ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ความสัมพันธ์ที่ผลิบาน
“แม่อย่านะ...”
ในช่วงที่ชินเห็นปลายมีดกำลังจะจ้วงแทงมาที่ตน เขาก็ยกมือขึ้นบังหน้าไว้โดยหันฝ่ามือออกไปข้างนอก แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อมีเปลวไฟออกมาจากมือทั้งสองข้างของเขาแล้วพุ่งไปยังจุดหมายข้างหน้าพอดี...ซึ่งก็คือแม่ของเขานั่นเอง
กรี๊ดดดดด
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นเมื่อเปลวเพลิงทั้งสองสายพุ่งตรงมาแผดเผาร่างของซายูริ อาสึกะ ร่างเล็กนั้นรีบวิ่งไปยังหน้าต่างเพื่อหวังจะใช้ผ้าม่านมาดับไฟที่เผาตัวเธออยู่ แต่กลับกลายเป็นว่าตัวของเธอเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ไฟไปติดตามผ้าม่านและผนังรอบห้อง ทำให้ทั่วทั้งบ้านกลายเป็นทะเลเพลิงอยู่ประมาณ2ชั่วโมง เมื่อไฟมอดลงเหลือแต่โครงบ้านทุกคนก็เห็นชินเดินออกมาจากบ้าน(ที่เหลือแต่ซาก)หน้าตาเฉย ไม่มีร่องรอยบาดแผลไฟลวกแม้แต่น้อย
“แก...ไอ้เด็กปีศาจ...พวกฉันน่าจะกำจัดแกตั้งแต่แรก”
“......”
พวกชาวบ้านต่างรุมประณามและขับไล่ชินให้ออกไปจากที่หมู่บ้านนี้ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนสนิทของเขา...เรย์และลูน่ามาเรีย ชินมองทั้งสองอย่างเจ็บปวด
“เรย์...ลูน่า...แม้แต่พวกเธอก็ไม่เชื่อฉันเหรอว่าฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เรื่องเป็นแบบนี้ พวกเธอก็คิดจะไล่ฉันด้วยเหรอ”
“นี่คือมติของหมู่บ้านเราที่จะต้องขับไล่นายออกไป...ชิน นายคือตัวอันตราย ถ้านายยังอยู่ หมู่บ้านเราอาจจะอันตรายก็ได้” เรย์ตอบอย่างเย็นชา
“นายมันไม่ใช่คนแล้วชิน อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ...น่าสงสารคุณน้าซายูริจริงๆที่เป็นแม่ของปีศาจอย่างนาย”
คำพูดของลูน่าและเสียงโห่ไล่ของชาวบ้านสร้างความโกรธเคืองให้กับชินมากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาสีแดงนั้นแข็งกร้าวกว่าทุกครั้ง
“ปีศาจ...ในเมื่อทุกคนคิดว่าฉันเป็นปีศาจแล้ว งั้นก็คงไม่แปลกสินะถ้าฉันจะกำจัดคนที่ไม่ชอบหน้าฉันไปให้หมดทุกคน”
ชินพูดจบก็สร้างเปลวไฟขึ้นที่มือทั้งสองข้างก่อนจะปล่อยพลังแห่งเปลวไฟไปยังกลุ่มชาวบ้านที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างไม่ลังเลท่ามกลางเสียงกรีดร้องอย่างตื่นตกใจของพวกชาวบ้านทั้งหลาย แต่แล้วเขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าพลังของเขาถูกหญิงสาวในชุดคลุมสีดำใช้พลังของตนเองป้องกันพวกชาวบ้านไว้ ทำให้ชาวบ้านหนีตายได้หมดทุกคน หญิงสาวคนนั้นมองไปที่เด็กหนุ่มพร้อมกับถอนใจก่อนจะกล่าวว่า
“เจ้าผู้มีพลังแห่งเปลวเพลิง...ไฉนจึงคิดฆ่ามนุษย์ผู้บริสุทธิ์เหล่านั้นด้วย”
“คุณเป็นใคร ทำไมถึงมีพลังวิเศษด้วย คุณใช่มนุษย์หรือเปล่า” ชินถามอย่างสงสัย
“ข้าไม่ใช่มนุษย์...ชื่อของข้าคือ นาธาล บาจิรูล เป็นการ์เดี้ยนผู้ทำหน้าที่เฝ้าประตูระหว่างภพ...และเป็นผู้ดูแลสเตล่าด้วย”
“สเตล่า...”
