คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [06.] sOmEtHiNg ThAt I wAnT
[06. sOmEtHiNg ThAt I wAnT]
# KRIS's SIDE
น่าแปลก เมื่อวานนี้ผมปวดหัวเหมือนจะระเบิด แต่ร่างกายกลับเบาหวิว สบายใจอย่างน่าประหลาด ต้องเป็นเพราะฝันเมื่อคืนแน่ๆ
ผมค่อยๆปรือตาเปิด แสงแดดอ่อนๆรอดผ่านเข้ามาถึงในถ้ำ แต่เพราะอุณหภูมิภายในค่อนข้างต่ำเลยไม่ได้ทำให้รำคาญใจอะไรมาก อันที่จริง เผ่ามังกรอย่างผมคุ้นชินกับความร้อนดี จะเจออากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวทีก็ไม่เป็นไร
คนที่น่าเป็นห่วงคือลู่หานต่างหาก....
ภาพที่ผมเห็นเป็นภาพแรกนอกจากแสงอาทิตย์ก็คือกลุ่มผมสีสว่างของเค้า มันยังนุ่มและหอมแม้ว่าเมื่อวานเราจะไม่ได้อาบน้ำ (แค่โดนฝนสาดก็น่าจะพอแล้ว ผมว่านะ) ขนตาของเค้ายาวเหมือนตุ๊กตา เข้ากันดีกับผิวขาวๆที่เต็มไปด้วยรอยจ้ำแดง....
....เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน รอยจ้ำแดง?
ยุงกัดเหรอ? แต่ดูไปดูมาแล้วมันเหมือนกับรอยจู....
เฮ้ย!!! ทำไมลู่หานมานอนโป๊แบบนี้ล่ะ!?
........ที่แย่ไม่แพ้กันก็คือ เสื้อผมหายไปไหนเนี่ย!? ทำไมใส่แค่กางเกง (ถึงมันจะกองอย่างหมิ่นเหม่แถวสะโพก แต่ก็ถือว่าใส่) แถมพวกเรายังมีแค่ผ้าห่มคลุมท่อนล่างอีก
อ๋อ นั่นไง กองอยู่บนก้อนหิน ทับอยู่กับเสื้อผ้าของลู่หาน โชคดีจังที่เจอ…..
โชคดีกับผีน่ะสิ!!!!!
ทำไมผมกับลู่หานมานอนเปลือยกอดกันแบบนี้ได้เล่า!?
"...อื้อ....หนาว......"
เค้าบ่นเบาๆแต่ยังไม่ยอมลืมตา มือที่วางอยู่บนอกเลื่อนลงไปตรงเอวแล้วกอดแน่น
ผมมองตามมือเค้าแล้วก็มองมือตัวเองบ้าง...ข้าแต่ต้นไม้แห่งชีวิต แขนผมโอบลู่หานไว้ทั้งตัว แต่พอผมตื่นแล้วยกแขนข้างนึงออก เค้าก็เลยโดนลมหนาวเข้าอย่างจัง
ผมยินดีจะเป็นหมอนข้างให้เค้านะ แต่ตอนนี้มีเรื่องใหญ่กว่าที่ต้องจัดการ
"ลู่หาน ตื่น"
"อื้อ....คริสอ่า....หนาว....." เค้าร้องครวญแล้วก็ทำคิ้วขมวด แถมยังซุกเข้าหาอกผมเหมือนลูกแมวตัวน้อย น่ารักมากเลยล่ะ แต่ไม่ได้! ถ้าไม่ได้คำตอบที่กระจ่างว่าเมื่อคืนเราทำอะไรกัน ผมต้องเป็นประสาทตายแน่!
“ตื่นเดี๋ยวนี้นะลู่หาน มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย!” ผมกดเสียงเข้มออกคำสั่ง ปกติพวกน้องๆจะกลัวเสียงแบบนี้ของผมจนหัวหด แม้แต่คนอายุเท่ากันก็ยังแอบเกรง หลังจากนั่งรออย่างอดทน ลู่หานที่ดูจะฝืนตัวเองตื่นก็ค่อยๆยันตัวขึ้นจากถุงนอน ยิ่งขยับก็ยิ่งเห็นรอยจำแดงตามตัวชัดขึ้นทุกที ผมรู้สึกร้อนวาบ ลู่หานในสภาพนี้ยั่วใจที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลยทีเดียว...!!!
“มีอะไรเหรอ?”
“เมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเราสองคนอยู่ในสภาพนี้” ผมพยายามมองไปที่ผมอันยุ่งเหยิงของลู่หาน แทนที่จะเป็นตากลมกับเรือนร่างเปลือยเปล่าประดับรอยจูบ ลู่หานขยี้ตาไล่ความง่วงอยู่สองสามทีแล้วก็จ้องผมนิ่ง ก่อนที่ผมจะทนกับความเงียบไม่ไหว เค้าก็ชิงถามขึ้นมา
“คริสตัวจริงใช่มั้ย? นายกลับมาแล้วจริงๆนะ!”
