คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : 09 SO SICK (100%)
09
SO SICK
มันไม่เร็วไปหน่อยหรอกับเวลาวันๆหนึ่งที่ผ่านไป ต้องขอบคุณแบคอยอนแรงๆที่ช่วยพาผมออกมาจากห้องของตาบ้าไคย่า
นี่ยังงงไม่หายว่าเหตุการณ์เมื่อคืนมันใช่ความจริงหรอ อะไรมันจะง่ายดายขนาดนั้นกันแต่จะยกมือมาหยิกแก้มเพื่อหลอกตัวเองว่าฝันไปก็ไม่ได้อีก ก็ไคย่าเล่นสอดนิ้วประสานมือผมซะขนาดนั้น ยิ่งถ้าหลอกตัวเองว่าทั้งหมดเป็นความฝัน ส่วนลึกๆในใจก็แย้งว่ามันไม่ได้มีความสุขขึ้นเลยซักนิด
บยอนแบคฮยอนเพื่อนที่ผมสนิทที่สุดบอกกับผมว่า คนเราต้องทำความเข้าใจกันลึกชึ้งก่อนจะตกลงเป็นแฟนไปเพราะถ้าหากวันหนึ่งเขาหมดรักเราแล้ว ทุกๆอย่างจะพอสมานกันในฐานะเพื่อนคนหนึ่งอย่างที่ไม่ต้องขุ่นข้องหมองใจกัน และถ้าเป็นแฟนกันก็ต้องทำหน้าที่แฟนให้ดี
การเปิดหูเปิดตาของผมเป็นไปอย่างราบรื่น ห้างสรรพสินค้าที่หาได้ยากในเขตชานเมืองเช่นภูมิลำเนาของผมเต็มไปด้วยสินค้านาๆชนิดและมีมากกว่าซุปเปอร์แถวคอนโดที่เคยไปกับไคซะอีก ทางแบคอยอนดูเหมือนจะเป็นคนที่ชอบเที่ยวห้างสุดๆ สังเกตได้จากการที่เขาชวนผมเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่น
แบคฮยอนพาผมมาหยุดที่ร้านเสื้อผ้าแบรนดังของเกาหลี—ผมเคยเห็นโฆษณาในทีวีบ่อยๆ เจ้าตัวหยิบเสื้อเชิ้ตสีเขียวสดยื่นมาให้ผม หยิบมันไว้ก่อนจะถามออกไปอย่างงงๆ
“อะ...อะไรหรอแบคฮยอน”
“อ๋อ...ลองดูสิฉันว่ามันเข้ากับนายดีนะ”
“หรอ...แต่เราไม่มีตังค์ซื้อหรอกนะลองไปก็เท่านั้น”ผมพูดพลางโชว์ป้ายราคาที่ติดไว้ให้กับอีกฝ่าย เพื่อนตัวบางส่ายหัวน้อยๆให้กับผมก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างจนน่าสงสัย
“กลัว’ไรใครบอกว่าจะให้นายซื้อ...”
งงครับนี่แบคอยอนจะสื่ออะไรออกมาอีกเนี่ย คิ้วผมขมวดมุ่นด้วยความงุนงง ไม่ให้ซื้อแล้วให้ลองทำไมอ่ะ เสียเวลามาลองเสื้อเขาเปล่าๆ
“...”
