คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #91 : 1 Day Shop
4.30 AM
ภายในซอยเล็กๆที่สงบร่มรื่นและมืดสนิท บ้านเรือนทุกหลังปิดไฟจนมองแทบไม่เห็นอะไร จะมีใครกันที่ตื่นมาในตอนเช้าตรู่แบบนี้ อากาศเย็นนิดๆกำลังดีชวนน่านอนยิ่งนัก หลายคนคงกำลังหลับฝันอย่างมีความสุขอยู่บนเตียงนอนนุ่มๆและใต้ผ้าห่มอุ่นๆเป็นแน่
แต่ใช่ว่าจะไม่มีแสงไฟเลยในซอยที่กำลังมืดมิดนี้ หน้าต่างบานหนึ่งมีแสงส่องสว่างออกมาเด่นอย่างเห็นได้ชัดราวกับว่าเป็นหิ่งห้อยที่ส่องแสงอยู่ในความมืด เงาร่างใหญ่ของชายคนหนึ่งกำลังค่อยๆเลิกผ้าม่านออกมานุ่มนวลช้าๆ ใบหน้าของเขาไม่มีทีท่าว่าจะงัวเงียหรือสะลึมสะลือจากการตื่นเช้าเลยแม้แต่น้อย แต่มันกลับสดใสและอิ่มเอมดั่งเช่นคนสุขภาพดี รอยยิ้มเล็กๆที่เป็นเครื่องประดับฉายแววส่องสว่างแข่งกับแสงจากหลอดไฟ ราวกับว่าการตื่นเวลานี้คือกิจวัตรประจำวันของเขาอยู่แล้ว
ภายในห้องเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทำครัวมากมายที่เรียงรายกันอยู่อย่างเป็นระเบียบ ชั้นตู้ที่บรรจุไปด้วยถ้วยชามอย่างประณีตราวกับมันกำลังส่องประกายอยู่บนนั้น เตาอบและตู้เย็นที่แทบไม่มีฝุ่นจับเลยแม้แต่น้อย อายุการใช้งานของมันก็ไม่ใช่น้อยๆเท่าไหร่นัก แต่มันยังเหมือนเป็นของใหม่อยู่ตลอดเวลาเพราะการดูแลรักษาที่ดี
ชายหนุ่มค่อยๆนำไม้ถูพื้นมาถูไปตามพื้นกระเบื้องเซรามิคสีครีมอ่อนสลับกับสีส้มที่ตัดกันได้โทนและดูสบายตาสดใส เขาถือเสมอว่าถ้าหากที่อยู่อาศัยไม่สะอาดจะทำให้จิตใจสกปก อีกทั้งที่นี่เป็นห้องที่ใช้ประกอบการทำอาหารและขนมอีกมากมาย ซึ่งมันจะต้องส่งต่อไปสู่ผู้บริโภคอีกหลายต่อหลายคน เพราะอย่างนั้น เขาจึงต้องพิถีพิถันกับมันมากเป็นพิเศษ
หลังจากที่นำไม้ถูพื้นไปซักและตากไว้เรียบร้อยแล้ว หน้าที่ของเขาต่อจากนั้นคือการเตรียมอาหารสำหรับเหล่าเด็กๆที่ยังไม่ตื่นกันเลยสักคน ข้างๆบันไดที่ขึ้นไปสู่ชั้นสองถูกแขวนด้วยกระดานดำบานเล็กๆ บนนั้นถูกตีเป็นตารางสามแถวสองช่องและมีชื่อเมนูอาหารอยู่สามชื่อ เขาค่อยๆนับตัวแม่เหล็กที่ถูกติดอยู่ในช่องข้างๆ
เวลาจะทำอะไร เขามักจะนึกถึงเด็กๆที่นี่ก่อนเสมอ อาหารการกินก็เหมือนกัน เขาจะเขียนเมนูเอาไว้ให้อย่างนี้ทุกมื้ออาหาร หากใครชอบอะไรก็ติดตัวแม่เหล็กเอาไว้ที่เมนูนั้น อะไรก็ตามที่ได้รับการโหวตมากที่สุด เขาก็จะทำสิ่งนั้นออกมาและลบเพื่อเขียนเมนูใหม่เตรียมเอาไว้สำหรับมื้อต่อไป
วันนี้ก็เช่นกัน... เขานึกเมนูที่สามารถทำได้ตามวัตถุดิบที่เพิ่งไปจับจ่ายมาจากตลาดเช้า ก่อนจะลบเมนูเก่าและเขียนมันลงไป ขณะนี้เวลา ตี 5 ครึ่งแล้ว เขาควรจะรีบเตรียมอาหารเช้าก่อนที่เหล่าเด็กๆทั้งหลายจะตื่นมากัน