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเล่นนะลู่หาน ตอบมาก่อนว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้น”
“นายกลับมาแล้วใช่มั้ย!?” ลู่หานไม่ฟังที่ผมพูดเลยแม้แต่น้อย ดวงตากลมโตเปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งกว่าพลังแสงของแบคฮยอนเสียอีก ผมงงจนไม่รู้จะตอบว่าอะไร แล้วลู่หานก็คิดเอาเองว่ามันคือ ‘ใช่’
“อู่อี้ฝาน นายกลับมาแล้ว!!!!” เค้ายิ้มหวาน หวานจนผมแทบจะลืมหายใจ แล้วโผเข้ากอดผมทั้งที่ยังล่อนจ้อนอยู่แบบนั้นนั่นล่ะ ผมได้แต่อ้าปากค้าง....ปล่อยให้ลู่หานกอดผมอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งประโยคที่ลู่หานพูดต่อจากนั้นทำให้ผมเอะใจ “ในที่สุดนายก็กลับมา ชั้นนึกว่าจะโดนคุณมังกรหลอกซะแล้ว นายกลับมาหาชั้นจริงๆด้วย”
ผมจับไหล่ลู่หาน ดันเค้าออกจากตัว จ้องตากลมใสคู่นั้นเหมือนไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“ฝีมือมันใช่มั้ย?”
“คริส....?” หน้าที่ซีดลงกะทันหันของผมคงจะทำให้ลู่หานไม่สบายใจ มือเล็กพยายามจะแตะที่แก้มผม แต่ผมหยุดเค้าด้วยคำถามต่อไป
“มันใช่มั้ย...ไม่สิ....ชั้นเองใช่มั้ยที่ทำให้นายอยู่ในสภาพนี้?” ผมว่าพลางมองไปตามร่างขาวสวยของลู่หาน แม้จะแปดเปื้อนมลทินก็ยังงดงามน่าหลงใหล ผมภาวนาไม่ให้เจอรอยแผลซักที่บนร่างของเค้า ไม่อย่างนั้นคงได้โทษตัวเองมากกว่านี้แน่ที่ปล่อยให้มัน...ไม่สิ....ตัณหาของตัวเองครอบงำจนทำร้ายคนสำคัญแบบนี้
แม้ลู่หานจะไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน แต่ความจริงก็คือความจริง
ความจริงที่ผมได้ทำให้เค้าเป็นของผมแล้ว
“…ชั้น....ข่มขืนนายใช่มั้ย?”
สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อความปรารถนา เหมือนอย่างที่เจ้าซูโฮพูดไว้ไม่มีผิด
ยิ่งตระหนักรู้ ยิ่งเกลียดตัวเอง
ตัวตนที่อ่อนแอ สุดท้ายก็ปล่อยให้เรื่องแบบนี้มันเกิด ปล่อยให้ลู่หานต้องเผชิญกับอันตราย
ผมมันสมควรตาย....!
“ม่ะ....! ไม่ใช่นะ!! นายเข้าใจผิดแล้ว”
“อย่าพยายามพูดให้ชั้นรู้สึกดีขึ้นเลย ลู่หาน ความจริงก็คือความจริง” ผมไม่อาจมองหน้าเค้าได้อีก เลยเบือนหนีไปอีกทาง แต่ก็ยังชี้นิ้วตรงไปที่ร่างของเค้า “ชั้นรุนแรงกับนาย ใช้กำลังบังคับนาย ทำให้นายเกิดอารมณ์จนยอมปล่อยเลยตามเลย”
“ไม่....!”
“ชั้นรู้จักมังกรในตัวชั้นดี มันคงจะล่อลวงนายจนนายตายใจ” ผมรีบเอ่ยขัดเค้า ไม่อยากจะได้ยินคำพูดปลอบใจใดๆทั้งสิ้น ยิ่งได้เห็นว่าลู่หานพยายามแก้ตัวให้ก็ยิ่งเจ็บใจ ผมหันหลังให้ลู่หาน รู้ดีว่าขืนไม่ทำแบบนั้นคงไม่มีวันเข้มแข็งพอจะพูดต่อได้ “นายไม่ผิดเลยลู่หาน นายทั้งใสซื่อและบริสุทธิ์ เป็นธรรมดาที่จะหลงไปกับเล่ห์กลของมังกร....”
“เห็นชั้นโง่ขนาดนั้นเลยเชียวเหรอ อู่อี้ฝาน!”
