ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : จิ้งจอกมหัศจรรย์ตอนที่4: อาคุม่า 100%
[การโจมตีครั้งใหม่ของอาคุม่าเริ่มแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองแล้วค่ะ ประชาชนบางคนเริ่มกลายเป็นอาคุม่าอย่างลึกลับ พวกเขาต่างกลายเป็นหินแล้วยืนนิ่งเหมือนรูปปั้น ไม่รู้ว่าพวกเขาเหล่านี่จะกลายเป็นแบบนี้ต่อไปหรือไม่]
ถัดจากช่องข่าวของนายกเทศมนตรี ก็กลายเป็นข่าวด่วนที่แทรกเข้ามา ทำให้เด็กสาวที่นั่งอยู่ในห้องโถงรับประทานอาหารเลิกคิ้วขึ้นอย่างฉงน
"เรื่องมันเริ่มต้นขนาดนี้แล้วโดยที่เราไม่รู้เลยหรือเนี่ย?" ไดอาน่าเค้าคางมองอย่างกังวล ลูเซียนที่ยืนบริการอยู่ข้างหลังเดินเข้ามาอธิบายใกล้ๆ
"ตอนที่คุณหนูกำลังเรียนมารยาทกับคุณนายเอดดี้อยู่ ก็เริ่มปรากฎสัตว์ประหลาดออกมาอาละวาดในเมืองแล้วครับ แต่สักพักก็มีฮิโร่อย่างเลดี้บัคและแคทนัว์ออกมาจัดการเรียบร้อยแล้วครับ"
ไดอาน่าพยักหน้าเข้าใจ สงสัยเธอจะเรียนหนักอยู่แต่ในห้องจนไม่รู้ข่าวเลย
"แล้วทำไมถึงไม่มาเรียกฉันล่ะ" ไดอาน่าเอ่ยถาม เรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่คิดจะมาแจ้งเตือนกันเลยหรือไง จนเลยไปวันถัดมาเธอถึงเป็นคนสุดท้ายที่รู้ข่าวเนี่ย...
"คือ...กระผมเห็นว่าเรื่องมันถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว จึงไม่ได้แจ้งให้ทราบครับ ขอโทษด้วยครับคุณหนู"
ลูเซียนตอบอึกอักก่อนจะเอ่ยอธิบายแล้วขอโทษที่ไม่ได้เล่าให้ฟัง แต่ดวงตากลับดูลอกแลกไปมา ทำให้ฉันรับรู้ว่าสงสัยมีคนสั่งห้ามให้ปริปากเล่าเรื่องเมื่อวานนี้
และฉันก็พอเดาๆออก ว่าใครเป็นคนสั่งให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ พอเธอเห็นขึ้นมาก็เลยต้องมาอธิบายจะได้ดูเนียนๆ
กลับลูเซียนที่ไม่เก่งในเรื่องโกหกเลยเนี่ย... ใช้งานคนผิดแล้วล่ะ ถ้าเป็นเรื่องงานบ้านก็ว่าไปอย่าง
"ช่างเถอะค่ะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ถ้ามีเรื่องอะไรแบบนี้ก็แจ้งด้วยนะคะ ฉันขอตัวก่อน" ฉันลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารหลังเช็ดปากเสร็จ
หลังจากที่กลับมาถึงบ้านเมื่อวานนี้เธอก็เรียนทั้งวัน ไม่รู้ข่าวเรื่องโลกภายนอกเลย พอหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย
เธอคว้ากระเป๋าที่มักพกติดตัวไปไหนมาไหนด้วย ว่าจะเดินขึ้นไปบนห้องในขณะที่กำลังขึ้นบันได ลูเซียนก็เดินมาแจ้งว่า คุณแม่ได้โทรมาหาแต่เธอไม่ได้รับสาย
เมื่อเปิดกระเป๋าดูก็พบสองสายไม่ได้รับ เธอจึงพยักหน้าให้พ่อบ้านลูเซียนไปทำธุระที่ค้างต่อ ก่อนสองเท้าจะเดินไปที่ห้องนอน
แกร๊ก
เสียงปิดประตูเบาๆ เด็กสาวก้มมองโทรศัพท์ในมือพร้อมคิ้วขมวดเล็กน้อย
"โทรมาทำไมกันนะ...หรือจะรู้แล้วว่าฉันหนีไปโรงเรียนเมื่อวานนี้หวา..."
