คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [Twin] I'm Your
เขา กำลังนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง สายฝนที่กำลังโปรยปรายกลายเป็นหยดน้ำที่เกาะอยู่ตรงบานกระจก เสียงเม็ดฝนกระทบดังกึกก้องไปทั่ว ภายในห้องเหลือแต่ความเงียบที่ไม่รู้จบ และไม่คิดว่าคงมีสิ่งที่จะสามารถทำลายบรรยากาศอันเงียบงันนี้ไปได้เป็นแน่ ดวงตาคู่สวยปิดลงเผยให้เห็นเรือนขนตาที่เป็นแพติดกันอย่างดี จมูกย่นหน่อยๆก่อนจะปล่อยลมหายใจออกมาอย่างรุนแรง
ภาย ในห้องมีเพียงเขา .. เขาคนเดียวที่กำลังปล่าวเปลี่ยวรอคอยใครสักคนที่กำลังจะกลับมา เข็มของนาฬิกาบอกเวลาว่าตอนนี้เริ่มพลบค่ำมากแล้ว แต่คนที่กำลังรอคอยนั้นยังไม่กลับมาเสียที จนตอนนี้ชักเป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเสียแล้ว
เขา ลืมตาขึ้นก่อนจะหันไปมองรูปถ่ายที่ใส่กรอบแขวนผนังไว้อย่างดี .. รูปของคนสองคนที่ยืนอยู่เคียงข้างกัน คนสองคนที่แต่งกายแบบเดียวกัน คนสองคนที่มีรูปร่างและหน้าเหมือนกันแทบจะทุกประการ.. เว้นเพียงแต่สีผม คนหนึ่งผมสีน้ำตาลเข้มราวกับช็อคโกแลตไหม้ ส่วนอีกคนมีผมสีทองบลอนด์สว่างที่ดูสดใส แต่ก็ไม่ได้ทำให้ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปจากกันมากเท่าไหร่นัก ใบหน้าของคนสองคนที่เป็นฝาแฝด คนสองคนที่คนหนึ่งคือตัวเขา.. ส่วนอีกคน.. คือน้องชายฝาแฝด
“ทำอะไรอยู่นะเฌอปองส์.. ตั้งป่านนี้แล้ว..”
ริม ฝีปากคู่สวยขยับพึมพำเบาๆ คิ้วค่อยๆขมวดเข้าหากันจนแทบจะเป็นปม เจ้าแฝดน้องของเขานี่ช่างสร้างเรื่องเสียจริง ชอบทำโน่นทำนี่ให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย หรือนี่อาจจะเป็นเกมเรียกร้องความสนใจที่เขาสร้างขึ้นจนแทบจะเป็นนิสัยเสีย แล้วก็ได้ ..
ถูกต้อง .. ทำจนเป็นนิสัย แสดงว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้..
การ เรียกร้องความสนใจสารพัดจากเด็กชายคนนี้ที่เขารับมือมากว่าร้อยรูปแบบที่ได้ พบเจอมาไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยทีเดียวเชียว เดี๋ยวก็มาแบบแสนดี น่ารัก ขี้อ้อน หรือบางทีนึกอยากจะโหดร้าย ก็ทำจนเสียต้องเจ็บตัวกันทั้งคู่ และสุดท้ายก็ต้องมานั่งช่วยกันทำแผลอีก
ที่บอกว่าทั้งคู่.. ไม่ใช่เพราะทำร้ายกันและกันหรอกนะ..
แต่แค่คนเดียวต่างหาก .. ต่อให้แค่คนเดียวก็ตาม..