เสียงตะโกนอย่างกราดเกรี้ยวของลู่หานดังก้องไปทั่วทั้งถ้ำ ผมค่อยๆหันหลังกลับไปมองเค้า นึกกลัวว่าจะเห็นภาพที่ทำให้ใจหายไปมากกว่านี้ ดวงตากลมโตที่สดใสอยู่เสมอของลู่หานตอนนี้กลับเปลี่ยนไป แฝงไว้ทั้งความเจ็บปวดและกรุ่นโกรธ ลู่หานกำหมัดแน่น หินตามพื้นถ้ำเริ่มลอยขึ้นเพราะพลังอันพลุ่งพล่านของเค้า แต่สิ่งที่กวนใจผมมากที่สุดคือสีหน้าที่พร้อมจะร้องไห้ได้ตลอดเวลา
บางที….สู้ให้ลู่หานทำร้ายผมทางกายเสียยังจะดีกว่า
“ชั้นไม่ใช่คนใจง่ายที่แค่ใครมาพูดหวานใส่ก็เที่ยวได้ไปนอนกับเค้าง่ายๆนะ!”
“ลู่หาน ชั้นไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น....ชั้นแค่ห่วงนาย”
“นายจะมาห่วงชั้นทำไม? ชั้นไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดที่จะต้องให้ใครมาปกป้องตลอดเวลานะ อู่อี้ฝาน!”
“ลู่หาน....อย่าร้อง....” แล้วสิ่งที่ผมกลัวแสนกลัวก็เกิดขึ้น เค้าเริ่มเบ้หน้า ยืนจ้องผมตัวสั่นคลอน ริมฝีปากขบกันแน่น ดวงตามีน้ำเอ่อคลอจนในที่สุดมันก็ล้นออกมา อาบสองแก้มขาวของลู่หานอย่างห้ามไว้ไม่อยู่ ลู่หานพยายามจะเช็ดมันออก แต่เช็ดเท่าไหร่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้เลย ผมเดินเข้าไปใกล้ ยื่นมือจะโอบปลอบ แต่ต้องชะงักค้างกลางอากาศเพราะคำพูดของลู่หาน
“นายมันบ้า ฮึก...กกกก....! เมื่อวานนี้ถึงจะเจ็บ แต่ชั้นก็มีความสุขมากแท้ๆ ทำไมนายต้องทำทุกอย่างพังด้วยเหตุผลบ้าๆของนายด้วย!!”
“เดี๋ยว...! ลู่หาน.....” มีความสุข….? นี่ผมไม่ได้ฟังผิดไปใช่มั้ย!? “นาย....นายว่าอะไรนะ นาย...คือ...นาย....”
“ใช่ ชั้นชอบที่นายกอดชั้น เพราะว่าชั้นรักนายไง”
‘รัก’ …… ไม่เคยคิดว่าคำคำนี้น่าฟังมากเท่านี้มาก่อนเลย
หรือเพราะว่าคนที่พูดมันคือลู่หานกันนะ…..?
“อู่อี้ฝานคนบ้า! แค่นี้นายดูไม่ออกหรือไงกัน ถ้าชั้นไม่ยอมจริงๆ ชั้นซัดนายหมอบด้วยหินทั้งถ้ำไปนานแล้ว”
ผมอมยิ้ม รู้ว่าด้วยความสามารถของลู่หาน เค้าทำได้แน่ แต่จะสู้กับผมที่อยู่ในโหมดมังกรได้หรือเปล่านี่ก็น่าคิด แต่เอาเถอะ ไม่มีวันที่ผมกับลู่หานจะเป็นศัตรูกันอยู่แล้ว…. ผมยอมให้เค้าหมดทุกอย่าง ต่อให้ต้องตายเพื่อปกป้องคนคนนี้เอาไว้ ผมก็ยอม
เพราะลู่หานคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต สิ่งล้ำค่าที่ในที่สุดก็ได้มาไว้ในครอบครอง
และเมื่อได้มาแล้ว ผมก็จะถนอมเค้าด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่มี
สาบานด้วยศักดิ์ศรีของชนเผ่ามังกร สาบานต่อเลือดทุกหยาดหยดในกาย
“มองอะไรเล่า ไม่เคยเห็นคนร้องไห้หรือไง บ้า!!!” ระหว่างที่ผมกำลังสัญญากับตัวเอง ลู่หานก็เริ่มหยุดร้องไห้ ตาแดงมองค้อนผมอย่างต่อว่าและตัดพ้อ น่ารักเหลือเกิน….น่ารักจนผมอดใจไม่ไหวจริงๆ ความอดทนของผมคงหมดลงได้ง่ายหลังจากที่เคยแตกไปครั้งนึง และขอสารภาพตามตรง ผมสบายใจที่ได้ทำอะไรตามใจอยากเหลือเกิน รู้แบบนี้เชื่อเจ้าชานยอลไปตั้งนานแล้ว
“ลู่หาน......” ผมยกยิ้มให้เค้า เป็นยิ้มที่หวานที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะทำได้แล้วจริงๆ ผมอุ้มเค้าขึ้นมาจากถุงนอน ห่มร่างเล็กกะทัดรัดด้วยผ้าห่มผืนบาง ลู่หานทุบไหล่ผมทีสองที ก่อนจะแหวออกมาทั้งที่ตายังแดงๆ
“ปล่อยเลยนะ ไม่ต้องมากอด ไม่ต้องมาเรียกด้วย!”
