คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : สิ่งที่มันเริ่มเกิดขึ้นมาแล้ว
เกมท้าตาย!
“ มันไม่มีเหตุผลที่เธอจะฆ่าตัวตาย “ ชลธีเอ่ยปากออกไปเมื่อเห็นว่าหลายคนในห้องกำลังมีความคิดเอนเอียงไปทางเดียวกันว่า เธอฆ่าตัวตาย! และเขาก็เป็นเพียงคนเดียวที่รู้ดีว่าเธอไม่มีวันฆ่าตัวตายโดยเด็ดขาดไม่ว่าเธอจะเจอกับอะไรก็ตาม
“ มั่นใจได้ยังไง ในเมื่อคุณเองก็ไม่มีหลักฐานมายืนยัน “ หนึ่งในนั้นแทรกขึ้น ดวงตาคมกริบดั่งพญาเหยี่ยวตวัดมองหน้าชลธีคล้ายกำลังจับผิด
“ ผมมั่นใจ ...ว่ารันริกาไม่มีวันฆ่าตัวตายแน่นอน หรือคุณนับตะวันไปรู้อะไรมาครับ “
“ ตัวผมเองคงไม่อาจไปล่วงรู้อะไรได้มากกว่านี้หรอกครับ ในเมื่อผมกับรันริกาเราเป็นแค่คนรู้จัก ไม่ได้ลึกซึ้งเหมือนกับคุณ และ “ นับตะวันเว้นจังหวะการพูดไปช่วงหนึ่งพลางตวัดสายตามองไปยังเด็กสาวอีกคนที่ยืนกัดริมฝีปากอยู่มุมมืดของห้อง จนเจ้าตัวต้องออกปากโวยวายออกมา “ อย่ามาใช้สายตาแบบนั้นกับฉัน ไอ้หมาขี้เรื้อน “
“ งั้นเหรอครับ ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองใช้สายตาแบบไหนแต่การที่คุณหาว่าผมเป็นหมาขี้เรื้อนมันออกจะดูถูกกันมากเกินไปหรือเปล่าครับ...คุณคู่หมั่น “
“ แก!!!! “ เด็กสาวกัดฟันกรอด จ้องหน้าชายหนุ่มที่มีสถานะเป็นถึงคู่หมั้นเธอด้วยสายตาเกลียดชัง หยาดอรุณไม่เคยคิดจะแต่งงานกับผู้ชายที่ชื่อนับตะวัน ไม่ว่าเขาจะหน้าตาหล่อเหลาปานใด หรือร่ำรวยเพียงไหน หัวใจของเธอมีไว้สำหรับคนคนเดียวและคนคนนั้นไม่ใช่นับตะวัน!
“ ปากคุณเลือดออกน่ะครับ “ นับตะวันว่า เขาเดินปราดพรวดเดียวเข้ามาประชิดหยาดอรุณก่อนจะใช้มือปาดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากของเธอ ดูเหมือนการที่เธอกัดริมฝีปากจากการกัดกลุ้มอะไรบางอย่างมันส่งผลกระทบออกมาเร็วเสียทีเดียว
เพี๊ยะ!!
หยาดอรุณปัดมือที่กำลังเช็ดเลือดตรงมุมปากของเธออก พลางถอยขยับห่างจากนับตะวัน...ชลธีมองเหตุการณ์นั้นอย่างไม่คาดสายตาและเขามีสติดีทีเดียวที่จะไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องละเอียดอ่อนนี้เร็วเกินไป
“ อย่ามาแตะต้องฉัน “ หยาดอรุณตะหวาด ดวงตาของเธอสั่นระริกมันไม่ใช่ความเขินอาย ไม่ใช่ความกลัว มันเป็นความรู้สึกที่เธอเองก็บอกไม่ถูก ทั้งที่เธอเกลียดแสนเกลียดนับตะวันแต่เวลาใดก็ตามที่เขาแตะต้องตัวเธอ ร่างกายของเธอราวกับจะหล่อหลอมรวมกัน เนื้อตัว แววตาสั่นระริก ร้องโหยหา....
“ ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องขอโทษด้วย “ นับตะวันเอ่ยขอโทษ เขาขยับตัวไปยืนที่เดิมก่อนจะใช้สายตาจับจ้องไปยังตัวแปรสำคัญต่อ
“ ผมคิดว่าเมื่อครู่ผมกำลังขอหลักฐานยืนยันจากคุณอยู่นะ คุณชลธี “
ชลธีขยับตัวเล็กน้อย เขายื่นมือไปหาหยาดอรุณพร้อมกับจับมือเธอให้มาเคียงข้าง หยาดอรุณจับมือนั้นอย่างว่าง่าย เหมือนผู้หญิงไร้ซึ่งศักดิ์ศรีในเมื่อคู่หมั้นเธอยืนอยู่ในที่นี้ด้วย แต่หยาดอรุณก็หาสนใจคำครหาพวกนั้นไม่ ต่อให้คนในห้องนี้ด่า ว่า ให้ร้ายเธอยังไงก็ตาม
“ ครับ ผมกำลังจะให้คำตอบอยู่นี่ไง เป็นที่รู้กันว่าผม หยาดอรุณและรันริกาเราเป็นเพื่อนกัน ต้องบอกว่าเพื่อนสนิทเลยก็ได้ และไม่นานมานี้ผมได้รู้เรื่องสำคัญบางอย่าง “
ชลธีนิ่งไป..เขารอจังหวะให้ใครบางคนที่เขาหมายหัวเอาไว้เป็นคนตั้งคำถามขึ้น?
“ รู้อะไร “ เสียงหนึ่งแทรกเข้ามาทันทีที่ชลธีพูดจบ ชลธีเหยียดยิ้ม มองไปยังต้นเสียง...ไม่ผิดตัวที่เขาเดาไว้เลย
“ ดูเหมือนคุณจะกระวนกระวายนะครับคุณม่านหมอก “ ชายหนุ่มเจ้าของชื่อ ม่านหมอก ขบกรามแน่นจนเป็นสัน เขาลืมนึกไปว่าไอ้ผู้ชายคนนี้เจ้าเล่ห์กว่าที่คิด และเขากำลังตกหลุมพรางมัน!
“ ผมดูเป็นอย่างนั้นเหรอ ก็แค่อยากรู้เท่านั้นแหละ “ ม่านหมอกพยายามเลี่ยงประเด็น เขาไม่สบตาชลธีพร้อมกันนั้นเขากลับหันไปมองน้องชายฝาแฝดที่ยืนหน้าตาซีดเซียวอยู่ข้างหลัง ม่านเมฆ ชายหนุ่มขี้หวาดกลัวที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้อง ล้อมกรอบไปด้วยคำว่าโลกส่วนตัว
“ งั้นหรือครับ “ ชลธียกเสียงสูง เขาอยากยั่วให้ม่านหมอกหลุดพฤติกรรมอะไรมามากกว่านี้แต่มันดูจะเสียเวลาเกินไปในเมื่ออาหารที่มีอยู่มันไม่เพียงพอสำหรับคนหลายคน!
“ เอาล่ะผมคงต้องเริ่มเล่าอย่างจริงจัง เมื่อไม่นานมานี้ผมรู้เรื่องสำคัญนี้มาจากรันริกา เธอบอกผมและให้ผมสัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับ แต่ผมคิดว่าผมจำเป็นต้องเล่ามันแล้วล่ะ รันริกาบอกกับผมว่าเธอกำลังตั้งท้องได้สองเดือน เธอไม่ยอมบอกผมว่าใครเป็นพ่อและเธอก็ตั้งใจอย่างมุ่งมั่นว่าจะเลี้ยงลูกคนนี้ด้วยตัวเอง เธอลงทุนไปฝากท้องที่โรงพยาบาลดังดัง เตรียมห้องนอนให้ลูกทั้งที่ไม่รู้ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย รวมทั้งสาเหตุที่เธอเข้ามาร่วมเกมนี้ก็เพราะว่าเธออยากได้เงินไปดูแลลูก ค่าผ่าตัดมันสูง ค่านม และค่าจิปาถะมันเกินกว่ากำลังของผู้หญิงที่ไม่ได้ร่ำรวยมาตั้งแต่เกิดอย่างรันริกานะครับ ผมเลยมั่นใจว่ารันริกาไม่มีวันฆ่าตัวตายแน่นอน “
หลังจากชลธีอธิบายเสร็จ...ทุกคนในห้องต่างเงียบกริบ ไม่มีแม้เสียงหายใจ ม่านหมอกตัวชารู้สึกเหมือนจะยืนไม่ไหวจนม่านเมฆต้องเข้ามาช่วยพยุง
ใช่มันเงียบเหมือนภูเขาไฟก่อนจะตามมาด้วยระเบิดตูมใหญ่ ....
