ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกมท้าตาย

    ลำดับตอนที่ #1 : สิ่งที่มันเริ่มเกิดขึ้นมาแล้ว

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 57




    เกมท้าตาย!

    “ มันไม่มีเหตุผลที่เธอจะฆ่าตัวตาย “ ชลธีเอ่ยปากออกไปเมื่อเห็นว่าหลายคนในห้องกำลังมีความคิดเอนเอียงไปทางเดียวกันว่า  เธอฆ่าตัวตาย! และเขาก็เป็นเพียงคนเดียวที่รู้ดีว่าเธอไม่มีวันฆ่าตัวตายโดยเด็ดขาดไม่ว่าเธอจะเจอกับอะไรก็ตาม

    “ มั่นใจได้ยังไง  ในเมื่อคุณเองก็ไม่มีหลักฐานมายืนยัน “ หนึ่งในนั้นแทรกขึ้น  ดวงตาคมกริบดั่งพญาเหยี่ยวตวัดมองหน้าชลธีคล้ายกำลังจับผิด

    “ ผมมั่นใจ ...ว่ารันริกาไม่มีวันฆ่าตัวตายแน่นอน  หรือคุณนับตะวันไปรู้อะไรมาครับ “

    “ ตัวผมเองคงไม่อาจไปล่วงรู้อะไรได้มากกว่านี้หรอกครับ  ในเมื่อผมกับรันริกาเราเป็นแค่คนรู้จัก ไม่ได้ลึกซึ้งเหมือนกับคุณ และ  “ นับตะวันเว้นจังหวะการพูดไปช่วงหนึ่งพลางตวัดสายตามองไปยังเด็กสาวอีกคนที่ยืนกัดริมฝีปากอยู่มุมมืดของห้อง  จนเจ้าตัวต้องออกปากโวยวายออกมา “ อย่ามาใช้สายตาแบบนั้นกับฉัน  ไอ้หมาขี้เรื้อน “

    “ งั้นเหรอครับ  ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองใช้สายตาแบบไหนแต่การที่คุณหาว่าผมเป็นหมาขี้เรื้อนมันออกจะดูถูกกันมากเกินไปหรือเปล่าครับ...คุณคู่หมั่น “

    “ แก!!!! “ เด็กสาวกัดฟันกรอด  จ้องหน้าชายหนุ่มที่มีสถานะเป็นถึงคู่หมั้นเธอด้วยสายตาเกลียดชัง  หยาดอรุณไม่เคยคิดจะแต่งงานกับผู้ชายที่ชื่อนับตะวัน  ไม่ว่าเขาจะหน้าตาหล่อเหลาปานใด  หรือร่ำรวยเพียงไหน  หัวใจของเธอมีไว้สำหรับคนคนเดียวและคนคนนั้นไม่ใช่นับตะวัน!

    “ ปากคุณเลือดออกน่ะครับ “ นับตะวันว่า เขาเดินปราดพรวดเดียวเข้ามาประชิดหยาดอรุณก่อนจะใช้มือปาดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากของเธอ  ดูเหมือนการที่เธอกัดริมฝีปากจากการกัดกลุ้มอะไรบางอย่างมันส่งผลกระทบออกมาเร็วเสียทีเดียว

    เพี๊ยะ!!

    หยาดอรุณปัดมือที่กำลังเช็ดเลือดตรงมุมปากของเธออก  พลางถอยขยับห่างจากนับตะวัน...ชลธีมองเหตุการณ์นั้นอย่างไม่คาดสายตาและเขามีสติดีทีเดียวที่จะไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องละเอียดอ่อนนี้เร็วเกินไป

    “ อย่ามาแตะต้องฉัน “ หยาดอรุณตะหวาด  ดวงตาของเธอสั่นระริกมันไม่ใช่ความเขินอาย  ไม่ใช่ความกลัว  มันเป็นความรู้สึกที่เธอเองก็บอกไม่ถูก  ทั้งที่เธอเกลียดแสนเกลียดนับตะวันแต่เวลาใดก็ตามที่เขาแตะต้องตัวเธอ  ร่างกายของเธอราวกับจะหล่อหลอมรวมกัน  เนื้อตัว  แววตาสั่นระริก  ร้องโหยหา....