“ไหนบอกว่าชอบให้ชั้นกอดไม่ใช่เหรอ?” ผมแหย่กลับไป ลู่หานหน้าแดงทันทีที่ฟังจบ เค้าก้มหน้าหนีสายตาผม แถมยังหยุดดิ้นเหมือนจำนนต่อชะตา…. ชะตาที่ไม่ว่ายังไงก็หนีไปจากผมไม่ได้ และผมจะไม่ยอมให้เค้าหนีไปไหนได้อีก
เตรียมใจเอาไว้เถอะ กวางน้อย
“พูดจริงหรือเปล่า ลู่หาน...?” ในเมื่อลู่หานไม่ยอมมองหน้า ผมก็เลยกระซิบถามเค้าใกล้ๆ ใกล้ขนาดที่ว่าริมฝีปากแนบอยู่ตรงใบหูเล็กเลยทีเดียว “นายรักชั้นจริงๆเหรอ?”
ลู่หานหน้าแดงหนักกว่าเก่าจนผมเริ่มกลัวว่าเค้าจะเป็นลมไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ยังคงปฏิเสธที่จะเงยหน้าขึ้นมามองผมตรงๆ ผมหอมเข้าที่แก้มนุ่ม ยังคงไม่ละความพยายามที่จะได้มองสบตากลมโตยามขัดเขินใกล้ๆ
“มองหน้าชั้นหน่อยสิ เสี่ยวลู่”
“นี่นายหรือคุณมังกรกันแน่เนี่ย!?” คราวนี้ลู่หานเงยหน้าขึ้นมามองผมทันที ตากลมแสดงความหวาดระแวงปนสงสัย ผมกดจูบที่เปลือกตาซึ่งยังบวมจากการร้องไห้เบาๆ ก่อนจะอธิบายให้เค้าได้วางใจ
“จะชั้นหรือเจ้านั่น เราก็คือคนคนเดียวกัน เป็นอู่อี้ฝานคนที่ตกหลุมรักนายตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอ”
ผมกะจะทำให้ลู่หานวางใจแท้ๆ แต่กลายเป็นว่าเค้าหน้าแดงหนักกว่าเก่า แถมตอนนี้ก็เริ่มจะดิ้นแก้เก้อแล้วเสียด้วย ผมวางลู่หานลง ตอนที่ขาเล็กหย่อนลงกับพื้น ลู่หานร้องครวญออกมาจนผมตกใจ แต่นอกจากจะส่งสายตาค้อนขวับมาให้ผม เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก แค่เอนตัวมาพิงอก แล้วยอมให้ผมโอบร่างเค้าเอาไว้ตามใจอยาก
แม้แต่ส่วนสูงของเรายังพอเหมาะขนาดนี้ ต้นไม้แห่งชีวิตต้องสร้างเรามาคู่กันแน่ๆ…..
“ขอโทษที่ทำให้นายต้องร้องไห้ ต่อจากนี้ไป ชั้นจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกแล้ว” ผมวางคางบนหัวไหล่เล็ก ลู่หานครางอือรับคำโดยไม่พูดอะไร ผมคิดเอาเองว่ามันหมายความว่าเค้ายกโทษให้ผมแล้ว หัวเล็กซุกเข้ากับอกผม ความรู้สึกอยากปกป้องที่ผมมีต่อลู่หานยิ่งชัดเจนมากขึ้นทุกวินาที อยากจะกอดเค้าเอาไว้แบบนี้ทั้งวัน เพื่อที่ผมจะได้แน่ใจว่า จะไม่มีสิ่งใดมาลบรอยยิ้มของเทวดาองค์นี้ไปได้
“ให้ชั้นได้ดูแลนายไปจนกว่าลมหายใจนี้จะหมดลงเถอะนะ ลู่หาน.......”
