ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Gundam Seed) Promise Land : ดินแดนแห่งคำมั่นสัญญา

    ลำดับตอนที่ #3 : พบกันในความฝัน

    • อัปเดตล่าสุด 22 ม.ค. 52


    “นี่เรามานอนที่นี่ได้ยังไงเนี่ย”
     
    ชินพูดกับตนเองอย่างงงๆ เมื่อเขาลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองนอนอยู่ที่พื้นข้างถนนตรงซอยที่จะกลับบ้าน แต่ตัวเขาจำไม่ได้เลยสักนิดว่ามานอนอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ระหว่างที่ลุกขึ้นมาและกำลังจะเดินจากไปก็ต้องแปลกใจว่าเขารู้สึกอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจะไปจากที่ตรงนี้เลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
     
    ชินได้แต่หักใจเดินออกไปโดยไม่เหลียวกลับมา และเขาก็คงไม่รู้หรอกว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองตามแผ่นหลังเขาไปอย่างเศร้าสร้อย....ไม่ได้เห็นน้ำตาที่ไหลลงมาจากดวงตาสีลูกหว้านั้น
     
    “สติง...ทำไมมีน้ำไหลออกมาจากตาน่ะ ในใจของสเตล่ามัน...เจ็บ...”
     
    “เรากลับไปหานายท่านกันเถิด เรื่องของเจ้าหนุ่มที่ชื่อชินน่ะ มันเป็นเหมือนลมที่พัดผ่านเข้ามาและก็จากไปอย่างรวดเร็ว ถ้าเจ้ามัวแต่พะวงถึงเขา...มันจะทำให้เจ้ายิ่งเจ็บ”
     
    เมื่อกลับไปที่บ้านทั้งสองก็พบว่านาธาลกำลังนั่งรอทั้งสองอยู่ที่ชานหน้าบ้าน ขณะที่ทั้งสองกำลังจะเดินอ้อมไปข้างหลัง นาธาลก็เรียกทั้งสองคน
     
    “สเตล่า มาคุยกับข้าก่อนสิ”
     
    “ค่ะ นายท่าน”
     
    สเตล่าเดินเข้าไปหานาธาล ส่วนสติงก็เดินไปทางด้านหลังเพียงคนเดียว เมื่ออยู่กันตามลำพังแล้วนาธาลก็ถามสเตล่าอย่างอ่อนโยนว่า
     
    “เจ้ายังเศร้าเรื่องนั้นอยู่อีกหรือ สเตล่า”
     
    “ข้า...ข้ายังอยากคุยกับชินอยู่ พอเห็นชินจำทุกอย่างของที่นี่ไม่ได้ สเตล่าก็รู้สึกเสียใจ น้ำมันก็ไหลออกมาจากตาเอง”
     
    “นั่นเรียกว่าน้ำตาไงล่ะ”
     
    “น้ำตา?...มันคืออะไรหรือคะนายท่าน”
     
    “น้ำตาก็คือสิ่งที่พวกมนุษย์ใช้ในการระบายความรู้สึกไงล่ะ ทั้งความรู้สึกดีใจ เสียใจ...ข้าก็ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของพวกมนุษย์สักเท่าไหร่นักหรอก”
     
    “นายท่าน...ข้ามีเรื่องปรารถนาให้ท่านช่วยค่ะ”
     
    “เรื่องอะไรหรือ?” นาธาลถามอย่างสงสัย
     
    “ข้าอยากพบ อยากคุยกับชิน ไม่ทราบว่าท่านพอมีวิธีช่วยข้าได้หรือไม่”
     
    “วิธีน่ะพอจะมีอยู่ แต่ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าจะทำได้สำเร็จหรือไม่...เจ้าจะลองดูไหมล่ะสเตล่า”
     
    “ข้ายินดีที่จะทำค่ะ มันทำอย่างไรหรือคะ” สเตล่าพูดอย่างดีใจ
     
    “...........”
     
