ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hogwarts\' Witelnier

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter6 : มักเกิ้ล พ่อมดแม่มด และ Witelnier

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.พ. 48


    “อะแฮ่ม” เสียงกระแอมของศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ทำให้เจนนี่สะดุ้งตื่นจากภวังค์



    “เธอคงจะเป็น เจนนิเฟอร์ แอนเดอร์สันสินะ” ดัมเบิลดอร์ถามเสียงนุ่ม เจนนี่พยักหน้ารับอย่างช้าๆเหมือนไม่รู้ตัว ปากค้างเธอยังอ้าค้างไว้อยู่ เฮอร์ไมโอนี่จึงสะกิดให้เจนนี่รู้ตัว เธอจึงรีบหุบปาก



    “เอ่อ...คือ คุณรู้จักหนูด้วยเหรอคะ” เจนนี่ถามอย่างประหม่า



    “ใช่แล้วสาวน้อย ฉันรู้จักเธอและพ่อของเธอดี” ดัมเบิลดอร์ตอบอย่างใจดี



    “พ่อของหนู??”



    “ใช่แล้ว ปีเตอร์ แอนดอร์สัน พ่อของเธอ ฉันรู้จักดี” เจนนี่งงหนัก อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนสอนเวทมนตร์ที่มีแต่ในหนังสือ(ในโลกของเธอ)รู้จักกับพ่อของเธอได้อย่างไรกัน



    “และฉันก็รู้จักผู้หญิงคนนี้ดีด้วยเช่นกัน” ดัมเบิลดอร์พูดจบแล้วผายมือไปยังผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหลัง ซึ่งทำให้เจนนี่ตัวสั่นด้วยความดีใจสุดขีด



    “แม่!!!!!” เจนนี่โผเข้ากอดผู้หญิงคนนั้นอย่างไม่รีรอ ทั้งคู่กอดกันแน่น ความรักและความคิดถึงที่ทั้งคู่มีได้ถ่ายทอดให้แก่กันและส่งมาถึงคนที่อยู่รอบข้างด้วย ดัมเบิลดอร์กับแฮร์รี่ยิ้มกว้างอย่างยินดี ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นยกมือขึ้นมาปาดน้ำตา เจนนี่กับคุณนายแอนเดอร์สันกอดกันอยู่นานโดยไม่พูดอะไร สักพักทั้งคู่จึงคลายอ้อมกอดแล้วสบตากัน



    “แม่คิดถึงลูกเหลือเกิน เจนนี่” คุณนายพูดพลางเอามือลูบแก้มลูกสาวอย่างห่วงหา



    “หนูก็คิดถึงแม่ค่ะ หนูพยายามจะหาทางกลับบ้านอยู่ตลอด แต่...” เจนนี่ปล่อยโฮออกมา น้ำตาเธอพรั่งพรูจนหน้าเธอปียกไปหมด ฝ่ายแม่นั้นได้ใช้มือเช็ดน้ำตาให้ลูกสาว



    “ไม่เอาน่าลูกรัก  แม่อยู่นี่แล้ว” คุณนายแอนเดอร์สันกล่าวเสียงสั่น เธอเองก็ทรมานใจไม่น้อยที่ไม่ได้เจอหน้าลูกสาวเป็นเวลานาน



    “แม่ มันเกิดอะไรขึ้นคะ .......มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา” เจนนี่พูดไปสะอื้นไป แล้วใช้มือเช็ดน้ำตา



    “คำถามนี้ฉันขอเป็นคนตอบเองละกัน เราไปนั่งกันที่โต๊ะนั้นเถอะ ฉันอยากจะดื่มบัตเตอร์เบียร์สักแก้วจัง” ดัมเบิลดอร์กล่าวอย่างอารมณ์ดี พลางเดินนำไปที่โต๊ะใหญ่ที่ติดกำแพงหลังจากที่สั่งบัตเตอร์เบียร์กับมาดามโรสเมอทาร์ เมื่อทุกคนนั่งลงกันครบ ดัมเบิลดอร์จึงเริ่มพูดขึ้น

