คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ลางแห่งการจากลา
1 สัปดาห์ผ่านไป
ชินยังคงใช้ชีวิตอย่างสงบและมีความสุขกับสเตล่าในห้วงมิติแห่งประตูระหว่างภพ มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของชิน อาสึกะเลยก็ว่าได้...ตลอดทั้งวันเขาได้อยู่กับหญิงที่ตนรัก สเตล่าย้ายมานอนกับเขาทุกคืน ตื่นเช้ามาก็ได้เห็นใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มรวมถึงเสียงหวานใสที่ทักทายชินทุกเช้าว่า
“อรุณสวัสดิ์ ชิน”
“อรุณสวัสดิ์สเตล่า”
ชินทักทายพร้อมกับจะลุกขึ้นนั่งแต่ติดที่ว่าสเตล่านอนหนุนแขนของเขาอยู่ทำให้ไม่สามารถลุกได้อย่างใจคิด ชินจึงพูดกับสาวน้อยในอ้อมแขนว่า
“สเตล่า...ลุกขึ้นเถอะ ตอนนี้เช้าแล้ว ถ้าเรายังไม่รีบลุกขึ้นมาล่ะก็จะต้องถูกคุณนาธาลกับสติงโกรธแน่ๆเลย”
“ก็...สเตล่ายังไม่อยากลุกนี่...นอนกับชินอบอุ่นดีออก...ขอนอนต่ออีกหน่อยนะ”
พูดจบสเตล่าก็ยิ้มแล้วหลับตานอนซุกไปที่อกของชินแล้วนอนด้วยท่าทางมีความสุขยิ่งนัก ท่าเหมือนลูกแมวน้อยนั้นทำเอาชินแทบใจอ่อนเลยทีเดียว...หรือว่าเราจะปล่อยให้สเตล่านอนอีกสักพัก...ชินเริ่มลังเลแต่ดูจากแสงสว่างนอกห้องแล้ว เวลาคงไม่เช้าอย่างที่คิดเสียแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ต้องปลุกแม่สาวน้อยขึ้นมาจากที่นอนให้ได้ เขาจึงกระซิบที่ข้างหูสเตล่าอีกครั้งว่า
“ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม...ถ้าสเตล่ายังไม่ลุกอีกล่ะก็...ฉันจะใช้ไม้ตายแล้วนะ” ชินขู่
สาวน้อยสะดุ้งนิดนึงก่อนจะช้อนตาขึ้นมามองชินพร้อมกับกล่าวเสียงแผ่วเหมือนร้องขอความเห็นใจว่า
“ชินจะใช้ไม้ตายนั้นกับสเตล่าจริงๆหรือ”
“ใช่...ถ้าเธอยังไม่ลุกอีกล่ะก็”
“สเตล่าไม่กลัว...ชินต้องไม่ทำร้ายสเตล่าด้วยวิธีนั้นแน่ๆใช่ไหม”
ปากสเตล่าบอกว่าไม่กลัวแต่เริ่มโก่งตัวเตรียมตั้งรับ ถ้าหากชินจะใช้ไม้ตายนั่น เธอก็ขอสู้ตายเหมือนกัน
“หึ..หึ..นี่คือคำตอบของเธอใช่ไหมสเตล่า งั้นฉันก็ไม่ต้องนับให้เสียเวลา...เตรียมใจไว้ให้ดีนะสเตล่า”
ชินพูดพลางใช้แขนซ้ายที่สเตล่าใช้เป็นหมอนหนุนนอนจับไหล่ของสเตล่าไว้พลางพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างบางนั้นพร้อมกับระดมจูบแล้วใช้ลิ้นสำรวจไปทั่วไปจนถึงซอกหู ขบติ่งหู แล้วใช้ลิ้นเลียไล่ไปตามซอกคอ ส่วนมือขวานั้นก็ทำการจี๋เอวกลมกลึงของภูตสาว สร้างความเสียวและจั๊กจี้ให้สเตล่าเป็นอย่างมาก แม้ภูตสาวน้อยจะพยายามดิ้นหนีออกจากร่างสูงที่กักเธอไว้ในอ้อมแขน แต่ไม่สำเร็จ ชินล็อคตัวเธอเอาไว้มั่นคงแถมยังทำให้เธอจั๊กจี้ที่ซอกคอและเอวของเธอจนต้องบอกออกมาว่า
