ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic บารามอส ปี 7

    ลำดับตอนที่ #1 : Return

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 57


    สายรมเย็นๆที่พัดผ่านเหล่าต้นไม้ดอกไม้ในสวนย่อมอันเงียบสงบของโรงเรียนพระราชาแห่งเอดินเบิร์ก และแสงที่ส่องมาจากตะวันบ่งบอกถึงเวลาช่วงกลางวันของวัน เป็นภาพของความเงียบสงบของคนบางคนที่นอนเล่นอยู่ในสวนย่อมนั้น หญิงสาวผมสีน้ำตาลอ่อนในชุดนัดเรียนของรร.พระราชาแห่งนี้กำลังนอนฮัมเพลงอย่างสบายใจต้องถึงสะดุ้งเฮือกกับเสียงคนที่ตะโกนเรียกชื่อเธอมาแต่ไกล
                "เฟริน แกนี้โดดการประชุมอีกแล้วน่ะ แล้วฉันก็ต้องมาเดือดร้อนตามหาแกทุกที" แววตาแพรวพราวของเพื่อนซี้นักฆ่าของเธอคนนี้ มองเธอด้วยสายตาเบื่อหน่าย

    "พวกแกก็ประชุมไปซี๊คิล ได้ความว่ายังไงค่อยมาบอกฉัน" เฟรินตอบเสียงใส

    "ฉันไม่ยอมไปนั่งเบื่ออยู่คนเดียวหรอก ถ้าแกไม่ไปดีๆจะบอกว่าฉันแร้งน้ำใจทีหลังไม่ได้น่ะ" คิลขู่หญิงตรงหน้าที่ดูจะไม่สะทกสะท้านสักนิด

    "แกก็โดดกับฉันซิว่ะ"  หญิงสาวผู้ที่ใช้วาจาที่ไม่สมกับหน้าตาเธอเลยซักนิด หันเงยขึ้นไปมองหน้าเพื่อนและฉีกยิ้มกว้างให้ ชายหนุ่มนัยน์ตาสีม่วงมองเพื่อนเขาอย่างปลงๆ 'เฮ้อนี้ก็ปี7 จะเรียนจบกันแล้ว ทำไมแม่นี้ยังห่างไกลจากความเป็นสตรีนัก'

    "ตามใจแก เดี๋ยวให้แองจี้ หรือไม่ก็มาทิลด้า มาเรียกแกเองล่ะกัน" ชายหนุ่มหยักไหล่ ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยคำพูดที่ทำให้แม่สาวที่ไม่ยอมร่วมประชุม ลุกขึ้นแล้วหน้านิ่วก่อนที่จะเดินนำหน้าเขาไป

    " แต่สงสัยต้องให้ท่านหัวหน้าป้อมอัศวินมาเอง..."

                                                                   ----------------------------------

    ปัง ปัง ปัง! เสียงตบโต๊ะของเจ้าหญิงเสนาฝ่ายขวาคนสำคัญของป้อมดังขึ้น เมื่อห้องประชุมของเหล่าลิงทะโมนปี 7 หาความเงียบสงบได้น้อยลงไปทุกที

    "เงียบกันซักที หัวหน้าป้อมของเรามีเรื่องสำคัญที่ต้องแจกแจง" ทุกคนเริ่มเงียบสงัดลง ไม่ใช่เพราะเสนาฝ่ายขวาตวาดเข้าให้ แต่เป็นเพราะสายตาอันเย็นเฉียบเสมอต้นเสมอปลายของหัวหน้าป้อมที่ตอนนี้ยืนตรงหัวโต๊ะ พร้อมกับเอกสารปึกใหญ่ข้างหน้า

    "ฉันมีเรื่องสำคัญ 2 อย่างที่ต้องชี้แจ้ง" เสียงที่แฝงไปด้วยอำนาจและสายตาเย็นๆคู่นั้นกำลังไล่มองแต่ล่ะคนที่มาประชุมจนทำให้เจ้าตัวหนาวๆร้อนๆกันเลยทีเดียว นี่ไม่ใช่ปีแรกที่คาโล วาเนบลี เดอะปริ้นซ์ ออฟ คาโนวาล เป็นหัวหน้าป้อม ถึงจะเคยชินกับสายตาเย็นๆนั้นแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหวั่นในใจลดลงไปเลย ความคิดที่สรุปโดยนักเรียนปี7 ของป้อมอัศวิน แต่แล้วในตาเย็นของคาโลก็มาหยุดที่สาวหน้าทำให้ใจที่เคยเย็นยะเยือกดุจหิมะของเขาละลายไปได้ภายในพริบตา เธอนั่งหน้าบูดกับคิล ฟิลมัส และโร เซวาเรส คาโลได้แต่ถอนหายใจเบาๆ

