ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่4: ยินดีต้อนรับสู่ห้องเรียนB
***
"อย่าเอาหน้าเลอะๆเข้ามาใกล้ฉันนะ มิคังที่ฉันรู้จักน่ารักกว่านี้ตั้งเยอะ"
โฮตารุหลบหลังมิกะเพื่อป้องกันไม่ให้มิคังจู่โจมเข้ามา มิคังชะงักไปก่อนจะรีบเช็ดน้ำตาและน้ำมูก แต่น้ำตาก็ยังคงไหลอยู่เหมือนเดิม เด็กหญิงจึงดึงแก้มตัวเองจนยืดเพื่อบังคับฉีกยิ้มทั้งน้ำตา
"..ถะ ถ้าแบบนี้ล่ะ โฮตารุ ฉันขอกอดเธอจะได้มั้ย?"
ยืดๆ
ท่าทางของพี่บ้ามันน่าเวทนาจนเธอนึกสงสาร
"....." มิกะมองมิคังที่กำลังพยายามฉีกยิ้มมาให้โฮตารุ ก่อนจะส่ายหัวเบาๆอย่างอ่อนอกอ่อนใจ เธอหันกลับมาผละออกจากโฮตารุ ก่อนจะเดินไปจับมือที่ดึงแก้มตัวเองของมิคังลง
มิคังมองปริบๆที่น้องสาวก่อนจะถูกกุมมือไว้แน่น มิกะหันไปมองโฮตารุ
"มิคังคิดถึงโฮตารุมาก ตอนแรกฉันห้ามมิคังไม่ให้มา แต่สุดท้ายฉันก็ไม่ได้ห้ามมิคังอย่างจริงจัง แล้วเลือกที่จะติดตามมิคังมาที่นี่"
"เพราะว่า..."
เธอเงยหน้าสบตาโฮตารุอย่างจริงจัง
"พวกเราคิดถึงโฮจังนะ!"
"...."
"อื้ม! อื้ม!"
มิคังที่ดึงแก้มจนเจ็บก็เม้มปากแน่น ก่อนจะพยักหน้ารัวๆยืนยันคำพูดของมิกะ ท่าทางขึงขังของทั้งคู่ทำนารุมิยืนมองอยู่นอกฉากยิ้มอ่อน
"....." โฮตารุมองเพื่อนสนิททั้งคู่เงียบๆ ก่อนนัยน์ตาคมซึ้งของเด็กสาวจะหลุบลง
"แค่อยากจะเจอเพื่อน...คงไม่มีคนบ้าที่ไหนไม่คิดหน้าคิดหลังมาจนถึงที่แบบนี้หรอก..."
เสียงเรียบตอบหน้าตาย แต่คำพูดนั้นทำมิคังและมิกะใจเสีย
"ขนาดมิจังที่ฉันไว้ใจก็บ้าตามมิคังไปด้วย" โฮตารุมองพวกเขาเหมือนว่าทั้งสองติดเชื้อบ้ากันไปหมดแล้ว
ฉึก! ฉึก!
ลูกศรแทงใจดำของมิคังและมิกะจนแทบกระอักโลหิต สมกับเป็นโฮจังยังคงเย็นชาไม่เปลี่ยนแปลง...
...แต่ก่อนที่มิกะจะได้ร้องไห้ตามมิคังไปจริงๆ โฮตารุก็เงยหน้าขึ้นมองถอนหายใจ
"เล่นเอาตกใจหมด..." ดวงตาสีม่วงเฉไปทางอื่นขณะหน้าขึ้นสีชมพูสองข้างแก้ม
สองแขนค่อยๆยกขึ้นเปิดออกต่อหน้าทั้งสอง
"มาสิ.. พวกบ๊อง"
"....!?"
อ้าปากเล็กน้อย ก่อนที่สองฝาแฝดจะยิ้มกว้างรีบวิ่งเข้าไปโอบกอด
"โฮตารุ!?../โฮจัง!?"
หมับ! หมับ!
อุก
เสียงถูกกระแทกทั้งซ้ายและขวา เด็กสาวเย็นชาแทบถูกอัดเป็นปลากระบ๋อง เรียวคิ้วขมวดมุ่ยดูอึดอัดแต่ก็ไม่ได้พลักออก
"พวกเธอนี่....เรียกว่ารักกัน.. หรือว่าประหลาดดีล่ะเนี่ย..?" นารุมิหัวเราะเบาๆ
ว่าแต่...ทำไมมิกะจังเรียกคุณอิมาอิว่า'โฮจัง' แล้วคุณอิมาอิเรียกมิกะจังว่า'มิจัง' ในขณะที่เรียกมิคังว่า'มิคัง'ธรรมดา
ตกลงใครสนิทกับใครกันแน่เนี่ย?
มองทั้งสามคนกอดกันตัวกลม ก่อนสักพักนารุมิจะเริ่มพามิคังและมิกะกับตัวแทนห้องทั้งสองเดินทางไปที่ห้องB-1
....
หน้าประตูห้องB-1
แต่น.. แต๊น..~
"เอาล่ะ! ถึงห้องเรียนแล้วจ้า~❤︎"
นารุมิหยุดที่หน้าประตู ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้มิกะที่จ้องมองประตูนิ่ง พร้อมกับโฮตารุที่ถูกมิคังกอดข้างหลังไม่ยอมปล่อย
"งั้นก็...มิคังจังและมิกะจัง ขอให้สนิทสนมกับเพื่อนๆทุกคนนะ~" ยิ้มแย้มให้กำลังใจก่อนจะโบกมือบ๊ายบายจากไปทันที
"...?" มิคังและมิกะโบกมือลาอย่างงงๆ ทำไมรู้สึกว่าอาจารย์นารุมิดูยิ้มสนุกอยู่ยังไงไม่รู้?
