ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิยาย gakuen alice วัยซนคนมีพลังจิต(นัทซึเมะxOC)

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 : ฉันอยากจะปกป้องนาย!

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 63





    ***

    "ฮือๆ อย่าตายนะนัทซึเมะ!" 

    เสียงร้องไห้คร่ำครวณของเด็กสาววัย15ปี กำลังอ่านหนังสือการ์ตูนในมือถึงฉากจุดไคลแม็กซ์ ที่ตอนนี้กำลังค้างมากๆ 

    เธอหยิบชิทชูข้างๆเตียงมาเช็ดน้ำตาสั่งน้ำมูกอย่างหมดมาดสาวสวย ที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กผู้ชายหลายๆคนในโรงเรียน

    คงไม่มีใครคิดแน่ว่าสาวสวยอย่างเธอจะมาร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะหนังสือเล่มเดียว!

    ฉันก็ขอบอกเลยว่าเธอก็ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันเฟ้ย!

    "กริ๊ดดด เล่มต่อไปไม่มี!?..." มือค้นหาเล่มต่อไปในกองหนังสือ แต่ก็ไม่มีเล่มต่อไป! 

    ก่อนจะหยุดชะงักเพราะรู้ว่าสาเหตุมันเพราะอะไร เธอกรีดร้องใส่หมอนอย่างอัดอั้น

    ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิมเมื่อเพิ่งรู้ว่าตัวเองยืมหนังสือเพื่อนมาถึงแค่ไม่กี่เล่มเท่านั้น เหมือนเพื่อนบ้านั้นรู้จึงเอาหนังสือฉากสำคัญไปต่างจังหวัดด้วย  ถ้าเธออยากอ่านเธอต้องตามเพื่อนไปต่างจังหวัดเท่านั้น 

    "โฮๆๆ ยัยบ้านั้นต้องรู้แน่ว่าฉันจะเป็นอย่างนี่!" กัดผ้าเช็ดหน้าอย่างข่มขื่นในใจ เพราะรู้ว่าทำอะไรไม่ได้ จะให้ไปซื้อมันก็ไม่ใช่ เพราะเธอกำลังโดนขังกักบริเวณจากอาจารย์ที่โรงเรียน ข้อหาไปมีเรื่องกับเพื่อนต่างห้อง 

    ทั้งที่สาเหตุมันไม่ใช่ความผิดเธอเลย สวยเกินไปจนโดนเด็กห้องอื่นหาเรื่อง โดนกระทำมาเธอไม่มีทางยอมแน่ ก็เลยใส่ไปสักตั้งเลยน่ะสิ กลายเป็นว่าพวกหมาหมู่เจ็บหนักกว่าเธอที่ตัวคนเดียวซะที

    เห็นอย่างนี้เธอก็เกเรใช้ย่อยนะตอนเด็ก เรียกว่าเด็กแสบเลยล่ะ!  เพราะสาเหตุนั้นเธอจึงติดแหงกอยู่ในห้องพักไปไหนไม่ได้ แล้วมาเสียใจคิดถึงเพื่อนแบบนี้....

    ฮ่ะแฮ่ม แนะนำตัวตอนนี้ช้าไปแล้วหรือเปล่านะ? เอาเป็นว่าเรียกฉันว่าคนสวย(?)ก็แล้วกันนะคะ สวัสดีค่ะ คงจะสงสัยว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ ที่กำลังร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังตอนนี้ 

    ....คืออย่างนี้ค่ะ 

    ฉันกำลังอ่านมังงะที่ยืมมาจากเพื่อนที่ก่อนจะไปต่างจังหวัดมา 

    ชื่อหนังสือเรื่อง[วัยซนคนมีพลังจิต] ขอโทษที่ต้องพูดความจริงนะคะ 

    แต่ฉันคิดว่าเป็นชื่อเรื่องที่เห่ยแบบว่าไม่มีจุดเด่นเท่าไหร่เลย...ถ้าฉันเห็นฉันคงจะเดินผ่าน...แอ๊ก! ใคร!...ใครปารองเท้ามา?

    เอาเป็นว่าถึงชื่อปกหนังสือจะธรรมดาแต่เนื้อเรื่องไม่ได้ธรรมดาแบบนั้น!

    เป็นแนวมังงะมิตรภาพความรักเพื่อนของเด็กๆ ที่มันมีอะไรมากกว่านั้น มีพลังจิตความสามารถพิเศษ ที่ตัวเอกเราชื่อ ซากุระ มิคัง เป็นเพื่อนกับอิมาอิ โฮตารุ ทั้งสองคนเติบโตในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในชนบท

    วันหนึ่งโฮตารุเกิดต้องออกจากโรงเรียนไปอย่างกระทันหัน เพื่อไปเรียนที่โรงเรียนใหญ่ในเมือง ทำให้ทั้งสองคนต้องจากนั้น... 

    มิคังนั้นเมื่อโฮตารุจากไปก็หมดอาลัยตายอยาก ไม่เป็นอันทำงานอะไร แถมโฮตารุก็ส่งจดหมายมาแค่ฉบับเดียว จนครึ่งปีผ่านไปจดหมายก็เริ่มไม่มีมา

    ความปรารถนาของมิคังคือการได้เจอกับโฮตารุอีกครั้ง 

    เธอจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปโตเกียวคนเดียว แล้วเรื่องยุ่งๆก็เริ่มเกิดขึ้นเมื่อโรงเรียนที่โฮตารุไปคือโรงเรียนที่รวบรวมเหล่าเด็กที่มีความสามารถพิเศษที่เรียกว่า'อลิซ'

    คงจะสงสัยล่ะสิว่าอลิซคืออะไร? มันคือคำศัพท์ในโรงเรียนตัวเอก ที่เรียกพวกเด็กที่มีพลังเหนือธรรมชาติยังไงล่ะ!? 