เพียงการเอ่ยชื่อของ “สเตล่า” นั้นก็ทำให้เด็กหนุ่มตรงหน้าผ่อนคลายลงได้มาก ดวงหน้าที่แสดงความเคียดแค้นนั้นก็เปลี่ยนเป็นยิ้มน้อยๆ...ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้นาธาลรู้ว่าเธอมาถูกทางแล้ว เธอต้องรีบชักจูงเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ให้ไปอยู่กับพวกอสูรแอคแลนติกเด็ดขาด
“ใช่...สเตล่าห่วงเจ้ามากนะ นางเลยมาขอร้องข้าให้มาช่วยเจ้าเพราะนางมาที่นี่ไม่ได้...ข้าก็เลยมาแทนไงล่ะ”
“สเตล่าห่วงผม...คุณนาธาล ได้โปรดพาผมไปพบกับสเตล่าหน่อยได้ไหมครับ มีแต่เธอเท่านั้นที่รักและห่วงผมด้วยใจจริง...”
“งั้นเจ้าจงหลับตาลง ข้าจะพาเจ้าไปพบกับนางเดี๋ยวนี้”
ชินหลับตาลงตามที่นาธาลบอก และเมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็เห็นวิวโดยรอบเปลี่ยนไป ตรงหน้าเขามีบ้านหลังเล็กทรงโบราณตั้งอยู่ท่ามกลางต้นซากุระหลายต้นดูร่มรื่นนัก แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของชินไว้ไม่ใช่วิวอันร่มรื่น แต่เป็นเด็กสาวผมทอง นัยน์ตาสีชมพูที่กำลังวิ่งมาหาเขาต่างหาก ชินเรียกชื่อเด็กสาวอย่างอ่อนโยน...อย่างที่ไม่เคยเรียกใครมาก่อน
“สเตล่า...”
เด็กสาววิ่งมาหาชินและโผเข้ากอดอย่างรวดเร็ว ส่วนชินก็กอดตอบสเตล่าเช่นกัน ทั้งสองอยู่ในวงแขนของกันและกันสักพักก่อนที่สเตล่าจะใช้มือทั้งสองของเธอแตะที่ใบหน้าของชินและถามด้วยความเป็นห่วงว่า
“ชิน...ในที่สุดสเตล่าก็ได้พบกับชินจริงๆซะที ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป...แล้วชินบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าจ๊ะ สเตล่าน่ะกังวลมากเลยนะ”
“ฉันไม่เป็นไรหรอก เพียงแต่คุณแม่ก็ต้องตายด้วยไฟของฉันเอง...ทำไมนะ...ทำไมฉันต้องมีพลังบ้าๆนี่ด้วยนะ ทุกคนรังเกียจฉันเพราะมัน...” ชินพูดอย่างคับแค้นใจ
“ชิน...”
“มันเป็นสิ่งที่ติดตัวเจ้าแต่กำเนิด ถ้าเจ้าไม่พบกับสเตล่า...ผนึกที่ควบคุมพลังแห่งเปลวเพลิงของเจ้าก็จะไม่ถูกทำลาย เมื่อโชคชะตาลิขิตแบบนี้ ข้าก็ได้แต่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ...ข้าจะสอนวิธีควบคุมพลังให้กับเจ้า”
“วิธีควบคุมพลัง?”
