ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : จิ้งจอกมหัศจรรย์ตอนที่6: โรงเรียนวันแรก...100%
ณ คอนโดกลางกรุงปารีส ในห้องกว้างที่เปิดระเบียงรับแสงแดดยามเช้าอ่อนๆ ลมโบกผ่านผ้าม่านมาบางๆ
หญิงสาวคนหนึ่งกำลังหลับตาพริ้มอย่างเป็นสุขบนเตียงกว้างใหญ่ ถูกล้อมรอบด้วยตุ๊กตาเต่าทองและแมวดำ
"ไดอา-"
"ตื่นได้-...เดี๋ยว-"
"...."
เสียงบางอย่างแววเข้ามา ไดอาน่าที่นอนอยู่รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังเขย่าตัวเธออยู่
แต่แรงมันน้อยนิดมากจึงไม่รู้สึกสะเทือนเท่าไหร่ เธอจึงเลือกไม่สนใจแล้วมุดตัวในผ้าห่มนอนต่อ
'ผ้าห่มนุ่มสบายจังเลย...' ฉันคิดในใจ
"ไดอาน่าาาาา"
"ตื่นนนนน ตื่นได้แล้ววว! ไหนว่าวันนี้เธอจะไปโรงเรียนไง!" เสียงคำรามเล็กๆข้างหู ฟังดูชั่วร้ายแต่ก็ขัดการนอนของฉันไม่ได้
"อื้ออ....จะนอนน่า"
เหมือนได้ยินประโยคท้ายๆว่าโรงเรียน...? ฉันจะไปโรงเรียนได้ยังไงกันในเมื่อแม่ไม่ให้ไปน่ะ...
มั่วนิ่มแล้ว!
"ไม่งั้นก็ตื่นมาทำอาหารให้ฉันกิน ไดอาน่าาาา!" เสียงครางแหลมเล็กๆยังคงขัดการฝันหวานฉันต่อไป
เธอเริ่มคิ้วขมวดแล้ว... พร้อมกับเอาหมอนมาอุดหู 'หนวกหูน่า...' คำว่าโรงเรียนมันยังติดในหัวฉันอยู่เลย..โรงเรียน..โรงเรียน
"เฮ้ย โรงเรียน! "
วันนี้เป็นวันไปโรงเรียนวันแรกของฉันนี่นา! เธอหันไปดูนาฬิกามันยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนเข้าเรียนคาบแรก
"แจสเปอร์ทำไมไม่ปลุกฉันให้เร็วกว่านี่ อะ โอ๊ย!"
ตุบ!
ด้วยความรีบร้อนทำให้เด็กสาวไม่ระวังตอนลุกขาเกี่ยวสะดุดผ้าห่ม ไดอาน่าจึงหัวทิ่มพื้นข้างเตียงสติที่เพิ่งตื่นกลายเป็นตื่นเต็มตาทันที พร้อมกับความเจ็บบนหน้าผากปอยๆ
"เจ็บๆ" นัยน์ตาสีฟ้าครามสดใสคลอเป้าด้วยน้ำตาเล็ด ดันเอาหน้าผากและจมูกลงจนได้ แจสเปอร์ที่มองมาตั้งแต่ต้น ไม่ช่วยวแล้วยังหัวเราะสะใจข้างๆอีก ฉันเลยเบะปากใส่ทีหนึ่ง
เหมือนๆจะเริ่มนึกออกว่าไม่กี่วันก่อน พี่เซดลิกที่อยู่ญี่ปุ่นจะโทรมาอนุญาตให้ไปโรงเรียนได้ ดูเหมือนคุณแม่จะเอาไปปรึกษากับพี่ชาย จนยอมให้ไปโรงเรียนได้เหมือนเด็กคนอื่น
สาเหตุหนึ่งเพราะดูเหมือนครอบครัวตระกลูอเกรซ(ครอบครัวพระเอก) จะยอมให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไปโรงเรียนรัฐแห่งหนึ่ง คุณแม่ที่รู้เลยอนุญาตให้ไปโรงเรียนได้ แถมเป็นโรงเรียนรัฐที่เดียวกับเอเดรียนอีกด้วย
เอิ่ม...