    “ ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องขอโทษด้วย “ นับตะวันเอ่ยขอโทษ  เขาขยับตัวไปยืนที่เดิมก่อนจะใช้สายตาจับจ้องไปยังตัวแปรสำคัญต่อ

    “ ผมคิดว่าเมื่อครู่ผมกำลังขอหลักฐานยืนยันจากคุณอยู่นะ  คุณชลธี “

    ชลธีขยับตัวเล็กน้อย  เขายื่นมือไปหาหยาดอรุณพร้อมกับจับมือเธอให้มาเคียงข้าง  หยาดอรุณจับมือนั้นอย่างว่าง่าย เหมือนผู้หญิงไร้ซึ่งศักดิ์ศรีในเมื่อคู่หมั้นเธอยืนอยู่ในที่นี้ด้วย  แต่หยาดอรุณก็หาสนใจคำครหาพวกนั้นไม่  ต่อให้คนในห้องนี้ด่า ว่า ให้ร้ายเธอยังไงก็ตาม

    “ ครับ ผมกำลังจะให้คำตอบอยู่นี่ไง  เป็นที่รู้กันว่าผม  หยาดอรุณและรันริกาเราเป็นเพื่อนกัน  ต้องบอกว่าเพื่อนสนิทเลยก็ได้  และไม่นานมานี้ผมได้รู้เรื่องสำคัญบางอย่าง “

    ชลธีนิ่งไป..เขารอจังหวะให้ใครบางคนที่เขาหมายหัวเอาไว้เป็นคนตั้งคำถามขึ้น?

    “ รู้อะไร “ เสียงหนึ่งแทรกเข้ามาทันทีที่ชลธีพูดจบ  ชลธีเหยียดยิ้ม  มองไปยังต้นเสียง...ไม่ผิดตัวที่เขาเดาไว้เลย

    “ ดูเหมือนคุณจะกระวนกระวายนะครับคุณม่านหมอก “ ชายหนุ่มเจ้าของชื่อ ม่านหมอก ขบกรามแน่นจนเป็นสัน  เขาลืมนึกไปว่าไอ้ผู้ชายคนนี้เจ้าเล่ห์กว่าที่คิด  และเขากำลังตกหลุมพรางมัน!

    “ ผมดูเป็นอย่างนั้นเหรอ  ก็แค่อยากรู้เท่านั้นแหละ “ ม่านหมอกพยายามเลี่ยงประเด็น เขาไม่สบตาชลธีพร้อมกันนั้นเขากลับหันไปมองน้องชายฝาแฝดที่ยืนหน้าตาซีดเซียวอยู่ข้างหลัง ม่านเมฆ ชายหนุ่มขี้หวาดกลัวที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้อง ล้อมกรอบไปด้วยคำว่าโลกส่วนตัว

    “ งั้นหรือครับ “ ชลธียกเสียงสูง  เขาอยากยั่วให้ม่านหมอกหลุดพฤติกรรมอะไรมามากกว่านี้แต่มันดูจะเสียเวลาเกินไปในเมื่ออาหารที่มีอยู่มันไม่เพียงพอสำหรับคนหลายคน!

    “ เอาล่ะผมคงต้องเริ่มเล่าอย่างจริงจัง  เมื่อไม่นานมานี้ผมรู้เรื่องสำคัญนี้มาจากรันริกา  เธอบอกผมและให้ผมสัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับ  แต่ผมคิดว่าผมจำเป็นต้องเล่ามันแล้วล่ะ  รันริกาบอกกับผมว่าเธอกำลังตั้งท้องได้สองเดือน  เธอไม่ยอมบอกผมว่าใครเป็นพ่อและเธอก็ตั้งใจอย่างมุ่งมั่นว่าจะเลี้ยงลูกคนนี้ด้วยตัวเอง  เธอลงทุนไปฝากท้องที่โรงพยาบาลดังดัง เตรียมห้องนอนให้ลูกทั้งที่ไม่รู้ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย รวมทั้งสาเหตุที่เธอเข้ามาร่วมเกมนี้ก็เพราะว่าเธออยากได้เงินไปดูแลลูก ค่าผ่าตัดมันสูง  ค่านม  และค่าจิปาถะมันเกินกว่ากำลังของผู้หญิงที่ไม่ได้ร่ำรวยมาตั้งแต่เกิดอย่างรันริกานะครับ ผมเลยมั่นใจว่ารันริกาไม่มีวันฆ่าตัวตายแน่นอน “

    หลังจากชลธีอธิบายเสร็จ...ทุกคนในห้องต่างเงียบกริบ ไม่มีแม้เสียงหายใจ  ม่านหมอกตัวชารู้สึกเหมือนจะยืนไม่ไหวจนม่านเมฆต้องเข้ามาช่วยพยุง

    ใช่มันเงียบเหมือนภูเขาไฟก่อนจะตามมาด้วยระเบิดตูมใหญ่  ....

