ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 : ฉันอยากจะปกป้องนาย!
***
"ฮือๆ อย่าตายนะนัทซึเมะ!"
เสียงร้องไห้คร่ำครวณของเด็กสาววัย15ปี กำลังอ่านหนังสือการ์ตูนในมือถึงฉากจุดไคลแม็กซ์ ที่ตอนนี้กำลังค้างมากๆ
เธอหยิบชิทชูข้างๆเตียงมาเช็ดน้ำตาสั่งน้ำมูกอย่างหมดมาดสาวสวย ที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กผู้ชายหลายๆคนในโรงเรียน
คงไม่มีใครคิดแน่ว่าสาวสวยอย่างเธอจะมาร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะหนังสือเล่มเดียว!
ฉันก็ขอบอกเลยว่าเธอก็ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันเฟ้ย!
"กริ๊ดดด เล่มต่อไปไม่มี!?..." มือค้นหาเล่มต่อไปในกองหนังสือ แต่ก็ไม่มีเล่มต่อไป!
ก่อนจะหยุดชะงักเพราะรู้ว่าสาเหตุมันเพราะอะไร เธอกรีดร้องใส่หมอนอย่างอัดอั้น
ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิมเมื่อเพิ่งรู้ว่าตัวเองยืมหนังสือเพื่อนมาถึงแค่ไม่กี่เล่มเท่านั้น เหมือนเพื่อนบ้านั้นรู้จึงเอาหนังสือฉากสำคัญไปต่างจังหวัดด้วย ถ้าเธออยากอ่านเธอต้องตามเพื่อนไปต่างจังหวัดเท่านั้น
"โฮๆๆ ยัยบ้านั้นต้องรู้แน่ว่าฉันจะเป็นอย่างนี่!" กัดผ้าเช็ดหน้าอย่างข่มขื่นในใจ เพราะรู้ว่าทำอะไรไม่ได้ จะให้ไปซื้อมันก็ไม่ใช่ เพราะเธอกำลังโดนขังกักบริเวณจากอาจารย์ที่โรงเรียน ข้อหาไปมีเรื่องกับเพื่อนต่างห้อง
ทั้งที่สาเหตุมันไม่ใช่ความผิดเธอเลย สวยเกินไปจนโดนเด็กห้องอื่นหาเรื่อง โดนกระทำมาเธอไม่มีทางยอมแน่ ก็เลยใส่ไปสักตั้งเลยน่ะสิ กลายเป็นว่าพวกหมาหมู่เจ็บหนักกว่าเธอที่ตัวคนเดียวซะที
เห็นอย่างนี้เธอก็เกเรใช้ย่อยนะตอนเด็ก เรียกว่าเด็กแสบเลยล่ะ! เพราะสาเหตุนั้นเธอจึงติดแหงกอยู่ในห้องพักไปไหนไม่ได้ แล้วมาเสียใจคิดถึงเพื่อนแบบนี้....
ฮ่ะแฮ่ม แนะนำตัวตอนนี้ช้าไปแล้วหรือเปล่านะ? เอาเป็นว่าเรียกฉันว่าคนสวย(?)ก็แล้วกันนะคะ สวัสดีค่ะ คงจะสงสัยว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ ที่กำลังร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังตอนนี้
....คืออย่างนี้ค่ะ
ฉันกำลังอ่านมังงะที่ยืมมาจากเพื่อนที่ก่อนจะไปต่างจังหวัดมา
ชื่อหนังสือเรื่อง[วัยซนคนมีพลังจิต] ขอโทษที่ต้องพูดความจริงนะคะ
แต่ฉันคิดว่าเป็นชื่อเรื่องที่เห่ยแบบว่าไม่มีจุดเด่นเท่าไหร่เลย...ถ้าฉันเห็นฉันคงจะเดินผ่าน...แอ๊ก! ใคร!...ใครปารองเท้ามา?
เอาเป็นว่าถึงชื่อปกหนังสือจะธรรมดาแต่เนื้อเรื่องไม่ได้ธรรมดาแบบนั้น!
เป็นแนวมังงะมิตรภาพความรักเพื่อนของเด็กๆ ที่มันมีอะไรมากกว่านั้น มีพลังจิตความสามารถพิเศษ ที่ตัวเอกเราชื่อ ซากุระ มิคัง เป็นเพื่อนกับอิมาอิ โฮตารุ ทั้งสองคนเติบโตในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในชนบท
วันหนึ่งโฮตารุเกิดต้องออกจากโรงเรียนไปอย่างกระทันหัน เพื่อไปเรียนที่โรงเรียนใหญ่ในเมือง ทำให้ทั้งสองคนต้องจากนั้น...
มิคังนั้นเมื่อโฮตารุจากไปก็หมดอาลัยตายอยาก ไม่เป็นอันทำงานอะไร แถมโฮตารุก็ส่งจดหมายมาแค่ฉบับเดียว จนครึ่งปีผ่านไปจดหมายก็เริ่มไม่มีมา
ความปรารถนาของมิคังคือการได้เจอกับโฮตารุอีกครั้ง
เธอจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปโตเกียวคนเดียว แล้วเรื่องยุ่งๆก็เริ่มเกิดขึ้นเมื่อโรงเรียนที่โฮตารุไปคือโรงเรียนที่รวบรวมเหล่าเด็กที่มีความสามารถพิเศษที่เรียกว่า'อลิซ'
คงจะสงสัยล่ะสิว่าอลิซคืออะไร? มันคือคำศัพท์ในโรงเรียนตัวเอก ที่เรียกพวกเด็กที่มีพลังเหนือธรรมชาติยังไงล่ะ!?
