ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 9 : The Begining
“ต่อจากนี้ไป ..... เธอกับฉันเป็นศัตรูกัน”.................“ต่อจากนี้ไป ..... เธอกับฉันเป็นศัตรูกัน” ............คำพูดของเขา ยังคงก้องอยู่ในหู โดยไม่มีทีท่าว่าจะเงียบลง................
“เจนนี่... เจนนี่ ฟังฉันอยู่รึเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่สะกิดเจนนี่เบาๆ เจนนี่สะดุ้งเล็กน้อย
“เอ่อ.....เธอว่าอะไรนะ” เจนนี่เพิ่งตื่นจากภวังค์ เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
“ฉันถามเธอไปสามรอบแล้วว่า เธอจำคาถาปลดอาวุธได้รึยัง”
“อ้อ.....อื้ม จำได้แล้วล่ะ เอกซ์เปลลิอามัส” เจนนี่รีบตอบพลางโบกไม้กายสิทธิ์สีขาวนวลไปทางเฮอร์ไมโอนี่ ไม้กายสิทธิ์ของเฮอร์ไมโอนี่ลอยพุ่งเข้าหาเจนนี่อย่างว่าง่าย
“อื้ม เยี่ยม เธอนี่หัวไวมากเลยนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างดีใจ แต่ใบหน้าของเธอกลับดูอิดโรย
“ฉันว่าเธอไปนอนพักเถอะนะ เฮอร์ไมโอนี่” เจนนี่บอกอย่างเป็นห่วง
“ไม่ได้หรอก ฉันได้รับคำสั่งจากศาสตราจารย์มักกอนนากัลให้ช่วยเธอสอนวิชาต่างๆเป็นพิเศษ อย่าลืมสิว่าเธอข้ามระดับชั้นมาตั้ง3ปีเชียวนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงหนัก
“ฉันรู้ แต่วันนี้เธอดูเหนื่อยมากเลยนะ เธอช่วยแฮร์รี่ค้นหาเรื่องมังกรมาทั้งวันเลยนี่ อีกอย่าง เธอต้องเก็บแรงเอาไว้ด้วย เพราะแฮร์รี่คงต้องการความช่วยเหลือจากเธอในภารกิจแรกอีก” เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าจะแย้งขึ้นมา เจนนี่จึงรีบพูดต่อ
“เดี๋ยวฉันลองอ่านเองก่อนก็ได้ เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าฉันหัวไว” เจนนี่พูดยิ้มๆ เฮอร์ไมโอนี่นั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“โอเค ก็ได้ เหนื่อยจริงๆแหละวันนี้ ขึ้นนอนกันเถอะ”
“ฉันขออ่านตำราคาถาต่ออีกแป้บน่ะ เธอขึ้นไปก่อนเลย” เจนนี่ตอบ เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าแล้วเดินขึ้นไปบนหอนอนหญิง
หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่ขึ้นไปสักพัก เจนนี่เริ่มรู้สึกแปลกๆ ปกติการอ่านหนังสือให้มีสมาธินั้นเป็นอะไรที่ง่ายดายสำหรับเธอ แต่วันนี้กลับเป็นเรื่องที่ยากเย็นเหลือเกิน เจนนี่ปิดหนังสือแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย ......ข้างนอกนั้นมืดสนิท .....ไม่มีแสงจันทร์ .....หรือแม้แต่แสงดาว.......
“ต่อจากนี้ไป ..... เธอกับฉันเป็นศัตรูกัน”........เสียงนี้ เริ่มเข้ามารบกวนจิตใจของเธออีกครั้ง 
**********************
ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องกังวลใจอยู่มากก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เจนนี่เลิกตื่นเต้นกับการเรียนวิชาแรกในโรงเรียนฮอกวอตส์ไปได้ ตอนนี้เจนนี่รู้สึกเหมือนว่าอาหารเช้าตรงหน้าที่มีแต่ของโปรดของเธอกลับกลายเป็นเหมือนก้อนหินหรือกระดาษหยาบๆเท่านั้น
“ดูเธอหน้าซีดๆนะ” รอนพูดหลังจากที่กลืนเบคอนลงคอไปแล้ว
“อื้ม ตื่นเต้นนิดหน่อยน่ะ” เจนนี่พยักหน้าพลางใช้ส้อมจิ้มเบคอนเข้าปากเป็นชิ้นที่สาม ในขณะที่รอนกำลังจะเริ่มกินจานที่สอง
“คงยังไม่อิ่มสินะ รอน” เฮอร์ไมโอนี่พูดประชด
“มื้อเช้าน่ะสำคัญนะ เฮอร์ไมโอนี่” รอนทำหน้ายียวนใส่ก่อนที่จะยัดเบคอนชิ้นโตเข้าปากต่อ
“แฮร์รี่ ทานไม่ลงเหรอ” เจนนี่ถาม เมื่อเห็นท่าทางของแฮร์รี่
“อืมม.....” แฮร์รี่พยักหน้าน้อยๆ สายตายังมองไปที่โต๊ะอาหารอย่างล่องลอย เจนนี่พอจะรู้ว่าทำไม เธอเงยหน้ามองไปรอบๆห้องโถง ....ครัมกำลังกัดส้อมอย่างเหม่อๆ ส่วนเฟลอร์ก็ได้แต่ทำหน้างอใส่จานอาหาร และเซดริกก็กำลังพูดคุยกับเพื่อนที่โต๊ะฮัฟเฟิลพัฟอย่างออกรส...............
