คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [03.] cOnFuSiNg hEaRtS
[03.] cOnFuSiNg hEaRtS
# KRIS’s SIDE
ลู่หานกำลังเริงร่าสุดฤทธิ์ ผมรู้สึกได้จากไอพลังที่พลุ่งพล่านของเค้า
เคยได้ยินมาว่า ผู้มีพลังพิเศษสายพลังจิตอย่างเค้าจะอารมณ์แปรปรวนง่าย เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวร้องไห้ แล้วประเดี๋ยวก็โกรธขึ้นมาเสียดื้อๆ
อารมณ์ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจะสอดคล้องกับพลังในตัว และการที่ไอพลังของเค้าเล็ดรอดออกมาอย่างชัดเจนจนผมสัมผัสได้แบบนี้ น่ากลัวว่าภายในหัวลู่หานจะสับสนน่าดู
ผมคิดว่านั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้ลู่หานยกเกมส์นี้ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา….เค้าก็แค่อยากจะควบคุมพลังของตัวเองให้ได้ แล้ววิธีไหนจะดีไปกว่าการได้ปลดปล่อยมันออกมาล่ะ?
น่าอิจฉาที่เค้าปลดปล่อยพลังได้ตามใจอยาก แต่ผมกลับต้องทนเก็บมันเอาไว้ เพราะรู้ดีว่าถ้าปล่อยออกมาเมื่อไหร่ เพื่อนร่วมเดินทางตัวน้อยคงไม่ปลอดภัยแน่
แม้แต่ในตอนนี้ เสียงกระซิบอย่างปรารถนาของเจ้ามังกรก็ยังแจ่มชัดในหัว
ผมล่ะกลัวใจตัวเองเหลือเกิน กลัวว่าซักวันจะเผลอตามใจมันเข้า
…..ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คือใจจริงจากก้นบึ้งของผมเอง เพราะมังกรก็คือผมอีกภาคหนึ่ง แต่เป็นภาคที่ไร้ความคิดยับยั้งชั่งใจ เหมือนม้าพยศที่ไร้บังเหียนควบคุม
ถ้าถามว่าในชีวิตนี้ อู่อี้ฝานกลัวอะไรมากที่สุด ก็คงจะตอบได้เต็มปากเต็มคำว่า ‘กลัวตัวเอง’
“ นายท่าน ครบสิบห้านาทีแล้ว ไม่รีบไปจับกวางน้อยกินหรือขอรับ?”
“รู้น่า ไม่ต้องพูดมาก” ผมพูดตอบเบาๆ พยายามทำเป็นไม่ได้ยินประโยคหลัง แต่ร่างกายของผมช่างสัตย์ซื่อ อาการเกร็งเพียงเสี้ยววินาทีก็ทำให้เจ้ามังกรหัวเราะอย่างสุขสม ผมไล่เสียงน่ารำคาญนั้นออกไปแล้วกางแขนออก ลอยตัวในอากาศอย่างช้าๆจนในที่สุดก็ไต่ระดับขึ้นมาจนอยู่เหนือแนวต้นไม้ทั้งหมดแล้ว
แล้วผมก็เห็นเค้า ลู่หานก้าวไถลอย่างเริงร่าเหมือนกำลังเล่นสเก็ตน้ำแข็ง เพียงแต่ไม่มีลานน้ำแข็ง แต่เป็นลานฟ้าที่เปิดกว้างและสวยงามจนชวนตะลึง วิวเหนือผืนป่าเอเดนนั้นงดงามมาก ตรงกึ่งกลางของผืนป่าคือน้ำตกเมทัลซึ่งเป็นเส้นชัยในเกมส์ครั้งนี้ น้ำที่ตกกระทบเบื้องล่างเล่นกับแสงจนเห็นเป็นสายรุ้งอันโตพาดผ่าน กลิ่นอายบริสุทธิ์ของผืนป่ายิ่งทำให้สดชื่นขึ้นไปอีก ผมอดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมา
ลู่หานที่โลดแล่นอยู่บนฉากหลังอันแสนมหัศจรรย์นั้นช่างน่ามอง….