    เรื่องย่อมันประมาณนี้ แต่เนื้อเรื่องหลักจริงๆเยอะกว่านี้ตลกและสนุกมาก แถมยังดราม่าจนเธอน้ำตาไหลอีก 

    ตอนแรกๆเธอบอกปัดเพื่อนไม่เอา ไม่มีทางอ่านแน่! เพราะเธอไม่ใช่พวกประเภทติดหนังสือการ์ตูนเท่าไหร่ จนเพื่อนเกิดหมั้นไส้ข่มขู่ยัดใส่มาลองให้อ่านดูก่อน ไม่สนุกก็ค่อยคืนทีหลัง

    เธอจึงบอกว่าเอามาแค่ครึ่งเดียวก็พอ เธออ่านไม่จบหรอก แน่นอนว่ายัยนั้นเกิดหมั้นไส้จนหนีไปต่างจังหวัด ถ้ารู้ว่ามันจะสนุกอย่างนี้รู้งี้ไม่น่าไปปากหมาอย่างนั้นเลย! 

    ฮือๆๆ

    นี่สินะว่าเขาว่า'คิดกลับใจได้มันก็สายไปเสียแล้ว'...คิดแล้วก็เสียใจอยากย้อนเวลากลับไปตบปากตัวเองให้หายโง่! 

    เพราะคิดว่าคงจะไม่มีทางได้หยิบออกมาอ่านแน่ๆ แต่ด้วยความว่างๆเธอจึงหยิบมาอ่านสักเล่มสองเล่ม ไปๆมาๆอ่านไปกี่เล่มแล้วก็ลืมนับ... จนเผลออ่านไปถึงตอนตัวละครที่ชอบกำลังจะตาย 

    แถมเล่มต่อไปดันอยู่ในมือเพื่อนที่หนีไปเที่ยวต่างจังหวัดซะแล้ว 

    เธอจะโทรไปขอยืมอ่านเอาตอนนี้ก็รู้สึกอับอายเหมือนกลืนน้ำลายตัวเอง จึงต้องมาร้องห่มร้องไห้นึกถึงฉากพระเอกที่ฉันชอบถูกทรุดจนหัวใจเจ็บปวด 

    ยิ่งกว่าเสียหน้านั้นคือฉันค้างมากๆเลยน่ะสิ! ยิ่งคิดก็ยิ่งค้างเอาหนังสือเล่มเดิมมาเปิดอ่านอีกรอบ... 

    ใบหน้าหล่อเหลาตั้งแต่เด็ก...ผมสีขนอีกา ดวงตาสีเพลิง เธอเปิดไปอ่านฉากที่เขานอนอาบเลือดอีกครั้ง...

    อุก เจ็บปวด

    โฮฮฮฮ อยากเป็นมิคังตอนนี้แล้วรีบไปช่วยนัทซึเมะ ถ้าฉันเป็นมิคังล่ะก็.....  

    'แต่มันเป็นไปไม่ได้' คิดในใจแล้วถอนหายใจ ก่อนที่จะรู้ตัวแล้วขยี้หัวตัวเอง 

    อา!? 

    "ฉันเป็นบ้าอะไรไปแล้วเนี่ย!?" 

    ไม่คิดว่าเธอจะได้มีวันนี้ วันที่ติดหนังสืองอมแงมจนคลั่ง! อา!

    ถ้าเกิดฉันได้เป็นมิคัง..... ไม่สิ แต่ฉันก็อยากเป็นมิคังที่แข็งแกร่ง มีความสามารถอลิซที่ช่วยเหลือนัทซึเมะได้...

    ...ถ้าเกิดว่า 

    ถ้าเกิด...ถ้าฉันสามารถเข้าไปอยู่ในหนังสือได้ล่ะก็ เธอสัญญาเลยว่าจะปกป้องนัทซึเมะแล้วทำให้เขามีความสุขให้ได้ไม่แพ้มิคังเลย! 


    ไม่สิ จะทำให่มีความสุขยิ่งกว่านั้นอีก!? 


    แต่มันก็เป็นเรื่องเพ้อฝันเท่านั้นแหละนะ(เปลี่ยนอารมณ์อย่างไว).... เธอขยับร่างกายนอนแผ่ ก่อนจะหลับตาลงอย่างสมเพชตัวเอง 

    "ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าตัวเองจะมาบ่นตัดเพ้อเพราะเรื่องมังงะที่ยืมมาจากเพื่อนซะได้...เป็นบ้าหรือยังไงกันฉัน"

    คืนนั้นเธอรีบปิดไฟนอนเพื่อจะได้ลืมๆอาการประสาทของตัวเองไปซะ....



    โดยที่ไม่รู้เลยว่าได้มีใครบางคนแอบมองจากที่ไหนสักแห่ง ก่อนจะยกยิ้มขึ้นมาอย่างสนุกสนาน


    "เจอเธอแล้ว..."


    "ตามสัญญา.. ฉันขอพาเธอไปหาเขาเลยล่ะนะ..."


    พรึ่บ

    .....