เรื่องย่อมันประมาณนี้ แต่เนื้อเรื่องหลักจริงๆเยอะกว่านี้ตลกและสนุกมาก แถมยังดราม่าจนเธอน้ำตาไหลอีก
ตอนแรกๆเธอบอกปัดเพื่อนไม่เอา ไม่มีทางอ่านแน่! เพราะเธอไม่ใช่พวกประเภทติดหนังสือการ์ตูนเท่าไหร่ จนเพื่อนเกิดหมั้นไส้ข่มขู่ยัดใส่มาลองให้อ่านดูก่อน ไม่สนุกก็ค่อยคืนทีหลัง
เธอจึงบอกว่าเอามาแค่ครึ่งเดียวก็พอ เธออ่านไม่จบหรอก แน่นอนว่ายัยนั้นเกิดหมั้นไส้จนหนีไปต่างจังหวัด ถ้ารู้ว่ามันจะสนุกอย่างนี้รู้งี้ไม่น่าไปปากหมาอย่างนั้นเลย!
ฮือๆๆ
นี่สินะว่าเขาว่า'คิดกลับใจได้มันก็สายไปเสียแล้ว'...คิดแล้วก็เสียใจอยากย้อนเวลากลับไปตบปากตัวเองให้หายโง่!
เพราะคิดว่าคงจะไม่มีทางได้หยิบออกมาอ่านแน่ๆ แต่ด้วยความว่างๆเธอจึงหยิบมาอ่านสักเล่มสองเล่ม ไปๆมาๆอ่านไปกี่เล่มแล้วก็ลืมนับ... จนเผลออ่านไปถึงตอนตัวละครที่ชอบกำลังจะตาย
แถมเล่มต่อไปดันอยู่ในมือเพื่อนที่หนีไปเที่ยวต่างจังหวัดซะแล้ว
เธอจะโทรไปขอยืมอ่านเอาตอนนี้ก็รู้สึกอับอายเหมือนกลืนน้ำลายตัวเอง จึงต้องมาร้องห่มร้องไห้นึกถึงฉากพระเอกที่ฉันชอบถูกทรุดจนหัวใจเจ็บปวด
ยิ่งกว่าเสียหน้านั้นคือฉันค้างมากๆเลยน่ะสิ! ยิ่งคิดก็ยิ่งค้างเอาหนังสือเล่มเดิมมาเปิดอ่านอีกรอบ...
ใบหน้าหล่อเหลาตั้งแต่เด็ก...ผมสีขนอีกา ดวงตาสีเพลิง เธอเปิดไปอ่านฉากที่เขานอนอาบเลือดอีกครั้ง...
อุก เจ็บปวด
โฮฮฮฮ อยากเป็นมิคังตอนนี้แล้วรีบไปช่วยนัทซึเมะ ถ้าฉันเป็นมิคังล่ะก็.....
'แต่มันเป็นไปไม่ได้' คิดในใจแล้วถอนหายใจ ก่อนที่จะรู้ตัวแล้วขยี้หัวตัวเอง
อา!?
"ฉันเป็นบ้าอะไรไปแล้วเนี่ย!?"
ไม่คิดว่าเธอจะได้มีวันนี้ วันที่ติดหนังสืองอมแงมจนคลั่ง! อา!
ถ้าเกิดฉันได้เป็นมิคัง..... ไม่สิ แต่ฉันก็อยากเป็นมิคังที่แข็งแกร่ง มีความสามารถอลิซที่ช่วยเหลือนัทซึเมะได้...
...ถ้าเกิดว่า
ถ้าเกิด...ถ้าฉันสามารถเข้าไปอยู่ในหนังสือได้ล่ะก็ เธอสัญญาเลยว่าจะปกป้องนัทซึเมะแล้วทำให้เขามีความสุขให้ได้ไม่แพ้มิคังเลย!
ไม่สิ จะทำให่มีความสุขยิ่งกว่านั้นอีก!?
แต่มันก็เป็นเรื่องเพ้อฝันเท่านั้นแหละนะ(เปลี่ยนอารมณ์อย่างไว).... เธอขยับร่างกายนอนแผ่ ก่อนจะหลับตาลงอย่างสมเพชตัวเอง
"ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าตัวเองจะมาบ่นตัดเพ้อเพราะเรื่องมังงะที่ยืมมาจากเพื่อนซะได้...เป็นบ้าหรือยังไงกันฉัน"
คืนนั้นเธอรีบปิดไฟนอนเพื่อจะได้ลืมๆอาการประสาทของตัวเองไปซะ....
โดยที่ไม่รู้เลยว่าได้มีใครบางคนแอบมองจากที่ไหนสักแห่ง ก่อนจะยกยิ้มขึ้นมาอย่างสนุกสนาน
"เจอเธอแล้ว..."
"ตามสัญญา.. ฉันขอพาเธอไปหาเขาเลยล่ะนะ..."
พรึ่บ
.....