ในตอนที่ผมกำลังมองเค้าอยู่นั่นเอง ลู่หานก็หันกลับมาจ้องสบตา ผมเริ่มจะขัดเขินขึ้นมาไม่น้อย ส่วนหนึ่งเพราะอายที่โดนจับได้จังๆ แต่อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะดวงตากลมสวยคู่นั้นของลู่หาน
ผมยอมจ้องตาสู้กับอสูรกายร่างยักษ์ยังจะดีกว่าจ้องตากับลู่หานที่ตัวสูงแค่อก อย่างน้อยก็ดูจะพอมีทางชนะมากกว่า
“ชั้นไม่ยอมแพ้นายหรอกนะ อู่อี้ฝาน แบร่~~” เค้าหันมาประกาศคำท้าด้วยรอยยิ้มเหมือนเด็กๆ ก่อนจะแลบลิ้นใส่ผม แล้วบินตรงไปข้างหน้าทันที….ดีที่คราวนี้ไม่หันมามองอีก ดีสำหรับการควบคุมตัวเองของผมน่ะนะ
ไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าเราอายุเท่ากัน แล้วก็ไม่อยากจะเชื่อด้วยที่ผมยืนนิ่ง ยกยิ้มเหมือนคนเป็นบ้า เพียงเพราะว่าเค้าทำตัวน่ารักเสียเหลือเกิน
อันตรายเกินไปแล้ว….ลู่หาน
ขืนนายยังเป็นแบบนี้ เราคงเดินทางไปด้วยกันไม่ได้อีก
ชั้น….ไม่อยากทำร้ายนาย
แต่ชั้น….ก็ไม่อาจไปจากนายได้เช่นกัน
จะทำยังไงกับเสียงที่สั่งค้านกันอยู่ตลอดเวลาดี….?
.
.
.
# LUHAN’s SIDE
ผมรู้ว่าผมมันบ้าตั้งแต่ไปท้าแข่งกับคริสแล้ว
มีอย่างที่ไหน คนธรรมดา(?)จะไปบินแข่งกับชนเผ่ามังกรได้ยังไงกัน น่ากลัวว่าต่อให้เป็นเจ้าชานยอลก็ยังเทียบคริสไม่ติดด้วยซ้ำไป
ดีจริงๆที่มีเรารู้กันแค่สองคน อย่างน้อยก็ในตอนนี้….
แต่ผมรู้จักคริสดี เค้าไม่ใช่คนประเภทที่จะเอาเรื่องความพ่ายแพ้ของคนอื่นไปป่าวประกาศหาความบันเทิง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ปฏิเสธรางวัลจากการแข่งขันครั้งนี้ก็ตามที
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า พูดอะไรไว้ต้องรักษาสัตย์ แม้เราจะพูดไปโดยไม่คิดก็เถอะ
“มีอะไรให้ผมรับใช้หรือขอรับ….ท่านคริส….”
ผมแอบเห็นว่าคริสพยายามกลั้นหัวเราะ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สำเร็จ สุดท้ายแล้วเค้าก็นั่งกุมท้อง ขำแบบไร้เสียง หางตามีน้ำตาเล็ดออกมาหน่อยๆด้วย
ถ้านายยังไม่รีบพูดอะไรออกมาอีกนะคริส ชั้นเอาลูกคริสตัลยัดปากนายแน่..!! (ทำแก้มป่อง)
“ถ้ามันลำบากขนาดนั้นก็ไม่ต้องเรียกหรอกนะ ไอ้ท่านเทิ่นอะไรนั่นน่ะ”
“ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ แต่ถ้าเป็นคำสั่งของท่านก็อีกเรื่อง” นี่จะถือเป็นการบอกใบ้ที่โจ่งแจ้งเกินไปหรือเปล่านะ? แต่เอาเถอะ อย่างน้อยคริสก็เข้าใจเจตนาผม
“งั้นชั้นขอสั่งให้เรากลับมาเรียกกันแบบเดิม ตกลงนะ ลู่หาน”
“อื้ม~~” พอได้ดังใจอยาก ผมก็ยิ้ม พยายามไม่ให้ดูระริกระรี้มากนัก เพราะยังไงเสีย คริสก็ยังมีสิทธิ์สั่งใช้งานผมหนึ่งเดือน แล้วผมก็ไม่คิดจะต่อต้านด้วย ลูกผู้ชายตัวจริงต้องรักษาคำพูด ถูกมั้ยครับ?
