ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC][EXO-KrisHan] ☣MADNESS ☣

    ลำดับตอนที่ #2 : [02.] sTuPiD cUpId

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.47K
      2
      19 ส.ค. 55

    © Tenpoints !


     



     

    [02.]  sTuPiD cUpId

     

     

     

    # KRIS’s SIDE

     

     

     

    ผมน่าจะรู้ ผมน่าจะสังหรณ์ใจ

    ถ้าตอนนั้นผมฉุกคิดถึงท่าทีของซูโฮ มันอาจไม่เกิดขึ้น

     

     

    แต่สุดท้ายมันก็เกิดไปแล้ว เกิดเร็วแบบที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำไป…!

     

     

    เพื่อนรัก เชื่อเถอะ นายจะขอบคุณชั้นในซักวันหนึ่ง

     

     

    ใช่สิ แล้วผมก็เตรียมของขวัญ ขอบคุณไว้ให้เจ้าเพื่อนแสนดีเรียบร้อยแล้วด้วย (ฮึ)

     

     

    สาบานเลยว่าคราวหน้าที่เจอกัน ผมจะเผาคิมจุนมยอนให้ไหม้เป็นจุล ถึงจะต้องเสี่ยงกับความโกรธเกรี้ยวของคยองซูก็ช่างประไร เจ้าคนจุ้นจ้านรายนี้ต้องโดนสั่งสอนเสียบ้างถึงจะสำนึกว่าไม่ควรมายุ่งกับเรื่องของคนอื่น

     

     

    คริส เป็นอะไรหรือเปล่า?”

     

     

    ผมพยายามไม่แสดงท่าทางตื่นตกใจอะไรออกไป ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย ต้นเหตุที่ทำให้ผมครองสติไม่ค่อยอยู่ก็คือเจ้าของพลังเทเลไคเนซิสรายนี้นี่เอง ลู่หานในชุดแขนกุดสีขาวและกางเกงเข้ารูปสีโทนเดียวกัน เครื่องแบบประจำตำแหน่งของเค้า - ลอยละล่องมาหาผมพร้อมลูกบอลคริสตัลราวๆสิบสองลูก ผมเห็นหน้าตัวเองสะท้อนบนเจ้าลูกกลมๆลอยได้เหล่านั้น นึกเบาใจที่ยังรักษาสีหน้าเป็นปกติอยู่

     

     

    ต่อหน้าคนที่คุณหลงรัก คุณคงไม่อยากเสียฟอร์มให้เค้าเห็นใช่มั้ย?

     

     

    นี่ ได้ยินชั้นหรือเปล่า อู่อี้ฝาน!?” เสียงของลู่หานดังขึ้นอีกระดับหนึ่ง สงสัยผมจะทำให้เค้าไม่สบอารมณ์เสียแล้วสิ ผมผงกศีรษะรับ ระหว่างที่ยืนจ้องตากลมสวยเป็นประกายของลู่หานจนเพลิน ปากชมพูสวยก็บุ้ยใบ้เหมือนจะขอให้ผมพูดมากกว่าเดิม

     

     

    มีใครปฏิเสธลู่หานได้หรือเปล่าล่ะ?

     

     

    ไม่เป็นไร แล้วนี่….คนอื่นๆล่ะ?”

     

     

    แยกกันไปตั้งแต่ตอนที่นายมัวแต่เหม่อนั่นล่ะลู่หานเอ็ดผมแล้วสะบัดหน้าหนี กระดิกนิ้วเพียงนิดเพื่อเรียกถุงสัมภาระใบน้อยให้ลอยขึ้นจากพื้น ผมเดินตามเค้าไปเงียบๆ ระหว่างปล่อยให้ลู่หานได้พูดออกมาเรื่อยๆ อี้ซิงกับจงแทไปหาทางเหนือ ส่วนมินซอกกับจื่อเทาไปทางใต้ ตอนนี้เหลือแค่ทางตะวันตกให้เราหา รีบไปเถอะ เดี๋ยวมืดแล้วจะมองอะไรยาก

     

     

    คำพูดของลู่หานทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่าจุดประสงค์ในการเดินทางครั้งนี้ ไม่ได้อยู่ที่การจงใจให้ผมกับลู่หานได้อยู่ใกล้กันเพียงอย่างเดียว

     

     

    ใช่แล้ว ทุกอย่างมันเริ่มเมื่อสามวันก่อน เมื่อตอนที่มีข่าวของ กวางขาวลอยมาเข้าหูฝ่าบาท

     

     