ลู่หานเงยหน้าขึ้นมามองสบตาผม ภาพสะท้อนของตัวผมในแก้วตาเค้าดูแปลกใหม่เหลือเกิน นี่ผมดูอ่อนโยนขนาดนั้นเชียวหรือ? ผมที่เป็นสัตว์ร้ายในร่างคน มีแววตาแบบนี้กับเค้าด้วย? ยิ่งมองยิ่งยากจะเชื่อ แต่ผมเชื่อ….เพราะแววตาไม่เคยโกหกใคร
และผมดีใจที่ผมอ่อนโยนในสายตาคนที่ผมรัก
“....อย่าทำแบบนี้อีกนะ อย่าหายไปจากชั้น อย่าทิ้งชั้นไปไหนอีกนะ คริส.....” มือนิ่มเลื่อนขึ้นมาแตะที่แก้มผม ความเย็นที่สัมผัสโดนผิวทำให้รู้ว่าลู่หานกำลังหนาว ผมเลยเลื่อนมือตัวเองขึ้นไปวางทับฝ่ามือเล็กของลู่หาน เราสบตากันราวกับไม่อาจปล่อยให้ภาพของอีกฝ่ายนึงเลือนหายไปได้
“อืม ชั้นสัญญา......” ผมตอบรับแล้วกุมมือเล็กแน่น อยากให้ความอบอุ่นในตัวผมช่วยคลายความหนาวให้ลู่หาน แต่ดูเหมือนจะไม่จำเป็นเท่าไหร่ เพราะอาการสั่นของลู่หานไม่ได้มาจากความหนาว แต่เกิดเพราะความขัดเขินต่างหาก….เค้าก้มหน้าหนีผมอีกครั้ง ก่อนจะอ้อมแอ้มพูดออกมาเบาๆ
“แล้วถ้านายอยาก....เอ่อ....อยากทำอะไรชั้น ก็ไม่ต้องเก็บกดเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้วนะ ถึงคุณมังกรจะเป็นนายอีกคน แต่ยังไงชั้นก็อยากให้คนที่กอดชั้นเป็นนายอยู่ดี”
“พูดแบบนี้เดี๋ยวจะแย่เอานะเสี่ยวลู่.....” ใช่แล้ว แย่มากแน่ๆ ผมยิ่งไม่ค่อยอยากจะอดใจเท่าไหร่แล้วเสียด้วย แถมลู่หานยังเป็นโรค ‘ยั่วไม่รู้ตัว’ อีกต่างหาก เล่นเปิดทางเสียขนาดนี้ กลัวใจตัวเองจริงๆว่าผมจะไม่ปล่อยให้เค้าได้กลับห้องตัวเอง….หรือแม้กระทั่งลุกออกจากเตียง
“ก็ชั้นไม่อยากให้นายหายไปอีกนี่นา แค่นี้ชั้นรับได้หรอก บอกแล้วไงว่าไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เจ้านั่นจะไม่ได้ออกมาอีกแล้วล่ะ ต่อจากนี้จะมีก็แต่....อู่อี้ฝานที่ยอมทำตามใจตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม” พอเห็นว่าลู่หานยังไม่วางใจเท่าไหร่ ผมเลยอธิบายให้เค้าเข้าใจ ซึ่งก็เป็นความจริงทุกประการ
ตราบใดที่ผมสนองตอบความต้องการของตัวเองและของจิตมังกร(แน่นอนว่าไม่ใช่ทั้งหมด แค่ในส่วนที่พอจะให้ได้เท่านั้น) ก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้สัตว์ร้ายในตัวผมออกอาละวาดอีก ยิ่งตอนนี้เรามีสิ่งที่ต้องปกป้องดูแลด้วยชีวิตอย่างลู่หาน ผมว่า ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเจ้ามังกรน่าจะดีขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำไป
“ถ้างั้น คนเอาแต่ใจ.....ตอนนี้อยากจะทำอะไรล่ะ?” ลู่หานถามผมเสียงยั่วเย้า จะตั้งใจทำหรือเป็นความบังเอิญก็ช่างเถอะ เพราะตอนนี้ผมมีอะไรที่น่าสนใจกว่าการมานั่งวิเคราะห์เรื่องที่ว่าให้ทำแล้ว….
ชักอยากพิสูจน์ซะแล้วสิว่าความจริงกับความฝันมันต่างกันยังไง?
.
.
.
# KAI's SIDE
ดูเหมือนว่าหัวหน้าฝ่ายตะวันตกขององครักษ์ทั้งสิบสองจะไม่ค่อยมีงานทำ ถึงได้ว่างมาคอยจับคู่ให้คนโน้นคนนี้
ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะมาช่วยผมมากกว่านะ คู่คริสฮยองกับลูฮันฮยองน่ะ ดูยังไงก็มีใจให้กันทั้งคู่
ถึงไม่ปล่อยให้ไปผจญภัยตามลำพังก็ได้กัน(?)แน่ๆ
แต่ทางผมนี่สิ ปัญหาใหญ่เลยนา....
โอเซฮุนที่หมายตามาตั้งแต่อายุสิบสี่ จนป่านนี้ยังเอาแต่ห่วงแต่หวงพี่สาว(?)อย่างพี่ลู่หานไม่เลิก
คิดแล้วมันน่าเจ็บใจจริงๆ(โว้ย)!!!!
“หน้าตาไม่ค่อยดีเลยนะ เป็นอะไรมากหรือเปล่า?”
ผมหันไปตามเสียงถามอย่างห่วงใยนั้น แต่ก็รู้อยู่ก่อนแล้วล่ะว่าต้องได้เห็นสีหน้าเป็นกังวลของออมม่าประจำกลุ่มองครักษ์ฝั่งตะวันตก หรือชื่อจริงคือ โดคยองซู ผมฉีกยิ้มกว้างแทนคำตอบว่าไม่เป็นไร แต่ดูเหมือนคยองซูฮยองจะไม่เชื่อ ตากลมถลึงจ้องผมโดยไม่พูดอะไร กลับเป็นผมเสียอีกมากกว่าที่ทนความกดดันไม่ได้ เลยต้องพูดออกมา
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ฮยอง แค่ง่วงนิดหน่อยเท่านั้นเอง ทำไมเราต้องตื่นมารวมตัวกันตั้งแต่ไก่โห่แบบนี้ด้วยล่ะ!?”
