คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [04.] hElLo, My OtHeR sIdE
ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่แสงอาทิตย์วันนี้ช่างไร้ความปรานีต่อดวงตาของผมเหลือเกิน
อันที่จริง แดดมันก็เป็นปกติของมันทุกวันนั่นล่ะ เพียงแต่คนไม่ได้นอนทั้งคืนอย่างผม ทนแสงอันเจิดจ้าแบบนั้นไม่ไหวก็เท่านั้นเอง
ส่วนคนที่เป็นสาเหตุให้ผมต้องนอนตาค้างทั้งคืนก็กำลังหลับปุ๋ยสบายใจอยู่ข้างๆ…หรือถ้าจะให้ชัด เรียกว่านอนอยู่บนตัวผมเลยจะตรงตามความจริงมากกว่า
ลำพัง ตัวนุ่มๆ กลิ่นหอมๆ เสียงละเมออืออาในลำคอไม่ได้ทำให้ผมลำบากอะไรมากนัก (ออกจะชอบเสียด้วยซ้ำ) คัวการสำคัญที่ก่อกวนไม่ให้ผมได้หลับได้นอน คือเจ้ามังกรจอมพยศนั่นต่างหาก
เจ้านั่นเอาแต่คอยยุให้ผม “กิน” กวางน้อยเสียให้สมใจ แถมร่ายขั้นตอนการ “กิน” อย่างละเอียดให้ฟังจนนึกภาพตามได้ทุกฉาก
แล้วผลของการช่างจินตนาการของผมน่ะเหรอ? ก็ไอ้อาการ “แข็งค้าง” ที่จนป่านนี้ก็ยังไม่ดีขึ้นนี่ไงล่ะ!!
อา ใต้ตาผมต้องดำจนหวงจื่อเทายังอายแน่นอน…..แม้แต่พยอนแบคฮยอนตอนทาอายไลน์เนอร์ก็เทียบไม่ติด
……การอดนอนทั้งคืนนี่อันตรายจริงๆ ทำเอาผมคิดอะไรไร้สาระขึ้นมาจนได้
ผมเหลือบไปมองลู่หานในอ้อมกอด (พูดแบบนี้แล้วตัวมันร้อนๆยังไงชอบกล) ยิ่งได้มองใกล้ๆก็ยิ่งเข้าใจว่าทำไมใครต่อใครถึงได้หลงเสน่ห์เค้า
ดีว่าเจ้าซูโฮมันมีคยองซูอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นผมคงได้จับมันเผาทุกครั้งที่ได้ยินมันชมลู่หานว่าน่ารักอย่างนั้น อย่างนี้แน่นอน ที่ดูจะมีปัญหาหน่อยก็เห็นจะเป็นเจ้าเด็กสายลมนั่น….ทำไมเจ้าไคมันไม่รีบๆจับกดให้เด็กมันรู้สังกัดที่แท้จริงไปเสียทีนะ?
เอาอีกแล้ว เพ้อเจ้อไปไกลจนได้ กลับมาเรื่องเดิมก่อนที่ผมจะออกทะเลดีกว่า ถึงไหนแล้วเนี่ย….?
อ๋อ ใช่….ลู่หานเหมือนตุ๊กตาที่มีชีวิต
รูปหน้าของเค้าเล็กเรียว ขนตางอนยาว ผมเส้นเล็กสีสว่าง จมูกโด่งรับกันได้ดีกับเรียวปากเล็กน่ารักสีชมพูธรรมชาติ แต่ส่วนที่ผมพ่ายแพ้ทุกครั้งที่ได้เห็นคือตากลมใสที่ตอนนี้ถูกซ่อนไว้ใต้เปลือกตา
มนุษย์คงเรียกสิ่งที่แสนบริสุทธิ์และงดงามนี้ว่า “เทวดา”
แม้ว่าจะถูกผมจ้องอยู่อย่างนี้ ลู่หานก็ยังไม่รู้สึกตัวเลย (ต้องจำเอาไว้ว่าลู่หานเป็นคนหลับลึก) ถึงผมจะแอบไล้แก้มนุ่มนิ่มด้วยนิ้วโป้ง เค้าก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาเลย
อันตรายจริงๆ เกิดไปเจอคนไม่ดี คิดหาประโยชน์จากนิสัยการนอนแบบนี้ของนายแล้วจะทำยังไงกัน?