06.15 AM.
เด็กหนุ่มค่อยๆก้าวลงมาจากบันไดชั้นสอง มือข้างขวารูดลงมาตามราวบันได เขาหาวเล็กน้อยก่อนจะขยี้หัวตัวเอง เส้นผมสีดำขลับเป็นเงางามและไม่ค่อยจะเป็นทรงคือเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของตัวเขาเอง
“มีอะไรบ้างเนี่ย?”
เขาหยุดมองกระดานดำข้างๆบันไดที่ถูกเขียนแทนที่ด้วยเมนูใหม่สามเมนู
‘มักกะโรนีผัดซอส’ ‘ข้าวผัดกระเพราคลุกหมูสับ’ และ ‘ข้าวผัดซอสมะเขือเทศห่อไข่’
สายตาคู่นั้นพิจารณามันอยู่ครู่ก่อนที่จะหยิบตัวแม่เหล็กในกล่องข้างๆติดลงตรงที่เมนูสุดท้าย จริงๆโหวตอะไรไปก็ได้อยู่แล้ว เพราะสำหรับเขาไม่ว่าจะเป็นเมนูไหนก็ได้ทั้งนั้นอยู่แล้ว ก็พี่ชายน่ะ ทำอะไรก็อร่อยไปหมดเสียทุกอย่างน่ะสิ! ทุกคนในที่นี้ก็เหมือนกัน ถึงแม้ว่าเมนูที่ตัวเองโหวตจะไม่ชนะเมนูอื่น แต่อาหารที่ออกมามันก็อร่อยซะจนต้องขอเพิ่มอีกกันอยู่ดี
เหมือนว่าจมูกของเขาเริ่มทำงานเมื่อได้กลิ่นหอมๆลอยมาจากห้องครัวด้านใน ขายาวๆค่อยๆก้าวเข้าไปอย่างเนิบๆก่อนจะเลิกผ้าม่านที่กั้นระหว่างประตูเข้าไปดู
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่!”