    "เรื่องแรก กระดานหมากรุกเกรียติยศ ครั้งนี้คงเป็นครั้งสำคัญกว่าครั้งอื่น เพราะจะมีกษัตริย์เสด็จมาทอดพระเนตรการแข่งขันในปีนี้ รายละเอียดกษัตริย์ที่จะเสด็จอยู่ในเอกสาร" เอกสารปึกใหญ่เริ่มถูกแจกแจงให้ทุกคนในห้องที่ความตึงเคลียดเริ่มเข้าครอบงำ ทุกคนเริ่มเปิดดูรายชื่อกษัตริย์ที่จะเสด็จแล้วพวกเขาก็เริ่มรู้เหตุผลของการมาเหล่ากษัตริย์

    "การแข่งขันครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเราที่จะได้ร่วมแข่งขัน ขอให้ทำให้ดีที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้จะได้ไม่ต้องมาเสียใจในภายหลัง .." หัวหน้าป้อมพูดไม่ทันจบก็มีเสียงหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา

    "อย่างว่าล่ะปีสุดท้ายแล้ว พ่อใครแม่ใครก็อยากมาเชียร์กันทั้งนั้นล่ะ พ่อแกจะมาหรือเปล่าคิล" เจ้าคนที่ไม่มีมารยาทดีดนิ้วขึ้นแล้วพูดอย่างชอบใจก่อนจะเริ่มบทสนทนากลางประชุมของป้อมกับเพื่อนนักฆ่าที่นั่งอยู่ข้างๆ

    "คงมามั้ง ต้องดูว่าติดงานหรือเปล่า หรือถ้าโชคดีเวลานั้นพ่ออาจมีงานในนี้" คิลยักไหล่ตอบแบบไม่สนใจแต่ทำให้คนถามคอแห้งผากไปแล้ว...รับงานในเอดินเบิร์ก..หวังว่าค่าตัวเธอคงไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน แล้วเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามก็ร่วมบทสนทนาด้วย

    "แล้วพ่อปีศาจแกจะมาด้วยเปล่าว่ะ " คำถามกวนๆของเพื่อนที่ทำให้เฟรินขึ้นเสียงแทนบิดาของเธอ

    "เรียกพ่อคนอื่นดีๆหน่อยไอ้ครี้ด ฉันไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าท่านพ่อมาคงสนุกพิลึก" แล้วหล่อนก็ฉายแววตาขบขัน แต่ก่อนที่บทสนทนาจะได้เริ่มต่อ เจ้าหญิงเสนาขวาประจำป้อมอัศวินก็ดังขึ้น

    "เพราะฉะนั้นเราต้องก็ขอความร่วมมือ จากเธออีกครั้งน่ะเฟริน" มาทิลด้าโพล่งบอกเจ้าคนตัวดีที่มีความรับผิดชอบอันน้อยนิด

    "เฺฮ้อ.. ฉันต้องไปสู้กะเจ้าหญิงคนงามแห่งป้อมขุนนางอีกแล้วหรือนี้ ฉันเนี้ยะไม่ถนัดเอาซะเลย" เฟรินถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะตีหน้าเศร้าซึ่งเรียกอารมณ์ขบขันในห้องได้เป็นอย่างดี

    "นี้แกก็อยูในร่างผู้หญิงมา4-5 ปีแล้ว ยังไม่มีอะไรข้างในเป็นผู้หญิงบ้างหรือว่ะเฟริน" นักรบตาเดียว ครี้ด ธันเดอร์ ถามหญิงสาวที่ไม่เคยทำตัวเป็นหญิงอย่างอดไม่ได้ ใช่..เพราะไอ้เจ้างี่เง่าน้ำแข็งเดินได้มันยึดแหวนเธอไปตั่้งแต่สมัยปี  3 น่ะสิ คิดถึงแล้วก็อดหงุดหงิดไม่ได้ เฟรินได้แต่งุดเขี้ยวใส่มัน