เมื่อครูนารุมิไม่อยู่แล้ว เด็กชายแว่นที่ทำตัวจืดจางมาตั้งนานก็ออกมาแนะนำตัว
"สวัสดีครับคุณซากุระ ผมเป็นกรรมการห้อง ชื่อโทบิตะ ยู ทุกคนเรียกว่า'ประธาน'ครับ"
เด็กชายแต่งตัวเรียบร้อยสวมแว่นตาทรงกลมใหญ่ นัยน์ตาสีส้มขนตายาวหงิกงอ ทำให้ดวงตาดูกลมโตและหวานกว่าปกติ ดูเป็นคนใจดีและขี้ใจอ่อน
มิคังและฉันรีบแนะนำตัวตามมารยาททันที ก่อนจะบอกว่าอย่าเรียกนามสกุลเลย เพราะไม่รู้ว่านายจะเรียกใครกันแน่
เด็กชายหัวเราะยิ้มหวานพยักหน้ารับทราบเบาๆ มือพลางทาบไปที่ประตูห้องB
"เด็กที่ย้ายมาจากโรงเรียนธรรมดา อาจจะรู้สึกสับสนอยู่บ้าง แต่ไม่ต้องตกใจหรอกนะ ยินดีต้อนรับสู่แผนกประถมห้องBครับ คุณมิคัง คุณมิกะ"
แอ๊ด...
เสียงเปิดประตูออก มิคังดูตื่นเต้นมาก ในขณะที่เธอแอบสงหรณ์ใจแปลกๆ...เพราะโฮตารุแอบถอยไปอยู่ข้างหลัง มิคังเป็นคนแรกที่ก้าวเข้าไปก่อนจะหยุดกึก
?
เธอมองไม่เห็นข้างในจึงไม่รู้สาเหตุ ว่าเพราะอะไรทำไมมิคังตัวแข็งค้าง ก่อนจะรู้แจ้งในวินาทีต่อมา
เฮ! เฮ!
เสียงตวาดแว๊ดๆในห้องและเสียงร้องไห้ของเด็กคนไหนสักคน เมื่อก้าวเข้ามาในห้อง เธอกวาดมองอย่างสงบ เห็นเพื่อนในห้องกำลังวิ่งอลม่าน
กริ๊ดดด! เอาคืนมานะ!
แบร่ๆ อยากได้ก็มาจับเอา!
ฮ่าฮ่า ว๊ากก
เสียงดังวุ่นวายไปหมด จนแยกเสียงไม่ออกว่าเสียงไหนเป็นของใคร แต่ที่หน้าตกใจกว่านั้นคือเด็กผู้ชายที่ยืนอยู่บนเพดานกำลังแกล้งแย่งตุ๊กตาของเพื่อนในห้อง หรือไม่ก็เด็กบางคนที่กำลังลอยเล่นในอากาศดูสบายชิวๆ
นอกจากนั้นยังมีเด็กบางคนกำลังร้องไห้ที่โดนตัวอะไรบางอย่าง เหมือนภาพเขียนการ์ตูนหน้าเกลียดฉีกสมุด ฉันกวาดสายตามองหาตัวต้นเหตุ
ก่อนจะพบว่าเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง กำลังนั่งวาดรูปบนกำแพง
จากนั้นภาพตัวการ์ตูนที่ถูกเขาขีดเขียน ก็มีชีวิตออกมาวิ่งไล่เด็กผู้หญิงที่ดูเรียบร้อยในห้อง... เธอเดินไปดันคางให้มิคังหุบปากที่อ้าไว้จนแมลงวันจะมาตอม แต่ก็ห้ามดวงตาที่เบิกกว้างของมิคังไม่ได้
ก่อนวินาทีถัดมามิคังจะได้สติ '
'นี่มันห้องเรียนอะไรกันเนี่ย!??'
โทบิตะเดินมายิ้มเขินๆอธิบาย "ห้องเรียนแบบนี้อาจจะทำให้รู้สึกอึดอัดใจอยู่บ้าง แต่ถ้ามีเรื่องที่ลำบากใจหรือไม่เข้าใจอะไร ก็ถามผมได้ทุกเรื่องเลยนะ"
'อาจารย์นารุมิคะ...ทำไมรู้สึกว่าห้องเรียนนี่มัน...ไม่ได้ง่ายเลยล่ะ...เป็นเพราะหนูคิดมากไปเองใช่มั้ย...? ..ใช่มั้ยคะ???''
เมื่อหันมาดูน้องสาวก็เห็นมิกะ กำลังมองเด็กที่บินได้ด้วยความสนใจอยู่ มิคังจับปลายเสื้อของมิกะที่ดูสงบมากเลย
"มิกะ เธอไม่แปลกใจบ้างเหรอ?"
"หือ?.. นิดหน่อย อาจเพราะเดาได้ตั้งแต่คุยกับอาจารย์มิซากิ ก็เลยไม่ค่อยตกใจ" ก็เดาได้แล้วล่ะว่านักเรียนอลิซ คงเป็นประเภทแบบครูนารุมิที่มีพลังพิเศษ
"ทำไมเธอฉลาดจังเลย" มิคังกล่าวประทับใจแต่ยิ้มฝืนๆเพราะตัวเองยังปรับตัวไม่ทัน ฉันหันไปมองก่อนยกมือลูบหัวปลอบมิคังเบาๆ
"เฮ้ ประธาน ยัยนี่เป็นใครน่ะ?"
เสียงตะโกนของใครสักคนที่สังเกตเห็น ทำให้เพื่อนๆในห้องหันมามองพวกเราอย่างสนใจ โทบิตะกำลังจะอธิบายแต่ก็มีเพื่อนในห้องบางคนดังแทรกขึ้นมาก่อน
"ฉันได้ยินเรื่องที่คุยกันตรงหน้าประตูโรงเรียน รู้สึกว่าจะเป็นนักเรียนใหม่ที่นารุพามา" นารุ หมายถึงอ.นารุมิ "เกือบจะโดนคนแปลกๆสองคนลักพาตัวไป พี่สาวโง่มากไม่ยอมฟังน้องสาว นารุเลยช่วยแล้วพามาน่ะ"
เด็กชายแว่นตากรอบเหลี่ยมหน้าตาเฉยชา นัยน์ตาดำผมดำล้วนไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเลย เอาแต่อ่านมังงะในมือแต่ก็อธิบายรายละเอียดยิบเหมือนตาเห็น
"ทำไมถึงรู้ได้ล่ะ...!?" มิคังอ้าปากค้างเอ่ยเสียงตกใจ แต่ประโยคหลังก็แอบแทงใจดำเล็กน้อย
"อาจเพราะมีอลิซเป็นประสาทการได้ยินที่ดีเลยได้ยินไปถึงหน้าโรงเรียนละมั้ง" มิกะพูดขึ้นคาดเดา
"พลังลอยตัวหรือหูทิพย์ ที่โรงเรียนอลิซไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไรหรอก" โฮตารุพยักหน้าเบาๆกับการเดาของมิกะ มิคังมองคนในห้องด้วยความรู้สึกตกตะลึง
'ของแท้จริงๆเรอะ ไม่ใช่มายากลหรอกใช่มั้ย??'
