ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [exo.] Dark, BigEyes เหลือกมืด I KaiDo

    ลำดับตอนที่ #11 : 09 SO SICK (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 58


                09

    SO SICK






    มันไม่เร็วไปหน่อยหรอกับเวลาวันๆหนึ่งที่ผ่านไป ต้องขอบคุณแบคอยอนแรงๆที่ช่วยพาผมออกมาจากห้องของตาบ้าไคย่า

     

              นี่ยังงงไม่หายว่าเหตุการณ์เมื่อคืนมันใช่ความจริงหรอ อะไรมันจะง่ายดายขนาดนั้นกันแต่จะยกมือมาหยิกแก้มเพื่อหลอกตัวเองว่าฝันไปก็ไม่ได้อีก ก็ไคย่าเล่นสอดนิ้วประสานมือผมซะขนาดนั้น  ยิ่งถ้าหลอกตัวเองว่าทั้งหมดเป็นความฝัน ส่วนลึกๆในใจก็แย้งว่ามันไม่ได้มีความสุขขึ้นเลยซักนิด

     

                บยอนแบคฮยอนเพื่อนที่ผมสนิทที่สุดบอกกับผมว่า คนเราต้องทำความเข้าใจกันลึกชึ้งก่อนจะตกลงเป็นแฟนไปเพราะถ้าหากวันหนึ่งเขาหมดรักเราแล้ว ทุกๆอย่างจะพอสมานกันในฐานะเพื่อนคนหนึ่งอย่างที่ไม่ต้องขุ่นข้องหมองใจกัน และถ้าเป็นแฟนกันก็ต้องทำหน้าที่แฟนให้ดี

                การเปิดหูเปิดตาของผมเป็นไปอย่างราบรื่น ห้างสรรพสินค้าที่หาได้ยากในเขตชานเมืองเช่นภูมิลำเนาของผมเต็มไปด้วยสินค้านาๆชนิดและมีมากกว่าซุปเปอร์แถวคอนโดที่เคยไปกับไคซะอีก ทางแบคอยอนดูเหมือนจะเป็นคนที่ชอบเที่ยวห้างสุดๆ สังเกตได้จากการที่เขาชวนผมเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่น

     

                แบคฮยอนพาผมมาหยุดที่ร้านเสื้อผ้าแบรนดังของเกาหลีผมเคยเห็นโฆษณาในทีวีบ่อยๆ เจ้าตัวหยิบเสื้อเชิ้ตสีเขียวสดยื่นมาให้ผม หยิบมันไว้ก่อนจะถามออกไปอย่างงงๆ

     

                “อะ...อะไรหรอแบคฮยอน”

     

                “อ๋อ...ลองดูสิฉันว่ามันเข้ากับนายดีนะ”

     

                “หรอ...แต่เราไม่มีตังค์ซื้อหรอกนะลองไปก็เท่านั้น”ผมพูดพลางโชว์ป้ายราคาที่ติดไว้ให้กับอีกฝ่าย เพื่อนตัวบางส่ายหัวน้อยๆให้กับผมก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างจนน่าสงสัย

     

                “กลัวไรใครบอกว่าจะให้นายซื้อ...”

     

                งงครับนี่แบคอยอนจะสื่ออะไรออกมาอีกเนี่ย คิ้วผมขมวดมุ่นด้วยความงุนงง ไม่ให้ซื้อแล้วให้ลองทำไมอ่ะ เสียเวลามาลองเสื้อเขาเปล่าๆ

     

                “...”

     

                “ก็ฉันจะเป็นคนซื้อให้นายไง” สิ้นสุดคำประกาศิตผมก็รีบโบกไม้โบกมือกันพันลวัน ราคาตั้งแพงขนาดนี้ผมไม่กล้าให้แบคฮยอนซื้อเหมือนมันเป็นผักเป็นปลาหรือรามยอนถ้วยหรอกน่า

     

                “ไม่เอาอ่ะนายเก็บเงินไว้เถอะเสื้อผ้าบ้านเรามีอยู่ตั้งหลายตัวนะๆๆ”

     

                “ไม่รู้ล่ะเงินฉันฉันมีสิทธิ์จะใช้ยังไงก็ได้ถ้านายไม่ให้ฉันชื้อฉันจะเลิกคบนายเป็นเพื่อนเลยคอยดู”แบคฮยอนประกาศกร้าวเป็นครั้งที่สอง เห็นแบบนี้ผมก็ต้องยอมใจจริงๆ

     