    “ ใครกัน ไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้น “

    “ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน ฉันว่ามันต้องฆ่ารันริกาแน่เลย เพื่อไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เลวจริงๆ“

    “นั่นซิ ฉันเห็นด้วย ไอ้สารเลวคนนั้นเราต้องหาและฆ่ามันนะ  “

    เสียงกระซิบกระซาบมากมายดังขึ้นและพยายามหาว่าคนที่ฆ่ารันริกานั้นคือใคร   ทั้งที่ไม่กี่นาทีก่อนพวกนั้นยังคิดว่าเธอฆ่าตัวตาย  และที่สำคัญชลธีไม่เคยเอ่ยปากบอกว่ารันริกาถูกฆ่าจากผู้ชายที่ทำเธอท้อง  เขาแค่พูดว่าเธอไม่มีวันฆ่าตัวตายแต่ก็ไม่แน่  ความกดดันหลายอย่างอาจจะทำให้เธอนึกครึ้มเปลี่ยนใจก็ไม่แปลก!?

    “ ผมชักอยากรู้แล้วซิว่าไอ้สารเลวที่ทำผู้หญิงท้อง หน้าด้านไม่รับผิดชอบเธอแล้วยังฆ่าเธออีกนี่คือใคร “ น้ำเสียงกังวานดูมีอำนาจของชายที่ใช้นามแฝงว่า SKY คนที่ชลธีไม่คิดว่าเขาจะยอมปริปากพูดจนถึงตอนี้กลับพูดขึ้นด้วยสีหน้าขื่นขม และชลธีเดาได้ไม่ยากเลยว่าผู้ชายคนนี้คงมีปมเรื่องนี้เป็นแน่

    “ ถ้าผมบอกว่าผมรู้ล่ะครับ? “ ชลธีพูดขึ้น  ยิ่งทำให้ม่านหมอกถึงกับชาเข้าไปอีก  เขาถลึงตามองชลธีพลางส่งสายตาเว้าวอน  ชลธียิ้มรับกับสายตานั้น...

    “ ใคร? “ สกายถามเสียงขรึม

    “ รันริกาท้องกับ... “ ขณะที่ชลธีกำลังจะเอ่ยชื่อผู้ชายที่ทำเพื่อนเขาท้อง  ม่านหมอกก็รีบชิงพูดขึ้นก่อน เขาพยามเบี่ยงประเด็นจนกลายเป็นว่าตัวเองแสดงพิรุธออกมา  “ ตอนแรกเราก็บอกกันว่ารันริกาฆ่าตัวตายทำไมแค่คำพูดของผู้ชายคนนี้ทำให้เราเปลี่ยนความคิดกันได้ล่ะ!

    อีกครั้งที่คำพูดมักชวนให้มนุษย์เราสับสนและไขว่เขว  อะไรคือสิ่งที่ยึดมั่น  และอะไรคือสิ่งที่มันถูกต้อง  หลายเสียงกระซิบกระซาบถึงคำพูดของม่านหมอกว่าก็จริง ทำไมพวกหล่อนทั้งหลายต้องเชื่อชลธี และอีกบางพวกที่แย้งว่าคำพูดของชลธีดูมีน้ำหนักพอที่จะเชื่อ

    หึ เอาแล้วไง  สันดานมนุษย์หนอเสียงรำพันถึงความสมเพชเวทนากับความเป็นมนุษย์ของใครบางคนกำลังกระลิ้มกระเหลี่ยอยู่ในใจ

    “ แปลกนะที่คุณดูกระเหี้ยนกระหือกับเรื่องนี้มากเกินกว่าคนอื่นคุณม่านหมอก “ สกายจับผิด  เขาเดินไปประชิดม่านหมอก พลางใช้สายตาจับจองพฤติกรรมที่ส่อพิรุธนั้น  สกายบอกได้เลยว่าม่านหมอกกำลังเกร็งและมีอาการกระสับกระส่ายถึงในนี้จะมีหลายเสียงที่สนับสนุนความคิดม่านหมอกจากประโยคบอกเล่าเมื่อกี้  แต่ความจริงมันย่อมเป็นความจริงอยู่วันยันค่ำ

