ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Miraculous ladybug มหัศจรรย์ปาฏิหาริย์

    ลำดับตอนที่ #2 : จิ้งจอกมหัศจรรย์ตอนที่2: พบเจอเด็กผู้หญิง(?)ตาสีเขียวผมสีทองสว่างสุกสกาย 100% //รวมตอนที่2-3เข้าด้วยกัน

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 61



    ในบ่ายวันหนึ่ง ในตอนที่เธอกำลังปั่นขี่จักรยานไปแถวสวนสาธาณะใกล้บ้าน เธอก็เจอกับเด็กผู้หญิง(?)อายุราวๆ9ขวบคนหนึ่ง กำลังนั่งชิงช้าตัวคนเดี่ยวด้วยใบหน้าที่ดูหมองเศร้า มีดวงตาสีเขียวมรกตผมสีบลอดน์สว่างสุกสกาย จนถึงขนาดเธอต้องชะงักมองอยู่นาน.. 

    หน้าสวยหวานจนน่าลักพาตัวไปไว้ที่บ้านจริงๆ

    "เอ๋ ทำไมหน้าตาเหมือนเอเดรียนเลย" ดวงตาสีฟ้าทะเลเบิกกว้างขึ้นอย่างตื่นตระหนก แต่วินาทีต่อมาเธอก็ปัดทิ้งไป คิดว่าคงเป็นเด็กหน้าตาเหมือนเฉยๆ เพราะสีบลอดน์ทองกับตาสีเขียวก็ใช่ว่าจะหาไม่ได้เลยในปารีสก็แค่น้อยมากๆแค่นั้น 

    แถมหน้าสวยแบบนี้ดูยังไงก็ผู้หญิงชัดๆ ด้วยความรักเด็กเธอจึงขี่จักรยานเข้าไปจอดตรงหน้าเด็กผู้หญิงตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

    "Hello baby! น้องสาวมานั่งร้องไห้เสียใจอะไรตรงนี้งั้นเรอะ?" ฉันพูดสำเนียจอังกฤษเสียงจ้อยแจ๋วพร้อมกับยิ้มหวานไปให้ตบท้าย แสดงออกว่าอยากจะตีสนิทด้วยสุดๆ ถึงคำพูดมันจะดูรำปรามไปหน่อยก็เถอะ(ไม่หน่อยแล้วล่ะ)

    ทำไงได้ล่ะเด็กผู้หญิงคนนี้หน้าตาน่ารัก เหมือนตัวละครที่เธอชอบเลยนี้นา นี้ไม่เดินมาอุ้มกลับบ้านทันทีที่เห็นก็บุญสุดๆแล้ว

    "เอ่อ..พูดกับเราเหรอ"เด็กตาหวานตรงหน้ามองฉันยุ่งๆเหมือนไม่ชอบใจกับคำพูดของเธอ 

    'ขนาดเสียงยังไพเราะเลยอ่ะ' ไดอาน่าคิด

    "ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใครล่ะ ที่นี่ไม่มีใครนอกจากคุณแล้วล่ะ" ไดอาน่าพูดตอบออกไปอย่างหยอกล้อ 

    "...?" หนูน้อยตรงหน้ายังคงทำหน้างงๆอยู่เหมือนไม่เข้าใจ ก่อนจะชี้นิ้วไปที่ตัวเอง ว่าที่พูดมาหมายถึงเจ้าตัวงั้นเรอะ 

    โอ๊ย ขนาดทำหน้าสงสัยยังน่ารักน่าหยิกสุดๆ แม่ค่าหนูอยากได้ตัวนี้อยากเอากลับบ้าน! 

    "นี่คุณน่ะ พ่อแม่ไปไหนเหรอ ทำไมมานั่งคนเดียวละ" เธอนั่งเค้าคางบนจักรยานด้วยท่าทางที่คิดว่าเท่สุดๆ แต่ในสายตาเด็กน้อย..เปรียนภาพชัดๆก็เหมือนกุ๊ยข้างถนนกำลังล่อล่วงสาวมัธยมม.ต้นดีๆนั้นเอง

    "ว่าไงล่ะ" ไดอาน่าเร่งเอาคำตอบอีกครั้ง

     ถ้าพัดหลงกันจะได้ตะล่อมชักจูงให้มาด้วยกัน จากนั้นก็พากลับบ้าน_แค่ก!  

    ไม่ใช่ พากลับไปหาพ่อแม่ต่างหาก

    "ไม่อยู่แล้ว" เด็กตัวน้อยก้มหน้ากระซิบเสียงเบา จนเธอต้องถามอีกครั้ง ก่อนจะพงะตกใจเมื่อเด็กสาว(?)ตรงหน้าเงยขึ้นพร้อมกับแก้มเริ่มแดงหน่อยๆแล้ว ตาก็เริ่มมีน้ำคลอหน่วยตา

    ไดอาน่ายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ไดอาน่าสาบานได้ว่าไม่ได้แกล้ง! 