ไดอาน่าถอนหายใจเล็กน้อย เพราะพอเดาได้ว่าสงสัยมิแรนด้าหรือสายของแม่อาจจะโทรไปรายงานเรื่องเมื่อวานก็ได้มั้ง เมื่อปิดประตูเธอก็โยนกระเป๋าทิ้งไปบนเตียง
ตุบ
เป็นจังหวะเดี่ยวกับที่มีบางอย่างกระเด็นหลุดออกมาจากกระเป๋า แต่ตอนนั้นเธอยังไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ จึงทิ้งตัวนอนแผ่บนเตียงอย่างคลายเมื่อยตัว
ปิ๊บ ปิ๊บ
นิ้วเรียวกดโทรสายที่ไม่ได้รับกลับก็ถือสายรอครู่หนึ่ง.. เมื่อได้ยินเสียงปลายสายกดรับไดอาน่าก็ลุกมานั่งตรงดิ่งอัตโนมัติ
ให้ตาย.. ขนาดไม่ได้เจอกันซึ่งๆหน้านะเนี่ย ยังเผลอเกร็งตัวขนาดนี่...
[ฮัลโหล...ไดอาน่า]
"สวัสดีค่ะแม่..! แปลกใจจังเลยวันนี้คุณแม่โทรติดต่อกันมาสองวันแล้ว ฝนต้องตกแน่ๆเลยโทรมามีอะไรหรือเปล่าคะ? ตอนนี้หนูกำลังยุ๊งยุ่งเลยค่ะอีกสักพักต้องไปติวหนังสือต่อแล้ว รีบๆคุยธุระหน่อยนะคะ"
เสียงหวานของไดอาน่าพยายามทำเสียงร่าเริงสุดๆ พร้อมกับพูดแทรกรัวๆชนิดแทบไม่ให้คนปลายสายถามอะไร ปากพูดว่ายุ่งมากแต่เธอกลับหยิบมังงะข้างเตียงมาเปิดอ่านผ่านๆ
จนปลายสายข้ามประเทศถึงกับคิ้วกระตุก
[มีคนโทรมาบอกว่าลูกออกนอกเส้นทางเมื่อวานนี้..แต่แม่รู้ว่าลูกคงเหนื่อยที่ต้องรับมือกับคุณนายเอดดี้แม่เลยเลือกจะโทรมาใหม่ในวันนี้แทน ไดอาน่าลูก...ลูกคิดจะทำให้แม่โมโหตายหรือไงกัน หื้อ]
ปึก
เสียงตุบของปกหนังสือถูกปิดลงหล่นอยู่บนพื้น ไดอาน่าที่เหงื่อตกยิ้มค้างชะงึกกึกไปครู่ใหญ่ เพราะไม่คิดว่าคุณแม่จะเปิดตรงประเด็นเลย
สมแล้วที่เป็นเจ้าแม่นักธุรกิจ ไม่เสียเวลาอ้อมโลกสักรอบให้ลูกที่รักอย่างเธอเลยสินะ
"เรื่องนั้นเองหรือคะ... ก็หนูอยากไปโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นเขานี่นา.." ไดอาน่าพยายามทำเสียงให้ดูน่าหดหู่และน้อยใจ พร้อมกับคิดหาประโยคมาเบี่ยงเบนความสนใจของฮิซาเบลล่า ไม่งั้นละก็เธอจะถูกบ่นจนหูชาแน่ๆ
"ทำไมถึงมีแค่ไดอาน่าล่ะ ที่ไม่ได้ไปโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นเขา หนูอายุครบ14แล้วนะ มีเหตุผลอะไรกันแน่ถึงไม่อยากให้ออกไปข้างนอกนัก...ถ้าแม่อธิบายมาละก็หนูอาจจะไม่ไปก็ได้ ขอแค่เหตุผลดีๆสักข้อ..."
ไดอาน่าสงสัยจริงๆนะว่าทำไมถึงได้ชอบขังให้เธออยู่แต่ในบ้านนัก ขอแค่เหตุผลอธิบายมาเธอย่อมจะทำตามอยู่แล้วถ้าเหตุผลมันฟังขึ้นพอ ขอเพียงแค่บอก....
