ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4: ตามหาล็อกเกตที่หายไป (Part II)
และแล้วก็ถึงวันที่เจนนี่รอคอย เฮอร์ไมโอนี่วิ่งมาหาเธอที่ห้องสมุดอย่างรีบร้อน.....
“เจนนี่ๆ ...น้ำยาสรรพรสใช้ได้แล้วนะ” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบอย่างรีบร้อนพลางมองไปรอบๆเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น
“จริงเหรอ เยี่ยมไปเลย!!” เจนนี่อุทานเบาๆอย่างดีใจ
“ใช่ แต่เราต้องรีบไปตอนนี้เลย เดี๋ยวไม่ทัน” เฮอร์ไมโอนี่รีบพูดพลางช่วยเจนนี่เก็บหนังสือและช่วยคลุมผ้าคลุมล่องหนแล้วก็จูงมือเจนนี่ออกมาจากห้องสมุดอย่างรวดเร็ว (“เงียบๆหน่อยได้มั้ยพวกเธอ”มาดามพินซ์บ่น)
“ฉันวางยานอนหลับยายแพนซี่กับยายบัลสโตรกเด็กบ้านสลีธิรินแล้วนำไปซ่อนไว้ที่ห้องน้ำหญิงชั้นบน แล้วดึงผมของ2คนนั่นมาใช้ เรามีเวลาชั่วโมงกว่าๆก่อนที่2คนนั่นจะฟื้น” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบโดยไม่หันมามองเจนนี่ขณะที่ทั้งคู่รีบเดินอย่างรวดเร็ว
“แล้ว..เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญล่ะ”เจนนี่ถามอย่างสงสัย
“ฉันให้เขาช่วยเฝ้าสองคนนั้นให้น่ะ ที่จริงเธอคงจะไม่ยอมช่วยหรอกถ้าฉันไม่พูดว่าสองคนนั่นแอบพูดถึงเธอว่า ‘ยัยผีสิวเขรอะจอมหนวกหู’ น่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ
แล้วทั้งคู่ก็เดินมาถึงห้องน้ำหญิงชั้นบนสุด เมื่อเดินเข้าไปเจนนี่ก็เห็นผีเด็กสาวนั่งอยู่บนขอบประตูห้องน้ำห้องหนึ่งและจ้องเด็กสาวอีกสองคนที่นอนสลบอยู่ที่พื้นอยู่ใกล้ๆ
“ยายสองคนนี่สลบเป็นตายเลย”เมอร์เทิลหันมาพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ เสียงแหลมสูงของเธอนั้นแฝงไปด้วยความสะใจ
“อืม ดี” เฮอร์ไมโอนี่ตอบพลางถอดเสื้อคลุมของแพนซี่กับบัลสโตรกออกแล้วยื่นตัวหนึ่งมาให้เจนนี่ “สวมซะก่อน”
เมื่อเฮอร์ไมโอนี่สวมผ้าคลุมสลีธิริน(ซึ่งใหญ่กว่าตัวเธอมาก)เสร็จก็เปิดหม้อยาออก ควันพวยพุ่งออกมาจากของเหลวข้นหนืดที่ตอนนี้กำลังเดือดและส่งกลิ่นชวนสะอิดสะเอียน เจนนี่มองไปที่น้ำยาสรรพรสแล้วทำหน้าเบ้ เธอคิดว่าให้เธอกินลูกอมเม็ดทุกรสรสขี้หมายังจะกินง่ายซะกว่า...