                หลังจากตกลงกันเสร็จสรรพผมก็เดินถือชุดเข้าไปลองเสื้อ มันออกจะตัวใหญ่กว่าผมไปหน่อยแต่ไม่เป็นไรใส่แบบนี้ก็สบายไปอีกแบบ

     

                ผมเดินออกมาจากห้องลองเสื้อด้วยท่าทีสบายๆก่อนจะได้รับเสียงปรบมือเบาๆจากคนตรงหน้าทันทีที่เห็น อ่า แบบนี้ค่อยโล่งหน่อย

     

                “เข้ากับนายจริงๆด้วย...พี่พนักงานครับเอาตัวนี้ตัวนึงแล้วก็”

     

                แบคฮยอนกล่าวกับพนักงานก่อนจะเดินมาหาผมพลางวางหมวกใบหนึ่งลงบนศีรษะของผม ผมเห็นแวบๆว่ามันเป็นสีแดงก่อนที่คนต้นคิดจะพึมพำกับตัวเองอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงยื่นของที่เลือกมาทั้งหมดให้พนักงานไปคิดเงิน

     

                แบงก์พันวอนหลายๆใบถูกยื่นผ่านไปตรงหน้า วินาทีนี้ผมมีความรู้สึกว่าเพื่อนตัวเองรวยไม่ใช่เล่นจริงๆ

     

     

    |_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|

     

                หลังจากเดินเตร็ดเตร่เสร็จแบคฮยอนก็ขับมาส่งผมที่หอ ผมไม่ได้ท้วงว่าจะไปนอนบ้านเขาอีกเพราะเกรงว่าห้องของเพื่อนสนิทคงจะไม่ว่างในคืนนี้

     

                ก็แหม...ไลน์คุยกับชานยอลซะขนาดนั้น

     

                ยืนยิ้มคิกคักกับความคิดของตัวเอง ชานยอลกับแบคฮยอนนี่น่ารักกันจะตายไปตอนแรกเห็นกัดกันอย่างกับอะไรที่ตอนนี้กลับไลน์หากันทุกๆสิบนาที

     

                ผมแทรกตัวเข้าไปในห้องกลิ่นเหม็นแปลกๆลอยเข้ามาแตะจมูกเหมือนมีคนเข้ามาทำอะไรเน่าในห้องนี้ สองขาเดินไปตามกลิ่นที่ลอยฉุนมาจากทางฝั่งห้องครัว

     

                “ไคย่า!นายทำอะไรน่ะ”

     

                เอ่ยออกไปทันทีเมื่อเห็นอีกฝ่ายวุ่นวายอยู่กับห้องครัวที่มีควันโขมงออกมาจนทำให้ผมแสบหูแสบตาและแสบจมูกไปหมด ไอตาบ้าไคทำอะไรของเขาเนี่ย

     

                “ฮะ...อ๋อทำอาหารนิดหน่อยไม่ต้องห่วงเดี๋ยวก็เสร็จแล้วมึงไปนั่งรอที่โต๊ะไป” ไคย่าเดินเข้ามาหาผมก่อนจะเอามือที่สวมถุงมือกันความร้อนดันหลังให้ผมเดินไปนั่งอยู่บนโซฟา จัดแจงเปิดทีวีให้ดูเรียบร้อยราวกับจะให้ผมอยู่นิ่งๆ

     

                โดยที่ไม่ได้สังเกต ตอนนี้ผมพึ่งรู้ตัวว่าเสร่อเข้าห้องผิด ทั้งๆที่ควรจะเข้าห้องตัวเองแต่ดันเข้าห้องไคย่าซะได้ แต่ก็เอาเถอะไหนๆก็ไหนๆสิ้นเดือนนี้ผมก็ย้ายมานอนห้องไคอยู่ดี

     

                หรือเปล่า...

     

                หลังจากเมื่อคืนที่ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ถูกขยับขั้นไปอีกขั้น ใช่ ทุกคนอาจคิดว่าการเป็นแฟนนั้นมันจะดีไปเสียหมดทั้งมีคนคอยแทกแคร์ดูแลเอาใจใส่ ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรกับข้อนั้นแต่มันก็ไม่ได้ดีไปหมด ด้านที่เลวร้ายของมันก็มีให้น่าขบคิดเล่น

     

    เพียงแต่มันจะปรากฏขึ้นมาเมื่อไหร่...