    "อะ เอ่อ เป็นอะไรหรือ" เธอถามออกไปอย่างเป็นห่วง พร้อมผละตัวออกจากจักยาน มานั่งชิ้งช้าข้างๆเป็นเพื่อน

    เงียบไปหลายชั่วอึดใจ...เด็กน้อยแก้มแดงก็เริ่มมีปฎิริยาอ้าปากน้อยๆ ก่อนจะเปร่งเสียงสั่นๆออกมา

    "คุณแม่ไม่อยู่แล้ว อึก! คุณพ่อบอก.. คะ คุณแม่จะไม่กลับมาแล้ว" จากนั้นก้อนน้ำตาเม็ดใหญ่ก็กลิ้งหลุดออกมาทีละหยดๆใส่ตรงตักเจ้าตัวจนเปียกเป็นวง ฉันที่กะจะมาทักทายเล่นด้วยเท่านั้น ถึงกับเริ่มไปไม่เป็น ลองลุกขึ้นไปยืนข้างๆแล้วลูบหลังตบเบาๆ เอ่ยปลอบเล็กๆเหมือนที่พี่ชายเคยทำดูแล้วกัน..

    "ฮรึก..ฮือ"

    เอ้าเฮ้ย 

    ตอนแรกก็ดูสงบดีอยู่หรอก แต่พอเงียบไปสักพักก็เริ่มงึมงำเสียงเบา ก่อนทำหน้าจะปล่อยโฮออกมาอีกรอบ ฉันก็ยืนข้างๆลูบหัวลูบหลังอยู่นั้นแหละ..คิดวิธีอื่นไม่ออก

    ...ไม่ว่าจะโลกไหนก็ดันเป็นคนปลอบคนไม่เก่งก็อย่างนี้แหละนะคะ 

    "คุณแม่.. ฮือ คงเกลียดฉันแล้วใช่มั้ย..เพราะเอเดรียนเป็นเด็กไม่ดี พ่อเลยบอกว่าคุณแม่จะ ฮรึกไม่กลับมาแล้ว" 

    ประโยคเมื่อกี้ไดอาน่าแทบไม่ได้ฟังเลย เอาแต่คิดว่าไม่น่าเลย เธอหาเรื่องเข้าอีกแล้ว มือก็ลูบหัวปลอบเจ้าหนูที่หันมาซุกตรงช่วงท้องเธอแทน  

    ถ้าไดอาน่าได้ยินคำพูดเมื่อครู่ละก็..อาจจะมีตงิดๆคุ้นๆในใจบ้าง..แต่เสียดายที่เธอไม่ได้ยิน

    "ไม่เอาน่า..โอ๋ๆอย่าร้องไห้ซิ ไม่สวยเลยหมดสวยแล้วเนี่ย" ไดอาน่าพูดแกล้งหยอกล้อ พลางเบี่ยงเบนความสนใจ โดยการทำหน้าตาตลกๆเพื่อให้หนูน้อยตรงหน้าหยุดร้องไห้ซะที 

    ผมสีทองสุกใสพริ้วปัดหน้าเจ้าตัว ดวงตากลมโตสีเขียวมกรตก็ดูชุ่มช้ำไปด้วยน้ำตา แก้มยุ้ยๆก็ดูแดงระเรื่อจากการพยายามกลั้นน้ำตาแต่ไม่สำเร็จ ปากจิ้มลิ้มสีแดงเบะออกเล็กน้อย ยิ่งโดนปลอบก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหวคิดถึงคุณแม่ขึ้นมา 

    "ฮึก อยากเจอคุณแม่ พาไปหาคุณแม่ได้ไหม"

    ไดอาน่าถึงกลับยืนนิ่ง...'แล้วตกลงแม่หนูเขาหายไปไหนกันล่ะ เธอจะรู้ไหมเนี่ย' ยืนเกาหัวแกร่กๆด้วยความลำบากใจ 

    ก่อนเธอจะนึกถึงนิทานเกี่ยวกับคนที่เสียครอบครัว แล้วพวกเขาไปอยู่บนท้องฟ้าให้หนูน้อยตาสีเขียวข้างๆฟัง พร้อมบอกว่าเวลาคิดถึงก็มองบนท้องฟ้าสิ เพราะเวลาคนตาย..แค่ก ไม่สิ 

    ขนาดนิทานแม่ไก่กระโดดเข้ากองไฟ? ยังไปเป็นดาวบนท้องฟ้าเลย.. เกี่ยวไหม? ...ไม่รู้ รู้แต่ว่าไอ้เด็กหน้าตาสวยกว่าฉันนั่งมองฉันตาแป่วแบบจริงจังมากจนเริ่มรู้สึกผิดซะแล้วสิ นี้เธอเล่าเรื่องอะไรให้เด็กฟังกันเนี่ย!?

    จนเธอเริ่มเหงื่อตกเก๊กหน้าแทบไม่ไหว รู้แต่ว่าเธอต้องรักษาภาพลักษณ์ที่มี(น้อยนิด)ไว้ จากที่จะพูดประโยคเท่ๆสักบท กลายเป็นว่าเธอเขินจนพูดยาวเหมานิทานเรื่องอะไรบ้างมาพูดก็ไม่รู้ 

    จบท้ายด้วยเรื่องเล่าหนูน้อยหมวกแดงฆ่าหมาป่า(?)พร้อมปิดเรื่องด้วยประโยคจริงจังว่า "ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็จะอยู่ภายในใจเราเสมอ" แล้วจิ้มไปที่หน้าอกเด็กน้อยหน้าสวยตาสีเขียวตรงหน้า

    เอาจริงๆ กูพูดเหี้ยไรบ้างก็ยังไม่รู้เลย...

    "......"

    "......"