“นี่มันน้ำยาสรรพรสนะ ไม่ใช่น้ำฟักทอง” เฮอร์ไมโอนี่แซวเมื่อเห็นสีหน้าของเจนนี่ แล้วเธอก็ตักน้ำยาใส่แก้ว2ใบเท่าๆกัน แล้วดึงผมของแพนซี่ใส่ลงไปในแก้วของเจนนี่ และดึงผมของบัลสโตรกใส่ในแก้วของเธอ
“หวังว่าคราวนี้คงไม่มีคนใดคนหนึ่งกลายเป็นแมวไปนะ” เจนนี่แซวบ้างเพราะในเล่ม2เฮอร์ไมโอนี่ทำพลาดจึงต้องกลายร่างเป็นครึ่งคนครึ่งแมว เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างอายๆ
“เอาล่ะนะ” เจนนี่สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่แล้วมือข้างหนึ่งก็บีบจมูกไว้ อีกข้างก็ยกแก้วดื่มรวดเดียวหมด เฮอร์ไมโอนี่ก็ทำเช่นกัน- - - - -
ความเจ็บปวดทรมานและความสะอิดสะเอียนเกิดขึ้นในไม่ช้า เจนนี่รู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆและอยากจะอาเจียร ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นก็ทำท่าเหมือนไม่มีแรงจะยืนแล้ว เจนนี่เห็นเธอลงไปคุกเข่าด้วยความทรมาน มันรุนแรงมากซะจนไม่มีแรงที่จะกรีดร้องออกมาได้ แต่แล้วพักหนึ่ง ความเจ็บปวดทรมานก็เริ่มบรรเทาลง- - - - - -
เจนนี่พยายามจะลุกขึ้นยืน เธอรู้สึกเหนื่อยล้าราวกับว่าเพิ่งวิ่งรอบปราสาทมาสัก3รอบ ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ เจนนี่ก้มลงมองตัวเธอซึ่งตอนนี้ไม่ใช่ร่างของเธอแล้ว เธอรีบวิ่งไปส่องกระจกทันที ภาพสะท้อนที่เธอเห็นนั้นเป็นเด็กสาวผมดำสนิทยาวถึงกลางหลัง และมีดวงตาสีดำที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งที่เธอไม่คุ้นตาเอาซะเลย
“ยายนี่ หน้าอย่างกับหมาจูจริงๆแฮะ” เจนนี่บ่น
“เรารีบไปกันเถอะมีเวลาไม่มากนักก่อนที่จะคืนร่างน่ะ” เสียงคนหนึ่งพูดขึ้น เจนนี่ตกใจเล็กน้อย
“ฉันเอง” เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่ร่างของเธออีกแล้วแต่กลับมีร่างที่สูงใหญ่และบึกบึนผิดไปจากเด็กสาวปกติทั่วไปได้พูดขึ้นอีก
“อ้อ อืม” เจนนี่โล่งอก แล้วทั้งคู่ก็มุ่งหน้าไปยังบ้านสลีธิรินทันที
********************
เป็นครั้งแรกที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ต้องจูงมือเจนนี่ เพราะว่าเจนนี่ไม่ต้องคลุมผ้าคลุมล่องหน จึงเป็นการสะดวกที่จะพูดคุยกันโดยไม่ต้องกระซิบ
“เวลานี้เป็นชม.เรียนของสลีธิรินทุกชั้นปี เลยไม่มีใครอยู่ที่ห้องนั่งเล่นเลยแน่นอน” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางรีบเดิน เจนนี่พยักหน้า
“ฉันละเบื่อข่าวและพวกที่เชื่อข่าวของยายริต้า สกีตเตอร์จริงๆ” เฮอร์ไมโอนี่บ่นอย่างเซ็งๆเมื่อเห็นนักเรียนกลุ่มหนึ่งจับกลุ่มคุยกันและในมือถือเดลี่พรอเฟ็ตที่มีรูปแฮร์รี่เป็นรูปใหญ่สุดในหน้าหนึ่ง
“ช่างมันเถอะ เดี๋ยวจะดีขึ้นเอง” เจนนี่พูดส่ง ตอนนี้เธอไม่ได้สนใจรอบข้างแล้ว ในหัวเธอคิดถึงแต่ล็อกเกตของเธอเท่านั้น
และแล้วทั้งสองก็มาถึงหน้าประตูบ้านสลีธิริน
“เอ้อ..แล้วรหัสผ่านล่ะเฮอร์ไมโอนี่” เจนนี่นึกขี้นได้