อีกด้านหนึ่ง...บนเตียงในหอพักที่เงียบสงัน เด็กสาวที่กำลังฝืนหลับตาลงเพื่อให้ตัวเองนอนหลับ อยู่ๆก็มีลมพัดเข้ามาในห้อง
เอ๋ เธอเปิดหน้าต่างไว้เหรอ?
คิดในใจอย่างสงสัย อยากจะลืมตาขึ้นมาดูแต่เปลือกตากลับเริ่มหนักอึ้งจนลืมไม่ขึ้น
อะไรเนี่ย อยู่ๆก็ง่วงขึ้นมา... เธอเริ่มง่วงจนทนไม่ไหว ง่วงมากเลย...
ช่างเถอะ พรุ่งนี้ค่อยดูอีกทีแล้วกัน.....
เธอคิดในใจ
'หวังว่าตื่นมาจะไม่ได้ลืมปิดหน้าต่างนะ'
..................
..........
.....
..
****
วันหนึ่งฉันตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลด้วยสมองขาวโพรง ความรู้สึกแรกนั่นคือ...
ความว่างเปล่า..
นอกจากนั้นยังมีอีกความรู้สึกหนึ่งที่มันค้างคาใจมากๆ เหมือนมันเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ....แต่เธอกลับจำไม่ได้เลย...
[มันเป็นเรื่องอะไรกัน]
เธอมองไปไปทางหน้าต่างอย่างเหม่อลอย
อื้ม...
เหมือนจะ... ไม่ได้ลืมปิดหน้าต่าง?
............................
..................
.........
...
.
.
.
"ยัยบ้า~! ฉันนึกว่าเธอจะตายซะแล้ว! โฮ~ อย่าทำอย่างนี้อีกนะ ถ้าเธอตายฉันจะอยู่ยังไง!?"
เสียงร้องไห้ดูเวทนาของเด็กผู้หญิงในชุดลำลอง อายุราวๆ7-8ขวบ
ผมสีน้ำตาลมัดผมแกะสองข้างระดับบ่า มาพร้อมน้ำมูกน้ำตาไหลเปรอะเปื้อนเต็มแก้ม และดวงตากลมโตสีน้ำตาลที่แดงแจ๋ผ่านการร้องไห้มาหมาดๆ
เมื่อสิบนาทีก่อนฉันลุกขึ้นมาจากที่นอนมองผ่านหน้าตาข้างเตียง ก่อนที่พี่พยาบาลคนหนึ่งจะเปิดประตูเข้ามาทำท่าตกใจ แล้ววิ่งออกไป
จากนั้นก็มีสองสามคนแปลกหน้าเข้ามาในห้อง ร้องห่มร้องไห้อยู่ข้างเตียง โดยเฉพาะเด็กหญิงผมหางหมูเป็นเกลียวสองข้างคนนี้นี่แหละ ที่พุ่งเข้ามากอดไม่ยอมปล่อย
แถมยังเริ่มตัดเพ้อร้องไห้พูดไม่หยุดตั้งแต่เมื่อกี้จนเธอไม่กล้าเอ่ยถาม...
"ดี...ดีจริงๆ ที่ไม่เป็นไร" เสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกของใครอีกคนในห้อง ก่อนจะสำลักน้ำตาที่ไหลลงมาด้วยความสุข
ฉันที่ไม่สามารถแกะเด็กหญิงตรงหน้าออกได้ หันไปมองชายชราคนหนึ่งที่มาพร้อมกัน กำลังสั่งน้ำมูกทั้งซับน้ำตาหนักพอๆกับเด็กหญิงแปลกหน้าเมื่อกี้
ส่วนพี่พยาบาลคนเดิมยิ้มมองบรรยากาศในห้องด้วยความสุขของครอบครัว
ก่อนที่ทั้งสามคนจะหยุดชะงัก
"พวกคุณ...เป็นใคร?"
"เอ๋"
บรรยากาศในห้องเงียบสงัน.... ดวงตาบริสุทธิ์ใสแจ๋วจับจ้องมองพวกเขาอย่างสงสัย
"คุณเป็นใครกันหรือ? แล้วที่นี่ที่ไหน?"
"........."
"พูดอะไรน่ะ นอนมากจนหลงลืมไปแล้วหรือยังไง ฉันมิคังและคุณปู่ไงล่ะ!?" เด็กหญิงคนเดิมหัวเราะกลบเกลื่อนเสียงร่าเริง พยายามดึงบรรยากาศแปลกๆเมื่อครู่ให้ดูเป็นเรื่องตลก
"ฉันเองมิคัง มิคังน่ะ!"
"มิคัง?" กระซิบชื่อเสียงเบา จนบรรยากาศเริ่มผ่อนคลายเมื่อเรียวคิ้วของคนบนเตียงเริ่มคลายออก
"ใช่!"
มิคังยิ้มน้ำตาไหลเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของคนบนเตียงจนโล่งอก ดูเหมือนจะนึกออกแล้วสิน...-
"แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?"
นะ....เอ๋?
...........
เหมือนกาลเวลาถูกหยุดนิ่งอีกเป็นครั้งที่สอง
...มิคังที่ยืนนิ่งกำลังได้ยินเสียงสะท้อนก้องในหัว...