“ก็ฉันจะเป็นคนซื้อให้นายไง” สิ้นสุดคำประกาศิตผมก็รีบโบกไม้โบกมือกันพันลวัน ราคาตั้งแพงขนาดนี้ผมไม่กล้าให้แบคฮยอนซื้อเหมือนมันเป็นผักเป็นปลาหรือรามยอนถ้วยหรอกน่า
“ไม่เอาอ่ะนายเก็บเงินไว้เถอะเสื้อผ้าบ้านเรามีอยู่ตั้งหลายตัวนะๆๆ”
“ไม่รู้ล่ะเงินฉันฉันมีสิทธิ์จะใช้ยังไงก็ได้ถ้านายไม่ให้ฉันชื้อฉันจะเลิกคบนายเป็นเพื่อนเลยคอยดู”แบคฮยอนประกาศกร้าวเป็นครั้งที่สอง เห็นแบบนี้ผมก็ต้องยอมใจจริงๆ
หลังจากตกลงกันเสร็จสรรพผมก็เดินถือชุดเข้าไปลองเสื้อ มันออกจะตัวใหญ่กว่าผมไปหน่อยแต่ไม่เป็นไรใส่แบบนี้ก็สบายไปอีกแบบ
ผมเดินออกมาจากห้องลองเสื้อด้วยท่าทีสบายๆก่อนจะได้รับเสียงปรบมือเบาๆจากคนตรงหน้าทันทีที่เห็น อ่า แบบนี้ค่อยโล่งหน่อย
“เข้ากับนายจริงๆด้วย...พี่พนักงานครับเอาตัวนี้ตัวนึงแล้วก็”
แบคฮยอนกล่าวกับพนักงานก่อนจะเดินมาหาผมพลางวางหมวกใบหนึ่งลงบนศีรษะของผม ผมเห็นแวบๆว่ามันเป็นสีแดงก่อนที่คนต้นคิดจะพึมพำกับตัวเองอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงยื่นของที่เลือกมาทั้งหมดให้พนักงานไปคิดเงิน
แบงก์พันวอนหลายๆใบถูกยื่นผ่านไปตรงหน้า วินาทีนี้ผมมีความรู้สึกว่าเพื่อนตัวเองรวยไม่ใช่เล่นจริงๆ
|_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|
หลังจากเดินเตร็ดเตร่เสร็จแบคฮยอนก็ขับมาส่งผมที่หอ ผมไม่ได้ท้วงว่าจะไปนอนบ้านเขาอีกเพราะเกรงว่าห้องของเพื่อนสนิทคงจะไม่ว่างในคืนนี้
ก็แหม...ไลน์คุยกับชานยอลซะขนาดนั้น
ยืนยิ้มคิกคักกับความคิดของตัวเอง ชานยอลกับแบคฮยอนนี่น่ารักกันจะตายไปตอนแรกเห็นกัดกันอย่างกับอะไรที่ตอนนี้กลับไลน์หากันทุกๆสิบนาที
ผมแทรกตัวเข้าไปในห้องกลิ่นเหม็นแปลกๆลอยเข้ามาแตะจมูกเหมือนมีคนเข้ามาทำอะไรเน่าในห้องนี้ สองขาเดินไปตามกลิ่นที่ลอยฉุนมาจากทางฝั่งห้องครัว
“ไคย่า!นายทำอะไรน่ะ”
เอ่ยออกไปทันทีเมื่อเห็นอีกฝ่ายวุ่นวายอยู่กับห้องครัวที่มีควันโขมงออกมาจนทำให้ผมแสบหูแสบตาและแสบจมูกไปหมด ไอตาบ้าไคทำอะไรของเขาเนี่ย
“ฮะ...อ๋อทำอาหารนิดหน่อยไม่ต้องห่วงเดี๋ยวก็เสร็จแล้วมึงไปนั่งรอที่โต๊ะไป” ไคย่าเดินเข้ามาหาผมก่อนจะเอามือที่สวมถุงมือกันความร้อนดันหลังให้ผมเดินไปนั่งอยู่บนโซฟา จัดแจงเปิดทีวีให้ดูเรียบร้อยราวกับจะให้ผมอยู่นิ่งๆ
โดยที่ไม่ได้สังเกต ตอนนี้ผมพึ่งรู้ตัวว่าเสร่อเข้าห้องผิด ทั้งๆที่ควรจะเข้าห้องตัวเองแต่ดันเข้าห้องไคย่าซะได้ แต่ก็เอาเถอะไหนๆก็ไหนๆสิ้นเดือนนี้ผมก็ย้ายมานอนห้องไคอยู่ดี
หรือเปล่า...
หลังจากเมื่อคืนที่ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ถูกขยับขั้นไปอีกขั้น ใช่ ทุกคนอาจคิดว่าการเป็นแฟนนั้นมันจะดีไปเสียหมดทั้งมีคนคอยแทกแคร์ดูแลเอาใจใส่ ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรกับข้อนั้นแต่มันก็ไม่ได้ดีไปหมด ด้านที่เลวร้ายของมันก็มีให้น่าขบคิดเล่น
เพียงแต่มันจะปรากฏขึ้นมาเมื่อไหร่...