    "ใช่ว่าฉันอยากอยู่ในร่างนี้นิ" นัยตาเย็นๆส่งมาให้เฟริน แต่หล่อนก็ทำเป็นไม่ใส่ใจ

    "แต่ฉันว่านายต้องเริ่มปรับเปลี่ยนบ้างล่ะ อย่างน้อยก็เห็นแก่หน้าบารามอส และคาโนวาล อีกหน่อยก็คงต้องไปเป็นสะใภ้เค้านิ" โร เซวาเรส หรือ รัชทายาทของเมืองทริสทอร์ในคราบหนุ่มขอทานพูดขึ้นก่อนจะจิบชา ไม่สนใจว่าตอนนี้เจ้าหญิงบารามอสหรือว่าที่สะใภ้คาโนวาล กำลังหน้าแดงเป็นตำลึงสุกไปแล้ว ก่อนที่เฟรินจะได้ต่อปากต่อกรกับหนุ่มขอทาน คาโลก็รีบดึงทุกคนกลับมาที่เรื่องประชุมอีกครั้ง

    "เรื่องที่ 2 คือการจัดการงานเลี้ยงประจำปีของนักเรียนปี7 ทางโรงเรียนจะจัดให้เราหลังจะสอบปลายภาค รายละเอียดอยู่ในเอกสารที่แจกไป ขอให้อ่านกฏและข้อระเบียบในงานอย่างถี่ท้วน .. ใครมีคำถามอะไรหรือไม่?" คาโลเงียบเพื่อรอตอบคำถาม แต่ไม่มีคำถามมามีแต่เสียงของเหล่าลิงทะโมนเริ่มจับกลุ่มคุยว่าด้วยเรื่องจะควงสาวไหนไปงาน

    "ถ้าไม่มีคำถาม การประชุมครั้งนี้สิ้นสุดลงได้" แล้วหัวหน้าป้อมก็เดินออกไป

                                                         --------------------------------------------

        ยามราตรีมาเยือน..เหล่านีันักเรียนพากันเข้าที่พักของตน เพื่อพักผ่อนหลังความล้าจากการเรียนมาทั้งวัน เวลานี้เป็นเวลาประจำของป้อมอัศวินที่จะมานั่งจับเจ่ากันในห้องนั่งเล่น ในห้องพักของนักเรียนในป้อมอัศวินปี7 ไม่ได้แบ่งเป็นห้องละ 3คนอีกแล้ว แต่เป็นห้องละ2 คนแทน จึงทำให้3หัวหน้าของชั้นปีไม่ได้อยู่ร่วมกันเหมือนเมื่อก่อน และเพราะหนึ่งในนั้นเลื่อนขั้นจากหนุ่มหัวขโมยน้อยไปเป็นเจ้าหญิง 2 แผ่นดินในช่วงข้ามปี เธอเลยโดนจับร่วมห้องกับเจ้าหญิงเรนอน แห่งคาโนวาล ซึ่งทำให้เธอเริ่มจะคุ้นกลับการเป็นผู้หญิงมากขึ้น ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางวันที่เจ้าหญิงตัวยุ่งเริ่มถกเถียงกับเพื่อนร่วมชั้นว่าจะชวนหญิงงามที่ไหนไปงานด้วย แต่เจ้าตัวก็โดนเพื่อนๆขัดกล่อมว่ายังไงเธอก็ไม่มีสิทธิ์ชวนหญิงงามไปงานเลี้ยงนั่น เธอจึงเริ่มเบี่ยงประเด็นมาลงที่เพื่อนสุดที่รักของเธอนั้นเอง

    "คิล แกต้องรีบไปจองเรนอนไว้ก่อนเลยน่ะเว้ย ไม่งั้นแกอาจต้องมาเสียใจในภายหลัง" เฟรินบุกรุกเข้ามาในห้องพักของ2หนุ่ม โดยไม่คิดจะขออนุญาตเจ้าของห้องเลยซักนิด แล้วเจ้าคนบุกรุกก็มานั่งปุ้กลุ๊กอยู่บนเตียงของคิล ก่อนจะเต้ะท่าเล็คเชอร์เพื่อนรักที่ไม่เอาไหน