ชายหนุ่มที่กำลังคนหม้อที่ตั้งไฟอยู่บนเตาค่อยๆหันมามองเขา พร้อมกับรอยยิ้มมีอยู่บนใบหน้าเช่นทุกครา
“อรุณสวัสดิ์ครับน้ำเอก ^^”
“เช้าวันนี้มีเมนูอะไรฮะ?” เขาขยับไปที่อ่างล้างจานข้างๆก่อนจะเก็บชามส่วนผสมและเครื่องครัวที่ใช้ประกอบการปรุงอาหารมาจัดการล้างทำความสะอาดมันเสีย
ด้วยความที่พี่ชายของเขาคนนี้ได้สอนทุกเรื่องเกี่ยวกับการรักษาความสะอาดในห้องครัวมาตั้งแต่ยังเล็ก มันทำให้เขาติดนิสัยซึมซับความรักสะอาดไปด้วย จึงไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อยหากมีใครทักว่าพี่น้องสองหนุ่มนี้มีบุคลิกท่าทางและอะไรหลายๆอย่างที่เหมือนกัน รวมไปถึงหน้าตาความหล่อเหลาที่กินกันไม่ลงอีกด้วย
“ข้าวต้มกุ้งครับผม ^^”
“ว้า! เสียดายจัง เอกอุตส่าห์โหวตแพนเค้กไปนะเนี่ย” น้ำเอกหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะเช็ดมือหลังจากจัดวางเรียงจานบนตะแกรงที่อยู่สูงไม่ห่างจากอ่างล้างจานเสร็จ
“ฮะๆ ^ ^ เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกันนะครับ” ชายหนุ่มเปิดขวดเครื่องปรุงต่างๆอย่างคล่องแคล่วโดยไม่ต้องพิจารณาดู มันเป็นสิ่งที่ชินมือเขาไปเสียแล้ว จนไม่ต้องแม้แต่มองเขาก็กำลังรู้ตัวว่าตักอะไรขึ้นมาใส่อยู่
“มีสตรอเบอร์รี่อยู่ในตู้เย็นน่ะครับ ถ้ายังไง ช่วยล้างแล้วเชื่อมน้ำตาลให้พี่หน่อยได้ไหม? ^^”
“ได้อยู่แล้วฮะ! ^O^”
น้ำเอกยิ้มกว้างก่อนจะลงมือเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบตะกร้าสตรอเบอร์รี่จำนวนมากออกมาวางเรียงและล้างมันอย่างเบามือ วัตถุดิบพวกนี้คุณภาพดีทั้งนั้น เป็นผลมาจากการคัดสรรค์อย่างดีของผู้เป็นพี่ชาย ก็พี่ของเขาน่ะ ถือคติว่า ‘ของที่จะทำให้ใครก็ต่อใคร ต้องพิถีพิถันตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงขั้นตอนการปรุง’ นี่นา
และมันก็เป็นเช่นนี้ทุกเช้าที่พี่น้องสองหนุ่มจะช่วยกันเตรียมข้าวของอยู่ในครัว
08.15 AM
“อรุณสวัสดิ์จ้ะ!”
เสียงใสๆดังทักทายก่อนที่เจ้าของเสียงจะปรากฏตัวเข้ามาภายในห้องครัว รูปร่างที่แสนเย้ายวนใจชายหนุ่มภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ไม่ติดกระดุมบนสองเม็ด แขนเสื้อที่ถูกพับให้อยู่ตรงข้อศอก เสื้อกั๊กสีดำที่ถูกสวมทับและกระโปรงมินิสเกิร์ตล่อตาล่อใจชายหนุ่ม
“ตื่นแล้วหรือครับน้องพลอย ^^”
“อรุณสวัสดิ์ฮะพี่พลอย ^O^”
“อื้ม~ ก็ตื่นแล้วนี่ไง” เธอก้าวเท้าเข้ามาดู เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดังเป็นเรื่องปกติที่จะได้ยินกันเป็นประจำ
“น่ากินไหมครับ ^^”
“น่ากินสิ! พี่หยกทำอะไรก็น่ากินไปหมดอยู่แล้วนี่~”
เธอกล่าวก่อนจะหยิบชามจากในตู้มาเพื่อตักข้าวต้มเตรียมไว้ทั้งสองชาม เจ้าน้ำเอกคงกินเสร็จไปเรียบร้อยแล้วแน่ๆ เธอบรรจงเหยาะพริกไทยและโรยผักโรยลงในชามทั้งสองใบ ก่อนจะมันมาวางลงที่โต๊ะไม้
“พี่เทรนล่ะฮะ? ยังไม่ตื่นเหรอครับพี่?”