    พอพูดจบพวกเราก็นั่งเงียบ ไม่รู้ว่าเด็กข้างๆฉันกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะพวกเราเอาแต่จ้องมองท้องฟ้า 



    ผ่านไปสักครู่เธอก็ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เพราะเหมือนเด็กตาหวานจะเป็นพวกคนเก็บกดไว้นาน พอได้มาระบายก็กระจายออกมาเลย ฉันที่นั่งข้างๆก็ส่งผ้าเช็ดหน้าที่ไม่เคยใช้ให้ซับน้ำตา แต่เจ้าตัวกับเอาไปชังน้ำมูกซะงั้น

    เด็กน้อย : พรู๊ดดด! ชังน้ำมูกอย่างแรง

    ไดอาน่า "...."  บอกไม่ทัน 

    พอเด็กน้อยสังเกตุดูดีๆก็พบว่าผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ ดูสวยและรายละเอียดดูปานีตมากไม่เหมือนซื้อมาจากร้านค้าธรรมดา ผ้าผืนสีขาวสะอาดปักลวดลายด้วยดอกไม้สีชมพูและแดงเล็กๆกระจายเต็ม หลากสีสันอย่างมืออาชีพ เลยคิดว่ามันคงต้องแพงมากแน่ๆ

    เอเดรี่ยนตัวน้อยที่ทำผ้าเช็ดหน้าของเด็กสาวข้างๆเลอะก็ยิ้มเขินๆ ก่อนจะหันมาทำหน้าตาสำนึกผิด

    "คือ..ขอโทษนะ ผ้าเช็ดหน้าของคุณ.." เอ่ยเสียงอ่อยถ้ามีหูและหางคงลู่ลงอย่างสำนึกผิดแน่ๆ เด็กสาวผมสีเงินอดยื่นมือไปลูบหัวแปะๆสองสามทีไม่ได้ 

    "ไม่เป็นไรๆ ใช้ได้ตามสบายเลยนะ ผ้าผืนนั้นฉันกะจะให้แม่ แต่คงไม่มีโอกาสให้แล้วน่ะ ไหนๆก็เก็บไว้ไม่ได้ทำไร เอาให้คนต้องการมันจริงๆดีกว่า" ไดอาน่ายิ้มอ่อนโยนที่สุดที่จะทำได้ในชีวิต เพื่อไม่ให้เด็กสาว(ที่คิดเออเอง)ต้องเสียใจหรือรู้สึกผิด  

    "ไม่ได้นะ ถ้านี้ของคุณแม่คุณ แปลว่านี่เป็นของสำคัญ ยื่นให้คนอื่นง่ายๆได้ยังไง" หนูน้อยหยุดร้องไห้แล้ว หันมาเอ่นเสียงดุแทน ด้วยใบหน้าบึ้งเล็กน้อยแต่แววตาก็ดูหวั่นไหว

    "ฉันมีตั้งหลายผืน ทำใหม่เองได้น่า บ่นเป็นแม่ฉันเลยนะ" ฉันหัวเราะคิกคักกับความจู้จี้เล็กน้อยของเขา

    "ฉะ ฉันไม่ใช่แม่คุณสักหน่อย ฉันแค่..เอ๊ะ เมื่อกี้คุณพูดว่า?"

    พอเด็กหนุ่มตัวน้อยที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กผู้หญิงอย่างไม่รู้ตัว เบิกตาสีเขียวแวววาวขึ้นอย่างตื่นเต้น น้ำตาก็หยุดไหลเริ่มแห้งเหือดทันที

    "คุณเป็นคนทำเองเหรอ? ทั้งหมดเลยน่ะเหรอ? ดอกไม้ตรงนี้ด้วย? สุดยอดไปเลย!" คำถามถูกพูดใส่รัวๆชนิดที่ไดอาน่าต้องเผลอมองค้าง กลับความเปลี่ยนแปลงสีหน้าอย่างฉับพลันอย่างรวดเร็ว

    "สวยขนาดนั้นเลยเหรอ" ไดอาน่าถามออกไป เพราะเธอเคยเย็บปักให้พี่ชายบ้างเหมือนกัน แต่พี่ชายไม่ได้ดีใจโอเวอร์ขนาดนี้  

    เจ้าหนูน้อยตรงหน้าพยักหน้างึกๆ ช่างน่ารักน่าชังชนิดที่อยากจะคว้ามากอด แล้วหอมแก้มซ้ายขวาให้หายหมั่นเขี้ยวซะจริงๆ..

    ไดอาน่าอมยิ้ม หัวใจก็รู้สึกฟองฟูแปลกๆ..

    "ถ้าชอบมากไว้ได้เจอกันอีกจะทำใหม่ให้นะ ผ้าผืนนี้ดูเป็นของผู้ใหญ่เกินไปหน่อย ฉันชอบปักถักพวกนี้ตอนว่างๆ มีอีกเยอะเลยล่ะที่บ้านน่ะ"

    ไดอาน่าพูดอวดภูมิเล็กน้อย ถึงแม้จะมีความทรงจำจากอดีต แต่ไดอาน่าก็ใช้ชีวิตเป็นอยู่ เหมือนเด็กมาตลอดเลยซึมซับนิสัยเอาแต่ใจ และชอบถูกสปอย์ไว้อยู่มาก พูดง่ายๆคือความรู้สึกตัวเองเหมือนกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง เอ๋ แต่เธอก็เป็นเด็กจริงๆนั้นแหละ

    "จริงเหรอ! คุณจะทำให้ฉันหรือ..? นอกจากคุณพ่อกับคุณแม่แล้ว ไม่เคยมีใครให้ของขวัญฉันอีกเลย" 

    ไดอาน่าหัวเราะขบขันเล็กน้อยกับความตื่นเต้นของเด็กน่ารักตรงหน้าเธอ รู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้ชมัดเลยแฮะ เสียดายจังที่พากลับไปบ้านด้วยไม่ได้ 

    ตกลงพากลับบ้านไม่ได้จริงๆใช่มั้ย...?(ยังคงไม่ล้มเลิกเรื่องนี้อยู่..)