ไม่รู้ว่าจะให้มาข่มขู่กันหรือยังไง... แต่เพราะเอเดรียน เลยนะฉันถึงได้ไปโรงเรียนได้เหมือนเขา..ต้องขอบคุณที่ตามตื้อและดื้อกับคุณพ่อมากๆเลยล่ะค่ะ ฉันเลยได้อานิสงส์ไปด้วย
เด็กสาวรีบลุกออกไปอาบน้ำแต่งตัว พร้อมกับแจสเปอร์ที่ลอยไปหยิบผ้าเช็ดตัว มาวางไว้ในห้องน้ำให้ ใช้เวลาอาบน้ำให้สะอาดสักครู่หนึ่ง
ไดอาน่าแต่งตัวด้วยกางเกงยีนต์สีฟ้าอ่อน เสื้อข้างในเป็นเสื้อกล้ามสีดำก่อนจะสวมเสื้อกันหนาวมีฮูดสีชมพูทับเข้าไป
มือเรียวรวบผมแยกไว้ครึ่งหนึ่ง ก่อนจะถักเปียม้วนเป็นก้อน ตบท้ายด้วยปักปิ่นเงินเล่มเล็กที่ซื้อมาจากญี่ปุ่นและจีนโดยพี่ชายส่งมา
ไดอาน่าปล่อยเรือนผมครึ่งหนึ่งยาวสลวย พร้อมกับมัดปอยผมด้านหน้าสองข้าง อย่างสุดท้ายก็รวบปลายผมให้เหมือนหางจิ้งจอก แล้วมัดด้วยยางมัดผมที่มีเครื่องประดับเป็นลูกแก้วสีส้มพลาสติกลูกใหญ่แต่เบาหวิวไม่หนักหัว
เมื่อแต่งตัวเป็นที่น่าพอใจแล้วเด็กสาวก็ยิ้มหวานใสกระจก ทรงผมได้ไอเดียมาจากคาแรสเตอร์Ara Haanเลยนะเนี้ย
ไหนๆก็มีเอกลักษณ์เป็นจิ้งจอกสาวแล้วนี่นา ก็ต้องคงตามคาแรสเตอร์แบบนี้สิถึงจะเหมาะสม
**ทรงผมที่ไดอาน่าพูดถึงและทำ**
ฉันแต่งตัวเสร็จรีบลงไปห้องครัวหยิบกระทะและเปิดตู้เย็นขึ้นมา ยังพอมีเวลาเหลืออยู่ ต้องหาอะไรรองท้องก่อน
ไดอาน่าเริ่มจากหยิบแป้งนมและไข่ไก่ ก่อนจะเริ่มผสมมันให้เข้าที่ด้วยเครื่องปรุงนิดหน่อย ลงมือทอดแพนเค้กแบบง่ายๆ
ใช้เวลาทำด้วยความรวดเร็วเพราะขั้นตอนไม่ยุ่งยากอะไร ตกแต่งหน้าด้วยผลไม้อย่างบลูเบอรี่ของโปรดแจสเปอร์และตบท้ายราดด้วยน้ำผึ้งแทนน้ำเชื่อม
ฉันทานแค่สามแผ่นพอ แต่ของแจสเปอร์ต้องห้าแผ่นอย่างต่ำ
แจสเปอร์นั้นกินเร็วมากเหมือนกับไปอดยากมาจากไหน
เมื่อรับประทานอาหารกันเสร็จ เธอเอาจานไปเก็บเพราะเดียวจะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดช่วง10โมงและตอน4โมงเย็น ไม่ใช่ว่าล้างไม่เป็นนะแต่ไหนๆก็จ่ายเงินค่าจ้างแม่บ้านแล้วนี้นา..ใช้ไปเถอะให้คุ้มๆ
"แจสเปอร์เปลี่ยนฉัน" เธอสั่งให้แจสเปอร์ที่กำลังโยนลูกบลูเบอรี่ใส่ปากกลืนลงคอเสร็จพอดี เปลี่ยนเป็นกำไลข้อมือรูปสัตว์จิ้งจอก
tricks out!
แสงสีฟ้าสดใสสว่างโรจน์ขึ้นมาก่อนจะค่อยๆจางหายไป วินาทีนั้นก็มีร่างหนึ่งกระโดดออกมาจากทางหน้าต่างบานใหญ่ ก่อนจะกระโดดผ่านตามหลังคาบ้านเรือนด้วยความรวดเร็ว เอาซะตามนุษย์ธรรมดามองตามไม่ทัน
ฟุบ ฟุบ
ไดอาน่าใช้ทางลัดเพื่อไปโรงเรียนวันแรกของตัวเองให้ทัน ก่อนจะหยุดลงบนดาดฟ้าแถวสวนหลังโรงเรียนที่มีต้นไม้ขึ้นเยอะๆ เมื่อสำรวจและฟังเสียงให้แน่ใจแล้วว่าไม่มีคนอื่น เธอถึงเปลี่ยนกลับไปเป็นไดอาน่า ซีมัวร์
ฉันให้แจสเปอร์มาซ่อนตัวในกระเป๋าเป้ ข้างในนั้นมีถุงใส่ลูกบลูเบอรี่ไว้เต็ม เอาไว้ในกรณีความิของฉันเกิดหิวขึ้นมา
"อยู่ได้แน่นะแจสเปอร์?" น้ำเสียงหวานถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
"อยู่ได้น่า..รีบเข้าเรียนไปก่อนที่จะสาย"
แจสเปอร์หาววอดก่อนจะโบกมือไล่ให้เธอเริ่มปิดกระเป๋าได้แล้ว พร้อมกับขาเล็กๆที่กระดิกสองสามทีอย่างสบายอารมณ์
"โอเค.."
