ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ&SNSD] เล่ห์ร้ายพ่ายรัก

    ลำดับตอนที่ #31 : CHAPTER 29

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.1K
      2
      17 พ.ค. 56

     

     

     

     

     

    CHAPTER 29

     

                ทงเฮวิ่งเข้ามาภายในโรงพยาบาลอย่างหืดหอบ เขามองซ้ายมองขวาก่อนจะกึ้งเดินกึ้งวิ่งไปที่หน้าห้องฉุกเฉิน

                “คุณหมอลี”  พยาบาลสาวเอ่ยทักเขาก่อนจะยิ้มให้ “สวัสดีค่ะ”

                “ครับ”  ทงเฮไม่มีกะจิตกะใจจะสนใจอะไรทั้งนั้น นอกจากเจสสิก้า คนที่เขาได้รับข่าวว่าประสบอุบัติเหตุเมื่อสองชั่วโมงก่อน  “ผู้ป่วยที่ชื่อว่าเจสสิก้าละ เป็นยังไงบ้าง ออกมาจากห้องฉุกเฉินหรือยัง?

                “เธอปลอดภัยค่ะ ตอนนี้พักอยู่ในห้อง ICU กำลังรอห้องพักอยู่”

                ทงเฮถอนหายใจเฮือกใหญ่ “โล่งอกไปที”

                “แต่ว่า  นางพยาบาลอึกอัก ทงเฮขมวดคิ้วมอง “แต่ว่าเด็กในท้องของเธอไม่รอดค่ะ

                “ว่ายังไงนะ?!  ทงเฮถลึงตาแสดงถึงความตกใจ

                “เธอแท้งลูกออกค่ะ แล้วตอนนี้ร่างกายเธอค่อนข้างอ่อนแอ ไม่ตอบสนองอะไรทั้งสิ้น”

                ทงเฮกำมือแน่น ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ แล้วมุ่งหน้าตรงไปที่ห้อง ICU ทันที

                ขายาวก้าวไปช้าๆเมื่อเห็นป้ายห้อง ICU อยู่ตรงหน้า หัวใจของเขาเต้นรัว ทงเฮมองเข้าไปภายในก่อนจะมองร่างที่นอนหลับตาพริ้ม จมูกของเธอมีเครื่องช่วยหายใจ นอนนิ่งราวเจ้าหญิงนิทรา

                ถ้าตื่นมาแล้วรู้ข่าวร้าย เจสสิก้าจะจิตใจบอบช้ำแค่ไหน ทงเฮไม่สามารถตอบได้

                ชายหนุ่มเข่าอ่อน ก่อนจะทรุดนั่งพิงกำแพง มือเขากำแน่น ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา

                เขาจะไม่ยอมเสียเธอ และทำให้เธอเสียใจอีกแล้ว

                เขาจะอยู่ตรงนี้ ข้างเธอตลอดชีวิต

                เพราะเขารักเธอมากเหลือเกิน

     

     

     

     

     

     

     

     

                เกือบอาทิตย์ที่คยูฮยอนพาตัวเองมาคลุกตัวอยู่ที่บ้านริมทะเลกับซอฮยอน การมาของเขามักจะมาพร้อมกับเครื่องบำรุงต่างๆให้ซอฮยอน

                และวันนี้ก็เช่นกัน เขามาพร้อม โสมชั้นดี รังนก และนมสำหรับคุณแม่

                “พี่คยูฮยอนคะ ของเมื่อวานที่ซื้อมายังไม่หมดเลย พี่ซื้อมาอีกแล้วหรอ”  ซูจองถามขึ้นพลางเปิดถุงของที่คยูฮยอนวางบนโต๊ะ

                “ก็เผื่อไว้ไง ตุ่นไว้เยอะๆ ที่นี้ก็ไกลจากห้างสรรพสินค้า มีของเก็บไว้จะได้สบาย” เขาบอกด้วยท่าทีตื่นเต้น

                “แต่นี่พี่ซอฮยอนตุ่นได้ถึงเก้าเดือนเลยละค่ะ” ซูจองยิ้ม  “พี่ซอฮยอนอ่านหนังสืออยู่ข้างบ้านนะค่ะ ไปหาสิค่ะ”  ซูจองบอกคยูฮยอนก่อนจะยิ้มให้อย่างจริงใจ และคยูฮยอนก็ยิ้มให้เธออย่างจริงใจเช่นกัน

                บางทีคยูฮยอนก็คิดว่า ซูจอง ก็เป็นเด็กดีคนนึง เธอรักพี่สาวตัวเองมากกว่าแม่ของเธอเองซะอีก