[ข้างนอกนั้นมันมีอะไรดีกัน มีแต่เรื่องอันตรายทั้งนั้น ถ้าไม่เพราะว่าเรื่องนั้นพวกเขาและพ่อลูกถึงได้-อึก....] อยู่ๆปลายสายก็เงียบไป
ไดอาน่าที่นั่งลุ้นแทบเหงื่อตกเมื่อประเด็นเรื่องที่อยากรู้มาตลอดกำลังจะเผยออกมาแล้ว
[เฮ้อ ช่างมันเถอะ]
ปลายสายตัดบทจบ
ไดอาน่าที่เผลอยืดตัวฟัง ถึงกลับเสียท่าหน้าแทบคว้ำลงพื้นเตียง ดีที่คว้าโต๊ะข้างๆทัน ทำเอาเด็กสาวอดเบะปากน้อยๆให้ดูน่ารักน่าชังเป็นพิธีไม่ได้
'สุดท้ายก็ต้องผิดหวังอีกจนได้ เพราะดูเหมือนว่าคุณแม่จะระงับอารมณ์ตัวเองทัน ก่อนที่จะเผยความลับออกมา...'
ไดอาน่าคิดอย่างหงุดหงิด
น่าสงสัยจริงๆ เรื่องนี้มันต้องเกี่ยวข้องกับพ่อของเธอด้วยแน่ๆ
[ไม่รู้ล่ะ....แม่ขี้เกียจมาโต้เถียงกับลูกแล้ว อีกสักพักแม่ต้องได้เจอหน้าลูกที่นี่ แม่จองตั๋วเครื่องบินไปแล้วเดียวลูเซียนจะพาลูกไป]
"ห๊า! อะ อะไรนะ"
ไดอาน่าเบิกตากว้าง บทที่เตรียมจะมาพูดเถียงแม่ตัวเองถูกกลืนลงคอ เธอผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจ ไม่ทันได้ถามอะไรลูเซียนก็เปิดประตูเข้ามาเหมือนรอจังหวะอยู่แล้ว
"ลูเซียนนี่มันอะไรกันน่ะ" ไดอาน่าขมวดคิ้วถามอย่างไม่ชอบใจ เมื่อเห็นว่าในมือมีกระเป๋าเดินทางของเธออยู่
"นายหญิงให้มารับคุณหนูครับ เสื้อผ้าและของใช้ทั้งหมด เมดได้จัดเตรียมมาให้แต่แรกแล้วครับ"
[ทำตามลูเซียนบอกซะไดอาน่า]
"หึ...หนูไม่ใช่เด็กแล้วนะ"
[..ไดอาน่า]
ปลายสายกดเสียงต่ำ ทำให้ฉันรู้ว่าครั้งนี้คุณแม่ไม่ยอมแน่ เธอนวดขมับตัวเองเบาๆเพราะปวดหัวตุบๆกับเรื่องที่ตั้งรับไม่ทัน มือที่กำกระโปรงแน่นก็คลายออกใบหน้ากลับมาไร้รอยยิ้ม เธอตอบเสียงนิ่งใส่โทรศัพท์
"ก็ได้ค่ะ...แต่หนูขอเวลาทำใจสักครู่"
[......]
ปลายสายเงียบไปนานจนเธอก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนที่น้ำเสียงหวานที่เย็นชาจะลดลงหลายส่วน ทำให้ความรู้สึกขุ่นมัวเมื่อครู่ถูกลดลงไปมาก
[แม่ให้เวลา5นาที แล้วทำตามลูเซี่ยนไปซะ]
ฉันเปิดลำโพงให้ลูเซียนได้ยินด้วย เขาโค้งตัวลงอย่างมีมารยาทก่อนจะปิดประตูห้องให้ หลังจากที่ไม่มีใครอยู่ในห้องแล้ว ไดอาน่ารีบลุกไปล็อคประตูและปิดลงกลอนด้วยความรวดเร็ว
"หึ...5นาทีสินะ เหลือเฟือเลย" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกจุดบนริมฝีปากงดงาม
ความเย็นชาเมื่อกี้ถูกลบออกไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเด็กสาวปรากฎความทะเล้นเต็มเหนี่ยว ความหดหู่ก่อนหน้านี้มลายหายไปจนหมด เหมือนกลับว่าเมื่อกี้เป็นภาพลวงตาที่เธอแสดงออกมาทั้งนั้น
"ขอโทษนะคะคุณแม่ แต่วันนี้หนูมีธุระแล้ว..ไว้คราวหน้านะ" ไดอาน่าหยิบกระเป๋าใบโปรดกวาดของจำเป็นลง พร้อมกับของที่หล่นออกมาบนเตียง
กึก
มือขาวผ่องกวาดไปเจอกล่องไม้สีดำแปลกตา แต่ด้วยความรีบร้อนทำให้ไดอาน่าไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก เธอเก็บกล่องไม้เล็กๆนั้นเข้ากระเป๋า ก่อนจะไปดึงผ้าปูเตียงมามัดเป็นปมต่อกันพร้อมกับผ้าห่ม เธอโยนออกไปให้มันถึงกิ่งไม้ ที่ยื่นมาข้างล่างก่อนจะสะพายกระเป๋าพร้อมกับไต่เชือกลง เมื่อรองเท้าถึงกิ่งไม้เธอก็พยุงตัวกระโดดลงจนถึงพื้น
พอขาถึงพื้นดินได้ เธอก็ลืมอีกนั้นแหละว่าลืมเปลี่ยนกระโปรง...แต่ ช่างมันเถอะ
ให้กลับไปเปลี่ยนตอนนี้คงไม่ทันแล้วละมั้ง
สองขารีบวิ่งมุ่งไปในปารีสทันที พร้อมบนคอที่สวมกล้องเพื่อจุดประสงค์หลักของวันนี้ไว้ด้วย
ใช่แล้ว กล้องนี่น่ะไดอาน่าซื้อมาเพื่อวันนี้โดยเฉพาะเลยล่ะ!