รู้สึกตัวเองจะห่วงความิเกินไปหรือเปล่านะ? แต่ก็กลัวแจสเปอร์หายใจในกระเป๋าไม่ออกจริงๆนะ จึงเปิดให้อากาศถ่ายเทเล็กน้อยด้วย
ส่วนสร้อยข้อมือจิ้งจอกเธอก็ใส่บางครั้ง ถ้าเสื้อแขนสั้นก็ไม่ได้ใส่แต่จะพกติดตัวไว้แทน บางครั้งก็เปลี่ยนสร้อยข้อมือมาเป็นสร้อยคอแทนก็มี
หลังปาฎิหาริย์ของเธอแตกต่างจากแหวนและตุ้มหูของแคทนัวร์และเลดี้บัค เธอไม่จำเป็นต้องสวมใส่มันตลอดเวลา ขอเพียงแค่เก็บเอาไว้กับตัวตลอดเวลาก็พอ เหมือนกับกระเป๋าเงินหรืออะไรสักอย่างคำนองนั้น
เออ! ลืมบอกไปว่าหลังจากที่เธอแปลงร่างครั้งแรกเมื่อคราวนั้น เธอก็ตรงไปสมัครเรียนพิธีชงชาจีนกับมิสเตอร์ฟูในวันถัดมาเลยล่ะ โดนคัดค้านจากผู้ปกครองนิดหน่อยแต่ก็ผ่านมาได้แล้ว
ตอนนี้ฉันคำนับมาสเตอร์ฟูเป็นอาจาร์ยและลูกศิษย์ด้วย เพราะจำเป็นต้องให้มาสเตอร์ฟูสอนควบคุมพลัง
อยากบอกมากว่าพลังของเธอนั้นใช้งานยากใช้เล่น
ของเลดี้บัคและแคทนัวร์จะมีอาวุธเป็นไม้พลองเหล็กและโยโย่ใช่มั้ยล่ะ แต่ของเธอคือบอลไฟล่ะ กว่าจะเสกลูกไฟให้ลุกพรึ่บแบบไม่ให้ใหญ่ และเล็กเกินไปต้องควบคุมสมาธิเป็นอย่างมาก
ตอนนี้ผ่านไปสองเดือนแล้วแต่ฉันก็ตามติดชีวิตของเลดี้บัคและแคทนัวร์ตอนออกไปทำภารกิจปราบอาคุม่าอยู่ตลอด แต่ก็ยังออกไปปรากฎตัวให้พวกเขารู้ไม่ได้
กว่าจะใช้พลังได้ชินมือ มาสเตอร์ฟูสั่งห้ามเธอให้แคทนัวร์และเลดี้บัครู้เด็ดขาด ว่ามีพลังปาฎิหารย์คนที่สามเกิดขึ้นมา(นาน)แล้ว
แซ่กแซ่ก
เงียบกริบ..
ระหว่างทางไดอาน่าไม่รู้เลยว่า มีสายตารอบทิศจับจ้องเวลาเธอเดินผ่าน ใครๆต่างหยุดชะงักเมื่อเห็นเด็กสาวผู้มีผมสีขาวแปลกตา
ไม่ว่าจะชายหรือหญิงต่างมีประโยคหนึ่งฝุดขึ้นมาในหัว ณ เวลานั้น...
'พวกเขาไม่เคยเห็นหญิงสาวคนใดดูสวยงามเท่านี้มาก่อนเลย'
ทุกลมหายใจล้วนถูกสะกดให้ตรึงร่างอยู่กับที่ เมื่อไดอาน่าผ่านหัวมุมไปแล้ว นักเรียนบริเวณนั้นถึงพากันตัวขยับได้ แล้วหันมาซุบซิบกันยกใหญ่ว่าหญิงสาวปริศนาเมื่อครู่คือใคร!
ในระยะเวลาอันสั้นนั้น..ข่าวลือเรื่องหญิงสาวปริศนาก็ดังไปทั่วแล้ว
"เสียงเอะอะอะไรกันเนี่ย!"
โคลอี้พูดอย่างหงุดหงิด เมื่อบังเอิญได้ยินใครสักคนผู้ถึงหญิงสาวปริศนาคนหนึ่ง? เธอเดินมาพร้อมกับเพื่อนสนิทข้างๆ ซาบรีน่าก็สงสัยเช่นกัน ก่อนจะหยุดชะงักเกือบชนเด็กสาวข้างหน้า
"โคลอี้? มีอะไรเหรอ" ซาบรีน่าเห็นโคลอี้นิ่งเงียบไปพร้อมกับจ้องหญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่หน้าห้องชั้นเรียนพวกเธอ
เรือนผมสีเงินสวยโดดเด่นมาก แถมใบหน้าหญิงสาวก็งดงามจนเหมือนหญิงสูงศักดิ์ผู้หลุดออกมาจากเทพนิยายสักแห่ง จนซาบรีน่าเผลอมองตาค้างกับความสวยของไดอาน่า
"เอ๋ โคลอี้?" อยู่ๆโคลอี้ก็พุ่งตัวออกไปหาหญิงสาวคนนั้นอย่างรวดเร็ว ซาบรีน่าทำอะไรไม่ได้นอกจากวิ่งตามไป
ตุบ!!
ในระหว่างทางที่ไดอาน่ากำลังกลายเป็นคนดังในพริบตา เธอเดินหาชั้นเรียนห้องตัวเองอยู่ อยู่ๆก็มีใครบางคนมาดักขวางหน้าด้วยความรวดเร็ว ฉันจึงชะงักกับที่เมื่อเดินต่อไม่ได้
ตรงหน้าเด็กสาวคือเด็กหญิงสองคน หนึ่งผมสีทองและหนึ่งสีส้ม
?
"กริ๊ดดด! เธอคือไดอาน่า ซีมัวร์ใช่มั้ย!? โอ้มายก๊อต ฉันเป็นแฟนเพลงของคุณ ไม่อยากจะพูดเลยแต่ฉันติดตามเพลงของคุณทุกอัมบั้ล ไดอาน่าฉันชอบคุณ! ต่อไปนี้คุณคือเพื่อนสนิทของฉันนะ "
กึก
ฉันอ้าปากเหวอเมื่อตรงหน้าฉันคือตัวละครดังเหมือนกัน... แต่ดังในแง่ลบนะ เด็กสาวผมสีบลอนด์ทองสวย..มัดทรงผมหางม้าข้างหลัง นัยน์ตาสีฟ้าเข้มเหมือนสีน้ำเงินกำลังเป็นประกายวาววับ ริมฝีปากที่ทาด้วยลิปออนสีขาวกำลังยิ้มกว้าง
เธอคือโคลอี้ โบรชัวร์ ลูกสาวนายกรัฐมนตรีปารีส!
40%
หมับ!