ถึงผมจะไม่อยากทำลายภาพสวยๆงามๆนี้ แต่ผมก็จำเป็นต้องทำ เราไม่มีเวลามานอนเล่นทั้งวันนะครับ ยิ่งตามหากวางขาวเจอเร็วเท่าไหร่ การเดินทางครั้งนี้ก็จะยิ่งจบเร็วเท่านั้น ความเสี่ยงที่ผมจะคุมสติไม่อยู่จนทำอะไรลู่หานก็ยิ่งน้อยลงตามไปด้วย
ผมชอบที่เราได้อยู่ด้วยกัน แต่ถ้าความสุขเล็กๆน้อยๆนั้นต้องแลกมาด้วยน้ำตาของลู่หาน ผมยอมมองเค้าจากที่ไกลๆเหมือนเมื่อก่อนดีกว่า
ลู่หานปัดมือผมที่เขย่าไหล่เล็กออก แต่ก็ยังไม่ยอมลืมตาอยู่ดี คิ้วเค้าผูกกันเป็นปม เห็นแล้วก็ชักจะรู้สึกผิดขึ้นมาเหมือนกัน แต่คนเป็นหัวหน้าจะยอมให้งานเสียเพราะเรื่องส่วนตัวไม่ได้เด็ดขาด!
“อื้ออออออ อย่ากวนน่าเปาจื่อ เดี๋ยวก็ถีบให้เลยนี่!”
มีสติขนาดขู่คนอื่นได้แบบนี้ คงไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรแล้วล่ะมั้ง?
“ตื่นได้แล้ว ลู่หาน นี่เรามาทำงานนะ”
เสียงดุๆของผมดูจะปลุกเค้าได้ผลดีทีเดียว ลู่หานเปิดตาโตทันทีจนผมแอบสะดุ้ง เพิ่งรู้สึกตัวว่าเราอยู่ใกล้กันมาก ขยับอีกแค่นิดเดียว ปากเราก็ประกบกันได้องศาพอดี แบบนี้ไม่ดีแน่
เจ้ามังกรบ้า หุบปากซักทีได้มั้ย!?
“คะ…คริส!” ลู่หานร้องออกมาเบาๆ ตอนนั้นเองที่ผมเลิกเถียงกับมังกรแล้วมองเค้าชัดๆ ถึงผมจะยุ่งเหยิง แต่ลู่หานที่เบิกตาตื่นก็น่ารักเหลือเกิน แก้มของเค้าแดงขึ้นเรื่อยๆ พอผมลุกออกจากตัวเค้า เค้าก็ลุกขึ้นนั่งแล้วถอยไปอยู่ตรงปลายกระโจม หลบหน้าผม ลนลานเหมือนกวางติดบ่วงนายพรานไม่มีผิด
นั่นประไร ลู่หานกลัวผม ผมไม่ควรเข้าใกล้เค้าจริงๆด้วย
“ตื่นแล้วก็ไปล้างหน้าล้างตาซะ จะได้กินข้าวแล้วเดินทางกันต่อ…..” พูดเสร็จแล้วผมก็รีบออกไปจากกระโจม ในใจปวดแปลบจนทนมองภาพตรงหน้าไม่ไหวอีกต่อไป
ดูจากสภาพเหม่อๆมึนๆของคริสแล้ว เค้าคงไม่ได้นอนทั้งคืน
สำหรับคริส เมื่อคืนคงเป็นช่วงเวลาอันแสนโหดร้าย แต่สำหรับผม….ไม่อยากจะบอกเลยว่าหลับสบายมากๆ
อ้อมแขนของคริสทั้งใหญ่ทั้งอุ่น แถมตัวคริสก็หอม ปิดตานอนไปได้ไม่ทันไรก็ทำผมเคลิ้มจนหลับไปแล้ว
เป็นคืนที่ผมมีความสุขมากคืนนึงเลยก็ว่าได้…..
แต่ตอนตื่นนี่สิที่ทำผมหัวใจเต้นแรง
เมื่อคืนมันมืดมาก ผมเลยไม่ทันได้สังเกต แต่มาตอนเช้าที่สว่างจ้าไปหมดทุกที่นี่สิ
ต้นไม้แห่งชีวิตที่รัก….นี่ผมนอนอยู่ในอ้อมกอดของเทพบุตรหรือไงกันนะ!?
ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าคริสหน้าตาดี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นเค้าในระยะใกล้แค่คืบ ปกติเวลาออกไปข้างแรมระหว่างปฏิบัติภารกิจ ผมจะนอนกระโจมเดียวกับมินซอกแล้วก็จงแท (เจ้าอี้ซิงบ่นใหญ่เลยว่าอยากมานอนด้วย เพราะกระโจมเค้ามีตุ้ยจ่างและน้องเล็กที่ชอบนอนละเมอ แต่ผมรู้หรอกว่าความจริงเป็นเพราะเจ้าตัวมันเล็งจะนอนกอดจงแทต่างหาก) ภาพระดับโคลสอัพของคริสจึงเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับผมมาก
ให้ตายเถอะ ผมร้อนไปหมดทั้งตัวแล้ว….นี่ผมเป็นอะไรไปกันเนี่ย!?
“ลู่หาน แน่ใจนะว่าไม่ได้เป็นอะไร?”
ผมแอบสะดุ้งเพราะเสียงเรียกที่มาจากด้านหลัง ตั้งแต่เดินออกไปจากกระโจม คริสก็ทำตัวห่างเหินกับผมมาก แถมยังหลบตาอย่างโจ่งแจ้งอีกด้วย มื้อเช้าจึงเป็นอะไรที่กร่อยมาก ความอึดอัดที่เกิดขึ้นเลยพลอยทำให้การเดินทางของเราไม่สนุกเหมือนเมื่อวาน
“อื้ม! แน่ใจสิ ห่วงตัวเองดีกว่าน่า สภาพนายโทรมกว่าชั้นเสียอีก!” ผมพยายามจะทำให้บรรยากาศมันเบาลงแล้วนะ แต่คริสที่เบี่ยงหน้าหนีทุกครั้งที่ผมหันกลับไปจ้องตรงๆนี่สิ….ไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย เค้าทำปากพึมพำอะไรบางอย่างกับตัวเอง ถ้าผมมองไม่ผิด รู้สึกจะประมาณว่า….
“….คิดว่าเป็นเพราะใครกันล่ะ? มันน่า….”
“เปล่า ไปกันเถอะ เราไม่มีเวลาว่างมากแล้ว” พอโดนผมต้อนเข้าให้ คริสก็รีบยกเรื่องงานขึ้นมาเบี่ยงประเด็นทันที แล้วมันก็ได้ผลไม่น้อยเลยทีเดียว ผมเริ่มหันมาเอาจริงเอาจังกับภารกิจนี้ แต่พอฟังคำสั่งของคริสแล้วมันช่างชวนให้หงุดหงิดยังไงชอบกล “นายลองหาแถวนี้ดูนะ ชั้นจะไปหาทางนู้น ถ้ามีอะไรก็ร้องให้ลั่นป่าเลย แล้วชั้นจะรีบมา”
อู่อี้ฝานเห็นผมเป็นเด็กสามขวบหรือไงกัน? นี่ผมแก่เดือนกว่าเค้านะจะบอกให้!!!
“ครับ ท่าน-หัว-หน้า!” พอกระแทกเสียงประชดเสร็จ ผมก็เป็นฝ่ายเมินหน้าหนีเข้าบ้าง ผมเดินไปทางขวาแล้วเริ่มกวาดตามองหาสัญญาณของสิ่งมีชีวิตในป่า เสียงฝีเท้าของคริสเริ่มแผ่วลงจนไม่ได้ยินอีกเลย บอกให้ผมได้รู้ว่าตอนนี้โดนทิ้งให้อยู่คนเดียวเสียแล้ว
แอบหวั่นอยู่เหมือนกันนะ….แต่ผมจะไม่บอกเค้าหรอก แค่นี้เค้าก็เห็นผมเป็นเด็กน้อยที่ต้องได้รับการดูแลอยู่แล้ว
ชั้นจะพิสูจน์ให้นายเห็นว่าคนอย่างลู่หานดูแลตัวเองได้ แล้วจะหากวางขาวศักดิ์สิทธิ์ให้เจอก่อนนายด้วย!!!
….เอ๊ะ!? ทำไมมีน้ำหยดลงมาแถวนี้ได้ล่ะเนี่ย?
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฝนจะตกลงมาทั้งกลางวันแสกๆ
วันนี้ฟ้าใส ไม่มีเมฆแม้แต่ก้อนเดียว แล้วไอ้ฝนห่าเหวนี่มันตกลงมาได้ยังไง?