                คยูฮยอนพยักหน้าก่อนจะคว้าถุงและเดินไปหาซอฮยอน

     

     

               

                ซอฮยอนนั่งอ่านหนังสือบนเก้าอี้โยก มีนมสดและขนมปังวางอยู่ที่โต๊ะข้างตัว สายตาของเธอไล่อ่านหนังสือทีละบรรทัด อย่างตั้งใจ คยูฮยอนมองภาพนั้นแล้วยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว หญิงสาวหันมองเขาก่อนจะปิดหนังสือลง แล้วส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

                “เป็นยังไงบ้างครับ?  คยูฮยอนนั่งลงข้างๆ

                “ดีค่ะ แต่ว่าช่วงนี้ฉันค่อนข้างหิวบ่อย” ซอฮยอนยิ้มก่อนจะยกแก้วนมดื่ม

                “โชคดีที่วันนี้ผมซื้อของบำรุงมาตุ่นไว้ให้อีก”

                “อย่าซื้อมาเยอะเลยค่ะ เดี๋ยวมันจะเสียก่อนที่ฉันจะทานหมด”

                “เออนี่ ผมซื้อมาให้ลูก” คยูฮยอนยืนถุงให้ซอฮยอน หญิงสาวรับมาก่อนจะเปิดมันดู

                เสื้อผ้าเด็กสองสามชุด มีทั้งสีชมพู ฟ้า และสีขาว มันน่ารักมาก น่ารักจนเธอใจหาย

                คยูฮยอนดูมีความสุขและตอนนี้เขาก็เอื้อมมือมาแตะท้องเธอเบามือ ซอฮยอนมองภาพนั้นก่อนจะเบือนหน้าหนี

                “ลูกดิ้นบ้างหรือเปล่า?

                “ไม่ค่ะ”  ซอฮยอนก้มมองคนตรงหน้า ก่อนจะถอนหายใจแรง คยูฮยอนรู้สึกตัว ก่อนจะผละออก

                “ดีแล้วละ”  คยูฮยอนยิ้มบาง

                “ฉันว่าคุณอยู่ที่นี้นานเกินไปแล้วนะค่ะ ป่านนี้ที่โซลคงตามตัวคุณให้วุ่นสำหรับงานแต่งงานแล้ว”

                “จะไล่กันกลับหรือยังไง?

                “ถ้ากลับไปได้ก็ดีค่ะ” ซอฮยอนค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้นและหยิบหนังสือติดมือมา “ขอตัวค่ะ”

                คยูฮยอนนั่งนิ่ง หลังจากที่ซอฮยอนเดินเข้าบ้านไปแล้ว ตอนเวลาที่ได้ดูแลซอฮยอนและลูกเขามีความสุขมาก แต่ความสุขมันมักจะผ่านไปเร็วเสมอ

                ซอฮยอนมองเขาจากระเบียงบนห้องของเธอ ก่อนจะเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา

                ขอโทษที่ต้องทำแบบนี้นะค่ะคยูฮยอน

     

     

     

     

     

     

     

                “กรี๊ดดดดดดด!!!  เสียงกรี๊ดลั่นห้องพักคนไข้ เจสสิก้ากรีดร้องออกมาเหมือนคนบ้าคลั่ง ในขณะที่พยาบาลสามสี่คนกำลังช่วยกันตะลุมบอนจับเธอ  “ปล่อยฉันน!!!

                ทงเฮวิ่งเข้ามาในห้องก่อนจะช่วยพยาบาลจับตัวเจสสิก้าอีกคน เขาใช้เวลาไม่นาน เจสสิก้าก็อยู่ในอ้อมกอดของเขาเรียบร้อย ทงเฮจึงบอกให้นางพยาบาลออกไปเพราะเขาจะคุมสถานการณ์ด้วยตัวเอง

                “ไม่ร้องนะเจสสิก้า ไม่เอานะ  ทงเฮกอดปลอบเธอ

                “ลูกฉันละลูกฉันอยู่ไหนทงเฮ  เจสสิก้าเขย่าแขนทงเฮเหมือนคนบ้าคลั่ง น้ำตาออกมาจากดวงตาคู่สวย เธอเป็นแบบนี้มาสองวันหลังจากที่เธอตื่น กรี๊ดร้อง ทำร้ายตัวเอง และเพ้อหาลูก

                “ลูกหรออืมม.. ลูกไปอยู่บนฟ้า ลูกไปเป็นนางฟ้าตัวน้อยแล้วนะ

                “ไม่จริง!!! กรี๊ดด!!!  เจสสิก้ากรีดร้องอย่างหนักก่อนจะหมดสติไป ทงเฮถอนหายใจก่อนจะวางเธอนอนลงบนเตียงคนไข้