     

    “เฮ้ยดับดิวะ” เสียงตะโกนที่ดังออกจากทางห้องรัวบังคับให้ความคิดของผมพังทลายลงไม่เป็นท่า เอาแล้วไงไคย่า ผมว่าแล้วไม่มีผิด

     

    สองขารีบวิ่งไปที่ห้องครัว ควันที่ไม่รู้มาจากไหนกับกลิ่นไหม้แปลกๆที่ชวนสะอิดสะเอียนลอยเข้าโพรงจมูกผมอย่างเต็มแรง

     

    ภาพตรงหน้ามีเพียงคนผิวแทนที่ยุ่งวุ่นวายกับกระทะไฟฟ้าที่ไม่รู้ว่าไคย่าทำอิท่าไหนไฟมันถึงลุกขึ้นมาได้  ไวกว่าความคิดผมรีบวิ่งไปตักน้ำในห้องน้ำก่อนจะสาดไปในห้องครัวเต็มแรง น้ำในถังพลาสติกกระจาออกไปเป็นวงกว้าง งานนี้โดนคนหรือโดนเตาก็มีค่าเท่ากันแหละ

     

    “ฮัดชิ่ว...ฮัดชิ่ว”

     

    คนโดนสาดน้ำตัวเปียกชกออกมาจากครัว  ผมสบตาเจ้าตัวอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ไคจะพยักเพยิกให้ผมเข้าไปดูฝีมือจิตรกรรมฝาผนังในห้องครัวที่ท่าทางจะเก็บกันอีกยาว

     

    “ที่บาร์อ่ะ...เอาไปกินเลยนะ...ทำให้”

     

    เสียงตะโกนไล่หลังมาเป็นครั้งสุดท้าย ที่แท้ไคย่าก็จะทำสปาเก็ตตี้ให้เขานั่นเองไม่น่าลำบากขนาดนั้นเลย คิดแบบนี้แล้วก็อดที่จะหน้าแดงขึ้นมาเสียดื้อๆไม่ได้

     

    มือเอื้อมไปหยิบส้อมที่วางไว้คู่กับจานแม่ว่าสปาเก็ตตี้ตรงหน้าในตอนนี้มันจะดำปิ้ดปี๋แถมยังชวนอ้วกแต่ไหนๆไคก็อุตส่าห์ทำให้และยังทิ้งท้ายไว้ก่อนจะผลุบหายเข้าไปในห้องอีกการจะเมินเฉยทำทีไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับมันก็ดูจะเป็นการเสียมารยาทเกินไป

     

    อ้ำ...

     

    อุ้บ...

     

    เมื่อเส้นสปาเก็ตตี้แตะสัมผัสที่ลิ้นกลิ่นเหม็นไหม้ก็ตีตื้นขึ้นมาในอกราวกับนัดกันไว้ ผมรีบกลืนมันลงไปในลำคอผ่านกระเพาะอาหารไปอย่างเนิบนาบ มือไม้ควานหาน้ำและหยิบมันซดลงกระเพาะ

     

    จนในที่สุดคำแรกก็ผ่านพ้นไปด้วยดี อะไรของไคย่าเนี่ย มันก็อร่อยดีอยู่หรอกเพียงแต่มันไหม้เกินไปก็เท่านั้น

     

    แล้วผมควรจะทำอะไรกับอาหารจานโตนี่ดี...

     

    |_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|

     

     

    “เอิ้กกกกก” เรียวนิ้วยกขึ้นเช็ดมุมปากขออนุญาตระบายลมออกจากท้องเสียงดังๆสักทีสองที ผมไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองสามารถรับประทานมันหมดโดยไม่ตายไปซะก่อนได้ถึงตอนนี้ยังรู้สึกปั่นป่วนในท้องไปซะหมด โธ่พระเจ้า! นี่ผมจะตายไหมเนี่ย

     

    แต่สุดท้ายก็ได้แต่เก็บความรู้สึกนี้ไว้เงียบๆและสลักแน่นไปจนวันตายในส่วนลึกของหัวใจมันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีนักหรอกเรียกว่าอาหารปีศาจกรายๆง่ายกว่าเป็นเท่าตัว

     

    “แค่กๆๆๆ...ฮัดชิ่ว”

     

    เป็นครั้งที่สองที่ผมได้ยินเสียงประหลาดดังมาห้องของไค เนื่องมาจากการพยายามฝืนใจกินอาหารรสเลิศอยู่ในห้องครัวเลยลืมไปว่ามีอีกคนที่นอนอุดอู้ในห้องอยู่นานสองนาน

     

    “แค่กๆๆๆ”เสียงไอดังขึ้นทุกทีที่เดินเข้าไปใกล้ห้องนอนผมเปิดประตูเข้าไปเห็นคนผิวแทนนอนคลุมโปงอยู่ ผมเอี้ยวตัวไปดึงผ้าห่มออกมาเพื่อดูว่าไคเป็นอะไรรึเปล่า

     

    ไคนอนกอดอกตัวสั่นอยู่บนเตียง...