    "แกไม่ต้องมายุ่งเรื่องฉัน" คิลบอกปัดความวังดีจากเพื่อนเจ้าปัญหาคนนี้

    "โถ คิลแกนี้เมื่อไรแกจะยอมรับว่าแกชอบเรนอนเขาซะทีว่ะ ปล่อยให้สาวงามรอเก้อ แกนี้มันใช้ไม่ได้" เฟรินเริ่มสั่งสอนเพื่อนทีไม่เอาไหนเขาเธอ ทั้งทีมันก็รู้ว่าเจ้าหล่อนมีใจให้มันเหมือนกัน แต่ก็ไม่ยอมไปสารภาพกับเธอซะที

    "จะให้ฉันปาวประกาศเหมือนแกกับคาโลหรือไง" คิลย้อนกลับ เจ้าตัวยุ่งหน้าเริ่มขึ้นสีเรื่อ ถึงมันจะยังทำตัวเหมือนผู้ชายอย่างไร พอมาถึงเรื่องมันเอง มันก็ต้องออกอาการอย่างกะสาวทุกที

    "บ่ะ นั้นคนล่ะเรื่องแต่คิลปีนี้ปีสุดท้ายแล้วน่ะที่จะได้อยู่ด้วยกัน ระวังเหอะหล่อนจะรอไม่ไหว แล้วแกก๊จะชวดไป" เฟรินพูดด้วยสายตาเจ่าเหล่ก่อนที่จะเคล้าลูบแผลใต้ตาอย่างลืมตัว

    "ฉันจัดการของฉันเองได้นายไม่ต้องมาห่วงฉัน ห่วงตัวเองก่อนเถอะ" แววตาที่บ่งบอกถึงความรำคาญของเพื่อนนักฆ่าแปลเปลี่ยนเป็นความเจ้าเหล่ก่อนจะเดินสวนเจ้าชายน้ำแข็งที่พึ่งเดินเข้ามาในห้อง ง่ะ..แล้วเฟรินก็เข้าใจแจ่มกระจ่างว่าทำไมไอ้คิลบอกให้เธอห่วงตัวเอง เมื่อสายตาเธอสบก็สายตาเย็นชาอันแสนคุ้นเคยของบุรุษที่พึ่งเดินเข้ามีในห้องพัก

    "เออคาโล..ฉันต้องไปก่อนล่ะ" เฟรินรีบพูดขึ้นแล้วสาวเท้าออกจากห้อง แต่ก็โดนหยุดด้วยมืออันทรงพลังของเจ้าชายเจ้าของสายตาเย็นๆนั้น พลันเขาเห็นหน้าแดงๆของสาวในมือก็ทำให้ สายตาที่เคยมองฉับพลันมีกะแสอบอุ่นและพึงพอใจเกิดขึ้น

    "อย่าพึ่งไป ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย" คาโลไม่พูดเปล่าก่อนจะลากเฟรินมานั่งที่เตียงของเขา

    "มีอะไรก็รีบๆว่ามา" น้ำเสียงอ่อนหวานของเจ้าตัวยุ่งข้างนี้ทำให้เขากระตุกยิ้มนิดๆ

    "ท่านพ่อทรงอยากให้เจ้าหญิงบารามอสเสด็จไปเยี่ยมท่านที่คาโนวาล หลังปิดภาคเรียน" คาโลตอบด้วยสีน้ำนิ่งเฉย แต่คนฟังนั้นนั่งตาโตเท่าไข่ห่านเข้าไปแล้ว

    "นายว่าทำไมพ่อนายอยากให้ฉันไปเยี่ยมว่ะ" เฟรินถามคาโลด้วยสีหน้าครุ่นคิด นี้เขาควรดีใจหรือกลัวดีที่กษัตริน์บาโรอยากเจอเค้า แต่ก็ไม่มีเสียงตอบมาแต่อย่างใด เฟรินมองเข้าไปในสายตาเย็นชาที่ทำให้ใจเธออบอุ่นนัก ราวกับจะหาคำตอบจากคนตรงหน้าที่ไม่ว่าจะมองเพียงใดก็คงไม่มีคำตอบเอ่ยออกมา