สายตามองเด็กหญิงที่มีหน้าตาเหมือนตัวเองหยังกะแกะ ยกเว้นสีตาที่เป็นสีฟ้าและผมสีน้ำตาลอ่อน แถมผิวที่ขาวกว่า
ใบหน้าน่ารักนั้นกลับมองเธอมาอย่างคนแปลกหน้า
'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' 'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' 'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' 'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' 'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' 'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' 'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' 'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'
ฉัน.....
เป็นใคร?
น้องสาวผู้น่ารักจำตัวเองไม่ได้!?
OMG......เพล้ง!
กำแพงในจิตใจของมิคังแตกสลายไปพร้อมๆกับประโยคสุดท้าย หลังประมวลผลได้เด็กหญิงมัดผมแกะตัวเล็กตาโตเท่าไข่ห่าน และชายชราหัวโล้งกำลังยืนช็อคตาค้างไปแล้ว...
ฉัน "......." ???
เมื่อไม่ได้รับคำตอบ เธอก็เริ่มเอียงคอมอง พร้อมลูบใบหน้าตัวเองเบาๆ
'ฉันถามอะไรแปลกๆไปงั้นเรอะ?' หรือว่าทำหน้าแปลกๆใส่ไป?
ไม่รู้คิดไปเองหรือไม่ เธอรู้สึกเหมือนได้เห็นดวงวิญญาณสีขาวสองดวงกำลังลอยหลุดออกจากร่างของทั้งคู่ไป...
กำลังค่อยๆลอยขึ้นบนฟ้า.....
อ๊ะ
จะหายลับไปแล้ว....
..................
ฉิ่งงงงง
พรึบ!
ก่อนจะถูกหยุด(ช่วย)ไว้ โดยพยาบาลสาวที่ได้สติคนแรก
เธอรีบกดปุ่มฉุกเฉินกดโทรไปไหนสักแห่ง ก่อนที่วิญญาณตาหลานในห้องจะกลับเข้าร่าง พร้อมเสียงโวยวายที่ดังลั่นห้อง108
"หมอค่ะ! หมอ!? เด็กหญิงห้อง108ที่เพิ่งฟื้นตอนนี้น่ะค่ะ!? เธอ...."
.
.
.
.
"เธอ....ดูเหมือนจะเสียความทรงจำครับ"
ประโยคคำพูดของหมอที่ถูกเรียกมาตรวจดูอาการของฉันเมื่อไม่กี่นาทีก่อนพูดขึ้นมา เมื่อเขาถามว่าฉันจำได้มั้ยว่าตัวเองชื่ออะไร บ้านอยู่ที่ไหน พ่อแม่เป็นใคร จำเหตุการณ์ที่เกิดอุบัติเหตุก่อนหน้านี้ได้หรือไม่?
เธอพยายามนึกแล้วจนปวดหัว แต่ก็สัมผัสได้แต่ความว่างเปล่า มันขาวโพลงไปหมด... ทุกคำถามเด็กหญิงส่ายหัวตลอดและตอบอย่างอดทน
"โอ้..หลานของฉัน..ทำไมน่าสงสารแบบนี้" ชายชราในชุดยูคาตะทำท่าจะเป็นลม จนพี่พยาบาลต้องเข้ามาพยุง
"คุณหมอหมายความว่ายังไงคะ ที่ว่าความจำเสื่อม!? ต้องผิดพลาด ต้องผิดพลาดแน่ๆ!"
เด็กหญิงที่บอกว่าตัวเองชื่อ'มิคัง' และบอกว่าตัวเองเป็นพี่ฝาแฝดสุดที่เลิฟสุดที่รักของเธอว่าขึ้นมา
กำลังเอาเก้าอี้มาปีนโต๊ะ ก่อนทำท่าจะยื่นมือออกไปเขย่าคอคุณหมอเพื่อโวยวาย แต่ก็โดนรวบตัวไปโดยพี่พยาบาลที่มาใหม่
ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด ยกเว้นบนเตียงมีเด็กหญิงผมสีน้ำตาลอ่อน บนหัวถูกผ้าพันแผลพันไว้หลายทบ ทำท่าทางเชืองซึมดูเบราะบาง กำลังหันหน้ามองออกไปทางหน้าต่างอย่างเงียบสงบ ขัดจากเสียงโวยวายในห้อง
ทำไมถึงรู้สึกเหมือนว่าทุกอย่างมันไม่ใช่กันนะ...?
นัยน์ตาสีฟ้ากระพริบเบาๆอย่างสนใจเมื่อนกบินผ่าน จนแพรขนตายาวกระพรือเหมือนปีกผีเสื้อขยับปีก
'ถ้าฟังจากเมื่อกี้แล้วดูเหมือนว่าฉันจะจำอะไรไม่ได้เลย ความจำเสื่อมงั้นเหรอ....'
ได้ยินเสียงมิคังตะโกนดังขึ้นมาแว่วๆ แข่งจากพี่พยาบาลและคุณหมอที่พยายามหยุด
"ไม่ต้องห่วงนะน้องรัก! ถึงเธอจะจำไม่ได้แต่พี่จะปกป้องเธอเอง!"
แปล๊บ!
[ไม่ต้องห่วงนะ..ฉันจะปกป้องนายเอง..]
อึก...?