“อืม....... เหลือแค่เซดริกสินะที่ยังไม่รู้” เจนนี่คิด
ขณะที่ทุกคนลุกขึ้นหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ แฮร์รี่เหลือบไปเห็นเซดริกกำลังลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องโถง
*** “เฮอร์ไมโอนี่ ฉันจะตามไปเจอเธอที่เรือนกระจกนะ” แฮร์รี่บอกกับเฮอร์ไมโอนี่ 
“ไปก่อนเถอะ ฉันเดินตามเธอทันหรอกน่า” แฮร์รี่ย้ำอีก
“แฮร์รี่ เธอจะสายนะ กระดิ่งจะดังแล้ว - -” เฮอร์ไมโอนี่รีบบอก
“ฉันตามไปทันน่า” พูดจบแฮร์รี่ก็รีบวิ่งออกไปจากห้องโถงทันที
“ไม่มีอะไรหรอกเฮอร์ไมโอนี่ ไปเรียนกันเถอะ” เจนนี่พยักหน้าเป็นนัยๆ
  (***อ้างอิงจาก แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี หน้า388)
**************************
บรรยากาศในเรือนกระจกแตกต่างจากที่เจนนี่เคยจินตนาการไว้อย่างสิ้นเชิง เจนนี่เคยคิดว่ามันคงจะคล้ายๆกับพวกห้องเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อในโลกของเธอ แต่มันกลับแปลกยิ่งกว่านั้นมาก บางบริเวณมีความอบอุ่นมากกว่าข้างนอก แต่พอเดินถัดไปอีกหน่อยกลับเจออากาศเย็น หรือไม่ก็มีแดดจ้าทั้งที่ข้างนอกเรือนกลับมีเมฆมาก  ส่วนพวกสมุนไพรต่างๆ บางชนิดเธอแทบจะดูไม่ออกด้วยซ้ำว่ามันเป็นสัตว์หรือพืชกันแน่ถ้าเฮอร์ไมโอนี่ไม่บอกเธอก่อน........เจนนี่เดินชมเรือนกระจกเพลินจนสะดุดกับรากไม้เข้า
ตุ้บ!.. “ว้าย!!” เจนนี่เซถลา เธอคงจะชนกับชั้นวางกระถางไปแล้วหากไม่มีอ้อมแขนของคนๆหนึ่งโอบรั้งไว้ 
“ขอบ....” เจนนี่ชะงักเมื่อเห็นหน้าคนที่ช่วยเธอไว้ อีกฝ่ายก็ชะงักเช่นกัน......แล้วเขาก็ปล่อยมืออย่างรวดเร็วทันทีที่เห็นว่าเป็นเจนนี่ จนเจนนี่เกือบจะล้มไปอีกเพราะตั้งตัวไม่ทัน
“นี่นาย.....” เจนนี่เค่นเสียงอย่างไม่พอใจที่เขาเกือบทำให้เธอลงไปกองกับพื้น มัลฟอยทำเป็นปัดแขนเสื้อข้างที่โอบเจนนี่ และทำหน้าดูหมิ่นอย่างที่เขาเคยทำกับเพื่อนๆของเธอ นั่นยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับเจนนี่มากขึ้น แต่กระนั้นเธอก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาตรงๆ
“ฉันนึกว่าเธอจะคุ้นเคยกับที่นี่ซะอีกนะ เห็นแต่ก่อนทำตัวอย่างกับเป็นนักเรียนของที่นี่” มัลฟอยพูดประชดโดยไม่มองหน้าเจนนี่เลยแม้แต่นิดเดียว เจนนี่กัดริมฝีปากตัวเอง เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่ในอารมณ์ไหนกันแน่ ระหว่างโกรธ...หรือเจ็บปวด
เฮอร์ไมโอนี่และรอนหันมาเห็นเจนนี่อยู่กับมัลฟอยจึงรีบถลาเข้ามาทันที
“มีอะไรรึเปล่าเจนนี่” เฮอร์ไมโอนี่รีบถาม ส่วนรอนหันมาส่งตาขวางใส่มัลฟอย “มันหาเรื่องอะไรเธอรึเปล่า”
“ฉันไม่ได้อยากยุ่งกับพวกชั้นต่ำนักหรอกนะ วีสลีย์ ยายนี่ซุ่มซ่ามเดินชนฉันต่างหาก” มัลฟอยพูดอย่างดูแคลนพลางส่งสายตากวนๆทางเจนนี่
“นี่ ฉันไปเดินชนนายตั้งแต่เมื่อไรกัน” เจนนี่เริ่มโมโห แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ว่าอะไรเขาคืน ศาสตราจารย์สเปราต์ก็ได้เขามาในเรือนกระจกเสียก่อน มัลฟอยจึงถือโอกาสสะบัดผ้าคลุมเดินหนีออกไปเข้าประจำที่ ปล่อยให้ทั้งสามยืนคับแค้นใจอยู่อย่างนั้น
“อย่าไปสนพวกเลือดบริสุทธิ์ไร้สมองเลยเจนนี่ ไปประจำที่เถอะ” เฮอร์ไมโอนี่แตะไหล่เจนนี่และพาเธอยังโต๊ะยาวที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้สีเขียวปนแดงเล็กๆที่กำลังไหวระริกวางเกลื่อนอยู่ ตอนนี้นักเรียนมากันเกือบครบแล้ว เหลือแต่แฮร์รี่กับนักเรียนอีกสองสามคนเท่านั้นที่ยังมาไม่ถึง