เห็นทีจบงานนี้ต้องเรียกซูโฮกับจงแทมาคุยซักหน่อยแล้ว
“คริส มัวเหม่ออะไรอยู่ เข้ามาข้างในสิ”
ลู่หานเรียกผมจากข้างในถ้ำ เสียงเลยออกจะก้องๆ ใช่แล้วครับ เรามาหลบฝนกันในถ้ำที่อยู่ไม่ไกลนัก โชคดีที่มันทั้งกว้าง ทั้งสะอาด แล้วก็พอจะใช้เป็นที่พักในคืนนี้ได้ ผมลองเดินตรวจดูแล้ว ไม่มีสัตว์อาศัยอยู่ คงไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะต้องรับมือกับสิ่งมีชีวิตที่หิวโหยตลอดทั้งคืน
โอ๊ะ ไม่สิ อย่างน้อยก็มีตัวนึง เจ้ามังกรที่อยู่ในตัวผมนี่ไง
ตั้งแต่เหลือบไปเห็นลู่หานที่เปียกโชกไปทั้งตัว เสียงคำรามในหัวผมก็ดังไม่หยุดเลย
ผมเองก็เปียกเหมือนกัน แต่แทนที่จะหนาว ร่างทั้งร่างกลับร้อนรุ่ม ผมกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะทำใจกล้า หันไปทางต้นเสียง แล้วผมก็เห็นลู่หานถอดเสื้ออยู่พอดี ผิวขาวอย่างกับส่องแสงได้ไม่มีผิด ช่วงเอวเล็กคอดนั่นก็น่าโอบกอด น่าอิจฉาหยดน้ำที่เกาะตามตัวเค้าจริงๆ ถ้าเป็นผมนะ….
……..เฮ้ย!!!! นี่เผลอคิดอะไรอะไรออกไปเนี่ย!?
“ทำอะไรของนายน่ะ อยู่ดีๆถอดเสื้อทำไม!!??” ผมร้องเหวอ รู้ตัวว่าไม่ควรมอง แต่ละสายตาจากภาพลู่หานที่เปลือยท่อนบนไม่ได้เลย (น่าเสียดาย เอ๊ย โชคดีแล้วที่ยังเหลือท่อนล่างไว้อยู่) ถึงจะพยายามเก็บอาการแล้ว แต่สายตาของผมคงทำให้เค้าขัดเขิน ผมแอบเห็นว่าแก้มเค้าเปลี่ยนสี ลู่หานเบี่ยงสายตาไปมองทางอื่นแล้วตอบเบาๆ
“ก็มันเปียกนี่นา ถ้าไม่ถอด เดี๋ยวได้เป็นหวัดกันพอดี” ลู่หานว่าพลางหันกลับมามองผม คราวนี้ทำหน้านิ่วอย่างน่ารัก “นายเองก็ต้องถอดเหมือนกัน”
“ไม่ต้องหรอก ชั้นเป็นชนเผ่ามังกรไฟ ร่างกายอบอุ่นตลอดเวลา” ผมอธิบายพลางเบี่ยงสายตาหนีได้ในที่สุด ในหัวเริ่มปวดแปลบๆ มันวูบๆเหมือนคนเป็นไข้ คงเพราะไม่ได้นอน แถมยังต้องมาเดินตากฝนอีก
น่าแปลก ผมไม่เคยเป็นไข้เลยตั้งแต่บรรลุนิติภาวะ (อายุสิบแปดปี) แล้วไอ้อาการตัวร้อนเหมือนอยู่ในกองไฟแบบนี้มันคืออะไรกัน…?
ผมบังคับตัวเองไม่อยู่ จากที่เบี่ยงหน้าหลบลู่หาน ตอนนี้กลับมาเผชิญหน้ากับเค้าอีกครั้ง ลู่หานเดินตรงเข้ามาอย่างไม่รู้อะไรเลย ผมสั่งตัวเองให้ถอยออกมา รู้ดีว่าภาพผิวขาวๆของลู่หานเป็นอันตรายต่อจิตใจอย่างยิ่ง แต่ร่างกายกลับไม่ฟังคำสั่ง ยืนทื่ออยู่อย่างนั้นจนกระทั่งลู่หานมาหยุดอยู่ตรงหน้า เค้าเอียงคอก่อนจะคว้าเข้าที่ชายเสื้อคลุมตัวยาวของผม มองผมด้วยดวงตากลมใสที่น่าหลงใหล มันทำให้ผมอยากจะกอดเค้าเหลือเกิน….
แย่ล่ะ ท่าทางการควบคุมตัวเองของผมจะแย่ลงเรื่อยๆเสียแล้ว
“ถ้านายไม่ถอด ชั้นถอดให้ก็ได้”
“ลู่หาน อย่า” ตอนนี้ผมพูดได้แต่คำสั้นๆเท่านั้น กล้ามเนื้อแข็งเกร็งไปหมด ลู่หานเริ่มแกะกระดุมเสื้อผมทีละเม็ด สีหน้าระรื่นเชียว ให้ตายเถอะ! จะเล่นก็ให้มันมีลิมิตหน่อยเถอะ ผมกำลังจะทนไม่ไหวแล้วนะ!!