“ฉันสืบมาแล้วล่ะ บาร์ซิลิสก์” แล้วประตูก็เหวี่ยงออก (ตอนนี้เจนนี่รู้สึกว่าเฮอร์ไมโอนี่ฉลาดและรอบคอบกว่าที่คิดไว้มาก) ทั้งสองรีบก้าวเข้าไปทันที ห้องนั่งเล่นของบ้านสลีธิรินจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไว้คล้ายกับบ้านกริฟฟินดอร์ แต่แตกต่างกันตรงที่ห้องนี้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีดำเกือบทั้งหมด ทำให้ห้องนี้ดูมืดสลัวและมีมนต์ขลังกว่ามาก
“ฉันคิดว่ามันน่าจะอยู่ในหอนอนชายนะ” เจนนี่บอก
“อืม..ฉันก็คิดอย่างนั้น” เฮอร์ไมโอนี่เห็นด้วย แล้วทั้งสองก็ตรงไปที่หอนอนชาย
บนหอนอนชายนั้นได้ถูกแบ่งเป็นหลายๆห้อง “แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าห้องไหน” เจนนี่พูดอย่างเหนื่อยอ่อน
“ก็คงต้องสุ่มดูทีละห้องละ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างจนปัญญา
แล้วทั้งคู่ก็เปิดดูทีละห้องจนเจอห้องหนึ่งซึ่งมีเตียงที่หรูหราที่สุดวางอยู่กลางห้องหลังหนึ่ง แล้วก็มีเตียงธรรมดาๆอีก2หลัง วางอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง
“ฉันว่าน่าจะเป็นห้องนี้นะ” เฮอร์ไมโอนี่บอก แล้วทั้งคู่ก็เข้าไปในห้องนั้น เจนนี่ตรงไปที่เตียงที่หรูที่สุด เธอลงมือค้นทุกซอกทุกมุมของเตียงและรอบๆเตียง เฮอร์ไมโอนี่ก็ช่วยค้นตามตู้ต่างๆแล้วเตียงอีกสองหลังที่เหลือ
“เธอสองคนมาทำอะไรที่นี่น่ะ” เสียงยานคางดังขึ้น ทั้งสองสาวสะดุ้งเฮือกแล้วหันไปที่ประตูห้อง มัลฟอยยืนพิงประตูอยู่และมีสีหน้าโกรธจัด
“ฉันถามว่ามาทำอะไร แพนซี่!” มัลฟอยพูดเสียงดังขึ้น แล้วตรงรี่เข้ามาที่แพนซี่(ซึ่งจริงๆแล้วคือเจนนี่) แพนซี่หน้าซีดและพูดอะไรไม่ออก
“เอ่อ...คือ แครบขโมยของๆแพนซี่ไปน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ในร่างของบัลสโตรกพูดขึ้นเพื่อช่วยเจนนี่
“ชั้นไม่ได้ถามเธอ ยายร่างยักษ์!” มัลฟอยตะคอกใส่บัลสโตรก แล้วหันกลับมาที่แพนซี่
“เมื่อไหร่เธอจะเลิกยุ่งกับชั้น หา!.. ยายหมาจู!” มัลฟอยตะคอกใส่เธอ
“เอ่อ...ฉ...ฉันขอโทษ....จะไปเดี๋ยวนี้แล้ว” แพนซี่ตอบตะกุกตะกัก
“ออกไปให้พ้น!!” มัลฟอยตะคอกอีกแล้วชี้ไปทางประตู
แพนซี่(หรือที่ถูกคือเจนนี่)กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปกับเพื่อนของเธอ มัลฟอยมองตามด้วยความโมโห แล้วเขาก็หันกลับมาเอาของที่ลืมไว้ เมื่อได้ของแล้วก็กำลังจะเดินออกมาแต่เขาก็หันไปเห็นเตียงของเขาที่ถูกรื้อไว้อย่างเกลื่อนกลาด
“จะต้องให้ฉันเก็บเตียงเองเรอะ ฝันไปเถอะ ใครทำก็ต้องเก็บเอง.... ยายแพนซี่!” มัลฟอยพูดอย่างยโสแล้วรีบออกไปตามแพนซี่
**************************
“เชื่อเลยว่ามัลฟอยจะกลับเข้ามาเวลานี้น่ะ” เฮอร์ไมโอนี่บ่นอย่างใจเสียขณะที่ทั้งคู่รีบลงมาจากบันไดหอนอนชาย
“เฮ้อ......แล้วเมื่อไรฉันจะได้ล็อกเกตคืนละเนี่ย” เจนนี่บ่นอย่างผิดหวัง แต่ก็มีบางอย่างดึงดูดความสนใจเธอ
“ฮ.....เฮอร์ไมโอนี่ ผมเธอ..” เจนนี่ชี้ไปที่ผมของเฮอร์ไมโอนี่ซึ่งฟูฟ่องเหมือนเดิมแล้ว
“เธอด้วย เจนนี่ เรากำลังจะคืนร่าง!” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางชี้มาที่ผมของเจนนี่ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลตรงสลวยเหมือนเดิมแล้วเช่นกัน