“ชิน...หยุดเถอะ...สเตล่ายอมลุกแล้ว...สเตล่าจั๊กจี๋...อย่าทรมานสเตล่าด้วยวิธีนี้เลย....ต่อไปสเตล่า...จะเชื่อฟัง...ชิน..ทุกอย่างเลย” สเตล่าพูดพลางหอบจากการดิ้นเมื่อครู่
“ก็ได้...เอ้า...ลุกขึ้นได้แล้ว...วันนี้เวรสเตล่าเฝ้าประตูมิใช่หรือ”
ชินลุกไปจากตัวของสเตล่า ภูตสาวบ้าจี้นอนหอบหายใจสักพักหนึ่งก่อนจะลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างไม่อิดออดเหมือนเมื่อครู่ โดยมีชินมองตามหลังสเตล่าไปจนลับตา เขาก็คิดจะลุกไปเปลี่ยนชุดบ้างแต่ขณะที่กำลังจะลุกเขาก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก ลมหายใจเข้าออกติดขัดเล็กน้อยก่อนจะหายเป็นปกติ
“นี่เราเป็นอะไรไปเนี่ย...เราไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนนี่นา...หรือว่า...”
ชินนึกได้เท่านี้ก็หน้าซีดทันที เพราะเขานึกได้ถึงคำพูดที่สเตล่าเคยบอกเขามาว่า
“นายท่านเคยพูดกับสเตล่าและสติงว่ามนุษย์ไม่สามารถอยู่อาศัยที่ดินแดนระหว่างภพแห่งนี้ได้เด็ดขาด...”
“เวลาที่เราจะอยู่ด้วยกันนี้หมดเสียแล้วหรือ...ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า...ลูกไม่เคยวิงวอนขอสิ่งใดกับท่านมาก่อน...แต่วันนี้ลูกอยากจะขอ...ขอให้ลูกได้อยู่ที่นี่...ได้อยู่ข้างๆหญิงที่ลูกรักให้นานกว่านี้...ลูกไม่อยากจากเธอไป...ได้โปรดหยุดเวลาให้ลูกที...”
แม้จะรู้ว่าเสียเปล่า...สิ่งที่เขาร้องขอนั้นไม่มีวันเป็นความจริงได้ แต่ชินก็ยังอยากอ้อนวอนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยบันดาลความต้องการของเขาให้เป็นความจริง...แล้วชินก็ต้องถอนใจเมื่อทุกสิ่งยังคงเหมือนเดิม ก่อนที่เขาจะลุกไปเปลี่ยนเสื้อเพื่อติดตามสเตล่าไปทุกหนแห่ง...ก่อนที่เขาต้องแยกจากเธอไป
********************
ทางด้านสติงที่เห็นสเตล่าเดินจูงมือเจ้าหนุ่มชินเดินออกจากบ้านไปนั้น เขาก็เดินไปที่ห้องของนายหญิงทันทีเพื่อถามคำถามบางเรื่องที่เขาคับข้องใจ
“นายท่าน...ข้าขอเวลาท่านสักครู่ได้ไหมครับ”
“ได้สิ...เจ้ามีอะไรจะถามข้างั้นหรือ สติง”
“เรื่องของสเตล่ากับเจ้าหนุ่มนั่น ท่านเคยบอกกับพวกข้าว่ามนุษย์ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ ทั้งๆที่ท่านก็น่าจะรู้ว่าอนาคตของทั้งสองไม่มีวันเป็นจริงแล้วทำไมนายท่านปล่อยให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองเกินเลยไปแบบนั้น ผลที่สุดทุกฝ่ายก็ต้องเสียใจในบั้นปลาย...”