“ถ้าอย่างนั้น คำสั่งต่อไปของชั้นก็คือ….ให้นายรออยู่ที่นี่ จัดการเตรียมที่พักคืนนี้ซะ เดี๋ยวชั้นจะไปเก็บฟืนกับหาอาหาร”
“อื้ม…เอ๊ะ!?” ตอนแรกผมก็ฟังคำสั่งของคริสไปแบบไม่คิดอะไร แต่พอนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นคนรับใช้ของคริส แล้วมีอย่างที่ไหนมานั่งสบายรอเจ้านายจัดการล่ะ! “เดี๋ยวสิคริส นายสั่งชั้นมาก็ได้ ตอนนี้ชั้นเป็นคนใช้ของนายนะ นายไม่ต้อง…..”
“ชั้นสั่งว่ายังไงก็ว่าอย่างนั้น กล้าขัดคำสั่งเจ้านายหรือ?”
อึ่ก….ไม่เห็นต้องทำหน้าดุแบบนั้นเลยนี่นา!!!!
“ก็ได้ บอกไว้ก่อนนะว่าชั้นเสนอตัวแล้ว แต่นายปฏิเสธเองนะ คุณ-หัว-หน้า!” ด้วยความหมั่นไส้(และน้อยใจ ใช่ ผมยอมรับ) ผมเลยจงใจพูดเสียงกระแทก ผมหันหลังให้คริสกับวิวริมฝั่งลำธารสีใสแล้วเริ่มกางกระโจมแบบง่ายๆ ยังรู้สึกได้ถึงสายตาคมๆของคริสที่มองมา เค้าคงประเมินอยู่ว่าผมจะทำคนเดียวได้หรือเปล่า แต่พอเห็นว่าผมเริ่มใช้พลังพิเศษช่วยจัดการกับชายผ้ายาวๆ เค้าก็ถอนหายใจ แล้วหายไปอย่างเงียบๆ
พอหันมาแล้วไม่เห็นแม้แต่เงา ความเหงาก็กัดกินใจผมทีละน้อย……
ทำไมกันนะ…?
พอคริสอยู่ใกล้ๆ กายมันก็ร้อนรุ่มไปทั้งร่าง
แต่พอไม่เห็นเค้าเท่านั้น ความเหน็บหนาวที่น่าสะพรึงยิ่งกว่า กลับโถมเข้ามาอย่างไร้ความปรานี
คงเพราะความเหงาที่ต้องอยู่คนเดียวกระมัง….หัวใจมันถึงได้โหวงขนาดนี้
ใช่หรือเปล่านะ……?
ถ้าลองเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คริสหายไป นายจะรู้สึกว้าวุ่น ไม่สบายใจแบบนี้หรือเปล่านะ ลู่หาน…..
.
.
.
# KRIS’s SIDE
สำหรับคนที่ตัวเล็กแล้ว ลู่หานถือว่ากินเก่งทีเดียว ไม่รู้ว่าที่กินๆไปนี่เอาไปเก็บไว้ที่ไหนกัน
นี่คงเป็นความมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งของเค้า
โชคดีที่พอผมกลับมาพร้อมกระต่ายหนึ่งตัว (ลู่หานทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ตอนเห็นผมหิ้วซากกระต่ายกลับมา แต่พอเริ่มเอาขึ้นย่าง เค้าก็เลิกสงสารกระต่ายทันที ในโลกใบนี้ ปากท้องสำคัญกว่ากันเยอะ) ลู่หานก็เลิกงอน(?) แล้วกลับมาคุยกับผมเหมือนเดิม บรรยากาศเลยไม่อึดอัดเหมือนก่อนหน้า
ฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ อากาศรอบด้านก็เริ่มหนาวขึ้นเช่นกัน แต่เรานั่งกินกันอยู่ข้างกองไฟ เลยอุ่นสบายดี ลู่หานติดขนมมาชแมลโล่มาด้วย (เค้าไม่เคยขาดของหวานเลยจริงๆ) หลังจากจัดการกับกระต่ายหนึ่งตัวเสร็จ เราก็เอาเจ้าขนมกลมๆสีขาวนั่นปิ้งกินต่อ
“นี่คริส เราจะเจอกวางขาวกันหรือเปล่านะ?”