“เฮ้ยดับดิวะ” เสียงตะโกนที่ดังออกจากทางห้องรัวบังคับให้ความคิดของผมพังทลายลงไม่เป็นท่า เอาแล้วไงไคย่า ผมว่าแล้วไม่มีผิด
สองขารีบวิ่งไปที่ห้องครัว ควันที่ไม่รู้มาจากไหนกับกลิ่นไหม้แปลกๆที่ชวนสะอิดสะเอียนลอยเข้าโพรงจมูกผมอย่างเต็มแรง
ภาพตรงหน้ามีเพียงคนผิวแทนที่ยุ่งวุ่นวายกับกระทะไฟฟ้าที่ไม่รู้ว่าไคย่าทำอิท่าไหนไฟมันถึงลุกขึ้นมาได้ ไวกว่าความคิดผมรีบวิ่งไปตักน้ำในห้องน้ำก่อนจะสาดไปในห้องครัวเต็มแรง น้ำในถังพลาสติกกระจาออกไปเป็นวงกว้าง งานนี้โดนคนหรือโดนเตาก็มีค่าเท่ากันแหละ
“ฮัดชิ่ว...ฮัดชิ่ว”
คนโดนสาดน้ำตัวเปียกชกออกมาจากครัว ผมสบตาเจ้าตัวอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ไคจะพยักเพยิกให้ผมเข้าไปดูฝีมือจิตรกรรมฝาผนังในห้องครัวที่ท่าทางจะเก็บกันอีกยาว
“ที่บาร์อ่ะ...เอาไปกินเลยนะ...ทำให้”
เสียงตะโกนไล่หลังมาเป็นครั้งสุดท้าย ที่แท้ไคย่าก็จะทำสปาเก็ตตี้ให้เขานั่นเองไม่น่าลำบากขนาดนั้นเลย คิดแบบนี้แล้วก็อดที่จะหน้าแดงขึ้นมาเสียดื้อๆไม่ได้
มือเอื้อมไปหยิบส้อมที่วางไว้คู่กับจานแม่ว่าสปาเก็ตตี้ตรงหน้าในตอนนี้มันจะดำปิ้ดปี๋แถมยังชวนอ้วกแต่ไหนๆไคก็อุตส่าห์ทำให้และยังทิ้งท้ายไว้ก่อนจะผลุบหายเข้าไปในห้องอีกการจะเมินเฉยทำทีไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับมันก็ดูจะเป็นการเสียมารยาทเกินไป
อ้ำ...
อุ้บ...
เมื่อเส้นสปาเก็ตตี้แตะสัมผัสที่ลิ้นกลิ่นเหม็นไหม้ก็ตีตื้นขึ้นมาในอกราวกับนัดกันไว้ ผมรีบกลืนมันลงไปในลำคอผ่านกระเพาะอาหารไปอย่างเนิบนาบ มือไม้ควานหาน้ำและหยิบมันซดลงกระเพาะ
จนในที่สุดคำแรกก็ผ่านพ้นไปด้วยดี อะไรของไคย่าเนี่ย มันก็อร่อยดีอยู่หรอกเพียงแต่มันไหม้เกินไปก็เท่านั้น
แล้วผมควรจะทำอะไรกับอาหารจานโตนี่ดี...
|_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|
“เอิ้กกกกก” เรียวนิ้วยกขึ้นเช็ดมุมปากขออนุญาตระบายลมออกจากท้องเสียงดังๆสักทีสองที ผมไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองสามารถรับประทานมันหมดโดยไม่ตายไปซะก่อนได้ถึงตอนนี้ยังรู้สึกปั่นป่วนในท้องไปซะหมด โธ่พระเจ้า! นี่ผมจะตายไหมเนี่ย
แต่สุดท้ายก็ได้แต่เก็บความรู้สึกนี้ไว้เงียบๆและสลักแน่นไปจนวันตายในส่วนลึกของหัวใจมันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีนักหรอกเรียกว่าอาหารปีศาจกรายๆง่ายกว่าเป็นเท่าตัว
“แค่กๆๆๆ...ฮัดชิ่ว”
เป็นครั้งที่สองที่ผมได้ยินเสียงประหลาดดังมาห้องของไค เนื่องมาจากการพยายามฝืนใจกินอาหารรสเลิศอยู่ในห้องครัวเลยลืมไปว่ามีอีกคนที่นอนอุดอู้ในห้องอยู่นานสองนาน
“แค่กๆๆๆ”เสียงไอดังขึ้นทุกทีที่เดินเข้าไปใกล้ห้องนอนผมเปิดประตูเข้าไปเห็นคนผิวแทนนอนคลุมโปงอยู่ ผมเอี้ยวตัวไปดึงผ้าห่มออกมาเพื่อดูว่าไคเป็นอะไรรึเปล่า
ไคนอนกอดอกตัวสั่นอยู่บนเตียง...