เสียงของมิคังดังซ้อนทับกับเสียงที่คุ้นหูอย่างแปลกประหลาด
หรือต้องเรียกว่าเสียงของตัวฉันเองดีล่ะ...?
มีภาพบางอย่างแวบเข้ามาในหัว ก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็วจนจับต้องไม่ได้...
เธอกุมขมับ...เมื่อกี้มันภาพอะไร?
เหมือนฉันกำลังยิ้มแล้วพูดกับใครบางคนอยู่...ทว่าภาพใบหน้าของอีกฝ่ายเธอกลับมองไม่เห็น
เธอพยายามคิดต่อแต่ก็นึกไม่ออก สมองกลับมาว่างเปล่าอีกครั้ง... เธอคิดจนเจ็บจิ๊ดสมองขึ้นมาจึงต้องหยุดค้นหา
เสียงฉันแน่นอน.. แล้วใครคือคนนั้น?
เป็นใครกัน?
'ถ้าถามมิคังแล้วเธอจะรู้มั้ยนะ?' เหลือบมองคนในห้องที่ยังพูดคุยกันไม่เสร็จ ก่อนจะหลุบตาลงนิ่งพลางถอนหายใจเบาๆ
'ทุกอย่างดูยุ่งยากจังเลยนะ'
...................................
2ปีผ่านไป
..หลังจากออกจากโรงพยาบาล กาลเวลาผ่านไปแปบๆก็ผ่านมาแล้วสองปี...
สวัสดีค่ะทุกท่าน ในที่สุดฉันก็รู้ชื่อของตัวเองแล้ว ฉันชื่อ 'ซากุระ มิกะ' มิกะที่แปลว่าใบไม้ผิล ฉันเป็นน้องสาวฝาแฝดของ'ซากุระ มิคัง' แล้วมิคังก็แปลว่าส้ม
สองปีก่อนฉันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์(คุณปู่ว่ามาแบบเนี่ย) ทำให้เธอสูญเสียความทรงจำไป
แต่คนที่ขับชนเธอกลับหนีหายตามจับตัวไม่เจอเลยจนกระทั่งปัจจุบัน...
มันแปลกๆนะ
แต่คุณปู่ว่าไม่อยากตามเรื่องให้มันยุ่งยาก ถือว่าฉันได้ฟาดเคราะห์ไป คุณปู่ก็เลยไม่ได้ตามเรื่องนี้ต่ออีก
เมื่อก่อนตอนยังไม่ประสบอุบัติเหตุ...ฉันไปอาศัยอยู่กับน้าที่ต่างเมือง นานๆได้กลับมาหาคุณปู่กับมิคัง เพราะฉะนั้นมิคังจึงติดเธอแจ แต่หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ น้าคนนั้นก็ไม่ได้ติดต่อมาหาอีก
...เหมือนหายสาบสูญไปเลย...
เธอที่สูญเสียความทรงจำก็เหมือนได้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ มิคังดูแลฉันทุกย่างก้าวเหมือนได้สัมปทานตัวเองเป็นแม่ของฉันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่มีพ่อแม่ แต่มิคังและคุณปู่ก็ดูแลฉันมาอย่างดี ทำให้เธอที่ไม่มีความทรงจำได้สร้างความทรงจำใหม่ๆที่มีความสุขอีกเยอะแยะ
น่าแปลกที่เธอจำอะไรไม่ได้เลยแท้ๆแต่กลับรู้สึกคุ้นเคยกับทุกอย่าง อย่าง...พวกวิธีการใช้ชีวิตประจำวันปกติ อย่างการอาบน้ำ เปิดทีวีได้โดยที่ไม่ต้องให้บอก ประมาณนั้น...
แถมเมื่อได้เห็นตัวหนังสือเธอก็อ่านได้ในเวลาไม่นาน รวมไปถึงการคิดเลขหรือภาษาต่างประเทศ จนมิคังภาคภูมิใจเหมือนว่าตัวเธอเลี้ยงฉันมากับมือ
ถึงแม้มิคังตอนนั้นจะตกเลขอยู่ก็เถอะ...
ทุกคนชมว่าเธอฉลาด... แต่ทำไมฉันรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วกันนะ? คงเพราะมันเป็นเรื่องที่เธอรู้อยู่แล้ว ก่อนที่จะเสียความทรงจำไปละมั้ง
ถึงฉันกับมิคังจะเป็นฝาแฝดกันแต่พวกเราไม่ได้เหมือนกันเป๊ะๆ เพราะสีผมฉันออกไปทางน้ำตาลอ่อน และดวงตาของฉันเป็นสีฟ้าคราม ในขณะที่มิคังผมสีน้ำตาลและดวงตาสีน้ำตาลเช่นกัน
อีกอย่างผิวของมิคังแทนนิดๆเพราะชอบออกไปวิ่งเล่นข้างนอก แต่ของเธอผิวขาวจั๊วเหมือนคนไม่เคยโดนแดดเลยล่ะ แต่ยังดีที่ร่างกายสุภาพดีทำให้ผิวเธอขาวอมชมพู
คุณปู่ว่าสีผมและสีตาของมิคังได้จากคุณแม่ ส่วนฉันเดาว่าอาจจะมาจากคุณพ่อ พวกเรารู้แค่นี้เพราะคุณปู่ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องพ่อแม่ พวกเราก็ไม่อยากถามเพื่อทำร้ายคุณปู่ จึงไม่เคยได้มีโอกาสถามเลย รู้แค่ว่าพวกเขาตายแล้วเท่านั้น
ปัง!