    “ก่อนอื่นฉันจะขออธิบายอะไรสักหน่อย” ดัมเบิลดอร์เอ่ยอย่างใจเย็น



    “หลายคนคงจะสงสัยสินะว่า Witelnier ที่ฉันกับมิสเกรนเจอร์พูดถึงเมื่อสักครู่คืออะไร” มาดามโรสเมอทาร์นำบัตเตอร์เบียร์มาเสิร์ฟที่โต๊ะ ดัมเบิลดอร์รับมาจิบแล้วพูดต่อ



    “อย่างที่คนส่วนใหญ่รู้กัน ว่ามนุษย์ในโลกนี้มีอยู่2ประเภท ได้แก่ มักเกิ้ล กับ ผู้ที่มีเวทมนตร์ หรือที่พวกเราเรียกกันว่า พ่อมดแม่มดนั่นแหละ แต่ในปัจจุบัน เริ่มมีบางคนค้นพบว่ามีมนุษย์ประเภทที่สามซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นมักเกิ้ลหรือเป็นพ่อมดแม่มดกันแน่ เพราะมนุษย์พวกนี้ จะมีคุณสมบัติทั้ง2ประเภทรวมกัน คือเขาจะเกิดมาอยู่ในโลกของมักเกิ้ล แต่กลับมีเวทมนตร์ติดตัวมาด้วย”



    “หมายความว่าเจนนี่เป็นWitelnierงั้นเหรอครับ” แฮร์รี่ขัดขึ้น



    “อย่างที่เธอเข้าใจล่ะ แฮร์รี่” ดัมเบิลดอร์ตอบ



    “ก็ไม่เห็นจะแตกต่างกับผมเลยนี่ครับ ผมเองก็อยู่กับพวกเดอร์สลีย์มาตั้งแต่เกิดเหมือนกัน” แฮร์รี่ถามต่อ



    “นั่นล่ะคือประเดน..... สิ่งที่วิเทลเนียร์(Witelnier)แตกต่างจากพวกเราคือสถานที่ที่เขาเกิด  ในโลกที่เราอยู่นั้นยังมีอีกหลายมิติที่เราไม่เคยรู้ซึ่งมีมนุษย์อาศัยอยู่ด้วย และเราไม่สามารถข้ามไปยังมิตินั้นได้ แต่พวกวิเทลเนียร์นั้น  นอกจากพวกเขาจะเกิดในมิติที่ต่างจากเราแล้ว ยังสามารถเดินทางข้ามมายังมิติที่เราอยู่ได้ด้วย และพวกเขาก็มีเวทมนตร์เช่นเดียวกับพวกเราที่เป็นพ่อมดแม่มด แต่พิเศษตรงที่ เวทมนตร์ของพวกเขาแก่กล้ามากกว่าพ่อมดแม่มดมาก เพราะเหตุนี้แหละที่ทำให้วิเทลเนียร์สามารถข้ามมิติได้ มันเป็นความสามารถที่แม้แต่พ่อมดที่มีอำนาจมากๆส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะ”



    ดัมเบิลดอร์หลิ่วตานิดหนึ่งก่อนที่จะหยุดพักจิบบัตเตอร์เบียร์ แฮร์รี่พอจะเดาได้ว่า ดัมเบิลดอร์คงจะไม่ใช่พ่อมดส่วนใหญ่ที่ว่าแน่ๆ ดัมเบิลดอร์เป็นพ่อมดที่มีพลังอำนาจมากที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา แน่นอน..... แฮร์รี่เชื่อว่าดัมเบิลดอร์นั้นสามารถเดินทางข้ามมิติที่ว่านั่นได้แน่ๆ ส่วนเจนนี่นั้น ตอนนี้เธอได้แต่นั่งงงเป็นไก่ตาแตก ดัมเบิลดอร์วางแก้วบัตเตอร์เบียร์ลงแล้วพูดต่อ