    "ขอบคุณนะคุณใจดีจัง นอกจากคุณแม่แล้ว อยู่กับคุณทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจมากเลยล่ะ"  เด็กน้อยผมบลอนด์ยิ้มหวานโจมตีดาเมจใส่ จนหัวใจสะเทือนด้วยความฟิน เธอแทบกระอักเลือดออกมา ทำไมถึงได้เป็นเด็กผู้หญิงที่สวยขนาดนี้กันนะ..

    แหม.. อยู่ๆก็เข้าใจหัวอกพี่ชายขึ้นมาตงิดๆ โดนโจมตีด้วยดาเมจเป็นแบบนี้เองสินะ

    "นี่ ถ้ายังไงขอเบอร์ติดต่อ..." 

    "เอเดรียน!"

    เสียงตะโกนดังแว่วมาจากที่ไหนสักแห่ง พวกเธอหันซ้ายหันขวาก่อนจะเจอรถลีมูซีคันหนึ่ง พร้อมกับร่างผู้ชายที่ใส่เสื้อโค้ดสีขาวหันซ้ายหันขวาเหมือนรีบร้อนกำลังตามหาใครบางคน

    เธอมองด้วยความงุงงงรู้สึกคุ้นๆแปลกๆ

    "เอ๊ะ ผู้ชายคนนั้นกำลังตามหาใครอยู่หรือเปล่า-" ก่อนที่ไดอาน่าจะพูดจบ เด็กหน้าสวยข้างๆก็ลุกขึ้นพรวดอย่างตกใจทันที

    "อ๊ะ คุณพ่อ!?" เอเดรียนหันไปตามเสียงเรียกชื่อตัวเอง 

    ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างดีใจ ใบหน้าที่เศร้าสลดเมื่อกี้หายไปในพริบตา พอรู้ว่าพ่อตัวเองออกตามหาตัวเขาก็ดีใจ แล้วพอคิดว่าพ่อคงเป็นห่วงก็รีบลุกขึ้น พร้อมวิ่งเข้าไปหาชายดังกล่าวทันที 

    "พ่อฮะ!" เอเดรียนเกาะชายกางเกง เงยหน้ามองผู้ชายหน้านิ่งขรึมคนหนึ่ง เมื่อหาลูกชายตัวเองเจอแล้วชายหนุ่มก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะกลับไปทำหน้าเย็นชาเหมือนเดิม

    พร้อมกับเอ่ยเสียดุที่ออกจะติดเป็นห่วงอยู่มากจนเด็กน้อยสัมพัสได้

    "อยู่ๆอย่าหายไปไหนแบบนี้โดยไม่บอกกล่าวใครสักคนแบบนี้อีกนะเอเดรียน! ที่นี้ไม่ใช่บ้านลูกนะ ถ้าหายไปแล้วถูกลักพาตัวไปขายทำยังไง"

    "ครับพ่อ ผมขอโทษฮะ" เด็กชายพูดเสียงเบาพร้อมรู้สึกผิดที่ทำให้พ่อลำบาก 

    ชายหนุ่มมองหน้าลูกชายที่ดวงตาแดงๆก็นิ่งเงียบ...ก่อนจะถอนหายใจ เพราะรู้สาเหตุที่เอเดรียนวิ่งหนีออกมาเพราะเขาทำตัวเย็นชาใส่ ทั้งที่พวกเราต่างก็เสียคนสำคัญไปทั้งคู่ แต่เขากลับทำตัวบึ้งตรึงเหมือนแบกภาระไว้คนเดียว

    "ช่างเถอะ เป็นความผิดของพ่อเอง" อเกรซกอดลูกชายหัวแก้วหัวแหวนตัวเองแน่น 

    เด็กสาวตัวเล็กที่ยืนมองพยานความรักของครอบครัวพ่อลูกก็ถึงกับเป็นใบ้ไป


    ไดอาน่า : "....." นี่มันอะไรกันฟร่ะ...!

    ไดอาน่าตอนนี้แทบสติหลุด ไอ้เด็กตัวน้อยงอแงที่พูดตัดเพ้อ พ่อตัวเองเมื่อกี้หายไปไหนแล้ว ทำไมตอนนี้เห็นแต่แมวตัวน้อยเชื่องๆคลอเคลียขาผู้ชายคนนั้นแทนล่ะ....?

    "เอเดรียน..."  ไดอาน่าพึมพำชื่อนี้ในใจเบาๆ รู้สึกชื่อนี้คุ้นๆในสมองเธออยู่นะ เมื่อสังเกตุเด็กผู้ชายที่สูงระดับอกตรงหน้าเธอดีๆแล้วก็นิ่งเงียบไป.....