    อีกด้านหนึ่ง...บนเตียงในหอพักที่เงียบสงัน เด็กสาวที่กำลังฝืนหลับตาลงเพื่อให้ตัวเองนอนหลับ อยู่ๆก็มีลมพัดเข้ามาในห้อง

    เอ๋ เธอเปิดหน้าต่างไว้เหรอ? 

    คิดในใจอย่างสงสัย อยากจะลืมตาขึ้นมาดูแต่เปลือกตากลับเริ่มหนักอึ้งจนลืมไม่ขึ้น 

    อะไรเนี่ย อยู่ๆก็ง่วงขึ้นมา... เธอเริ่มง่วงจนทนไม่ไหว ง่วงมากเลย...

    ช่างเถอะ พรุ่งนี้ค่อยดูอีกทีแล้วกัน..... 

    เธอคิดในใจ

    'หวังว่าตื่นมาจะไม่ได้ลืมปิดหน้าต่างนะ'
    ..................
    ..........
    .....
    ..




    ****


    วันหนึ่งฉันตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลด้วยสมองขาวโพรง ความรู้สึกแรกนั่นคือ...


    ความว่างเปล่า.. 


    นอกจากนั้นยังมีอีกความรู้สึกหนึ่งที่มันค้างคาใจมากๆ เหมือนมันเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ....แต่เธอกลับจำไม่ได้เลย...

    [มันเป็นเรื่องอะไรกัน]

    เธอมองไปไปทางหน้าต่างอย่างเหม่อลอย 

    อื้ม...

    เหมือนจะ... ไม่ได้ลืมปิดหน้าต่าง? 

    ............................
    ..................
    .........
    ...
    .
    .
    .



    "ยัยบ้า~! ฉันนึกว่าเธอจะตายซะแล้ว! โฮ~ อย่าทำอย่างนี้อีกนะ ถ้าเธอตายฉันจะอยู่ยังไง!?" 


    เสียงร้องไห้ดูเวทนาของเด็กผู้หญิงในชุดลำลอง อายุราวๆ7-8ขวบ

    ผมสีน้ำตาลมัดผมแกะสองข้างระดับบ่า มาพร้อมน้ำมูกน้ำตาไหลเปรอะเปื้อนเต็มแก้ม และดวงตากลมโตสีน้ำตาลที่แดงแจ๋ผ่านการร้องไห้มาหมาดๆ 

    เมื่อสิบนาทีก่อนฉันลุกขึ้นมาจากที่นอนมองผ่านหน้าตาข้างเตียง ก่อนที่พี่พยาบาลคนหนึ่งจะเปิดประตูเข้ามาทำท่าตกใจ แล้ววิ่งออกไป

    จากนั้นก็มีสองสามคนแปลกหน้าเข้ามาในห้อง ร้องห่มร้องไห้อยู่ข้างเตียง โดยเฉพาะเด็กหญิงผมหางหมูเป็นเกลียวสองข้างคนนี้นี่แหละ ที่พุ่งเข้ามากอดไม่ยอมปล่อย 

    แถมยังเริ่มตัดเพ้อร้องไห้พูดไม่หยุดตั้งแต่เมื่อกี้จนเธอไม่กล้าเอ่ยถาม...


    "ดี...ดีจริงๆ ที่ไม่เป็นไร" เสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกของใครอีกคนในห้อง ก่อนจะสำลักน้ำตาที่ไหลลงมาด้วยความสุข 

    ฉันที่ไม่สามารถแกะเด็กหญิงตรงหน้าออกได้ หันไปมองชายชราคนหนึ่งที่มาพร้อมกัน กำลังสั่งน้ำมูกทั้งซับน้ำตาหนักพอๆกับเด็กหญิงแปลกหน้าเมื่อกี้ 

    ส่วนพี่พยาบาลคนเดิมยิ้มมองบรรยากาศในห้องด้วยความสุขของครอบครัว 

    ก่อนที่ทั้งสามคนจะหยุดชะงัก

    "พวกคุณ...เป็นใคร?" 

    "เอ๋"

    บรรยากาศในห้องเงียบสงัน.... ดวงตาบริสุทธิ์ใสแจ๋วจับจ้องมองพวกเขาอย่างสงสัย

    "คุณเป็นใครกันหรือ? แล้วที่นี่ที่ไหน?"

    "........."

    "พูดอะไรน่ะ นอนมากจนหลงลืมไปแล้วหรือยังไง ฉันมิคังและคุณปู่ไงล่ะ!?" เด็กหญิงคนเดิมหัวเราะกลบเกลื่อนเสียงร่าเริง พยายามดึงบรรยากาศแปลกๆเมื่อครู่ให้ดูเป็นเรื่องตลก 

    "ฉันเองมิคัง มิคังน่ะ!"


    "มิคัง?" กระซิบชื่อเสียงเบา จนบรรยากาศเริ่มผ่อนคลายเมื่อเรียวคิ้วของคนบนเตียงเริ่มคลายออก 


    "ใช่!" 


    มิคังยิ้มน้ำตาไหลเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของคนบนเตียงจนโล่งอก ดูเหมือนจะนึกออกแล้วสิน...-


    "แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?"  

    นะ....เอ๋?

    ...........

    เหมือนกาลเวลาถูกหยุดนิ่งอีกเป็นครั้งที่สอง


    ...มิคังที่ยืนนิ่งกำลังได้ยินเสียงสะท้อนก้องในหัว... 

