ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Japanese Class [ เรียนภาษาญี่ปุ่นง่ายๆ กันดีกว่า]

    ลำดับตอนที่ #3 : [L] 01 - ตัวอักษรในภาษาญี่ปุ่น

    • อัปเดตล่าสุด 22 มี.ค. 52


    />


    />

    もじ (moji)

    ตัวอักษร

     

     

              เคยหลงเสน่ห์ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นกันบ้างไหม ? สำหรับฮาสุแล้ว คิดว่าตัวอักษรญี่ปุ่นมันดูน่ารักมาก โดยเฉพาะตัวฮิรากานะ > <  (แต่มันจะไม่น่ารักเท่าไหร่เวลาต้องท่องไปสอบ ฮ่าๆๆๆ)  วันนี้ ก็ลองมาเริ่มต้นบทเรียนแรกด้วยตัวอักษรในภาษาญี่ปุ่นกันก่อนเลยละกันเนอะ ความจริงควรจะเรียนเรื่องเสียงก่อน แต่เราว่ามันยากที่จะทำความเข้าใจผ่านทางตัวอักษรน่ะนะ

     

              ตัวอักษรของญี่ปุ่นที่ใช้ในปัจจุบันนี้แบ่งได้เป็น 2 ชนิดค่ะ .... ใครที่เคยรู้ว่ามี 3 ชนิดอย่าเพิ่งงงนะ! 2 ชนิดที่ว่านี่ได้แก่

    1.    ตัวคันจิ

    2.    ตัวคานะ


     

     

    Kanji

              ตัวคันจินี่คงเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคนเรียนญี่ปุ่นทุกคนว่ามหาโหดขนาดไหน เพราะมันมีจำนวนเยอะมากกกกก ท่องไม่หวาดไม่ไหวซักที ที่เป็นแบบนี้เพราะคันจิเป็นตัวอักษรจีนที่ญี่ปุ่นยืมมา เนื่องจากสมัยก่อนภาษาญี่ปุ่นไม่มีตัวอักษรค่ะ ดังนั้น เกือบทั้งหมดของคันจิจึงรับมาจากภาษาจีน มีเพียงบางคำเท่านั้นที่คิดค้นเอง เวลาเรียนภาษาจีนไปพร้อมๆ กับญี่ปุ่นถึงได้มึนมาก! เพราะตัวอักษรตัวเดียวกัน อ่านออกเสียงไม่เหมือนกัน ความหมายก็เหมือนกันบ้างไม่เหมือนบ้าง เอามาประสมได้ต่างกันอีก (เคยมีคนรู้จักเรียนญี่ปุ่นพร้อมกันตอนเช้า ครึ่งบ่ายเรียนจีนต่อ สุดยอดมาก ไม่รู้เธอแบ่งภาคสมองยังไง อิอิ)

              เทคนิคการจำตัวคันจิมีเยอะมากเลยค่ะ บางตัวก็เป็นอักษรภาพที่เลียนแบบมาจากธรรมชาติ บางตัวก็ดูจากคันจิหลักที่มาผสมกัน ไว้ถ้ามีโอกาสฮาสุจะมาลองเขียนดูนะคะ แต่ไม่รู้จะรอดมั้ย เพราะเค้าเกลียดตัวคันจิง่ะ TAT เยอะไป จำไม่ได้

    ตัวคันจิที่ยังใช้กันในปัจจุบันหรือที่เรียกว่า jooyoo kanji มีถึง 1945 ตัวแหนะ (อย่างน้อยก็น้อยกว่าภาษาจีนเนอะ) ซึ่งเด็กญี่ปุ่นเค้าต้องเริ่มท่องกันตั้งแต่ประถมเลยทีเดียว สอบทีเป็นร้อยๆ ตัว เค้าบอกว่านี่แหละสาเหตุที่ทำให้เด็กญี่ปุ่นไม่เก่งภาษาอังกฤษ เพราะแค่ที่ต้องท่องคันจิก็เยอะพอแล้ว ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันจริงมั้ยเนี่ย 55+

     

    ตัวอย่างตัวคันจิ เช่น

    ·       (sui - น้ำ)

    ·       (kaze - ลม)

     

    Kana

              ขึ้นว่าตัวคานะนี่อาจจะมีหลายคนไม่รู้จักว่ามันคือตัวอะไร แต่ถ้าบอกว่าตัวคานะเนี่ย ประกอบไปด้วยตัวฮิรากานะและคาตาคานะ หลายๆ คนคงจะร้องอ๋อแล้ว

              อักษรคานะเป็นอักษรที่ญี่ปุ่นประดิษฐ์ขึ้นเองภายหลังโดยดัดแปลงมาจากตัวคันจิ (ขอบคุณพระเจ้า ที่มีคนคิดค้นมันขึ้นมา ไม่งั้นเราๆ คงจะตายกันในดงคันจิแน่นอน = =!!)  อักษรคานะนี้จะเอาไว้ใช้แทนเสียงทุกเสียงในภาษาญี่ปุ่นค่ะ จะมีแบบละ 46 ตัว เป็นเสียงสระไปซะ 5 คือ a(อะ), i(อิ), u(อุ), e(เอะ), o(โอะ) ตัวสระเหมือนสระในภาษาอังกฤษเลยเนอะ แต่ออกเสียงผิดกันลิบเลย

              แถมนิดนึง ในสมัยก่อนหญิงชั้นสูงจะมีโอกาสเรียนเฉพาะตัวคานะค่ะ เอาแค่พออ่านออกเขียนได้เท่านั้น ตัวคันจิจะสงวนไว้กับผู้ชายเท่านั้น

             

              Hiragana

              เป็นตัวอักษรคันจิที่ถูกดัดแปลงให้เขียนง่ายขึ้นค่ะ แต่ก่อนจะเป็นผู้หญิงใช้ซะส่วนมาก ผู้ชายจะใช้คันจิและคาตาคานะแต่ปัจจุบันถือว่าเป็นตัวอักษรสามัญเลยทีเดียว ตอนหน้าเราจะมาลองหัดเขียนฮิรากานะกันนะคะ

     


              Katakana

              ตัวคาตาคานะนี่จะถูกตัดส่วนหนึ่งมาจากคันจิ เดิมเอาไว้สำหรับพระเขียนคำอ่านของบทสวดที่เป็นคันจิ แต่ปัจจุบันนำมาใช้กับคำที่เป็นภาษาต่างประเทศที่ไม่ใช่ภาษาจีเป็นหลักค่ะ สารภาพเอาตรงๆ ว่าเราก็ลืมๆ มันไปบ้างแล้วล่ะ บางตัวต้องนั่งจ้องตั้งนานกว่าจะนึกออกว่าอ่านว่าอะไร */////*



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×