ผมคิดไว้แล้วว่าที่ตัวเองสาดน้ำไปแบบนั้นไคย่าเปียกแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะอาการหนักขนาดนี้ ทันทีที่เอื้อมมือไปแตะหน้าผากอีฝ่ายก็ต้องรีบชักมือกลับ ดะไรมันจะร้อนขนาดนั้นกัน
เห็นทีว่าหน้าที่แฟนซึ่งถูกตราหน้าไว้จากเพื่อนตัวเล็กจะต้องรีบใช้อย่างเลี่ยงไม่ได้
(30%)
KAI ::
ผมไม่สบายนั่นเป็นข้อที่คุณควรจะรู้ไว้
และไอตัวต้นเหตุมันก็มาจากไอเหลือกแฟนที่น่าสะพรึงของผมเอง
ผมไม่ได้สำออยด้วย!ทุกคนอย่ามองหน้าผมด้วยสายตาแบบนั้น พอโดนน้ำหอกนั่นสาดเข้าเต็มสูบไออาการคัดจมูกโง่ๆนี่ก็ก่อตัวขึ้นมาเฉย ผมก็ไม่ได้อยากนอนป่วยคลุมโปงหรอกนะมันไม่ใช่สไตล์เลยคุณ ผมควรจะเป็นคนแทกแคร์อีกฝ่ายมากกว่าการมานอนแห้งให้ไอเหลือกมาดูแล ผมนี่มันเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ
“ฮัดชิ่ว” ว่าแล้วก็จามขึ้นมาอีกรอบพอจะยกมือขึ้นมาเช็ดอวัยวะข้างขวามันก็หนัก ไม่สิ ต้องบอกว่าร่างทั้งร่างขยับแทบไม่ได้ด้วยซ้ำ
เปลือกตาสีสวยของผมเริ่มหนักอึ้งจนต้องปิดลง สัมผัสได้ว่ารอบกายไม่ได้หยุดอยู่กับที่เงาคนที่กระทบกับแสงแดดยามเย็นกระทบเข้ากับเปลือกตาของผม สัมผัสข้างๆที่ยวบลงไปบ่งบอกว่าผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในห้องนี้
ใช่! ก็ผมอยู่กับไอเหลือกไง
ครั้นจะแหกตาขึ้นมาดูว่ามันกำลังทำอะไรก็ไม่ได้อีก เสียงลมหายใจเบาๆที่รดรินข้างแก้มของผมมันน่าจับมากอดแน่นๆสักทีสองที
ผ้าขนหนูที่ชุ่มด้วยน้ำชุ่มๆได้ถูไถไปทั่วตัวผมรู้สึกได้แบบนั้น
“เราเช็ดตัวให้นะ”
“อือ” ทำได้เพียงแค่ครางอือในลำคอ ใบหน้าทั้งหน้ารู้สึกร้อนขึ้นมาอีกแล้วทั้งที่พยายามจะปรับเปลี่ยนบุคลิกตัวเองให้ดูเป็นคาแร็กเตอร์ ‘หนุ่มมาดขรึมเย็นชากับยัยบ้าตาเหลือก’ แล้วแท้ๆ
และแม้ความต้องการอันสัปรังเคของผมมันจะพังลงไม่เป็นชิ้นดีแต่ก็เอาเถอะถือว่าคุ้มค่ากับที่เหนื่อยทำสปาเก็ตตี้ครัวนรกนั่น—ก็รู้สึกผิดอยู่นา แต่ไม่ได้ๆเสียฟอร์มหมด
เวลาผ่านไปก็เหมือนความเหนื่อยล้าที่พร้อมสลายไปด้วย ความรู้สึกสุดท้ายเบาๆก่อนที่ผมจะนึกอะไรไม่ได้อีกเนื่องจากเข้าสู่ห้วงนิทราก็คือเสียงกระซิบข้างใบหูที่เล่นเอาพุงสะเทือน
“ขอบคุณสำหรับสปาเก็ตตี้นะ”
20:20
ผมตื่นขึ้นเมื่อนอนได้เต็มที่เปลือกตาที่เคยหนักเบิกกว้างมองไปรอบๆห้อง สะดุดเข้ากับนาฬิกาแขวนผนังซึ่งบอกเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว สิ่งแรกที่ผุดขึ้นในหัวคือตัวตนของพยาบาลจำเป็นเมื่อประมาณห้าชั่วโมงก่อนหน้านี้ เห็นทีต้องหอมแก้มตอบแทนพระคุณท่านซะหน่อย
ความคิดแผลงๆโพล่ขึ้นมาเมื่อร่างกายรู้สึกดีขึ้นไม่มากก็น้อย พยาบาลคนสวยจ๋าเดี๋ยวป๋าจัดให้—รู้สึกคึกอย่างบอกไม่ถูก
หยัดตัวลุกขึ้นพอรู้สึกมั่นคงดีก็ก้าวขาออกห้องไปช้าๆ เสียงโทรทัศน์ไล่มาตามกำแพงที่กั้นไว้ นี่ดูทีวีมันส์เลยสินะเพื่อนเอย
ผมค่อยๆย่องเข้าไปแทงข้างหลังจนมิด เอ้ย! ย่องเข้าไปข้างหลังกะแกล้งให้ตกใจเล่นทดสอบว่าจะวิ้ดว้ายกระตู้วู้เหมือนชะนีขี้มโนในห้องหรือเปล่า
“แฮ่”
พลั่ก!