“ตื่นแล้ว แต่ยังแต่งตัวไม่เสร็จน่ะ =O=”
“ใครว่าผมยังแต่งตัวไม่เสร็จล่ะ! =^=”
อีกเสียงดังขึ้นพร้อมเจ้าของเสียงที่ปรากฏตัว ชายหนุ่มผมสีทองสว่างในชุดแบบเดียวกับเธอเดินเข้าก่อนจะมานั่งตรงหน้าชามข้าวต้มที่ถูกตักวางไว้ให้ ดวงตาของเขายังปรืออยู่เล็กหน่อยราวกับคนที่ยังตื่นไม่เต็มตา เส้นผมที่ยังคงเปียกและยุ่งเหยิงเพราะไม่ได้จัดอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่ผิวขาวที่เนียนเกลี้ยงและรอยยิ้มกว้างของเขาคือจุดเด่นที่ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องเคลิ้มตามแน่นอน
“ก็เมื่อกี้ฉันจะลงมา นายไม่เสร็จซะที -*-”
“ผมแต่งตัวจะเสร็จแล้วแต่คุณไม่รอผมเองต่างหาก =O=”
“เอาน่าๆ อย่าเถียงกันสิครับน้องพลอย น้องเทรน ^ ^”
ยามเช้าที่แดดส่องสว่างเต็มท้องฟ้า อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นถ้าเทียบกับตอนเช้ามืด ควันสีขาวจางๆจากหม้อข้าวต้มลอยฟุ้งอบอวลพร้อมกับกลิ่นหอมไปทั่วห้องครัว การตื่นเช้ามาเพื่อดูว่าอาหารเช้าของวันนี้เป็นอะไรนับเป็นความตื่นเต้นอย่างหนึ่งเหมือนกัน
พ่อหนุ่มผมทองนี้เองก็ไม่ได้เป็นพี่น้องกับใครที่นี่หรอก จะมีก็แต่สามพี่น้องนี้แหละที่เป็นพี่น้องกันแท้ๆตามสายเลือด ส่วนตัวเขามาทำอะไรน่ะหรือ? คำตอบง่ายๆ ก็ค้างบ้านแฟนไงล่ะ แม่สาวคนงามนี้แหละก็คือแฟนของเขา อาจจะมีบ้างเหมือนครั้งนี้ที่เขามาช่วยงานที่นี่ อีกเหตุผลหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะติดใจฝีมือทำอาหารชนิดหาตัวจับได้ยากของพี่ชายแฟนสาวเนี่ยแหละ จะมีสักกี่คนกันล่ะที่ไม่ว่าทำอะไรก็อร่อยไปเสียทุกอย่าง
แต่จะว่าไป... ตั้งแต่มาที่นี่เขายังไม่เคยชินอาหารซ้ำกันเลยสักวัน... ฝีมือสรรหาอาหารมาให้น้องๆรับประทานกันของพี่แก้วหยกนี่เหลือร้ายจริงๆ...
“เอกไปรดน้ำต้นไม้ก่อนแล้วกันนะฮะ ^O^”
น้ำเอกเดินออกมาจากครัว ตอนเช้าๆแบบนี้ควรจะปล่อยให้พี่สาวกับแฟนของพี่นั่งกุ๊กกิ๊กกันไปดีกว่า อยู่นานๆเกรงว่าจะโดนมดกัดจนเจ็บเสียก่อนมากกว่า
เขาค่อยๆรองน้ำใส่บัวรดน้ำก่อนเดินออกมารดน้ำดอกไม้ที่บานสะพรั่งอยู่ในกระถางยาว พี่แก้วหยกชอบปลูกต้นไม้ เพราะอย่างนั้นหน้าร้านและรอบๆจึงมีดอกไม้หลากสีที่แข่งกันเบ่งบานความงามของมันอย่างมากมาย ข้างๆมีต้นลีลาวดีต้นใหญ่ที่ดอกสีขาวบานเต็มต้น
ใครหลายคนกล่าวเอาไว้ว่า... ลีลาวดีหรือลั่นทมหรือดอกไม้อัปมงคล ที่แปลว่า โศกเศร้าเสียใจ แต่สำหรับที่นี่ไม่ใช่... พี่หยกชอบดอกไม้นี้มาก เพราะความหมายที่แท้จริงของมันคือ ‘ความรักอันยิ่งใหญ่’ และ ‘ละทิ้งซึ่งความทุกข์ทั้งปวง’ เพราะอย่างนั้นถึงได้เลือกที่จะปลูกมันขึ้นโดยไม่สนเสียงค้านของผู้คนรอบๆด้าน
เพราะพี่หยกกล่าวไว้ว่า... อยากให้ทุกคนที่มาทานขนมที่นี่ได้มีความรู้สึกผ่อนคลายและละทิ้งความเศร้าใจไปทั้งหมดเพื่อดื่มด่ำกับรสชาติความสุขจากขนม รวมไปถึงต้องการให้พนักงานทุกคนมีความรักต่อกันเหมือนกับเป็นครอบครัว ซึ่งเป็นความรักที่แสนยิ่งใหญ่ที่สุด
แน่นอน... ไม่มีคัดค้านเลยนับจากนั้น...