ชีวิต ของเขาสองคนเปรียบเสมือนกระจก กระจกที่สะท้อนทุกสิ่งทุกอย่างออกมาตามรูปที่ฉาย แต่เหมือนว่ากระจกบานนี้ของเขาสองคนนั้นจะทำหน้าที่ดีเกินไปเสียหน่อย แล้วกระมัง.. เพราะมันสะท้อนทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับทั้งคู่ .. เมื่อเกิดอะไรกับคนหนึ่ง ก็จะสะท้อนมาเกิดกับอีกคนหนึ่งด้วย เป็นแบบนี้ .. โดยไม่ทราบสาเหตุมาตั้งแต่จำความได้ ทุกครั้งที่เฌอปองส์ได้แผล ก็จะเกิดแผลจุดเดียวกันและแบบเดียวกันที่ร่างกายของเขาด้วย กลับกัน ถ้าเกิดเป็นเขาที่มีบาดแผล เฌอปองส์ก็จะบาดเจ็บที่จุดเดียวกันไปด้วยเหมือนกัน สิ่งนี้มันทำให้ทั้งคู่ต้องเรียนรู้ที่จะหวงแหนร่างกาย .. อาการที่แปลกประหลาดนี้ทำให้รู้ว่า .. ร่างกายนี้ไม่ใช่ของตัวเองเพียงหนึ่งเดียวอีกต่อไปแล้ว..
“ถ้าอีกครึ่งชั่วโมงไม่กลับมา จะไม่เป็นห่วงอีกแล้วเลยคอยดู!”
ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ ก็ไม่เคยปฏิบัติได้ตามดั่งที่พูดเลยสักครั้งเดียว ตั้งแต่เด็กแล้วที่ตัวติดกันไปไหนมาไหนตลอด ตั้งแต่เด็กที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ตั้งแต่เด็กๆ... ที่เขาเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน เพื่อตัวเอง.. และเพื่ออีกฝ่าย ความห่วงใยที่มีมาให้กันแต่เล็กแต่น้อยค่อยๆก่อให้เกิดบางสิ่งขึ้นในส่วนที่ ลึกที่สุดในจิตใต้สำนึกที่ไม่มีใครเข้าถึง จนมันเริ่มปะทุออกมาหลังจากที่รู้สึกเก็บซ่อนเอาไว้เสียนาน
เมื่อ.. ต่างฝ่ายต่างพบว่า ไม่ใช่แค่เพียงร่างกายอีกแล้วที่ไม่ใช่ของตัวเองเพียงคนเดียว
แต่มันลามไปถึงก้อนเนื้อก่อนหนึ่งที่เรียกว่า ‘หัวใจ’ ด้วยเช่นกัน
ความรู้สึก ‘รัก’ ที่มากเกินกว่าคำว่า ‘พี่น้อง’ ที่ตัวเองต่างมอบให้อีกฝ่าย...
แต่ยังไงความจริงก็คือความจริง ความจริง 2 ข้อที่พวกเขาต่างก็หนีไม่พ้น ความจริงข้อแรกนั้นคือ ทั้งสองคนเป็น ‘พี่น้องสายเลือดเดียวกัน’ และเป็น ‘ผู้ชาย’ ด้วย กันทั้งคู่ จะทำอย่างไรเล่าหากพ่อกับแม่รู้เรื่องนี้ จะทำอย่างไรเล่าหากสังคมได้รับรู้ เป็นเรื่องน่าอับอายยิ่งนักถ้าเกิดมันถูกเปิดเผยขึ้นมา เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ไม่มีทางลบเลือนก็หนีพ้นได้ เป็นเหมือนความทรมานที่แทรกกลางขึ้นระหว่างหัวใจของคนสองคน
แต่... ก็แล้วยังไง?
ในเมื่อยังมีความจริงอีกข้อ ความจริงที่ยิ่งใหญ่พอที่จะเอาชนะความจริงข้อที่แล้ว ความจริงที่ว่า ความรักของพวกเขาสองคนนั้นเป็น ‘ของจริง’ ใน เมื่อความรักเกิดขึ้นแล้วจะให้ทำอย่างไรได้เล่า? ถึงจะหนีหรือแยกจากกันไปยังไงก็ไม่มีทางที่จะหนีพ้นจากหัวใจของตัวเองอยู่ มันเอาแต่ร้องเรียกอีกฝ่ายตลอดเวลาราวกับว่าไม่มีทางขาดได้เลยแม้แต่น้อย ..
ก็แน่ล่ะ! อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แบบนี้ จะหนีจากกันไปรอดได้อย่างไร?