    นาธาลบอกวิธีให้กับสเตล่าอย่างไม่ปิดบัง สีหน้าที่เศร้าสร้อยของภูตรับใช้สาวก็หมดไป ที่อยู่ตรงหน้านาธาลในตอนนี้มีแต่สาวน้อยที่กำลังมีความหวัง
     
    “ขอบพระคุณมากค่ะนายท่าน ข้าจะลองทำดู”
     
    สเตล่าพูดขอบคุณแล้วเข้าไปในบ้านอย่างตื่นเต้น โดยมีนาธาลมองตามหลังไปอย่างเป็นห่วง เธอรำพึงอยู่คนเดียวอย่างไม่ต้องการให้ใครได้ยินว่า
     
    “วิธีนี้จะสำเร็จก็ต่อเมื่อเจ้ากับเขาเป็นเนื้อคู่แท้เท่านั้น ถ้าไม่ใช่เนื้อคู่กันแล้วไซร้เจ้าจะไม่มีวันสื่อจิตไปหาเขาได้เลย....ดังนั้นเจ้าไม่มีวันติดต่อกับชิน อาสึกะได้เลยไงล่ะ แม้ว่าเจ้าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม”
     
    นาธาลมองตามแผ่นหลังสเตล่าจนลับตาไปแล้วจึงเดินไปอีกทางหนึ่ง เธอไม่เคยคิดเลยแม้แต่น้อยว่าสายสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นลึกซึ้งเพียงใด แม้คนหนึ่งจะเป็นมนุษย์ธรรมดา ส่วนอีกหนึ่งเป็นภูตรับใช้ที่เกิดมาจากมนตราที่เธอสร้างขึ้น ซึ่งไม่น่าจะอยู่เคียงคู่ด้วยกันได้ แต่ “ด้ายแดงแห่งพรหมลิขิต” ก็ได้พันผูกไปที่นิ้วก้อยของทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว เรื่องราวที่เธอคิดว่าจะจบในเร็วๆวันนี้จึงถูกสานต่อไปเรื่อยๆไม่มีวันจบ โดยที่นาธาลเองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน
     
    ************
     
    “ชิน...ชิน...เห็นข้าไหม...”
     
    เสียงหวานใสของสาวน้อยดังอยู่ข้างหลังทำให้ชินพยายามหันกลับไปว่าใครกัน..ที่เรียกเขา แต่ทุกครั้งที่หันไป ก็ต้องพบแต่ความว่างเปล่า...เธอคนนั้นเป็นใครกันนะ
     
    “ชิน...ได้ยินเสียงของข้าหรือไม่”
     
    คราวนี้เสียงของสาวน้อยคนเดิมกลับมาอยู่ข้างหน้า เมื่อชินหันไปด้านหน้าเพื่อหาที่มาของเสียง เขาก็ต้องหลับตาลงเมื่อจู่ๆก็มีแสงสว่างจ้ามาที่ตรงหน้าเขา และเมื่อแสงนั้นหายไป ชินก็เห็นเป็นโครงร่างของผู้หญิงคนหนึ่ง...เป็นหญิงสาวผมสั้น รูปร่างแบบบาง เมื่อเขาพยายามจะเพ่งมองใบหน้าของอีกฝ่ายหนึ่ง ก็จะพบว่า......
     
    “ฝันอีกแล้วหรือเนี่ย เกือบ1สัปดาห์แล้วนะเนี่ย”
     
    ชินยันตัวลุกขึ้นมาจากเตียงและเดินไปล้างหน้า อาบน้ำ แต่งตัวไปโรงเรียนท่ามกลางเสียงกรีดร้องเหมือนคนบ้าของมารดาเหมือนทุกวัน ชินก็ทำอาหารเช้าและทานอย่างง่ายๆโดยไม่สนใจเสียงมารดาเช่นกัน เมื่อทานเสร็จก็ออกจากบ้านเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย
     
    ตั้งแต่เขานอนหมดสติที่กลางทางระหว่างกลับบ้านในวันนั้นก็เป็นเวลา1สัปดาห์แล้ว ชินก็ฝันประหลาดแบบเมื่อเช้ามาตลอด...ที่ว่ามีเสียงเด็กสาวคอยเรียกเขามาตลอด ในแต่ละวันนั้นความฝันมันก็ค่อยๆชัดเจนมากขึ้น และทุกครั้งที่เขาพยายามจะมองใบหน้าของสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้า ก็ต้องตื่นทุกครั้งไป
     
    “ชิน...ชิน...”
     