"มิก้าาาาา ยัยนั้นไม่ตอบจดหมายฉันอีกแล้วววว!!"
...เฮ้อ
'พูดถึงก็มาเลย...' ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะชะงักเมื่อมีแรงกระแทกเข้าที่หลังตัวเอง
ฉันกำลังโดนเด็กผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนตัวเองกระโดดทับบนเตียงอย่างไม่เกรงใจ พลางถูไถแก้มบ่นตัดเพ้อถึงใครบางคนอยู่
แว่วๆได้ยินเสียงเอ่ยว่าใจร้ายอย่างนู้นอย่างนี้ หรือไม่ก็บ่นว่าทิ้งกันได้ลงคอ ก่อนจะโดนฉันเตะออกด้วยความรำคาณ
ตุบ!
เสียงถูกถีบเข้าให้
มิคังที่โดนน้องสาวถีบตกเตียง น้ำตาคลอเป้าก่อนจะกัดผ้าเช็ดหน้า(ที่เอามาจากไหนไม่รู้) พร้อมแสงสปอตไลท์ส่องบนหัว เพิ่มความน่าเวทนาอย่างยิ่ง
"มิกะใจร้ายอ่ะ! เมื่อก่อนเธอติดฉันแจ แถมเรียกพี่จ๋าพี่จ๋าด้วย น้องสาวที่น่ารักในวันวานนั้นหายไปไหนแล้ว"
เสียงปล่อยโฮคร่ำครวณไม่ได้สะทบสะท้านเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารัก เธอหยิบหนังสือมังงะขึ้นมาเตรียมอ่าน ก่อนจะโดนมืออีกคนมาแย่งออกไปเพื่อเรียกร้องความสนใจ
มาอีกแล้ว...ท่าทางแบบนี้ เธอเตรียมยกมืออุดหู เมื่อรู้ว่ามิคังกำลังเริ่มเล่าชีวะประวัติของเธออีกรอบเป็นรอบที่สามร้อยแปดพอดี
"มิกะในอดีตน่ะนะ! น่ารักมากๆๆๆเลยล่ะ! ถึงเราจะไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยเพราะเธอเดินทางไปกับน้าเพื่อตัวเธอเอง และเธอน่ะเชื่อฟังแถมยังยิ้มออกจะบ่อย... แต่ดูตอนนี้สิ!?"
พูดไม่พอแต่มือชี้มาดึงแก้มฉันขึ้น แก้มอมชมพูของเธอยืดออกตามแรงดึงเหมือนขนมโมจิ ก่อนจะโดนฉันปัดออก
มิคังที่โดนน้องรักตีมือก็ทำท่าหัวใจสลายก่อนจะตะโกนเสียงดัง
"กลายเป็นโฮตารุคนที่สองไปแล้วอาาาา! ฉันอยากได้น้องสาวผู้แสนร่าเริงแจ่มใส และมั่นใจคนนั้นกลับคืนมา!"
"ไปขอจากสวรรค์เถอะ ยัยพี่บ้า"
"มิก้าาาาา~"
เธอแอบยิ้มขบขันเมื่อมิคังทรุดตัวบนเตียง เหมือนโดนทำร้ายจิตใจกันหนักหนาสาหัสมาก แค่โดนเมินหน่อยก็เสียใจขนาดนี้แล้ว เป็นยัยพี่บร่าค่อนไปแล้วจริงๆอย่างที่คนอื่นว่าสินะ
ได้ยินว่าปกติมิคังไม่ได้อาการหนักขนาดนี้หรอก แต่ตั้งแต่เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุมิคังก็เปลี่ยนไป กลายเป็นคนขี้ห่วงและขี้หวงน้องสาวเกินเหตุ
ฮรึก
"ทั้งๆที่'โฮตารุ'ไม่อยู่แล้วแท้ๆ เธอเป็นที่พึ่งยึดเหนี่ยวหนึ่งเดียวของจิตใจพี่นะ ทำไมถึงไม่อ่อนโยนเลยล่ะ! แงง"
มิคังนอนแผ่น้ำตาไหลบนพื้นดีดดิ้นไปมาเหมือนหนอนโดนน้ำลวก
เธอเกาหัวแกรกๆ.. ไม่คิดว่าแฝดพี่จะรับมือยุ่งยากขนาดนี้ ดูเหมือนว่าการที่โฮตารุย้ายไปเรียนในเมือง ทิ้งฉันและมิคังไว้ที่นอกเมืองจะทำให้เธอสะเทือนใจมากๆ
คิดในใจ 'ตกลงใครเป็นพี่กันแน่เนี่ย' ถึงมิคังจะบอกว่าเธอเมื่อก่อนเป็นคนแบบไหน ฉันก็ไม่สามารถนึกออกได้จริงๆ
ตลอดสามปีนี้ฉันพยายามนึกเรื่องของตัวเองแล้ว แต่กลับนึกไม่ออกเลย....
"อย่าร้องสิ... ร้องไปโฮจังก็ไม่กลับมาหรอก" โฮจังหมายถึงโฮตารุ
"แง้!"