"นี่ มิคัง"
'นี่มันอะไรกันเนี่ย อลิซนี่เจ๋งไปเลย..!'
"มิคัง.."
'มีคนแบบนี้อยู่ในห้องเต็มไปหมดเลย!'
"มิคัง โฮตารุเรียกแนะ.."
'หมายความว่ายังไงกัน!? เราก็มีพลังแบบนี้ด้วยเหรอ?'
มิคังคิดวุ่นวายในหัวจนไม่ได้ยินเสียงเรียกของโฮตารุ และเสียงเรียกช่วยเสริมของมิกะ
"มิคัง....มิคัง!"
โป๊ก!
โป๊ก!
...แอ๊ก!?
"ทะ ทำไม พวกเธอ..." มิคังกุมหัวหันไปมองโฮตารุและมิกะอย่างงงๆ
ทั้งสองคนสวมถุงมือรูปเท้ากวางและเท้าม้าคนละข้าง
เพราะมิคังไม่ฟัง โฮตารุตัดสินใจใช้เครื่องมือประดิษฐชิ้นหนึ่งที่เรียกว่า<ถุงมือเท้าม้า> มีอานุภาพในการจัดการคนบ้า
มีอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง<ถุงมือเท้ากวาง>ที่มิกะใช้ ในภาษาญี่ปุ่นเมื่อนำตัวอักษรจีนของคำว่า'ม้า'และ'กวาง'มารวมกันจะกลายเป็นคำว่า'บ้า'
"ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอมีอลิซอะไรถึงได้มาที่นี่ได้ แต่ฉันขอบอกเธอไว้เรื่องนึง"
โฮตารุเอ่ยพลางรับถุงมือเท้ากวางจากมิกะคืน เธอพูดเสียงเย็นชาไปที่มิคัง
"ช่วงที่อยู่ที่นี่ พวกเราจะรู้จักกันในฐานะ'คนอื่น'นะ เพราะปีนี้ฉันเล็งรางวัลนักเรียนดีเด่นอยู่ ถ้าเป็นไปได้... ฉันไม่อยากเข้าไปเสี่ยงกับเรื่องยุ่งยากน่ะ เข้าใจมั้ย?"
"หา..? เดี๋ยวสิ มิกะด้วยเหรอ?" มิคังทำหน้างง
"ไม่ล่ะ มิจังไม่ใช่คนแปลกหน้า" โฮตารุมองมิกะก่อนจะมองมิคัง "เธอจะไม่ทำฉันเดือนร้อน ระวังแค่เธอก็พอแล้ว"
"โฮตารุ~! ไม่จริ๊ง" กล่าวเสร็จโฮตารุก็เดินกลับไปนั่งที ทิ้งหัวใจของมิคังไว้บนพื้นน้ำตาไหลพราก ข้างๆก็มีมิกะนั่งปลอบลูบหลังเงียบๆ
คงจริงอย่างที่นารุมิว่านั้นแหละ สายสัมพันธ์ของทั้งสามคนออกจะแปลกๆอยู่หน่อย(เมียน้อยสนิทกับเมียหลวงมากกว่า-แค่ก!...)
"ไม่เป็นไรนะ ฉันจะอยู่กับมิคังเอง" ริมฝีปากอิ่มสวยคลี่ยิ้มหวานให้แก่อีกฝ่าย
"มิก้า~" ทั้งที่ใบหน้าเหมือนกันแท้ๆ แต่พอมันไปอยู่กับมิกะแล้วกลับดูสวยเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆเลย!'
มิคังสะฮือคิดในใจก่อนจะกอดน้องสาวฝาแฝดอย่างซาบซึ้ง
....
เวลาต่อมาอาจารย์ประจำคาบก็เข้ามา ก่อนจะพาเด็กทั้งสองคนไปยืนหน้ากระดานแล้วเขียนชื่อทั้งคู่ลงไป
"เรามีคุณเพื่อนคนใหม่เข้ามานะครับ"
แกร๊ก แกร๊ก
[ซากุระ มิคัง]
[ซากุระ มิกะ]
"ขอให้ทุกคนสนิทสนมกันเอาไว้นะ" สิ้นเสียงของคุณครูผมดำยาวผูกโบว์ท้ายทอย ท่าทางใจดีสวมแว่นตากล่าว ฉันและมิคังก็โค้งตัวตามมารยาทด้วยก่อนจะแนะนำตัวเองสั้นๆ
"นี่น้องสาวฉันซากุระ มิกะ และฉันซากุระ มิคัง ยินดีที่ได้รู้จักทุกค..."
เปรี๊ยะ
เฮือก!
"คุณเพื่อนเนี่ยนะ แหวะ! คำเป็นพูด!"
"ใครเขาจะฟังที่นายพูดกัน เจ้าครูงี่เง่า!"
ฮะฮะฮะ! ฮ่าฮ่าฮ่า!
เสียงหัวเราะเฮฮาและคำดูถูกสารพัดมาจากนักเรียนชาย พากันหยิบเศษขยะโยนใส่ครูที่อยู่หน้าชั้น ฉันและมิคังพากันอึ้ง
"เอ๋ เดี๋ยวสิ!" มิคังทำหน้าเหลือเชี่อพลางแตะไหล่ครูที่กำลังร้องไห้เพราะโดนเด็กรังแก
นี่ก็อ่อนแอเกินไปแล้ว!