วันนี้จะเป็นวันแรกๆที่เลดี้บัคและแคทนัวร์จะปรากฎตัวในปารีสออกมายังไงล่ะ! แน่นอนว่าแฟนคลับหน้าจอเมื่อชาติก่อนอย่างเธอก็ต้องมาให้เห็นกับตาสิถึงจะถูก
ถึงเสี่ยงที่จะปะทะอาคุม่าแต่ไดอาน่าก็อยากจะไปถ่ายรูปดีๆเก็บเอาไว้ให้ได้ ไดอาน่าโบกแท็กซี่ไปในเมือง ก่อนจะเห็นว่ารถติดเธอก็จ่ายเงินแล้วเดินลงต่อเอง สองมือก็ถ่ายภาพอาคุม่าในคาบหินในเมืองไว้ด้วย
"วันนี้จะเป็นอีกวันที่เลดี้บัคและแคทนัวร์จะออกมาปกป้องปารีสอีกครั้งสินะ...อื้ม จะเอายังไงต่อดีนะ"
เรื่องมันจะจบตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว แต่สาเหตุเพราะเลดี้บัคได้ปล่อยอาคุม่าในคาบผีเสื้อสีดำไป เพราะเธอคงไม่คิดว่ามันจะถูกกระจายพลังไปเล่นงานคนทั้งเมืองแบบนี้ ทำให้ประชากรในเมืองปารีสกลายเป็นหินยักษ์เกือบครึ่งเมือง
ถ้าไม่ใช่วันนี้ล่ะก็ไดอาน่าจะยินยอมบินรอบโลกไปหาแม่ทันทีแน่นอน
สาเหตุเพราะจะได้มีข้ออ้างยืดเวลาเรียนดนตรีและการเต้นรำไปได้อีกวันด้วย ถ้าเป็นวันอื่นนะไดอาน่าจะกระโดดลงเรือคว้าไว้แน่นอน
บังเอิ๊งง บังเอิญที่วันนี้เธอจะได้เจอพวกเลดี้บัค เพราะฉะนั้นคุณแม่ต้องรอไปก่อนนะ
กริ๊ดดดดด ปีศาจ!
เสียงกรีดร้องพร้อมกับแผ่นดินที่สั่นสะเทือน เอะอะคุกโครมไปทั่วทำให้ไดอาน่าตาลุกวาว เพราะรู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร มนุษย์หินรอบๆเริ่มขยับตัวไปมาได้
อาคุม่าในคลาบอสูรยักษ์ในจินตนาการ ทั้งตัวเป็นหินตั้งแต่หัวจรดเท้า มันส่งเสียงคำครามจนกระโปรงเธอแทบปริวเพราะแรงลม เด็กสาวเห็นอาคุม่ากำลังเดินเยืองมาทางนี้เธอก็วิ่งหลบไปอีกทางทันที
ดูเหมือนว่าเธอจะเจอปัญหาแล้วล่ะ.. ฉันไม่รู้ว่าพวกเลดี้บัคและแคทนัวร์อยู่ที่ไหน!!
..........................................
..............
....
