีกว่า
“ไปสิ ข้าจะพลาดได้ไง อย่าลืมสิ ข้าก็นักเที่ยวเหมือนกัน”เคนพยายามพูดจาที่ดูเหมือนเป็นธรรมชาติมากที่สุด
“ไม่ใช่อะไรหรอก มันกลัวผี”เต๋ากระซิบกับปอ
“เดี๋ยวก็ถีบคว่ำหรอก ตอนกลางคืนในที่แบบนี้ ใครเขาให้พูดกัน”โจพูด เขาเป็นรุ่นพี่ ม.6 ที่เรียนตามความจริงต้องจบออกไปแล้ว แต่ว่าโรงเรียนไม่ให้เขาจบเพราะขาดเรียนบ่อยเกินไป เขาจึงต้องมาอยู่ซ่อมเกรดอีก 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นเขาจึงจะจบออกไป
เมื่อวางแผนกันเสร็จแล้ว ทุกคนก็เริ่มออกเดินเท้าไปทางด้านหลังหอ เมื่อพูดถึงด้านหลังของหอพักเซอร์เกรียงแล้ว ชาวบ้านเขามักพูดกันว่า หอเซอร์เกรียงนั้นเป็นหอพักนักเรียนที่เฮี้ยนที่สุด ด้านหลังของหอจะเป็นทุ่งหญ้าต่ำๆโดยมีด้านข้างเป็นป่ารก และตรงกลางทุ่งหญ้านั้นจะมีต้นมะขามคู่ซึ่งเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณหญิงสาว(ชาวบ้านเขาเล่ามา)และเมื่อผ่านทุ่งหญ้าไปจะเป็น ทางลูกลังสั้นๆก่อนจะถึงถนนใหญ่โดยที่ระยะทางจากหอสู่ถนนใหญ่เบร็ดเสร็จก็ครึ่งกิโลพอดี ชาวบ้านที่เคยผ่านไปผ่านมาแถวนั้นมักจะเห็นวิญญาณหญิงสาวออกมาเดินขวางหน้าเป็นประจำจนทำให้ถนนลูกลังสายมักจะร้างในตอนกลางคืน
“เดี๋ยวเราจะเดินออกไปถนนใหญ่ แล้วค่อยเดินต่อไปเซเว่นฯนะ”วินระหว่างเดินไปตามทุ่งหญ้าเตี่ยๆซึ่งด้านขวาเป็นบ่อเลี้ยงปลาของเซอร์เกรียง
“อย่าเผลอนะมึง คอยดูเถอะเผลอเมื่อไรพ่อจะจับย่างให้หมดบ่อเลย”ยอร์กพูดขณะเดินตามวิน โดยมีต้นเป็นกองหนุน
“นั่นไง มะขามคู่”ต้นพูดแล้วชี้ไปที่ต้นมะขามคู่ซึ่งอยู่ห่างจากพวกเขาไม่ถึง10เมตร ต้นเป็นคนตัวสูงและค่อนข้างอ้วน
จู่ๆทุกคนก็พร้อมใจกันเงียบโดยมิได้นัดหมาย ลมนั้นก็เริ่มพัดแรงผิดปกติ ต้นหญ้าก็พริ้วไหวไปเป็นทางเดียวกัน ต้นไม้ในป่าข้างๆก็เริ่มโอนเอนไปมาตามกระแสของทิศทางลมที่แรงผิดปกติ เสียงของใบไม้ที่เสียดสีกันอยู่บนต้นเพราะแรงลมก็ดังไม่ขาดสายจนทำให้บรรยากาศในตอนนี้ไม่ต่างจากเดินในป่าช้าวัดดอน
ทุกๆคนเริ่มมีอาการกดดันทางประสาทจนแทบจะทนไม่ไหว เคนกัดฟันเดินตามเพื่อนๆต่อไปโดยพยายามไม่ให้ตัวรั้งท้าย แต่ทว่าเพื่อนๆทุกๆคนก็ไม่มีใครอยากเดินรั้งท้าย ทุกคนจึงเริ่มเดินให้เร็วขึ้นเพื่อจะได้แซงกันและกัน จนกระทั้งเคนทนไม่ไหวจึงเปิดฉากวิ่งเป็นคนแรก
“เฮ้ย เคน รอกูด้วยยยยยยย”วินตะโกน แล้วออกวิ่งตามเคนไป
“อ้าว เฮ้ย”ยอร์กตะโกนด้วยความตกใจที่เห็นวินและเคนวิ่งหนีไป เขาจึงเริ่มวิ่งตาม ทุกคนเมื่อเห็น ยอร์ก และ วิน วิ่งนำออกไปแล้ว ก็สำนึกได้ว่าในตอนนี้พวกเขาไม่ควรเดินต่อไป ทุกคนจึงวิ่งบ้าง ตอนนี้ความเงียบได้ถูกทำลายลงเพราะทุกคนส่งเสียงเอะอะโวยวายด้วยความกลัว ต่างคนต่างวิ่งเพื่อจะไปถึงถนนใหญ่ให้เร็วที่สุด ไม่มีใครรอใครแล้ว วินวิ่งแซงเคนไปอย่างรวดเร็ว เคนที่เห็นวินวิ่งแซงไป ก็ไม่ยอมท้อถอย และอัดสปีดเต็มที่ด้วยความกลัว
โดยมียอร์กวิ่งตามมาติดๆ
ความคิดเห็น