ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    「Fic Douluo Dalu」เป็นลูกสาวท่านผอ.ฟู่นี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ย. 67


     

     

     

    ในคืนที่มรสุมโหมกระหน่ำ ได้มีบุคคลปริศนาสวมผ้าคลุมสีดำขลับกลืนไปกับความมืด กำลังปีนป่ายไปตามต้นไม้อย่างคล่องแคล่วเพื่อหลบหนีคนจากสำนักใหญ่ ในขณะที่วิ่งอยู่นั้นก็มีเข็มนับสิบพุ่งมาที่เจ้าของร่าง ก่อนที่จะมีหุ่นเชิดมารับเข็มนั้นไว้แทน ร่างในผ้าคลุมนั้นยังคงวิ่งหนีไปเรื่อย ๆ 

     

    ในขณะเดียวกันก็มีคนราวๆ หกถึงเจ็ดคนไล่ล่ามาไม่หยุดพร้อมกับปาอาวุธใส่ไม่พัก แต่มีหรือที่จะตามคนที่มีลักษณะปราดเปรียวได้ ร่างในผ้าคลุมดำหันไปมองด้านหลังเพียงเสี้ยววิก่อนที่จะใช้พลังภายในของตนเพื่อเสริมความเร็วให้แก่ฝีเท้าจนคิดว่าน่าจะหนีพ้นแล้ว แต่หารู้ไม่ว่ามันไม่เป็นอย่างที่คิด                 

     

    หลังจากสัมผัสได้ว่าไม่มีเสียงของใครตามมาแล้วร่างในผ้าคลุมดำ ก็ค่อยๆลดความเร็วลงจนมาหยุดอยู่ที่ริมผาที่มีถ้ำอยู่ ร่างนั้นไม่รอช้ารีบเข้าไปหลบทันทีและดูเหมือนว่าฝนจะเริ่มหยุดตกและฟ้าก็เริ่มเปิดให้เห็นจันทร์เต็มดวงแล้ว หุ่นเชิด3ใน10ที่เหลือก็ต่างร่วงลงไปกองกับพื้น                 

     

    ฝ่ามือเรียวค่อยๆ ลดหมวกคลุมผมลง ปรากฏเป็นใบหน้าของหญิงสาวที่มีนัยน์ตาสีแสดและเส้นผมสีเงินที่เปียกโชก นางถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหยิบบันทึกออกมาจากกระเป๋า โชคดีที่บันทึกนั้นไม่เปียกน้ำไปเสียก่อน มือทั้งสองข้างค่อยๆ วางมันลงกับพื้นพร้อมกับเปิดดูด้านใน                

     

    “นี่น่ะเหรอคัมภีร์เสวียนเทียน ไม่เห็นจะเหมือนที่คิดเลย ข้าเสียเวลา 5 ปีแฝงตัวเข้าไปทำไมกัน”

     

    กึก  

                  

    แต่ไม่ทันที่จะได้อ่านแบบละเอียดก็มีเสียงการเคลื่อนไหวอยู่หน้าปากถ้ำ หญิงสาวหันไปมองแม้ว่าจะมืดแต่พอมีแสงจันทร์ส่องสว่างให้เห็นผู้มาใหม่ เป็นชายหนุ่มร่างสูงมัดผมหางม้าใบหน้าเรียบเฉย กำลังมองมาที่นาง และดูจากชุดแล้ว คงไม่พ้นศิษย์จาก ‘สำนักถัง’ เป็นแน่                

     

    “แหมๆ ศิษย์น้องมาตามล่าข้ากลับแทนผู้อาวุโสหรือนี่” หญิงสาวเอ่ยอย่างยียวน กะจะปั่นประสาทชายหนุ่มเล่น แต่ก็ดูจะไม่เป็นผลนักเพราะคนตรงหน้าไม่ตอบทั้งยังเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ทันทีที่ชายหนุ่มกำลังจะก้าวขาเป็นก้าวที่สี่ก็ต้องหยุดชะงัก เหล่าหุ่นเชิดก่อนหน้านี้ที่กองอยู่กับพื้นกลับลุกขึ้นมาเอามีดจี้คอเขาทั้งสามตัว                

     

    “อยู่นิ่งๆเสีย ถ้าขยับเจ้าก็ตาย” หญิงสาวเอ่ยนิ่งๆพลางมองมาที่แขกผู้ไม่ได้รับเชิญตั้งแต่หัวจรดเท้า “วิชาหุ่นเชิดของเจ้าช่างล้ำเลิศยิ่งนัก ไม่ทราบว่าเจ้าเรียนมาจากที่ไหนกัน?” ชายหนุ่มถามขึ้น นางไม่ตอบในทันที ได้แต่มองมาที่เขาพลางยกยิ้มมุมปาก แต่พอรู้ตัวอีกทีชายหนุ่มคนนั้นก็มายืนตรงหน้าเธอเสียแล้ว                 

     