    เสียงที่ดังในความฝันนี้เขารู้สึกคุ้นเหลือเกิน แต่ทำไมนึกไม่ออกนะ ทุกครั้งที่เขาได้ยินเสียงนี้...ใจของเขาจะเต้นรัวอย่างไม่รู้สาเหตุ อยากเห็นหน้าเจ้าของเสียงนี้จังเลย
     
    “ชิน...ชิน”
     
    เสียงเรียกพร้อมกับการเขย่าไหล่อย่างค่อนข้างดุเดือดนั้น ทำให้ชินหันไปมองคนทำพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า
     
    “ลูน่า เธอจะมาเขย่าฉันทำไมนะ มันเวียนหัวรู้บ้างไหม”
     
    “ก็ฉันเรียกชินตั้งหลายทีแล้วนิ นายก็ไม่หันมาซะที” ลูน่าพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย
     
    “ชิน นายคิดอะไรอยู่เหรอ”
     
    “ขอโทษนะเรย์ คือฉันฝันว่ามีคนเรียกฉันอยู่น่ะ” ชินตอบ
     
    “ความฝัน?”
     
    ทั้งสองคนทำหน้าประหลาดใจอย่างสุดๆ โดยเฉพาะลูน่ามาเรียที่มองชินตาโต อ้าปากค้าง ส่วนเรย์เพียงแค่เลิกคิ้วนิดนึงแต่ไม่พูดอะไร ชินยังคงพูดต่อไปว่า
     
    “ใช่...ฉันฝันว่าได้ยินเสียงของผู้หญิงมาเรียกชื่อฉันทุกๆเช้า แต่พอฉันพยายามที่จะมองว่าเธอเป็นใคร ก็ต้องตื่นขึ้นมาทุกครั้ง”
     
    ชินยังคงพูดไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจเลยว่าเรย์กับลูน่าต่างมองหน้ากันก่อนที่จะมองชินอย่างสมเพชเล็กน้อย ลูน่าเอามือขวาวางแปะไปที่หน้าผากของชิน พร้อมกับเรย์ที่วางมือของตนลงมาที่ไหล่ของอีกฝ่าย พร้อมกับพูด
     
    “ฉันไม่นึกเลยว่านายจะถึงเวลา ฝันเปียก แล้ว”
     
    “น่านสิ...จะว่าเพ้อเพราะพิษไข้ก็ไม่ได้ นายไม่มีไข้เลยนี่นา” ลูน่าเสริม
     
    “ฉันไม่ได้เพ้อฝันถึงผู้หญิงหรือเพ้ออะไรทั้งนั้น ถ้าไม่คิดจะช่วยฉันก็ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”
     
    ชินตะโกนออกมาอย่างอารมณ์เสียสุดๆ ไม่มีใครเข้าใจเขาจริงๆ จะไม่คิดปรึกษาใครอีก แล้วชินก็หน้าบูดไปตลอดเวลาที่เรียนอยู่เลยทีเดียว
     
    *************
     
    เขากลับมาอยู่ที่เดิมของความฝันอีกแล้ว...สถานที่ที่มีหมอกปกคลุมเต็มไปหมด จนเขาไม่อาจเห็นหนทางข้างหน้าเลย ระหว่างที่ชินกำลังคิดว่าเขาจะไปยังไงต่อ เขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยอีกครั้งหนึ่ง...เสียงหวานที่ทำให้ชินรู้สึกดีใจได้อย่างประหลาด
     
    “ชิน...ชิน...ได้ยินเสียงของข้าไหม”
     