“เตง-ต่อย-เต้า-ตำ-ไต”
ผมร้องขึ้นเมื่อแทนที่ไอเหลือกมรณะ ซึ่งควรจะร้องเป็นตุ๊ดเด็กหัวโปกราวกับโดนชายทั้งแท่งจับไอจ้อนอันแสนจะร้อนฉ่า แต่ดูสิ ดูที่มันทำกับผม มือเรียวเล็กนั่นชกเข้าที่หน้าท้องแกร่งของผมอย่าง...
#ปาดน้ำตาแรง
#กูตายagain
“ไคย่าๆๆๆเราขอโต้ดด” เบื้องหน้าเป็นภาพเด็กตาเหลือกที่ขยายรูม่านตาซะผมสะพรึง พอมองหน้ามันใกล้ๆก็ต้องกระพริบตาถี่รัวๆริมฝีปากเจือไปด้วยรอยยิ้มเพียงนิดเดียวก่อนจะ...
“ม้วฟฟฟฟ”
เสร็จโจ๋....
“ไอตาบ้าไคย่าไอคนฉวยโอกาส” มีตุ๊ดแตกก็คราวนี้แหละครับทันทีที่ริมฝีปากหยาบทาบลงไปบนกลีบปากทรงหัวใจได้พอดีเป๊ะยิ่งกว่าวุฒิศักดิ์ แต่ไม่จบแค่นั้นสิ ผมยังบดขยี้ริมฝีปากนั้นให้บวมเจิ่อจนส่งเสียงดังม้วฟ
“5555” หัวเราะอย่างปริ่มสุข ภาพในหัวถูกฉายชัดขึ้นมาเรื่องเมื่อคืนวานยังคงติดตรึงในใจไม่เลือนหาย อะฮ้า ฟินจัง
ไอเหลือกยังคงพยายามประทุษร้ายผมเต็มที่ มือเล็กๆทุบกลางอกจนมันกระเพื่อมขึ้นตามจังหวะลมหายใจอย่างเห็นได้ชัด ผมเอามือต้านอย่างทีเล่นทีจริง มันผงะไปเล็กน้อยก่อนจะรัวมือแบบหลีดจุฬาต่อ
ถ้าจะให้ผมโดนมันทำร้ายทารุณคนเดียวก็ดูจะเห็นแก่ตัวและเสียเปรียบเกินไป เลยส่งมือหยาบกร้านไปสัมผัสเอวคอดของคนตรงหน้าที่ทุบอกดังปั้กๆๆ
ไอเหลืองสะดุ้งสุดตัวก่อนจะสไลด์สารร่างถดหนีไปจนสุดด้วยความเร็วแบบเดอะเฟลชฟิจเจอร์ริ่งกับควิกซิลเวอร์ ผมมองมันด้วยสายตานิ่งๆแต่แฝงไปด้วยความดุร้าย คืนนี้หมีถ้าหมีจะกินเพนกวินจะเอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่แล้วจ้า
“ไคย่าจะทำอะไรหนะ”
“ทำอะไรหรอ...”
“ก็แบบนี้อ่ะ”
“อะไรหรอ...” ทำทีปฏิเสธทั้งๆที่ตัวเองยังคงพยายามคร่อมตัวของไอเหลือกอยู่ โนวววม่ายย ผมไม่ได้หื่น แต่ขาขาวๆที่เมื่อกางเกงถลกขึ้นตอนมันถดหลังหนีไปนั่นน่าจับกินเสียเต็มประดา คุณลองนึกภาพเด็กผู้ชายน่าตาน่ารักจิ้มลิ้มตัวบางๆแต่ไม่ถึงกลับผอมแห้ง ส่วนสูงที่โผล่พ้นระดับน้ำทะเลนิดหน่อย สะโพกกลมๆที่แอบมองแต่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนซึ่งขณะนี้มาสถิตอยู่ใต้ร่างผมเรียบร้อยโรงเรียนไคแถมยังบิดตัวไปมาจนมันถูเข้ากับต้นขาแกร่งของผมอย่างห้ามไม่ได้
โอ้คุณพระ
คิมไคกำเดาจิไหล
ก๊อก ก๊อก
หากแต่มีเสียงพรายเคาะมาดักทางขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดของผมซะก่อนที่จะได้ ตั้บๆๆ กับไอเหลือก(ท่ดๆ)—จริงผมใสๆไม่ได้หื่นอะไรเล้ย
ผมหยัดตัวขึ้นเต็มความสูงก่อนจะเอี้ยวตัวมาทำท่าปาดคอข่มขู่นุ้งเหลือกของเราให้ทำตัวอยู่ในโอวาทซะก่อนที่จะเดินไปส่องตาแมวที่ประตูห้องว่าใครมา
“สวัสดีครับ คยองซูอยู่ไหมครับ”
หวัดดีจ้าแบคฮยอน
มาโพ่งงงงงงงงงงง
|_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|
“เอาเลยแบคฮยอนคิดซะว่าเหมือนบ้านตัวเองนะ” ไอเหลือกเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วกับเพื่อนตัวสั้นพอกันให้ทำตัวตามสบายเมื่อหมอนั่นเงอะงะและไม่กล้าแม้แต่จะนั่งโซฟาทั้งที่ตัวเองหอบผ้าหอบผ่อนซะอย่างกับจะย้ายสำมโนครัวมาซะเลย โอเคเชิญเลยเพื่อนเอย ห้องกูไงประเด็น
ผมรู้ดีว่าปกติแบคฮยอนไม่ใช่คนนั่งใบ้โง่ๆกับยืนเกร็งแบบนี้หรอกทั้งที่เห็นเวลามันอยู่กับไอหยอยเพื่อนสุดที่รักก็เห็นแว้ดๆตลอดราวกับบ้านไฟไหม้ตลอดเวลา
บางทีมันก็หนวกหูไป แต่มาดูวันนี้เสะ!คุณ แบคฮยอนมันเรียบร้อยผิดปกติอ่ะ
“คยองซูเรามีเรื่องมาปรึกษา...”