อยู่ดีๆลู่หานก็ถามสิ่งที่ผมเองก็อดสงสัยไม่ได้ ผมส่ายหัวแทนคำตอบ กวางขาวถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับต้นๆของดาวดวงนี้ แทบจะเป็นตำนานเลยก็ว่าได้ แต่ผมเองก็เป็นชนเผ่ามังกรที่หายากเช่นกัน ไหนจะเจ้าอี้ซิงที่เป็นยูนิคอร์น แล้วยังเจ้าชานยอลที่เป็นนกไฟอีก ดังนั้นจะถือว่าโอกาสหากวางขาวเจอเป็นศูนย์เสียเลยก็ไม่ถูกนัก
เพียงแต่….เราจะเจอกวางขาวในรูปแบบไหน แล้วใครจะเป็นคนที่กวางขาวยอมโผล่มาให้เจอนี่สิ
“นายเองก็เป็นกวาง น่าจะรู้ดีกว่าชั้นไม่ใช่หรือไง?”
ลู่หานค้อนผมเข้าให้ แต่ขอทีเถอะ หน้าแบบนั้นสำหรับผมเรียกว่า ‘น่ารัก’ ไม่เข้าข่าย ‘น่ากลัว’ เลยแม้แต่น้อย ผมหัวเราะฮึๆในลำคอ เอี้ยวตัวหลบลูกคริสตัลใสสองลูกที่พุ่งตรงเข้ามาหา…..ขอบคุณทักษะการต่อสู้ที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็กจริงๆ เจ้าลูกกลมๆนั่นคงจะหนักน่าดู ขืนโดนเข้าไปจังๆต้องมึนแน่
“อารมณ์รุนแรงจังเลยนะเรา” ผมแหย่เค้าต่อ ถึงจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลยก็ตามที โชคยังเข้าข้างผมอยู่เมื่อลู่หานดูจะไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อแล้ว
“ไม่รู้ว่าพวกนั้นจะเป็นยังไงบ้าง….เป็นห่วงจัง ปกติเราไม่เคยแยกกลุ่มกันไปแบบนี้เลย”
ผมนึกตามเสียงหงอยเหงาของลู่หาน ถ้าถามจากใจจริง ผมก็ห่วงลูกทีมอีกสี่คนอยู่ไม่น้อย แต่คนที่ผมห่วงที่สุดในทีมก็มาอยู่กับผมแล้ว (เหลือบ) ผมเลยไม่ห่วงจนถึงขั้นกังวล ยังไงซะ เจ้าพวกนั้นก็คือคนที่ผ่านการทดสอบของผมมาได้นี่นะ
ใช่ ลู่หานเองก็ผ่านเหมือนกัน…..แต่คงต้องขอบอกตามตรงว่าผมให้เค้าผ่านเพราะความสามารถด้านการใช้พลังจิต ไม่ใช่ทางพลังกายอย่างคนอื่นๆ
“ไม่ต้องห่วง เผลอๆตอนนี้พวกนั้นอาจจะกำลังสนุกกันอยู่ก็ได้” อย่างน้อยผมก็คิดว่าพวกนั้นคงสนุกที่จับผมกับลู่หานมาอยู่ทีมเดียวกันได้ อี้ซิงรู้ว่าผมแอบชอบลู่หาน แล้วผมเอาหัวเป็นประกันว่ามินซอก จงแท และจื่อเทาเองก็รู้แน่ๆ….จะว่าไป ในจำนวนสิบสององครักษ์ผู้พิทักษ์ต้นไม้แห่งชีวิต เหมือนจะมีแค่เจ้าตัวเท่านั้นแหละที่ไม่รู้ว่าผมชอบเค้า
ผมปรารถนาให้มันยังคงเป็นความลับต่อไป…..อย่างน้อยก็จนกว่าผมจะมีความกล้าพอ
“เฮ้อ~~ อิ่มจัง นอนดีกว่า…..” ลู่หานว่าแล้วก็ยืนขึ้น เอาผ้าคลุมไหล่พาดตัวอย่างลวกๆแล้วก็มุดเข้าไปในกระโจมหลังเล็ก ผมมองตามเค้าไปพร้อมรอยยิ้ม เหมือนเด็กน้อยจริงๆ กินอิ่มแล้วก็นอน เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ตื่นมาเล่น(?)ต่อ ช่างเป็นชีวิตที่มีความสุขดีจริงๆ
วันนี้อากาศหนาวน่าดูชม พระจันทร์ก็ใกล้จะเต็มดวงแล้ว ผมยอมรับว่ามันสวยมาก ดวงจันทร์สองดวงลอยเด่นกลางท้องฟ้าที่มีหมู่ดาวสีเงินพร่างพราว แต่ความงดงามนี้ก็ตอกย้ำให้รู้ว่าพลังมังกรในตัวผมกำลังเพิ่มขึ้น การควบคุมตัวเองจะยากขึ้นทุกที ทุกที
เห็นทีพรุ่งนี้จะต้องเว้นระยะห่างจากลู่หานให้มากขึ้นกว่าเดิม
“ทำไมยังไม่เข้ามาอีกล่ะคริส?”