    “ได้ยินสิ...ฉันได้ยินเสียงเธอทุกวัน เธอเป็นใครกัน ทำไมฉันถึงไม่เห็นหน้าของเธอเลย”
     
    “ชินได้ยินเสียงของสเตล่า? สเตล่าดีใจที่สุดเลย ยื่นมือออกมาสิจ๊ะ สเตล่าอยู่ตรงหน้าชินไงล่ะ”
     
    เมื่อเสียงหวานพูดจบ ชินก็เห็นมือเล็กบางยื่นออกมาจากกลุ่มหมอกที่หนาแน่นได้อย่างชัดเจน ทันทีที่ชินยื่นมือไปจับมือบางนั้น หมอกควันรอบตัวเขานั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว...ในที่สุดเขาก็ได้เห็นเจ้าของเสียงหวานแล้ว...เธอมีเรือนผมสีทองเป็นประกายงดงาม ดวงตาสีชมพูมีแววสดใสร่าเริง ปากนอดจมูกหน่อย เมื่อรวมเข้ากับใบหน้ารูปไข่แล้วทำให้เธอดูน่ารักเหมือนตุ๊กตาเลยทีเดียว...เป็นความงดงาม(น่ารัก)ที่สะกดสายตาของชินได้อย่างชะงัดนัก หัวใจของเขานั้นแทบจะเต้นออกมาจากหน้าอก และเมื่อสาวน้อยคนนั้นกำลังจะโผเข้ามากอด ชินก็รู้สึกเจ็บที่ศีรษะทันที แล้วชินก็ลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นชอล์คสั้นที่ตกอยู่ข้างตัว...ที่แท้ชินหลับในชั่วโมงเรียนจนถูกอาจารย์ปาชอล์คใส่ที่หัวทันที
     
    “ชิน อาสึกะ ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ”
     
    “อาจารย์...”
     
    “เธอกล้ามากนะที่มานั่งหลับในชั่วโมงเรียนของฉัน ถ้าอย่างนั้นฉันขอสั่งให้เธอไปวิ่งรอบสนาม10รอบเดี๋ยวนี้”
     
    “ครับ” ชินรับคำก่อนจะออกไปวิ่งที่สนามตามคำสั่งอย่างเฉื่อยชา
     
    หลังเลิกเรียนชินรีบดิ่งตรงกลับบ้านอย่างรวดเร็วเพื่อทำเรื่องส่วนตัวและการบ้านเสร็จตั้งแต่หัวค่ำ สิ่งที่ชินตั้งใจก็คือการนอนตั้งแต่หัวค่ำเพื่อที่จะได้พบสาวน้อยที่ทำให้เขาใจเต้นได้อีกครั้ง...ชินรู้สึกว่าการได้อยู่ใกล้สาวน้อยคนนั้นทำให้เขามีความสุขจริงๆ
     
    “ยายเชื่อนะ ว่าคงมีสักวันที่จะมีคนมองเห็นจิตใจที่อ่อนโยนและรักชินด้วยหัวใจของหญิงคนหนึ่ง...กว่าจะถึงวันนั้น...ชิน..อดทนไว้นะลูก”
     
    คำพูดสุดท้ายของคุณยายแวบเข้ามาในความคิดของชิน...สร้างรอยยิ้มและแววตาที่อ่อนโยนให้กับเด็กหนุ่มได้ไม่ยาก แล้วเขาก็คิดถึงใบหน้าของสาวน้อยในความฝันขึ้นมา
     
    “เธอคนนั้น...สเตล่า...เธอจะใช่คนคนนั้นของฉันรึเปล่านะ ถ้าใช่ก็ขอให้ฉันได้พบและพูดคุยกับเธอด้วยเถอะ”
     
    ชินภาวนาในใจก่อนที่จะเข้านอน แล้วเขาก็ฝันอีกครั้ง...ในสถานที่เดิม
     
    “ชิน...ในที่สุดสเตล่าก็ติดต่อกับชินได้แล้ว”
     