สติงพูดด้วยสีหน้าเห็นใจ...เขารักสเตล่าเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง และเคยรับรู้ถึงความเสียใจที่สเตล่าต้องจากกับเจ้าหนุ่มนั่นในครั้งก่อน เขาไม่อยากเห็นสเตล่าต้องเป็นอย่างนั้นอีก ซึ่งนาธาลก็เข้าใจความรู้สึกของสติงเช่นกัน เธอจึงตอบสติงไปว่า
“เพราะข้าเองก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เช่นกัน ความคิดถึงและคนึงหาของสเตล่านั้นรุนแรงและลึกซึ้งยิ่งนัก...จนสามารถสร้างด้ายแดงแห่งพรหมลิขิตได้ด้วยตนเอง มันเกินกำลังที่ข้าจะหยุดยั้งได้ ดังนั้นข้าจึงไม่ได้ห้ามปรามความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของทั้งสองแต่อย่างใด เพราะข้าจะให้ความทรงจำนี้ปลอบใจและเยียวยาทั้งสองจากความเศร้าโศกเมื่อต้องจากกัน...ซึ่งก็อีกไม่นานแล้ว”
“แล้วถ้าคราวนี้เจ้าหนุ่มชินนั่นออกไปจากที่นี่แล้ว เขาจะสามารถมาที่นี่ได้อีกหรือไม่”
“ข้าตอบเจ้าไม่ได้ เพราะสิ่งที่ผ่านมาสเตล่าได้ทำในสิ่งที่ข้าคิดไม่ถึงมาแล้ว เหตุการณ์ในภายภาคหน้าข้าจึงไม่กล้าคิดอะไรล่วงหน้าอีก...เจ้าก็จงปล่อยวางเรื่องนี้เสียเถิดสติง ปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตาที่ได้ลิขิตไว้ ช่วงระหว่างนี้ก็ให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันไปเถอะ...”
“ครับ ถ้างั้นข้าขอตัวก่อน”
สติงออกไปนอกห้องอย่างเงียบๆเพื่อทำหน้าที่ของตนต่อไป(ดูแลความเรียบร้อยในบ้าน) ส่วนนาธาลมองจนสติงเดินไปไกลแล้วก็เปรยขึ้นมาเบาๆว่า
“หรือข้าจะต้องเสกภูตรับใช้เพิ่มขึ้นเสียแล้ว...ตอนนี้เจ้าคงเหงามากสินะสติง เพราะสเตล่าตอนนี้ทุกลมหายใจเข้าออกของนางเป็นชิน อาสึกะตลอดเวลา คงต้องรออีกหน่อย เพราะข้าก็มีกฎในการสร้างภูตรับใช้เหมือนกัน”
**********************
กล่าวถึงทางชินและสเตล่าที่มาเฝ้าตรงประตูระหว่างภพ ภูตสาวสังเกตเห็นว่าชายคนรักของตนดูเศร้าซึม สีหน้าไม่แจ่มใสเอาเสียเลย เธอจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า
“ชิน เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าเศร้าอย่างนี้ล่ะ โกรธสเตล่าเหรอ”
ชินหันมองสเตล่าและใช้มือทั้งสองข้างแตะที่ใบหน้าของภูตสาวน้อยอย่างแผ่วเบาพร้อมกับยิ้มแล้วพูดว่า
“ฉันไม่เป็นไรหรอก สเตล่าน่ะคิดมากไปเอง ฉันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว...อีกอย่างฉันรักสเตล่ามากขนาดนี้ แล้วฉันจะโกรธสเตล่าได้อย่างไรกัน”
“ชินไม่โกรธสเตล่าแน่นะ” สเตล่าถามเพื่อความแน่ใจ
“แน่สิ” ชินตอบ
ได้ฟังคำตอบแล้วสเตล่าก็ยิ้มอย่างดีใจพลางโผกอดชินทันทีจนเขาตั้งหลักไม่ทัน ผลก็คือร่างของชินไปติดต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ชินเองก็กอดสเตล่าตอบเช่นกัน แม้จะมีอาการแน่นหน้าอกเกิดขึ้นเขาก็ไม่สนใจและไม่คิดจะให้สเตล่ารู้ด้วย แม้เขาจะต้องตายในอนาคตแต่จะไม่มีวันแสดงอาการให้เธอรู้เด็ดขาด...ชินคิดด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“สเตล่ารักชินที่สุดเลย....ชิน?...”
สเตล่าพูดพลางคลอเคลียอยู่ในอ้อมกอดของชายคนรัก และก็เริ่มรู้สึกผิดสังเกตเมื่อชินกอดเธอแน่นมากทีเดียว จนเมื่อเธอเรียกชื่อเขาอย่างสงสัย ชินก็คลายกอดพร้อมกับยิ้มน้อยๆให้เธอเหมือนกับปกติ แม้ว่าเธอจะถามอะไรชินก็ไม่ตอบแต่กลับเปลี่ยนเรื่องพูดทันที
“สเตล่าเต้นรำให้ฉันดูหน่อยได้ไหม...”