“ ใครกัน ไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้น “
“ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน ฉันว่ามันต้องฆ่ารันริกาแน่เลย เพื่อไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เลวจริงๆ“
“นั่นซิ ฉันเห็นด้วย ไอ้สารเลวคนนั้นเราต้องหาและฆ่ามันนะ “
เสียงกระซิบกระซาบมากมายดังขึ้นและพยายามหาว่าคนที่ฆ่ารันริกานั้นคือใคร ทั้งที่ไม่กี่นาทีก่อนพวกนั้นยังคิดว่าเธอฆ่าตัวตาย และที่สำคัญชลธีไม่เคยเอ่ยปากบอกว่ารันริกาถูกฆ่าจากผู้ชายที่ทำเธอท้อง เขาแค่พูดว่าเธอไม่มีวันฆ่าตัวตายแต่ก็ไม่แน่ ความกดดันหลายอย่างอาจจะทำให้เธอนึกครึ้มเปลี่ยนใจก็ไม่แปลก!?
“ ผมชักอยากรู้แล้วซิว่าไอ้สารเลวที่ทำผู้หญิงท้อง หน้าด้านไม่รับผิดชอบเธอแล้วยังฆ่าเธออีกนี่คือใคร “ น้ำเสียงกังวานดูมีอำนาจของชายที่ใช้นามแฝงว่า SKY คนที่ชลธีไม่คิดว่าเขาจะยอมปริปากพูดจนถึงตอนี้กลับพูดขึ้นด้วยสีหน้าขื่นขม และชลธีเดาได้ไม่ยากเลยว่าผู้ชายคนนี้คงมีปมเรื่องนี้เป็นแน่
“ ถ้าผมบอกว่าผมรู้ล่ะครับ? “ ชลธีพูดขึ้น ยิ่งทำให้ม่านหมอกถึงกับชาเข้าไปอีก เขาถลึงตามองชลธีพลางส่งสายตาเว้าวอน ชลธียิ้มรับกับสายตานั้น...
“ ใคร? “ สกายถามเสียงขรึม
“ รันริกาท้องกับ... “ ขณะที่ชลธีกำลังจะเอ่ยชื่อผู้ชายที่ทำเพื่อนเขาท้อง ม่านหมอกก็รีบชิงพูดขึ้นก่อน เขาพยามเบี่ยงประเด็นจนกลายเป็นว่าตัวเองแสดงพิรุธออกมา “ ตอนแรกเราก็บอกกันว่ารันริกาฆ่าตัวตายทำไมแค่คำพูดของผู้ชายคนนี้ทำให้เราเปลี่ยนความคิดกันได้ล่ะ! “
อีกครั้งที่คำพูดมักชวนให้มนุษย์เราสับสนและไขว่เขว อะไรคือสิ่งที่ยึดมั่น และอะไรคือสิ่งที่มันถูกต้อง หลายเสียงกระซิบกระซาบถึงคำพูดของม่านหมอกว่าก็จริง ทำไมพวกหล่อนทั้งหลายต้องเชื่อชลธี และอีกบางพวกที่แย้งว่าคำพูดของชลธีดูมีน้ำหนักพอที่จะเชื่อ
‘ หึ เอาแล้วไง สันดานมนุษย์หนอ’ เสียงรำพันถึงความสมเพชเวทนากับความเป็นมนุษย์ของใครบางคนกำลังกระลิ้มกระเหลี่ยอยู่ในใจ
“ แปลกนะที่คุณดูกระเหี้ยนกระหือกับเรื่องนี้มากเกินกว่าคนอื่นคุณม่านหมอก “ สกายจับผิด เขาเดินไปประชิดม่านหมอก พลางใช้สายตาจับจองพฤติกรรมที่ส่อพิรุธนั้น สกายบอกได้เลยว่าม่านหมอกกำลังเกร็งและมีอาการกระสับกระส่ายถึงในนี้จะมีหลายเสียงที่สนับสนุนความคิดม่านหมอกจากประโยคบอกเล่าเมื่อกี้ แต่ความจริงมันย่อมเป็นความจริงอยู่วันยันค่ำ
