คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : อำลาจากแสงจันทร์
ตอนที่ 3 อำลาจากแสงจันทร์
แสงตะวันเริ่มลับขอบฟ้า ฝูงนกบนท้องฟ้าที่กำลังเปลี่ยนสีจากท้องฟ้าสีครามเปลี่ยนเป็นสีนำเงินแล้วจึงค่อยๆเป็นสีดำอันมืดมิดต่างโบกโบยบินกลับสู้รังของแต่ละตัว ณ ห้องรับประทานอาหารขนาดกะทัดรัดแสงเทียนสลัวๆ อยู่ท่ามกลางเหล่าอาหารอันโอชะที่แสนอร่อยน่าทานอันมากมายบนโต๊ะอาหารที่ทำจากไม้ล้วนๆ
“เอาหละ ทุกคนลงมือทานกันได้แล้ว ไม่ต้องเกรงใจเชิญตามสบายเลย” ลีซ่านำอาหารจานสุดท้ายจากห้องครัวมาวางบนโต๊ะแล้วก็เริ่มลงมือทานกันทันที
“งั้นไม่เกรงใจแล้วนะ” เคนเริ่มทานอาหารอย่างมูมมามโดยไม่สนใจใคร
“เคนค่อยๆ ทานไม่ต้องรีบกินขนาดนั้นก็ได้” วาเนียพูดแล้วหันไปมองหญิงสาวอีกคนที่กำลังทานอาหารอย่างช้าๆ
“ไอ้เอ็นไอ ไอ้อ้องเอ็นอ่วงอับ (ไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วงครับ)” ชายหนุ่มอายุราวๆ 18 ยังไม่เลิกกินมูมมาม
“เอ้อ! แล้วนี่พวกเธอจะไปไหนกันเหรอ” เสียงหญิงสาวสวมผ้าคลุมดังขึ้นมาขณะรับประทานอาหารอยู่
“เราเองก็ไม่รู้เหมือนกัน การเดินทางครั้งนี้ยังไม่มีจุดหมายไรเลยจะมีก็แค่เพียงหนีการตามล่าของพวกเบลุฟไปเรื่อยๆแค่นั้นแหละ”องค์หญิงวาเนียหยุดทานอาหารชั่วคราว
“แล้วทำไมเจ้าเบลุฟถึงต้องตามล่าพวกเธอด้วย เราไม่เข้าใจ”ลีซ่าพูดพรางนำมือขวามาเกาที่หัวของเธอ
องค์หญิงได้ฟังดังนั้นจึงหันหน้าไปมองยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างแต่ผลที่ได้รับคือเคน อิลัสการ์ได้ส่ายหน้าเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้เธอได้ทราบ
“เรื่องนั้นเราคงบอกไม่ได้ เราต้องขอโทษจริงๆนะ” วาเนีย เวนโรนาร์อดีตองค์รัชทายาทแห่งเวนโดรเนียพูดทำให้จอมเวทย์สาวต้องรู้สึกผิดหวังทันที
“ถ้าพวกเธอไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร” ลีซ่าหัวเราะออกมาทำให้ทั้งเคนและองต์หญิงต่างงงกับสีหน้าที่เปลี่ยนอันง่ายดายของเธออคนนั้น
“เราอิ่มแล้วหละ รู้สึกว่าเพลียจังขอตัวไปพักผ่อนก่อน ห้องนอนของพวกเธออยู่ชั้นบนนะ ราตรีสวัสดิ์” ลีซ่าลุกจากเก้าอี้แล้วเดินขึ้นไปยังชั้นสองอย่างงัวเงีย
ขณะนี้ภายในห้องทานอาหารที่กะทัดรัดก็ยังเหลือแค่เพียงองค์หญิงกับเคนเท่านั้นที่นั่งอยู่กลางแสงเทียน