    “ อะไรกัน  คุณกำลังต้องการจะสื่ออะไร “ ม่านหมอกพยายามบังคับพูดไม่ให้สั่น  หากนั่นยิ่งทำให้หลายเสียงที่สนับสนุนเขาเมื่อครู่ลังเล

    “ ผมแค่สงสัย คุณดูผิดปกติ? สำหรับเรื่องนี้ “

    “ คุณอย่ามาใส่ร้ายผมนะคุณสกาย ตัวคุณเองก็น่าสงสัยเหมือนกันนั่นแหละ ชื่อจริงก็ไม่ยอมบอก มีแต่นามแฝง แถมในนี้ก็ไม่มีใครเลยที่รู้จักคุณ  ผมว่าคุณอาจจะเป็นคนจัดเกมนี้ปลอมตัวมาเข้าเล่นเกมก็ได้ !

    “ ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ในที่สุดก็เผยมาหมดแล้วซินะ “ อยู่อยู่หยาดอรุณก็หลุดขำออกมาพร้อมกับคำเฉลยที่หากใครหลายคนฉลาดพอคงคิดออกว่าการสนทนาครั้งนี้มีจุดประสงค์อะไร

    “ อะไรกัน  พวกแกพูดอะไรกัน? “ ม่านหมอกงง  ตอนนี้เขาสับสนไปหมด  ที่หยาดอรุณพูดเมื่อกี้มันคืออะไร ใครร่วมมือกับใครในเมื่อทุกคนที่นี่ล้วนแต่เป็นศัตรูของกันและกัน?

    “ ก็พูดความจริงน่ะซิครับ พฤติกรรมของคุณมันบ่งบอกว่าคุณคือคนที่ฆ่ารันริกา! “ ชลธีเอ่ยปากเฉลยคำตอบให้หลายคนที่ยังไม่ฉลาดพอได้รับรู้  เสียงคนหมู่มากต่างลุกฮือขึ้นก่อนจะพากันกรูเข้าไปหาม่านหมอก  ม่านหมอกเบิกตากว้างพยายามถอยหลังหนีแต่ชนเข้ากับม่านเมฆที่ยืนสั่นอยู่...

    “ ถอยไปไอ้ม่านเมฆ! “ ตะโกนเสียงดังพลางผลักน้องชายฝาแฝดให้หลีกไป  ม่านหมอกกำลังหนี  เขาคิดว่าเขาจะรอดหากม่านหมอกคิดผิด  หนึ่งในผู้เข้าร่วมเกมดึงมีดออกจากกระโปรงก่อนเสียบเข้าที่แผ่นหลังของม่านหมอกอย่างจัง  ม่านหมอกเบิกตากว้าง  หยุดเดินแต่มือปริศนากลับผลักร่างของม่านหมอกให้ไถลไปข้างหน้า

    เสียงกระจกแตกดัง เพล้ง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงตุบ!!!  ร่างของม่านหมอกลอยละลิ่วทะลุกระจกลงไปนอนกองกับพื้นพร้อมกับเลือดเจิ่งนองที่ไหลไม่หยุดหย่อน  ม่านเมฆยืนดูเหตุการณ์ด้วยความหวาดกลัว ไม่มีแม้เสียงร้อง  มีเพียงน้ำตาที่ไหลออกมาเฉกเช่นเดียวกับเลือดที่ไหลออกมาจากร่างพี่ชายฝาแฝดของเขา

    “ สมน้ำหน้า  ไอ้หน้าตัวเมียนั่นตายแล้ว “ หญิงสาวผู้ถือมีดเปื้อนเลือดที่เจ้าหล่อนเพิ่งปักมันเข้าแผ่นหลังของม่านหมอกอย่างจังด้วยสีหน้ามีความสุข  ไม่มีใครในที่นี้ปกติสักคน  หล่อน อรอนงค์หญิงสาวที่เมื่อเริ่มแรกเป็นเพียงพนักงานออฟฟิศธรรมดา  ใช้ชีวิตเฮฮากับเพื่อนฝูงยามว่าง  เช้าไปทำงาน เย็นกลับ! แต่เมื่อเริ่มเข้ามาสู่เกมในครั้งนี้อรอนงค์ก็ต้องเปลี่ยนไป  หล่อนจะเป็นเพียงหญิงสาวเฮฮาคนนั้นไม่ได้!