    เด็กสาวอุทานอย่างดีใจพร้อมกับวิ่งมากอดชินจนล้มกลิ้งลงไปตามทางลาดทั้งคู่โดยชินนอนทับอยู่บนตัวของเด็กสาวอยู่ เมื่อชินคิดจะลุกแต่ถูกเด็กสาวกอดรั้งไว้ ทำให้ทั้งสองแนบชิดกันมากขึ้น ทำเอาใบหน้าของชินแดงก่ำไปหมด ส่วนเด็กสาวยังคงกอดชินไว้ หน้าของเธอยิ้มแย้มแสดงความดีใจอย่างมาก
     
    “สเตล่าคิดถึงชินที่สุดเลย”
     
    “คิดถึง?...เราเคยพบกันมาก่อนหรือครับ ทำไมผมจำคุณไม่ได้ล่ะ” ชินถามอย่างงงๆ
     
    “ไม่แปลกหรอกที่ชินจะจำสเตล่าไม่ได้ก็นายท่านลบความทรงจำของชินไปนี่นา”
     
    “ลบความทรงจำ? คุณพูดเรื่องอะไรน่ะ ผมไม่เห็นเข้าใจเลย”
     
    “อย่าเรียกกันห่างเหินแบบนี้สิ เรียกข้าว่าสเตล่าเถอะนะ”
     
    “ก็ได้...สเตล่า”
     
    สเตล่าได้ยินเสียงเด็กหนุ่มเรียกชื่อของตนเองก็ยิ้มแย้มอย่างดีใจ ใบหน้าที่น่ารักเหมือนตุ๊กตาดูยิ่งน่ารักมากขึ้นไปอีก ทำเอาชินใบหน้าร้อนผ่าวไปหมดและรู้สึกอบอุ่นไปทั้งหัวใจเมื่อเห็นสายตาของสเตล่ามองเขาอย่างห่วงใย มือน้อยเอื้อมมาแตะที่ใบหน้าของเด็กหนุ่มพร้อมกับถามอย่างห่วงใยว่า
     
    “ชินเป็นอะไรรึเปล่า สเตล่าเห็นชินจู่ๆก็หน้าแดงก่ำเลย ไม่สบายตรงไหนรึ”
     
    “เปล่า...ไม่มีอะไร”
     
    ชินรีบลุกขึ้นจากตัวของสเตล่าแล้วหันหลังให้พร้อมกับใบหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าเดิม เพราะเมื่อสเตล่าลุกขึ้นนั่ง สายคล้องไหล่ข้างหนึ่งก็หลุดลงมาที่ต้นแขน ทำให้เห็นเนินอกอวบอิ่ม แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้สนใจสิ่งนั้นเลย เธอถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นกิริยาของชินว่า
     
    “ชิน...ทำไมต้องหันหลังให้สเตล่าด้วยล่ะ”
     
    “เสื้อของเธอ...”
     
    “เอ๊ะ...เสื้อขาดอีกแล้วเหรอเนี่ย”
     
    สเตล่าได้แต่พูดอย่างหน่ายๆแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ทำให้ชินต้องถอดเสื้อนอกออกแล้วคลุมไว้ที่ตัวของสเตล่าพร้อมกับพูด
     
    “ใส่เสื้อนี้คลุมไว้เถอะ...ผู้หญิงที่ดีไม่ควรเปิดเผยเนื้อตัวให้คนอื่นดูนะ”
     
    “ขอบใจนะ...ชิน”
     
    สเตล่าพูดพลางโผเข้ากอดชินอีกครั้ง...สัมผัสแห่งการโอบกอด ไออุ่นจากร่างกายที่แนบชิดกัน...ความอบอุ่นนี้ตั้งแต่คุณยายตายไป ชินก็ไม่เคยได้รับจากใครอีกเลย ทำให้ชินคว้าตัวเธอมากอดอย่างแนบแน่น
     
    “ชิน...”
     