    ตาสีเขียวแบบนี้ ผมสีทองสดใสมีออร่าและชื่อเอเดรียน...

    เอเดรียน...

    มันตรงกับชื่อพระเอกในเรื่องMriaculous ladybugเลยไม่ใช่เหรอ???  แล้วผู้ชายคนนั้นก็คงเป็นพ่อของเอเดรียน ดูหนุ่มๆเธอเลยจำไม่ได้ครั้งแรก...

    เอ๋ แล้วตกลง

    เด็กเมื่อกี้แท้จริงแล้วมีดุ้นหรอกเหรอ....! แล้วนี้ฉันนั่งคุยมาตั้งนาน เธอคิดว่าเป็นเด็กผู้หญิงมาตลอด แต่กลับเป็นเด็กผู้ชาย!?

    ไม่น่าล่ะพอเรียกน้องสาวแล้วถึงได้ทำหน้ายุ่งๆ นี้สินะที่เรียกว่าตกหลุมพลางกับดักน่ะ....!?


    นี้ตกลงโลกที่เธอกลับมาเกิดใหม่นี้มันคือ...เรื่องladybug งั้นเหรอ!?



    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    "พ่อฮะ ผมอยากให้พ่อรู้จักคนหนึ่ง เธออยู่เป็นเพื่อนผมที่นี้ตลอดทั้งวันเลย" ดวงตาสีเขียวอมเหลืองเป็นประกายแวววาวด้วยความสุข 

    รอยยิ้มเต็มใบหน้าเด็กน้อย..เสมือนบอกว่าเด็กชายมีความสุขมากจริงๆ 

    "งั้นเหรอ แล้วเธออยู่ไหนล่ะ" กาเบรียลหรือ กาเบรียล อเกรซ เป็นเจ้าของบริษัทนักออกแบบแฟชั่นชื่อดังที่มีชื่อเสียงในกรุงปารีส เขารู้สึกแปลกใจไม่คิดว่าลูกชายจะหาเพื่อนได้ในระยะเวลาอันสั้น 

    แต่สิ่งอื่นใดคือความปลอดภัยของลูกชาย เอเดรี่ยนไม่เคยมีเพื่อนเพราะเขาไม่อยากให้ลูกชายต้องเจอกับอะไรที่ร้ายแรง อย่างการชักชวนพาเด็กชายเสียคน

    มันคงจะดีมากถ้าเขาได้รู้จักคนที่คอยดูแลเอเดรี่ยนตอนที่เขาไม่อยู่ แล้วสแกนว่าเธอเหมาะที่จะเป็นเพื่อนกับเอเดรี่ยนต่อไหม ไม่อย่างนั้นตัวเขาคงจะยอมรับไม่ได้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขา

    "ครับ! เธออยู่ตรงนี้...- เอ๋ หายไปไหนแล้ว?" เด็กน้อยตาโตเขารีบผละตัวจากผู้เป็นพ่อ ก่อนจะเดินวนรอบๆสวนสาธารณะ พร้อมเอ่ยเรียกหา'เพื่อน'ปริศนาทันที แต่ก็ต้องชะงักไปเพราะเอเดรี่ยนไม่รู้จักชื่อของผู้หญิงคนนั้น

    เธอหายไปไหน...? ยังไม่ได้ถามชื่อเธอเลย เอเดรียนพยายามถามกับคนแถวนั้นว่าเห็นเด็กสาวที่มีเรือนผมสีเงินบริสุทธิ์ นัยน์ตาสีฟ้าครามแถวนี้บ้างไหม....ปรากฏว่าไม่มีใครเห็น

    เอเดรี่ยนคิดในใจอย่างผิดหวัง พร้อมอยากร้องไห้อีกครั้งของวัน เพราะพวกเขานั่งคุยกันมาตั้งนาน แต่เขากลับเสียมารยาทลืมถามชื่ออีกฝ่ายไป 

    หลังจากเดินหาสักพักเด็กน้อยก็ต้องถอดใจ

    "พ่อครับ..เธอ.. ไม่อยู่แล้ว" กาเบรียลยืนมองหน้าลูกชายเดินคอตกกลับมาอย่างหงอยๆ ตาสีมรกตเหมือนผู้ให้กำเนิดอย่างมารดาที่เสียไป ดูเศร้าสร้อยปนความเสียใจอย่างสุดซึ้ง 

    ดูเหมือนว่าเพื่อนใหม่คนนี้ของเอเดรี่ยนจะน่า'สนใจ'น่าดู ถึงได้ดูติดหนึบขนาดนี่..ทั้งที่ใช้เวลาด้วยกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง

    ทำเอาชายหนุ่มผู้เงียบขรึมใจอ่อนก่อนจะถอนหายใจ พร้อมกับคิดในใจว่าตัวเขาคงต้องหา'เพื่อนใหม่' ให้เอเดรียนแล้ว ก่อนจะพยักหน้าพาลูกชายกลับไปที่รถ 

    "ถ้าลูกต้องการเพื่อนเล่น เดียวพ่อจะติดต่อให้ 'โคลอี้'เป็นไงเธอก็ดูดีนะ เหมาะเป็นเพื่อนเล่นของลูกได้"

    "แค่ปล่อยให้ผมไปโรงเรียนเหมือนเด็กปกติก็พอครับ..." 