อยู่ๆเธอก็พุ่งเข้ามากอดแขนฉันแน่น ทำเอาไดอาน่าแข็งค้างไปไม่เป็นเมื่อเห็นใบหน้าเด็กสาวระยะใกล้ขนาดนี้
แล้วไหนจะคำพูดเออเองว่าเธอกลายเป็นเพื่อนสนิทโคลอี้อีกล่ะ? นี้เป็นครั้งแรกที่ฉันเพิ่งมาโรงเรียนนะ?
สมกับฉายามารน้อยที่โคลอี้อยากได้อะไรก็ต้องได้ เพราะว่าเธอถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจโดยพ่อของเขา แล้วนี้คือตัวละคร'ดัง'อันดับต้นๆเลยล่ะ
ดังในแง่ลบที่สามารถทำให้ใครสักคนเป็นอาคุม่าได้ด้วยฝีปากของเธอ..
ไม่อยากจะบอกเลยว่าครึ่งเรื่องคนที่ทำให้เกิดอาคุม่าขึ้นคือโคลอี้นี่แหละค่ะ สมกับเป็นจอมมารน้อยจริงๆเลย
"สวัสดีฉันรู้จักเธอนะ เธอเป็นลูกสาวนายกชื่อโคลอี้สินะ ช่วยปล่อยแขนก่อนได้มั้ยฉันหายใจไม่ออกถ้าเธอกอดแน่นแบบนี้ อีกเดียวฉันต้องเข้าห้องเรียนแล้วด้วย.."
ไดอาน่าพยายามดันโคลอี้ออกแต่เธอแรงเยอะชะมัด จนสุดท้ายเลยต้องเอ่ยให้ถอยออกไปหน่อย แต่โคลอี้แค่คลายวงแขนให้หลวมเฉยๆ แต่ไม่ยินยอมถอยเธอไปมากกว่านี้
"กริ๊ดดด ฉันชอบคุณไดอาน่า!"
ฉันเป็นผู้หญิงนะ เธอจะมาติดใจอะไรฉันนักหนาเนี้ย! ช่วยกลับไปหาคุณพระเอกที่รักของเธอเถอะค่ะก่อนที่ฉันจะอึดอัดตาย
แน่นอนว่าโคลอี้เป็นเพื่อนสมัยเด็กกับคุณพระเอกล่ะ แล้วโคลอี้ก็ชอบเอเดรียนมากๆเลยด้วย
พอฉันบอกว่ารู้จักเจ้าหล่อน โคลอี้ดูเหมือนจะดีใจมาก เธอยิ่งเกาะฉันหนึบไม่ปล่อยเข้าไปใหญ่ ส่วนฉันที่ประสาทหูเริ่มดีมากๆ ย้ำว่ามากๆ
ก็แอบมึนจนได้ยินเสียงวิ้งในหูไปครู่หนึ่ง เมื่อโคลอี้กรีดร้องข้างหูเธอ มันเป็นพลังจากมิคาครูสที่มอบประสาทตาและหูจากจิ้งจอกให้เธอ ฉันไม่รู้ว่าเอเดรียนที่มีเอกลักษณ์เป็นแมวจะเป็นเหมือนกันไหม
แต่เธอเริ่มไม่ดีใจแล้วล่ะที่มีประสาทหูอย่างหมาป่าแบบนี้
สุดท้ายฉันจึงทำได้แต่ปลง และถอนหายใจออกมาตรงๆ เผื่อโคลอี้จะเห็นใจแล้วปล่อยเธอไว้คนเดียว
เริ่มเข้าใจความรู้สึกเอเดรียนที่โดนนัวเนียทุกวันแล้วสิ..
"อา ส่วนเธอก็ซาบรีน่าสินะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ"
"คะ ค่ะ!"
ฉันนึกขึ้นได้ก็เลยเอ่ยทักซาบรีน่า เด็กสาวสวมแว่นตากลมโตนัยน์ตาสีเขียวเข้ม เพราะเดียวเธอจะรู้สึกไม่ดีที่ถูกเมิน เธอมีทรงผมสั้นระดับหูเป็นคนเดียวที่ทนความเอาแต่ใจของโคลอี้ได้ เหมือนกับเพื่อนสนิทและลูกน้องของโคลอี้
แต่ก็เอาเถอะ พวกเธอก็มีนิสัยพอๆกันอยู่..ถึงอยู่ด้วยกันได้
"มานี้เร็ว! ฉันจะแนะนำแฟนของฉันให้รู้จัก" อยู่ๆโคลอี้ก็เริ่มดันหญิงสาวให้ออกเดินเข้าไปที่ห้องเรียนหนึ่ง ทั้งโคลอี้และซาบรีน่าประกบเธอทั้งด้านหน้าด้านหลังแบบไม่ให้ขัดขืนได้เลย
ไดอาน่าไม่ได้มีเวลาดูป้ายหน้าห้องด้วยซ้ำเพราะมั่วแต่ช็อก คำว่า'แฟนบอย'ของโคลอี้ จนเธอหลุดเหวอแบบลืมรักษาภาพลักษณ์
แฟน? โคลอี้มีแฟนแล้วเหรอ
ปัง!
"เฮ้!"
"ที่รักกกก! ดูสิว่าฉันเจอใคร!" โคลอี้พาไดอาน่าไปหากลุ่มเด็กผู้ชายหน้าห้อง ทำให้ฉันถึงบางอ้อเมื่อเห็น'ทีรัก' แฟนของโคลอี้ที่กล่าวถึง..
"โคลอี้..."