    สายตามองเด็กหญิงที่มีหน้าตาเหมือนตัวเองหยังกะแกะ ยกเว้นสีตาที่เป็นสีฟ้าและผมสีน้ำตาลอ่อน แถมผิวที่ขาวกว่า

    ใบหน้าน่ารักนั้นกลับมองเธอมาอย่างคนแปลกหน้า 

    'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'  'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'  แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'   แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'  'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'  'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'  แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'   แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'  'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'  'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'  แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'   แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'  'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'  'แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'  แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?'   แล้วฉันเป็นใครกันหรือ?' 

    ฉัน.....

    เป็นใคร?


    น้องสาวผู้น่ารักจำตัวเองไม่ได้!?

    OMG......เพล้ง!

    กำแพงในจิตใจของมิคังแตกสลายไปพร้อมๆกับประโยคสุดท้าย หลังประมวลผลได้เด็กหญิงมัดผมแกะตัวเล็กตาโตเท่าไข่ห่าน และชายชราหัวโล้งกำลังยืนช็อคตาค้างไปแล้ว...

    ฉัน "......." ???

    เมื่อไม่ได้รับคำตอบ เธอก็เริ่มเอียงคอมอง พร้อมลูบใบหน้าตัวเองเบาๆ 

    'ฉันถามอะไรแปลกๆไปงั้นเรอะ?' หรือว่าทำหน้าแปลกๆใส่ไป? 

    ไม่รู้คิดไปเองหรือไม่ เธอรู้สึกเหมือนได้เห็นดวงวิญญาณสีขาวสองดวงกำลังลอยหลุดออกจากร่างของทั้งคู่ไป... 

    กำลังค่อยๆลอยขึ้นบนฟ้า.....

    อ๊ะ

    จะหายลับไปแล้ว....

    ..................


    ฉิ่งงงงง

    พรึบ!

    ก่อนจะถูกหยุด(ช่วย)ไว้ โดยพยาบาลสาวที่ได้สติคนแรก  

    เธอรีบกดปุ่มฉุกเฉินกดโทรไปไหนสักแห่ง ก่อนที่วิญญาณตาหลานในห้องจะกลับเข้าร่าง พร้อมเสียงโวยวายที่ดังลั่นห้อง108

    "หมอค่ะ! หมอ!? เด็กหญิงห้อง108ที่เพิ่งฟื้นตอนนี้น่ะค่ะ!? เธอ...."

    .
    .
    .
    .

    "เธอ....ดูเหมือนจะเสียความทรงจำครับ" 


    ประโยคคำพูดของหมอที่ถูกเรียกมาตรวจดูอาการของฉันเมื่อไม่กี่นาทีก่อนพูดขึ้นมา เมื่อเขาถามว่าฉันจำได้มั้ยว่าตัวเองชื่ออะไร บ้านอยู่ที่ไหน พ่อแม่เป็นใคร จำเหตุการณ์ที่เกิดอุบัติเหตุก่อนหน้านี้ได้หรือไม่?

    เธอพยายามนึกแล้วจนปวดหัว แต่ก็สัมผัสได้แต่ความว่างเปล่า มันขาวโพลงไปหมด... ทุกคำถามเด็กหญิงส่ายหัวตลอดและตอบอย่างอดทน 

    "โอ้..หลานของฉัน..ทำไมน่าสงสารแบบนี้" ชายชราในชุดยูคาตะทำท่าจะเป็นลม จนพี่พยาบาลต้องเข้ามาพยุง 

    "คุณหมอหมายความว่ายังไงคะ ที่ว่าความจำเสื่อม!? ต้องผิดพลาด ต้องผิดพลาดแน่ๆ!" 

    เด็กหญิงที่บอกว่าตัวเองชื่อ'มิคัง' และบอกว่าตัวเองเป็นพี่ฝาแฝดสุดที่เลิฟสุดที่รักของเธอว่าขึ้นมา

    กำลังเอาเก้าอี้มาปีนโต๊ะ ก่อนทำท่าจะยื่นมือออกไปเขย่าคอคุณหมอเพื่อโวยวาย แต่ก็โดนรวบตัวไปโดยพี่พยาบาลที่มาใหม่

    ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด ยกเว้นบนเตียงมีเด็กหญิงผมสีน้ำตาลอ่อน บนหัวถูกผ้าพันแผลพันไว้หลายทบ ทำท่าทางเชืองซึมดูเบราะบาง กำลังหันหน้ามองออกไปทางหน้าต่างอย่างเงียบสงบ ขัดจากเสียงโวยวายในห้อง 

    ทำไมถึงรู้สึกเหมือนว่าทุกอย่างมันไม่ใช่กันนะ...? 

    นัยน์ตาสีฟ้ากระพริบเบาๆอย่างสนใจเมื่อนกบินผ่าน จนแพรขนตายาวกระพรือเหมือนปีกผีเสื้อขยับปีก 


    'ถ้าฟังจากเมื่อกี้แล้วดูเหมือนว่าฉันจะจำอะไรไม่ได้เลย ความจำเสื่อมงั้นเหรอ....'  


    ได้ยินเสียงมิคังตะโกนดังขึ้นมาแว่วๆ  แข่งจากพี่พยาบาลและคุณหมอที่พยายามหยุด

    "ไม่ต้องห่วงนะน้องรัก! ถึงเธอจะจำไม่ได้แต่พี่จะปกป้องเธอเอง!" 



    แปล๊บ!