    สเตล่ามองอย่างแปลกใจเล็กน้อย การกอดสัมผัสแบบนี้เธอไม่เคยได้รับมาก่อน...นุ่มนวล เร่าร้อน และโหยหา เมื่อเธอเรียกชื่อเขาออกไปก็เห็นดวงตาสีแดงของเขาจ้องมาที่เธออย่างอ่อนโยน แล้วชินก็ใช้มือใหญ่ของเขาสัมผัสที่ใบหน้าเธออย่างแผ่วเบาก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงมา แล้วใช้ริมฝีปากของเขาประกบกับริมฝีปากของเธอ และเมื่อเธอจะอ้าปากถามลิ้นของชินก็สอดเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของเธอ...มันช่างเสียวซ่านจนสเตล่าทำอะไรไม่ถูก ได้แต่หลับตาแล้วให้ชินนำทางไปอย่างเดียว สักพักชินก็เอาลิ้นและริมฝีปากออกไป
     
    “สเตล่า..คือ...ฉันขอโทษนะ”
     
    “ชิน...เมื่อกี้ที่ทำกับสเตล่าเรียกว่าอะไรเหรอ”
     
    “จ...จูบน่ะ” ชินตอบตะกุกตะกักพร้อมกับด่าตนเองในใจ...
     
    “นี่ฉันทำอะไรสเตล่าแบบนี้นี่ ฉันจูบเธอไป...ด้วยอารมณ์ชั่ววูบงั้นหรือ หรือมีความรู้สึกอื่นแอบแฝงอยู่ ฉันชอบสเตล่ารึเปล่านะ”
     
    ชินเริ่มถามตัวเองอย่างจริงจัง...ว่าเพราะอะไรเขาถึงไปจูบกับสเตล่า ซึ่งถือว่าเป็นการล่วงเกินสาวน้อยที่เขาไม่เคยบอกรักหรือคบเป็นแฟน เขานิ่งไปสักพักก็ได้คำตอบว่า
     
    ตั้งแต่จำความได้ นอกจากคุณยายแล้ว ชินไม่เคยได้รับความรัก ความสนใจ ความเอาใจใส่จากผู้คนรอบข้างเลย ทั้งๆที่เขาได้หยิบยื่นความหวัง ความรัก หรือมิตรภาพให้ทุกคน แต่สิ่งที่เขาได้รับมานั้นคือความว่างเปล่า ทุกคนหวาดกลัวเขาจนไม่กล้าเข้าใกล้  มันทำให้เขาโหยหาความรัก อยากให้มีคนคอยดูแลหรือแสดงออกว่าเขายังเป็นที่รักของคนอื่นบ้าง แล้วสเตล่าก็มอบสิ่งที่เขาโหยหาและต้องการอย่างที่สุด เพื่อความแน่ใจชินจึงถามสเตล่าว่า
     
    “สเตล่า...เธอไม่กลัวฉันเหรอ”
     
    “กลัวเหรอ...สเตล่าจะกลัวชินเรื่องอะไรล่ะ”
     
    “ก็...ฉันมีตาสีแดงเหมือนกองไฟ แถมยังมีพลังแปลกๆด้วย”
     
    “มันไม่เห็นจะแปลกเลยนี่จ๊ะ ถึงชินจะคิดว่าตาของเธอ พลังของเธอดูน่ากลัวมากแค่ไหน แต่สำหรับสเตล่าแล้ว ชินเป็นคนอบอุ่น อ่อนโยน สเตล่าเห็นมันอยู่ในดวงตาและการแสดงออกของชินตั้งแต่เราพบกันครั้งแรก...ชินไม่เห็นน่ากลัวเลย”
     
    “จริงเหรอ...”
     