เสียงทุ่มที่แตกหนุ่มแล้วของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เขาดูโดดเด่นกว่าเด็กผู้ชายรอบข้าง ผมสีบลอนด์ทองและนัยน์ตาสีเขียวอมเหลือง
'เอเดรียน'แอบทำหน้าซีดเล็กน้อยที่เห็นโคลอี้ สงสัยแอบผวากลัวโคลอี้พุ่งเข้าไปนัวเนียล่ะมั้ง? ฉันก็พอเข้าใจนะ เพราะเธอน่ารำคาณมากเวลากรี๊ดใกล้ๆหูและเกาะหนึบแบบนี้..
"ฉันอยากแนะนำให้เธอรู้จัก นี้เพื่อนสนิทของฉันเอง!" โคลอี้ที่อยากจะนำเสนอ'เพื่อนสนิทที่เธอเจอหน้าห้อง'
ดันหลังของไดอาน่าที่กำลังมึนๆอยู่ไปตรงหน้าเอเดรียน
อ๊ะ!
ฉันที่ยังไม่ได้เตรียมใจจะเดินก็เลยพุ่งเข้าสู่อ้อมแขนของเด็กหนุ่ม เอเดรียนก็เคลื่อนไหวตามสัญาญาตอย่างเป็นธรรมชาติ มือข้างหนึ่งเขาโอบเอวเธอไว้จนชิดหน้าอกเจ้าตัว
กึก
ฉันหน้าแดงแปร๋ดเมื่อได้กลิ่นโคโลญจน์เย็นๆ และกลิ่นอายของเด็กผู้ชายและหนึ่งในนั้นเหมือนเธอจะได้กลิ่นของชีสและเนยด้วย
ฉันคิดว่ากลิ่นของชีสและเนย น่าจะมาจากความิของเขาเลยติดกายมาด้วยแน่ๆ
ฟุดฟิดๆ
กึก
ไดอาน่าชะงักเมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจใกล้ๆผมเธอ
ขะ เขากำลังดมกลิ่นฉันอยู่!?
"ขะ ขอโทษนะแต่.. ปะ ปล่อยก่อนได้มั้ย"
เสียงของเธอฟังดูกระท่อนกระแท่นขณะที่เอเดรียนก้มมองอย่างนิ่งงัน จนเมื่อ'นีโน่'เพื่อนชายผิวแทนของเขาสะกิดนั้นแหละ เอเดรียนถึงได้รู้ตัวว่าเขากำลังทำอะไรอยู่
"เฮ้ย! โทษที"
เด็กหนุ่มหน้าแดงและตกใจก่อนจะปล่อยหญิงสาวออกจากอ้อมแขน
"แล้วก็ขอโทษนะ เมื่อกี้ที่ล้มใส่นาย" ไดอาน่าเอ่ยแบบก้มหน้าเล็กน้อย เพราะเธอยังตกใจเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่
"อา ไม่เป็นไร!" เอเดรียนเกาคอแก้เก้อ
เมื่อกี้เขาหยุดชะงักเพราะจำได้ว่าเธอคือไดอาน่า ซีมัวร์ เพื่อนคนแรกที่เขาได้คุยและรู้จักตอนนั้น แต่เพราะจมูกได้กลิ่นหอมหวานบางอย่างจากหญิงสาว เขาเลยเผลอสูดกลิ่นดมไปด้วยความสงสัย
กลิ่นกายของไดอาน่าเหมือนกลิ่นดอกไม้เหมือนน้ำผึ้งและกลิ่นบลูเบอรี่?
"อาาา! แย่แล้วผมของฉัน"
โคลอี้ที่ไม่ได้ดูเหตุการณ์เมื่อกี้ทันที เพราะหลังจากที่เธอผลักเพื่อนสนิท(ที่เออเอง)ไปข้างหน้า โคลอี้ก็ให้ซาบรีน่าหยิบกระจกมาส่องความเรียบร้อย
แต่เมื่อโคลอี้เจอเส้นผมกระดกบนหัวแค่เส้นเดียว เธอก็ร้องโวยวายก่อนจะบอกว่าจะไปเสริมสวยที่ห้องน้ำก่อน แล้วพุ่งตัวออกจากห้องเรียนไปทันที
"....."
"...."
"...."
ฉันและเอเดรียน ร่วมถึงเด็กผู้ชายข้างๆมองตามหลังโคลอี้ไปปริบๆ
"สวัสดีฉันนีโน่"
'นีโน่'เขาคือเพื่อนสนิทจริงๆของเอเดรียนเป็นพื่อนผู้ชายคนแรกๆด้วยที่เอเดรียนยอมรับ
นีโน่หันมาหาเธอและยื่นมือมาข้างหน้า เขามีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นเพราะตรงคอ มีไอเทมเป็นหูฟังที่พกไปไหนมาไหนตลอดเวลาและมีผิวสีแทนแบบคนเอเซีย
"ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันไดอาน่า ซีมัวร์" เธอกัดปากไม่ให้ยิ้มมากเกินไปจนมีพิธุร ทั้งๆที่ในใจเธอกรีดร้องเป็นบ้าแล้ว
ไม่อยากจะบอกเลยว่านอกจากเธอจะจิ้นแคทนัวร์และเลดี้บัคแล้ว เธอยังจิ้นเพื่อนสนิทชายหญิงของทั้งคู่ด้วย!
นีโน่และอัลย่า นอกจากพวกเขาจะมีผิวแทนคล้ายกันแล้ว ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคอยให้กำลังใจพระเอกและนางเอก! ฉันเลยอยากให้พวกเขาสมหวังได้กันเอง
ใครไม่พายเรือลำนี้ฉันพายเองบอกเลย!