“รีบไปกันเถอะ” ทั้งคู่รีบวิ่งไปที่ประตูทางออกทันที เฮอร์ไมโอนี่ก้าวพ้นประตูไปแล้วยื่นมือมาที่เจนนี่ “เร็วเข้าเจนนี่”
“แพนซี่ หยุดนะ” เสียงของมัลฟอยดังมาจากประตูหอนอนชาย เจนนี่คิดว่าไม่ทันแน่ๆจึงผลักมือเฮอร์ไมโอนี่ออก
“เธอออกไปก่อน มัลฟอยลงมาแล้ว”เจนนี่รีบพูดเบาๆ
“แล้วเธอล่ะ!” “ฉันไม่เป็นไร เขาเจอฉันดีกว่าเจอเธอ!” เจนนี่พูดจบแล้วดึงประตูมาปิดทันเวลาพอดีที่มัลฟอยลงมา เขาจึงไม่สังเกตเห็นเฮอร์ไมโอนี่
“เฮ้ย!” เจนนี่ตกใจเพราะมัลฟอยกระชากแขนเธอ
“แพนซ.......” มัลฟอยชะงักเมื่อเห็นว่าเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่ใช่แพนซี่ แต่กลับเป็นเด็กสาวหน้าคมสวย และมีผมยาวตรงสีน้ำตาล
“เธอ!” สายตาของมัลฟอยจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าที่สวยใสของเจนนี่(ถึงแม้ตอนนี้จะเต็มไปด้วยเหงื่อ) แต่มือของเขายังจับแขนเจนนี่ไว้แน่น และเขาก็ลืมเรื่องที่จะตามแพนซี่ไปเสียสนิท
“เธอ...รูปในล็อกเกตนั่น” มัลฟอยพูดขณะที่ยังอึ้งอยู่ (“ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีก”เขาคิด)
“ปล่อยนะ ...ฉันเจ็บ” เจนนี่พยายามดึงแขนกลับ มัลฟอยเพิ่งรู้ตัวจึงคลายมือออก
“เธออยู่สลีธิรินด้วยหรอ ทำไมฉันไม่เคยเห็นเธอเลยล่ะ” มัลฟอยถามอย่างสงสัยเมื่อเขาเห็นเจนนี่สวมเสื้อคลุมบ้านเดียวกัน
“ค...คือ...ฉัน...ฉันอยู่ปีสามน่ะ เลยไม่ค่อยเจอปีอื่น” เจนนี่พยายามนึกคำพูด หน้าของเธอซีดลงไปอีก
“ที่โต๊ะอาหารฉันก็ไม่เคยเห็นนะ” มัลฟอยถามอีก
“เอ่อ...ฉันไม่ค่อยถูกกับคนอื่นน่ะ เลยไม่ค่อยไปไหน .”
“นอกจากห้องสมุด ใช่มั้ย” มัลฟอยตัดบทอย่างรู้ทัน เจนนี่เงียบไปด้วยความอึ้ง
“นี่..เมื่อกี๊เธอพูดถึงล็อกเกตฉัน”เจนนี่รีบเปลี่ยนเรื่อง “เธอเก็บได้ใช่มั้ย ฉันขอคืนนะ”
“เธอชื่ออะไร”มัลฟอยทำเป็นไม่ได้ยิน
“นี่ ฉันขอล็อกเกตฉันคืน”เจนนี่ย้ำ
“ก็บอกมาก่อนสิว่าชื่ออะไร”มัลฟอยพูดเสียงเรียบอย่างเจ้าเล่ห์
“ก็ได้ๆ ฉันชื่อเจนนี่” เจนนี่ตอบอย่างจนปัญญา “อีตานี่กวนประสาทกว่าที่คิดแฮะ” เธอคิด
มัลฟอยล้วงกระเป๋าเสื้อคลุมของเขาแล้วหยิบล็อกเกตสีเงินออกมาแล้วยื่นให้เจนนี่ แต่พอเจนนี่ยื่นมือมารับเขาก็ดึงมือเขากลับ
“เอ.......ฉันอุตส่าห์เก็บมันไว้ไม่เอาไปขายเนี่ย น่าจะมีอะไรตอบแทนหน่อยนะ” มัลฟอยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
เจนนี่จ้องมัลฟอยอย่างโมโห “นายนี่มัน...”
“พรุ่งนี้ไปฮอกส์มี้ดกับฉันนะ” มัลฟอยชวน
“ฉ....ฉันไปไม่ได้” เจนนี่ตอบ เธอจะไปได้ยังไงกันในเมื่อเธอไม่ใช่นักเรียนของฮอกวอตส์และที่สำคัญ เธอไม่ใช่แม่มดด้วย
“งั้น..ฉันคงเอาไอ้นี่ไปขาย คงได้หลายตังค์....” มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงยียวน
“ไม่ได้นะ!” เจนนี่ พูดเสียงแข็ง
“งั้นก็ตกลงสิ” มัลฟอยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อีก
เจนนี่คิดอะไรไม่ออก เธอเงียบไปสักพัก.....
