ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดีชั่วมิมีผู้ใดรู้แจ้ง #ป๋อจ้าน

    ลำดับตอนที่ #2 : ลำนำที่หนึ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 63


     

    หนึ่งเค่อผ่านไป บริเวณตลาด

     

    "เซียวเอ๋อร์เจ้าอยากกินน้ำตาลปั้นหรือไม่.....เซียวเอ๋อร์" เว่ยอู๋เซี่ยนเอ่ยถามพลางหันไปมองด้านหลัง แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า"เซียวเอ๋อร์!" คนพี่ที่ไม่รู้ว่าคนน้องอยู่ไหนจึงเริ่มตะโกนหาทั่วตลาดชาวเมืองบริเวณนั้นก็ตกใจกันเล็กน้อย"เซียวเอ๋อร์เจ้าอยู่ไหน!?! ขออภัยโปรดหลีกทางด้วย" เว่ยอู๋เซี่ยนพยายามวิ่งฝ่าผู้คนไปทั่วตลาด

     

    ทางด้านเซียวจ้าน

     

    "ท่านพี่! ท่านพี่อิง! ท่านอยู่ไหน?!" ร่างบางตะโกนเรียกหาคนพี่ไปทั่วแต่ก็ไม่พบ"ท่านพี่ ท่านหายไปไหน?" เซียวจ้านยังคนเดินหาคนพี่ต่อไปเรื่อยๆจนไปสะดุดกับอะไรบางอย่างเข้า จนทำให้เซถอยหลังจนไปชนเข้ากับอกแกร่งของใครบางคน"อ๊ะ! ขออภัยที่ข้าเดินไม่ดูทาง" เซียวจ้านรีบก้มหัวขอโทษขอโพยยกใหญ่ก่อนจะค่อยๆเงยหน้ามองอีกฝ่าย

     

    เป็นชายหนุ่มหล่อเหลาหน้านิ่งดั่งหยดชั้นดีสวมใส่อาภรณ์สีน้ำเงินเข้มปักด้วยด้ายทองลายใบแปะก๊วยใส่เสื้อคลุมสีขาวบางๆทับและผมรวบผมหางม้า ตัวสูงกว่าร่างบางประมาณคืบหนึ่งได้ ทั้งสองยืนจ้องตากันอยู่สักพักจนร่างบางเริ่มอึดอัดจนต้องเอ่ยปากเป็นคนแรก "ข..ขออภัยคุณชายข้าเดินไม่ดูทางเอง ต้องขอโทษจริงๆ ข้าต้องขอตัว" ร่างบางเอ่ยพลางทำมือพร้อมก้มตัวคาราวะเล็กน้อย ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป

     

    แต่ไม่ทันที่จะได้ก้าวขา มือหน้าก็คว้าข้อมือบางเอาไว้ "เดี่ยวก่อน!" ชายหนุ่มเอ่ยรั้ง"คุณชายท่านมีอะไรหรือ?" เซียวจ้านเอ่ยถามพลันสบดวงตากันอีกครั้ง"ให้ข้าไปส่งเจ้า" ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบาแต่ก็ดังพอที่จะให้คนตรงหน้าได้ยินชัด"เอ๋! ม..ไมจำเป็นขอรับ คงจะเป็นการรบกวน" เซียวจ้านเอ่ยทั้งท่าทีลนลานอย่างมาก พลันก้มมองที่ข้อมือของตนที่ยังถูกพันธนาการอยู่โดยมือหนา

     

    ผู้ที่กำลังกอบกุมข้อมือบางอยู่ก็รีบปล่อยออกทันที พร้อมกับเอามือไขว้หลังไว้ "ไม่รบกวนหรอก" ชายหนุ่มเอ่ยเซมองไปทางอื่นเล็กน้อย"ต.แต่ว่า" เซียวจ้านเอ่ยออกมาติดขัดเล็กน้อยเนื่องด้วยว่าตนเองก็เป็นพวกขี้เกรงใจอยู่แล้ว ก่อนที่เสียงๆหนึ่งจะดังขึ้น

     

    "เซียวเอ๋อร์! เจ้าอยู่ที่ไหน!" เสียงตะโกนเรียกของเว่ยอู๋เซี่ยนเรีนยกความสนใจให้ละจากชายตรงหน้าไปแทบจะในทันทีจนเกือบจะวิ่งออกไปแต่ทว่าก็นึกได้ว่ากำลังมีอีกคนยืนอยู่ด้วยจึงหันมากล่าวว่า "ท.ท่านพี่ข้ามาแล้ว ข้าต้องขอบคุณคุณชายที่มีน้ำใจจะไปส่ง" เซียวจ้านเอ่ยกระตุกกระตักเล็กน้อยทั้งยังคำนับให้อีกเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไปอีกครั้ง"....ขอทราบชื่อเจ้าได้หรือไม่?"