"เอ๋ เดี๋ยวก่อนนะเธอ...เหมือนฉันจะรู้จัก" นีโน่ทำหน้านึกก่อนจะหยิบมือถือที่กำลังเปิดเพลงค้างไว้ ฉันที่ก้มมองดูร้องโอ้เบาๆ
ครึ่งเพลงนั้นมีเพลงของฉันทั้งหมดเลย! แล้วก็มีรูปฉันเป็นหน้าปกเพลงด้วย
"ธะ เธอคือไดอาน่า นักร้องชื่อดังวงเดี่ยวค่ายGM!" นีโน่อุทานเสียงหลง มือที่เขาจับอยู่ก็ผละออกเหมือนตกใจ
ไดอาน่ายื่นนิ่งและมือค้างครู่หนึ่ง...มันรวดเร็วมากกับการผละออกหลังพูดจบของนีโน่
เอิ่ม...ท่าทางเมื่อกี้ถ้าเธอไม่ได้เห็นรายชื่อเพลงมากมายในมือถือเขานะ ไดอาน่าจะคิดเลยล่ะว่านีโน่กำลังรังเกียจเธออยู่ แต่ดูแล้วท่าทางแบบนี้ของเขาคงหมายถึง เป็นแฟนคลับคลั่งไคล้จนไม่กล้าแตะต้องหรือเปล่า?
เอเดรียนที่มองเพื่อนชายตัวเองปริบๆ เหมือนเจ้าตัวตามเรื่องไม่ทัน
"อะไรนะ? เธอดังขนาดนั้นเลยเหรอ" เสียงทุ่มนุ่มเอ่ยถามพร้อมใบหน้าหลอเหลาที่กำลังเอ๋อหรา จนนีโน่หันมาค้อนตาเขียวใส่
ควับ!
"ดังสิเจ้าบ้า! นายไปมุดอยู่ที่ไหนมาเพื่อน!.. นี้คือไดอาน่า ซีมัวร์ เธอเป็นอัจฉริยะทั้งร้องเพลง,ถ่ายแบบ,พูดภาษาได้หลายภาษาไม่ว่าจีนกลางจีนย่อ ภาษาไทย อังกฤษและญี่ปุ่น แล้วไหนจะเรื่องเรียนที่เขาลือกันว่า..บลาๆๆ"
พระเอก : (⊙.⊙)
ฉัน : ( °△° )
...เราสองคนยืนนิ่ง..ฟังนิโน่พูดประวัติชีวิตของฉันไปพักใหญ่...ยิ่งพูดมายิ่งเหมือนกับว่านั้นไม่ใช่ประวัติชีวิตของตัวเอง...
แถมยิ่งพูดเอเดรียนก็ยิ่งหน้าซีดจนจางไม่มีสียังไงไม่รู้ ในขณะที่ไดอาน่ายิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆด้วยความแดง
เขิน? เปล่าอ่ะ อับอายต่างหาก!
นีโน่ที่กำลังบรรยาความเป็นมาของฉัน รู้ดียิ่งกว่าตัวฉันตัวจริงเสียอีกทำเอาฉันทึ่งไปเลย แถมหนึ่งในนั้นก็มีภาพลักษณ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วย อย่างสุภาพอ่อนโยนอะไรประมาณนั้น....
จิตใจหยาบกระด้างของฉันรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ที่ดันไปทำให้เด็กผู้ชายบริสุทธิ์คนหนึ่งเข้าใจผิดไป...กระซิกๆ
ฉันว่าในห้องนี้มีอัจฉริยะตั้งเยอะ อย่างเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่งชื่อแมสหรือแมคอะไรสักอย่าง? รายนี้ชอบสร้างหุ่นยนต์โรบอทเลยนะเว๊ย แล้วไหนจะคุณพระเอกก็ถือว่าอัจฉริยะด้านแฟชั่นและการเรียนเช่นกัน พวกนี่สิคืออัจฉริยะ!?
ส่วนเธอที่มีความทรงจำสองชาติ...เหอะๆ นี้มันโกงชาวบ้านเขาเท่านั้นแหละ เพราะงั้นเวลามีใครมาชมว่าเธอเก่งอย่างโน่น..อัจฉริยะอย่างนี้ เธอจะรู้สึกอับอายและสมเพชตัวเองเล็กน้อย แต่บางครั้งก็ภูมิใจอยู่หรอกนะที่มาถึงขนาดนี้ได้
"ขอโทษนะฉันไม่รู้เรื่องเลย.. น่าอายจังฉันไปมุดอยู่ที่ไหนมาเนี้ย" เอเดรียนพูดอย่างรู้สึกผิดและอับอายจริงๆ เหมือนกับว่าถ้าเขามุดลงดินได้เขาก็อยากจะทำ ส่วนฉันก็เผลอหัวเราะขบขันกับใบหน้าแดงๆของเอเดรียน
"แล้วเธอเป็นเพื่อนสนิทโคลอี้เหรอ?" นีโน่ที่หายสติหลุดแล้วถามขึ้นมา เรียกความสนใจจากเอเดรียนได้ดี ร่วมถึงเพื่อนๆในห้องที่ทยอยกันเข้ามาในห้องจนเกือบเต็มแล้ว
"โอ้วว พูดเป็นเล่นน่า! ฉันเพิ่งเจอเธอครั้งแรกที่หน้าห้องเอง...แล้วก็ฉันอยากได้เพื่อนที่ไม่ขี้โวยวายมากกว่า.....เพราะเดี๋ยวหูฉันจะหนวก ...สงสัยจริงว่าที่บ้านให้ลำโพงเธอกินเข้าไปหรือยังไง?"