“ อะไรกัน คุณกำลังต้องการจะสื่ออะไร “ ม่านหมอกพยายามบังคับพูดไม่ให้สั่น หากนั่นยิ่งทำให้หลายเสียงที่สนับสนุนเขาเมื่อครู่ลังเล
“ ผมแค่สงสัย คุณดูผิดปกติ? สำหรับเรื่องนี้ “
“ คุณอย่ามาใส่ร้ายผมนะคุณสกาย ตัวคุณเองก็น่าสงสัยเหมือนกันนั่นแหละ ชื่อจริงก็ไม่ยอมบอก มีแต่นามแฝง แถมในนี้ก็ไม่มีใครเลยที่รู้จักคุณ ผมว่าคุณอาจจะเป็นคนจัดเกมนี้ปลอมตัวมาเข้าเล่นเกมก็ได้ ! “
“ ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ในที่สุดก็เผยมาหมดแล้วซินะ “ อยู่อยู่หยาดอรุณก็หลุดขำออกมาพร้อมกับคำเฉลยที่หากใครหลายคนฉลาดพอคงคิดออกว่าการสนทนาครั้งนี้มีจุดประสงค์อะไร
“ อะไรกัน พวกแกพูดอะไรกัน? “ ม่านหมอกงง ตอนนี้เขาสับสนไปหมด ที่หยาดอรุณพูดเมื่อกี้มันคืออะไร ใครร่วมมือกับใครในเมื่อทุกคนที่นี่ล้วนแต่เป็นศัตรูของกันและกัน?
“ ก็พูดความจริงน่ะซิครับ พฤติกรรมของคุณมันบ่งบอกว่าคุณคือคนที่ฆ่ารันริกา! “ ชลธีเอ่ยปากเฉลยคำตอบให้หลายคนที่ยังไม่ฉลาดพอได้รับรู้ เสียงคนหมู่มากต่างลุกฮือขึ้นก่อนจะพากันกรูเข้าไปหาม่านหมอก ม่านหมอกเบิกตากว้างพยายามถอยหลังหนีแต่ชนเข้ากับม่านเมฆที่ยืนสั่นอยู่...
“ ถอยไปไอ้ม่านเมฆ! “ ตะโกนเสียงดังพลางผลักน้องชายฝาแฝดให้หลีกไป ม่านหมอกกำลังหนี เขาคิดว่าเขาจะรอดหากม่านหมอกคิดผิด หนึ่งในผู้เข้าร่วมเกมดึงมีดออกจากกระโปรงก่อนเสียบเข้าที่แผ่นหลังของม่านหมอกอย่างจัง ม่านหมอกเบิกตากว้าง หยุดเดินแต่มือปริศนากลับผลักร่างของม่านหมอกให้ไถลไปข้างหน้า
เสียงกระจกแตกดัง เพล้ง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงตุบ!!! ร่างของม่านหมอกลอยละลิ่วทะลุกระจกลงไปนอนกองกับพื้นพร้อมกับเลือดเจิ่งนองที่ไหลไม่หยุดหย่อน ม่านเมฆยืนดูเหตุการณ์ด้วยความหวาดกลัว ไม่มีแม้เสียงร้อง มีเพียงน้ำตาที่ไหลออกมาเฉกเช่นเดียวกับเลือดที่ไหลออกมาจากร่างพี่ชายฝาแฝดของเขา
“ สมน้ำหน้า ไอ้หน้าตัวเมียนั่นตายแล้ว “ หญิงสาวผู้ถือมีดเปื้อนเลือดที่เจ้าหล่อนเพิ่งปักมันเข้าแผ่นหลังของม่านหมอกอย่างจังด้วยสีหน้ามีความสุข ไม่มีใครในที่นี้ปกติสักคน หล่อน อรอนงค์หญิงสาวที่เมื่อเริ่มแรกเป็นเพียงพนักงานออฟฟิศธรรมดา ใช้ชีวิตเฮฮากับเพื่อนฝูงยามว่าง เช้าไปทำงาน เย็นกลับ! แต่เมื่อเริ่มเข้ามาสู่เกมในครั้งนี้อรอนงค์ก็ต้องเปลี่ยนไป หล่อนจะเป็นเพียงหญิงสาวเฮฮาคนนั้นไม่ได้!