    "ไอ้โรคกลัวดอกพิกุลจะร่วงจากปากเมื่อไรจะหายซะทีหื้อคาโล" เฟรินพูดออกไปอย่างรำคาญ ไอ้มาดเจ้าชายเย็นชาเนี้ยมันทำให้หมั่นไส้ชะมัด เจ้าชายที่ถูกหญิงสาวประนามอยู่ในใจก็ผละออกไปอ่านหนังสือบนโต๊ะของตน ซึ่งทำให้คนรอคำตอบอยู่ยิ่งระอุเข้าไปอีก 'อย่างนี้มันต้องหลอมไอ้น้ำแข็งหนาๆของมันซักหน่อย'

    ว่าแล้วคนที่ไม่สมหญิงก็ใช้ มารยาหญิง

    "คาโล..จะเย็นชากับฉันไปถึงไหนกัน"

    เฟรินถลาตัวเองเกยลงบนตักของชายหนุ่มบนเก้าอี้ ซึ่งมันใช้ได้ผลชะงักเลยทีเดียว คาโลวางหนังสือลงก่อนจะใช้สายตาดุๆมองหน้าเจ้าตัวปัญหาที่ตอนนี้น่ารักอ่อนหวานสมเป็นหญิงนั่งอยู่บนตักนานสองนาน แต่คนทึ่โดนจ้องกลับหัวเราะร่าใ่ส่ อย่างนี้มันน่าจับลงโทษซะให้เข็ด แล้วเจ้าชายคาโนวาลก็ลงมือปราบจะตัวดีที่มีดีแต่ยั่วคนอื่น

    "...ให้ทำอย่างไร เธอถึงจะพอใจ" เสียงเย็นๆจากเจ้าชายเอ่ยมาเอื่อยๆ แต่คาโลก็ไม่ได้ว่าเปล่า เขาใช้มือทั้งสองข้างโอบเอวร่างบางไว้ พลางโน้มหน้าตนมาจรดทึ่ต้นคอของหล่อน คนอยู่ในอ้อมกอดถึงกับดิ้นคลุกคลิกไปมาแต่ก็ไร้ประโยชน์

    "กกกก...ก็ตอบเวลาฉันถามไง" เจ้าคนอวดดีกลายเป็นคนถูกยั่วเสียเอง นับวันๆเจ้าชายของมันเริ่มจะยั่วยากขึ้นๆ

    "อยากรู้มาก?" คาโลพูดขึ้นเบาๆข้างหูของหญิงสาวที่ครอบครองใจเขาไปหมด แล้วเริ่มซุกไซ้ตามลำคอขาวนวลระหงอย่างแผ่วเบา ส่วนหญิงสาวที่จะมาขุดให้เขาตกลงหลุม กลับเป็นคนตกลงไปซะเอง เฟรินก็ได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อหน้าแดงอยู่อย่างนั้นเพราะจะดิ้นไปก็คงไม่หลุด สายตาแพรวพราวที่หาได้ยากจากใบหน้าของเจ้าชายแห่งคาโนวาลปรากฏขึ้น

    "หันมาสิ แล้วฉันจะบอก" คาโลไม่ว่าเปล่า ใช้มือช้อนคางของสาวที่นั่งทื้ออยู่นั้นให้หันมา หน้าที่แดงริบๆอยู่ทำให้เจ้าชายฉีกยิ้มเป็นอย่างพอใจในผลงานของตน

    "จะบอกก็รีบๆบอก มัวแต่ลีลาอยู่นั้นล่ะ" คนในอ้อมแขนเริ่มบนงุ่งหงิ่งหลบสายตาไปที่อื่น คนตัวโตจึงทำการฉวยโอกาสประทับรอยจูบอุ่นๆบนริมฝีปากเล็กๆของเธออย่างนิ่มนวลที่เจ้าตัวก็ไม่ค้านแต่อย่างใด และเริ่มพูดก่อนเธอจะเริ่มอะลาหวาดใส่

    "เรื่องอภิเษกสมรส" ก่อนที่เฟรินจะได้ต่อว่าเจ้าคนชอบฉวยโอกาส ก็ต้องเปลี่ยนเป็นคำถามใหม่ทันที ที่ทำให้คนฟังถึงกับจะระเบิดเลยทีเดียว