20นาทีต่อมา
"แฮ่ก แฮ่ก" เสียงหอบเล็กน้อยปรากฎขึ้นมา เมื่อไดอาน่าที่วิ่งหนีอาคุม่าไปมาจนมึนหลงทิศหลงทาง เธอไม่รู้แล้วว่าอยู่ส่วนไหนของปารีส
'เผลอแปบเดียวประชาชนในเมืองหายไปไหนกันหมดนะ'
ไดอาน่าพยายามมองหาเพื่อนร่วมชะตากรรม 'ทำไมกันนะเมื่อกี้ยังเห็นแวบๆอยู่เลย...'เธอคิดในใจอย่างสงสัย
ไดอาน่าวิ่งไปหลบมุมอับสายตาของอาคุม่ายักษ์ ทำให้พวกมันต่างเดินผ่าน พอยืดเวลาให้ไดอาน่าพอหายใจหายคอคล่องขึ้น
เริ่มรู้สึกคิดผิดซะแล้วสิที่ออกมาในดงอาคุม่าแบบนี้.. จะกลับบ้านตอนนี้ก็ไม่รู้ทางด้วยสิรู้งี้เอาแผนที่ออกมาก็ดีหรอก..
"เอ๋?"
ทันใดนั้นเอง แสงสีขาวก็ปรากฎออกมาจากกระเป๋าสะพายของเธอ ไดอาน่าสงสัยว่ามันคืออะไร
"นี่มัน.." เมื่อเปิดกระเป๋าเธอก็พบว่าแสงมันลอดผ่านออกมาจากในกล่องปริศนา เหมือนกับว่าฉันจะเคยเห็นกล่องนี้จากไหนสักแห่ง....ก่อนวินาทีถัดมาเธอจะตาโตเท่าไข่ห่าน
นะ นี่มัน กล่องเก็บมิราเคิลสโตรนี่!?
กล่องหกเหลี่ยมสีดำเนียนละเอียดเมื่อลองลูบดู ก็สัมพัสได้ถึงความรู้สึกเย็นสบายแผ่ออกมาจางๆ มันเป็นกล่องเล็กๆขนาดเท่ากำมือผู้ใหญ่ มีสลักลวดลายสีแดงแปลกตา ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกถึงความลึกลับที่กล่องแผ่ออกมา
"ได้ยังไง..ทำไมมันมาอยู่ที่นี้ แถมยังอยู่ในกระเป๋าเราอีก" ตอนนี้สมองฉันกำลังมึนไปหมด เพราะว่ากล่องสีดำสลักด้วยลวดลายสีแดงแปลกตาเล็กๆใบนี้ มันเป็นสิ่งที่เอาไว้เก็บมิราเคิลหรือเครื่องประดับที่เก็บพลังของความิไว้อยู่
ฉันเคยพูดไปแล้วใช่มั้ยว่าความิคือภูตที่สามารถมอบพลังให้แก่มนุษย์ได้
มันเป็นของที่แสดงตัวตนว่าคนที่ถือครองมันนี้จะได้เป็นฮิโร่คนต่อไป เอเดรียนและมาริเน็ตก็ได้สิ่งนี้ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็นแคทนัวร์และเลดี้บัคเหมือนกัน
แต่ว่าทำไมล่ะ? สิ่งนี้จะส่งมอบก็ต่อเมื่อเป็นผู้ถูกเลือกไม่ใช่เหรอ แล้วเธอที่เป็นตัวประกอบจะมาถูกเลือกจากมาสเตอร์ฟูได้ยังไง?
'ของจริงเปล่าวะ?...หรือมีคนแกล้งเลยเอามาใส่ไว้กันนะ' ฉันคิดด้วยความตื่นเต้นจนมือเย็นเฉียบ จะหายข้องใจได้ก็ต้องเปิดดูเท่านั้นแหละ....
แต่ในขณะที่กำลังจะเปิดออกมาดู อยู่ๆก็มีเงาดำโผล่ขึ้นมาข้างหลังอย่างไม่มีปี่มีขลุย
หมับ!
แรงกดบนไหล่ทำให้ฉันตกใจเผลอจับมือข้างนั้น หักเข้าหาลำตัวพร้อมขัดขาเหวี่ยงให้ล้มลงไป รู้ตัวอีกทีเธอก็กำลังขึ้นคร่อมพร้อมเอาหัวเข่ากดลำตัวตรึงมือของคนใต้ร่างเอาไว้แน่นซะแล้ว
"อะ อูยย เจ็บๆ!"
เสียงร้องที่คุ้นหูและใบหน้าใต้หน้ากากสีดำครึ่งหน้า ทำเอาฉันอ้าปากค้าง มือที่กำลังกดตรึงแรงลงไปผ่อนแรงทันที
ส่วนมืออีกข้างที่ถือกล่องมิราเคิลก็ซุกเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อด้วยความรวดเร็ว
"เอเดรี-เอ้ย-แคทนัวร์!?"