    ดวงดาวของเราถือว่า กวางขาวเป็นสัตว์นำโชค เป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์มั่งคั่ง ว่ากันว่า ต้นไม้แห่งชีวิตจะประทานกวางขาวมาให้ในยุคของประมุขที่ควรคู่

     

     

    ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากวางขาวได้มาจุติในยุคของฝ่าบาท และแน่นอน ฝ่าบาทมีพระประสงค์จะรับกวางขาวศักดิ์สิทธิ์มาเลี้ยงดูเป็นสัตว์คู่บารมี

     

     

    แม้เป็นเรื่องน่ายินดี แต่กลับต้องปิดมันเป็นความลับ เพราะหากมีคนออกล่ากวางขาวกันเป็นจำนวนมาก คงได้เกิดความวุ่นวายกันยกใหญ่ เพราะมีตำนานเล่าขานกันมาว่า เขาของกวางขาวเป็นยาอายุวัฒนะ แล้วผู้ที่ทำให้กวางขาวพึงใจ ก็จะสามารถขอพรได้หนึ่งข้อด้วย

     

     

    แล้วใครอีกเล่าที่ฝ่าบาทจะวางใจให้ตามหาสิ่งมีชีวิตที่แสนล้ำค่ำเช่นนี้ หากไม่ใช่เหล่าองครักษ์ทั้งสิบสอง

     

     

    ด้วยลูกเล่นร้อยเล่ห์ของเจ้าซูโฮ เจ้าหมอนั่นก็สามารถทูลให้ฝ่าบาทเรียกใช้หน่วยองครักษ์ตะวันออกในภารกิจลับนี้ได้สำเร็จ คิมจุนมยอนเป็นหลานของฝ่าบาท แถมเจ้าตัวยังยิ้มเก่ง ช่างเจรจา ทำไมฝ่าบาทจะไม่คล้อยตามเล่า?

     

     

    ให้ตาย ยิ่งนึกย้อนกลับไปยิ่งอยากจะฆ่าคิมจุนมยอนจริงๆ!!!

     

     

    ถ้านายไม่เต็มใจไปกับชั้น เราแยกกันหาก็ได้นะ จะได้เร็วขึ้นด้วย

     

     

    ผมแทบสะดุดก้อนหินกับคำพูดลอยๆของลู่หาน ปล่อยเค้าไว้ตามลำพังน่ะหรือ? ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆถ้าปล่อยลูกกวางตากลมมนไว้ในป่ารกทึบแบบนี้ ถึงลู่หานจะเป็นหนึ่งในองครักษ์ทั้งสิบสอง แต่ทักษะการปกป้องตัวเองมีน้อยมาก น้อยยิ่งกว่าอี้ซิงที่เป็นผู้เยียวยาของกลุ่มเสียอีก

     

     

    ลู่หานเบิกตาโตเมื่อเห็นว่าผมเคลื่อนกายเพียงชั่ววูบก็มายืนประชิดติดตัวเค้า ดวงตาของเค้ามีแต่ความพรั่นพรึงและหวั่นใจ เหมือนหวาดกลัวที่จะอยู่ใกล้ผม

     

     

    ผมเองก็กลัวการอยู่ใกล้ลู่หาน

    ไม่ได้กลัวเค้าทำร้าย แต่กลัวตัวเองจะไปทำร้ายเค้าเสียมากกว่า

     

     

    นี่ก็ใกล้คืนวันเพ็ญแล้ว พลังมังกรในตัวผมยิ่งพลุ่งพล่านได้ง่าย เป็นการดีที่จะอยู่ห่างๆลู่หานเอาไว้

     

     

    แต่ถ้าผมคิดผิดล่ะ?

    เกิดมีพวกสัตว์ประหลาดหรือพวกจิตวิปลาสเข้ามาทำร้ายเค้าระหว่างที่ผมไม่อยู่ แบบนั้นไม่ยิ่งแย่กว่าหรือ…!?

     

     

    ผมรู้ว่าการทำแบบนี้มันเสี่ยง แต่ผมไม่อาจปล่อยเค้าไว้ตามลำพังได้

     

     

    ไม่ต้องหรอก ไปด้วยกันนี่แหละ ชั้นจะได้อุ่นใจ ไม่ต้องคอยห่วงว่านายจะเป็นอะไรไป

     

     

    ผมคว้ามือน้อยนั้นมาจับ รู้สึกได้ว่าเค้าสั่น ลู่หานขบริมฝีปากแน่น แก้มขาวก่ำสีเข้มขึ้น แถมยังก้มหน้าหลบสายตาผมด้วย

     

     

    จะน่ารักเกินไปแล้วนะเจ้าลูกกวางน้อย…..