“ ทำได้ดีมากเลยนะครับคุณอรอนงค์ “ ชลธีเอ่ยปากชม พลางระบายยิ้มให้หญิงสาวมือเปื้อนเลือดที่ยืนอยู่เยื้องหน้าเขา หากในใจของเขากลับไม่ได้แย้มยิ้มดั่งเช่นที่ใบหน้าแสดงออกมาเลย ผู้หญิงที่จิตตกอย่างอรอนงค์น่าจะเป็นรายต่อไปน่าจะดี!
เรื่องพวกนี้มันเริ่มขึ้นเมื่อไหร่กันนะ....
ชลธีฉุกคิดขึ้น..หวังว่ามันคงไม่สายถ้าเขาจะย้อนกลับไปถึงเรื่องราวที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่างในวันนี้ ฤดูร้อนของประเทศไทยเริ่มต้นเมื่อเดือนมีนาคม ดูจะเร็วกว่าปกติสำหรับทุกปี ชลธียืนตากแอร์อยู่หน้าร้านกาแฟหน้ามหาวิทยาลัย เขากำลังชั่งใจว่าจะนั่งดื่มกาแฟอยู่ที่นี่หรือไปรับรันริกาดี กว่าจะได้คำตอบที่ต้องการชลธีก็ต้องระเห็จมายืนจังก้าอยู่ในร้านเพราะขวางทางเข้าออกของลูกค้าคนอื่น และเขาก็คิดได้ว่าดื่มกาแฟขับลมร้อนน่าจะดีที่สุด
“ ม็อคค่าแก้วนึงครับ “ สั่งออร์เดอร์จากพนักงานร้านแสนสวย ที่เขาจำได้ลางลางว่าเธอเรียนอยู่คณะเดียวกับเขาแค่นึกชื่อไม่ออก
“ รอสักครู่นะค่ะ “ ชลธีเงยหน้าไปยิ้มรับก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นระหว่างรอ
ตึง!
เสียงข้อความจากไลน์ของเขาเด้งขึ้นทันทีที่กดเปิดล็อคโทรศัพท์
> เมื่อไหร่จะมา ห่ะ!!!!
ข้อความแสนเอาแต่ใจและใส่อารมณ์ของคู่สนทนาทำเอาชลธีถึงกับกลั้วยิ้ม หยาดอรุณนั่นเอง เธอเป็นลูกคุณหนู แถมยังลูกคนเดียวอีก เรื่องเอาแต่ใจต้องยกให้เธอ หนำซ้ำหยาดอรุณยังเป็นถึงว่าที่ดาวมหาลัย มีทั้งชายและหญิงหมายปองจะติดอยู่ที่ว่าเธอไม่ยอมตกลงปลงใจกับใครสักที ก็มีแต่เขานี่แหละที่เธอยอมเปิดใจคุย เล่นจนกลายเป็นสนิทสนมออกหน้าออกตา
< กินกาแฟอยู่ รอแปป
> รีบเลย 5 นาทีถ้าไม่มา ชั้นจะกินหัวนาย
> หยาดรออยู่นานแล้วนะ รักษาสัญญาหน่อยยยย ไอ้แห้ง
< คร๊าบบบบ ได้กาแฟแล้วจะรีบไปรับเลย
> ดีมาก ไอ้แห้ง J
“ ม็อคค่าได้แล้วค่ะ “
“ อ่อ ครับ “ ชลธีขานรับ รีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า พลางควักแบงค์ร้อยขึ้นมาจ่ายค่ากาแฟอย่างรวดเร็ว
“ รับมา 100 บาทนะค่ะ รอสักครู่ค่ะ “ อีกครั้งที่พนักงานแสนสวยพูดกับเขาเหมือนหุ่นบ็อทที่ถูกล็อคเอาไว้ แต่ชลธีกไม่คิดจะใส่ใจหรอกเขาแค่จะรอรับเงินทอนและรีบไปหาหยาดอรุณ กับรันริกาให้เร็วที่สุด
“ นี่ค่ะ เงินทอน “ ไม่นานเกินรอพนักงานสาวสวยก็เดินกลับมาพร้อมเงินทอน ชลธีรับมันอย่างคล่องแคล้วพลางยันตัวลุกขึ้นเดินออกจากร้าน