     

    ผมคิดไว้แล้วว่าที่ตัวเองสาดน้ำไปแบบนั้นไคย่าเปียกแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะอาการหนักขนาดนี้ ทันทีที่เอื้อมมือไปแตะหน้าผากอีฝ่ายก็ต้องรีบชักมือกลับ ดะไรมันจะร้อนขนาดนั้นกัน

     

    เห็นทีว่าหน้าที่แฟนซึ่งถูกตราหน้าไว้จากเพื่อนตัวเล็กจะต้องรีบใช้อย่างเลี่ยงไม่ได้
     





    (30%)

     

    KAI ::

     

    ผมไม่สบายนั่นเป็นข้อที่คุณควรจะรู้ไว้

     

    และไอตัวต้นเหตุมันก็มาจากไอเหลือกแฟนที่น่าสะพรึงของผมเอง

     

    ผมไม่ได้สำออยด้วย!ทุกคนอย่ามองหน้าผมด้วยสายตาแบบนั้น พอโดนน้ำหอกนั่นสาดเข้าเต็มสูบไออาการคัดจมูกโง่ๆนี่ก็ก่อตัวขึ้นมาเฉย ผมก็ไม่ได้อยากนอนป่วยคลุมโปงหรอกนะมันไม่ใช่สไตล์เลยคุณ ผมควรจะเป็นคนแทกแคร์อีกฝ่ายมากกว่าการมานอนแห้งให้ไอเหลือกมาดูแล ผมนี่มันเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ

     

    “ฮัดชิ่ว” ว่าแล้วก็จามขึ้นมาอีกรอบพอจะยกมือขึ้นมาเช็ดอวัยวะข้างขวามันก็หนัก ไม่สิ ต้องบอกว่าร่างทั้งร่างขยับแทบไม่ได้ด้วยซ้ำ

     

    เปลือกตาสีสวยของผมเริ่มหนักอึ้งจนต้องปิดลง สัมผัสได้ว่ารอบกายไม่ได้หยุดอยู่กับที่เงาคนที่กระทบกับแสงแดดยามเย็นกระทบเข้ากับเปลือกตาของผม สัมผัสข้างๆที่ยวบลงไปบ่งบอกว่าผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในห้องนี้

     

    ใช่! ก็ผมอยู่กับไอเหลือกไง

     

    ครั้นจะแหกตาขึ้นมาดูว่ามันกำลังทำอะไรก็ไม่ได้อีก เสียงลมหายใจเบาๆที่รดรินข้างแก้มของผมมันน่าจับมากอดแน่นๆสักทีสองที

     

    ผ้าขนหนูที่ชุ่มด้วยน้ำชุ่มๆได้ถูไถไปทั่วตัวผมรู้สึกได้แบบนั้น

     

    “เราเช็ดตัวให้นะ”

     

    “อือ” ทำได้เพียงแค่ครางอือในลำคอ ใบหน้าทั้งหน้ารู้สึกร้อนขึ้นมาอีกแล้วทั้งที่พยายามจะปรับเปลี่ยนบุคลิกตัวเองให้ดูเป็นคาแร็กเตอร์ หนุ่มมาดขรึมเย็นชากับยัยบ้าตาเหลือก แล้วแท้ๆ

     

    และแม้ความต้องการอันสัปรังเคของผมมันจะพังลงไม่เป็นชิ้นดีแต่ก็เอาเถอะถือว่าคุ้มค่ากับที่เหนื่อยทำสปาเก็ตตี้ครัวนรกนั่นก็รู้สึกผิดอยู่นา แต่ไม่ได้ๆเสียฟอร์มหมด

     

    เวลาผ่านไปก็เหมือนความเหนื่อยล้าที่พร้อมสลายไปด้วย ความรู้สึกสุดท้ายเบาๆก่อนที่ผมจะนึกอะไรไม่ได้อีกเนื่องจากเข้าสู่ห้วงนิทราก็คือเสียงกระซิบข้างใบหูที่เล่นเอาพุงสะเทือน

     

    “ขอบคุณสำหรับสปาเก็ตตี้นะ”

     

    20:20

     