“อรุณสวัสดิ์ฟิล์ม! ^-^”
“อรุณสวัสดิ์จ้าพี่น้ำเอกสุดหล่อ -..-”
ทั้งคู่กล่าวทักทายก่อนเด็กสาวที่มาใหม่จะเอาจักรยานไปจอดไว้ข้างๆร้าน เธอมักจะมาเช้าก่อนพนักงานคนอื่นเสมอ ใบหน้าที่แสนน่ารักกับทรงผมที่สั้นแลดูสดใส ขวดโออิชิถือเป็นของคู่ใจที่พกมาทุกครั้งที่เข้าร้าน
เอ่อ... ได้ข่าวที่นี่ก็มีเครื่องดื่มบริการมากมาย แต่แม่คุณก็ที่จะพกชาเขียวนี่ห้อดังคู่ใจมาเป็นเครื่องดื่มคู่กายอยู่ดี
“วันนี้มีข้าวต้มกุ้งนะครับ ^^”
“ไฮยะ! เริ่ดจ้ะ -.- เอ้อ.. ฝากบอกพี่ห้อยหน่อยน่อ ว่าถ้ายังมีชีวิตอยู่ให้ติดต่อมาบ้าง -0-”
“ครับผม ^^”
เธอพยักหน้าให้เขาก่อนจะรีบเดินเข้าไปในร้าน
ส่วนใหญ่พนักงานที่นี่จะมาทานอาหารเช้าที่ร้านทั้งนั้น ก็แหงล่ะ.. ของกินฟรีนี่นา แถมยังอร่อยอีก มีแต่คุ้มเหลือหลายเพราะแต่ละอย่างใส่นู่นใส่นี่ให้กินกันอย่างจุใจ กินหมดไม่พอสามารถเพิ่มได้ บางวันโชคดีอาจจะได้กินอาหารจากหลากหลายประเทศแบบหนำใจอีก สวรรค์โดยแท้เลยทีเดียว
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยย!!~ =[]=!!! แอ๊กกก!! พี่ถีบผมลงมาทำไมเนี่ยเฮ้ย!”