ฉันแทบหยุดประโยคแรกไม่ทัน ดีที่เปลี่ยนคำพูดทันก่อนที่เขาจะรู้ตัวว่าเธอรู้ได้ยังไง
ใช่แล้ว คนที่เธอจับทุ่มคือเอเดรียนหรือพระเอกในเวอร์ชั่นแคทนัวร์ยังไงล่ะ!?
ตอนแรกนึกสงสัยว่าเขามาทำอะไรที่นี้ ก่อนที่จะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า..ที่นี้มันในเมืองปารีสที่มีอาคุม่าเดินเพ่นพ่านไปมานี่นา...แถมตอนนี้เขาได้เป็นฮิโร่แล้วสินะ..ถึงเห็นข่าวในทีวีแล้วก็เถอะ
..แต่พอเห็นจริงๆแล้วรู้สึกว่าสุดยอดกว่าที่คิด(ในหลายๆความหมาย)
เมื่อก้มลงมองดีๆก็พบว่ามีชายหนุ่ม ในคราบชุดสูทสีดำมันวาวใต้ร่างกำลังทำหน้าเหยเก ผมสีทองที่ดูยาวกว่าตอนปกติและยุ่งเหยิงเล็กน้อย มีใบหูแมวสีดำสองข้างบนหัวและหน้ากากดำปิดบังครึ่งหน้าไม่ให้ใครรู้ว่าเจ้าตัวคือใคร
แต่ไม่ได้ปิดบังดวงตาสีฆรกตอมทองที่เธอชื่นชอบ นัยน์ตาสีสวยนั้นกำลังหรี่ลงมองมาทางนี้ด้วยน้ำตาเล็ด
ภาพที่ชายหนุ่มกำลังนอนราบอยู่ใต้ร่างตัวเอง พร้อมกับทำสีหน้าเหยเกเช่นนั้น!? ไม่รู้ทำไมมันถึงเป็นภาพที่เรียกเลือดลมให้แตกซ่านได้ดี จนเธอรู้สึกอะไรเปียกๆตรงจมูก
"เห้ย คุณผู้หญิง เลือดกำเดาคุณไหล!" แคทนัวร์ที่หายมึนส่งเสียงหลงอย่างตกใจ เขากำลังคิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆตรงหน้าอาจบาดเจ็บมาจนทำอะไรไม่ถูก
"อะ"
ไดอาน่าที่เผลอมองตาค้าง...ยกมือปิดจมูกทันที ก่อนที่จะพยายามลุกออกจากท่าทางล่อแหลม
เกือบไปแล้ว...
...สมกับที่โลกก่อนใครๆต่างบอกว่าแมวดำงานดี! เธอแทบอยากจะยกนิ้วโป้งให้พร้อมกระทืบไลค์รัวๆ
นี่ถ้าไม่ใช่ว่าเขาคือพระเอกที่ต้องคู่กับนางเอกของเรื่องนะ เธอจะจับกดเขาไปแล้ว
แมวดำงานดีขนาดนี้ ทำไมเลดี้บัคถึงได้ไม่สนใจนะ!? รู้มั้ยว่าเธอพลาดของเด็ดไปซะแล้วคุณนางเอก!
"ได..-เอ่อ..คุณผู้หญิงบาดเจ็บตรงไหนมั้ย?" คำว่า'ไดอาน่า' ถูกกลืนลงคอแทบจะทันที เอเดรียนที่ตอนนี้อยู่ในเวอร์ชั่นซุปเปอร์ฮิโร่แคทนัวร์จำต้องทำเป็นว่าไม่เคยรู้จักหญิงสาวตรงหน้ามาก่อน
ระหว่างที่หลบหลีกและโจมตีอาคุม่าเขาที่กลายเป็นแคทนัวร์ บังเอิญเห็นอะไรขาวๆวิ่งผ่านไปแวบๆ พอลองตามมาดูก็รู้ว่าเป็นหญิงสาวผมสีเงินคนนั้นเอง
แต่ตอนที่กำลังจะเข้ามาใกล้เพื่อมาช่วยพาเธอไปหลบที่ปลอดภัย มือที่ยื่นไปแตะไหล่บางนั้น หญิงสาวก็หันกลับมาพร้อมสายตาคมกริบที่ทำเอาเขาใจเต้นไปวูบหนึ่ง
ก่อนจะรู้ตัวอีกทีโลกก็หมุนวูบซะแล้ว พร้อมความเจ็บที่แล่นผ่านข้างหลัง ดีนะที่ยกหัวขึ้นทันเลยไม่กระทบกระเทือน
'แต่ก็เจ็บเป็นบ้า...สมกับที่ครั้งนั้นชายตัวโตถึงกับจุกจนลุกไม่ขึ้น..' ชายหนุ่มคิดในใจ
"ไม่เป็นไรค่ะ" เธอหยิบผ้าเช็ดหน้ามาอุดจมูกก่อนจะทำสีหน้าเหมือนนึกขึ้นได้
"แคทนัวร์กำลังตามหาเลดี้บัคอยู่งั้นเหรอ" เสียงใสของเด็กสาวทำให้เด็กหนุ่มชะงัก
"ใช่ เธอรู้จักฉันด้วยเหรอ..ไม่สิ.."