“เคนเรารู้สึกแปลกๆจัง ตั้งแต่เราอายุ 18 มานั้นเรารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างภายในตัวเราก็ไม่รู้ ความรู้สึกนั้นมันบอกไม่ถูกเหมือนกัน” สาวน้อยผู้มีดวงตาสีน้ำทะเลมองสำรวจร่างกายของตัวเอง
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องเป็นห่วงไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์ก็ตามผมจะต้องคุ้มครององค์หญิงให้ได้ครับ” พวกเค้าต่างสนทนาดันโดยไม่เอะใจแม้แต่น้องว่ากำลังมีใครแอบฟังพวกเค้าคุยกันอยู่ในเงามืดมิดบนชั้นสอง
เช้าต่อมา ณ หมู่บ้านแสงจันทร์อันสวยงามแต่ปราศจากผู้คนอาศัยตามบ้านหลังต่างทั่วหมู่บ้านยกเว้นบ้านหลังหนึ่ง
“อ้าว! พวกเธอจะไปกันแล้วเหรอ” ลีซ่าเดินออกมาจากประตูบ้านและตรงไปยังพวกเค้าทันที
“อือ! พวกเราต้องไปแล้วหละ ขอบคุณสำหรับอาหารเมื่อคืนนะ อร่อยมากเลย”วาเนียนำมือของเธอไปกุมมือของจอมเวทย์สาวเพื่อเป็นการบอกลา
“เดี๋ยว! ชั้นจะไปด้วยยังไงเป้าหมายของเบลุฟก็คือพวกเธอชั้นจะได้ช่วยพวกเธอได้บ้างไง รอแปปนะเราไปเอาของที่เตรียมไว้ก่อน” ลีซ่า มาร์รินไม่รอฟังคำตอบเธอรีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันทีทำให้องค์หญิงวาเนียต้องหันกลับไปมองชายหนุ่มคนหนึ่ง
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าเค้าคิดใว้แล้วก็ตามใจเค้าเถิดคับ” เคนยิ้มให้พร้อมกับคำตอบสั้นๆ ของเค้า
“เอาหละทุกคนไปกันเลย มุ่งหน้าสู่การผจญภัยของพวกเราได้แล้ว” ลีซ่าเดินออกมาพร้อมกับไม้เท้าที่เธอเคยใช้เพียงอย่างเดียว ไม่มีคำพูดใดๆที่ตอบกลับมาให้เธอมีเพียงแค่การพยักหน้ากับรอยยิ้มอันเป็นมิตรของทั้งสองคน
“ลาก่อนนะหมู่บ้านแสงจันทร์ ชั้นขอสัญญาว่าจำนำทุกคนกลับมาให้ได้ถึงแม้จะแลกด้วยชีวิตของชั้นก็ตาม” น้ำตาอันใสบริสุทธิ์จากดวงตาสีเขียวมรกตคู่นั้นได้ไหลหยดลงสู่พื้นถนนสีขาวของหมู้บ้านแสงจันทร์
การเดินทางขององค์หญิงผู้เคยเป็นองค์รัชทายาทแห่งอาณาจักเวนโดรเนียกับชายหนุ่มผู้ที่เป็นผู้ดูแลและคอยปกป้องพระองค์และจอมเวทย์สาวผู้มีสายเลือดแห่งชาวแสงจันทร์ภายในตัวของเธอที่รอดจากการจับกุมของเบลุฟเพียงคนเดียวเท่านั้นได้เริ่มขึ้นแล้ว สายลมโพยพักผ่าหมู่บ้านแสงจันทร์อย่างเอื่อยๆ ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากนี้ทุกอย่างจะเป็นอย่างไร อะไรจะเกิดขึ้นบ้างและชาวสายเลือดแสงจันทร์ทั้งหมดจะได้กลับมามั้ยหรือว่าจะไม่มีใครกับมาอีกเลยก็เป็นได้ ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเกิดได้เสมอ
ความคิดเห็น