'...ชั้นเรียนเด็กมีปัญหา...' ฉันคิดในใจอย่างเบื่อหน่าย ขณะที่เอาตัวไปบังมิคังและครูข้างหลัง
ยังดีที่พวกเด็กในห้องเรียนโยนมาเป็นกระดาษที่ถูกขย้ำเป็นลูกบอล ส่วนกระบ๋องน้ำเธอก็ปัดออกไม่ยากเย็น
"ถ้างั้นคุณซากุระทั้งสอง ฝากช่วยไปเลือกที่นั่งแถวข้างหลังด้วยแล้วกันนะ!"
สิ้นเสียงครูท่าทางใจดี..ไม่สิ ท่าทางอ่อนแอ เอ่ยจบ ก็รุดออกจากห้องเรียนอย่างรวดเร็วเหมือนหนีตาย ทิ้งเสียงหัวเราะสะใจของเด็กผู้ชายในห้องตามหลัง
มิคังรีบหันไปมองโฮตารุทันทีเหมือนถามว่านี้มันเรื่องอะไรกัน!?
"...." โฮตารุหันควับไม่มองทำเป็นไม่รู้จัก ทำเอามิคังตัวสั่นด้วยความโกรธ... มิกะมองประตูที่ถูกปิดหลังครูอ่อนแอออกจากห้องไป
'ดูอีกรอบนี้แล้วคาบนี้คงได้เรียนด้วยตัวเองแหงๆ...'
คิดในใจก่อนจะเป็นคนนำมิคังไปเลือกที่นั่ง ไม่สนใจสายตาของทุกคนที่มองมาอย่างกดดัน
"ฝากตัวด้วยนะจ๊ะ" ระหว่างเดินผ่านโต๊ะมีเด็กผู้หญิงผมยาวสีน้ำเงินเข้มน่ารักเอ่ยทักทาย และเพื่อนร่วมโต๊ะข้างๆเป็นเด็กผู้หญิงผมหยักโสกสีชมพูท่าทางใจดี
"เอ๋ เอ่อ.."
มิคังชะงักก่อนจะค่อยๆยิ้มเขินทักทายกลับอย่างดีใจ
"ฝะ ฝากตัวด้วย" เจอคนท่าทางเป็นคนดีแล้ว...!
โชคดีที่ว่าโต๊ะเป็นที่นั่งแบบสามคน จึงมีเหลืออีกทีหนึ่งพอดี มิคังจึงโดนเด็กสาวน่ารักทั้งคู่ชวนให้ไปนั่งด้วยกัน
พอเห็นว่าพี่บ้าได้ที่นั่งของตัวเองแล้วเธอก็หายกังวล ก่อนจะเดินยิ้มไปโต๊ะหลังห้องสุดเพราะมีที่ว่างอยู่ที่เดียว
ที่ว่างข้างๆเด็กผู้ชายที่ขาพาดอยู่บนโต๊ะ กำลังหลับอยู่และหนังสือมังงะที่เปิดหน้าค้างไว้บนใบหน้า ทำให้เธอไม่รู้ว่าหน้าตาเด็กคนนี้เป็นแบบไหนกันแน่ เพราะไม่ได้มองคนข้างๆถัดไปเธอจึงไม่รู้ว่าโต๊ะนี้มันคือโต๊ะของใคร
จึกๆ
"ฝากตัวด้วยนะ ฉันชื่อมิกะ.." สะกิดไหล่ปลุกคนข้างๆ ก่อนจะยิ้มหวานเปิดโหมดเอฟเฟกดอกไม้ เตรียมจะจับมือทักทายแนะนำตัว
ทว่าเมื่อหนังสือมังงะบนหน้าเลื่อนหลุดออกเธอก็ยิ้มค้าง
"กึ๊ด" เสียงกัดลิ้นตัวเอง "..."
ผมสีดำขลับที่ตกกระจายลงมา เปิดเผยแววตาสีแดงลึกลับส่องประกาย ผิวสีน้ำผึ้งเช็กซี่และจมูกโด่งเป็นสันงดงามน่ายื่นมือไปลองลูบ ริมฝีปากบางนั้นหยักเหยียดได้รูปสีอ่อนสวย ประกอบเป็นใบหน้างดงามหล่อเหลาอย่างไร้ที่ติ
อีกฝ่ายกำลังมองมาที่เธอเหมือนยังไม่ตื่นดี เธอก็มองสบนัยน์ตาแดงนั้นด้วยนัยน์ตาฟ้าที่โค้งงอ(ยิ้มค้าง)
ใบหน้าหมอนี่มันคุ้นๆนะ..? คนข้างๆก็ด้วย อะ ใช่เจ้าเด็กผมบลอนด์ที่ทะลุเข้าทางหน้าต่างมาหรือเปล่านะ..?
"อ๊ะ.. เธอ?" เสียงทุ่มเอ่ยแปลกใจพร้อมคิ้วได้รูปเลิกขึ้นเบาๆ
"ยัยกางเกงในลูกไม้เมื่อตอนนั้น"
เรียวคิ้วของมิกะแอบกระตุก..
"เอ๊ะ"รูกะที่ได้ยินคำว่า'กางเกงในลูกไม้'ก็หันมามอง ก่อนจะทำหน้าตกใจ ไม่คิดว่าเด็กใหม่ที่กล้ามานั่งข้างนัทซึเมะจะเป็นผู้หญิงเมื่อตอนนั้น
อย่าว่าแต่พวกเขาเลย... มิกะก็ไม่คิดว่าที่นั่งแบบสุ่มจะได้มาเจอทั้งสองคนซะได้ แถมเป็นเพื่อนร่วมห้องกันอีกด้วย
"......" พวกเราสามคนเงียบไปพร้อมกัน
'ทำเป็นไม่รู้จักดีมั้ย-...'
"อา! นายมันผู้ชายโรคจิตลามกเมื่อตอนนั้นนี่!?"