    [ไม่ต้องห่วงนะ..ฉันจะปกป้องนายเอง..]


    อึก...?


    เสียงของมิคังดังซ้อนทับกับเสียงที่คุ้นหูอย่างแปลกประหลาด 

    หรือต้องเรียกว่าเสียงของตัวฉันเองดีล่ะ...?

    มีภาพบางอย่างแวบเข้ามาในหัว ก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็วจนจับต้องไม่ได้...  

    เธอกุมขมับ...เมื่อกี้มันภาพอะไร?

    เหมือนฉันกำลังยิ้มแล้วพูดกับใครบางคนอยู่...ทว่าภาพใบหน้าของอีกฝ่ายเธอกลับมองไม่เห็น

    เธอพยายามคิดต่อแต่ก็นึกไม่ออก สมองกลับมาว่างเปล่าอีกครั้ง... เธอคิดจนเจ็บจิ๊ดสมองขึ้นมาจึงต้องหยุดค้นหา

    เสียงฉันแน่นอน.. แล้วใครคือคนนั้น? 


    เป็นใครกัน?


    'ถ้าถามมิคังแล้วเธอจะรู้มั้ยนะ?' เหลือบมองคนในห้องที่ยังพูดคุยกันไม่เสร็จ ก่อนจะหลุบตาลงนิ่งพลางถอนหายใจเบาๆ


    'ทุกอย่างดูยุ่งยากจังเลยนะ'


    ...................................

    2ปีผ่านไป


    ..หลังจากออกจากโรงพยาบาล กาลเวลาผ่านไปแปบๆก็ผ่านมาแล้วสองปี...

    สวัสดีค่ะทุกท่าน ในที่สุดฉันก็รู้ชื่อของตัวเองแล้ว ฉันชื่อ 'ซากุระ มิกะ' มิกะที่แปลว่าใบไม้ผิล  ฉันเป็นน้องสาวฝาแฝดของ'ซากุระ มิคัง' แล้วมิคังก็แปลว่าส้ม 

    สองปีก่อนฉันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์(คุณปู่ว่ามาแบบเนี่ย) ทำให้เธอสูญเสียความทรงจำไป  

    แต่คนที่ขับชนเธอกลับหนีหายตามจับตัวไม่เจอเลยจนกระทั่งปัจจุบัน...

    มันแปลกๆนะ 

    แต่คุณปู่ว่าไม่อยากตามเรื่องให้มันยุ่งยาก ถือว่าฉันได้ฟาดเคราะห์ไป คุณปู่ก็เลยไม่ได้ตามเรื่องนี้ต่ออีก

    เมื่อก่อนตอนยังไม่ประสบอุบัติเหตุ...ฉันไปอาศัยอยู่กับน้าที่ต่างเมือง นานๆได้กลับมาหาคุณปู่กับมิคัง เพราะฉะนั้นมิคังจึงติดเธอแจ แต่หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ น้าคนนั้นก็ไม่ได้ติดต่อมาหาอีก

    ...เหมือนหายสาบสูญไปเลย... 

    เธอที่สูญเสียความทรงจำก็เหมือนได้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ มิคังดูแลฉันทุกย่างก้าวเหมือนได้สัมปทานตัวเองเป็นแม่ของฉันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่มีพ่อแม่ แต่มิคังและคุณปู่ก็ดูแลฉันมาอย่างดี ทำให้เธอที่ไม่มีความทรงจำได้สร้างความทรงจำใหม่ๆที่มีความสุขอีกเยอะแยะ

    น่าแปลกที่เธอจำอะไรไม่ได้เลยแท้ๆแต่กลับรู้สึกคุ้นเคยกับทุกอย่าง อย่าง...พวกวิธีการใช้ชีวิตประจำวันปกติ อย่างการอาบน้ำ เปิดทีวีได้โดยที่ไม่ต้องให้บอก ประมาณนั้น...

    แถมเมื่อได้เห็นตัวหนังสือเธอก็อ่านได้ในเวลาไม่นาน  รวมไปถึงการคิดเลขหรือภาษาต่างประเทศ จนมิคังภาคภูมิใจเหมือนว่าตัวเธอเลี้ยงฉันมากับมือ 

    ถึงแม้มิคังตอนนั้นจะตกเลขอยู่ก็เถอะ... 

    ทุกคนชมว่าเธอฉลาด... แต่ทำไมฉันรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วกันนะ? คงเพราะมันเป็นเรื่องที่เธอรู้อยู่แล้ว ก่อนที่จะเสียความทรงจำไปละมั้ง 

    ถึงฉันกับมิคังจะเป็นฝาแฝดกันแต่พวกเราไม่ได้เหมือนกันเป๊ะๆ เพราะสีผมฉันออกไปทางน้ำตาลอ่อน และดวงตาของฉันเป็นสีฟ้าคราม ในขณะที่มิคังผมสีน้ำตาลและดวงตาสีน้ำตาลเช่นกัน

    อีกอย่างผิวของมิคังแทนนิดๆเพราะชอบออกไปวิ่งเล่นข้างนอก แต่ของเธอผิวขาวจั๊วเหมือนคนไม่เคยโดนแดดเลยล่ะ แต่ยังดีที่ร่างกายสุภาพดีทำให้ผิวเธอขาวอมชมพู

    คุณปู่ว่าสีผมและสีตาของมิคังได้จากคุณแม่ ส่วนฉันเดาว่าอาจจะมาจากคุณพ่อ พวกเรารู้แค่นี้เพราะคุณปู่ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องพ่อแม่ พวกเราก็ไม่อยากถามเพื่อทำร้ายคุณปู่ จึงไม่เคยได้มีโอกาสถามเลย รู้แค่ว่าพวกเขาตายแล้วเท่านั้น 

    ปัง!