    เอเดรี่ยนกระซิบเสียงเบาๆ เขาแค่อยากไปโรงเรียนเหมือนเด็กปกติ ในระแวกใกล้บ้านตัวเองบ้าง แต่กาเบรียลก็ได้ยิน ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น

    "เอเดรี่ยน เราคุยเรื่องนี้กันแล้วนะ แล้วเราจะไม่พูดเรื่องนี้กันในวันนี้อีก" 

    "แต่ว่าผม...!  ....ครับ เข้าใจแล้ว"  เด็กชายผมบลอนด์ยอมเงียบเสียงลง เมื่อเห็นว่าคุณพ่อตัวเองเริ่มแผ่ความเย็นออกมา


    โดยที่กาเบรียลไม่คิดถึงความรู้สึกของเอเดรียนเลย ว่าสิ่งที่เด็กชายต้องการคือเพื่อนที่พูดคุยได้ทุกเรื่อง เหมือนกับเด็กสาวผมสีพิสุทธิ์คนนั้น ไม่ใช่ลูกสาวของนายกรัฐมนตรี ที่สถานะอยู่ระดับเดียวกัน...

    คลืน....

    ขณะที่รถลีมูซีนสีขาวคันงามแล่นผ่านไป ยังคงมีดวงตาสีเขียวมรกต เหลือบมองสวนสาธารณะจนลับสายตา ก่อนที่เด็กชายจะหันกลับมานั่งดีๆพร้อมแอบถอนหายใจด้วยความเสียใจ

    'เธอเป็นใครกันนะ.. แล้วพวกเราจะมีโอกาสได้พบกันอีกไหม?'  


    ..................
    ...........
    .....

    อีกทางด้านหนึ่งตัวเอกของเรา....ก็กลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย ด้วยความรู้สึกงงๆ 

    โดยที่ถึงขนาดไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองขี่จักรยานกลับมาที่บ้านได้ยังไง เพราะในหัวของเด็กสาวกำลังคิดถึงแต่เอเดรี่ยนและตัวละครหลักในเรื่องเลดี้บัค เด็กชายที่โตขึ้นจะเป็นพระเอกของเรื่อง 

    พร้อมกับเป็นซุปเปอร์ฮิโร่คู่หูของเลดี้บัค... เลดี้บัคหรือมาริเน็ต ไทร์ จะเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเอเดรี่ยนในอนาคต..

    แล้วไหนจะพ่อของเอเดรี่ยนที่เป็นถึงลาสบอสอีก....ตกลง...โลกนี้มันยังไงกันแน่เนี้ย! 

    "คุณหนูไดอาน่า?"

    เสียงของพ่อบ้าน ทำให้ไดอาน่าตื่นจากภาวังค์ สติที่บินหลุดลอยระหว่างทางก็กลับเข้าร่าง เธอเงยหน้ามองพ่อบ้านที่กึ่งๆเป็นเลขาคุณแม่ปริบๆ 

    "เอ๋ คุณลูเซียน?..ทำไมถึงมายืนอยู่ที่นี่ได้ละคะ" ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยถามอย่างสงสัย ดวงตาสีฟ้าแซมม่วงนิดๆเบิกตากว้างอย่างตกใจจริงๆ

    "......"  ลูเซียน หรือพ่อบ้านของตระกลูซีมัวร์ บางครั้งก็เป็นเลขาให้นายหญิงฮิซาเบลล่าบางครั้ง กำลังยืนจ้องเด็กสาวเนื้อตัวดูมอมแมมเล็กน้อย ก่อนจะส่งผ้าไปให้เด็กสาวซับใบหน้า พร้อมถอนเสื้อคลุมนอกเด็กสาวออกส่งให้เมดข้างๆรับไปซัก

    ไดอาน่าไม่ได้ดูรอบข้างเลยว่าที่นี่มันที่ไหน ก่อนจะเพิ่งมารู้ตัวเมื่อลูเซียนเดินมาเข็นจักรยานแม่บ้านไปให้คนรับใช้เอาไปเก็บ เธอยิ้มแหยๆเมื่อเห็นสายตาของพ่อบ้านกำลังมองลงมาอย่างเอื่อมระอา

    "คุณหนู...กี่ครั้งแล้วครับ แอบหนีออกจากห้องอีกแล้ว แถมยังขโมยจักรยานแม่บ้านไปอีก ถ้าคุณเซดลิกรู้-" 


    "รู้แล้วล่ะ"


    เสียงทุ่มนุ่มฟังดูอ่อนโยน แต่รังศีมืดที่ไดอาน่าสัมพัสได้จากข้างหลัง ทำเอาเด็กสาวกลืนน้ำลายดังอึก! 

    "เอ่อ.."