     

    เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นอีกครั้งทำให้เซียวจ้านหันไปเอ่ยตอบ "เว่ยเซียว เซียวจ้านขอรับคุณชาย...." ร่างบางตอบพลางลากเสียงยาวเป็นเชิงถามอีกฝ่าย"หวังอี้ป๋อ" ชายหนุ่มร่างสูงหรือ 'หวังอี้ป๋อ' ตอบกลับ"ขอบคุณคุณชายหวังขอต้องขอตัวแล้วจริงๆ" ร่างบางเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้ามาให้ก่อนจะเดินออกไป

     

    หวังอี้ป๋อยังคงยืนอยู่ที่ตำแหน่งเดิม คอยมองแผ่นหลังบางที่กำลังเดินฝ่าฝูงชนที่มีมากมายจนลับสายตาไป แต่ร่างสูงยังคงนิ่งอยู่กับที่ไม่ไปไหน "พี่ใหญ่!" เสียงเรียกจากด้านหลังดังขึ้นเรียกชายหนุ่มให้ออกจากภวังค์ความคิด ก่อนจะหันมามองผู้มาใหม่ทั้งสอง 'หวังฮ่าวเซวียน' และ 'หวังจั่วเฉิง' น้องชายทั้งสองของเขาเอง

     

    "พี่ใหญ่ท่านมาทำอะไรตรงนี้กัน" ฮ่าวเซวียนเอ่ยถาม "พี่ใหญ่?..พี่ใหญ่!!" ฮ่าวเซวียนและจั่วเฉิงตะโกนเรียกทำให้ชายหนุ่มหลุดออกจากภวังค์ความคิดก่อนจะหันไปสนใจทั้งสอง "ปล่าวไม่มีอะไร รีบกลับจวนเถอะ" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีก่อนจะเดินออกไปทำให้น้องชายทั้งสองนั้นงุนงงไม้น้อยแต่ก็เดินตามกลับไป

     

    ทางด้านสองพี่น้องสกุลเว่ย

     

    "ท่านพี่!" เสียงหวานตะโกนเรียกจากด้านหลังทำให้เจ้าของนามหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะโดนกระโจนใส่"เซียวเอ๋อร์!" เว่ยอู๋เซี่ยนเอ่ยขณะที่โดนเซียวจ้านกอดรัดแน่น "ท่านพี่ ท่านหายไปไหนมา" ร่างบางเอ่ยถามพลางผละออกจากพี่ชาย"เจ้าสิหายไปไหน ข้าตามหาเสียทั่วตลาด"เว่ยอู๋เซี่ยนถามกลับด้วยน้ำเสียงดุเล็กน้อย

    "ขอโทษขอรับท่านพี่ ตอนนั้นข้ารู้สึกว่าโดนคนผลักออกมารู้ตัวอีกทีท่านพี่ก็หายไปแล้วขอรับ" เซียนจ้านตอบพร้อมกับก้มหน้าลงมองที่พื้น เว่ยอู๋เซี่ยนเมื่อเห็นดังนั้นจึงยื่นบางอย่างให้"อะนี่ น้ำตาลปั้นข้าซื้อมาให้ แล้วก็เลิกทำหน้าเศร้าได้แล้ว” เมื่อเซียวจ้านรับน้ำตาลปั้นไปแล้วทั้งสองจึงเดินกลับโรงเตี๊ยมด้วยกัน


    ณ โรงเตี๊ยม

     

    เมื่อสองพี่น้องแซ่เว่ยกลับเข้ามายังห้องพักทั้งสองก็ได้ไปทำธุระส่วนตัวแล้วจึงได้เริ่มสนทนากันอีกครั้ง "ท่านพี่คือว่าตอนอยู่ที่ตลาดข้าเจอคนๆหนึ่งเข้าขอรับ" เซียวจ้านเอ่ยทำให้ผู้พี่หันมาสนใจในสิ่งที่อีกคนจะกล่าว "ใครหรือ?" เว่ยอู๋เซี่ยนเอ่ยถามด้วยความใคร่รู้ ทางคนโดนถามก็ได้แต่เอามือถูกันไปมาราวกับมิรู้ต้องตอบว่าอย่างไร เมื่อร่างบางเรียบเรียงถ้อยคำได้แล้วจึงเอ่ยตอยไปว่า