“ทำไมล่ะ รังเกียจชั้นมากขนาดนั้นเลยเหรอ อู่ฝาน…….”
วินาทีที่เราสบตากัน ผมก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างในตัวแตกสลาย…..
คริสคว้าข้อมือผมที่กำลังปลดกระดุมเม็ดที่สาม ผิวเค้าร้อนผิดปกติ แถมยังบีบเสียแรงจนผมแอบนิ่วหน้า เชื่อได้เลยว่าต้องขึ้นเป็นรอยแดงแน่…..
ผมมองคริสเหมือนจะบอกให้รู้ว่าผมเจ็บ แต่เค้ากลับผลักผมไปชนผนังถ้ำ เล่นเอาผมทั้งมึนทั้งเจ็บ ข้อมือที่โดนจับกุมไว้ถูกจับไปพาดไว้เหนือหัว ร่างกายเราอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่คืบ สัญชาตญาณในตัวร้องบอกให้ผมหนี แต่สายเกินไปแล้ว คริสขังผมไว้ในอ้อมแขน เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้จนผมเริ่มใจเต้นแรง ขายาวๆสอดเข้าคั่นระหว่างขาทั้งสองของผม เราอยู่ในท่าที่ล่อแหลมมาก…..ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสถานการณ์ที่ได้ยินมาจากแบคฮยอนจะเกิดขึ้นกับตัวผมเข้าซักวัน
ยิ่งกว่านั้น คนทำก็เป็นคริส….หัวหน้ากลุ่มที่มีสติยั้งใจมากที่สุดเสียด้วย
“คริ…คริส….?” ผมลองส่งเสียงเรียกดู ผมหน้าม้าของเค้าปิดไม่ให้ผมเห็นว่าเค้ามีสีหน้ายังไง คริสเอาแต่เงียบ ผมเลยได้แต่ลองเดาสุ่มเอาเอง “นี่….โกรธเหรอ? ขอโทษนะ ชั้นเล่นแรงไปหน่อย….”
ไม่มีคำตอบกลับมา แต่ผมแอบเห็นว่ามุมปากของเค้ายกยิ้ม น่าประหลาดที่รอยยิ้มนี้ไม่คุ้นตาเอาเสียเลย มันดูน่ากลัวยังไงชอบกล….ได้แต่หวังว่าผมคงคิดมากไปเอง
“ซนแบบนี้ ต้องลงโทษกันเสียหน่อยแล้ว ลูกกวางน้อย….”
กวางน้อย…..? คริสไม่เคยเรียกผมว่ากวางน้อย
“นายพูดอะไรของนายน่ะ ชั้นไม่เข้าใจ?”
คริสเหยียดยิ้มกว้างขึ้นไปอีก เค้าโน้มหน้าลงมาใกล้จนหน้าผากเราแตะกัน และระยะห่างที่สั้นลงนี้นี่เองที่ทำให้ผมเห็นความผิดปกติบางอย่างในตัวคริส
ตาของเค้าเปลี่ยนเป็นสีทอง…..สีทองของมังกร
ริมฝีปากของเค้าประกบลงมา ดูดกลืนทุกคำพูดและสติของผมไปจนหมดสิ้น….
Note : อย่าค่ะ อย่าโยนอะไรมาที่บ้านแพรวนะคะ เก็บไว้ขว้างตอนต่อไปเถอะ (!?)
ตอนแรกวางไว้ว่าจะให้โหมดมังกรของท่านคริสได้ออกมากกว่านี้อีกซักหน่อย แต่อยากทรมานเมนตัวเองก่อนกลายร่างซักหน่อย บทมังกรเลยโดนยกไปทบตอนหน้าค่ะ
พาร์ทหน้ามันเป็นเอ็นซี ก็เลยจะส่งให้เฉพาะคนที่ส่งมาขอที่ facebook >> https://www.facebook.com/paewii.kirahime ไม่ต้องแอดเฟรนด์ให้เสียเวลานะคะ ส่งข้อความมาขอก็พอ ไม่อยากลงในเด็กดี เดี๋ยวโดนแบน โดยมีข้อแม้ว่าต้องเป็นคนที่เม้นฟิคให้เท่านั้น บอกชื่อยูสที่ใช้ในเด็กดี หรือเวลาที่ขึ้นตอนเม้นก็ได้ค่ะ แค่นี้เอง ไม่ยากเกินไปใช่มั้ยคะ?
ความคิดเห็น