ไล่หลังชลธี ชายหนุ่มหน้าตาดีที่มีดีกรีเป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัยก็มาถึง ม่านหมอก เดินเฉิดฉายมากับคู่ควงคนใหม่ สองข้างเขาขนาบไปด้วยกลุ่มแก๊งค์เพื่อนหน้าตาดีและร่ำรวย ก่อนจะปิดท้ายด้วยผู้ชายหน้าตาธรรมดาและดูท่าทางหวาดกลัวอะไรบางอย่างตลอดเวลาอย่างม่านเมฆ
ทั้งหกคนเดินเข้าไปในร้านกาแฟ จับจองพื้นที่โต๊ะขนาดใหญ่พร้อมสั่งกาแฟเพื่อดับร้อน
“ นับวันประเทศเรานี่มันเตาเผาชัดชัด “ ธนินท์ชายหนุ่มผู้ปราดเปรื่องในทุกเรื่องพูดขึ้นหลังจากหย่อนก้นอันมโหฬาร ของเขาลงบนเก้าอี้
“ เออ จริง! “ ม่านหมอกเอ่ยสับทับ ทุกครั้งที่เขาเดินออกนอกห้องแอร์ของมหาลัยเสมือนเขากำลังเดินอยู่ในทะเลทรายซาฮาร่าก็ไม่ปาน
“ เหรอวะ แต่ดูน้องมึงไม่เห็นร้อน “ ธนินท์แกล้งแหย่ เขาแอบเหล่ตาไปมองม่านเมฆที่นั่งก้มหน้าก้มตามองโต๊ะอยู่ ม่านหมอกมองตามพลางส่ายหัวอย่างระอา เขาไม่เคยชอบใจเลยเวลาที่ทุกคนรู้ว่าไอ้ทึ่ม ท่าทางเหมือนเต่าอย่างม่านเมฆเป็นน้องชายฝาแฝดเขา ทั้งที่เกิดพร้อมกันทำไมเขากับมันถึงต่างกันมากเพียงนี้!
“ ไม่รู้แม่งมันหรอก! “ ม่านหมอกพูดส่งอย่างไม่ใส่ใจ ม่านเมฆรับฟังอยู่ตลอดเวลา รู้อยู่ตลอดว่าพี่ชายเขารวมทั้งเพื่อนของพี่ชายกำลังว่าเขา ไม่ซิ! มันเป็นแบบนี้ประจำแหละ และม่านเมฆเองอาจจะชินกับมันจนกลายเป็นว่าเขาทำเป็นนั่งนิ่งเอาไว้ดีกว่าที่จะแสดงออกมาว่าเขารับรู้ และรู้สึกถึงมันได้
“ แล้วนี่เมื่อไหร่เฟรปปูชิโน่ที่สั่งจะได้วะ “ ม่านหมอกพูดพลางชักเสียงหงุดหงิด แต่ไม่ทันขาดคำ
“ นี่ค่ะของที่สั่ง “ พนักงานแสนสวยคนเดิม เดินออกมาจากหลังเคาน์เตอร์พร้อมกับถาดใส่เครื่องดื่มและไอศกรีม เล่นเอาบรรดาชายหนุ่มทั้งหลายต้องมีอันแซวเกิดขึ้น ใช่ว่าคู่ควงที่ม่านหมอกพามาหน้าตาไม่ดี หากเมื่อเทียบกับพนักงานกาแฟร้านนี้แล้วเธอดูสวยกว่าจริงจริง
“ ขอเบอร์หน่อย! “ และเป็นม่านหมอกที่เปิดประเด็น จนสาวข้างกายถึงตีแจนดัง เผียะ! เพื่อให้รู้ว่าเธอก็มีตัวตนและสิ่งที่ทำมันหยามเธอเกินไป ม่านหมอกหันไปมองคู่ควงเขาก่อนจะหรี่ตามอง...อันดาก็จัดว่าเป็นน้องใหม่ที่สวยใช่ย่อย แต่ถ้ามันน้อยกว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาก็ไม่มีอะไรก็รั้งไว้
คิดแบบนั้นก็พาลทำให้เขาเดินเครื่องต่อและไม่กี่นาที ในขณะที่เขาได้เบอร์พนักงานสาวสวยคนนี้ อันดาก็วิ่งหนี้พร้อมน้ำตาออกจากร้านไป ท่ามกลางเสียงเฮฮาของเพื่อนม่านหมอกที่พูดกันอย่างขบขัน