    “ส่วนเรื่องของพ่อเธอ ใช่แล้ว ....ปีเตอร์เป็นวิเทลเนียร์ เมื่อ20ปีที่แล้ว ฉันได้พบเขาโดยบังเอิญ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ฉันกำลังศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พอดี ฉันจึงรู้ว่าเขาเป็นวิเทลเนียร์  ฉันให้ความช่วยเหลือเขาในหลายๆเรื่อง ตั้งแต่เรื่องการใช้เวทมนตร์ ไปจนถึงการเดินทางข้ามมิติ หลังจากนั้นไม่กี่ปี ปีเตอร์เขาก็สามารถใช้เวทมนตร์ได้เก่งกาจพอๆกับพวกมือปราบมารและยังสามารถเดินทางข้ามมิติได้คล่องชนิดที่อยากจะมาเมื่อไรก็มาเลยทีเดียว เขากับฉันได้ช่วยกันสร้าง ‘กุญแจ่ไขมิติ’เพื่อเป็นเครื่องมือใช้สำหรับเดินทางข้ามมิติขึ้น และปีเตอร์ก็ได้ดัดแปลงกุญแจนั้นเป็นล็อกเกตแทน เขาเป็นคนฉลาดมาก  สมกับที่เป็นวิเทลเนียร์จริงๆ” ดัมบิลดอร์พูดถึงพ่อของเจนนี่อย่างยกย่อง



    “มิน่า  ทำไมหลังจากที่ล็อกเกตของหนูหาย หนูถึงกลับบ้านไม่ได้” เจนนี่โพล่งขึ้น ดัมเบิลดอร์ยิ้มรับอย่างเอ็นดู



    “ระดับความสามารถในเวทมนตร์ของวิเทลเนียร์สูงมาก ขนาดที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้โดยไม่ต้องร่ายคาถาเลยทีเดียว”  .....คำพูดนี้ทำให้เจนนี่นึกถึงเหตุการณ์ที่มีเรื่องกับแพนซี่เมื่อสักครู่นี้ขึ้นมาทันที เพราะเหตุนี้นี่เอง........ ที่ถังน้ำนั้นกลับไปสาดแพนซี่แทนเพราะเจนนี่ได้ใช้เวทมนตร์โดยที่เธอไม่รู้ตัวนี่เอง



    “พ่อมดที่รู้เรื่องนี้ส่วนใหญ่หวาดกลัวพวกวิเทลเนียร์กัน แต่มีอยู่คนหนึ่งหวังที่จะใช้ประโยชน์จากอำนาจของพวกเขา คนๆนั้นคือ .....โวลเดอร์มอร์”



    ทุกคนที่ได้ยินดังนั้นหน้าซีดไปตามๆกัน รวมทั้งเจนนี่ด้วย คุณนายแอนเดอร์สันเห็นท่าทางของเจนนี่จึงยื่นมือไปกุมมือของเจนนี่ไว้ ดัมเบิลดอร์ถอนหายใจช้าๆ



    “โวลดอร์มอร์ เขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่ใช้ประโยชน์จากอำนาจของวิเทลเนียร์เท่านั้น เขาต้องการที่จะครอบครองมิติที่วิเทลเนียร์ผู้นั้นอาศัยอยู่ด้วย  แน่นอนที่โวลเดอมอร์จะรู้ว่าปีเตอร์เป็นใคร เขาพยายามที่จะชักจูงให้ปีเตอร์ไปเป็นผู้เสพความตาย แต่ไม่สำเร็จ ปีเตอร์กล้าหาญมากที่จะปฏิเสธอย่างหนักแน่น สร้างความไม่พอใจให้กับโวลเดอมอร์มาก จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น ปีเตอร์หลบหนีออกมาได้ แต่ตัวเขาเองก็โดนคำสาปด้วย ถึงแม้จะไม่ได้โดนโดยตรง แต่ก็ส่งผลกับร่างกายของเขาในเวลาต่อมา และนั่นก็ทำให้ปีเตอร์ต้องจบชีวิตลง”



    น้ำตาของจนนี่ร่วงเผาะอย่างไม่รู้ตัว เธอพยายามเค้นเสียงพูดออกมาอย่างลำบาก



    “น..ไหน..ไหนแม่บอกว่า....พ่อตายเพราะโรคมะเร็ง....ไงล่ะคะ” เจนนี่พูดไปสะอื้นไป คุณนายแอนเดอร์สันเองก็รู้สึกเศร้าไม่น้อยไปกว่าเจนนี่