“ก็ได้ ฉัน....ไปก็ได้” เธอตอบไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะไปยังไง
“ดีมาก” มัลฟอยพูดอย่างพอใจ “งั้น..พรุ่งนี้เจอกันที่ร้านมาดามพุดดี้ฟุต 10โมงนะ”
“อืม” เจนนี่ตอบห้วนๆอย่างขุ่นเคือง แล้วเธอก็สะบัดหน้าออกไปจากห้องทันที ทิ้งความเงียบไว้กับมัลฟอย
“ในที่สุดฉันก็ได้เจอเธอซะที” เขาคิดพลางยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
********************
“เจนนี่ๆ ...น้ำยาสรรพรสใช้ได้แล้วนะ” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบอย่างรีบร้อนพลางมองไปรอบๆเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น
“จริงเหรอ เยี่ยมไปเลย!!” เจนนี่อุทานเบาๆอย่างดีใจ
“ใช่ แต่เราต้องรีบไปตอนนี้เลย เดี๋ยวไม่ทัน” เฮอร์ไมโอนี่รีบพูดพลางช่วยเจนนี่เก็บหนังสือและช่วยคลุมผ้าคลุมล่องหนแล้วก็จูงมือเจนนี่ออกมาจากห้องสมุดอย่างรวดเร็ว (“เงียบๆหน่อยได้มั้ยพวกเธอ”มาดามพินซ์บ่น)
“ฉันวางยานอนหลับยายแพนซี่กับยายบัลสโตรกเด็กบ้านสลีธิรินแล้วนำไปซ่อนไว้ที่ห้องน้ำหญิงชั้นบน แล้วดึงผมของ2คนนั่นมาใช้ เรามีเวลาชั่วโมงกว่าๆก่อนที่2คนนั่นจะฟื้น” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบโดยไม่หันมามองเจนนี่ขณะที่ทั้งคู่รีบเดินอย่างรวดเร็ว
“แล้ว..เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญล่ะ”เจนนี่ถามอย่างสงสัย
“ฉันให้เขาช่วยเฝ้าสองคนนั้นให้น่ะ ที่จริงเธอคงจะไม่ยอมช่วยหรอกถ้าฉันไม่พูดว่าสองคนนั่นแอบพูดถึงเธอว่า ‘ยัยผีสิวเขรอะจอมหนวกหู’ น่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ
แล้วทั้งคู่ก็เดินมาถึงห้องน้ำหญิงชั้นบนสุด เมื่อเดินเข้าไปเจนนี่ก็เห็นผีเด็กสาวนั่งอยู่บนขอบประตูห้องน้ำห้องหนึ่งและจ้องเด็กสาวอีกสองคนที่นอนสลบอยู่ที่พื้นอยู่ใกล้ๆ
“ยายสองคนนี่สลบเป็นตายเลย”เมอร์เทิลหันมาพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ เสียงแหลมสูงของเธอนั้นแฝงไปด้วยความสะใจ
“อืม ดี” เฮอร์ไมโอนี่ตอบพลางถอดเสื้อคลุมของแพนซี่กับบัลสโตรกออกแล้วยื่นตัวหนึ่งมาให้เจนนี่ “สวมซะก่อน”
เมื่อเฮอร์ไมโอนี่สวมผ้าคลุมสลีธิริน(ซึ่งใหญ่กว่าตัวเธอมาก)เสร็จก็เปิดหม้อยาออก ควันพวยพุ่งออกมาจากของเหลวข้นหนืดที่ตอนนี้กำลังเดือดและส่งกลิ่นชวนสะอิดสะเอียน เจนนี่มองไปที่น้ำยาสรรพรสแล้วทำหน้าเบ้ เธอคิดว่าให้เธอกินลูกอมเม็ดทุกรสรสขี้หมายังจะกินง่ายซะกว่า...