     

    "ข้าเจอคนๆหนึ่งหน้าตาคลับคล้ายพี่รองน่ะขอรับ คล้ายกันเสียทุกอย่างแม้กระทั่งใบหน้าเว้นก็แต่เสื้อผ้าอาภรที่ใส่เป็นสีเข้มและทรงผมขอรับ" ร่างบากตอบผู้เป็นพี่ "อย่างนั้นหรือ?....เอาๆเถิดรีบพักเสีย วันพรุ่งนี้เรามีงานต้องทำ" เว่ยอู๋เซี่ยนกล่าวจบก็ ทั้งสองพี่น้องจึงแยกไปนอนโดยที่คนพี่เป็นคนดับเทียนทั้งหมด

     

    ณ จวนสกุลหวัง

     

    เช้าวันรุ่งขึ้น ณ เมืองหมิงเวย สองพี่น้องแซ่เว่ยได้มายังจวนของสกุลหวังที่เป็นเจ้าเมืองแห่งนี้ เนื่องว่าได้ยินข่าวลือว่าที่เมืองแห่งนี้ถูกรังควานโดยภูตผีวิญญาณร้าย และเพื่อหาเลี้ยงปากท้องสองพี่น้องแซ่เว่ยจึงมาเพื่อปราบมันแลกกับเงินทองเล็กน้อยในการประทังชีวิต ทั้งสองเดินมายังหน้าประตูจวนที่มียามคอยเฝ้าอยู่สองนาย

     

    "พี่ชายไม่ทราบว่า นี่ใช่จวนของนายท่านหวังหรือไม่?" เว่ยอู๋เซี่ยนเอ่ยถามยามนายหนึ่ง ที่ใต้ตาเป็นสีคล้ำราวกับไม่ได้นอนมาหายวัน "ใช่แล้ว นี่คือเรือนของนายท่านหวัง ไม่ทราบว่าเจ้ามีเรื่องอันใด?" ยามนายนั้นถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยไร้เรี่ยวแรง สองพี่น้องแซ่เว่ยมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนที่คนพี่จะถามต่ออีกว่า

     

    "ข้ามาที่นี่เพราะต้องการพบนายท่านหวัง ท่านให้เราเข้าไปได้หรือไม่?" เว่ยอู๋เซี่ยนเอ่ยทั้งยังคาดหวังเล็กๆ ยามนายนั้นจึงมองไปที่อีกคนที่เฝ้าอยู่ใกล้ๆกันพร้อมกับส่งสายตาให้ ยามอีกคนจึงเร่งเดินเข้าจวนไป ผ่านไปราวหนึ่งเค่อก็มีชายวัยกลางคนในอาภรณ์ที่ดูหรูหราแต่ก็เรียบง่ายเส้นผมสีดำที่มีสีขาวแซมเล็กน้อย

     

    "ท่านคือเซียนซือใช่หรือไม่?" ชายวัยกลางคนเอ่ยถาม ทั้งสองจึงพยักหน้าตอบเล็กน้อย ทันใดนั้นชายวัยกลางคนจึงเชิญทั้งสองไปยังโถงรับแขกทันทีอย่างไม่รอช้า เมื่อมายังโถงรับแขกชายวัยกลางคนจึงให้ทั้งสองนั่งที่ที่จัดเตรียมให้แก่แขก ส่วนตัวนายท่านหวังเองจึงเดินไปนั่งยังที่ของตนเช่นกันก่อนจะเริ่มเปิดบทสนทนา

     

    "ท่านเซียนซือผ่านทางมา ข้าเป็นเกียรติยิ่งนัก นานนักที่ไม่มีเซียนผ่านทางมาที่เมืองหมิงเวยแห่งนี้ ข้าดีใจยิ่ง" นายท่านหวังกล่าวพลางยกจอกน้ำชาดื่ม "ข้าเองก็ดีใจที่ได้ผ่านมาเมืองแห่งนี้ เมืองของท่านงดงามนัก และที่ข้ามาในครั้งนี้เพราะได้ยินข่าวลือว่าเมืองนี้ถูกรังควานโดยภูตผี เป็นเรื่องจริงหรือไม่นายท่านหวัง" เว่ยอู๋เซี่ยนเอ่ยถามชายวัยกลางคน