    “แม่ขอโทษจ้ะลูก แม่ขอโทษ แม่ไม่รู้จะบอกลูกยังไงดี” คุณนายแอนเดอร์สันสวมกอดลูกสาว หน้าของเธออาบไปด้วยน้ำตา เฮอร์ไมโอนี่เองก็น้ำตาเอ่อเช่นกันเพราะสงสารแม่ลูกคู่นี้มาก ส่วนแฮร์รี่ก็ได้แต่อามือวางบนไหล่ของเจนนี่เป็นเชิงปลอบ ดัมเบิลดอร์ปล่อยให้สองแม่ลูกกอดกันสักพัก เมื่อทั้งคู่หายเศร้าลงไปบ้างและคลายอ้อมกอดอกจากกัน ดัมเบิลดอร์จึงเอ่ยต่อ



    “เอาล่ะ  ทีนี้เธอคงรู้แล้วนะ ว่าที่เธอมาที่นี่ได้เพราะอะไร สิ่งที่ฉันจะพูดต่อจากนี้ไปคือ สิ่งที่เธอต้องทำ เจนนิเฟอร์ เธอจะต้องเข้าเรียนที่โรงเรียนฮอกวอตส์”



    “อะไรนะคะ” เจนนี่พูดดังลั่นจนคนอื่นหันมามองกันเต็มไปหมด



    “เธอได้ยินไม่ผิดหรอกมิสแอนดอร์สัน  เธอได้ถูกเลือกให้ศึกษาเวทมนตร์ที่ฮอกวอตส์ แฮร์รี่ มิสเกรนเจอร์  ฉันขอให้พวกเธอช่วยพามิสแอนเดอร์สันไปเบิกเงินที่ธนาคารกริงกอตส์และซื้อของใช้ต่างๆที่ตรอกไดแอกอนในวันนี้ทีนะ” ดัมบิลดอร์หันไปพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ “ครับ/ค่ะ ศาสตราจารย์”



    “และพรุ่งนี้ เธอจะต้องสวมชุดของฮอกส์วอตมาเข้ารับการคัดเลือกบ้านจากหมวกคัดสรรด้วย จนนิเฟอร์” ดัมเบิลดอร์ยิ้มกว้างให้กับเจนนี่



    “ค่ะ” เจนนี่พยักหน้ารับอย่าง งงๆ



    “นี่คือหลายเลขตู้ที่ธนาคารกริงกอตส์ของเธอ ฉันต้องไปทำธุระต่อแล้ว คุณนายแอนเดอร์สัน เดี๋ยวผมไปส่งคุณเอง” ดัมบิลดอร์กล่าวพลางส่งซองกระดาษซองหนึ่งให้เจนนี่แล้วลุกขึ้นยืน



    “คุณแม่จะไปแล้วเหรอคะ ยังไม่หายคิดถึงเลย แล้วคุณแม่พักที่ไหนคะ” เจนนี่เกาะแขนแม่ตัวเองและถามอย่างเร็ว



    “ค่อยๆถามสิลูก แม่ตอบไม่ทัน แม่ยังอยู่ที่บ้านเราเหมือนเดิมแหละจ้ะ  ถ้าลูกคิดถึงแม่ก็ฝากจดหมายให้กับอาจารย์ใหญ่มาให้แม่ก็ได้นะจ้ะ แม่เองก็คิดถึงลูกเหมือนกัน” คุณนายพูดจบก็ก้มลงหอมแก้มลูกสาวตัวเองอย่างรักใคร่



    “ดูแลตัวเองดีๆนะลูก แม่ต้องไปแล้วจ้ะ” ...... “ค่ะแม่”



    “ฝากดูแลลูกฉันด้วยนะจ้ะเด็กๆ” คุณนายหันไปพูดกับแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ “ครับ/ค่ะ”



    “ขอให้ทุกคนโชคดี แล้วเจอกันพรุ่งนี้”ดัมบิลดอร์พูดจบก็เดินออกไปจากร้าน โดยมีคุณนายแอนเดอร์สันเดินตามหลังไป



    *********************************

    คำชี้แจง

    คำว่า \"Witelnier\" เราเมคขึ้นเอง เอามาจากคำว่า witch ที่แปลว่าแม่มด รวมกับคำว่า muggle แล้วมั่วๆๆๆออกมาเป็น witelnier ได้ไงก้อไม่รุ ส่วนความหมายและประเภทของมัน อันนี้ก้อมาจาก จิ้นเราเองท้างหมดเลยคร่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×