ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CA: WinterShield's Store

    ลำดับตอนที่ #12 : OS : Cause we're young and we're reckless

    • อัปเดตล่าสุด 11 ส.ค. 59


    Cause we're young and we're reckless (20160428)
    Stucky — James B./Steven R.
    One-shot



    เมื่อตอนอายุสิบหก บัคกี้แอบขโมยเหล้าที่เหลือเกือบครึ่งขวดของพ่อมา แอบเก็บไว้ในห้องนอนแล้วก็ชวนให้สตีฟดื่มด้วยกันเมื่อคนตัวเล็กมานอนค้าง ในทีแรกสตีฟก็ปฏิเสธ ด้วยกลัวว่ามันจะมีปฏิกิริยากับยาต่าง ๆ ที่เขาจำเป็นต้องทาน แต่เมื่อถูกรบเร้ามากเข้า สุดท้ายก็ยอมดื่มด้วยจนได้ในปริมาณที่น้อยกว่าบัคกี้ราว ๆ สามส่วนได้

    แรกลิ้มลอง รสชาติที่แตะลิ้นคือความขมแปร่ง ๆ ไหลรินผ่านช่องคอแล้วพลันก็ร้อนผ่าวราวกับมีเปลวไฟเล็ก ๆ อยู่ข้างใน กลืนไปจนหมดแล้วสิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็มีเพียงความหวานละมุน

    บัคกี้ดื่มเพิ่มอีกนิดหน่อย สตีฟก็ด้วย แต่เขาก็หยุดไปหลังจากหมดแก้วที่สอง(ปริมาณรวมกันสองแก้วแล้วยังน้อยกว่าครึ่งแก้วของบัคกี้อีก) เด็กหนุ่มนั่งมองเพื่อนรักลองดื่มไปเรื่อย ๆ เจ้าตัวว่าถือเป็นการทดสอบว่าตนเองจะดื่มได้เท่าไหน แล้วในตอนที่เกือบหมดขวด บัคกี้ก็แก้มแดงจัดยิ่งกว่าตอนสารภาพรักกับสาวผมแดงชื่อโรซี่เมื่อตอนอายุสิบสี่เสียอีก


    “ฉันรู้สึกมึนหัวแฮะ หนักชะมัด” ยังคงพูดจาฉะฉานชัดเจนดีทุกคำ ใบหน้าประดับรอยยิ้มที่ดูสิ้นเปลืองสิ้นดี “เกือบหมดแล้ว กินให้หมดเลยคงดี เนอะสตีฟวี่” ชื่อเล่นที่หยุดเรียกไปตั้งแต่เจ็ดขวบถูกนำมาใช้อีกครั้ง แต่สตีฟก็ไม่ได้ถือสาว่ากล่าวอะไร ตรงกันข้าม เขากลับใจเต้นเมื่อได้ยินบัคกี้เรียกเขาอย่างนั้นอีกครั้ง เรียกปากเม้มเข้าหากัน ลูกแก้วสีฟ้าใสมองไปยังเพื่อนรักที่ยกขวดขึ้นแตกปาก ดื่มมันราวกับเป็นน้ำเปล่า จนหมดเกลี้ยงไม่เหลือแล้วก็ปิดฝา หันเอาไปวางซุกไว้ตรงช่องว่างระหว่างผนังและขาเตียง

    “ถ้าแม่นายรู้โดนเละแน่…” สตีฟกล่าวหลังจากอยู่เงียบมานาน ส่งมือไปแตะแก้มบัคกี้และพบว่ามันร้อนจัดอย่างกับคนมีไข้ แล้วอีกฝ่ายก็เอียงเข้าหามัน วางมือที่ใหญ่กว่าทาบทับ หลับตาเอียงหน้าถูไถสองสามทีแล้วดวงตาในโทนสีคล้ายกันกับของสตีฟก็ลืมขึ้นมอง “ปากนายสวยชะมัด”

    บัคกี้ยกมืออีกข้างขึ้นแตะส่วนที่เพิ่งกล่าวชม ปลายนิ้วไล้คลึงแผ่วเบาที่กลีบปากล่าง ใช่ว่าสตีฟจะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคิดจะทำอะไร ถัดจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็ไม่คิดห้ามเลย

    ใบหน้าเลื่อนเข้าใกล้ทีละเล็กละน้อย หยั่งเชิงและชั่งใจ จนใกล้มากพอจะรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกันรดรินใบหน้า จนใกล้เกินไป จนไม่มีช่องว่างตรงกลางหลงเหลืออยู่อีก มืออุ่น ๆ ทั้งสองของบัคกี้ประคองใบหน้าเขา ริมฝีปากประกบปิดกันลงล็อคพอดีอย่างกับจิ๊กซอว์เข้าคู่กัน

