ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CA: WinterShield's Store

    ลำดับตอนที่ #2 : OS : I'm always here for you. {Bucky's POV}

    • อัปเดตล่าสุด 18 ส.ค. 57


    Title : I’m always here for you. (20140426)
    Fandom : Captain America (Movie)
    Genre : One Shot, POV, Hurt
    Author : YULATY
    Disclaimer : I do not own Captain America. EVERYTHING BELONGS TO MARVEL.
    A/N : เวิ่นเว้อในDMกับพี่นิสา (@nisavampette) แล้วก็งอกอย่างใจง่ายเลย… นี่มันฟิคกินน้ำตา ร้องไห้ตั้งครึ่งชั่วโมง บ้าบอที่สุด…
     
     
    ผมคิดว่าในชีวิตนี้ผมเคยเห็นสายตาแบบนั้นมาแล้วหนึ่งครั้ง
     
    สายตาของสตีฟที่ใช้มองโทนี่ สตาร์ค เป็นสายตาแบบเดียวกันกับที่สตีฟเคยใช้มองคุณเพ็กกี้
     
    สายตาชื่นชม
    แววตาที่แสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นใจในตัวเอง
    แล้วก็ยังมี… ความอบอุ่นอ่อนโยน มากไปด้วยความรักอย่างนั้นอยู่ด้วย
     
     
     
    สายตาที่เขาเคยคิดหวังอยากให้มันมองมาที่เขาสักครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยได้รับ
     
     
     
     
     
    ระหว่างการเป็นคนรู้จักธรรมดาที่สามารถพูดคำว่า ‘ รัก ’ ออกไปได้อย่างเต็มปากเต็มคำ กับเป็นเพื่อนสนิทที่คอยอยู่ข้าง ๆ ได้ใกล้ชิดกันอยู่เสมอแต่กลับไม่สามารถจะแสดงความรู้สึกเกินเลยกว่านั้นไปได้ อย่างไหนมันดีกว่ากัน?
     
     
     
    คิดไปก็ไม่มีประโยชน์ ใช่ว่าคิดไปแล้วสตีฟจะรับรู้แล้วมองเขาเปลี่ยนไปได้อย่างนั้นล่ะ…
     
    รู้ทั้งรู้ก็ยังอดคิดไม่ได้…
     
     
     
     
     
    หลังจากที่เขาทิ้งไฮดร้ามาแล้วฟื้นความทรงจำที่นี่ ในช่วงแรกก็ดี… ดีตรงที่มีสตีฟคอยดูแลอยู่ข้าง ๆ แนะนำอะไรต่าง ๆ ด้วยรอยยิ้มมีความสุข ถึงแม้ว่าจะมีบางสิ่งที่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ยังพยายามอธิบาย
     
     
     
    ยังคงน่ารักเหมือนเดิม
    ยังคงเป็นเด็กน้อยสำหรับเขาเหมือนเดิม
     
    ยังคงเป็นคนที่เขารัก…เหมือนเดิม
     
     
     
     
     
    จนวันนึงที่ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง สตีฟก็เริ่มห่างไป ไม่มีการมาปลุกทุกเช้า หรือชวนไปกินข้าว ไม่มีการนั่งคุยกัน เจอหน้ากันยังแทบจะนับครั้งได้ และเจอกันแต่ละครั้งก็แค่ยิ้มจาง ๆ ไม่มีคำพูดใด ๆ เรียกได้ว่าเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน
     
     
     
    จนวันหนึ่งที่เขาได้เห็นสตีฟ…จูบอยู่กับคนคนนั้น…
     
    เขาไม่ใช่คนเข้าใจอะไรยากมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว
     
     
     
    น่าอิจฉาดีนะ
     
    ตอนที่เขาใส่เกราะ เขาเป็นฮีโร่
    เมื่อถอดเกราะออกเขาก็เป็นอีกหลายอย่าง มหาเศรษฐี นักประดิษฐ์… รวมไปถึงเป็นคนที่สตีฟรัก
     
     
     
     
     
    สตีฟโตแล้ว จะรักใครเป็นแล้วมันก็ไม่แปลก
     
     
     
    นี่มันยุคไหนแล้ว เราไม่จำเป็นต้องสนใจสายตาคนอื่นแล้ว …
     
     
     
    โลกเปลี่ยนไป สังคมก็เปลี่ยนไป
     
     
     
    เขาไม่ต้องคอยบอกตัวเองแล้วว่าความรู้สึกที่เขามีมันผิด แต่เขาต้องตระหนังถึงความจริงที่ว่า เขามีสิทธิรัก แต่ไม่มีสิทธิได้ครอบครอง…
     
     
     
    เขาไม่มีหวังแล้ว ถึงแม้จะยังมีความรักอยู่
     
     
     
    ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ เพราะรู้ตัวดีว่ามันจะลงเอยยังไง ไม่มีวันที่เราสองคนจะรักกันได้… สตีฟไม่ได้รักเขาอย่างที่เขารู้สึก
     
     
     
     
     