ยิ่งปลอบ(?)ก็ยิ่งร้องหนักกว่าเดิม
'เป็นคนเอาแต่ใจ(?)จังเลยนะมิคัง'
ถอนหายใจ
มิคังโวยวายน้ำตาไหลมาหลายวันแล้ว สาเหตุมันมาจาก"โฮตารุ" เพื่อนสนิทของพวกเราได้ย้ายไปเรียนในเมืองกรุง โฮตารุเป็นเด็กที่ฉลาดมาก...เรียกได้ว่าเข้าขั้นอัจฉริยะเลยล่ะ
แต่บางครั้งก็ชอบทำอะไรแปลกๆ(มิคังคิดแบบนั้น) แต่ไม่เทียบกับมิคังหรอก รายนั้นแปลกกว่า(ฉันคิคงั้น)
พวกเราได้เจอกับโฮตารุตอนป.4 ยังจำได้ไม่ลืมเลย....ตอนนั้น
ฉันที่อยากเข้าไปคุยกับโฮตารุที่ย้ายเข้ามาใหม่ในห้อง แต่ถูกหยุดโดยมิคังที่ห้ามไม่ให้เธอเข้าใกล้ สาเหตุเพราะโฮตารุเด่นเกินหน้าเกินตาจนมิคังเกิดหมั้นไส้ขึ้นมา
โฮตารุเธอมีผมสั้นเผยใบหูสองข้างและผิวขาว เส้นผมสีดำขลับดูเงางาม ดวงตาสีม่วงลึกลับใบหน้าเย็นชาเหมือนเจ้าหญิงน้ำแข็ง
เป็นคนที่สวยมากๆเลยล่ะ แต่มิคังหึงหวงไม่ยอมให้เธอเข้าใกล้ อาจเพราะโฮตารุเป็นนักเรียนที่เข้าถึงยาก
มิคังเป็นประเภทที่เข้ากับคนอื่นง่าย พอมาเจอโฮตารุกลับโดนปฏิเสธจึงเกิดการต่อต้านขึ้นมา ฉันจึงโดนมิคังห้ามไปเป็นเพื่อนกับโฮตารุเด็ดขาด ไม่งั้นเธอจะงอแงแล้วก่อกวนจนเธอไม่ได้หลับไม่ได้นอน
แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง... ตอนที่พวกเรากำลังนั่งใต้ต้นไม้ โฮตารุก็เดินเข้ามาคุยกับพวกเราเป็นครั้งแรก พร้อมยื่นใบกระดาษโบว์ชัวร์ขึ้นมาแล้วพูดอะไรแปลกๆ
"ตราบใดที่ไม่ครอบงำตัวตนของกันและกัน ฉันคิดว่าเด็กน่ารักไปเป็นคู่น่าจะทำให้ดูดีกว่านะ"
ห๊ะ?
คำชวนแบบสายฟ้าแลบ และเป็นการคุยกันครั้งแรกของพวกเรา
อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีฉากเอฟเฟกเป็นดอกไม้บานสะพรั่งขึ้นมาด้านหลังพวกเรา ฉันมองออกไปอย่างงงงวย...เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย เหมือนกับเห็นภาพหลอนเป็นฉากดอกไม้ขึ้นมาเลย
มิคังที่จ้องโฮตารุอยู่ตลอดนิ่งค้างตกใจไปแล้ว
แต่ด้วยความที่เราอยู่ด้วยกันตลอด ทำให้ฉันอ่านสีหน้าของมิคังออก ฉันคิดว่ามิคังกำลังคิดในใจว่า 'ยัยนี่ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่พวกเราเข้าใจ' แปะอยู่บนหน้าชัดเจน
ใบหน้าบูดบึ้งตอนเห็นโฮตารุ และเบะปากอย่างทุกทีหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
เธอแอบรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
ส่วนใบหน้าที่ขึ้นสีแดงนี้เพราะอะไรฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน...เธอเลิกสนใจมิคังเพราะยัยนี่ชอบคิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้านอยู่แล้ว
เลยเปลี่ยนไปสนใจใบปลิวที่อีกฝ่ายหยิบขึ้นมาโชว์ไว้ในมือ เธอเลื่อนสายตาอ่านดู...
อื้ม... โฮตารุไม่เหมือนอย่างที่เข้าใจจริงๆนั้นแหละ
[การประกวดเด็กสาวน่ารักในเมือง<ของรางวัล>
ร้านอาหารและเครื่องดื่มทุกร้าน
ให้การสนับสนุนคูปองอาหารฟรี 1แสนเยน!]
ดวงตาของโฮตารุที่เป็นประกายคำว่าเงิน
ขณะที่แฝดพี่ของฉันหน้าแดงเหมือนกำลัง(เข้าใจผิดว่า)ถูกอีกฝ่ายสรภาพรัก
"....."
ฉันที่ยืนอยู่ตรงกลางทั้งสองคน กำลังคิดว่าคงไม่เกี่ยวกับตัวเอง ขณะที่กำลังจะถอนตัวออกจากเวที....