“แกมันเดินช้าเองดีหว่าไอ้ซัมดง -___-^”
“ไอ้เตี้ย แกก็ไปแกล้งน้องมัน ซัมดงของพี่ เจ็บมั้ย? >O<”
“หรือแกอยากร่อนตามลงมันไปอีกคนวะ -___-^+”
“ทำไมต้องรังแกคนหล่อด้วย TOT”
“-_____- ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ซ้ำมันอีกทีดิ๊แก”
“โฮกกกกก !!~ TTOTT”
เสียงโหวกเหวกดังมาจากบริเวณบันไดพร้อมร่างของเด็กหนุ่มที่ปลิวลงจากชั้นบน เสียงโหยหวนดังลั่นจนทุกคนหันไปมอง หนุ่มน้อยผู้โชคร้ายยันตัวเองลุกขึ้นมาพร้อมกับปัดๆเครื่องแบบสีขาวและจับโบว์หางยาวให้เข้าที่ ใบหน้าคมได้รูปแลดูไม่พอใจเล็กน้อยกับคนสองคนที่เดินตามลงมา
“พี่แม่ง.. รังแกเด็กว่ะ”
“เด็กโข่งอย่างแกมันก็น่าอยู่หรอกไอ้แบม -___-^”
เจ้าของประโยคว่าก่อนจะยกมือเสยเส้นผมสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้าที่หวานสวยราวกับเด็กผู้ของเขาคือจุดเด่นที่เจ้าตัวไม่ค่อยจะพอใจนัก คิ้วคู่สวยขมวดมองเจ้าแบมที่ขมุบขมิบปากพึมพำอะไรสักอย่างอยู่
“แกแอบด่าฉันเรอะ -___-”
“ใช่ ! เอ้ย!! ไม่ใช่ ใครมันจะไปกล้าด่าพี่ประเสริฐศรีแบบนั้นล่ะเอ้อ -0-”
“ไม่จริง ฉันได้ยิน -___-^”
“หูฝาดแล้วม้างงงพี่เตี้ย! TOT”
“-____- พวกแกสองตัวเลิกเถียงกันแล้วไปกินข้าวสักทีจะได้มั้ยวะ”
เด็กหญิงตัวน้อยอีกคนเดินมาตบหัวทั้งคู่ เธอท้าวเอวมองพวกเขาทั้งสองที่เถียงกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เกรียนใส่กันในเรื่องที่คนอื่นไม่เข้าใจ ทำเอารำคาญกันไปหมดอย่างทั่วถึง แต่มันก็เป็นเรื่องปกติ คนนึงก็แสนจะขี้บ่น ส่วนอีกคนก็กวนตีนไม่เข้าเรื่อง ทุกเช้าเธอจะได้ยินเสียงด่าตึงตังดังลั่นก่อนที่ที่นอนหันแสนสงบสุขของเธอถูกรุกราน...
จะไม่ว่าเลย.. ถ้าไม่มารบกวนกัน แต่ทำไงได้ในเมื่อพวกเขาทั้งสามนอนห้องเดียวกัน ซึ่งแต่เดิมมันเป็นห้องใต้หลังคาที่เป็นที่นอนของเจ้าเตี้ยเดียว แล้วจะอัดกันนอนยังไง? ไม่ใช่ปัญหาในเมื่อคุณเจ้าของห้องจัดการแบ่งพื้นที่ให้เสร็จสรรพ ไอ้แบมนอนพื้น เธอโดนยัดให้นอนในตู้เพราะมันได้ไอเดียมาตอนดูโดเรม่อน - - * ส่วนเจ้าของห้องน่ะเหรอ? นอนเตียงสบายใจเฉิบ น่าถีบเป็นที่สุด!
“โหวกเหวกแต่เช้าเลยนะ =_____=”
“วันนี้มีอะไรกินนะ! ^O^”
ประตูร้านถูกเปิดออกอีกครั้งพร้อมร่างของคนสองคน คนหนึ่งเป็นผู้ชายตาตี่ๆ ผิวคล้ำ ร่างใหญ่ ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิงผิวขาว ตาโต ปากชมพูน่ารักเหมือนตุ๊กตา แต่ยังไงทุกคนก็มองออกอยู่ดี.. ตอบแบบไม่ต้องคิดเลย ยังไงก็ไม่ใช่คนรักกันแน่นอน = = …
“พี่ลักกี้ พี่เอนมิน อรุณสวัสดิ์ค่า~ ^O^”
“ยังไม่ชินอีกเหรอพี่? -_____-”
“อะไรไม่รู้ แต่ดูจากกลิ่นแล้วแบมว่าอร่อยแน่นอนพี่ -.-”
“เอ้าๆ! -*- มากองอะไรกันอยู่ตรงนี้!”