     

     

    “…!!...” ผมรีบไล่เสียงในหัวออกไปทันที รู้ดีว่านั่นคือเสียงของมังกร เสียงที่ปรารถนาอยากครอบครองลู่หาน แค่จับมือยังเป็นเสียขนาดนี้ ดูท่าว่าการควบคุมตัวเองของผมจะแย่ลงทุกที

     

     

    ข้าแต่ต้นไม้แห่งชีวิตอันเป็นมารดร โปรดประทานความเข้มแข็งให้ลูกด้วยเถิด

    อย่าให้ลูกพ่ายแพ้ต่อความอ่อนแอในจิตใจนี้เลย…..

     

     

    .

    .

    .

     

     

    # LUHAN ’s SIDE

     

     

    ผมรู้ ผมกำลังทำตัวงี่เง่า

    น้อยใจเป็นเด็กๆ หงุดหงิดใส่เค้า แถมกำลังพาลเอากับคริส ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของเค้าเลย

     

     

    แย่มาก ลู่หาน ทำไมเป็นเด็กไม่รู้จักโตแบบนี้

    แค่เพื่อนทรยศทิ้งให้ต้องอยู่ตามลำพังกับคนที่อยากถอยห่างให้มากที่สุดก็ใจฝ่อแล้วหรือไงกันนะ…?

     

     

    อา คิมมินซอก เสร็จภารกิจเมื่อไหร่ ชั้นจะซัดนายด้วยลูกคริสตัลคู่ใจจนนายกลายเป็นคิงออฟซาลาเปาแห่งดาว EXO เลย คอยดู…!!

     

     

    อะไรเล่า ลูฮัน ก็นายน่ะฝีมือต่อสู้อ่อนหัดที่สุดในกลุ่ม ให้อยู่กับตุ้ยจ่างที่บู๊เก่งที่สุดน่ะถูกแล้ว อย่าบ่นไปเลยน่า

     

     

    เสียงพูดทับถมของมินซอกยังดังก้องในหัวผม ที่ร้ายยิ่งกว่าคือเสียงหัวเราะสนับสนุนของทั้งอี้ซิง จงแท และจื่อเทา  ใช่สิ พลังที่ผมมี ไม่จำเป็นต้องฝึกฝนทางกายภาพนี่ แล้วหุ่นผมมันก็ไม่ให้เสียด้วย

     

     

    โว้ย! ยิ่งพูดยิ่งเหมือนด่าตัวเอง!!!!

     

     

    ผมไม่เถียงหรอกว่าการจัดกลุ่มแบบนี้ค่อนข้างดี แต่ผมไม่อยากอยู่กับคริสตามลำพังนี่นา….

     

     

    อย่าเข้าใจผิดนะ ผมไม่ได้รังเกียจคริส เวลาอยู่กับคริสน่ะอบอุ่นมาก ผมไม่จำเป็นต้องกลัวเลยว่าจะมีใครมาทำอันตราย ก็แหม เค้าเป็นมังกรจำแลงนี่นา แล้วเผ่ามังกรก็ขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจด้วย

     

     

    ไอ้อาการใจสั่น ร้อนวูบวาบในกายผมต่างหาก ที่ทำให้ผมไม่ค่อยอยากอยู่ใกล้เค้า

     

     

    อย่างที่ผมเคยบอกไว้….การอยู่ใกล้คริสทำให้ผมพลังพลุ่งพล่านเอาได้ง่ายๆ

     

     

    ตอนนี้เองก็เช่นกัน เห็นได้จากการที่ลูกบอลคริสตัล (อาวุธประจำตัวผม) ลอยวนไปมาอย่างสะเปะสะปะ คริสคงคิดเอาเองว่าผมทำแบบนี้เพื่อป้องกันเราจากอันตราย แต่ความจริงแล้วที่มันยังลอยอยู่แทนที่จะนอนนิ่งอยู่ในถุงสัมภาระรวมกับของใช้อื่นๆ เป็นเพราะผมนี่แหละ

     

     

    พลังของผมกำลังพลุ่งพล่านมากขึ้นทุกที ต้องโทษมือใหญ่ๆของคริสที่กุมมือผมไว้ไม่ยอมปล่อยนี่ล่ะ…!!

     

     

    กว่าจะออกจากป่าเอเดนได้ เราคงต้องเดินกันอีกไกล ไหวหรือเปล่า ลู่หาน?” คริสถามผมโดยไม่หันมามอง ระหว่างที่เดินฝ่าพงหญ้ามา เค้าก็จะคอยถางทางให้ผมเดินได้สะดวกขึ้น ตาคมเพ่งตรงไปเบื้องหน้าเหมือนจะประเมินสถานการณ์ คำถามที่ส่งมาให้ผมก็คงมาจากผลการประเมินกระมัง?