    เด็กเกินกว่าจะฉุกคิด เด็กเกินกว่าจะระมัดระวังตัว

    เรียวลิ้นไล้ไปตามทางเดียวกับที่บัคกี้ใช้นิ้วสัมผัสเมื่อครู่ กดน้ำหนักเพิ่ม บดเบียดแน่นมากขึ้น สตีฟหลับตาลง ยกอำนาจการควบคุมให้อีกฝ่ายครอบครอง มือเล็กวางลงที่ช่วงลำตัวแข็งแรงของคนตัวโตกว่า กำเสื้อไว้แน่นเมื่อโพรงปากถูกรุกล้ำด้วยลิ้นหนา

    ถึงนี่จะเป็นจูบแรก แต่สตีฟก็สามารถตัดสินได้ว่าบัคกี้น่ะเก่งชะมัด เพราะอย่างนี่เลยต้องวาดแขนอ้อมไปโอบเอวอ้อนแอ้นของเด็กสาวเหล่านั้นใช่ไหม เพื่อจะประคองตัวไว้ไม่ให้ล้ม เข้าใจดีเลย ก็เพราะตอนนี้สตีฟรู้สึกว่าเรี่ยวแรงของเขาหายไปหมดเลยน่ะสิ

    ปันรสชาติหวานให้กันผ่านปลายลิ้นมากเท่าไรก็ไม่รู้สึกพอสักที กลับต้องการมากขึ้น มากขึ้นอีก บัคกี้ค่อย ๆ โน้มตัวลง ดันอีกคนให้นอนราบกับพื้นแข็ง ปัดเกลี่ยแก้มไปพลางเพื่อปลอบโยน รู้สึกดีจนไม่อยากหยุด แต่การถูกจูบดูดดื่มอย่างนี้กำลังทำให้สตีฟหายใจไม่ออก นานเกินไป ปล่อยให้ทำนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว เขาผลักคนที่นอนคร่อมทับตนเองออก เอียงหน้าหลบ ค่อนข้างน่าแปลกใจที่อีกฝ่ายยอมลุกไปแต่โดยดีไม่มีอิดออด เมื่อเป็นอิสระแล้วสตีฟก็ยันตัวขึ้นนั่งตาม รีบหอบเอาอากาศกลับเข้าคืนจากที่ถูกริดรอนไป ช้อนตามองบัคกี้ที่นั่งนิ่งสนิท บรรยากาศอึดอัดเกิดขึ้นได้ไม่นานนักก็ถูกทำลายลงเมื่อบัคกี้ส่งมือไปยีผมของสตีฟจนฟู

    “นายนอนก่อนเลย ฉันว่าจะแอบเอาเสื้อไปซัก กลิ่นคลุ้งเลยเนี่ย” ปิดท้ายประโยคด้วยการหัวเราะแล้วเด็กหนุ่มก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปข้างนอก ทิ้งให้สตีฟอยู่เพียงลำพังในห้อง เขาจัดการตามที่ได้ว่าไปเมื่อครู่ สวมชุดใหม่ ล้างหน้า บ้วนปากจนกลิ่นจางลงแล้วก็เงยขึ้นมองกระจก ดวงตาสีฟ้าเทายังคงเฉียบคม ไม่เลื่อนลอย บ่งบอกว่าเจ้าของมันยังมีสติครบถ้วนดี ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อนึกถึงสิ่งที่เพิ่งทำลงไปเมื่อครู่ สิ่งที่เขานึกอยากทำตั้งแต่รู้ความว่ามันที่สื่อความหมายแบบใด แต่วิธีการอย่างที่ทำไปช่างเป็นวิธีการที่แย่ ลวงหลอก วิธีการของคนขี้ขลาด คนที่มีความกล้าไม่พอจะบอก ไม่กล้าจะแสดงความรู้สึกออกไปตามตรง

    บัคกี้วักน้ำขึ้นล้างหน้าอีกหนก่อนเดินกลับห้องและพบว่าสตีฟหลับสนิทไปแล้ว เขายืนมองพักหนึ่ง ก้มลงจูบขมับแล้วจึงเดินอ้อมไปที่อีกฝั่ง เอนตัวนอนมองเพดาน

    นี่มันช่างเป็นการกระทำที่สะเพร่าสิ้นดี
    ไม่เคยนึกระวังเลย ว่าจะตกหลุมรักลงไปลึกเพียงใด กว่าจะรู้สึกตัวได้อีกที ก็ตอนที่มองไม่เห็นแสงสว่างจากปากทางที่ตกลงมาอีกแล้ว


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×