“ได้สิ...ถ้ามันเป็นสิ่งที่ชินต้องการ”
สเตล่าลุกขึ้นไปยืนที่กลางลานที่บัดนี้ภูตสาวกำหนดจิตให้เป็นทุ่งดอกไม้และเริ่มร้องเพลงกับเต้นรำอย่างอ่อนพริ้วและงดงาม เสียงร้องเพลงของเธอไม่ถึงกับไพเราะจับใจแต่มันพลังและความสดใสในน้ำเสียงนั้น สายตาที่ทอดมองมายังชินนั้นอ่อนหวานเปี่ยมด้วยความรักยิ่งนัก ชินยังคงมองสเตล่าเต้นรำต่อไปแม้จะมีอาการแน่นหน้าอกและเจ็บปวดไปตามร่างกายมากแค่ไหนก็ตาม...เขาอยากใช้ดวงตาคู่นี้มองหญิงที่ตนรักยิ่งชีวิตคนนี้ให้นานที่สุดก่อนที่เขาต้องจากไป ยิ่งคิด...น้ำตาก็เริ่มไหลรินลงมาจากดวงตาสีทับทิมคู่นั้น ชินรีบเอาแขนป้ายน้ำตาโดยเร็วเพื่อไม่ให้สเตล่าเห็นว่าตนร้องไห้อยู่ เขาไม่อยากให้สเตล่าไม่สบายใจ...แต่แล้วเขาก็เห็นร่างสูงใหญ่น่าเกลียดน่ากลัวของอสูรแอคแลนติกผ่านเข้ามาในบริเวณที่เขาอยู่ สเตล่าเองก็คงรับรู้ได้เช่นกัน เพราะเธอหยุดการเต้นรำและชักมีดสั้นขึ้นมาถืออย่างเตรียมพร้อมจะสู้
สเตล่าที่ชักมีดสั้นมาถือไว้ ขณะที่กำลังจะพุ่งไปทำลายศัตรูก็มีเปลวไฟพุ่งมาแผดเผาร่างที่น่าเกลียดนั้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง เธอจึงหันไปทางต้นเพลิงก็เห็นชินที่ควบคุมพลังเปลวเพลิงของตนได้อย่างใจพึ่งลดมือลงพร้อมกับเดินมาทางตนด้วยความเป็นห่วง
“สเตล่า...เป็นอะไรหรือเปล่า” ชินถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ควรจะเป็นสเตล่าที่ถามชินมากกว่าว่าเป็นอะไรหรือเปล่าน่ะ ชินหน้าซีดมากเลย”
“ฉันไม่เป็นไรมากหรอก ตั้งแต่ฉันเรียนวิธีควบคุมพลังจากคุณนาธาลแล้ว ก็สามารถควบคุมพลังได้อย่างสบาย ทำไมฉันจะต้องหน้าซีดอะไรด้วยล่ะ” ชินแกล้งดุ
“แต่ว่า...”
ไม่ว่าชินจะพูดยังไงก็ตาม สเตล่าก็ไม่สบายใจอยู่ดี...ก็ชินไม่เคยมีสีหน้าที่ซีดแบบนี้มาก่อน บางครั้งเธอก็รู้สึกว่าชินกำลังปกปิดความรู้สึกบางอย่างกับเธออยู่
“ไม่ใช่ความไม่เชื่อใจ แต่ชินปกปิดเพราะคงรู้สึกว่าถ้าสเตล่ารู้ก็จะไม่สบายใจ สีหน้าของชินบางครั้งดูเจ็บปวด เศร้าสร้อยอย่างบอกไม่ถูก...สเตล่าอยากจะแบ่งเบาความทุกข์ของชินมาบ้าง แม้มันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตามที”
ชินเห็นดวงตาสีชมพูของสเตล่ามองมาที่ตนเองอย่างห่วงใย ก็รู้ดีว่าสเตล่ากังวลกับสีหน้าของเขาที่เผลอแสดงความเจ็บปวดและไม่สุขสบายออกมา ดังนั้นต้องเปลี่ยนเรื่อง เพื่อหันเหความสนใจของสเตล่าให้ได้ คิดได้ดังนั้นชินจึงถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องทันที
“สเตล่าเคยกินขนมหรือเปล่า?”