    เขานำมีดสั้นชี้มาที่หน้าของหญิงสาว “ทำไมล่ะเจ้าอยากเรียนรึไง?” แต่นางดูไม่มีท่าทีตกใจเลยแม้แต่น้อยยังคงยืนนิ่งๆ ส่วนหุ่นเชิดทั้งสามก็นั่งเรียงกันอย่างเป็นระเบียบที่ข้างหลังของชายหนุ่ม แขกผู้ไม่ได้รับเชิญท่านนี้มองไปยังคัมภีร์เสวียนเทียนที่อยู่ในมือของหญิงสาว พร้อมกับเอื้อมมือเพื่อที่จะไปคว้ามันมา                

     

    หญิงสาวก้าวถอยหลังหลบ “ถ้าอยากได้ก็มาสู้กับข้าสักตั้งเป็นอย่างไร ใครชนะได้คัมภีร์นี่ไป” ว่าจบก็ยัดคัมภีร์ลงในกระเป๋าไป ชายหนุ่มสำนักถังที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็โดนหุ่นเชิดพุ่งอัดเข้าใส่จนกระเด็นออกมานอกถ้ำ ตามด้วยร่างของหญิงสาวที่บุกเข้ามาพร้อมมีดสั้นในมือทั้งสองข้าง                

     

    เขาใช้วิชาหัตถ์หยกเร้นลับเพื่อรับการโจมตีนั้นก่อนจะสวนกลับด้วยมีดสั้นเช่นกัน แต่ในขณะที่สู้กับหญิงสาวยังต้องคอยระวังหุ่นเชิดที่เข้ามาตลบหลังได้อยู่เสมอ เกิดการต่อสู้ยืดเยื้อที่ไม่มีใครยอมใครราวหนึ่งชั่วยามได้ จนสุดท้ายก็เป็นหญิงสาวที่แพ้ไปเพราะเสียพลังไปมากจากการไล่ล่าก่อนหน้านี้                

     

    “แคก แคก” ร่างในผ้าคลุมดำทรุดลงกับพื้นพร้อมกับไอเอาเลือดออกมาเสียยกใหญ่ด้วยท่าทางราวกับคนกำลังจะขาดใจตาย ชายหนุ่มมองดูอย่างเวทนาเขารู้มาสักพักแล้วว่าคู่ต่อสู้นั้นมีบาดแผลสาหัสทั่วตัว พลันหุ่นเชิดสองตัวมาประคองร่างของหญิงสาวเอาไว้ ร่างเปื้อนเลือดนั้นกวักมือเรียกชายหนุ่มเข้าไปใกล้ๆ เพื่อที่จะได้พูดคุยได้สะดวก                

     

    “เจ้าชื่ออะไร?” เธอถามขึ้นทันทีหลังจากชายหนุ่มย่อตัวนั่งลงข้างๆ “ถังซาน...เจ้าล่ะ?” เขาเอ่ยตอบพร้อมกับถามกลับ สายตาก็มองบาดแผลบนร่างที่มีเลือดซึมออกมาไม่หยุด “เจ้าไม่จำเป็นต้อง...มาจำชื่อคนใกล้ตายแบบ..ข้าหรอก ให้ข้าจำชื่อเจ้าก็พอ” หญิงสาวเอ่ยอย่างติดขัด                

     

    นางหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับเอ่ยว่า “ข้าขออะไรเจ้าเสียหน่อยได้รึไม่?” สายตามองสบเข้าไปกับนัยน์ตาสีนิลนั้น แม้จะพร่าเลือนและมืดสลัวแต่เพราะแสงจันทร์ที่สิงมาก็ทำให้เห็นใบหน้านั้นได้ชัด “เชิญเจ้าว่ามา” เขาเอ่ย เมื่อได้รับคำตอบร่างบนพื้นเปียกชุ่มก็เอ่ยออกมายาวเหยียด “หลังข้าตายก็เผาร่างข้าเสีย ส่วนคัมภีร์หรือหุ่นเชิดจะเอาไปก็เชิญ ข้ายกให้”

     

    ฟังอย่างไรก็คำสั่งเสียชัดๆ ชายหนุ่มคิดในใจก่อนจะถามกลับ “ทำไมถึงยกให้ข้าล่ะ?” ร่างชุ่มเลือดเพียงเค้นหัวเราะออกมาเบาๆ แต่ไม่ตอบคำถามนี้ แต่กลับพูดขึ้นว่า “คนอัจฉริยะ..ก็เหมาะกับตำราดีๆ เจ้าว่ามั้ย?” เธอว่าพลางปิดตาลง “ขอบคุณ ขอให้เจ้าไปสู่ภพภูมิที่ดี”

     

    “เป็นคำอวยพรที่..ดีเสียไม่ม.....” ไม่ทันที่จะได้เอ่ยคำสุดท้ายจบ ลมหายใจก็หยุดลงเสียแล้ว ทุกการรับรู้ล้วนมืดบอดไม่อาจได้เห็น ได้ยิน หรือสัมผัสสิ่งใดได้อีก จนกระทั่ง........ 

     

     






     

    “ที่นี่ที่ไหน?”


     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .


     

    (ตรวจคำผิดแล้ว)

    สวัสดีค่าาา พบกันครั้งแรกกับแฟนฟิคของจอมยุทธ์ภูตถังซานนะคะ~~~ มีความเห็นอย่างไรติชมหรือเสนอแนะได้เสมอเลยค่าา สำหรับตอนนี้ขอลาไปก่อนพบกันตอนหน้าค่ะบะบายย

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×