     

    นายท่านหวังมีสีหน้าที่หนักใจเมื่อต้องพูดถึงเรื่องภูตผีที่มารังควานชาวเมือง ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องต่างๆให้ทั้งสองฟัง "เรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อเจ็ดปีก่อน เมืองนี้เป็นเมืองค้าขายที่แต่ละวันนั้นมีพ่อค้าต่างแดนมาค้าขายมากมาย จนกระทั้งมีพ่อค้าท่านหนึ่งนำแผ่นยันต์ประหลาดมาติดไปทั่วทั้งเมือง ข้าก็ไม่เอะใจอะไร และเรื่องเลวร้ายก็เริ่มขึ้น เริ่มมีซากของสัตว์ต่างๆที่เป็นสีดำมากองไว้ที่หน้าจวนของข้าไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ มันเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ ข้าและลูกๆก็เริ่มจิตตกไปตามๆกัน จนข้าได้สั่งคนทั้งจวนไปแกะแผ่นยันต์ทั้งเมืองออก

     

    ซากพวกนั้นก็หายไป แต่ก็ดูจะมีเรื่องอื่นเพิ่มขึ้นมา คือจะมีรอยเลือดวาดเป็นรูปประหลาดตามกำแพงบ้านเรือน และในทุกๆคืนตอนยามจื่อ ที่ท่าเรือนจะเริ่มได้ยินเสียงกรีดร้องดังไปทั่วบริเวณชาวเมืองต่างหวาดกลัวมิกล้าเข้าใกล้ พ่อค้าต่างแดนก็มิกล้ามาค้าขายและสามปีให้หลังลูกชายคนโตข้าก็ป่วยหนักเป็นๆหายๆ จนถึงปัจจุบันแม้จะส่งคำร้องขอความช่วยเหลือก็มิมีผู้ใดช่วยเลย พวกท่านที่ผ่านทางมาจึงเป็นความหวังของพวกเรา ขอร้องล่ะท่านโปรดช่วยพวกเราด้วย!"

     

    นายท่านกวังกล่าวออกมาพร้อมกับก้มหัวให้ทั้งสองที่ดูจะเป็นที่พึ่งสุดท้าย สองพี่น้องเมื่อได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ปรึกษากันเล็กน้อย เพราะเรื่องที่ฟังดูจะใหญ่โตเอามาก แต่เมื่อมาถึงขนาดนี้ไม่ช่วยก็ดูจะใจไม้ไส้ระกำจนเกินไป ข้อสรุปจึงเป็นการตกลงที่จะจัดการให้ "นายท่านหวังพวกข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้ท่านเองอย่าได้ห่วง" เซียวจ้านเอ่ย

     

    "จริงหรือ! ขอบพระคุณเซียนซือ! ขอบพระคุณเซียนซือ!" นายท่านหวังว่าพลางกล่าวซ้ำๆจนสองพี่น้องต้องห้ามปรามไว้ก่อน "ว่าแต่พวกท่านพักที่ใดหรือ?" นายท่านหวังเอ่ยถามทั้งสอง "ข้าสองคนพักที่โรงเตี๊ยมแถวๆตลาดน่ะนายท่านหวัง" เซียวจ้านเอ่ยตอบ "ไอหยา! ไม่ได้ๆ หากพวกท่านมิรังเกียจมาพักที่จวนของข้าก็ได้"

     

    เมื่อนายท่านหวังเอ่ยจบสองพี่น้องแซ่เว่ยต่างหันมองหน้าซึ่งกันและกัน ก่อนที่คนพี่จะเอ่ยตอบชายวัยกลางคนไปว่า "นายท่านหวัง เรื่องนี้ข้าและน้องของข้างคงต้องกลับไปปรึกษากันเสียก่อน" เว่ยอู๋เซี่ยนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เกรงใจไม่น้อย นายท่านหวังจึงมิว่าอันใด หลังจากนั้นสองพี่น้องแซ่เว่ยจึงขอตัวกลับก่อน

     

     

     

    ÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷

    (ยังไม่แก้คำผิด)

     

     

     

    สรุปตัวละคร



    หวังเถียน นามรอง อี้ป๋อ

    พี่ชายคนโต



    หวังเซวียน นามรอง ฮ่าวเซวียน

    พี่ชายคนรอง



    หวังจั่ว นามรอง จั่วเฉิง

    น้องคนเล็ก



    เจอกันตอนหน้าค่ะ (・∀・)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×