“ขนม?...มันคืออะไรเหรอชิน” สเตล่าสงสัย
“ขนมก็คือของกินรสหวานๆ มักกินหลังจากกินข้าวแล้ว หรือจะกินตอนช่วงระหว่างมื้ออาหารก็ได้น่ะ” ชินอธิบาย
“ไม่เคยหรอก...สเตล่าเป็นภูตรับใช้ ไม่จำเป็นต้องกินอาหารหรือขนม”
“งั้นหรือ...ฉันอยากจะให้สเตล่าได้ลองกินขนมที่ฉันชอบจังเลย...ขนมดังโกะน่ะ”
“ขนมดังโกะ?” สเตล่าทวนคำด้วยท่าทีสนใจ
“ใช่...มันเป็นขนมกลมๆเสียบไม้ราดด้วยถั่วแดง...หวานอร่อยมากเลยแหละ...คุณยายเคยทำให้ฉันกินเมื่อตอนเป็นเด็กล่ะ แต่ตอนนี้ท่านเสียไปแล้ว”
ชินพูดจบก็คิดถึงขนมดังโกะฝีมือคุณยาย สักพักขนมที่ชินคิดก็ปรากฏออกมา เพราะสเตล่าเคยบอกเขาว่าที่นี่เป็นดินแดนคู่ขนาน ทุกอย่างสำเร็จด้วยจิต ถ้าปรารถนาจะได้สิ่งของใดให้ตั้งจิตมั่นแล้วมันจะปรากฏออกมาเอง
ชินหยิบขนมดังโกะขึ้นมาหนึ่งไม้จากในจานที่เขาถืออยู่ป้อนให้สเตล่าลองกิน สเตล่าที่ได้กินขนมหวานครั้งแรกนั้นถึงกับยิ้มอย่างมีความสุขทีเดียว
“หวาน...อร่อยมากเลย ชิน”
“ฉันคิดอยู่แล้วว่าสเตล่าต้องชอบมัน เหมือนกับที่ฉันชอบมันเหมือนกัน...คุณยายบนสวรรค์ก็คงดีใจที่หลานสะใภ้ชอบขนมฝีมือคุณยาย”
“สวรรค์...คุณยายของชิน...”
“ใช่...ท่านเสียไปนานแล้วล่ะ อยู่ที่โลกนั้น...ฉันเหลือตัวคนเดียว...ดังนั้น...ฉันถึงอยาก...อยู่กับ...สเตล่า...ตลอดไป...”
เคร้ง...ตุบ...
ชินพูดจบก็ล้มลงหมดสติทันทีพร้อมกับเสียงจานที่ตกแตกและขนมดังโกะที่หล่นกระจายไปทั่ว และเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจสุดขีดของสเตล่า
“กรี๊ดดดด....ชินนนน....”
**************************************************
และแล้วก็มาอัพเพิ่มให้แล้วนะคะ ต้องขอโทษจริงๆที่ช้าไปมากๆ ไม่ใช่ไม่อยากแต่ง...แต่มันนึกไม่ออกต่างหากล่ะ จนวันนี้มีเวลาว่างอยู่หน้าคอมทั้งวัน เลยมีเวลานั่งนึก+พิมพ์ได้จนเสร็จตอนนี้จนได้
แล้วผู้แต่งก็แกล้งแฟนคลับชิน-ล่าจนได้ จบแบบคาใจอย่างนี้แหละ.....เรื่องจะเศร้ายิ่งกว่านี้อีกเรื่อยๆ แต่ผู้แต่งรับรองค่ะว่า Happy Ending แน่นอน
อยากให้เรื่องเดินต่อเร็วๆก็ต้องใส่ถ่าน(คอมเมนต์)ให้ผู้แต่งเยอะๆนะคะ ไฟมันจะได้โหม ถ้าไฟมอดล่ะก็ ผู้แต่งจะเอาเรื่องนี้ลงโถดองลำดับแรกเลย
ความคิดเห็น