“นี่มันน้ำยาสรรพรสนะ ไม่ใช่น้ำฟักทอง” เฮอร์ไมโอนี่แซวเมื่อเห็นสีหน้าของเจนนี่ แล้วเธอก็ตักน้ำยาใส่แก้ว2ใบเท่าๆกัน แล้วดึงผมของแพนซี่ใส่ลงไปในแก้วของเจนนี่ และดึงผมของบัลสโตรกใส่ในแก้วของเธอ
“หวังว่าคราวนี้คงไม่มีคนใดคนหนึ่งกลายเป็นแมวไปนะ” เจนนี่แซวบ้างเพราะในเล่ม2เฮอร์ไมโอนี่ทำพลาดจึงต้องกลายร่างเป็นครึ่งคนครึ่งแมว เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างอายๆ
“เอาล่ะนะ” เจนนี่สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่แล้วมือข้างหนึ่งก็บีบจมูกไว้ อีกข้างก็ยกแก้วดื่มรวดเดียวหมด เฮอร์ไมโอนี่ก็ทำเช่นกัน- - - - -
ความเจ็บปวดทรมานและความสะอิดสะเอียนเกิดขึ้นในไม่ช้า เจนนี่รู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆและอยากจะอาเจียร ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นก็ทำท่าเหมือนไม่มีแรงจะยืนแล้ว เจนนี่เห็นเธอลงไปคุกเข่าด้วยความทรมาน มันรุนแรงมากซะจนไม่มีแรงที่จะกรีดร้องออกมาได้ แต่แล้วพักหนึ่ง ความเจ็บปวดทรมานก็เริ่มบรรเทาลง- - - - - -
เจนนี่พยายามจะลุกขึ้นยืน เธอรู้สึกเหนื่อยล้าราวกับว่าเพิ่งวิ่งรอบปราสาทมาสัก3รอบ ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ เจนนี่ก้มลงมองตัวเธอซึ่งตอนนี้ไม่ใช่ร่างของเธอแล้ว เธอรีบวิ่งไปส่องกระจกทันที ภาพสะท้อนที่เธอเห็นนั้นเป็นเด็กสาวผมดำสนิทยาวถึงกลางหลัง และมีดวงตาสีดำที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งที่เธอไม่คุ้นตาเอาซะเลย
“ยายนี่ หน้าอย่างกับหมาจูจริงๆแฮะ” เจนนี่บ่น
“เรารีบไปกันเถอะมีเวลาไม่มากนักก่อนที่จะคืนร่างน่ะ” เสียงคนหนึ่งพูดขึ้น เจนนี่ตกใจเล็กน้อย
“ฉันเอง” เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่ร่างของเธออีกแล้วแต่กลับมีร่างที่สูงใหญ่และบึกบึนผิดไปจากเด็กสาวปกติทั่วไปได้พูดขึ้นอีก
“อ้อ อืม” เจนนี่โล่งอก แล้วทั้งคู่ก็มุ่งหน้าไปยังบ้านสลีธิรินทันที
********************
เป็นครั้งแรกที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ต้องจูงมือเจนนี่ เพราะว่าเจนนี่ไม่ต้องคลุมผ้าคลุมล่องหน จึงเป็นการสะดวกที่จะพูดคุยกันโดยไม่ต้องกระซิบ
“เวลานี้เป็นชม.เรียนของสลีธิรินทุกชั้นปี เลยไม่มีใครอยู่ที่ห้องนั่งเล่นเลยแน่นอน” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางรีบเดิน เจนนี่พยักหน้า
“ฉันละเบื่อข่าวและพวกที่เชื่อข่าวของยายริต้า สกีตเตอร์จริงๆ” เฮอร์ไมโอนี่บ่นอย่างเซ็งๆเมื่อเห็นนักเรียนกลุ่มหนึ่งจับกลุ่มคุยกันและในมือถือเดลี่พรอเฟ็ตที่มีรูปแฮร์รี่เป็นรูปใหญ่สุดในหน้าหนึ่ง
“ช่างมันเถอะ เดี๋ยวจะดีขึ้นเอง” เจนนี่พูดส่ง ตอนนี้เธอไม่ได้สนใจรอบข้างแล้ว ในหัวเธอคิดถึงแต่ล็อกเกตของเธอเท่านั้น
และแล้วทั้งสองก็มาถึงหน้าประตูบ้านสลีธิริน
“เอ้อ..แล้วรหัสผ่านล่ะเฮอร์ไมโอนี่” เจนนี่นึกขี้นได้
“ฉันสืบมาแล้วล่ะ บาร์ซิลิสก์” แล้วประตูก็เหวี่ยงออก (ตอนนี้เจนนี่รู้สึกว่าเฮอร์ไมโอนี่ฉลาดและรอบคอบกว่าที่คิดไว้มาก) ทั้งสองรีบก้าวเข้าไปทันที ห้องนั่งเล่นของบ้านสลีธิรินจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไว้คล้ายกับบ้านกริฟฟินดอร์ แต่แตกต่างกันตรงที่ห้องนี้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีดำเกือบทั้งหมด ทำให้ห้องนี้ดูมืดสลัวและมีมนต์ขลังกว่ามาก