โอเคตอนเมื่อวานไอเหลือกไปปรึกษามัน วันนี้มันมาปรึกษาไอเหลือก
โอ้ ชีวิตดี๊ดี
(60%)
“ว่ามาสิแบคฮยอน” ไอเหลือกเอ่ยขึ้นเป็นพิธีก่อนจะพาเจ้าเพื่อนตัวสั้นนั่งลงข้างๆ จับเข่าของอีกฝ่ายเหมือนทำรายการทอล์กโชว์ตามทีวี
“คือเรารู้สึกสับสนอ่ะ...”
“...”
“มันเหมือนกับว่าเราไม่เป็นตัวเอง...”
อ่ะจ้ะ คือ ตัวเองไม่เป็นตัวเองคืออะไรจ้ะหนูอยากรู้ ผมนั่งฟังมันนั่งจับเข่าคุยกันอยู่บนโซฟา มีบ้างที่สองเตี้ยจะหันมามองแรงจนทำให้คิมไคคนนี้นั่งตัวลีบหดเหลือสองนิ้วอยู่มุมห้อง
ถ้าจะให้นั่งเฉยๆก็ดูขัดกับโรคสมาธิสั้นที่ผมเป็นอยู่เสียเหลือเกินเลยพาร่างตัวเองเดินไปหาอะไรกินในห้องครัวซึ่งพอมานั่งทบทวนตัวเองดีๆก็พบว่ายังไม่ได้ยัดอะไรลงกระเพาะเลยซักอย่าง มือเอื้อมไปหยิบแก้วทรงสูงบนเชลฟ์ก่อนจะค่อยๆรินน้ำส้มแมนดารินแท้ตราถีบอีโก้ลงแก้ว มองสายน้ำส้มที่ค่อยๆเข้าไปแทนที่ความว่างเปล่าในแก้ว
ในหัวก็ชวนนึกถึงวันแรกที่เจอกับไอเหลือก เด็กใหม่หน้าตาทึ่มๆที่ไม่คิดว่าซักวันมันจะทำให้ผมคิดถึงได้ไม่หยุดหย่อนแบบนี้
ตาเหลือกทียิ้มที่นี่ใจละลาย ไม่คิดว่าผมกับมันจะมาอยู่หอเดียวกันแบบนี้
ต้องขอบคุณฟ้าที่ส่งเขามาให้ผม
“เห้ย!” หัวสมองประมวลผลทันทีภาพตรงหน้าเปลี่ยนเป็นน้ำส้มที่ไหลทะลักอกจากแก้ว ผมรีบหยึดการคิดอะไรที่ทำให้ใจลอยก่อนจะไปหาผ้ามาเช็ดซึ่งพอมองไปรอบๆห้องก็ต้องอมยิ้มขึ้นมาเมื่อทันสังเกตว่าข้าวของในห้องครัวกลับไปอยู่ที่เดิมและสะอาดเอี่ยมอ่องอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เพนกวินน้อยของผมนี่มันน่ารักจริงๆ
สุดท้ายก็กลับมาที่ห้องนั่งเล่นทันทีที่ผมโพล่หน้าออกมาก็เหลือบไปเห็นน้ำใสๆบนหลังมือของหนูแบคฮยอนถึงกระนั้นแล้วผมก็รู้สึกสะเทือนใจไปไม่น้อย
แบคฮยอนร้องไห้ทำไม?