                เจสสิก้ามีอาการของคนเป็นโรคประสาท ก่อนหน้าประสบอุบัติเหตุ เธอมุ่งมั่นแน่วแน่กับสิ่งใดสิ่งนึงมากเกินไป บวกกับ เธอเสียลูกไปอุบัติเหตุ ทำให้เจสสิก้าหัวใจบอบบางลงทุกขณะ ตัวเธอเองไม่เคยรู้จักคำว่าสูญเสีย ครั้งนี้มันเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของเธออย่างมากมาย

                ทงเฮลูบผมเธออย่างสงสาร ก่อนจะห่มผ้าให้เธอแล้วปล่อยให้เธอพักผ่อน

     

     

     

     

               

     

                “ทงเฮ  เจสสิก้าเรียกเขาในขณะที่สายตาเธอลอย “ลูกไปเป็นนางฟ้าจริงๆหรอ?  เธอมองเหม่อออกไปทางระเบียงห้องพัก ทงเฮมองหน้าเธอพลางยิ้มน้อยๆก่อนจะกุมมือ

                “ใช่ลูกจะมองเราจากบนฟ้า”

                “อย่างนั้นหรอ?

                “อืม” ทงเฮยิ้มให้ “อย่าคิดมากเลยนะ”

                “ทงเฮ  เจสสิก้าก้มมองที่ชายหนุ่มตรงหน้า ที่เลิกคิ้ว “ฉันอยากกินซุปอร่อยๆ”

                “นึกว่าอะไรได้สิ อยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย? ฉันจะลงไปซื้อให้”

                เจสสิก้าพยักหน้าช้ารัวราวกับเด็ก เจสสิก้าตอนนี้ดูอ่อนลง เธอดูเงียบขรึมมากกว่าแต่ก่อน

                ทงเฮพยักหน้ายิ้ม ก่อนจะลูบผมเจสสิก้าแล้วรีบเดินออกไปจากห้อง หญิงสาวมองตามตาลอยก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ

     

     

     

     

     

                คยูฮยอนนั่งชันเข่าอยู่หน้าบ้านริมทะเล หน้าของเขาฟุบลง เขาดูเหนื่อย และผอมลงไปมาก ซอฮยอนถอนหายใจก่อนจะหันไปถามพ่อของเธอ

                “ทำไมเขายังไม่กลับไปอีกคะ มันดึกแล้ว”

                “เห็นซูจองบอกว่ารถน้ำมันหมดน่ะ แล้วแถวนี้ไม่มีปั้มด้วย” พ่อของเธออ่านหนังสือพิมพ์ก่อนจะเหล่ลูกสาวแท้ๆของตัวเองว่ามีปฎิกิริยาอย่างไร

                “สัมเพร่า”  ซอฮยอนบ่นเบาๆ

                “วันนี้เห็นเขาบอกว่าฝนจะตกหนักคลื่นทะเลจะแรง ถ้าพี่คยูฮยอนจะนั่งอยู่อย่างนั้นทั้งคืน มีหวังตายก่อนได้เห็นหน้าลูกแน่ๆ”  ซอฮยอนหันมองซูจองที่พูดลอยๆ หญิงสาวถอนหายใจเหมือนคนโดนขัดใจ

                “ถ้าเป็นห่วงเขามากกันนักละก็ ก็ให้เขาเข้ามาในบ้านสิค่ะ”

                “จริงหรอพี่ซอฮยอน?!

                “ก็เสียงเดียวมันจะไปสู้สองเสียงได้ยังไงกันละ” ซอฮยอนหน้ามุ่ย ก่อนจะมองไปที่คยูฮยอน “พาเขาเข้ามาแล้วกัน จะไปเตรียมหมอนกับผ้าห่มให้” พูดจบซอฮยอนก็เดินขึ้นห้องตัวเอง โดยไม่ได้สังเกตว่าสองพ่อลูกด้านล่างมีปฎิกิริยาอย่างไร

     

     

     

               

     

                คยูฮยอนเดินออกมาจากห้องน้ำชั้นล่างหลังจากที่ซูจองบอกว่าซอฮยอนให้นอนค้างที่นี่ได้คืนนึง เขาแทบจะกระโดดตัวลอยเมื่อได้ยินซูจองบอกแบบนั้น แต่ก็ต้องเก็บอาการ ชายหนุ่มมองด้านบนที่เป็นบริเวณห้องของซอฮยอน ก่อนจะตัดสินใจเดินขึ้นไปหา