“ไก่โห่บ้านแกสิ กัมจง นี่มันจะเที่ยงอยู่แล้ว” เสียงที่บอกเวลาให้(โดยไม่ได้ขอ)เป็นของพยอนแบคฮยอน เจ้าของพลังแห่งแสง ผมกรอกตาไปมาบอกให้แบคฮยอนฮยองรู้ว่าไม่สนใจ เอาเวลาไปตีหน้าง่วงอ้อนคยองซูฮยองยังจะดีกว่ากันเยอะ!!
“ออมม่า~~~ ขอผมกลับไปนอนต่อนะ น๊า~~~~” ยิ่งอยู่นานไปก็ยิ่งเจ็บจี๊ด ผมแอบเหลือบตามองเซฮุนที่จนป่านนี้ก็ยังเดินไปเดินมา คุยกับจื่อเทาผ่านผีเสื้อ (ผู้ช่วยในการสื่อสารระหว่างสองทีม) ดูจากท่าทางกระวนกระวายใจของเค้าแล้ว คงจะเกิดเรื่องเครียดขึ้นแน่ๆ....แต่ทำไมซูโฮฮยองกับคนอื่นๆยังเริงร่ากันอยู่ได้ล่ะ? ยิ่งชานยอลฮยองนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ทำท่าเหมือนพร้อมจะจัดงานฉลองได้ทุกวินาทีเลยนะนั่น....
ไม่สิ ฮยองเค้าก็ดูมีความสุขตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้วนี่นะ - -“ สงสัยต้องใช้คนอื่นมาเป็นเกณฑ์มาตรฐานซะแล้ว
“จะเป็นไปได้ยังไงกัน คนตั้งสองคนหายไปทำไมไม่รู้ บอกความจริงมาเสียดีๆนะ เทา!”
เซฮุนของผม (ใช่ ของผม ไม่ต้องแอบด่าผมในใจเลยนะว่าเซฮุนเป็นของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ตั้งแต่เค้าเกิดมานั่นแหละ) พูดกับผีเสื้อสื่อสารเสียงร้อนรน คิ้วขมวดกันแน่นแถมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
ความที่เซฮุนเป็นน้องเล็กทำให้เค้าค่อนข้างจะเอาแต่ใจอยู่ไม่น้อย ด้วยเสน่ห์ของเซฮุน ใครต่อใครก็อยากจะตามใจเค้าไปเสียทุกคนนั่นแหละ ผมล่ะแอบเห็นใจจื่อเทานิดหน่อยที่ต้องเผชิญกับโอเซฮุนในโหมดนี้ เพราะอันตรายเสียยิ่งกว่าเจอสัตว์ประหลาด
ผมไม่ได้ยินว่าจื่อเทาตอบเค้าว่าอะไร แต่คำตอบคงไม่น่าฟังเอาซะมากๆสำหรับเซฮุน เค้าขบริมฝีปาก หันหน้าไปหาอัปป้า...ผมหมายถึงหัวหน้าซูโฮที่ตอนนี้กำลังนั่งล้อมวงกับแบคฮยอนฮยองและชานยอลฮยอง ชิมพายแอปเปิ้ลสูตรพิเศษของคยองซูฮยองกันอยู่
เดี๋ยวสิ ทำไมไม่เรียกผมซักคำเลยล่ะ!? ขนมฝีมือออมม่าเป็นของคิมจงอินคนนี้คนเดียวเท่านั้นนะ *[]* !!!!!
“ฮยอง! เราออกตามหาลูฮันฮยองกันเถอะ หายไปแบบนี้ไม่ดีแน่”
“ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก ลูฮันอยู่กับคริส คริสไม่ปล่อยให้เค้าเป็นอะไรไปหรอก” ลีดเดอร์ตอบเสียงอ่อนโยนเหมือนเวลาพูดปลอบเด็ก(ซึ่งก็หนีไม่พ้นพวกผม) แต่แม้กระทั่งซูโฮฮยองในโหมดพ่อพระผู้อารีก็ยังหยุดความกังวลของเซฮุนไม่ได้
“เพราะอยู่กับคริสฮยองต่างหากผมถึงได้ห่วงน่ะ!!!”