    “ ทำได้ดีมากเลยนะครับคุณอรอนงค์ “ ชลธีเอ่ยปากชม พลางระบายยิ้มให้หญิงสาวมือเปื้อนเลือดที่ยืนอยู่เยื้องหน้าเขา หากในใจของเขากลับไม่ได้แย้มยิ้มดั่งเช่นที่ใบหน้าแสดงออกมาเลย  ผู้หญิงที่จิตตกอย่างอรอนงค์น่าจะเป็นรายต่อไปน่าจะดี!

     

    เรื่องพวกนี้มันเริ่มขึ้นเมื่อไหร่กันนะ....

    ชลธีฉุกคิดขึ้น..หวังว่ามันคงไม่สายถ้าเขาจะย้อนกลับไปถึงเรื่องราวที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่างในวันนี้  ฤดูร้อนของประเทศไทยเริ่มต้นเมื่อเดือนมีนาคม  ดูจะเร็วกว่าปกติสำหรับทุกปี ชลธียืนตากแอร์อยู่หน้าร้านกาแฟหน้ามหาวิทยาลัย  เขากำลังชั่งใจว่าจะนั่งดื่มกาแฟอยู่ที่นี่หรือไปรับรันริกาดี กว่าจะได้คำตอบที่ต้องการชลธีก็ต้องระเห็จมายืนจังก้าอยู่ในร้านเพราะขวางทางเข้าออกของลูกค้าคนอื่น  และเขาก็คิดได้ว่าดื่มกาแฟขับลมร้อนน่าจะดีที่สุด

    “ ม็อคค่าแก้วนึงครับ “ สั่งออร์เดอร์จากพนักงานร้านแสนสวย  ที่เขาจำได้ลางลางว่าเธอเรียนอยู่คณะเดียวกับเขาแค่นึกชื่อไม่ออก

    “ รอสักครู่นะค่ะ “ ชลธีเงยหน้าไปยิ้มรับก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นระหว่างรอ

    ตึง!

    เสียงข้อความจากไลน์ของเขาเด้งขึ้นทันทีที่กดเปิดล็อคโทรศัพท์

    > เมื่อไหร่จะมา ห่ะ!!!!

    ข้อความแสนเอาแต่ใจและใส่อารมณ์ของคู่สนทนาทำเอาชลธีถึงกับกลั้วยิ้ม  หยาดอรุณนั่นเอง  เธอเป็นลูกคุณหนู แถมยังลูกคนเดียวอีก  เรื่องเอาแต่ใจต้องยกให้เธอ  หนำซ้ำหยาดอรุณยังเป็นถึงว่าที่ดาวมหาลัย  มีทั้งชายและหญิงหมายปองจะติดอยู่ที่ว่าเธอไม่ยอมตกลงปลงใจกับใครสักที  ก็มีแต่เขานี่แหละที่เธอยอมเปิดใจคุย เล่นจนกลายเป็นสนิทสนมออกหน้าออกตา

    < กินกาแฟอยู่  รอแปป

    > รีบเลย 5 นาทีถ้าไม่มา ชั้นจะกินหัวนาย 

    > หยาดรออยู่นานแล้วนะ  รักษาสัญญาหน่อยยยย ไอ้แห้ง

    < คร๊าบบบบ ได้กาแฟแล้วจะรีบไปรับเลย

    > ดีมาก  ไอ้แห้ง J

    “ ม็อคค่าได้แล้วค่ะ “

    “ อ่อ ครับ “ ชลธีขานรับ รีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า  พลางควักแบงค์ร้อยขึ้นมาจ่ายค่ากาแฟอย่างรวดเร็ว

    “ รับมา 100 บาทนะค่ะ  รอสักครู่ค่ะ “ อีกครั้งที่พนักงานแสนสวยพูดกับเขาเหมือนหุ่นบ็อทที่ถูกล็อคเอาไว้ แต่ชลธีกไม่คิดจะใส่ใจหรอกเขาแค่จะรอรับเงินทอนและรีบไปหาหยาดอรุณ กับรันริกาให้เร็วที่สุด

    “ นี่ค่ะ เงินทอน “ ไม่นานเกินรอพนักงานสาวสวยก็เดินกลับมาพร้อมเงินทอน  ชลธีรับมันอย่างคล่องแคล้วพลางยันตัวลุกขึ้นเดินออกจากร้าน