“ทำไมพวกเราต้องมาเรียนกับพวกสลิธีรินด้วยนะ” เจนนี่คิดอย่างอึดอัด พลางเหลือบมองไปยังโต๊ะฝั่งตรงข้ามที่มัลฟอยยืนอยู่อย่างวางมาด
“ทำไมแฮร์รี่ยังไม่มาอีกนะ” เฮอร์ไมโอนี่บ่นอย่างเป็นห่วง
“เดี๋ยวก็มา ไม่ต้องห่วงหรอก” เจนนี่กระซิบตอบเฮอร์ไมโอนี่ เธอแอบเห็นรอนทำเป็นไม่ใส่ใจ
“พวกเธอคงเห็นแล้วสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้วสินะ ใช่แล้วจ้ะ นี่คือสิ่งที่เราจะเรียนกันในวันนี้ พุ่มอมฤต” ศาสตารจารย์สเปราต์พูดอย่างเป็นกันเอง
“ทีนี้ มีใครบอกได้บ้างว่า พุ่มอมฤตนี้ มีประโยชน์อย่างไร”
เป็นเรื่องผิดปกติอย่างมากที่มีนักเรียนยกมือขึ้นตอบมากกว่าหนึ่งคน(แน่ล่ะว่าคนหนึ่งจะต้องเป็นเฮอร์ไมโอนี่) แม้แต่ศาสตราจารย์สเปราต์เองก็มองอย่างแปลกใจ ก่อนที่จะเลือกให้คนใดคนหนึ่งตอบ
“ลองว่ามาซิ มิสแอนเดอร์สัน”
“ยอดอ่อนของมันสามารถรักษาแผลสดให้หายชะงัดได้ค่ะ” เจนนี่ตอบอย่างชัดเจน ทุกคนในชั้นเรียนหันมองเธอเป็นตาเดียวกัน จนเจนนี่รู้สึกเขินๆ
“เยี่ยมมากสำหรับนักเรียนใหม่ ให้กริฟฟินดอร์20คะแนนจ้ะ” ศาสตราจารย์สเปราต์ยิ้มกว้างอย่างพอใจ
“เธอนี่เก่งใช่ย่อยเลยนะ” เฮอร์ไมโอนี่ชมและอดทึ่งไม่ได้
“ฟลุคมากกว่าน่ะ ฉันอ่านเจอเมื่อวานระหว่างรอเข้าพิธีคัดสรรน่ะ ถ้าเกิดศาสตราจารย์ถามเรื่องอื่น ฉันคงตอบไม่ได้หรอก” เจนนี่กระซิบตอบ เธอเชื่อว่าเรื่องของห้องต้องประสงค์ยังควรที่จะเป็นความลับต่อไป
“เฮอร์ไมโอนี่มีคู่แข่งแล้วล่ะ” รอนแซวอย่างได้ใจ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ค้อนใส่หนึ่งที
“อย่างที่พวกเธอได้ทราบกันแล้วว่าเราจะใช้ประโยชน์ของพุ่มอมฤตจากยอดอ่อนของมันในการรักษาบาดแผล วันนี้ฉันจึงต้องการให้พวกเธอใช้ตัดเล็มยอดอ่อนของมันออกมา เพื่อนำไปสกัดเป็นยา ปีนี้เราคงต้องใช้มันเยอะหน่อย โดยเฉพาะในการประลองเวทไตรภาคี อ้อ.... ระวังหน่อยนะ พุ่มนี้มันสั่นไหวเองได้ อาจจะตัดลำบากสักหน่อย แล้วก็ กรรไกรที่ใช้สำหรับตัดยอดวางอยู่ด้านหลัง แต่มันมีไม่พอ ถ้าใครไม่ได้กรรไกรก็สามารถใช้คาถาตัดได้นะ เอาล่ะ  ลงมือได้เลยจ้ะ” พอศาสตราจารย์สเปราต์พูดจบ แฮร์รี่ก็วิ่งพรวดพราดเข้ามาพอดี ศาสตราจารย์สเปราต์จึงหันไปตำหนิ
“วันนี้มาสายนะ พอตเตอร์”
“ขอโทษครับ ศาสตราจารย์” แฮร์รี่รีบขอโทษและพุ่งเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่ทันที
*** “เฮอร์ไมโอนี่ - - ฉันต้องการให้เธอมาช่วยฉันหน่อย”
“แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอคิดว่าฉันพยายามทำอะไรหรือ แฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบตอบกลับมาขณะที่เธอกำลังบรรจงเล็มพุ่มที่ระริกไหว
“เฮอร์ไมโอนี่ ฉันต้องใช้คาถาเรียกของให้ได้ดีก่อนบ่ายวันพรุ่งนี้”
(***อ้างอิงจาก แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี หน้า 394)
************************************
เจนนี่เดินกลับหลังไปเพื่อที่จะไปหยิบกรรไกร แต่นักเรียนคนอื่นๆเอาไปใช้กันหมดแล้ว เธอจึงเดินกลับมาที่เดิม แล้วหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมา ความจริงที่เฮอร์ไมโอนี่สอนคาถาให้กับเธอเมื่อคืนก็ไปถึงระดับกลางแล้ว(ประมาณชั้นปีที่สองได้) แต่เจนนี่นึกไม่ออกว่าจะใช้คาถาอะไรดี เพราะยังไม่ชินกับการใช้เวทมนตร์ เธอจึงมองไปรอบๆตัวเผื่อว่าจะมีใครใช้ไม้กายสิทธิ์ตัดยอดอ่อนบ้าง