“ใช่...ในระหว่างนี้เจ้าก็อาศัยกับพวกข้าที่นี่ก็แล้วกัน”
“ขอบคุณครับ คุณนาธาล”
นาธาลพูดจบก็เดินจากไปพร้อมกับสติง ในสวนนั้นจึงเหลือเพียงชินและสเตล่าเพียงลำพังเท่านั้น สเตล่าเดินจูงมือชินเข้ามาในตัวบ้านพร้อมกับพาเขามาที่ห้องว่างห้องหนึ่งเพื่อใช้สำหรับให้เขาพักผ่อนในช่วงที่ยังอยู่ที่นี่
“ห้องนี้เป็นห้องของชินนะ ชินอยู่ได้ไหม”
สเตล่าถามอย่างเกรงใจ เพราะในห้องนั้นนอกจากพวกหมอน ผ้าห่ม ที่นอนแล้ว มันไม่มีอะไรอีกเลย ชินส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะกอดร่างเล็กบางนั้นไว้ในอ้อมแขนอีกครั้งหนึ่ง
“ได้สิ...ขอเพียงได้อยู่ใกล้ๆสเตล่าเท่านั้นก็พอ”
“สเตล่าดีใจมากๆเลยนะที่ชินมาอยู่ข้างๆสเตล่าอย่างนี้ ตั้งแต่เราพบกันในความฝันครั้งสุดท้ายนี่ สเตล่าก็กังวลมาตลอดว่าชินจะมีอันตรายหรือเปล่า...เพียงแค่คิดว่าชินจะถูกทำร้าย สเตล่าก็รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก กลัวว่าสเตล่าจะไม่ได้พบกับชินอีก...”
คำพูดสเตล่าหยุดไปเพราะชินใช้มือของตนเองปิดริมฝีปากของเธอไว้พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะต้องมาพบกับสเตล่าให้ได้ เพราะเธอเป็นคนเดียวที่ห่วงฉัน และฉันก็ชอบเธอที่สุด ตั้งแต่นี้ไปฉันจะขออยู่ข้างๆสเตล่าตลอดไป”
“สเตล่าก็ชอบชินที่สุดเหมือนกัน...เพียงแต่สเตล่ากลัวว่านายท่านจะไม่อนุญาตให้ชินอยู่ที่นี่น่ะสิ เพราะนายท่านเคยพูดกับสเตล่าและสติงว่ามนุษย์ไม่สามารถอยู่อาศัยที่ดินแดนระหว่างภพแห่งนี้ได้เด็ดขาด...”
“ถ้าอย่างนั้นสเตล่าก็ตามฉันไปอยู่ที่แดนมนุษย์ก็ได้นี่”
ชินถามอย่างมีความหวัง แต่สเตล่าก็ส่ายหน้าในทันทีพร้อมกับให้เหตุผลว่า
“ไม่ได้หรอก...สเตล่าอยู่ที่แดนมนุษย์ไม่ได้ สเตล่าต้องอยู่ที่ดินแดนระหว่างภพแห่งนี้เท่านั้น เมื่อใดก็ตามที่สเตล่าก้าวพ้นจากดินแดนระหว่างภพออกไป ร่างกายและจิตของสเตล่าก็จะแตกสลายลง”
“เพราะอะไรกัน?” ชินถามอย่างตกใจ
“เพราะสเตล่าไม่มีร่างกายแต่แรก...สเตล่าเป็นภูตรับใช้ที่เกิดจากอาคมของนายท่านไงล่ะ...ไม่มีร่างกาย...ไม่มีดวงจิต...ไม่มีอะไรเลย”
“สเตล่าจะบอกว่าไม่มีอะไรเลยได้ยังไง ในเมื่อเธอยังมีฉัน ยังมีความรักของฉันที่มอบให้เธออย่างหมดหัวใจ”
ชินรีบโพล่งออกไปเพราะเขารับรู้ได้ถึงความเหงาในใจของสเตล่าได้...มันก็เหมือนกับของเขาสมัยก่อนที่เหมือนอยู่ตัวคนเดียว...แม่ไม่รัก ชาวบ้านรังเกียจ แต่คราวนี้เขาจะไม่มีวันเหงาอีก เพราะเขามีสเตล่าอยู่ข้างๆ แม้นาธาลจะไล่เขาออกจากที่นี่ เขาก็ไม่มีวันไปอย่างเด็ดขาด...