"..เธอรู้ได้ยังไง" ดวงตาแมวสีฆรกตกำลังหรี่ตามองด้วยความสงสัย เพราะว่าชายหนุ่มกำลังตามหาเลดี้บัคอยู่จริงๆ เพราะภูตของเขาบอกว่าคนที่จะกำจัดอาคุม่าให้หายไปได้ คือเลดี้บัคคนเดียวเท่านั้น
ยุ่งยากจริงๆทำไมถึงจัดการเองคนเดียวไม่ได้นะ..
กึก
ไดอาน่าที่เผลอหลุดปากปล่อยไก่เผลอร้องคำว่า'ชิบหาย'ไว้ในใจ แต่สีหน้ากับท่าทางไม่มีคำว่าสะดุดออกไปให้ชายหนุ่มจับผิดเลยสักนิด
"มะ..เมื่อกี้เห็นเลดี้บัคผ่านไปแวบๆน่ะค่ะ" เธอยิ้มหวานตอบ
"เหมือนว่ากำลังตามหาอะไรอยู่...? ฉันเลยคิดว่าแคทนัวร์อาจจะกำลังตามหากันอยู่" ตอแหลตอบอย่างรื่นไหล..แค่ก เลดี้บัคอะไรนั้นไม่เห็นแม้แต่วี่แววเลยสักนิด แน่นอนล่ะว่าที่บอกว่าเห็นแวบๆก็โกหกทั้งเพ่
นับวันๆก็รู้สึกจะสตอเบอร์รี่เก่งขึ้นแฮะเรา ลองไปแสดงหนังสักเรื่องดีมั้ยเนี้ย...
"งั้นเหรอเลดี้บัคมาแล้วสินะ..." เสียงถอนหายใจเล็กๆเหมือนโล่งอกดังขึ้นมา
"ขอบใจเธอมาก ยังไงก็ระวังตัวด้วยแถวนี้ไม่ปลอดภัย" แคทนัวร์ไม่เอะใจเลยว่าเธอกำลังโกหกอยู่ ฉันก็ยิ้มพยักหน้ารับปากอย่างเชื่อฟัง
"งั้นฉันไปล่ะบายสาวน้อย"
แต่ตอนที่แคทนัวร์กำลังผละออกไป อยู่ๆก็มีความรู้สึกว่าเสียดายและใจหายแวบขึ้นมา อาจเพราะเธอเพิ่งได้เจอฮิโร่ในดวงใจตรงหน้าเมื่อครู่จริงๆเองก็ได้มั้ง
เธอกลัวว่าหลังจากนี้จะตื่นแล้วพบว่าทุกอย่างเป็นความเพ้อฝันของเธอเท่านั้นเอง ความจริงแล้วเธออาจจะนอนหลับอยู่บนเตียงก็ได้ ไอ้เรื่องกลับชาติมาเกิดใหม่เธออาจจะคิดไปเอง
แต่ทุกอย่างก็สมจริงมาก ความเจ็บก็เช่นกัน ฉันเลยคิดว่าทุกอย่างคือเรื่องจริง...แต่แอบกลัวนิดๆ
เธอชอบเลดี้บัคกับแคทนัวร์ทั้งคู่เลย แต่...ถ้าให้เลือกเธอเป็นแฟนคลับแคทนัวร์ล่ะ เพราะว่าในอนาคตประชาชนในเมืองปารีสจะแห่ไปเป็นแฟนคลับเลดี้บัคคนเดียวยังไงล่ะ
แคทนัวร์ที่ช่วยเหลือคนอื่นเช่นกันแต่ไม่เป็นที่นิยมนัก ฉันเลยจะเป็นคนแรกนี้แหละที่เป็นแฟนคลับหมายเลขหนึ่งของแมวติ๊งต๊องเอง!