“หา!?” ผมนึกว่าหูแว่วไปเอง แต่พอหันไปมองทางกระโจม ผมก็เห็นลู่หานโผล่แค่หัวออกมาถาม พอเห็นว่าผมยังยืนทื่ออยู่อย่างนั้น เค้าก็พูดต่อ
“นายน่ะ จะไม่เข้ามานอนหรือไง? มานอนได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้เริ่มหากันจริงๆจังๆเสียที”
“นายหมายความว่ายังไง? ให้…..ให้ชั้นเข้าไปงั้นเหรอ??” ที่ผ่านมา แม้แต่จะคิดผมยังไม่กล้าเลย แต่คำพูดของลู่หานมันชวนให้ตัดสินไปได้แค่อย่างเดียวเท่านั้น….นี่ลู่หานชวนผมเข้าไปนอนด้วยกัน? ในกระโจมแคบๆแบบนั้นนั่นน่ะเหรอ!?
“แล้วใจคอนายจะนอนหนาวข้างนอกคนเดียวหรือไง?”
“ลู่หาน ชั้นเป็นมังกร มีพลังไฟนะ ไม่หนาวตายหรอกน่า” ผมพยายามอธิบายอย่างใจเย็น แต่เสียงหัวใจเต้นแรงมาก นี่ผมกำลังตื่นเต้นอยู่ใช่มั้ย? อย่าคิดฟุ้งซ่านไปไกลเลยน่าอู่อี้ฝาน!!
“งั้นก็ยิ่งดีใหญ่เลย ชั้นขี้หนาว นายช่วยมาทำให้ชั้นอุ่นจนถึงเช้าเลยนะ คริส~~”
อู่อี้ฝาน สงบใจไว้ ลู่หานไม่ได้คิดอะไร
เค้าแค่บริสุทธิ์เกินไป เค้าไม่ได้คิดอะไรทำนองนั้น……
เค้าไม่ได้ตั้งใจจะ ‘ยั่ว’ แกซักนิด ไม่เลย…!!!
“ลู่หาน คือว่า……”
“เร็วเข้าสิ คริส คืนนี้มันหนาวนะรู้มั้ย!?” ลู่หานเริ่มเบ้หน้า ตากลมดูแวววาวน่าสงสาร แถมเค้ายังบุ้ยปากใส่ผมอีกด้วย ถึงไม่ส่งเสียงหวานๆอ้อนๆมาเป็นกำลังเสริมด้วย ผมก็เห็นแววแพ้ลอยมาแต่ไกล
ทำท่าว่าคืนนี้คงต้องทำสงครามทางจิตกับเจ้ามังกรทั้งคืน…..
Tbc.
※ ※ ※ ※ ※ ※ ※ ※ ※ ※ ※ ※
Note : ผ่านมาสามตอน รู้สึกชอบบรรยายผ่านท่านคริสยังไงไม่รู้ค่ะ (555+) สมแล้วจริงๆที่เมนคริสซัส (ฮา)
จะพยายามพัฒนาการบรรยายผ่านเสี่ยวลู่ให้ดีขึ้นค่ะ เพราะถึงเวลาคริสซัสกลางร่าง เราต้องให้เสี่ยวลู่เป็นคนบรรยาย #หัวเราะฮึๆ
แชปหน้าเตรียมพบกับคุณมังกร (AKA ท่านคริสดาร์คไซด์) ได้เลยค่า~~~~
(เร็วไปมั้ย? ต้องเร็วสิคะ กำหนดไว้ให้จบในเจ็ดตอนนี่นะ…..)
ความคิดเห็น