ไอจะไปปลอบหรือซักถามอย่างที่ในใจคิด ก็ไม่ใช่เรื่อง ผมมีความรู้สึกว่านี่มันเป็นเรื่องที่เคะเขาจะคุยกันเมะอย่างผมไม่ควรเขาไปยุ่ง—เราแบ่งฝ่ายกันรู้เรื่อง
แต่แล้วสกิลความใส่ใจในชีวิตคนอื่นก็พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ เมื่อก้าวเข้าไปในห้องตัวเองก็รีบวางแก้วน้ำแล้วRunในนั่งเอาหูทาบตรงขอบประตูว่าง ‘เห้ยเขาคุยเรื่องอะไรกันอ่ะ’
เพียงแต่ทั้งคู่ก็หยุดคำพูดทุกอย่างไว้ สุ้มเสียงสุดท้ายที่บยอนแบคฮยอนเปล่งออกมานั้นกลับทำให้ผมต้องยกยิ้มที่มุมปากอย่างห้ามไม่ได้
“เราชอบชานยอล...”
|_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|
ช่วงเวลาค่ำคืนผ่านไปไม่ยากนัก ก็ผมนอนคนเดียวไงมันจะไปยากอะไร แล้วอย่าถามว่าทำไมผมถึงนอนคนเดียว เพราะทันทีที่บยอนแบคฮยอนตระหนักได้ว่าที่นั่งสัมภาษณ์ชีวิตกันอยู่นี่มันเป็นห้องของผม สองสั้นจึงอพยพตัวเองเข้าไปนอนในห้องอีกฝั่งเรียบร้อย
จะว่าไป เช้านี้อากาสบริสุทธิมากๆจนผมอาจจะต้องแจ้นSMSไปในรายการเรื่องเล่าฯเพื่อลุ้นชิงเสื้อยืดอะไรต่อมิอะไร ซึ่งถ้าไม่ติดว่าวันนี้เป็นวันจันทร์ไง พอถึงวันนี้ทีไรผมรู้สึกอยากเอาตีนก่ายหน้าผากขึ้นมาเสียอย่างนั้น
สายตาเหลือบไปเห็นกองหนังสือและสมุดสูงทะมึนทึนทึกแล้วชีวิตก็ยิ่งหดหู่ โธ่ถัง ทำไมชีวิตคิมจงอินต้องเศร้าหมองเหมือนหมึกดองกลางทะเลลึกเช่นนี้
“ไคย่าไปโรงเรียนกันเถอะ” เสียงเจื้อยแจ้วส่งมาทั้งที่ยังไม่ตื่นดี ผมพยักหน้าหงึกๆกับตัวเองก่อนจะเดินไปใส่ชุดฟอร์มโรงเรียน กวาดข้าวของสัมภาระดังกล่าวลงกระเป๋าแฟบๆจนมันตุงขึ้นอย่างน่าประหลาดพลางเดินไปสมทบกับสองสั้นซึ่งแสตนบายรออยู่ก่อนแล้ว
การเดินทางไปโรงเรียนในวันนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นอากาศธาตุ มีบ้างที่ไอเหลือกมันหันมามองตอนผมเรียกร้องความสนใจบนรถเมล์แต่สุดท้ายก็หันไปซุบซิบๆกับไอสั้นแบคฮยอนอีก
ใช่ซี้ กูมันแค่คนดำๆคนหนึ่งนี่เออ
เมินกันแบบนี้พ่อจะงอนให้ดู!
“สวัสดีครับคุณครู” สิ้นเสียงทำความเคารพ ทุกคนในห้องต่างก็นั่งลงกับเก้าอี้ เลื่อนมันไปมาจนเกิดเสียงครืดคราดไปทั่วเพื่อให้ตัวเองนั่งถนัดและพร้อมที่จะรับความรู้ในเช้าวันแรกของสัปดาห์ ผมนั่งชำเลืองมองคนตัวสั้นสองคนที่ป่านนี้ยังไม่หมดเรื่องที่จะคุยกัน ถ้าจะเสวนากันขนาดนั้นย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันเลยไหมจะได้สิ้นเรื่อง
เบะปากเป็นรูปเรียวเท้าก่อนจะเบนความสนใจไปยังหน้าห้อง อาจารย์ที่ปรึกษายังคงเขียนอะไรยุกๆยิกๆอยู่บนกระดานโดยไม่ได้ละความสนใจมายังนักเรียนในห้องที่ทำตาแป๋วแหวอย่างกับเด็กอนุบาล ความคิดชั่วร้ายผุดเข้ามาในหัวอย่างไม่มีสาเหตุ
เอ๊ะ! หรืออาจเพราะความหมั่นไส้ในตัวก็ได้ที่สั่งให้ผมฉีกกระดาษหน้ากลางสมุดออกมาก่อนจะยัดยางลบเข้าไปเพื่อเพิ่มศูนย์ถ่วงพลางขยำมันให้เป็นก้อนกลมกลม ดึงหนังยางรัดผมจากกบาลผู้หญิงที่นั่งข้างหน้าแล้วเอามันมารัดให้เกิดความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ไอเหลือกจ๋าระวังอุกกาบาตเด้อ
สะบัดข้อมือแล้วเหวี่ยงมันไปสุดแรง ความเร็วลมที่ไม่อาจต้านทานได้ราวกับพยายามช่วยส่งเสริมพลังอันมหัศจรรย์ในการขว้างลูกบอลกระดาษและแล้ว...