    ก่อนจะค่อยๆหันกลับไปมองอย่างช้าๆ เริ่มมองตั้งแต่รองเท้าเรียบสุดหรูไปจนถึงขากางเกง ก่อนจะทำใจฝืนทนเงยหน้าสบดวงตาสีฟ้าทะเลที่กำลังดูมืดมัว 

    ขนาดไม่ได้เจอกันนานความหล่อทะลุเป้าตาไม่ได้ลดน้อยลงเลย รอยยิ้มที่ไม่เข้าถึงดวงตาทำเอาไดอาน่าสะดุ้งตื่นกลัว

    "พี่ชาย! กลับมาตอนไหนคะ!? เหนื่อยมั้ย เดียวน้องไปหาน้ำมาให้!" ไดอาน่ารีบยิ้มประจบประแจหลีกเลี่ยงความผิด ถ้ามีหูกับหางก็คงจะส่ายดิกๆต้อนรับเจ้าบ้าน แต่ก่อนที่จะได้หลบหนีไปพี่ชายกับเดินเบี่ยงสกัดดาวรุ่ง

    "ไม่ต้องหรอกพี่ดื่มมาแล้ว ถ้าน้องอยู่ที่นี้พี่ก็คงจะดื่มอยู่ที่นี่" ใบหน้ายิ้มของพี่ชายทำเอาเธอเหงื่อตกยิ้มแห้งๆกับประโยคเหน็บเหนม แต่ถามว่าเข็ดไหม? ไม่อยู่ดีนั้นแหละ 

    ไม่ใช่ว่าไปทำธุระที่ต่างประเทศหรอกเหรอ! ไม่งั้นเธอคงไม่กล้าออกจากห้องหรอก แค่ก..!

    ไดอาน่ากรีดร้องในใจว่า ตายแน่ๆเธอตายแน่ๆ ถึงพี่เซดลิกจะตามใจและอ่อนโยนกับเธอขนาดไหน แต่ตอนโกรธก็เด็ดขาดไม่ต่างจากผู้เป็นแม่ตอนปกติเลยสักนิด 

    แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงกระตุกหนวดเสืออยู่ตลอด..ใครจะบ้าไปอยู่เฉยๆอยู่บ้านได้ตลอดล่ะ แน่นอนว่าไม่ใช่เธอแน่

    "พี่เพิ่งกลับมาถึงทันฟังลูเซียนพูดเมื่อกี้พอดี  ถึงได้รู้ข่าวว่าน้องแอบหนีออกจากบ้าน..แถมไม่ใช่ครั้งแรกด้วย ครูผู้สอนบอกว่าน้องโดดเรียนมาสองครั้งแล้ว" 

    เซดลิก ซีมัวร์ ตอนนี้อายุ14ปี กำลังยืนหรี่สายตามองน้องสาวอายุ9ขวบ ที่กำลังยืนทำหน้าหงอยอย่างสำนึกผิด ก่อนดวงตากลมโตเด็กสาวจะหลุบลงด้วยน้ำใสคลอหน่วย ใบหน้าสวยไร้ที่ติเงยหน้าขึ้นขอความเมตตา

    สายตาช่างเหมือนลูกหมาหงอยซะจริงๆ..เด็กหนุ่มเกือบใจอ่อน แต่คิดในใจอีกทีไม่ดีกว่า หลับตาเพื่อฝืนเก๊กใบหน้าดุเอาไว้ 

    ครั้งนี้ยังไงก็ต้องลงโทษเด็กดื้อ!

    "ลูเซียนฝากพาน้องสาวเข้าห้องด้วย เฝ้าเธอไว้อย่าให้หนีไปเถไถลที่ไหนอีก"

    "ง่ะ พี่เซดลิก..."

    ปกติพี่ชายจะใจอ่อนถ้าเธอทำหน้าอ้อนขอความเมตตา.. แต่วันนี้พี่ชายกลับผิดปกติเขาใจแข็ง(เหี้ยม)ขึ้น 

    เซดลิกไม่แม้จะหันมามอง(กลัวใจอ่อน) ก่อนจะสั่งการให้ลูเซียนคุมเธอกลับขึ้นไปบนห้อง สำนึกผิดเงียบๆรอรับโทษจากพี่ชายที่รัก แต่คิดว่าเธอจะสำนึกผิดเหรอ นอนกลิ้งหยิบมังงะขึ้นมาอ่านฆ่าเวลาน่ะสิ!

    แล้วเธอก็ต้องเสียใจอีกครั้ง เพราะพี่ชายเปิดประตูเข้ามาเห็นโดยไม่เคาะอย่างปกติเหมือนรู้ วันนั้นทั้งวันเธอต้องกล้ำกลืนฝืนทน...

    ถูกติวเตอร์เข้มอย่างดุเดือดจากครูผู้สอน ที่พี่ชายจ้างมาให้เธอเรียนรู้มารยาทร้อยแปดวิธีของสตรีที่ดีนับห้าชั่วโมง...เธอแทบร้องไห้เป็นสายเลือด

    ถือว่าเป็นการลงโทษที่ทรมาณกำลังกาย(จิตใจ)เธอสุดๆ.. พี่ชายช่างเลือดเย็น เลือกบทลงโทษที่ดีมากจนเธอแทบเข็ด ตั้ง5ชั่วโมงจิตใจเธอแทบเหลวแหลก 

    เพราะนิสัยซุกซนของเธอมันแก้ยาก ก่อนจะถูกกักบริเวณห้ามออกจากบ้านแอบไปไหนอีก นี้คือบทลงโทษจากคุณแม่ ขนาดตัวไม่อยู่ที่นี้ยังสร้างบทลงโทษให้เธอเล็กๆน้อยๆได้อีก
     
    ไดอาน่าเลยอดแอบกลับไปที่สวนสาธารณะอีกครั้งไม่ได้ หวังว่าเจ้าหนู(เอเดรียน)หน้าหวานคนนั้นคงไม่ได้ไปรอเธอที่นั้นอยู่หรอกนะ 



    เป็นเวลาหลายวัน นับตั้งแต่ที่ฉันได้รู้ว่าตัวเองมาเกิดที่โลกแอนิเมะที่เคยดู ฉันก็มีเหตุให้ต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศชั่วคราวแบบกระทันหัน  

    ใช่ ต่างประเทศ! 