“นั่นสินะจ๊ะ สเตล่าลืมไปว่าตอนนี้ชินอยู่กับสเตล่า”
สเตล่าพูดแผ่วๆ ชินใช้มือข้างหนึ่งเชยคางของเธอขึ้นพร้อมกับเอ่ยสัญญาบางอย่างออกมาอย่างมั่นคงว่า
“สเตล่าไม่ต้องกังวลนะ ถึงฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ หรือเธอไม่สามารถไปที่โลกมนุษย์ได้ก็ตามที แต่ฉันขอให้สัญญาว่าฉันจะหาดินแดนสักแห่งที่ฉันกับเธอสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้นให้ได้ สเตล่าจะเชื่อฉันไหม”
“เชื่อสิจ๊ะ...สเตล่ารู้ว่าชินไม่มีวันโกหกสเตล่าอย่างเด็ดขาด”
หลังจากที่ทั้งสองสบตาเพื่อสื่อความในใจของกันและกัน ใบหน้าของชินก็โน้มลงมาสัมผัสกับริมฝีปากของสเตล่าอย่างอ่อนหวานและดูดดื่ม...แล้วห้องนั้นก็ปราศจากเสียงพูดคุยใดๆอีก จะมีก็เพียงเสียงครางแผ่วๆอย่างสุขสมและร่างสองร่างที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันเท่านั้นเอง
---------------------------------------------------------------------
ก่อนอื่นก็ต้องขอโทษเลยนะคะที่มาอัพเรื่องนี้ช้ามาก เพราะติดลมกับอีกเรื่องหนึ่ง(จ้าวมนตรา)อยู่ เคยคิดที่จะลบเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่ทำไม่ลง...
รู้สึกอยู่นิดๆเหมือนกันว่าตอนนี้มันดูรวบไปนิดนึง แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็ขอสารภาพเลยว่าแต่งต่อไม่ออก เลยขอชดเชยด้วยการเดินเรื่องของคู่ชิน-สเตล่าเลยนะคะ ก็ไม่รู้ว่าคนอ่านจะโอเคหรือเปล่า โดยเฉพาะฉากสุดท้าย (ไม่ขอบรรยายเยอะ ให้คิดเอาเอง เดี๋ยวจะหาว่าเป็นนิยายเรท...ผู้แต่งเองก็แอบหื่นเล็กน้อย) ในใจคนแต่งยังขัดๆเล็กน้อย เพราะดูระยะเวลาในการพบกันนั้นถือว่าน้อย แต่อาศัยว่าแต่ละครั้งที่พบกันนั้นได้แสดงความรู้สึกชอบพอออกมาค่อนข้างมาก...เลยขอใช้ความรู้สึกนี้กล้อมแกล้มไปสู่ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งนี้เลยนะคะ
จะพยายามมาอัพอีกนะคะ จะเร็วจะช้านี่...ไม่ขอรับปากค่ะ ขึ้นอยู่กับกำลังใจคนแต่ง
---------------------------------------------------------------------
ก่อนอื่นก็ต้องขอโทษเลยนะคะที่มาอัพเรื่องนี้ช้ามาก เพราะติดลมกับอีกเรื่องหนึ่ง(จ้าวมนตรา)อยู่ เคยคิดที่จะลบเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่ทำไม่ลง...
รู้สึกอยู่นิดๆเหมือนกันว่าตอนนี้มันดูรวบไปนิดนึง แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็ขอสารภาพเลยว่าแต่งต่อไม่ออก เลยขอชดเชยด้วยการเดินเรื่องของคู่ชิน-สเตล่าเลยนะคะ ก็ไม่รู้ว่าคนอ่านจะโอเคหรือเปล่า โดยเฉพาะฉากสุดท้าย (ไม่ขอบรรยายเยอะ ให้คิดเอาเอง เดี๋ยวจะหาว่าเป็นนิยายเรท...ผู้แต่งเองก็แอบหื่นเล็กน้อย) ในใจคนแต่งยังขัดๆเล็กน้อย เพราะดูระยะเวลาในการพบกันนั้นถือว่าน้อย แต่อาศัยว่าแต่ละครั้งที่พบกันนั้นได้แสดงความรู้สึกชอบพอออกมาค่อนข้างมาก...เลยขอใช้ความรู้สึกนี้กล้อมแกล้มไปสู่ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งนี้เลยนะคะ
จะพยายามมาอัพอีกนะคะ จะเร็วจะช้านี่...ไม่ขอรับปากค่ะ ขึ้นอยู่กับกำลังใจคนแต่ง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น