    "พ่อแกจะแต่งงานใหม่แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับฉันว่ะ ออแล้วแม่แกว่าไง" เสียงแจวๆถามกลับนึกเป็นห่วง แต่โดนสายตาดุๆมองเข้าให้พร้อมกับอุณหภูมิในตัวห้องที่ลดลงอย่างรวดเร็ว

    "อ้าว ถ้าไม่ใช่พ่อแกแล้วใครจะแต่งงาน" เจ้าคนที่ยังไม่รู้ตัวยังทำหน้างง จนกระทั่งเธอเห็นแววตานิ่งๆ มองที่เธออย่างเอาเป็นเอาตาย 'นี้มันแกล้งโง่หรือโง่จริง'คำถามผุดขึ้นในหัวของเจ้าชายขณะที่จ้องมองดวงตาอันใสแจวคู่นั้้น ถึงมันไม่ได้ตอบแต่เธอก็เริ่มรู้คำตอบจากสายตาที่คาโลส่งให้เธอ

    "ใครบอกฉันจะแต่งกับนายว่ะ คำหวานๆขอแต่งงานก็ไม่มี ไหนล่ะของหมั้น? อย่าบอกน่ะว่าคลังคาโนวาล กลวงโบ๋เหมือนป้อมอัศวิน" ในช่วงเวลาอึกใจเดียวเฟรินได้ทำบรรยากาศดีๆที่เจ้าชายได้สร้างไว้พั้งทะลายในพริบตา แล้วเจ้าตัวก็สบถต่อ

    "ถึงตอนนี้ฉันจะได้เลื่อนขั้นเป็นเจ้าหญิงแต่อย่างไงก็ต้องมีแก้วแหวนเงินทองมาถวายฉันก่อนสิ แล้วฉันจะรับพิจจรณา" เธอใช้โอกาสที่คาโลนั่งตาค้างอยู่ดี้ดตัวขึ้นมายืนก่อนจัดกระโปรงให้เข้าที่ก่อนที่เธอจะหันหลังเดินออดจากห้อง คำถามลอยๆจากเจ้าชายน้ำแข็งดังขึ้น

    "แล้วถ้าฉันขอ เธอจะรับหรือเปล่าเฟริน" มันทำให้คนฟังตัวแกร่งขึ้นมาทันที ก่อนที่จะยิ้มมุมปากอย่างมีเหล่

    "อะไร? นายให้ฉันรับอะไร?" คนที่แกล้งไม่รู้ถามขึ้น

    "ตำแหน่งว่าที่ราชินีของคาโนวาล.." ถึงแม้คำตอบที่ได้จากเสียงเรียบๆ จากเจ้าชาย ที่คนเอาใจคนที่ได้รับคำตอบอย่างชัดเจนเต้นไม่เป็นจังหวะ

    พรึ่บ!

    เสียงประตูที่ดังขึ้นจนทำให้คนในห้องต้องหันไปมอง ก่อนที่จะเห็นเหล่าลิงทะโมนกองอยู่กับพื้น และที่น่าแปลกใจคือหนึ่งในนั่นเป็น3 สาวประจำป้อม ถึงไม่ได้ลงไปกองกับเพื่อนๆของเขาก็เถอะ

    "บอกแล้วว่าผลักฉันพลาดได้เห็นของดีเลย" ยอดนักรบตาเดียวดีดตัวขึ้นจากพื้นแล้วปัดเสื้อผ้าที่เปื้อนฝุ่นออกพร้อมทั้งสถบด่าไอ้เพื่อนคนที่ทำเสียเรื่องอย่างอารมณ์บูดสุดๆ

    "เฮ้ยไอ้ครี้ด ฉันไม่ได้ผลักแกเว้ย ไอ้นี้มันมาเบียดฉัน" เจค สวอนว่า

    “ผมไม่ได้เบียดคุณเจคน่ะครับ อาจเป็นคนข้างหลังมากกว่า" ซีบิลหนุ่มที่สุภาพที่สุดในป้อมทักท้วงขึ้้นมาเมื่อเจ้าเพื่อนข้างๆโยนความผิดให้ ทำให้คนที่ถูกพากพิงเริ่มเดือดเนื้อร้อนตัวกันเป็นแถวๆ