     

    ไล่หลังชลธี  ชายหนุ่มหน้าตาดีที่มีดีกรีเป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัยก็มาถึง  ม่านหมอก เดินเฉิดฉายมากับคู่ควงคนใหม่  สองข้างเขาขนาบไปด้วยกลุ่มแก๊งค์เพื่อนหน้าตาดีและร่ำรวย  ก่อนจะปิดท้ายด้วยผู้ชายหน้าตาธรรมดาและดูท่าทางหวาดกลัวอะไรบางอย่างตลอดเวลาอย่างม่านเมฆ

    ทั้งหกคนเดินเข้าไปในร้านกาแฟ จับจองพื้นที่โต๊ะขนาดใหญ่พร้อมสั่งกาแฟเพื่อดับร้อน

    “ นับวันประเทศเรานี่มันเตาเผาชัดชัด “ ธนินท์ชายหนุ่มผู้ปราดเปรื่องในทุกเรื่องพูดขึ้นหลังจากหย่อนก้นอันมโหฬาร ของเขาลงบนเก้าอี้ 

    “ เออ จริง! “ ม่านหมอกเอ่ยสับทับ  ทุกครั้งที่เขาเดินออกนอกห้องแอร์ของมหาลัยเสมือนเขากำลังเดินอยู่ในทะเลทรายซาฮาร่าก็ไม่ปาน

    “ เหรอวะ แต่ดูน้องมึงไม่เห็นร้อน “ ธนินท์แกล้งแหย่  เขาแอบเหล่ตาไปมองม่านเมฆที่นั่งก้มหน้าก้มตามองโต๊ะอยู่  ม่านหมอกมองตามพลางส่ายหัวอย่างระอา  เขาไม่เคยชอบใจเลยเวลาที่ทุกคนรู้ว่าไอ้ทึ่ม ท่าทางเหมือนเต่าอย่างม่านเมฆเป็นน้องชายฝาแฝดเขา  ทั้งที่เกิดพร้อมกันทำไมเขากับมันถึงต่างกันมากเพียงนี้!

    “ ไม่รู้แม่งมันหรอก! “ ม่านหมอกพูดส่งอย่างไม่ใส่ใจ  ม่านเมฆรับฟังอยู่ตลอดเวลา  รู้อยู่ตลอดว่าพี่ชายเขารวมทั้งเพื่อนของพี่ชายกำลังว่าเขา  ไม่ซิ! มันเป็นแบบนี้ประจำแหละ  และม่านเมฆเองอาจจะชินกับมันจนกลายเป็นว่าเขาทำเป็นนั่งนิ่งเอาไว้ดีกว่าที่จะแสดงออกมาว่าเขารับรู้  และรู้สึกถึงมันได้

    “ แล้วนี่เมื่อไหร่เฟรปปูชิโน่ที่สั่งจะได้วะ “ ม่านหมอกพูดพลางชักเสียงหงุดหงิด แต่ไม่ทันขาดคำ

    “ นี่ค่ะของที่สั่ง “ พนักงานแสนสวยคนเดิม เดินออกมาจากหลังเคาน์เตอร์พร้อมกับถาดใส่เครื่องดื่มและไอศกรีม  เล่นเอาบรรดาชายหนุ่มทั้งหลายต้องมีอันแซวเกิดขึ้น  ใช่ว่าคู่ควงที่ม่านหมอกพามาหน้าตาไม่ดี  หากเมื่อเทียบกับพนักงานกาแฟร้านนี้แล้วเธอดูสวยกว่าจริงจริง

    “ ขอเบอร์หน่อย! “ และเป็นม่านหมอกที่เปิดประเด็น  จนสาวข้างกายถึงตีแจนดัง เผียะ! เพื่อให้รู้ว่าเธอก็มีตัวตนและสิ่งที่ทำมันหยามเธอเกินไป  ม่านหมอกหันไปมองคู่ควงเขาก่อนจะหรี่ตามอง...อันดาก็จัดว่าเป็นน้องใหม่ที่สวยใช่ย่อย แต่ถ้ามันน้อยกว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาก็ไม่มีอะไรก็รั้งไว้

    คิดแบบนั้นก็พาลทำให้เขาเดินเครื่องต่อและไม่กี่นาที  ในขณะที่เขาได้เบอร์พนักงานสาวสวยคนนี้  อันดาก็วิ่งหนี้พร้อมน้ำตาออกจากร้านไป  ท่ามกลางเสียงเฮฮาของเพื่อนม่านหมอกที่พูดกันอย่างขบขัน