“วู้วววววววววว รักสามเส้า เค้าสามคน น่าสนุกดีจังเลยเนอะแบคกี้” ชานยอลฮยองแซวขึ้นมาแบบไม่สนใจใคร ผมหัวเราะกับตัวเองในใจ...ผิดแล้วล่ะครับฮยอง ความจริงมันสี่เส้าเลยต่างหาก
ผมขอบคุณแบคฮยอนฮยองเหลือเกินที่รีบโฉบชิ้นพายอุดปากแฮปปี้ไวรัสของกลุ่มเอาไว้ พี่เค้ามองแฟนตัวเองอย่างปรามๆ ก่อนจะหันไปพูดปลอบเซฮุน
“นี่นายยังไม่เลิกล้มความคิดบ้าๆแบบนั้นอีกเหรอเซฮุน ก็น่าจะรู้นี่ว่าสองคนนั้นเค้ารักกันจะตาย”
เอ่อ ดูจะเป็นการปลอบที่รุนแรงประหนึ่งฮุคหมัดใส่ไปเสียหน่อย แต่ผมก็ต้องขอขอบคุณแบคฮยอนฮยองอีกซักที วันไหนพี่ทะเลาะกับแฟนพี่ ผมจะเข้าข้างพี่แน่นอน ต่อให้คนผิดจะเป็นพี่ก็ตาม!
“ไม่จริง ลูฮันฮยองรักผม ลูฮันฮยองต้องเลือกผมอยู่แล้ว” เซฮุนพูดแบบรั้นๆ พองแก้มด้วยนะขอบอก น่ารักจนผมเกือบทำพายตกให้เสียของ (และโดนออมม่าสวด) เลยทีเดียว น่ารักเหลือเกิน เซฮุนนี่ของผม
“รักน่ะใช่ แต่ก็แค่พี่น้อง ไม่ได้รักอย่างที่รักคริสฮยองซักหน่อย” แบคฮยอนฮยองยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แถมยังมีคนผงกหัวสนับสนุนตั้งสามคน ใจจริงผมก็อยากผงกกับเค้าด้วยเหมือนกัน แต่เพราะเซฮุนทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้นี่สิ.....
“แต่ผมรักลูฮันฮยองนะ ผมมั่นใจว่าความรักของผมต้องไม่แพ้!!” เรื่องดื้อเรื่องเอาแต่ใจนี่ต้องยกให้โอเซฮุนเลยจริงๆ เซฮุนทำหน้าน้อยใจใส่พวกผมที่ยังนั่งกินพายกันสลอน...ฝีมือคยองซูฮยองนี่อร่อยเด็ดขาดจริงๆเหอะให้ตาย!
ผมกำลังทำตัวหนีความจริงอยู่เหรอ? ใช่แล้ว ก็คำพูดแต่ละคำของเซฮุนมันแทงใจนี่นา.....
“ไม่รู้ล่ะ ผมจะออกไปตามหาลูฮันฮยอง!”
พอเค้าประกาศออกมาก็ทำเอาพวกผมห้าคนถึงกับเหวอ แต่ละคนทิ้งอาวุธในมือแล้วรีบถลาเข้าไปจับเซฮุนไว้ เค้าเป็นเด็กแห่งสายลม เรื่องความไวนี่ต้องยกให้เป็นอันดับสอง ถ้าขืนไม่รีบจับไว้คงเตลิดไปไกลแน่นอน เซฮุนหลุดจากพวกพี่ๆไปได้อย่างง่ายดาย สุดท้ายก็เหลือแต่ผมคนเดียวที่จะจับเค้าได้......
คงจะรู้แล้วใช่มั้ยครับว่าใครคือคนที่ไวที่สุดในกลุ่มองครักษ์ทั้งสิบสอง?
“ถอยไปนะ!” เซฮุนร้องโวยวายทันทีที่ผมหายตัวไปขวางหน้าเค้าเอาไว้ ผมได้แต่ยกยิ้มกวนๆให้ก่อนจะหายตัวไปโผล่ที่ด้านหลัง รวบกอดเอวคอดของเค้าเอาไว้ในจังหวะที่เผลอเปิดทาง....
ต้นไม้แห่งชีวิตทรงโปรด ทำไมผอมขนาดนี้นะโอเซฮุน? นี่ถ้าผมคว้าแรงกว่านี้อีกนิดเดียว เค้าจะหักเป็นสองท่อนมั้ยเนี่ย!?
“ไค! ปล่อย!!” พูดไม่พูดเปล่า เซฮุนยังสั่งลมวูบใหญ่เข้ามาปั่นป่วนในห้องจนข้าวของบินกระจัดกระจายไปหมด ผมได้แต่หวังว่าพายแอปเปิ้ลของคยองซูฮยองจะยังปลอดภัยดี (น่าจะปลอดภัยดีนะ....เห็นคยองซูฮยองกอดจานไว้แน่นเชียว) ซูโฮฮยองเสกบาเรียน้ำทรงโดมขึ้นมากั้นระหว่างพวกเรา ไม่มีใครสนใจเลยซักนิดว่าผมจะจัดการกับพายุสลาตันลูกนี้ยังไง คู่รักคู่ฮาชานแบคถึงกับเอาผ้าเช็ดปากมาโบกลาผมเลยทีเดียว
รักกันดีจริงๆครับฮยอง คิมจงอินซาบซึ้งจนน้ำตาแทบไหล!!!