ยอมทุกอย่างเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน ยอมทุกอย่างไม่ว่าเรื่องเลวร้ายแค่ไหนผ่านเข้ามา ยอมให้สังคมตราหน้าว่า ‘ผิดศีลธรรม’ หรือแม้แต่ถูกเหยียดหยามว่าเป็นพวก ‘วิปริต’ ก็ตาม ..
เพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ .. สิ่งที่พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเกิด
แต่เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว .. เราก็ต้องการยอมรับในสิ่งที่เราต้องการจะเป็น...
แค่นั้น..
แค่นั้นก็พอ..
“เฮ้อ!!”
เขา ถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงนอนที่เขาและเจ้าน้องชายฝาแฝดตัวดีนอนหลับด้วยกันทุก คืน เขาไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรสักอย่าง แม้แต่ทำการบ้านที่ไม่ชอบให้มันคั่งค้างเป็นดินพอกหางหมูก็ตาม ในเมื่อภายในหัวมีแต่เรื่องของคนที่หน้าตาเหมือนตัวเองวนเวียนอยู่เต็มไปหมด กลับมาช้าขนาดนี้ เป็นห่วงก็แสนจะเป็นห่วง แต่จะให้ทำอย่างไรได้ล่ะ.. อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าแฝดน้องยังคงปลอดภัยดี ร่างกายนี้ของตัวเขาเป็นเครื่องยืนยันได้.. ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา ก็แสดงว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเฌอปองส์เช่นกัน
กลับมาช้าขนาดนี้ ... จะให้พูดอีกสักกี่ครั้งกันว่าคนพี่น่ะ โคตรเป็นห่วงเลย !
ดวง ตาหลับลงซุกกับหมอนข้างนึกย้อนถึงวันเก่าๆ เขายอมรับเลยว่าตัวเองเป็นคนที่ความจำดีพอสมควร จำได้ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเองและฝาแฝด ไม่ว่าจะสุข หรือ จะเศร้า ที่เราต่างเผชิญมาด้วยกันทั้งชีวืต
แน่นอน... แม้แต่วันแรกที่เขาสองคนกลายเป็นของๆกันและกันก็ด้วย..
ให้ตายเถอะ ! ไม่อยากจะเล่า! เจ็บแสนจะเจ็บเป็นที่สุด !
เจ็บ ซะจนอยากเลิกและถีบคนข้างบนออกเสียเหลือเกิน แต่เหมือนร่างกายก็จะไม่รับฟังและทนยอมรับความเจ็บปวดนั้นเสียแต่โดยดี ยิ่งปากร้องบอกให้พอเท่าไหร่ เหมือนเป็นเครื่องเย้ายวนเรียกให้อีกฝ่ายเข้าหาตัวอีกตลอดเวลา.. เหมือนความสุขและความทรมานพุ่งเข้าหามาพร้อมกันจนแทบไม่ได้ตั้งตัว สัมผัสที่แฝดน้องมอบให้ทำให้เขาไม่อาจถอนตัวจนหลงมัวเมาไปกับมันจนเสพติดกับความเคยชินแบบนี้ในที่สุด...
แต่ยังไงเขาก็รู้ .. มันเป็นสิ่งที่เกิดมาจากใจของเราสองคน
ไม่ต้องมีบรรยากาศ ไม่ต้องมีแสง สี หรือเสียงรอบข้างมาให้เป็นใจ
แค่คำว่า ‘รัก’ ที่มาจากใจเราสองคน.. แค่นั้นก็พอ..
เสียง เปิดประตูทำเอาแฝดพี่ที่เคลิ้มจะหลับไปกับหมอนข้างนั้นกระเด้งตัวขึ้นมา ความง่วงหายไปเป็นปลิดทิ้งเมื่อได้ยินเสียงของคนที่คุ้นเคยเอ่ยขึ้นทำลาย บรรยากาศความเงียบที่มีแต่เสียงครางของสายฝนให้หายหมดไปในที่สุด
“กลับมาแล้วครับ~”
“ไปไหนมา! ทำไมกลับมาช้าแบบนี้!”