    "มิก้าาาาา ยัยนั้นไม่ตอบจดหมายฉันอีกแล้วววว!!" 

    ...เฮ้อ

    'พูดถึงก็มาเลย...' ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะชะงักเมื่อมีแรงกระแทกเข้าที่หลังตัวเอง  

    ฉันกำลังโดนเด็กผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนตัวเองกระโดดทับบนเตียงอย่างไม่เกรงใจ พลางถูไถแก้มบ่นตัดเพ้อถึงใครบางคนอยู่ 

    แว่วๆได้ยินเสียงเอ่ยว่าใจร้ายอย่างนู้นอย่างนี้ หรือไม่ก็บ่นว่าทิ้งกันได้ลงคอ ก่อนจะโดนฉันเตะออกด้วยความรำคาณ 

    ตุบ!

    เสียงถูกถีบเข้าให้ 

    มิคังที่โดนน้องสาวถีบตกเตียง น้ำตาคลอเป้าก่อนจะกัดผ้าเช็ดหน้า(ที่เอามาจากไหนไม่รู้) พร้อมแสงสปอตไลท์ส่องบนหัว เพิ่มความน่าเวทนาอย่างยิ่ง 

    "มิกะใจร้ายอ่ะ! เมื่อก่อนเธอติดฉันแจ แถมเรียกพี่จ๋าพี่จ๋าด้วย น้องสาวที่น่ารักในวันวานนั้นหายไปไหนแล้ว"

    เสียงปล่อยโฮคร่ำครวณไม่ได้สะทบสะท้านเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารัก เธอหยิบหนังสือมังงะขึ้นมาเตรียมอ่าน ก่อนจะโดนมืออีกคนมาแย่งออกไปเพื่อเรียกร้องความสนใจ 

    มาอีกแล้ว...ท่าทางแบบนี้ เธอเตรียมยกมืออุดหู เมื่อรู้ว่ามิคังกำลังเริ่มเล่าชีวะประวัติของเธออีกรอบเป็นรอบที่สามร้อยแปดพอดี

    "มิกะในอดีตน่ะนะ! น่ารักมากๆๆๆเลยล่ะ! ถึงเราจะไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยเพราะเธอเดินทางไปกับน้าเพื่อตัวเธอเอง และเธอน่ะเชื่อฟังแถมยังยิ้มออกจะบ่อย... แต่ดูตอนนี้สิ!?" 

    พูดไม่พอแต่มือชี้มาดึงแก้มฉันขึ้น แก้มอมชมพูของเธอยืดออกตามแรงดึงเหมือนขนมโมจิ ก่อนจะโดนฉันปัดออก

    มิคังที่โดนน้องรักตีมือก็ทำท่าหัวใจสลายก่อนจะตะโกนเสียงดัง

    "กลายเป็นโฮตารุคนที่สองไปแล้วอาาาา! ฉันอยากได้น้องสาวผู้แสนร่าเริงแจ่มใส และมั่นใจคนนั้นกลับคืนมา!"

    "ไปขอจากสวรรค์เถอะ ยัยพี่บ้า" 

    "มิก้าาาาา~"

    เธอแอบยิ้มขบขันเมื่อมิคังทรุดตัวบนเตียง เหมือนโดนทำร้ายจิตใจกันหนักหนาสาหัสมาก แค่โดนเมินหน่อยก็เสียใจขนาดนี้แล้ว เป็นยัยพี่บร่าค่อนไปแล้วจริงๆอย่างที่คนอื่นว่าสินะ

    ได้ยินว่าปกติมิคังไม่ได้อาการหนักขนาดนี้หรอก แต่ตั้งแต่เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุมิคังก็เปลี่ยนไป กลายเป็นคนขี้ห่วงและขี้หวงน้องสาวเกินเหตุ 

    ฮรึก

    "ทั้งๆที่'โฮตารุ'ไม่อยู่แล้วแท้ๆ เธอเป็นที่พึ่งยึดเหนี่ยวหนึ่งเดียวของจิตใจพี่นะ ทำไมถึงไม่อ่อนโยนเลยล่ะ! แงง" 

    มิคังนอนแผ่น้ำตาไหลบนพื้นดีดดิ้นไปมาเหมือนหนอนโดนน้ำลวก 

    เธอเกาหัวแกรกๆ.. ไม่คิดว่าแฝดพี่จะรับมือยุ่งยากขนาดนี้ ดูเหมือนว่าการที่โฮตารุย้ายไปเรียนในเมือง ทิ้งฉันและมิคังไว้ที่นอกเมืองจะทำให้เธอสะเทือนใจมากๆ 

    คิดในใจ 'ตกลงใครเป็นพี่กันแน่เนี่ย' ถึงมิคังจะบอกว่าเธอเมื่อก่อนเป็นคนแบบไหน ฉันก็ไม่สามารถนึกออกได้จริงๆ 

    ตลอดสามปีนี้ฉันพยายามนึกเรื่องของตัวเองแล้ว แต่กลับนึกไม่ออกเลย.... 

    "อย่าร้องสิ... ร้องไปโฮจังก็ไม่กลับมาหรอก" โฮจังหมายถึงโฮตารุ 

    "แง้!" 