“ใจเย็นๆสิเซฮุน ลูฮันฮยองไม่เป็นอะไรหรอกน่า” ผมพยายามปลอบ แต่ต้องตะโกนแข่งกับเสียงลมที่บาดหูโคตรๆ เซฮุนดูจะไม่มีปัญหาเหมือนผม เค้ายังดิ้นไม่หยุด ทั้งทุบทั้งตีจนผมระบมไปหมดแล้ว
“ไม่เอา ชั้นจะไปพาลูฮันฮยองกลับมา!”
“จะไปทำไม? เดี๋ยวพวกฮยองเค้าก็กลับมากันแล้ว เสียเวลาเปล่าๆน่า” ไม่ต้องมองแบบนั้น ผมรู้ว่าผมปลอบคนไม่เก่ง แต่ทำไงได้ล่ะ ก็ได้แต่หวังว่าเหตุผลของผมจะทำให้เซฮุนสงบลง แต่ผมคงคิดผิดไปนิด....ไม่นิดสิ มากเลยด้วย
“ไม่ ลูฮันฮยอง!!!”
ปวดไมเกรนแบบที่คริสฮยองกับซูโฮฮยองชอบบ่นให้ฟังเป็นยังไง ผมได้รู้ก็วันนี้เอง..........
“เอาอย่างนี้แล้วกัน เดี๋ยวชั้นไปดูให้เองว่าลูฮันฮยองเป็นยังไงบ้าง นายจะได้สบายใจ”
พอผมพูดจบ ลมที่พัดอย่างรุนแรงรอบห้องก็อ่อนลงเรื่อยๆ เซฮุนเอี้ยวตัวหันมามองผมอย่างสงสัย อืม...กลิ่นผลไม้นี่มาจากผมนุ่มๆของเค้านี่เอง หอมดีจัง ตะกี้นี้ลมพัดแรงมากเลยไม่ทันได้กลิ่น แต่ตอนนี้พอได้กลิ่นกลับจะทำให้ผมเป็นบ้า
“ได้ แต่ต้องพาชั้นไปด้วย”
“รออยู่ที่นี่แหละ พาคนไปด้วยมันเกินกำลังชั้น” เอาล่ะ ผมโกหก ความจริงแล้วต่อให้เทเลพอร์ทพาคนทั้งสิบเอ็ดคนไปกับผม ผมก็ทำได้ แต่ผมไม่อยากให้เซฮุนไปด้วย หนึ่งคือกลัวว่าเค้าจะไปเห็นภาพบาดตา สองคือผมทนมองเซฮุนบอกรักลูฮันฮยองไม่ได้ กลัวจะเผลอพูดอะไรบ้าๆออกไป
ซึ่งอะไรบ้าๆที่ว่าก็คือ สารภาพความรู้สึกของตัวเองนี่แหละ.....
“แต่....”
“ลูฮันฮยองออกไปทำภารกิจนานคงจะเหนื่อย นายอยู่ที่นี่ ช่วยคยองซูฮยองทำอาหารอร่อยๆไว้รอต้อนรับดีกว่านะ”
“เอาอย่างนั้นก็ได้......” หลังจากคิดชั่งใจอยู่ซักพักใหญ่ เซฮุนก็ยอมตกลง พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความสุขของลูฮันฮยองก็ว่าง่ายขึ้นมาทีเดียวเชียว “รีบกลับมานะไค.....”
“โชคดีนะน้องรัก เจอช็อตเด็ดอะไรอย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะ!!”
“ช็อตเด็ด?” เสียงตะโกนของชานยอลฮยองทำเอาผมตัวแข็งทื่อ .....สั่งสอนสามี เอ๊ย แฟนพี่หน่อยก็ดีนะครับแบคฮยอนฮยอง ผมอุตส่าห์ปลอบจนเซฮุนสบายใจขึ้นแล้วแท้ๆ ทำเสียเรื่องหมด
แต่ตอนนี้ผมขอชิ่งหนีก่อนล่ะ ขี้เกียจอยู่เป็นเป้าให้เซฮุนคาดคั้นเอาอีก
ผมยิ้มกว้างเหมือนคนบ้าเพราะภาพสุดท้ายก่อนที่ผมจะหายตัวไปคือภาพแบคฮยอนฮยองเตะเข้าที่หน้าขาของชานยอลฮยองเต็มๆ.....แหม....ขอบคุณครับ ผมล่ะรักพี่จริงๆ!
.
.
.
Tbc.
※ ※ ※ ※ ※ ※ ※ ※ ※ ※ ※ ※
Note : ตอนห้าหายไปไหน? อย่างงไปค่ะ แจกเฉพาะคนที่ส่งมาขอและเม้นท์ให้เท่านั้นค่า 555+
ความคิดเห็น