"หึๆ"
ประโยคหลังๆเธอเอ่ยกระซิบเบาๆ แต่เหมือนเอเดรียนเขาจะหูดีเลยได้ยิน เจ้าตัวหัวเราะขบขันประโยคเมื่อกี้ แต่เมื่อฉันเงยหน้าหรี่ตามอง เขาก็หยุดยิ้มและทำเป็นยืนนิ่งเหมือนไม่ได้ยินอะไร
"ว่าแต่ฉัน...เอเดรียนนายเป็นแฟนกับโคลอี้อยู่สินะ?"
ฉันยิ้มหวานแกล้งถามซือๆเหมือนไม่รู้ หลังเอ่ยจบเด็กหนุ่มก็สะดุ้งตัวโหย่งแล้วหันขวับมามองเธออย่างตกใจ
"อะไรนะ!"
เอเดรียนทำหน้าประมาณว่า'เธอจะบ้าหรือยังไง ฉันไปเป็นแฟนเจ้าหล่อนเมื่อไหร่?'
"โอ้ ไม่ใช่เหรอ? โคลอี้บอกว่านายคือแฟนชายของเธอ" ฉันเอียงคอทำหน้างงในขณะที่นีโนเผลอร้องอุ๊บ!แต่เอามือปิดปากทันแล้วหันหลังตัวสั่นระริก...สงสัยกำลังขำใบหน้าของเอเดรียนตอนนี้อยู่
"ฉันเปล่า! นั้นเธอโกหก" เอเดรียนส่ายหัวและทำหน้าเหมือนอยากให้ฉันเชื่อเขา
แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดแก้ตัวอะไรอีก ทันใดนั้นเสียงกริ่งเข้าเรียนก็ดังขึ้นมา พร้อมกับเพื่อนคนอื่นที่ทยอยเข้าห้องเรียน...ร่วมถึงโคลอี้และซาบรีน่า
ฉันมองเห็นอัลย่าเดินเข้าห้องมาแล้ว แต่มาริเน็ตนางเอกของเรื่องยังไม่มาเลย?
ตื่นสายหรือเปล่านะ...?
"อุ้ย เธอเป็นเด็กใหม่สินะ?" เสียงจากข้างหลังทำให้ฉันหันไปมองแล้วพบว่าคือครูประจำชั้นนั้นเอง
คุณประจำชั้นก็เดินเข้ามาแล้ว พวกนีโน่และเอเดรียนเลยต้องไปประจำที่พร้อมกับเด็กคนอื่นในห้อง ส่วนฉันก็หันไปทักทายคุณครู
"ยินดีต้อนรับนะ ครูชื่อบุสเทียร์ เอาล่ะเรามาหาที่นั่งให้เธอดีกว่า.." ครูสาวนิ่งคิดสักพักก่อนจะชี้ให้ฉันไปนั่งข้างเด็กผู้ชายที่มีเรือนผมสีแดงเพราะมีที่ว่าง
ฉันจำได้! เขาคือนาธาเนียล เด็กหนุ่มผู้วาดรูปได้เก่งกาจมาก ฉันชอบเขาเพราะเขาเป็นคนเดียวที่ชอบมาริเน็ตที่เป็นมาริเน็ตจริงๆ
ใช่แล้ว..นาธาเนียลชอบมาริเน็ต เขาเหมือนพระรองในใจฉันเลย..ถึงแม้ตอนจบพระรองจะไม่ได้คู่กับนางเอกก็เถอะ..เหอะๆ
"ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันไดอาน่า"
"...!?"
เธอเดินไปหาเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เขากำลังก้มหน้าก้มตาวาดรูปตั้งแต่เข้าห้องเรียน
"อะ ออ ยินดีที่ได้รู้จัก...ฉะ ฉันนาธาเนียล" ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียกก่อนจะชะงักเมื่อเห็นสาวสวยมาหยุดตรงหน้าเขา ก่อนเด็กหนุ่มจะขยับที่นั่งว่างให้ไดอาน่าลงไปนั่ง
"นายวาดรูปเก่งจัง ฝึกมานานแล้วเหรอ" ไดอาน่าเหลือบมองสมุดสเก็ตภาพในมือเด็กหนุ่ม ก่อนจะตัดสินใจแอบชวนคุยตอนที่คุณครูกำลังเผลอพูดถึงอะไรสักอย่าง
"อะ อื้ม!" ใบหน้าขาวเนียนของนาธาเนียลแต่งแต้มด้วยสีแดงเล็กน้อย เส้นผมด้านหน้ายาวจนปรกใบหน้าซีกหนึ่งจนเธอมองไม่เห็น
ดวงตาของนาธาเนียลทำให้เธอนึกถึงพี่เซดลิกและคุณแม่ พวกเขามีนัยน์ตาสีเขียวออกไปทางทะเลอยู่กำกึ่งระหว่างสีฟ้ากับสีเขียว ส่วนนัยน์ตาสีฟ้าครามของฉันได้จากคุณพ่อที่เสียไป
เธอยิ้มหวานด้วยความเอ็นดูเมื่อเห็นนาธาเนียลก้มปกปิดภาพวาดตัวเองเล็กน้อย เพราะว่านาธาเนียลกำลังวาดรูปมาริเน็ตยังไงล่ะ!