    คือแบบ.. อยู่ได้ไม่กี่ปีฉันก็ต้องย้ายไปอีกแล้วอ่ะ ครั้งนี้เกี่ยวพันกับเรื่องธุรกิจ พี่ชายติดเรียนต่างประเทศเลยไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ผิดกับฉันที่ถูกคุณแม่หอบหิ้วขึ้นเครื่องไปด้วย อย่าถามหาอิสระจากเธอเลย

    ด้วยความที่เรียนตัวต่อตัวกับครูผู้สอนเลยไม่มีปัญหาโยกย้ายไปหลายที่ ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงเรียนรู้อยู่ในกรอบเท่านั้น นอกจากว่าฉันจะแอบหนีออกไปเองนั้นแหละ ถึงจะเรียกได้ว่าเปิดหูเปิดตาจริงๆ 

    มาต่างประเทศทั้งทีกลับไม่ได้ออกไปไหนเนี้ย มันช่างเสียชาติเกิดจริงๆนะ...! เพราะงั้นเธอเลยหนีออกไปทุกวันเลย ก๊าก! ถึงจะเจ็บเมื่อโดนจับได้ก็เถอะ
     
    บางครั้งเธอก็อยากรู้นะว่า ทำไมต้องเข้มงวดกับเธอขนาดนี้กันด้วย ไม่ว่าจะพี่ชายหรือคุณแม่ ถ้าเธอไม่ได้มีความทรงจำเศษเสี้ยวของเมื่อชาติก่อนด้วยละก็...ฉันอาจจะกลายเป็นเด็กเก็บกดแบบพระเอกของเรื่องไปแล้วก็ได้ 

    พระเอกของเรื่องหรือเอเดรี่ยน อเกรซนั้น 

    คุณแม่ได้จากไปตั้งแต่เขาอายุประมาณ7-9ขวบ คุณพ่อที่เป็นผู้ชายเข้มงวดไม่ต่างจากคุณแม่ของเธอก็ไม่ค่อยใส่ใจลูกชายเท่าที่ควร ไม่ใช่ว่าไม่รักแต่ไม่รู้วิธีปฏิบัติกับลูกชายด้วยความรักอย่างถูกวิธี ส่วนมากชายหนุ่มจะเข้มงวดกับลูกชายมากกว่า 

    โดยที่ไม่ค่อยได้ใช้เวลากับลูกชายมากเท่าที่ควร เป็นเหตุให้เอเดรี่ยนไม่ค่อยกล้าเรียกร้องอะไรกับคุณพ่อมากเท่าไหร่ โดยที่อีกหลายปีนับจากนี้ เอเดรี่ยนจะตื้อคุณพ่อขอให้คุณพ่อปล่อยให้เจ้าตัวมีเพื่อนที่โรงเรียนปกติ แล้วเป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เอเดรี่ยนไปโรงเรียน

    คิดๆดูแล้ว ชีวิตเธอเหมือนกับเอเดรี่ยนเลยนะ 

    การที่ถูกประคบประคองเลี้ยงดูเหมือนไข่ในหิน ถูกเข้มงวดโดยไม่ได้รับอิสระและความรักที่เพียงพอ เอเดรี่ยนเติบโตขึ้นมาในอนาคตได้สดใสขนาดนั้นก็นับว่าดีแล้ว เธอโชคดีมากที่มีพี่ชายคอยดูแลเอาใจใส่เลยไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่..

    ทว่า 

    ไดอาน่าแทบอยากจะย้อนกลับไปตบปากตัวเอง ข้อหาพูดจาไม่ดูตัวเองเลย เพราะหลังจากนี้อีกไม่กี่เดือนเธอจะถูกปล่อยทิ้งไว้กับเหล่าเมดและพ่อบ้านให้ดูแลตัวเองที่ต่างประเทศ... 

    และด้วยความเหงาที่ว่างจัด เด็กสาวจึงเล่นอินเตอร์เน็ตอัปโหลดคลิปวิดีโอลงเล่นๆ เป็นเพลงเศร้าๆที่เธอจำได้ในชาติก่อนแต่ไม่มีใครร้องที่ชาตินี้ 

    เธอก็แค่อยากร้องตัดเพ้อชีวิตเท่านั้นเอง ไม่คิดว่าผ่านไปคืนเดียวตื่นเช้ามาเธอจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาอันดับหนึ่งในอินเตอร์เน็ตไปซะแล้ว..

    พร้อมกับสีผมธรรมชาติของเธอ ใบหน้าสวยหวานของเด็กสาวทำให้เกิดเรื่องวุ่นขึ้น และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นนักร้องไอดอลที่มีชื่อเสียงของเธอไปอย่างงงๆ


    เส้นทางของเด็กใจแตก(?)ของเธอได้เริ่มขึ้นแล้ว 






    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    นี้คือเอเดรี่ยนตอนอายุ9ขวบ คุณแม่เสียชีวิตช่วงอายุ 7ขวบ #ถ้าไรท์อ่านข้อมูลมาไม่ผิดนะ..






    รูปถ่ายตอนคุณแม่ยังอยู่และตอนถ่ายใหม่กับคุณพ่อสองคน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×