“กรรไกรเหรอ เรื่องอะไรฉันจะต้องใช้ของแบบเดียวกับพวกมักเกิ้ลด้วยล่ะ” มัลฟอยบ่นอุบอิบ พลางหยิบไม้กายสิทธิ์สีดำสนิทของเขาขึ้นมาชี้ที่ปลายยอดของพุ่มอมฤต “ดิฟฟินโด” มีเสียงดังฟุ่บเบาๆ ยอดอ่อนขาดและร่วงผลอยลงพื้นโต๊ะอย่างง่ายดาย เจนนี่แอบเหลือบมองเพื่อที่จะทำตาม
“ยังไม่เคยหัดคาถาง่ายๆงั้นสิ” มัลฟอยจับได้จึงหันไปดูถูก เจนนี่เงยหน้าพรวดขึ้นมาอย่างเคืองๆ
“ใครว่าล่ะ” เจนนี่พูดอย่างท้าทาย แล้วชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ยอดอ่อนของพุ่มที่ใกล้ตัวเธอมากที่สุด “ดิฟฟินโด” คาถานี้สำหรับเจนนี่มันง่ายพอที่จะทำได้ในครั้งแรก
“เก่งนี่” มัลฟอยหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย เจนนี่ยักคิ้วตอบอย่างท้าทาย
“แต่ก็แค่คาถากระจอกๆ ใครก็ทำได้ ดิฟฟินโด” คราวนี้มัลฟอยไม่ได้ชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ยอดอ่อน แต่กลับชี้ไปที่กระถางของเจนนี่แทน เพล้ง!!.........พุ่มอมฤตและเศษดินกระจายเต็มโต๊ะตรงหน้าเจนนี่ เป็นโชคของมัลฟอยที่ศาสตราจารย์สเปราต์ออกไปเตรียมภาชนะสำหรับบรรจุยอดอ่อนในปราสาทพอดี และนักเรียนคนอื่นๆก็กำลังชุลมุนกับการเล็มยอดอ่อนของตัวเอง จึงไม่มีใครสังเกต
“นี่มัลฟอย จงใจแกล้งกันชัดๆ” เจนนี่สวนกลับอย่างโมโห
“ทำแตกเองแล้วโทษคนอื่นเหรอ ยายซุ่มซ่าม” คราวนี้มัลฟอยเป็นฝ่ายยักคิ้วบ้าง เจนนี่กัดปากตัวเองอย่างหมั่นไส้
“ดิฟฟินโด!” กระถางตรงหน้าของมัลฟอยแตกกระจายเช่นกัน ทำให้เศษดินกระเด็นโดนเสื้อคลุมของเขา
“นี่!!! เธอรู้มั้ยว่าเสื้อของฉันราคาเท่าไร ต่อให้เงินเดือนของพ่อเธอทั้งสามเดือนมารวมกันก็ยังซื้อไม่ได้เลย รู้ไว้ซะ” มัลฟอยตะคอกอย่างหัวเสีย โดยไม่รู้เลยว่าได้สะกิดต่อมโกรธของเจนนี่เข้าอย่างจัง
“อย่ามาดูถูกพ่อของฉันนะ!!! ไม่งั้นฉันจะ........” เจนนี่โกรธสุดขีดที่มัลฟอยดูถูกพ่อของเธอพลางชี้ไม้กายสิทธิ์ที่มัลฟอย เธอเริ่มรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ไหลพล่านในตัวเธอเหมือนอย่างวันที่เธอโดนแพนซี่กลั่นแกล้งครั้งแรกที่ตรอกไดแอกอนไม่มีผิด
นักเรียนคนอื่นๆเริ่มเห็นและแตกตื่นกัน ทุกคนต่างคิดว่าเจนนี่ได้ร่ายคาถาออกมาแล้ว เพราะไม่มีใครรู้ว่าเธอไม่ใช่แม่มดธรรมดา มีแต่แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่เท่านั้นที่รู้
“เจนนี่ ! อย่า!!!” แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ตะโกนห้ามพร้อมกันเมื่อหันมาเห็น แต่ช้าไปเสียแล้ว... ที่ปลายไม้กายสิทธิ์ของเจนนี่เริ่มมีประกายเวทมนตร์สีขาวพุ่งออกมาทางมัลฟอยทั้งๆที่เธอยังไม่ได้ร่ายคาถาเลยแม้แต่คำเดียว
“ไม่งั้นจะทำไม!!!!! คิดว่าฉันกลัวเหรอ” มัลฟอยเริ่มโกรธโดยไม่ได้เอะใจเลยสักนิดว่าทำไมถึงมีพลังเวทมนตร์ออกมาจากไม้กายสิทธิ์ของเจนนี่ทั้งๆที่เธอยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ เขายกไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาเพื่อป้องกันตัว พลังเวทมนตร์ของเจนนี่พุ่งเข้ามาเกือบถึงตัวมัลฟอยแล้ว !!
นักเรียนทุกคนรีบวิ่งหนีออกห่างและเริ่มอุดหู นักเรียนหญิงบางคนกรีดร้องขึ้นมา รอนวิ่งเข้าไปหลบใต้โต๊ะทันที ส่วนแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ ทั้งคู่รีบก้มลงอุดหูและหลับตาปี๋ ทุกคนเชื่อว่าจะต้องเกิดระเบิดหรือความเสียหายเกิดขึ้นแน่นอน แต่.............