“ฉันคิดว่ามันน่าจะอยู่ในหอนอนชายนะ” เจนนี่บอก
“อืม..ฉันก็คิดอย่างนั้น” เฮอร์ไมโอนี่เห็นด้วย แล้วทั้งสองก็ตรงไปที่หอนอนชาย
บนหอนอนชายนั้นได้ถูกแบ่งเป็นหลายๆห้อง “แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าห้องไหน” เจนนี่พูดอย่างเหนื่อยอ่อน
“ก็คงต้องสุ่มดูทีละห้องละ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างจนปัญญา
แล้วทั้งคู่ก็เปิดดูทีละห้องจนเจอห้องหนึ่งซึ่งมีเตียงที่หรูหราที่สุดวางอยู่กลางห้องหลังหนึ่ง แล้วก็มีเตียงธรรมดาๆอีก2หลัง วางอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง
“ฉันว่าน่าจะเป็นห้องนี้นะ” เฮอร์ไมโอนี่บอก แล้วทั้งคู่ก็เข้าไปในห้องนั้น เจนนี่ตรงไปที่เตียงที่หรูที่สุด เธอลงมือค้นทุกซอกทุกมุมของเตียงและรอบๆเตียง เฮอร์ไมโอนี่ก็ช่วยค้นตามตู้ต่างๆแล้วเตียงอีกสองหลังที่เหลือ
“เธอสองคนมาทำอะไรที่นี่น่ะ” เสียงยานคางดังขึ้น ทั้งสองสาวสะดุ้งเฮือกแล้วหันไปที่ประตูห้อง มัลฟอยยืนพิงประตูอยู่และมีสีหน้าโกรธจัด
“ฉันถามว่ามาทำอะไร แพนซี่!” มัลฟอยพูดเสียงดังขึ้น แล้วตรงรี่เข้ามาที่แพนซี่(ซึ่งจริงๆแล้วคือเจนนี่) แพนซี่หน้าซีดและพูดอะไรไม่ออก
“เอ่อ...คือ แครบขโมยของๆแพนซี่ไปน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ในร่างของบัลสโตรกพูดขึ้นเพื่อช่วยเจนนี่
“ชั้นไม่ได้ถามเธอ ยายร่างยักษ์!” มัลฟอยตะคอกใส่บัลสโตรก แล้วหันกลับมาที่แพนซี่
“เมื่อไหร่เธอจะเลิกยุ่งกับชั้น หา!.. ยายหมาจู!” มัลฟอยตะคอกใส่เธอ
“เอ่อ...ฉ...ฉันขอโทษ....จะไปเดี๋ยวนี้แล้ว” แพนซี่ตอบตะกุกตะกัก
“ออกไปให้พ้น!!” มัลฟอยตะคอกอีกแล้วชี้ไปทางประตู
แพนซี่(หรือที่ถูกคือเจนนี่)กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปกับเพื่อนของเธอ มัลฟอยมองตามด้วยความโมโห แล้วเขาก็หันกลับมาเอาของที่ลืมไว้ เมื่อได้ของแล้วก็กำลังจะเดินออกมาแต่เขาก็หันไปเห็นเตียงของเขาที่ถูกรื้อไว้อย่างเกลื่อนกลาด
“จะต้องให้ฉันเก็บเตียงเองเรอะ ฝันไปเถอะ ใครทำก็ต้องเก็บเอง.... ยายแพนซี่!” มัลฟอยพูดอย่างยโสแล้วรีบออกไปตามแพนซี่
**************************
“เชื่อเลยว่ามัลฟอยจะกลับเข้ามาเวลานี้น่ะ” เฮอร์ไมโอนี่บ่นอย่างใจเสียขณะที่ทั้งคู่รีบลงมาจากบันไดหอนอนชาย
“เฮ้อ......แล้วเมื่อไรฉันจะได้ล็อกเกตคืนละเนี่ย” เจนนี่บ่นอย่างผิดหวัง แต่ก็มีบางอย่างดึงดูดความสนใจเธอ
“ฮ.....เฮอร์ไมโอนี่ ผมเธอ..” เจนนี่ชี้ไปที่ผมของเฮอร์ไมโอนี่ซึ่งฟูฟ่องเหมือนเดิมแล้ว
“เธอด้วย เจนนี่ เรากำลังจะคืนร่าง!” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางชี้มาที่ผมของเจนนี่ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลตรงสลวยเหมือนเดิมแล้วเช่นกัน
“รีบไปกันเถอะ” ทั้งคู่รีบวิ่งไปที่ประตูทางออกทันที เฮอร์ไมโอนี่ก้าวพ้นประตูไปแล้วยื่นมือมาที่เจนนี่ “เร็วเข้าเจนนี่”
“แพนซี่ หยุดนะ” เสียงของมัลฟอยดังมาจากประตูหอนอนชาย เจนนี่คิดว่าไม่ทันแน่ๆจึงผลักมือเฮอร์ไมโอนี่ออก