    ยิ่งปลอบ(?)ก็ยิ่งร้องหนักกว่าเดิม 

    'เป็นคนเอาแต่ใจ(?)จังเลยนะมิคัง' 

    ถอนหายใจ

    มิคังโวยวายน้ำตาไหลมาหลายวันแล้ว สาเหตุมันมาจาก"โฮตารุ" เพื่อนสนิทของพวกเราได้ย้ายไปเรียนในเมืองกรุง โฮตารุเป็นเด็กที่ฉลาดมาก...เรียกได้ว่าเข้าขั้นอัจฉริยะเลยล่ะ 

    แต่บางครั้งก็ชอบทำอะไรแปลกๆ(มิคังคิดแบบนั้น) แต่ไม่เทียบกับมิคังหรอก รายนั้นแปลกกว่า(ฉันคิคงั้น)

    พวกเราได้เจอกับโฮตารุตอนป.4 ยังจำได้ไม่ลืมเลย....ตอนนั้น

    ฉันที่อยากเข้าไปคุยกับโฮตารุที่ย้ายเข้ามาใหม่ในห้อง แต่ถูกหยุดโดยมิคังที่ห้ามไม่ให้เธอเข้าใกล้ สาเหตุเพราะโฮตารุเด่นเกินหน้าเกินตาจนมิคังเกิดหมั้นไส้ขึ้นมา

    โฮตารุเธอมีผมสั้นเผยใบหูสองข้างและผิวขาว เส้นผมสีดำขลับดูเงางาม ดวงตาสีม่วงลึกลับใบหน้าเย็นชาเหมือนเจ้าหญิงน้ำแข็ง 

    เป็นคนที่สวยมากๆเลยล่ะ  แต่มิคังหึงหวงไม่ยอมให้เธอเข้าใกล้ อาจเพราะโฮตารุเป็นนักเรียนที่เข้าถึงยาก 

    มิคังเป็นประเภทที่เข้ากับคนอื่นง่าย พอมาเจอโฮตารุกลับโดนปฏิเสธจึงเกิดการต่อต้านขึ้นมา ฉันจึงโดนมิคังห้ามไปเป็นเพื่อนกับโฮตารุเด็ดขาด ไม่งั้นเธอจะงอแงแล้วก่อกวนจนเธอไม่ได้หลับไม่ได้นอน

    แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง... ตอนที่พวกเรากำลังนั่งใต้ต้นไม้ โฮตารุก็เดินเข้ามาคุยกับพวกเราเป็นครั้งแรก พร้อมยื่นใบกระดาษโบว์ชัวร์ขึ้นมาแล้วพูดอะไรแปลกๆ

    "ตราบใดที่ไม่ครอบงำตัวตนของกันและกัน ฉันคิดว่าเด็กน่ารักไปเป็นคู่น่าจะทำให้ดูดีกว่านะ"  

    ห๊ะ?

    คำชวนแบบสายฟ้าแลบ และเป็นการคุยกันครั้งแรกของพวกเรา

    อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีฉากเอฟเฟกเป็นดอกไม้บานสะพรั่งขึ้นมาด้านหลังพวกเรา ฉันมองออกไปอย่างงงงวย...เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย เหมือนกับเห็นภาพหลอนเป็นฉากดอกไม้ขึ้นมาเลย 

    มิคังที่จ้องโฮตารุอยู่ตลอดนิ่งค้างตกใจไปแล้ว 

    แต่ด้วยความที่เราอยู่ด้วยกันตลอด ทำให้ฉันอ่านสีหน้าของมิคังออก  ฉันคิดว่ามิคังกำลังคิดในใจว่า 'ยัยนี่ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่พวกเราเข้าใจ' แปะอยู่บนหน้าชัดเจน

    ใบหน้าบูดบึ้งตอนเห็นโฮตารุ และเบะปากอย่างทุกทีหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้

    เธอแอบรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย 

    ส่วนใบหน้าที่ขึ้นสีแดงนี้เพราะอะไรฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน...เธอเลิกสนใจมิคังเพราะยัยนี่ชอบคิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้านอยู่แล้ว 

    เลยเปลี่ยนไปสนใจใบปลิวที่อีกฝ่ายหยิบขึ้นมาโชว์ไว้ในมือ เธอเลื่อนสายตาอ่านดู...


    อื้ม... โฮตารุไม่เหมือนอย่างที่เข้าใจจริงๆนั้นแหละ


    [การประกวดเด็กสาวน่ารักในเมือง<ของรางวัล>

     ร้านอาหารและเครื่องดื่มทุกร้าน

    ให้การสนับสนุนคูปองอาหารฟรี 1แสนเยน!]


    ดวงตาของโฮตารุที่เป็นประกายคำว่าเงิน 

    ขณะที่แฝดพี่ของฉันหน้าแดงเหมือนกำลัง(เข้าใจผิดว่า)ถูกอีกฝ่ายสรภาพรัก 

    "....."

    ฉันที่ยืนอยู่ตรงกลางทั้งสองคน กำลังคิดว่าคงไม่เกี่ยวกับตัวเอง ขณะที่กำลังจะถอนตัวออกจากเวที.... 