'นะ..'
อื้ม
ดูเหมือนจะไม่ทันซะแล้ว..
เสียงตะโกนดังขึ้นมาของมิคังทำทุกคนหันมามอง ร่วมไปถึงนัทซึเมะและรูกะ เมื่อปลายนิ้วของมิคังกำลังชี้ไปยังคนข้างๆเธออยู่
นัทซึเมะมองผู้หญิงน่ารำคาณตรงหน้าก่อนจะแค่นเสียงในลำคอทีหนึ่ง
เหอะ
"พูดอะไรน่ะผู้หญิงคนนี้" นัทซึเมะหรี่ตาลงตอบหน้าตาย "พวกโรคจิตน่ะ คือคนบ้าที่คิดอะไรบางอย่างอยู่ลึกๆในจิตใจ ถึงได้เรียกว่า'โรคจิต'ไงล่ะ" หยุดพูดเล็กน้อยก่อนที่นัยน์ตาสีแดงจะเหยียดมองมิคังอย่างรังเกียจ
"แต่คนอย่างเธอแม้แต่เรื่องคิดฉันยังไม่อยากจะคิดถึงเลย ยัยบ้า"
ยะ ยัยบ้า?
'ฉะ ฉันหมายถึง...นายโรคจิตใส่น้องสาวฉัน...' มิคังอ้าปากก่อนจะหุบลงแล้วอ้าใหม่แล้วก็หุบอีกรอบ
เธอพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเพราะในใจรู้สึกโกรธไปหมด แต่ก็ไม่อยากให้ทุกคนรู้ว่า มิกะโดนตาบ้านี้ถอดกางเกงในออกไป!
"นายนั้นแหละที่บ้า! ทำเรื่องแบบนั้นกับเด็กผู้หญิงไปได้ยังไง ศัตรูของผู้หญิง! คนป่าเถื่อน! ขอโทษน้องสาวฉันมาเลยนะตาบ้า!"
เพราะมิคังเริ่มโวยวายเสียงดังทำเพื่อนเด็กผู้ชายในห้องเริ่มรู้สึกรำคาณ แถมคนที่มิคังไปว่าดันเป็นไอดอลของห้อง หรือเรียกง่ายๆว่า'หัวหน้าแก๊ง'
'บ้าจริงมิคัง! ดันไปมีเรื่องกับตัวอันตรายที่สุด' โฮตารุกัดปากแน่น
เพิ่งพูดไปแท้ๆว่าอย่าได้หาเรื่องลำบากมา ยังไม่ทันข้ามวันเลย!...ยัยต๊องเอ้ย!
"ทำไมยังนั่งเฉยอยู่ล่ะ พูดอะไรออกมาบ้างสิ! เข้าใจมั้ยหา!?" มิคังเริ่มเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
"มิคัง... มิคัง!" 'หยุดเถอะน่า! เธอลืมภารกิจทดสอบของครูนารุมิไปแล้วหรือยังไง!?'
ฉันพยายามเรียกให้มิคังหยุด เพราะสายตาของเพื่อนร่วมห้องเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว..!
"อะไรกัน!? ท่าทางอวดดีนั้นน่ะ!" มิคังไม่ฟังมิกะห้ามเพราะเธอกำลังโมโห แถมคนข้างหน้าไม่แสดงสีหน้าอะไรเลยเหมือนคนที่มิคังว่าอยู่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
"เฮ้ นักเรียนใหม่"
วืด! ว้าย!
"!??" มิคังรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจับคอเสื้อ ก่อนที่วินาทีต่อมาเธอจะถูกดึงขึ้นกลางอากาศ
"กับคุณนัทซึเมะ.. บังอาจมาทำเป็นปากดีอยู่ได้..."เสียงระงับอารมณ์หงุดหงิด และมือที่กำค้างกลางอากาศมาจากเด็กผู้ชายผมเกรียนคนหนึ่งในชั้นที่มีความสามารถพลังจิต
มิคังเริ่มหวาดกลัวเมื่อมองจากมุมนี้ห่างจากระดับพื้นมันดูอันตรายมากๆเลย!
โฮตารุ... โฮตารุช่วยด้วย!
มิคังมองหาเพื่อนสาวสุดที่รัก แต่โฮตารุมองมาเงียบๆก่อนจะทำเป็นอ่านหนังสือในมือต่อ
'โฮตารุ...' มิคังใจเสีย นึกถึงประโยคคำพูดของอีกฝ่ายที่จะทำเป็นไม่รู้จักกันข้างนอก เธอพูดจริงๆน่ะหรือ.. แต่ว่า...โฮตารุ..
อ๊ะ
มิคังถูกบังคับให้บินซ้ายบินขวา มิกะที่เห็นแฝดพี่กำลังถูกรังแกก็หันไปหาคนข้างๆทันที เพราะรู้ว่าคนที่จะหยุดเด็กพวกนี้ได้คือเขาคนเดียวเท่านั้น
"นัทซึเมะ! สั่งให้พวกเขาหยุดทีเถอะ!"
"ทำไมฉันจะต้องทำ"
"ก็เพราะนายเป็นคนเดียวที่สั่งพวกเขาได้น่ะสิ!"
"โอ้...ยัยลูกไม้ฉลาดกว่าที่คิด..ไม่เหมือนพี่สาวเธอเลย" นัทซึเมะกระตุกยิ้มก่อนจะเหลือบมองเด็กหัวเกรียน เหมือนหมอนั้นจะรู้เลยบังคับมิคังหมุนไปมาสองสามรอบ
กริ๊ด! เสียงร้องของมิคังและสีหน้าที่เหมือนอยากจะอ้วก
กรอด..