ขณะที่กลุ่มม่านหมอกกำลังสนุกสนานกับเรื่องนี้ อรอนงค์พนักงานออฟฟิศย่านมหาวิทยาลัยก็กำลังเดินตัวปลิวจนส้นสูงที่เธอใส่เกือบหลุด เนื่องมาจากเธอนัดแฟนหนุ่มกินข้าวกลางวันด้วยกันแต่เผอิญประชุมเร่งด่วนของบอสทำให้เธอเลต และมันก็เลตไม่ใช่น้อยน้อย อรอนงค์คิดว่ายังไงเธอคงถูกต่อว่าแน่แต่เมื่อมาถึงร้านอาหารที่เธอกับแฟนหนุ่มนัด ปรากฏว่าไร้วี่แววของเขา อรอนงค์พยายามโทรหาแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะติด
มันทำให้เธอนอยด์จนเกือบจะกลับออฟฟิศทั้งที่ยังไม่ได้กินอะไร ดีที่สายตาเฉียบคมของเธอมองเห็นร้านกาแฟอยู่ เธอถึงได้แวะไปนั่งพักสักหน่อย แม้จะมีเสียงเฮฮาของพวกเด็กนักศึกษาในร้านก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลย หวังว่าแฟนของเธอจะไม่บอกเลิกเธอเพราะแบบนี้หรอกนะ อรอนคงค์ภาวนาก่อนจะสั่งอเมริกาโน่มากินดับกระหาย เป็นเวลาเดียวกับชายหนุ่มผู้ซึ่งมีความรู้สึกเดียวกับเธอ เดินเข้ามาในร้านเพื่อรอใครบางคนที่ไม่มีท่าทีว่าจะสนใจเขาเลย
นับตะวันอุตส่าห์หาโอกาสว่างจากงานรัดตัวมาเพื่อพบกับคู่หมั้นของเขา แต่อีกฝ่ายกลับไร้เยื่อใยต่อเขา ไม่ก็ทำราวกับรังเกียจนักหนา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาดีแสนดีขนาดนี้เธอไม่ชอบหรือไง หรือเธออาจจะชอบคนไม่ดี? แค่เพียงความคิดชั่ววูบที่บังเกิดอย่างไม่ตั้งใจ กลับกลายเป็นว่าหลังจากที่เขาสั่งลาเต้ นับตะวันก็ปณิธานว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ให้เป็นอีกอย่าง บางทีมันอาจจะสามารถเข้าถึงใจของเธอผู้นั้นได้!
กริ๊ง!!!!!
บานประตูร้านกาแฟถูกกระชากเปิดจนเกือบจะกลายเป็นพังมัน นำพาซึ่งชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่สวมแจ็คเกตสีดำทะมึนพร้อมกับหิ้วกระเป๋าเดินทางเข้ามาในร้าน ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังชายผู้นี้ราวกับกำลังมองโจรที่จะมาปล้นหากแต่ชายผู้นี้ก็ไม่ได้ทำอย่างที่คนอื่นคิด เขาสั่งกาแฟเย็น จ่ายเงิน รอรับมันและเดินออกไป เพียงแค่นั้นทุกอย่างก็กลับมาสู่ปกติ และต้องยอมรับเลยว่าทุกวันนี้มนุษย์อย่างเราเรามักมองรูปลักษณ์มากกว่าสิ่งที่เป็น!
หลังจากนั้นชลธีก็ได้รับใบเสร็จม็อคค่าพร้อมกับกระดาษโน๊ตแผ่นเล็กเชิญชวนให้เข้าเล่นเกมล่าท้าเงิน! ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับเงินสดมูลค่าสิบล้านบาทที่จะมอบให้แก่ผู้ชนะในครั้งนี้ หากสนใจติดต่อเบอร์ 081-46423XX เช่นเดียวกับทุกคนที่ได้เข้าไปในร้านกาแฟนี้ และมูลค่าของเงินมันเยอะจนทำให้หลายคนเกิดกิเลศและเข้าร่วมเกมนี้ ถึงแม้จะต้องท้าเงินนี้ด้วยชีวิตก็ตาม!!
ความคิดเห็น