    "พวกแกนี้ มาแอบฟังอะไรกันว่ะ " เจ้าหญิงยอดยุ่งพยายามสวมหน้ากาฟาโรขึ้นมาใส่เพื่อกลบหน้าแดงๆของหล่อนไว้

    "ก็..ฉันแค่อยากรู้ว่าบทสนทนาเจ้าชายจากคาโนวาลกับเจ้าหญิงสองแผ่นดินมันเป็นยังไง ใครไปรู้ว่าจะขอแต่งงานกันกลางป้อม งานนี้พวกฉันจะพลาดได้ไง" คำพูดโพล่งพลางของครี้ด ทำให้หญิงสาวที่พยายามซ่อนหน้าไว้เริ่มจะซ่อนไม่มิด

    "โว้ยย ใครจะไปแต่งกับมัน ไม่มี๊" เฟรินรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน แล้วก็เดินฝ่าฝูงลิงทโมนออกจากห้อง โดยไม่นึกถึงใจคนที่โดนทิ้งอยู่เบื้องหลังเลยสักนิด

    "คาโล แกอย่าใส่ใจคำที่หมอนั้นพูดไปเลย มันแค่อายเฉยๆหรอก" หลังจากที่เหล่านักกล้าป้อมอัศวินทยอยออกไปด้วยความเสียดาย คิลก็เดินเข้ามีตบบ่าเพื่อนร่วมห้องก่อนจะเดินไปที่เตียงของตน คนที่โดนปลอบใจไม่พูดอะไรก่อนกลับไปอ่านหนังสือดังเดิม

                                           -----------------------------------------------------
    ณ ห้องพักของเฟรินและเรนอน

    "คุณเฟรินพูดไปอย่างนั้น ไม่กลัวเจ้าชายคาโลเสียใจหรือค่ะ" เจ้าหญิงร่างบางอ่อนหวานจากคาโนวาล ถามเพื่อนร่วมห้องที่นอนกินแอปเปิ้ลอยู่บนเตียงหล่อนด้วยความเป็นห่วง

    "แล้วฉันไปพูดอะไรให้มันเสียใจล่ะ" เจ้าคนที่ทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ

    "ก็คุณเฟรินเล่นไปปฏิเสธคำขอแต่งงานเจ้าชายคาโลต่อหน้าคนเยอะๆอย่าง

    นั่น เรนอนว่าไม่เสียใจก็ต้องเสียหน้าบ้างละค่ะ"เจ้าหญิงเรนอนพูดไปพลางมองการ

    กิริยาบทที่ไม่สมเป็นหญิงเอาซะเลยของเฟริน ทำให้เธอถอนหายใจ เจ้าชายคาโล

    อุตส่าห์ฝากฝังเธอให้ขัดเกลาเจ้าคนที่ไม่เคยทำตัวสมตำแหน่ง มันเป็นงานที่ยาก

    สำหรับเธอเหลือเกิน

    "ฮึ นายนั่นมันมีน้ำแข็งเป็นปึกๆเกาะอยู่ มันคงไม่ร้าวง่ายๆหรอก" คนที่ยังไม่สำนึกยังเถียงข้างๆคูๆทั้งที่ตัวเองก็รู้ว่าเจ้าชายที่เธอยกฉายาน้ำแข็งเดิน

    ได้ให้ รู้สึกอย่างไร

    "คุณเฟรินจะไม่แต่งงานกับเจ้าชายคาโลจริงๆเหรอค่ะ?" คำถามด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อยของของเรนอน ทำให้เจ้าหญิงที่ดีแต่ปาก ปากดีไม่ออกถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

    "เจ้าหญิงเรนอนก็น่าจะรู้ ฉันถนัดเรื่องแบบที่ไหน สู้ให้ฉันไปขอมันยังจะง่ายกว่า" คำพูดของเฟรินที่หลุดปากออกอย่างไม่ใส่ใจทำให้ เจ้าหญิงคนงามจากคาโนวาลยิ้มกว้างทันที

    "งั้นคุณเฟรินก็ไปขอสิค่ะ" เจ้าคนที่ไม่คิดก่อนพูดถึงกับสะดุ้งโหยง ก็จะยิ้มแห้งๆให้เรนอนกับการกระทำขุดหลุมฝังตัวเอง




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×