"นี่..!" ท่าทางแบบนั้นทำมิกะเริ่มหงุดหงิด...ใบหน้าที่มักจะสงบนิ่งเริ่มหน้าบึ้ง แก้มขาวเริ่มพองเล็กน้อยและขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างระงับอารมณ์กรุ่นโกรธ
เมื่อได้เห็นมิกะเปลี่ยนสีหน้า นัทซึเมะก็พอใจก่อนจะสั่งให้เด็กหัวเกรียนหยุด แต่ยังไม่ได้ปล่อยลงมาเมื่อมีเสียงแหลมดังแทรกขึ้นเสียก่อน
"แหม! ทำไมต้องหยุดด้วยล่ะ เมื่อกี้ก็ลองเงียบๆดู เพราะเห็นว่าเป็นอลิซหรอกนะ? แต่เด็กคนนี้ดันไปว่านัทซึเมะคุงกับรูกะคุงว่าบ้าไม่ใช่เหรอ"
'ใครอีกล่ะเนี่ย' มิกะหันไปมองคนมาใหม่อย่างหงุดหงิด เด็กผู้หญิงในชุดนักเรียนปักตราสองดาวเอ่ยขึ้นพร้อมสะบัดปอยผม ข้างหลังก็มีผู้ติดตามหลังอีกคนข้างๆ
ดวงตาสีเขียวชาและเรือนผมสีเขียวแก่สั้นระดับต้นคอ ปอยผมปล่อยยาวด้านหน้าถูกดัดเป็นเกียวคลืน จมูกโด่งรั้นเชิดขึ้นเล็กน้อยอย่างคนที่มีนิสัยเย่อหยิ่งและชอบอวดดี
"ขอโทษนะ? แต่มิคังว่าบ้าแค่นัทซึเมะคนเดียว ไม่ใช่รูกะด้วยซะหน่อย" นัยน์ตาสีฟ้าหรี่ลงบ่งบอกอีกฝ่ายว่าอย่ามาป้ายสีเติมไข่ไก่ให้มิคัง
กึก โชดะชะงักเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาเชิดหน้ายิ้มท้าทายใหม่ "แล้วไง? แค่นี้ยังปราณีเกินไปด้วยซ้ำ!" เอ่ยเสร็จก็หันไปหาเด็กหนุ่มผิวน้ำผึ้งยิ้มหวาน
"เนอะนัทซึเมะคุง!"
"...." นัทซึเมะที่จ้องมิกะอยู่ก่อนแล้ว พอได้ยินเสียงเรียกก็เหลือบมองโชดะเล็กน้อย...ก่อนจะหันหลังกลับไม่สนใจ
"ปล่อยลงมา"
"ครับ! คุณนัทซึเมะ!"
"แหม~♥ ส่วนที่ใจดีแบบนั้นฉันคิดว่าก็เป็นเสน่ห์อย่างนึงของนัทซึเมะคุงนะ~" โชดะรีบเปลี่ยนสีอย่างว่องไวเอ่ยอย่างขัดเขิน พร้อมลูกสมุนก็เอ่ยเสริมเห็นดีเห็นงามด้วย
'ยัยนี่ท่าจะบ้า' มิกะคิดแบบนั้นก่อนจะวิ่งไปรับมิคัง
วืด!
เมื่อมิคังตกลงมาก็ไอค่อกแค่กพร้อมทำหน้าจะอ้วก โทบิตะที่อยู่ใกล้กว่ารีบเข้ามาพยุงพลางลูบหลังมิคัง เธอที่เห็นว่าปลอดภัยแล้วก็โล่งอก ก่อนจะหันมาขมวดคิ้ว(กัดฟัน)เอ่ยขอบคุณนัทซึเมะเสียงเบา..
"ฉันไม่รับคำขอบคุณ" นัทซึเมะว่าเสียงราบเรียบ "ยัยลูกไม้และยัยลายจุด"
"ใครลายจุด! นายแอบดูกางเกงในฉันเหรอ!?" มิคังที่เริ่มอาการดีขึ้นแล้วก็เอ่ยเสียงดัง จ้องอีกฝ่ายอย่างตกตะลึง
"ไม่ใช่ความผิดของฉันสักหน่อยที่เธอโชว์ให้ทุกคนดู ...ใครๆก็เห็นเมื่อมองขึ้นข้างบน" นัทซึเมะตอบมิคังพลางยักไหล่ไม่แยแส
'ความผิดของนายนั้นแหละ!' เสียงตะโกนอย่างโกรธเคืองในใจ และใบหน้าที่ขึ้นสีอย่างอับอายของมิคัง
นัทซึเมะไม่สนใจ เริ่มถามสิ่งที่ตัวเองสงสัย "บอกมา..พวกเธอมีอลิซแบบไหน?"
อลิซ...? มิกะเหลือบมองคนรอบห้อง...ทุกคนกำลังจ้องมองดูอยู่
ขนาดผู้หญิงน่ารักสองคนนั้นก็ด้วย ยกเว้นโฮตารุที่ไม่ยอมหันหลังมา ทุกคนดูสนใจอลิซมากว่าพวกเราจะตอบนัทซึเมะว่าอะไร
'หรือว่าที่นี่จะแบ่งชนชั้นด้วยอลิซ?' มิกะที่มัวแต่กำลังใช้ความคิด ส่วนมิคังไม่เสียเวลาให้คิดมากแบบเธอ กับคนที่เธอเกลียดนั้นไม่ควรสันติด้วยหรอก
"แบร่! จ้างให้ก็ไม่บอก!"
เป๊าะ!
เสียงดีดนิ้วดังขึ้นมา ก่อนที่มิคังจะร้องกริ๊ดอีกรอบ เมื่อนัทซึเมะสั่งเจ้าหัวเกรียนคนเดิมบังคังยกมิคังขึ้น
'ยัยพี่บ้า..ไปเติมเชื่อเพลิงเข้าอีกแล้ว!' ....มิกะอยากยกมือกุมขมับพลางเริ่มคิดในใจว่า.. ควรปล่อยให้มิคังอยู่ข้างบนนั้นเงียบๆสักพัก
อาจจะเป็นผลดีกว่าหรือเปล่านะ?