ไม่มีการระเบิดหรือแม้แต่เสียงกระทบกันของคาถาเลยแม้แต่น้อย แต่พลังคาถาเจนนี่และมัลฟอยกลับเชื่อมต่อกันเป็นสายสีขาวสว่างจ้า เส้นสายของคาถาจากที่ดูเดือดพล่านกลับกลายเป็นเส้นแสงที่สงบนิ่งเชื่อมกันเป็นหนึ่งเดียว ไม้กายสิทธิ์ของทั้งคู่จากที่เคยสั่นเพราะความรุนแรงของคาถากลับหยุดนิ่งราวกับถือมันไว้เฉยๆโดยไม่มีการเสกคาถาใดๆทั้งสิ้น
“นี่มันอะไรกันเนี่ย” เจนนี่อุทานเบาๆ มัลฟอยเองก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน เขาได้แต่อ้าปากหวอ มีนักเรียนเพียงไม่กี่คนที่ได้เห็นเหตุการณ์อันน่าประหลาดนี้ เพราะแทบจะทุกคนปิดหูหลับตากันหมด
“เกิดอะไรขึ้น!!!” ศาสตราจารย์สเปราต์อุทานอย่างตกใจเมื่อเข้ามาในเรือนกระจกและเห็นเศษของกระถาง ดิน และพุ่มอมฤตกระจายเกลื่อนตามโต๊ะและตามพื้น  เจนนี่และมัลฟอยรีบดึงไม้กายสิทธิ์กลับ เส้นแสงสีขาวนั้นหายวับไปทันที
“ทะเลาะวิวาทเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในเรือนกระจกของฉัน” ศาตราจารย์สเปราต์ตบหน้าผากตัวเองแล้วพุ่งเข้ามาหาเด็กทั้งสอง
“หักคนละ10คะแนน และกักบริเวณคืนนี้หนึ่งคืน”
**************************
“เจนนี่... เจนนี่ ฟังฉันอยู่รึเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่สะกิดเจนนี่เบาๆ เจนนี่สะดุ้งเล็กน้อย
“เอ่อ.....เธอว่าอะไรนะ” เจนนี่เพิ่งตื่นจากภวังค์ เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
“ฉันถามเธอไปสามรอบแล้วว่า เธอจำคาถาปลดอาวุธได้รึยัง”
“อ้อ.....อื้ม จำได้แล้วล่ะ เอกซ์เปลลิอามัส” เจนนี่รีบตอบพลางโบกไม้กายสิทธิ์สีขาวนวลไปทางเฮอร์ไมโอนี่ ไม้กายสิทธิ์ของเฮอร์ไมโอนี่ลอยพุ่งเข้าหาเจนนี่อย่างว่าง่าย
“อื้ม เยี่ยม เธอนี่หัวไวมากเลยนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างดีใจ แต่ใบหน้าของเธอกลับดูอิดโรย
“ฉันว่าเธอไปนอนพักเถอะนะ เฮอร์ไมโอนี่” เจนนี่บอกอย่างเป็นห่วง
“ไม่ได้หรอก ฉันได้รับคำสั่งจากศาสตราจารย์มักกอนนากัลให้ช่วยเธอสอนวิชาต่างๆเป็นพิเศษ อย่าลืมสิว่าเธอข้ามระดับชั้นมาตั้ง3ปีเชียวนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงหนัก
“ฉันรู้ แต่วันนี้เธอดูเหนื่อยมากเลยนะ เธอช่วยแฮร์รี่ค้นหาเรื่องมังกรมาทั้งวันเลยนี่ อีกอย่าง เธอต้องเก็บแรงเอาไว้ด้วย เพราะแฮร์รี่คงต้องการความช่วยเหลือจากเธอในภารกิจแรกอีก” เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าจะแย้งขึ้นมา เจนนี่จึงรีบพูดต่อ
“เดี๋ยวฉันลองอ่านเองก่อนก็ได้ เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าฉันหัวไว” เจนนี่พูดยิ้มๆ เฮอร์ไมโอนี่นั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“โอเค ก็ได้ เหนื่อยจริงๆแหละวันนี้ ขึ้นนอนกันเถอะ”
“ฉันขออ่านตำราคาถาต่ออีกแป้บน่ะ เธอขึ้นไปก่อนเลย” เจนนี่ตอบ เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าแล้วเดินขึ้นไปบนหอนอนหญิง
หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่ขึ้นไปสักพัก เจนนี่เริ่มรู้สึกแปลกๆ ปกติการอ่านหนังสือให้มีสมาธินั้นเป็นอะไรที่ง่ายดายสำหรับเธอ แต่วันนี้กลับเป็นเรื่องที่ยากเย็นเหลือเกิน เจนนี่ปิดหนังสือแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย ......ข้างนอกนั้นมืดสนิท .....ไม่มีแสงจันทร์ .....หรือแม้แต่แสงดาว.......
“ต่อจากนี้ไป ..... เธอกับฉันเป็นศัตรูกัน”........เสียงนี้ เริ่มเข้ามารบกวนจิตใจของเธออีกครั้ง 
**********************
ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องกังวลใจอยู่มากก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เจนนี่เลิกตื่นเต้นกับการเรียนวิชาแรกในโรงเรียนฮอกวอตส์ไปได้ ตอนนี้เจนนี่รู้สึกเหมือนว่าอาหารเช้าตรงหน้าที่มีแต่ของโปรดของเธอกลับกลายเป็นเหมือนก้อนหินหรือกระดาษหยาบๆเท่านั้น
“ดูเธอหน้าซีดๆนะ” รอนพูดหลังจากที่กลืนเบคอนลงคอไปแล้ว
“อื้ม ตื่นเต้นนิดหน่อยน่ะ” เจนนี่พยักหน้าพลางใช้ส้อมจิ้มเบคอนเข้าปากเป็นชิ้นที่สาม ในขณะที่รอนกำลังจะเริ่มกินจานที่สอง
“คงยังไม่อิ่มสินะ รอน” เฮอร์ไมโอนี่พูดประชด
“มื้อเช้าน่ะสำคัญนะ เฮอร์ไมโอนี่” รอนทำหน้ายียวนใส่ก่อนที่จะยัดเบคอนชิ้นโตเข้าปากต่อ
“แฮร์รี่ ทานไม่ลงเหรอ” เจนนี่ถาม เมื่อเห็นท่าทางของแฮร์รี่
“อืมม.....” แฮร์รี่พยักหน้าน้อยๆ สายตายังมองไปที่โต๊ะอาหารอย่างล่องลอย เจนนี่พอจะรู้ว่าทำไม เธอเงยหน้ามองไปรอบๆห้องโถง ....ครัมกำลังกัดส้อมอย่างเหม่อๆ ส่วนเฟลอร์ก็ได้แต่ทำหน้างอใส่จานอาหาร และเซดริกก็กำลังพูดคุยกับเพื่อนที่โต๊ะฮัฟเฟิลพัฟอย่างออกรส...............