                เขาค่อยๆแงมประตูที่ปิดไม่สนิทออกดู ซอฮยอนกำลังง่วนอยู่กับการเห็นปลายผมของเธอ เธอทำกิจวัตรเหมือนเดิม เหมือนตอนที่อยู่กับเขา ไม่มีอะไรผิดแปลกไปเลยแม้แต่น้อย ที่ปลายเตียงมีผ้าห่มและหมอนเตรียมเอาไว้

                ถ้าจะให้คาดเดา ถ้าเธอแต่งตัวเสร็จ คงต้องแบกของพวกนี้ลงไปให้เขาด้านล่างแน่ๆ

                คยูฮยอนเคาะประตูห้องเบาๆ ซอฮยอนหันไปมองก่อนจะลุกขึ้น

                “ฉันกำลังจะเอาผ้าห่มกับหมอนลงไปให้พอดี”

                “ผมบอกหรอว่าจะนอนข้างล่าง” 

                “แล้วคุณจะนอนที่ไหนไม่ทราบคะ?

                “นอนกับคุณบนนี้ไง” คยูฮยอนยิ้ม

                “ฉันไม่ให้นอน!

                “โธ่ ซอฮยอน ผมจะได้ดูแลคุณกับลูกไง ไม่ดีหรอไง ผมผมนอนข้างล่างกับพื้นก็ได้ ผมนอนได้” เขาชี้ไปที่พื้นก่อนจะยิ้มแฉ่งให้เธอ

                “จะพื้นหรือจะตรงไหน ฉันก็ไม่ให้นอน!

                “ทำไมคุณดื้อแบบนี้เนี่ยซอฮยอน!

                “คุณนั้นแระดื้อ ไม่ใช่ฉัน! อ่ะ  ซอฮยอนกุมท้องตัวเองเบาๆ ก่อนที่คยูฮยอนจะรีบเข้าไปประคอง

                “เถียงบ่อย เป็นยังไงละ เจ็บท้องเลย”

                ซอฮยอนมองค้อน “คนท้องมักจะหงุดหงิดง่าย คุณไม่กลัวฉันจะโวยวายใส่ตอนกลางดึกหรอไง?

                “ไม่กลัว”  เขาส่ายหน้าพลางยิ้ม “ตกลงให้ผมนอนในห้องนี้แล้วใช่มั้ย?

                ซอฮยอนหน้างอก่อนจะผละออกจากตัวเขาแล้วนั่งลงบนเตียง “ข้างเตียงเท่านั้น”

                “ครับผม!  คยูฮยอนยิ้มร่าก่อนจะรีบจัดแจงที่นอนของตัวเอง แล้วเกาะขอบเตียงมองซอฮยอนที่ล้มนอนไปแล้ว

                “ฝันดีนะครับ ทั้งแม่และลูกเลย

                ซอฮยอนหันตะแคงไปอีกทางก่อนจะเผลอยิ้มออกมา

     

     

     

     

     

     

     

                “ผมมาแล้วเจสเจสสิก้า!  ทงเฮรีบวางของที่ซื้อมาทั้งหมดลงบนโต๊ะและวิ่งไปที่เตียงเปล่า เขาไม่พบร่างของเจสสิก้าที่นอนอยู่ ในห้องน้ำและระเบียงก็ไม่มี ที่สำคัญ สายน้ำเกลือถูกกระชากออกไป

                ชายหนุ่มเดินจ้ำอ้าวไปพบนางพยาบาลเวรยามทันที

                “คุณดูแลคนไข้ยังไง ให้หายไปครับ เธอเพิ่งฟื้นด้วยซ้ำ!

                “เดี๋ยวนะค่ะ เกิดอะไรขึ้นคะ?  พยาบาลเวรถามอย่างสับสน

                “คนไข้ที่ชื่อ เจสสิก้า ควอน หายตัวไปจากห้อง!

                “อะไรนะคะ?! รอสักครู่นะค่ะ ทางเราจะรีบตามหาเดี๋ยวนี้ละค่ะ”  พยาบาลตาเหลือกก่อนจะติดต่อทุกฝ่ายในโรงพยาบาลเพื่อตามหาตัวเจสสิก้า

                หญิงสาวที่สวมชุดเดรสสีฟ้ามีผ้าพันคอปิดหน้าไว้มองทงเฮเงียบๆอยู่ข้างตึกในช่องบันไดหนีไฟ

                “ฉันกำลังจะเอาลูกเราคืนลูกของเรานะทงเฮ

                เธอยิ้ม ก่อนจะเดินออกจากโรงพยาบาลด้วยบันไดหนีไฟ


     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×