"ไม่ได้นะไม่ควรใช้อลิซแบบนี่!? นายอาจจะถูกไล่ออกก็ได้นะ!" โทบิตะลุกขึ้นมาห้าม
"ไล่ออก? ไล่ออกก็ดีเลยสิ! ฉันดีใจจะตายที่ได้ออกจากไอ้โรงเรียนเฮงซวยนี่ได้!" เด็กชายหัวเกรียนตวาดใส่ห้วหน้าชั้นอย่างประชดประชัน
'ทุกคนไม่ชอบที่นี้?' มิกะเริ่มเก็บข้อมูลอีกครั้ง เผื่อว่าตัวเองจะได้รู้เรื่องราวมากขึ้น ส่วนมิคังนั้น...ปล่อยให้อยู่ข้างบนไปก่อน
"แต่พวกเราถูกรวบรวมมาที่โรงเรียนนี้ เพื่อช่วยสังคมทำให้ผู้คนมีความสุขนะครับ!" โทบิตะก้าวเดินเข้าไปใกล้ขึ้นพร้อมอธิบายเสียงจริงจัง
"นายเชื่อคนง่ายเกินไปแล้ว! สิ่งที่พวกผู้ใหญ่ต้องการน่ะ คือใช้พลังของพวกเราเพื่อพวกเขาเองต่างหาก!? นายก็รู้อยู่แก่ใจ!"
"แต่ผมไม่เคยใช้อลิซเพื่อคนไม่ดีเลยนะ!" โทบิตะแย้งกลับไปก่อนจะโดนเด็กหัวเกรียนพลักออกมาอย่างรำคาณ
"เสแสร้ง! ไปให้ไกลเลย!"
ตุบ!
"โอ๊ย!" เสียงร้องของโทบิตะหนุ่มหน้าหวาน ทำให้มิกะคิ้วกระตุก....อีกแล้วนะ
...ครั้งที่สามแล้ว...
"ถ้าไม่ชอบสิ่งที่ทำอยู่ก็ใช้อลิซของนายช่วยยัยนั้นสิ! หรือเพราะอาจารย์ไม่อนุญาตให้ใช้!?"
ตวาดใส่เสร็จก็หันไปมองแรงใส่มิคังบนอากาศพร้อมชี้นิ้วใส่อย่างท้าทาย
"เฮ้ ยัยข้างบนน่ะ หัดใช้อลิซเพื่อตัวเองซะสิ!"
"....." มิคังอ้าปากอ่ำอึ้งเหงื่อตกไม่รู้จะพูดดีหรือไม่
เพราะเราน่ะ...
"จริงด้วยสิเรา.."
เสียงเกริ่นขึ้นเรียกความสนใจจากทุกคนในห้อง มิคังหันไปมองเจ้าของเสียง เป็นเด็กผู้ชายผมแหลมสีบลอนด์อ่อนคนหนึ่งที่ยิ้มตลอดเวลา สีหน้าคาดเดาอารมณ์ไม่ออก
"จริงๆแล้วเรามีอลิซแบบไหนกันแน่ อาจารย์บอกว่าเรามีอลิซแต่.."
ใบหน้าที่มีรอยยิ้มตลอดเวลานั่นมองมิคังไม่กระพริบตา จนรู้สึกเหมือนกำลังโดนสายตานั้นจ้องมองทะลุปลอดโปร่งเข้าไปถึงข้างใน
'เอ๊ะ' มิคังหันไปมองอย่างตกใจ 'คำพูดพวกนี้...'
"ไม่เห็นมีอะไรที่ยืนยันว่าเรามีพลังแบบนั้นเลย"
คนคนนี้.. สิ่งที่อยู่ในใจเรา...
"จริงๆแล้วเรา.. มีอลิซอะไรนั่นจริงๆน่ะเหรอ?"
อ่านใจได้?
"......!?" มิคังหน้าซีด.. ไม่คิดว่าสิ่งที่คิดในใจจะถูกพูดออกมาจากเด็กผู้ชายหน้าบ้านๆคนนี้
โครม!?
ในขณะที่ทุกคนตกใจกับข้อมูลที่เพิ่งทราบ เสียงร้องตะโกนอย่างเจ็บปวดดังขึ้นฉับพลัน พร้อมเสียงหล่นดังตุบ! มิคังที่ยังไม่ตั้งตัวก็หล่นลงมาหน้ากระแทกกับพื้น
"อูย.."
ยกมือบีบจมูกแดงๆก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยินเสียงโวยวาย
"คุณมิกะ!?"
โทบิตะมองอย่างไม่อยากจะเชื่อ นัทซึเมะและรูกะก็หันมามอง ร่วมถึงโชดะและทุกคนในห้อง
"...." โฮตารุที่ได้ยินชื่อหัวข้อก็หันกลับมาดูอย่างแปลกใจ
"โอย..." เด็กหนุ่มหัวเกรียนลูบหัวตัวเองอย่างมึนๆ ข้างบนตัวเองก็เป็นมิกะที่ตบมือปัดเบาๆอย่างสงบ
อะไรน่ะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?
เสียงซุบซิบดังขึ้นอย่างสงสัย ในจังหวะที่ทุกคนมัวแต่มองมิคัง มิกะที่อยู่กลางห้องก็มาถึงด้านหลังของนายหัวเกรียนโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว
ขนาดนายหัวเกรียนก็ไม่ทันระวัง รู้ตัวอีกทีตัวเองก็หน้ามืดหลังกระแทกกับพื้นซะแล้ว
"ฉันเห็นนะ..! เธอคนนั้นไปข้างหลังอีกฝ่ายก่อนจะกระชากคอเสื้อทุ่มลงกับพื้นน่ะ!?" ทุกคนได้ยินพยานเห็นเหตุการณ์กล่าว รีบหันไปมองเด็กสาวผมเปียสีน้ำตาลอ่อนอย่างตกตะลึง
'ยัยท่าทางอ่อนแอนี้อะนะ!?'
ทุกคนแทบไม่เชื่อ
ถ้าวัดจากขนาดรูปร่างและส่วนสูงแล้ว มิกะตัวเล็กกว่านายหัวเกรียนเยอะมาก แต่ตอนนี้...กลับโค่นล้มอีกฝ่ายหมอบกับพื้นได้อย่างง่ายดาย
แถมทำไมอีกฝ่ายไปถึงตรงนั้นได้โดยที่ไม่มีใครรู้?