ตอบ รับแทบจะทันทีเมื่อเจ้าตัวพูด ร่างบางลุกขึ้นจากเตียงพร้อมหยิบผ้าขนหนูจากราวไม่ใกล้ไม่ไกลมาโปะบนหัวของ อีกฝ่ายและลงมือขยี้เช็ดเบาๆ ดูสิ.. เปียกฝนจะจนตัวแฉะเป็นลูกหมาตกน้ำแบบนี้ แล้วจะไม่ให้เป็นห่วงได้ยังไงล่ะเนี่ย!
“ก็ครูอ้อยใช้ให้ทำความสะอาดเครื่องกีฬานี่ พวกฉันเอาไปใช้บ่อย ขืนไม่ทำเจอเจ๊แกอาละวาดตายแน่ -*-”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะน่า .. เป็นห่วงก็รู้นี่!”
“ขอโทษนะ.. เฌอแตม”
ใบ หน้าต่อใบหน้า ดวงตาต่อดวงตาที่พวกเขาต่างจ้องมองกันและกัน ไม่มีใครสักคนที่กะพริบ ตากลมแป๋วของคนหนึ่ง กับตาที่ปรือลงเล็กน้อยของอีกคนหนึ่ง สบประสานกันแทบจะลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย แววตาที่ทั้งคู่ต่างรู้สึกนึกคิดถึงกันได้แม้เพียงจ้องสักนิด.. แววตาที่มีเพียงอีกฝ่ายเท่านั้นจะได้เห็นของกันและกัน
“ฮะ.. ฮัดชิ่ว!! ><”
สอง คนจามขึ้นพร้อมกันก่อนจะหัวเราะให้กันเพียงเบาๆ ความสัมพันธ์ที่ใครหลายคนต่างไม่เข้าใจ แต่อย่างน้อยแล้วมีเพียงอีกฝ่ายเข้าใจเท่านั้นก็เป็นพอ แฝดพี่ยังคงใช้มือขยี้ผ้าบนหัวของแฝดน้อง และมือของแฝดน้องที่กอดเอวของแฝดพี่เอาไว้หลวมๆ เสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่มีให้กันสร้างความอบอุ่นขึ้นในหัวใจจนอากาศที่ หนาวเหน็บของสายฝนไม่สามารถแทรกระหว่างคนสองคนได้แม้แต่น้อย และริมฝีปากของทั้งคู่ที่ค่อยๆเลื่อนเข้ามาประทับกันอย่างบางเบา ..
แม้เพียงเล็กน้อย.. แต่ก็เต็มไปด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ที่ต่างฝ่ายต่างรู้ดี..
ไม่มีใครที่สามารถทดแทนอีกฝ่ายได้.. ความจริงอีกข้อที่พวกเขาต่างค้นพบขึ้นมาใหม่ ...
ความจริงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาทั้งสองคน
“นายเองก็เปียกไปด้วยแล้ว.. เพราะงั้น! ไปอาบน้ำด้วยกันซะเลยเถอะ~”
“อ๊ะ!!”
ไม่ รอให้อีกฝ่ายขัดขืน เจ้าแฝดน้องตัวดีก็คว้าตัวแฝดพี่ลากเข้าห้องน้ำโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับใดๆ แม้ถึงแฝดพี่จะบ่นยังไง สุดท้ายก็ยอมอยู่ดี...
วันธรรมดาอันน่าเบื่อที่แสนยาวนาน.. ที่พวกเขาทำให้กลายเป็นวันพิเศษได้ทุกวัน..
เพียงแค่มีกันและกัน ทุกๆวันของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความพิเศษที่ไร้ซึ่งความน่าเบื่อทั้งปวงแล้ว!
“อย่าถูตรงนั้นสิเฌอปองส์! อ๊ะ!!”
“ฮึฮึ.. ~ ”
และค่ำคืนอันแสนยาวนานพร้อมฝันอันแสนสุขที่ไม่รู้จบก็ได้ดำเนินต่อไปเช่นทุกวัน...
Loma_
p
ความคิดเห็น