    “สเตล่าจะโกหกชินทำไมล่ะจ๊ะ”
     
    คำตอบ ดวงตาที่อ่อนโยนของสเตล่าเรียกความมั่นใจให้กับชินได้อย่างเต็มเปี่ยม ชินคว้าตัวสเตล่ามากอดอีกครั้งพร้อมกับคิดในใจว่า
     
    “คุณยายครับ ผมพบผู้หญิงคนที่คุณยายบอกแล้วครับ”
     
    ชินกับสเตล่ายังคงกอดกันอยู่จนกระทั่งสเตล่าผละออกจากอ้อมแขนของชินแล้วพูดอย่างตกใจว่า
     
    “ชินรีบกลับไปเถอะนะ มีคนกำลังจะฆ่าชินอยู่”
     
    “ใครเหรอ”
     
    “สเตล่าไม่รู้ ชินรีบไปเถอะ” สเตล่ารีบเร่งชินอย่ากระวนกระวายใจ
     
    “แล้วเราจะได้พบกันอีกไหม” ชินถาม
     
    “ได้สิ”
     
    สเตล่าพูดจบก็ผลักชินออกไป เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนตกลงสู่ที่สูง และเมื่อชินลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็แทบสิ้นสติ เมื่อเห็นมารดาของเขากำลังยืนถือมีดอยู่ข้างเตียง จากแสงแวววาวของตัวมีด ชินจึงเห็นใบหน้าที่คับแค้น อาฆาตของมารดา ชินจึงคิดจะกลิ้งหลบไปอีกด้านของเตียง แต่แม่ของเขาดูจะเตรียมการมาดีมากๆ เธอใช้มีดเล่มนั้นแทงไปที่ด้านนั้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ชินไม่สามารถจะหลบไปด้านนั้นได้...การทำแบบนี้ถือเป็นการกักชินไว้ที่เตียงเท่านั้น ข้างหนึ่งของเตียงมีมีดปักไว้ ส่วนอีกข้างก็มีมารดายืนขวางอยู่ ในขณะที่ชินกำลังหาวิธีหลบออกไปนั้น มารดาของเขาเปรยออกมาอย่างคนเสียจริตว่า
     
    “แกมัน...ปีศาจ...เด็กปีศาจ...เพราะแก...ชีวิตของฉันถึงเป็นแบบนี้...ถ้าฉันกำจัดแกออกไปจากชีวิตของฉัน...ฉันคงจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้”
     
    พูดจบเธอก็หยิบมีดอีกเล่มมาจากด้านหลังพร้อมกับจ้วงมีดลงมายังร่างของชินที่ยังนอนอยู่บนเตียงอย่างรวดเร็ว แต่แล้ว...
     
    “แม่อย่านะ...”
     
    “กรี๊ดดดด”

    -------------------------------------------------------------------------

    แล้วก็มาลงให้อีกตอนแล้วนะคะ สำหรับผู้รออ่านเรื่องนี้อยู่ ก็ขอโทษด้วยนะคะ เพราะผู้แต่งท้อใจว่าแต่งออกมาแล้ว คนอ่านน้อยมาก คนเมนต์ให้ก็ยิ่งน้อยกว่าคนอ่านอีก (มันชัวร์อยู่แล้ว) ตอนแรกกะจะลบเรื่องนี้ทิ้งอยู่แล้ว แต่มีน้องที่เมนต์ให้บอกว่าให้แต่งต่อ ร่วมกับบอกขอให้อัพเร็วๆรออ่านอยู่...ข้อความเหล่านั้นปลุกไฟที่มอดแล้ว ให้ปัดฝุ่นมาแต่งเพิ่มขึ้น  ขอบคุณมากนะคะ

    สำหรับเรื่องนี้จะมีแต่ชิน-ล่าเท่านั้น ไม่มีอัสรัน คิระ คางาริและลักส์แน่นอน และผู้แต่งก็ทำใจได้แล้วว่าคงจะไม่ค่อยมีคนสนใจ แต่ผู้แต่งก็จะขอแต่งต่อไปเพื่อคนที่รออ่านอ่านเรื่องนี้เท่านั้น

    ช่วยเมนต์กันมาเป็นแรงฮึดเอาไปใช้เป่าไฟไม่ให้มอดหน่อยนะคะ...ถือว่าขอร้องแล้วกันนะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×