    เพื่อน
    ทั้งหมดที่สตีฟให้เขาเป็นได้ก็คือเพื่อนสนิทคนหนึ่ง
     
    เพื่อน… คำคำเดียวที่ทำร้ายเขาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
     
    เพื่อน… ฐานะสำคัญที่เขารู้สึกดีที่ได้รับมันแต่ในบางเวลาเขากลับเกลียดมันเหลือเกิน…
     
     
     
     
     
    สตีฟปิดบังเขาเรื่องนี้ จนกระทั่งวันนึงที่เขาบังเอิญเห็นอีกฝ่ายกำลังร้องไห้ คนเข้มแข็งอย่างสตีฟเนี่ยนะร้องไห้… เหตุผลจะมีอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องความรัก
     
     
     
    ความรัก ทำให้คนเราอ่อนแอลงได้เสมอนั่นล่ะ
     
    เขารู้ เพราะเขาก็อ่อนแอกับเรื่องของสตีฟเหมือนกัน
     
     
     
    สตีฟดูจะตกใจที่เขารู้เรื่องนี้ ก่อนจะรีบขอโทษ บอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะปกปิด ให้ตายสิ นายคิดจริง ๆ เหรอว่าฉันจะโกรธนายได้ลงหลังจากที่เห็นนายน้ำตาคลอพูดขอร้องด้วยเสียงสั่นเครืออย่างนั้น…
     
     
     
    ทั้งหมดที่เขาทำเพื่อปลอบสตีฟก็คือดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดและพูดประโยคนั้นตอกย้ำตัวเอง…
     
     
     
    “เราเป็นเพื่อนกันนะ ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรหรอก มีอะไรอยากระบายก็พูดมาเลย ฉันอาจช่วยไม่ได้แต่ถ้านายได้พูดบ้างมันอาจจะทำให้รู้สึกดีขึ้น”
     
     
     
    เวลาที่เห็นสตีฟเสียใจแบบนี้ เขาก็เจ็บเหมือนตายทั้งเป็น
     
     
     
    ให้เขาทำอะไรก็ได้ ให้เขาเป็นอะไรก็ได้
    ถ้ามันทำให้สตีฟมีความสุข… เขาควรจะทำให้สตีฟได้ทุกอย่าง ถ้ามันจะช่วยให้สตีฟหยุดร้องไห้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนเขาก็จะทำ แม้ว่ามันจะทำให้เขาเจ็บปวด
     
     
     
     
     
    หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเขาก็กลายเป็นที่ปรึกษา
     
    เวลาที่พูดเรื่องราวของโทนี่ สตีฟมักจะยิ้มบ่อย ๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นการบ่นข้อเสียอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ดูสีหน้าก็รู้ว่ามีความสุขมากแค่ไหน
     
    ไม่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ…?
     
     
     
     
     
    ในบางเวลาเขาก็ฝืนตัวเอง… ฝืนมากไป… มากจนต้องระบายลงกับข้าวของในห้องเพื่อให้อารมณ์เย็นลง และแน่นอนว่าสตีฟไม่รู้ ไม่มีทางรู้
     
     
     
    ให้รู้ไม่ได้หรอก…
     
     
     
    ให้รู้ไม่ได้หรอกว่าบางครั้งเขาก็ภาวนาต่อพระเจ้า ขอให้สตีฟเสียใจ ขอให้เลิกกันสักที… แต่เขามันเป็นคนบาป พระเจ้าจึงมองข้ามคำของี่เง่านี้ไป ซึ่งมันก็ดีแล้ว เพราะหากคำขอเป็นจริง คนที่เจ็บที่สุดก็ยังคงเป็นเขาเหมือนเดิม
     
     
     
    ความจริงที่ว่าสตีฟรักโทนี่มากแค่ไหนมันจะตอกย้ำเขาให้เจ็บมากกว่านี้ ตอกย้ำให้รู้ตัวว่าเขาจะไม่มีวันยืนตรงนั้นได้ ไม่มีวันแทนที่ได้
     
     
     
    อย่างที่พูดไปแล้วว่าเขาน่ะไม่มีความหวังอีกแล้ว แม้สักนิดก็ไม่เหลือแล้ว
     
     
     
    ได้แต่ทำตัวเป็นเพื่อนที่แสนดีรับฟังตามที่เคยบอกไว้
    เป็นคนนอกที่ยืนดูความรักของสองคนนั้นอยู่ไกล ๆ
     
     
     
    เขาจะยืนอยู่ห่าง ๆ ตรงนี้ ทั้งหมดที่เขาทำเพื่ออีกฝ่ายได้มีแค่นี้
     
    ไม่ว่าสตีฟจะเดินไปกับใคร เขาก็จะยังยืนอยู่ที่เดิม
     
     
     
     
     
    ถ้าใครคนนั้นทิ้งนายไปกลางทาง ขอให้นายเดินย้อนกลับมาทางเดิม
     
     
     
    ยังมีฉันรออยู่ตรงนี้เพื่อนายเสมอ
     
     
     
    แล้วเราจะเดินไปด้วยกัน
     
     
     
     
     
    จนสุดทาง…
     
     
     
     
     
    「I’m with you untill the end of the line.」
     
     
     
    END.
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×