"อย่าขยับนะ..." น้ำเสียงเย็นชาผิดกลับริมฝีปากแดงเรือได้รูป ค่อยๆก้มหน้าลงยกยิ้มดูสวยงามเหมือนนางฟ้า ดวงตาฟ้าใสจับจ้องเด็กหนุ่มใต้ตัวเองเหมือนงูกำลังจ้องมองเหยื่อ
มิคังและโฮตารุเท่านั้นที่รู้ว่ารอยยิ้มนั้นคือมิกะกำลังโมโหจัด
ท่าทางแบบนี้มักจะไม่ได้เห็นบ่อยนัก ล่าสุดที่เห็นคือตอนที่มิคังไปมีเรื่องกับเด็กผู้ชายในหมู่บ้าน แล้วโดนสามคนรุมซะยับ พอมิกะได้รู้ข่าวก็ไปกระทืบสามคนนั้นด้วยตัวคนเดียว โดยที่กลับมาไม่ได้บาดเจ็บอะไรเลย
"ฉันอ่านในหนังสือ(มังงะ)มาว่าพวกมีพลังจิตมักจะมีร่างกายที่อ่อนแอ.. นายคิดว่ามันถูกหรือเปล่า?" นิ้วมือบอบบางทั้งห้ากดไปที่ลำคอของอีกฝ่ายตรงหลอดลม
"....." รูกะอ้าปากเล็กน้อยอย่างแปลกใจ
'ท่าทางนั้นคุ้นๆเหมือนมีใครบางคนเคยทำมาก่อนเลยนะ...?'
รูกะมองนัทซึเมะที่ไม่ได้ช่วยนายหัวเกรียนทันที แต่เลือกที่จะดูท่าทีของอีกฝ่าย
"นายคิดว่าถ้าฉันกดเส้นประสาทตรงนี้หนักๆ แล้วกระแทกคอนายแรงๆ.. นายคิดว่าตัวเองจะหน้ามืดก่อนหรือนายจะใช้อลิซพลักฉันออกไปก่อน?"
คำพูดคำจาช่างฟังดูน่ากลัวผิดจากหน้าสวยงามนั้นลิบลับ นายหัวเกรียนหน้าซีดปากสั่นกับแรงกดดันจากผู้หญิงตัวเล็กๆตรงหน้า
อึก เสียงกลืนน้ำลาย..
เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบแถมยังประหม่า มิกะก็ยกยิ้มหวานแบบเจิดจ้าที่มิคังชอบทำ แต่ดาเมจรุนแรงยิ่งกว่า...
"ไม่งั้นก็...เรามาคุยกันดีกว่ามั้ย คิดว่าไง?"
ดวงหน้าสวยกึ่งหน้ารักเอียงคอเล็กน้อยเหมือนสงสัย พร้อมดวงตางดงามขนตาแพรหนากระพริบเบาๆอย่างต้องการคำตอบ
"หือ?" ส่งเสียงเร่งอีกครั้ง โดยที่เสียงนี้ฟังดูนุ่มนวลมาก
"......"
ยึกๆ
วินาทีต่อมานายหัวเกรียนก็หน้าแดงแปร๋ด แล้วเผลอพยักหน้าไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ง่ายดายซะจนมิกะเผลอแสดงหน้าแปลกใจ
ทั้งห้องช็อค!
'อะไรน่ะ!?'
ทุกคนติดสตั้นพูดไม่ออกเมื่อเห็นนายหัวเกรียน หัวโจกที่ชอบแกล้งคนอื่นในห้อง ยอมคำตามคำพูดของเด็กใหม่เหมือนโดนสะกดด้วยฟีโรโมนนารุเปี๊ยบ!
"....." มิกะอ้าปากไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี ไม่คิดว่าอีกคนจะยอมลงให้ง่ายดายแบบนี้..
"ขอโทษนะที่กระทำรุนแรงเกินไป" มิกะกล่าวสำนึกผิดยื่นมือไปให้อีกฝ่ายจับเพื่อลุกขึ้น
ถ้ารู้ว่าจะคุยง่ายแบบนี้คงไม่ใช้วิธีรุนแรงให้เปลืองแรงหรอก
ไม่สิ! ถ้ารู้ว่าทำแบบนี้แต่แรกคงได้เรื่องไปนานแล้ว
นายหัวแดงเห็นเด็กหญิงยื่นมือมาก็สะดุ้ง รีบลุกขึ้นไปยืนมุมห้องไม่แม้จะหันมามองอีกฝ่าย ถ้าไม่ติดว่าเด็กหนุ่มหน้าแดงจนเห็นชัดเจน เพื่อนๆคงคิดว่าหมอนั่นกำลังโดนมิกะขู่อยู่
หรือว่ายัยนี้มีพลังเหมือนครูนารุมิ!?
เสียงในใจของทุกคนกำลังคิดอย่างสงสัย นัยน์ตาสีแดงของเด็กหนุ่มเรือนผมสีรัติกาล ขมวดคิ้วลงเล็กน้อยอย่างหงุดหงิด
บางครั้งก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้...เด็กผู้ชายที่ชื่นชอบคนแข็งแกร่ง(แบบนัทซึเมะ) และนับถืออีกฝ่ายเหมือนไอดอล
พอเห็นว่ามีเด็กผู้หญิงท่าทางอ่อนแอ ที่ตัวเองมักจะดูถูกอยู่เสมอสามารถล้มตัวเองลงได้ในครั้งเดียว ก็เกิดอาการใจเต้นเหมือนเจอรักแรกพบ เพราะตื่นเต้นมากจนเกินไปเลยประหม่าจนรับมือไม่ถูก
ครั้งนี้จะเรียกว่าโดนมิกะปักธงใส่อย่างไม่รู้ตัวก็ได้...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แต่งตั้งนาน อ่านแค่5นาทีก็จบตอนหนึ่ง //ทรุด
ขอพลังคอมเม้นเป็นกำลังใจด้วยน๊า(กอดขา(?))
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น