“เธอออกไปก่อน มัลฟอยลงมาแล้ว”เจนนี่รีบพูดเบาๆ
“แล้วเธอล่ะ!” “ฉันไม่เป็นไร เขาเจอฉันดีกว่าเจอเธอ!” เจนนี่พูดจบแล้วดึงประตูมาปิดทันเวลาพอดีที่มัลฟอยลงมา เขาจึงไม่สังเกตเห็นเฮอร์ไมโอนี่
“เฮ้ย!” เจนนี่ตกใจเพราะมัลฟอยกระชากแขนเธอ
“แพนซ.......” มัลฟอยชะงักเมื่อเห็นว่าเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่ใช่แพนซี่ แต่กลับเป็นเด็กสาวหน้าคมสวย และมีผมยาวตรงสีน้ำตาล
“เธอ!” สายตาของมัลฟอยจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าที่สวยใสของเจนนี่(ถึงแม้ตอนนี้จะเต็มไปด้วยเหงื่อ) แต่มือของเขายังจับแขนเจนนี่ไว้แน่น และเขาก็ลืมเรื่องที่จะตามแพนซี่ไปเสียสนิท
“เธอ...รูปในล็อกเกตนั่น” มัลฟอยพูดขณะที่ยังอึ้งอยู่ (“ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีก”เขาคิด)
“ปล่อยนะ ...ฉันเจ็บ” เจนนี่พยายามดึงแขนกลับ มัลฟอยเพิ่งรู้ตัวจึงคลายมือออก
“เธออยู่สลีธิรินด้วยหรอ ทำไมฉันไม่เคยเห็นเธอเลยล่ะ” มัลฟอยถามอย่างสงสัยเมื่อเขาเห็นเจนนี่สวมเสื้อคลุมบ้านเดียวกัน
“ค...คือ...ฉัน...ฉันอยู่ปีสามน่ะ เลยไม่ค่อยเจอปีอื่น” เจนนี่พยายามนึกคำพูด หน้าของเธอซีดลงไปอีก
“ที่โต๊ะอาหารฉันก็ไม่เคยเห็นนะ” มัลฟอยถามอีก
“เอ่อ...ฉันไม่ค่อยถูกกับคนอื่นน่ะ เลยไม่ค่อยไปไหน .”
“นอกจากห้องสมุด ใช่มั้ย” มัลฟอยตัดบทอย่างรู้ทัน เจนนี่เงียบไปด้วยความอึ้ง
“นี่..เมื่อกี๊เธอพูดถึงล็อกเกตฉัน”เจนนี่รีบเปลี่ยนเรื่อง “เธอเก็บได้ใช่มั้ย ฉันขอคืนนะ”
“เธอชื่ออะไร”มัลฟอยทำเป็นไม่ได้ยิน
“นี่ ฉันขอล็อกเกตฉันคืน”เจนนี่ย้ำ
“ก็บอกมาก่อนสิว่าชื่ออะไร”มัลฟอยพูดเสียงเรียบอย่างเจ้าเล่ห์
“ก็ได้ๆ ฉันชื่อเจนนี่” เจนนี่ตอบอย่างจนปัญญา “อีตานี่กวนประสาทกว่าที่คิดแฮะ” เธอคิด
มัลฟอยล้วงกระเป๋าเสื้อคลุมของเขาแล้วหยิบล็อกเกตสีเงินออกมาแล้วยื่นให้เจนนี่ แต่พอเจนนี่ยื่นมือมารับเขาก็ดึงมือเขากลับ
“เอ.......ฉันอุตส่าห์เก็บมันไว้ไม่เอาไปขายเนี่ย น่าจะมีอะไรตอบแทนหน่อยนะ” มัลฟอยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
เจนนี่จ้องมัลฟอยอย่างโมโห “นายนี่มัน...”
“พรุ่งนี้ไปฮอกส์มี้ดกับฉันนะ” มัลฟอยชวน
“ฉ....ฉันไปไม่ได้” เจนนี่ตอบ เธอจะไปได้ยังไงกันในเมื่อเธอไม่ใช่นักเรียนของฮอกวอตส์และที่สำคัญ เธอไม่ใช่แม่มดด้วย
“งั้น..ฉันคงเอาไอ้นี่ไปขาย คงได้หลายตังค์....” มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงยียวน
“ไม่ได้นะ!” เจนนี่ พูดเสียงแข็ง
“งั้นก็ตกลงสิ” มัลฟอยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อีก
เจนนี่คิดอะไรไม่ออก เธอเงียบไปสักพัก.....
“ก็ได้ ฉัน....ไปก็ได้” เธอตอบไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะไปยังไง
“ดีมาก” มัลฟอยพูดอย่างพอใจ “งั้น..พรุ่งนี้เจอกันที่ร้านมาดามพุดดี้ฟุต 10โมงนะ”
“อืม” เจนนี่ตอบห้วนๆอย่างขุ่นเคือง แล้วเธอก็สะบัดหน้าออกไปจากห้องทันที ทิ้งความเงียบไว้กับมัลฟอย
“ในที่สุดฉันก็ได้เจอเธอซะที” เขาคิดพลางยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
********************
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น