“อืม....... เหลือแค่เซดริกสินะที่ยังไม่รู้” เจนนี่คิด
ขณะที่ทุกคนลุกขึ้นหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ แฮร์รี่เหลือบไปเห็นเซดริกกำลังลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องโถง
*** “เฮอร์ไมโอนี่ ฉันจะตามไปเจอเธอที่เรือนกระจกนะ” แฮร์รี่บอกกับเฮอร์ไมโอนี่ 
“ไปก่อนเถอะ ฉันเดินตามเธอทันหรอกน่า” แฮร์รี่ย้ำอีก
“แฮร์รี่ เธอจะสายนะ กระดิ่งจะดังแล้ว - -” เฮอร์ไมโอนี่รีบบอก
“ฉันตามไปทันน่า” พูดจบแฮร์รี่ก็รีบวิ่งออกไปจากห้องโถงทันที
“ไม่มีอะไรหรอกเฮอร์ไมโอนี่ ไปเรียนกันเถอะ” เจนนี่พยักหน้าเป็นนัยๆ
  (***อ้างอิงจาก แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี หน้า388)
**************************
บรรยากาศในเรือนกระจกแตกต่างจากที่เจนนี่เคยจินตนาการไว้อย่างสิ้นเชิง เจนนี่เคยคิดว่ามันคงจะคล้ายๆกับพวกห้องเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อในโลกของเธอ แต่มันกลับแปลกยิ่งกว่านั้นมาก บางบริเวณมีความอบอุ่นมากกว่าข้างนอก แต่พอเดินถัดไปอีกหน่อยกลับเจออากาศเย็น หรือไม่ก็มีแดดจ้าทั้งที่ข้างนอกเรือนกลับมีเมฆมาก  ส่วนพวกสมุนไพรต่างๆ บางชนิดเธอแทบจะดูไม่ออกด้วยซ้ำว่ามันเป็นสัตว์หรือพืชกันแน่ถ้าเฮอร์ไมโอนี่ไม่บอกเธอก่อน........เจนนี่เดินชมเรือนกระจกเพลินจนสะดุดกับรากไม้เข้า
ตุ้บ!.. “ว้าย!!” เจนนี่เซถลา เธอคงจะชนกับชั้นวางกระถางไปแล้วหากไม่มีอ้อมแขนของคนๆหนึ่งโอบรั้งไว้ 
“ขอบ....” เจนนี่ชะงักเมื่อเห็นหน้าคนที่ช่วยเธอไว้ อีกฝ่ายก็ชะงักเช่นกัน......แล้วเขาก็ปล่อยมืออย่างรวดเร็วทันทีที่เห็นว่าเป็นเจนนี่ จนเจนนี่เกือบจะล้มไปอีกเพราะตั้งตัวไม่ทัน
“นี่นาย.....” เจนนี่เค่นเสียงอย่างไม่พอใจที่เขาเกือบทำให้เธอลงไปกองกับพื้น มัลฟอยทำเป็นปัดแขนเสื้อข้างที่โอบเจนนี่ และทำหน้าดูหมิ่นอย่างที่เขาเคยทำกับเพื่อนๆของเธอ นั่นยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับเจนนี่มากขึ้น แต่กระนั้นเธอก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาตรงๆ
“ฉันนึกว่าเธอจะคุ้นเคยกับที่นี่ซะอีกนะ เห็นแต่ก่อนทำตัวอย่างกับเป็นนักเรียนของที่นี่” มัลฟอยพูดประชดโดยไม่มองหน้าเจนนี่เลยแม้แต่นิดเดียว เจนนี่กัดริมฝีปากตัวเอง เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่ในอารมณ์ไหนกันแน่ ระหว่างโกรธ...หรือเจ็บปวด
เฮอร์ไมโอนี่และรอนหันมาเห็นเจนนี่อยู่กับมัลฟอยจึงรีบถลาเข้ามาทันที
“มีอะไรรึเปล่าเจนนี่” เฮอร์ไมโอนี่รีบถาม ส่วนรอนหันมาส่งตาขวางใส่มัลฟอย “มันหาเรื่องอะไรเธอรึเปล่า”
“ฉันไม่ได้อยากยุ่งกับพวกชั้นต่ำนักหรอกนะ วีสลีย์ ยายนี่ซุ่มซ่ามเดินชนฉันต่างหาก” มัลฟอยพูดอย่างดูแคลนพลางส่งสายตากวนๆทางเจนนี่
“นี่ ฉันไปเดินชนนายตั้งแต่เมื่อไรกัน” เจนนี่เริ่มโมโห แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ว่าอะไรเขาคืน ศาสตราจารย์สเปราต์ก็ได้เขามาในเรือนกระจกเสียก่อน มัลฟอยจึงถือโอกาสสะบัดผ้าคลุมเดินหนีออกไปเข้าประจำที่ ปล่อยให้ทั้งสามยืนคับแค้นใจอยู่อย่างนั้น
“อย่าไปสนพวกเลือดบริสุทธิ์ไร้สมองเลยเจนนี่ ไปประจำที่เถอะ” เฮอร์ไมโอนี่แตะไหล่เจนนี่และพาเธอยังโต๊ะยาวที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้สีเขียวปนแดงเล็กๆที่กำลังไหวระริกวางเกลื่อนอยู่ ตอนนี้นักเรียนมากันเกือบครบแล้ว เหลือแต่แฮร์รี่กับนักเรียนอีกสองสามคนเท่านั้นที่ยังมาไม่ถึง
“ทำไมพวกเราต้องมาเรียนกับพวกสลิธีรินด้วยนะ” เจนนี่คิดอย่างอึดอัด พลางเหลือบมองไปยังโต๊ะฝั่งตรงข้ามที่มัลฟอยยืนอยู่อย่างวางมาด
“ทำไมแฮร์รี่ยังไม่มาอีกนะ” เฮอร์ไมโอนี่บ่นอย่างเป็นห่วง
“เดี๋ยวก็มา ไม่ต้องห่วงหรอก” เจนนี่กระซิบตอบเฮอร์ไมโอนี่ เธอแอบเห็นรอนทำเป็นไม่ใส่ใจ