คุณน้องสาวเจ้าของร้านเดินออกมาจากครัว เธอมองทุกคนที่มายืนออกันอยู่
“รีบๆไปกินข้าวแล้วก็แต่งตัวซะ! -*-”
คำสั่งของเธอเหมือนเป็นเสียงชี้ชะตา ทุกคนรีบไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย บางคนรีบวิ่งขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อที่ชั้นบน บางคนก็เดินเข้าครัวไปนั่งกินอาหารเช้าสบายใจเฉิบ ใครมันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร เคยเห็นที่ไหนไหมล่ะ? เป็นน้องสาวเจ้าของร้าน แต่มีอำนาจเหนือเจ้าของร้าน... ดูแลตั้งแต่บุคลากรไปจนถึงเงินเดือนเลยทีเดียว
ชั้นสองของร้านนอกจากจะมีห้องนอนของสามพี่น้องแล้ว ยังมีห้องหนึ่งไว้เป็นที่สำหรับเปลี่ยนเป็นยูนิฟอร์มของพนักงาน ภายในห้องแบ่งเป็นสองส่วน คือห้องเปลี่ยนเสื้อของผู้ชายและห้องเปลี่ยนเสื้อของผู้หญิง และอีกห้องหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกันมาก ซึ่เอาไว้นอนพักผ่อนยากใครเปลี่ยนเวรกับใคร รวมไปถึงแอบมาอู้ด้วย (แต่ก็โดนคุณนายพลอยจัดการต่ออีกอยู่ดี -.-) เป็นร้านที่สุขใจพนักงานเหลือเกิน จะมีร้านไหนให้ลูกน้องทุกคนได้เท่าอีกไหม? ไม่มีใช่ไหมล่ะ...
“ฮะๆ จะ 9 โมงแล้วนะครับ ^^ รีบเตรียมร้านกันดีกว่าเนอะ!”
คุณเจ้าของร้านเดินกลับลงมาจากชั้นสอง ตอนนี้เช้าใส่ชุดเชฟสีขาวสะอาดตา กระดุมดิ้นทอง 10 เม็ดถูกติดอย่างเรียบร้อย ผ้ากันเปื้อนสีขาวผูกคาดเอวไว้อย่างเรียบร้อย ตรงริมด้านซ้ายถูกปักด้วยไหมที่ทองเป็นคำว่า ‘Bon appetit’ ที่เป็นชื่อร้านนี่เอง
ยูนิฟอร์มของคนอื่นก็ถูกปักเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นยูนิฟอร์มของบาริสต้าและเด็กเสิร์ฟ ทั้งหมดถูกตัดเย็บขึ้นอย่างประณีต ซึ่งเป็นเครื่องแบบเฉพาะไม่มีขายที่ไหน คนตัดก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ก็คุณหญิงพลอยรุ้งคนนั้นเนี่ยแหละ!
หน้าที่ของทุกคนแตกต่างกันออกไป เหล่าเด็กเสิร์ฟช่วยกันยกเก้าอี้ลงจากโต๊ะ จัดการเช็ดกันให้เรียบร้อยก่อนจะปูรองด้วยผ้า จัดวางกล่องกระดาษทิชชู่และแจกันดอกไม้บานเล็กๆเป็นอันเสร็จ
อาจจะมีบ้างที่มีเสียงโหวกเหวกโวยวายมาจากการทำงาน...
“เฮ้ย! ไอ้แบม เก้าอี้มันทับเท้าฉัน!! =[]=!!”
“น้องพริ้งค์! *0* พี่เจอเหรียญสิบตกอยู่ใต้โต๊ะด้วยแหละ!”
“อิเตี้ย! =[]=!! แกอย่าเซมาทางนี้สิฟระ!!”
“แหก!! =[]=!! ผ้าปูขาด!!”