    กึก

    โฮตารุก็ขยับเข้ามาใกล้พวกเรามากขึ้น ก่อนสายตาจะตรงมาที่ฉันเหมือนสื่อว่าล็อคเป้าหมายไว้แล้ว

    "ฉันว่าเธอมีคุณสมบัติดีมากเลยล่ะ" โฮตารุยิ้มเป็นมิตรส่งมาให้ ประกายตาวิบวับนั้นมันอะไรกัน

    แต่สายตานั้น...มันดันส่งมาทางนี้น่ะสิ!


    ฉันลองขยับไปทางซ้าย... โฮตารุก็เลื่อนสายตาตามมา 


    เมื่อขยับไปทางขวา...โฮตารุก็ขยับสายตาตามมา(ส่วนมิคังกำลังเข้าสู่โหมดเคลิ้มฝันอยู่)


    /เปิดโหมดสื่อสารทางสายตา/

    ฉัน : "......"  เธอพูดกับฉันเหรอ?

    โฮตารุ : "...." แน่นอนสิ ฉันพูดกับเธอ 


    ....พวกเราเงียบ....


    "ชะ ช่วยไม่ได้นะ ฉันจะเป็นคู่หูกับเธอก็ได้!" มิคังที่ออกจากโหมดเพ้อฝันเสร็จแล้ว พูดขึ้นมากลางวงด้วยหน้าแดงอย่างขัดเขิน


    "?/?"


    ใครถามเธอกันx2


    ฉันและโฮตารุที่พร้อมใจกันเหลือบมองที่มิคัง ดูเหมือนมิคังเธอกำลังเข้าใจผิดอย่างแรง โฮตารุขมวดคิ้วกำลังอ้าปากปฏิเสธ อยู่ๆฉันก็มีความคิดดีๆ

    "ฉันไม่-"

    "ฉันคิดว่าคู่หูสามคนก็น่ารักดีนะ มันน่าดึงดูดกว่าสองคนอีก แถมพวกเราสไตล์ก็ไม่เหมือนกันด้วย.." 

    มิกะ : "ว่ามั้ย โฮตารุ?"

    โฮตารุ : "......" รู้สึกว่าถ้าปฏิเสธขึ้นมา มิกะจะต้องไม่ยอมรับเป็นคู่กับเธอแน่นอน แล้วจากนั้นเธอจะชวดรางวัลใหญ่

    "อื้ม" เพื่อเห็นแก่ของรางวัลจึงทำได้แค่ยอมรับมัน ถึงแม้จะผิดแผนไปหน่อยก็ตาม' โฮตารุคิดในใจ



    ส่วนมิคังนั้น...

    มิคัง : กำลังเขินในใจ 'อา! ยัยเด็กใหม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันล่ะ! เธอก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดนี่นา!?' 


    กำลังดีใจใหญ่เลยล่ะ...


    เพราะไม่อยากให้มิคังเสียใจ(แล้วมาโวยวายทีหลัง)มิกะตัดปัญหาพาโฮตารุและมิคัง ไปสมัครพร้อมกันสามคน กลายเป็นคู่หูสามสาวน้อยน่ารักขวัญใจชาวเมือง 

    แน่นอนว่าพวกเราสามคนชนะไปอย่างที่คาด  


    ตั้งแต่วันนั้นมา....พวกเราสามคนก็อยู่ด้วยกันตลอด มีทะเลาะกัน(บ่อย)ครั้งบ้าง ฉันที่เป็นคนกลาง(ห้ามทัพ)ทั้งสองคน แต่พวกเราก็รักกันดี....(มั้งนะ)   

    แต่แล้วโฮตารุก็ชิงหนีไปเรียนที่เมืองกรุงคนเดียว 

    และนั้นทำให้มิคังเศร้าใจหนักมาก....ฉันก็เศร้าใจไปกับเธอเช่นกัน

    แต่....


    ฉันก็ไม่นึกไม่ฝันเลยว่ามันจะเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเราต้องหนีออกจากบ้าน....!!! 





    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    เป็นเรื่องที่เขียนไว้นานแล้วตอนอ่านมังงะเรื่อง"วัยซนคนมีพลังจิต" แบบฉบับอนิเมะก็มีนะ สนุกมากๆเลยล่ะ ถึงไม่เคยอ่านก็อ่านนิยายเรื่องนี้ได้นะ มีฉบับอนิเมะการ์ตูนด้วยนะ ชื่อเรื่อง Gakuen Alice


    แนะนำตัวละครของตอนนี้ 

    ซากุระ มิงคัง อายุ10ขวบ ร่าเริ่งเข้ากับคนอื่นง่าย นิสัยมั่นใจและไม่ยอมแพ้ ตอนนี้กำลังเล่นเป็นแม่ของมิกะ(ฝาแฝด)ที่สูญเสียความทรงจำไป มีเพื่อนสนิทเป็นอิมาอิ โฮตารุ ชอบโฮตารุมากพอๆกับเป็นบราค่อน



    อิมาอิ โฮตารุ (เพื่อนสนิทของมิคังและมิกะ)  เป็นพวกแสดงออกทางสีหน้าไม่เก่ง ชอบคนที่หน้าตา ชอบของฟรีและเห็นแก่เงิน มีคติประจำใจคือ'เวลาคือเงิน' นิสัยดูเย็นชาแต่จริงๆแล้วรักเพื่อนอย่างมิคังและมิกะมาก แต่ไม่แสดงออก(ซึนนั้นเอง)

    เป็นอัจฉริยะสิ่งประดิษฐที่อายุน้อยที่สุด (ประดิษฐเฉพาะของที่สนใจเท่านั้น)







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×