“พวกเธอคงเห็นแล้วสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้วสินะ ใช่แล้วจ้ะ นี่คือสิ่งที่เราจะเรียนกันในวันนี้ พุ่มอมฤต” ศาสตารจารย์สเปราต์พูดอย่างเป็นกันเอง
“ทีนี้ มีใครบอกได้บ้างว่า พุ่มอมฤตนี้ มีประโยชน์อย่างไร”
เป็นเรื่องผิดปกติอย่างมากที่มีนักเรียนยกมือขึ้นตอบมากกว่าหนึ่งคน(แน่ล่ะว่าคนหนึ่งจะต้องเป็นเฮอร์ไมโอนี่) แม้แต่ศาสตราจารย์สเปราต์เองก็มองอย่างแปลกใจ ก่อนที่จะเลือกให้คนใดคนหนึ่งตอบ
“ลองว่ามาซิ มิสแอนเดอร์สัน”
“ยอดอ่อนของมันสามารถรักษาแผลสดให้หายชะงัดได้ค่ะ” เจนนี่ตอบอย่างชัดเจน ทุกคนในชั้นเรียนหันมองเธอเป็นตาเดียวกัน จนเจนนี่รู้สึกเขินๆ
“เยี่ยมมากสำหรับนักเรียนใหม่ ให้กริฟฟินดอร์20คะแนนจ้ะ” ศาสตราจารย์สเปราต์ยิ้มกว้างอย่างพอใจ
“เธอนี่เก่งใช่ย่อยเลยนะ” เฮอร์ไมโอนี่ชมและอดทึ่งไม่ได้
“ฟลุคมากกว่าน่ะ ฉันอ่านเจอเมื่อวานระหว่างรอเข้าพิธีคัดสรรน่ะ ถ้าเกิดศาสตราจารย์ถามเรื่องอื่น ฉันคงตอบไม่ได้หรอก” เจนนี่กระซิบตอบ เธอเชื่อว่าเรื่องของห้องต้องประสงค์ยังควรที่จะเป็นความลับต่อไป
“เฮอร์ไมโอนี่มีคู่แข่งแล้วล่ะ” รอนแซวอย่างได้ใจ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ค้อนใส่หนึ่งที
“อย่างที่พวกเธอได้ทราบกันแล้วว่าเราจะใช้ประโยชน์ของพุ่มอมฤตจากยอดอ่อนของมันในการรักษาบาดแผล วันนี้ฉันจึงต้องการให้พวกเธอใช้ตัดเล็มยอดอ่อนของมันออกมา เพื่อนำไปสกัดเป็นยา ปีนี้เราคงต้องใช้มันเยอะหน่อย โดยเฉพาะในการประลองเวทไตรภาคี อ้อ.... ระวังหน่อยนะ พุ่มนี้มันสั่นไหวเองได้ อาจจะตัดลำบากสักหน่อย แล้วก็ กรรไกรที่ใช้สำหรับตัดยอดวางอยู่ด้านหลัง แต่มันมีไม่พอ ถ้าใครไม่ได้กรรไกรก็สามารถใช้คาถาตัดได้นะ เอาล่ะ  ลงมือได้เลยจ้ะ” พอศาสตราจารย์สเปราต์พูดจบ แฮร์รี่ก็วิ่งพรวดพราดเข้ามาพอดี ศาสตราจารย์สเปราต์จึงหันไปตำหนิ
“วันนี้มาสายนะ พอตเตอร์”
“ขอโทษครับ ศาสตราจารย์” แฮร์รี่รีบขอโทษและพุ่งเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่ทันที
*** “เฮอร์ไมโอนี่ - - ฉันต้องการให้เธอมาช่วยฉันหน่อย”
“แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอคิดว่าฉันพยายามทำอะไรหรือ แฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบตอบกลับมาขณะที่เธอกำลังบรรจงเล็มพุ่มที่ระริกไหว
“เฮอร์ไมโอนี่ ฉันต้องใช้คาถาเรียกของให้ได้ดีก่อนบ่ายวันพรุ่งนี้”
(***อ้างอิงจาก แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี หน้า 394)
************************************
เจนนี่เดินกลับหลังไปเพื่อที่จะไปหยิบกรรไกร แต่นักเรียนคนอื่นๆเอาไปใช้กันหมดแล้ว เธอจึงเดินกลับมาที่เดิม แล้วหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมา ความจริงที่เฮอร์ไมโอนี่สอนคาถาให้กับเธอเมื่อคืนก็ไปถึงระดับกลางแล้ว(ประมาณชั้นปีที่สองได้) แต่เจนนี่นึกไม่ออกว่าจะใช้คาถาอะไรดี เพราะยังไม่ชินกับการใช้เวทมนตร์ เธอจึงมองไปรอบๆตัวเผื่อว่าจะมีใครใช้ไม้กายสิทธิ์ตัดยอดอ่อนบ้าง
“กรรไกรเหรอ เรื่องอะไรฉันจะต้องใช้ของแบบเดียวกับพวกมักเกิ้ลด้วยล่ะ” มัลฟอยบ่นอุบอิบ พลางหยิบไม้กายสิทธิ์สีดำสนิทของเขาขึ้นมาชี้ที่ปลายยอดของพุ่มอมฤต “ดิฟฟินโด” มีเสียงดังฟุ่บเบาๆ ยอดอ่อนขาดและร่วงผลอยลงพื้นโต๊ะอย่างง่ายดาย เจนนี่แอบเหลือบมองเพื่อที่จะทำตาม
“ยังไม่เคยหัดคาถาง่ายๆงั้นสิ” มัลฟอยจับได้จึงหันไปดูถูก เจนนี่เงยหน้าพรวดขึ้นมาอย่างเคืองๆ
“ใครว่าล่ะ” เจนนี่พูดอย่างท้าทาย แล้วชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ยอดอ่อนของพุ่มที่ใกล้ตัวเธอมากที่สุด “ดิฟฟินโด” คาถานี้สำหรับเจนนี่มันง่ายพอที่จะทำได้ในครั้งแรก
“เก่งนี่” มัลฟอยหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย เจนนี่ยักคิ้วตอบอย่างท้าทาย