“พี่!! คนเรามันผิดพลาดกันได้ จะเอาอะไรกับเด็กอย่างผม!! TOT”
ดูเหมือนความสงบสุขภายในร้านจะหมดไปเรื่องสามมหาประลัยโผล่มา... - -
ทางด้านในครัว สามหนุ่มกำลังช่วยกันทำ... ไม่สิ ต้องบอกว่าสองหนุ่มช่วยกันทำขนม ส่วนอีกคนช่วยทำลายซะมากกว่า ไม่มีผู้ใดแปลกใจหากได้ยินเสียงระเบิด ได้ยินเสียงอะไรตกลงพื้น หรือได้กลิ่นเหม็นไหม้ เลยแม้สักคนเดียว อาจจะเป็นเพราะชินกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นทุกวันแล้วก็เป็นได้ เจ้าของร้านรูปหล่อก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาเพียงแค่ยิ้มแล้วก็บอกว่า ไม่เป็นไร อย่างนี้ทุกที และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เป็นแบบนั้นเช่นกัน...
เคร้ง!!!!~
“อะไรอีกเนี่ย? -*-” พลอยหันเข้าไปมองในครัว เธอวางขวดโหลเมล็ดกาแฟลงที่เคาน์เตอร์
“เอนมินแน่นอน ฟังธง” อินเทรนพูดโดยที่ไม่หันไปมอง เขามั่นใจแน่นอนว่าต้องเป็นเจ้าตาตี่หน้าโดเรม่อนนั่นแน่ๆ น้ำเอกรึ? ก็ไม่ใช่ ยิ่งพี่หยกยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลย เพราะอย่างนั้นตัวการก็มีอยู่คนเดียว เขาเลยสนใจเช็ดเครื่องแก้วที่เรียงรายรอบรรจุเครื่องดื่มหลากหลายชนิดมากกว่า
“เอาอีกแล้วหรือเนี่ย? -*-”
“เอาน่าพลอย~ เรารีบเตรียมของกันดีกว่านะครับ คนสวย ^^”
“อื้อ -*-”
ไม่นานนักขนมแสนอร่อยมากมายถูกยกออกมาเรียงรายอยู่หน้าตู้เค้กเป็นที่สนใจแก่คนที่ผ่านไปผ่านมายิ่งนัก มีบ้างเล็กที่มีลูกค้ามายืนรออยู่หน้าร้านเพื่อรอให้ถึงเวลาแล้ว น้ำเอกได้แต่ยิ้มให้พวกเขาเพียงเล็กน้อย ก่อนจะยุ่งอยู่กับการเรียงขนมที่ค่อยๆทยอยออกมา
“โอ้!!~ พี่หล่อใช่มั้ยน้อง ไม่ต้องชม ฮ่าๆๆ”
“ไอ้เอนมิน! กลับมาทำงานเดี๋ยวนี้นะยะ! =[]=!”
“เอาน่า น้องพลอย ไม่เป็นไรหรอกครับ ^-^”
“ก็ดูสิพี่หยก! -*- เมื่อไหร่มันจะเลิกเข้าใจอะไรผิดซะที !”
“กี้ว่า.. ปล่อยไปเถอะค่ะพี่พลอย -*-”
“พี่อยากจะบ้า.. =____=”
บรรยากาศก่อนร้านเปิดมักจะมีเรื่องยุ่งวุ่นวายมาให้ปวดหัวอยู่เสมอ แต่ก็นับเป็นสีสันอย่างอื่น บางวันก็มีเรื่องให้ขำขันหัวเราะกันไปจนตลอดวัน บางวันก็ต้องมานั่งแก้ปัญหาเรื่องไม่เป็นไรเรื่องจนเครียดกันไปทั้งร้าน คนเราไม่ใช่หุ่นยนต์ที่เอาแต่ทำงานไปวันๆ แต่การได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆต่อกันมันทำให้ทุกๆคนในร้านรู้สึกผูกพันกันมากขึ้น
นี่แหละนะ... ความรู้สึกผูกพันของครอบครัว...
-------------------
nu eng
Create a playlist at MixPod.com
ความคิดเห็น