พูดถึงมาริเน็ต มาริเน็ตก็รีบร้อนเดินเข้ามาในห้องทันที เรียกความสนใจของฉันกับนาธาเนียลได้ดี เพราะโต๊ะพวกเราอยู่บนข้างหลังของโต๊ะมาริเน็ตและอัลย่า โต๊ะด้านหน้าของมาริเน็ตและอัลย่าคือเอเดรียนและนีโน่
ฉันแอบได้ยินมาริเน็ตขอโทษอัลย่าแล้วบอกว่าตัวเองตื่นสาย วินาทีนั้นเองดวงตากลมโตของมาริเน็ตก็เหลือบมอง'เอเดรียน'ที่นั่งด้านหน้าตัวเองด้วยความเคลิ้มฝัน
ฉันอมยิ้มรู้สึกฟินในใจ เมื่อเห็นมาริเน็ตแอบมองคนที่ตัวเองชอบ แต่เมื่อฉันหันกลับมาจะชวนนาธาเนียลคุยเธอก็ต้องชะงักกึกแล้วแอบใจเสียเล็กน้อย
เมื่อฉันก็เห็นนาธาเนียล...กำลังแอบมองมาริเน็ต แววตาของเขาไม่ต่างจากมาริเน็ตตอนนี้.. สายตาของคนแอบรักข้างเดียว แล้วคนที่เขาชอบยังไปชอบคนอื่นอีกต่างหาก
นี่มันรักสามเศร้าชัดๆ!
ต้องหาเรื่องเบี่ยงเบนนาธาเนียล ไม่รู้ว่าเขารู้หรือยังว่ามาริเน็ตกำลังแอบชอบเอเดรียนอยู่น่ะ ฉันกลัวว่าเขาจะเศร้ามากกว่าเดิม เพราะดูยังไงภาษีของฝั่งโน่นดีกว่า-แค่ก!
ถ้านาธาเนียลตัดผมด้านหน้าออก แล้วมีความมั่นใจกว่านี้นะ ฉันว่าพระเอกก็พระเอกเถอะ นาธานของฉันจะต้องดังพุแตกกว่าแน่นอน!
"ฉันเรียกนายว่านาธานได้ไหมนาธาเนียลมันยาวไป"
กึก
พอฉันพูดจบด้วยใบหน้ายิ้มๆ นาธานเนียลก็หันมามองเธอแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พร้อมกับคำถามเต็มใบหน้าของเด็กหนุ่ม
'ไดอาน่ากับนาธาเนียลมันต่างกันตรงไหน... ยังไงมันก็สามพยางค์เหมือนๆกัน'
นี้คือสิ่งที่สื่อออกมาทางสีหน้านาธาเนียล
"พูดตรงๆเลยนะ ฉันอยากสนิทกับนายน่ะ"
"!?"
นาธานทำหน้าตกใจเหมือนกำลังสื่อว่าเธอก็พูดตรงเกินไป๊! สงสัยนาธานคงไม่เคยเจอผู้หญิงรุกใส่มาก่อนเจ้าตัวเลยรับมือไม่ถูก
"ฮิฮินายทำหน้าตลกจัง"
วินาทีต่อมาฉันหัวเราะเพราะอ่านความคิดของเขาออก นาธานได้สติก็เลยเม้มปากแน่นแล้วแก้มก็ขึ้นสีแดงจัด
ว่าก็ว่าเถอะนะ..นายไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอ?
ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วเหมือนฉันกำลังบ้าพูดอยู่คนเดียวเลยอ่ะ เพราะนาธานพูดน้อยมากกกก แต่ดันแสดงความคิดออกมาทางสีหน้าหมดเลย
เรือนผมสีแดงเพลิงของเขาโดดเด่นขัดจากนิสัยเงียบๆไม่กล้าของนาธาเนียล ผมที่ยิ่งปกหน้าปกตาก็ยิ่งมองไม่เห็นเข้าไปใหญ่ เมื่อนาธานก้มหน้าเหมือนกำลังเขินจัด
'น่ารักกกก' ไดอาน่าคิดในใจเมื่อเห็นเด็กหนุ่มก้มงุด
ทำให้ฉันนึกถึงลูกมะเขือเทศสีแดงสดเหมือนกับนาธานตอนนี้เปี๊ยบ!
"แล้วตกลงได้หรือเปล่า?"
"อะ เอ่อ.. ได้ ละมั้ง?"
มีละมั้งด้วย? เชื่อเขาเลย
ฉันอมยิ้มแล้วหันกลับมาตั้งใจเรียนต่อ พอดีกับที่สายตาเผลอไปสบกับเอเดรียนที่เหมือนเจ้าตัวจะหันมามองทางนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
"..?"
'เขากำลังมองอะไรอยู่น่ะ' เธอคิดพร้อมกับหันไปมองข้างหลัง
เพราะฉันคิดว่าเอเดรียนกำลังมองเลยเธอไปอยู่ก็ได้ พอหันกลับมาคุณพระเอกก็หันหลังตั้งใจเรียนหนังสือแล้ว
'อะไรน่ะเมื่อกี้?' ไดอาน่าสงสัยสายตาแปลกๆของคุณพระเอก..แต่วินาทีถัดมาเธอก็ยักไหล่ช่างมัน เพราะคงไม่มีอะไรหรอก
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ครบ100แล้ว อาทิตย์นี้ถ้าไม่เรียนหนักอาจจะมาต่อ แต่ถ้าไม่มาต่อคือต้องเคลียร์งานนะคะ
นาธาเนียล น้องมะเขือเทศ (ใครไม่รักน้องไม่รู้แต่ไรท์รักน้อง)
ตบท้ายด้วยรักสามเศร้าที่ไดอาน่าคิด
น่ารักกกกก มีคนคอสน้องด้วย โครตน่ารักกกกก!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น