“แต่ก็แค่คาถากระจอกๆ ใครก็ทำได้ ดิฟฟินโด” คราวนี้มัลฟอยไม่ได้ชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ยอดอ่อน แต่กลับชี้ไปที่กระถางของเจนนี่แทน เพล้ง!!.........พุ่มอมฤตและเศษดินกระจายเต็มโต๊ะตรงหน้าเจนนี่ เป็นโชคของมัลฟอยที่ศาสตราจารย์สเปราต์ออกไปเตรียมภาชนะสำหรับบรรจุยอดอ่อนในปราสาทพอดี และนักเรียนคนอื่นๆก็กำลังชุลมุนกับการเล็มยอดอ่อนของตัวเอง จึงไม่มีใครสังเกต
“นี่มัลฟอย จงใจแกล้งกันชัดๆ” เจนนี่สวนกลับอย่างโมโห
“ทำแตกเองแล้วโทษคนอื่นเหรอ ยายซุ่มซ่าม” คราวนี้มัลฟอยเป็นฝ่ายยักคิ้วบ้าง เจนนี่กัดปากตัวเองอย่างหมั่นไส้
“ดิฟฟินโด!” กระถางตรงหน้าของมัลฟอยแตกกระจายเช่นกัน ทำให้เศษดินกระเด็นโดนเสื้อคลุมของเขา
“นี่!!! เธอรู้มั้ยว่าเสื้อของฉันราคาเท่าไร ต่อให้เงินเดือนของพ่อเธอทั้งสามเดือนมารวมกันก็ยังซื้อไม่ได้เลย รู้ไว้ซะ” มัลฟอยตะคอกอย่างหัวเสีย โดยไม่รู้เลยว่าได้สะกิดต่อมโกรธของเจนนี่เข้าอย่างจัง
“อย่ามาดูถูกพ่อของฉันนะ!!! ไม่งั้นฉันจะ........” เจนนี่โกรธสุดขีดที่มัลฟอยดูถูกพ่อของเธอพลางชี้ไม้กายสิทธิ์ที่มัลฟอย เธอเริ่มรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ไหลพล่านในตัวเธอเหมือนอย่างวันที่เธอโดนแพนซี่กลั่นแกล้งครั้งแรกที่ตรอกไดแอกอนไม่มีผิด
นักเรียนคนอื่นๆเริ่มเห็นและแตกตื่นกัน ทุกคนต่างคิดว่าเจนนี่ได้ร่ายคาถาออกมาแล้ว เพราะไม่มีใครรู้ว่าเธอไม่ใช่แม่มดธรรมดา มีแต่แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่เท่านั้นที่รู้
“เจนนี่ ! อย่า!!!” แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ตะโกนห้ามพร้อมกันเมื่อหันมาเห็น แต่ช้าไปเสียแล้ว... ที่ปลายไม้กายสิทธิ์ของเจนนี่เริ่มมีประกายเวทมนตร์สีขาวพุ่งออกมาทางมัลฟอยทั้งๆที่เธอยังไม่ได้ร่ายคาถาเลยแม้แต่คำเดียว
“ไม่งั้นจะทำไม!!!!! คิดว่าฉันกลัวเหรอ” มัลฟอยเริ่มโกรธโดยไม่ได้เอะใจเลยสักนิดว่าทำไมถึงมีพลังเวทมนตร์ออกมาจากไม้กายสิทธิ์ของเจนนี่ทั้งๆที่เธอยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ เขายกไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาเพื่อป้องกันตัว พลังเวทมนตร์ของเจนนี่พุ่งเข้ามาเกือบถึงตัวมัลฟอยแล้ว !!
นักเรียนทุกคนรีบวิ่งหนีออกห่างและเริ่มอุดหู นักเรียนหญิงบางคนกรีดร้องขึ้นมา รอนวิ่งเข้าไปหลบใต้โต๊ะทันที ส่วนแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ ทั้งคู่รีบก้มลงอุดหูและหลับตาปี๋ ทุกคนเชื่อว่าจะต้องเกิดระเบิดหรือความเสียหายเกิดขึ้นแน่นอน แต่.............
ไม่มีการระเบิดหรือแม้แต่เสียงกระทบกันของคาถาเลยแม้แต่น้อย แต่พลังคาถาเจนนี่และมัลฟอยกลับเชื่อมต่อกันเป็นสายสีขาวสว่างจ้า เส้นสายของคาถาจากที่ดูเดือดพล่านกลับกลายเป็นเส้นแสงที่สงบนิ่งเชื่อมกันเป็นหนึ่งเดียว ไม้กายสิทธิ์ของทั้งคู่จากที่เคยสั่นเพราะความรุนแรงของคาถากลับหยุดนิ่งราวกับถือมันไว้เฉยๆโดยไม่มีการเสกคาถาใดๆทั้งสิ้น
“นี่มันอะไรกันเนี่ย” เจนนี่อุทานเบาๆ มัลฟอยเองก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน เขาได้แต่อ้าปากหวอ มีนักเรียนเพียงไม่กี่คนที่ได้เห็นเหตุการณ์อันน่าประหลาดนี้ เพราะแทบจะทุกคนปิดหูหลับตากันหมด
“เกิดอะไรขึ้น!!!” ศาสตราจารย์สเปราต์อุทานอย่างตกใจเมื่อเข้ามาในเรือนกระจกและเห็นเศษของกระถาง ดิน และพุ่มอมฤตกระจายเกลื่อนตามโต๊ะและตามพื้น  เจนนี่และมัลฟอยรีบดึงไม้กายสิทธิ์กลับ เส้นแสงสีขาวนั้นหายวับไปทันที
“ทะเลาะวิวาทเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในเรือนกระจกของฉัน” ศาตราจารย์สเปราต์ตบหน้าผากตัวเองแล้วพุ่งเข้ามาหาเด็กทั้งสอง
“หักคนละ10คะแนน และกักบริเวณคืนนี้หนึ่งคืน”
**************************
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น