     

     

    ไหวสิ ไม่ไหวก็บินเอาการบินที่ผมว่าก็หนีไม่พ้นการใช้พลังเคลื่อนย้ายร่างกายตัวเองนั่นล่ะ เป็นรูปแบบการใช้พลังพื้นฐานที่ผมค่อนข้างโปรดปรานทีเดียว แต่ยังไงก็ชินกับการเดินด้วยขาสองข้างของตัวเองมากกว่าอยู่ดี

     

     

    ไม่ยักรู้ว่านายบินได้ด้วย?” คริส(คนที่บินได้จริง)ยกยิ้มขำ ดีใจเหลือเกินที่คริสไม่หันมามองผม เพราะหน้าผมตอนนี้มันจะต้องแดงแจ๋แน่ๆ คริสเป็นคนไม่ค่อยยิ้ม แต่พอยิ้มทีก็ทำเอาคนมองแทบจะหยุดหายใจ

     

     

    เค้ามีรอยยิ้มที่สวยมาก……สวยจนผมไม่อยากให้ใครเห็น

    บ้ามากๆเลยใช่มั้ยล่ะ?

     

     

    อยากแข่งกันหน่อยมั้ยล่ะ?” คำประกาศแบบไม่ทันคิดของผมทำให้คริสหยุดเดินแล้วหันมามอง เค้าจ้องผมอยู่อย่างนั้นโดยไม่พูดอะไร ทำไมกันนะ….แค่เค้ามอง หัวใจผมก็เริ่มเต้นผิดจังหวะแล้ว

     

     

    ไม่ไหวหรอก นายสู้ชั้นไม่ได้แน่คริสฉีกยิ้มกว้างขึ้นอีก เหมือนขำกับเรื่องที่ผมพูดเสียเหลือเกิน ซึ่งเอาเข้าจริงๆผมก็รู้สึกว่ามันงี่เง่า มีอย่างที่ไหน ไปท้าแข่งบินกับพวกชนเผ่ามังกร…? การอยู่ใกล้คริสนั้น นอกจากจะทำให้ผมพลุ่งพล่านแล้ว สติก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวด้วยหรือไงกันนะ พลังของ สายใย ชักจะน่ากลัวเกินไปแล้วสิ

     

     

    ตลอดชีวิต ผมขอรู้สึกแบบนี้กับคนเพียงคนเดียวก็พอ

    แค่คริสคนเดียวก็พอแล้วจริงๆ

     

     

    มันน่ากลัวและอันตราย….แต่ขณะเดียวกันกลับชวนให้ลุ่มหลงบอกไม่ถูก

     

     

    นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจเข้าใกล้คริสอีกครั้ง แทนที่จะหลบหน้า

    ก็ในเมื่อจะหลบหรือพบหน้า ความร้อนรุ่มในอกนี่ก็ไม่หมดไป แล้วผมจะทรมานตัวเองไปทำไม

     

     

    ในเมื่อใจจริงแล้ว ถึงจะหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่ผมก็อยากอยู่ใกล้ๆคริสเช่นกัน

    เอาแต่ใจ…..? ก็คงใช่แหละ

     

     

    นายกำลังดูถูกชั้น อู่อี้ฝานผมสะบัดมือเค้าออกแล้วยกยิ้มร้าย เริ่มรู้สึกคึกคักขึ้นมาเมื่อเจอคำท้าทาย เรามาแข่งกัน ใครบินถึงน้ำตกเมทัลก่อนชนะ คนแพ้ต้องเรียกคนชนะว่า ท่านแล้วเป็นขี้ข้าให้คนชนะหนึ่งเดือน

     

     

    อย่าเลย เก็บแรงไว้เถอะ เรายังต้องเดินทางกันอีกยาว แล้วเราก็มาทำงาน ไม่ได้มาเล่น….”

     

     

    กลัวแพ้ก็บอกมาเถอะ

     

     

    ได้ผล ประกายในตาคริสเปลี่ยนไป ท่าทางของเค้าทำให้ผมยกยิ้มกว้าง เพราะรู้จักคริสมานานพอจนรู้ว่า ผมกำลังจะได้ในสิ่งที่ต้องการ

     

     

    คริสดูเป็นผู้ใหญ่ก็จริง แต่เกลียดความพ่ายแพ้มาก

     

     

    ได้ ชั้นต่อให้นายสิบห้านาทีเลย

     

     

    ผมว่า ผมคงจะได้ระบายพลังในตัวผ่านเกมส์ฆ่าเวลานี่เสียแล้วสิ….

     

     

    Tbc.

     

     

     

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×