"เดี๋ยว!"
ปึง!
กึก
มือเรียวคว้าหางของชายหนุ่มตรงหน้าหมับ ทำให้แคทนัวร์ต้องหันกลับมาเลิกคิ้วถาม ไดอาน่าอึกอักเล็กน้อยก่อนจะพูดประโยคออกไปจากใจ เพราะกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้บอกความรู้สึกออกไปอีกแล้ว
"อะเอ่อ..ขอบคุณที่ต่อสู้เพื่อพวกเรานะคะ ฉันเป็นแฟนคลับคุณอยู่พยายามเข้า!"
เป็นประโยคที่สั้นและกระชับใจความง่าย แต่จะรู้ไหมว่ากว่าเธอจะฝืนพูดออกไปได้ แถมมีเรื่องที่อยากจะพูดมากกว่านี้เป็นภูเขาเลากาแต่พูดออกไปไม่ได้
พูดจบหน้าตาเด็กสาวก็แดงแป๋ด ก่อนนะกำมือพูดคำว่า'สู้ๆนะคะ' อีกครั้งแล้วก็หันหลังวิ่งจากไป เหมือนกับว่าเธอกำลังเขินอายเกินกว่าจะอยู่ต่อจึงเลือกหนีไป
ซึ่งแน่นอนว่าไดอาน่ากำลังเขินหนักจากฮิโร่ในทีวีที่เธอชื่นชอบ จึงปากหนักพูดได้แค่ประโยคสั้นๆก่อนจะวิ่งหนีไปตั้งหลังใหม่
"....."
ทำเอาแคทนัวร์ที่เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองมีแฟนคลับคนแรก ถึงกับไปไม่เป็นเลย..แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความรู้สึกอุ่นวาบปรากฎขึ้นในใจชายหนุ่ม
น่ารักชมัด
นี่คือความคิดที่โผล่ขึ้นมาในสมอง
"หึๆ สู้ๆงั้นเหรอ?" รอยยิ้มกว้างที่ถูกจุดขึ้น ทำเอาชายหนุ่มต้องยกมือปิดเอาไว้ พร้อมกับใบหน้าที่ร้อนๆแปลกๆ ก่อนที่แคทนัวร์จะกระโดดหายไปตามตึกสูงด้วยความรู้สึกอิ่มเอม
........
"ฟู่...ไปแล้วสินะ" ไดอาน่าที่หลบมุมมองเห็นร่างสีดำค่อยๆเล็กลงก่อนจะถูกตึกสูงบดบัง ฉันก็ค่อยเดินออกมาด้วยความรู้สึกโล่งใจ
รอยยิ้มหวานถูกจุดขึ้นเมื่อนึกถึงสีหน้าเอฺ๋อๆของแมวน้อย ก่อนที่สายตาสีฟ้าสดใสจะเหลือบมองไปที่กล่องมิราเคิลในมือ..
ต่อไปก็ตาเจ้านี้สินะ...
วิ้ง
วิ้ง
มันกำลังส่องแสงสว่างแวบๆเหมือนกระตุ้นให้เปิดมันเร็วๆ แต่ด้วยอะไรไม่ทราบเด็กสาวเลือกที่จะเก็บมันไว้ลึกสุดในกระเป๋า
เฮ้อ
เด็กสาวถอนหายใจก่อนจะหันหลังเดินจากที่แห่งนี้ไป
เธอรู้สึกว่าถ้าเปิดมันออกละก็... ชีวิตโอตาคุอย่างเธอจะต้องมีปัญหาตามมาอย่างแน่นอน...
แต่ไม่คาดคิดเลยว่า...
"คะ คุณเข้ามาได้ยังไง!"
สิ่งที่รอต้อนรับหลังกลับมาบ้านจะเป็นสิ่งนี้!?
"สวัสดี ห้องสวยดีนะ"
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ใครกันนะ?
#เรื่องไม่รีบเร่งเท่าไหร่อย่าเพิ่งใจร้อนกันนะ เผื่อคนไม่ได้ดูจะได้อ่านเข้าใจ
ติมาได้นะฟังทุกความเห็นค่ะ ชื่อตัวละครบางตัวอาจจะผิดไปบ้าง ใครรู้ว่าตัวไหนชื่ออะไรบอกให้เราแก้ได้นะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น