     

     

     

     

    ขณะที่กลุ่มม่านหมอกกำลังสนุกสนานกับเรื่องนี้  อรอนงค์พนักงานออฟฟิศย่านมหาวิทยาลัยก็กำลังเดินตัวปลิวจนส้นสูงที่เธอใส่เกือบหลุด  เนื่องมาจากเธอนัดแฟนหนุ่มกินข้าวกลางวันด้วยกันแต่เผอิญประชุมเร่งด่วนของบอสทำให้เธอเลต  และมันก็เลตไม่ใช่น้อยน้อย  อรอนงค์คิดว่ายังไงเธอคงถูกต่อว่าแน่แต่เมื่อมาถึงร้านอาหารที่เธอกับแฟนหนุ่มนัด  ปรากฏว่าไร้วี่แววของเขา  อรอนงค์พยายามโทรหาแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะติด

    มันทำให้เธอนอยด์จนเกือบจะกลับออฟฟิศทั้งที่ยังไม่ได้กินอะไร  ดีที่สายตาเฉียบคมของเธอมองเห็นร้านกาแฟอยู่  เธอถึงได้แวะไปนั่งพักสักหน่อย  แม้จะมีเสียงเฮฮาของพวกเด็กนักศึกษาในร้านก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลย  หวังว่าแฟนของเธอจะไม่บอกเลิกเธอเพราะแบบนี้หรอกนะ  อรอนคงค์ภาวนาก่อนจะสั่งอเมริกาโน่มากินดับกระหาย  เป็นเวลาเดียวกับชายหนุ่มผู้ซึ่งมีความรู้สึกเดียวกับเธอ  เดินเข้ามาในร้านเพื่อรอใครบางคนที่ไม่มีท่าทีว่าจะสนใจเขาเลย

    นับตะวันอุตส่าห์หาโอกาสว่างจากงานรัดตัวมาเพื่อพบกับคู่หมั้นของเขา  แต่อีกฝ่ายกลับไร้เยื่อใยต่อเขา ไม่ก็ทำราวกับรังเกียจนักหนา  ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาดีแสนดีขนาดนี้เธอไม่ชอบหรือไง  หรือเธออาจจะชอบคนไม่ดี? แค่เพียงความคิดชั่ววูบที่บังเกิดอย่างไม่ตั้งใจ  กลับกลายเป็นว่าหลังจากที่เขาสั่งลาเต้  นับตะวันก็ปณิธานว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ให้เป็นอีกอย่าง  บางทีมันอาจจะสามารถเข้าถึงใจของเธอผู้นั้นได้!

     

    กริ๊ง!!!!!

    บานประตูร้านกาแฟถูกกระชากเปิดจนเกือบจะกลายเป็นพังมัน นำพาซึ่งชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่สวมแจ็คเกตสีดำทะมึนพร้อมกับหิ้วกระเป๋าเดินทางเข้ามาในร้าน  ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังชายผู้นี้ราวกับกำลังมองโจรที่จะมาปล้นหากแต่ชายผู้นี้ก็ไม่ได้ทำอย่างที่คนอื่นคิด  เขาสั่งกาแฟเย็น จ่ายเงิน รอรับมันและเดินออกไป  เพียงแค่นั้นทุกอย่างก็กลับมาสู่ปกติ  และต้องยอมรับเลยว่าทุกวันนี้มนุษย์อย่างเราเรามักมองรูปลักษณ์มากกว่าสิ่งที่เป็น!

     

    หลังจากนั้นชลธีก็ได้รับใบเสร็จม็อคค่าพร้อมกับกระดาษโน๊ตแผ่นเล็กเชิญชวนให้เข้าเล่นเกมล่าท้าเงิน! ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับเงินสดมูลค่าสิบล้านบาทที่จะมอบให้แก่ผู้ชนะในครั้งนี้  หากสนใจติดต่อเบอร์ 081-46423XX เช่นเดียวกับทุกคนที่ได้เข้าไปในร้านกาแฟนี้  และมูลค่าของเงินมันเยอะจนทำให้หลายคนเกิดกิเลศและเข้าร่วมเกมนี้  ถึงแม้จะต้องท้าเงินนี้ด้วยชีวิตก็ตาม!!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×