กึก
โฮตารุก็ขยับเข้ามาใกล้พวกเรามากขึ้น ก่อนสายตาจะตรงมาที่ฉันเหมือนสื่อว่าล็อคเป้าหมายไว้แล้ว
"ฉันว่าเธอมีคุณสมบัติดีมากเลยล่ะ" โฮตารุยิ้มเป็นมิตรส่งมาให้ ประกายตาวิบวับนั้นมันอะไรกัน
แต่สายตานั้น...มันดันส่งมาทางนี้น่ะสิ!
ฉันลองขยับไปทางซ้าย... โฮตารุก็เลื่อนสายตาตามมา
เมื่อขยับไปทางขวา...โฮตารุก็ขยับสายตาตามมา(ส่วนมิคังกำลังเข้าสู่โหมดเคลิ้มฝันอยู่)
/เปิดโหมดสื่อสารทางสายตา/
ฉัน : "......" เธอพูดกับฉันเหรอ?
โฮตารุ : "...." แน่นอนสิ ฉันพูดกับเธอ
....พวกเราเงียบ....
"ชะ ช่วยไม่ได้นะ ฉันจะเป็นคู่หูกับเธอก็ได้!" มิคังที่ออกจากโหมดเพ้อฝันเสร็จแล้ว พูดขึ้นมากลางวงด้วยหน้าแดงอย่างขัดเขิน
"?/?"
ใครถามเธอกันx2
ฉันและโฮตารุที่พร้อมใจกันเหลือบมองที่มิคัง ดูเหมือนมิคังเธอกำลังเข้าใจผิดอย่างแรง โฮตารุขมวดคิ้วกำลังอ้าปากปฏิเสธ อยู่ๆฉันก็มีความคิดดีๆ
"ฉันไม่-"
"ฉันคิดว่าคู่หูสามคนก็น่ารักดีนะ มันน่าดึงดูดกว่าสองคนอีก แถมพวกเราสไตล์ก็ไม่เหมือนกันด้วย.."
มิกะ : "ว่ามั้ย โฮตารุ?"
โฮตารุ : "......" รู้สึกว่าถ้าปฏิเสธขึ้นมา มิกะจะต้องไม่ยอมรับเป็นคู่กับเธอแน่นอน แล้วจากนั้นเธอจะชวดรางวัลใหญ่
"อื้ม" เพื่อเห็นแก่ของรางวัลจึงทำได้แค่ยอมรับมัน ถึงแม้จะผิดแผนไปหน่อยก็ตาม' โฮตารุคิดในใจ
ส่วนมิคังนั้น...
มิคัง : กำลังเขินในใจ 'อา! ยัยเด็กใหม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันล่ะ! เธอก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดนี่นา!?'
กำลังดีใจใหญ่เลยล่ะ...
เพราะไม่อยากให้มิคังเสียใจ(แล้วมาโวยวายทีหลัง)มิกะตัดปัญหาพาโฮตารุและมิคัง ไปสมัครพร้อมกันสามคน กลายเป็นคู่หูสามสาวน้อยน่ารักขวัญใจชาวเมือง
แน่นอนว่าพวกเราสามคนชนะไปอย่างที่คาด
ตั้งแต่วันนั้นมา....พวกเราสามคนก็อยู่ด้วยกันตลอด มีทะเลาะกัน(บ่อย)ครั้งบ้าง ฉันที่เป็นคนกลาง(ห้ามทัพ)ทั้งสองคน แต่พวกเราก็รักกันดี....(มั้งนะ)
แต่แล้วโฮตารุก็ชิงหนีไปเรียนที่เมืองกรุงคนเดียว
และนั้นทำให้มิคังเศร้าใจหนักมาก....ฉันก็เศร้าใจไปกับเธอเช่นกัน
แต่....
ฉันก็ไม่นึกไม่ฝันเลยว่ามันจะเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเราต้องหนีออกจากบ้าน....!!!
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เป็นเรื่องที่เขียนไว้นานแล้วตอนอ่านมังงะเรื่อง"วัยซนคนมีพลังจิต" แบบฉบับอนิเมะก็มีนะ สนุกมากๆเลยล่ะ ถึงไม่เคยอ่านก็อ่านนิยายเรื่องนี้ได้นะ มีฉบับอนิเมะการ์ตูนด้วยนะ ชื่อเรื่อง Gakuen Alice
แนะนำตัวละครของตอนนี้
ซากุระ มิงคัง อายุ10ขวบ ร่าเริ่งเข้ากับคนอื่นง่าย นิสัยมั่นใจและไม่ยอมแพ้ ตอนนี้กำลังเล่นเป็นแม่ของมิกะ(ฝาแฝด)ที่สูญเสียความทรงจำไป มีเพื่อนสนิทเป็นอิมาอิ โฮตารุ ชอบโฮตารุมากพอๆกับเป็นบราค่อน
อิมาอิ โฮตารุ (เพื่อนสนิทของมิคังและมิกะ) เป็นพวกแสดงออกทางสีหน้าไม่เก่ง ชอบคนที่หน้าตา ชอบของฟรีและเห็นแก่เงิน มีคติประจำใจคือ'เวลาคือเงิน' นิสัยดูเย็นชาแต่จริงๆแล้วรักเพื่อนอย่างมิคังและมิกะมาก แต่ไม่แสดงออก(ซึนนั้นเอง)
เป็นอัจฉริยะสิ่งประดิษฐที่อายุน้อยที่สุด (ประดิษฐเฉพาะของที่สนใจเท่านั้น)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น