โต้มมมมมมมมมม
HEADSHOT!!!
กบาล บึ้ม!!!!!!!
“คิมจงอินไปยืนขาเดียวคาบไม้บรรทัดหน้าห้องโทษฐานแกล้งเพื่อน”
แล้วทำไมไม่มีใครบอกว่าครูหันมาพอดีคะ รักส์พวกมึงจังเพื่อน (ส่งสัญลักษณ์รูปหัวใจไปให้ครู พร้อมกับทำหน้าอบอุ่นให้คนในห้อง)
“แกดูดิยืนคาบไม้บรรทัดอย่างกับในการ์ตูนอ่ะ”
“เออใช่ สมัยนี้ยังมีอยู่อีกหรอ ตลกเนาะ”
“ใช่5555”
คือถ้าแม่คุณจะนินทาก็ช่วยไปคุยกันไกลๆไม่ได้หรอครับ อะไรคือมายืนวิจารณ์กูแบบนี้ ฮัลโหลลล แถมยังหัวเราะร่วนกันครึกครื้น นี่มึงบันเทิงมากป้ะครับ โอเคในที่สุดผมก็มายืนแห้งขาเดียวเหนี่ยวกินลมพระพายเอาอาวุธวิเศษพัดเข้ามาออกลูกเป็นหนุมาน เย้!
ไม่ใช่โว้ย อะไรคือการที่ผมต้องมายินคาบไม้บรรทัดเป็นการ์ตูนสี่ช่องลืมทำการบ้านได้ละคุณ! อ๋อ เป็นเพราะบุญวาสนาที่คุ้มกะลาหัวไอเหลือกไว้แน่ๆถึงทำให้ผมมาอยู่ในสภาพดูเวทนาเช่นนี้
เดี๋ยวพ่อมะเหงกให้
เฮ้ย!ไม่ได้ดิ อย่าลืมสิจงอิน ไอเหลือกเป็นแฟนเราๆๆๆๆ จำไว้ ห้ามทำร้ายแฟน
โอเคหลังจากบำบัดจิตเสร็จ เสียงระฆังก็ดังขึ้นช่วยชีวิตที่ติดอยู่กับที่มาแสนนาน ครูที่ปรึกษาหน้ายักษ์เรียกให้ผมเข้าไปในห้องตามเดิม ไม่ลืมที่จะฟาดก้นให้อีกที นี่ถ้าเกิดแบบนี้อีกจะให้ไอชานหยอยมันอัดคลิปประจานลงยูทูบแมร่ง(ท่ดๆ)
ซึ่งทันทีที่เหยียบเข้าไปในห้องสายตาคมก็พลันไปเห็นร่างเล็กตาแหกที่นั่งติดหน้าต่างมองมาพร้อมยักคิ้วให้อย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า อดไว้ลูกนั่นแฟนมึงไคนั่นแฟนมึงๆๆ
คิดได้นั้นเลยเดินกลับไปนั่งที่ แต่มิวายตาห่านี่ก็หันไปมองไอเหลือกมรณะเป็นรอบที่สอง
มันแลบลิ้นใส่เอาะ...
ย่นจมูกใส่พลางขยับปากเป็นรูปเรียวตีน ความคิดจรรโลงรังสรรค์ให้ในหัวนึกถึงเรื่องราวในอนาคตที่อีกฝ่ายจะต้องโดนอะไรบ้าง
เสร็จกูแน่ อ้ายเหลือกกกกกกกกก
100%
TBC
ไคย่าจะทำอัลไลอี้ก หนูเหลือกนี่ก็ใช่ย่อย
1เมนต์ = 1แรงผลักดันในชีวิตเน้ออ
ขอบคุณทุกยอดวิวและยอดแฟนแฟบ ขึ้นถึงร้อยนี่ก็แทบร้องแล้วจ้า
ขอบคุณมากๆจริงๆนะ รักส์
ความคิดเห็น