    ผมตื่นขึ้นเมื่อนอนได้เต็มที่เปลือกตาที่เคยหนักเบิกกว้างมองไปรอบๆห้อง สะดุดเข้ากับนาฬิกาแขวนผนังซึ่งบอกเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว สิ่งแรกที่ผุดขึ้นในหัวคือตัวตนของพยาบาลจำเป็นเมื่อประมาณห้าชั่วโมงก่อนหน้านี้ เห็นทีต้องหอมแก้มตอบแทนพระคุณท่านซะหน่อย

     

    ความคิดแผลงๆโพล่ขึ้นมาเมื่อร่างกายรู้สึกดีขึ้นไม่มากก็น้อย พยาบาลคนสวยจ๋าเดี๋ยวป๋าจัดให้รู้สึกคึกอย่างบอกไม่ถูก

     

    หยัดตัวลุกขึ้นพอรู้สึกมั่นคงดีก็ก้าวขาออกห้องไปช้าๆ เสียงโทรทัศน์ไล่มาตามกำแพงที่กั้นไว้ นี่ดูทีวีมันส์เลยสินะเพื่อนเอย

     

    ผมค่อยๆย่องเข้าไปแทงข้างหลังจนมิด เอ้ย! ย่องเข้าไปข้างหลังกะแกล้งให้ตกใจเล่นทดสอบว่าจะวิ้ดว้ายกระตู้วู้เหมือนชะนีขี้มโนในห้องหรือเปล่า

     

    “แฮ่”

     

    พลั่ก!

     

    “เตง-ต่อย-เต้า-ตำ-ไต”

    ผมร้องขึ้นเมื่อแทนที่ไอเหลือกมรณะ ซึ่งควรจะร้องเป็นตุ๊ดเด็กหัวโปกราวกับโดนชายทั้งแท่งจับไอจ้อนอันแสนจะร้อนฉ่า  แต่ดูสิ ดูที่มันทำกับผม มือเรียวเล็กนั่นชกเข้าที่หน้าท้องแกร่งของผมอย่าง...

     

     

    #ปาดน้ำตาแรง

     

    #กูตายagain

     

     

    “ไคย่าๆๆๆเราขอโต้ดด” เบื้องหน้าเป็นภาพเด็กตาเหลือกที่ขยายรูม่านตาซะผมสะพรึง พอมองหน้ามันใกล้ๆก็ต้องกระพริบตาถี่รัวๆริมฝีปากเจือไปด้วยรอยยิ้มเพียงนิดเดียวก่อนจะ...

     

    “ม้วฟฟฟฟ”

     

    เสร็จโจ๋....

     

    “ไอตาบ้าไคย่าไอคนฉวยโอกาส” มีตุ๊ดแตกก็คราวนี้แหละครับทันทีที่ริมฝีปากหยาบทาบลงไปบนกลีบปากทรงหัวใจได้พอดีเป๊ะยิ่งกว่าวุฒิศักดิ์ แต่ไม่จบแค่นั้นสิ ผมยังบดขยี้ริมฝีปากนั้นให้บวมเจิ่อจนส่งเสียงดังม้วฟ

     

    5555” หัวเราะอย่างปริ่มสุข ภาพในหัวถูกฉายชัดขึ้นมาเรื่องเมื่อคืนวานยังคงติดตรึงในใจไม่เลือนหาย อะฮ้า ฟินจัง

     

    ไอเหลือกยังคงพยายามประทุษร้ายผมเต็มที่ มือเล็กๆทุบกลางอกจนมันกระเพื่อมขึ้นตามจังหวะลมหายใจอย่างเห็นได้ชัด ผมเอามือต้านอย่างทีเล่นทีจริง มันผงะไปเล็กน้อยก่อนจะรัวมือแบบหลีดจุฬาต่อ

     

    ถ้าจะให้ผมโดนมันทำร้ายทารุณคนเดียวก็ดูจะเห็นแก่ตัวและเสียเปรียบเกินไป เลยส่งมือหยาบกร้านไปสัมผัสเอวคอดของคนตรงหน้าที่ทุบอกดังปั้กๆๆ

     

    ไอเหลืองสะดุ้งสุดตัวก่อนจะสไลด์สารร่างถดหนีไปจนสุดด้วยความเร็วแบบเดอะเฟลชฟิจเจอร์ริ่งกับควิกซิลเวอร์ ผมมองมันด้วยสายตานิ่งๆแต่แฝงไปด้วยความดุร้าย คืนนี้หมีถ้าหมีจะกินเพนกวินจะเอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่แล้วจ้า

     

    “ไคย่าจะทำอะไรหนะ”

     

    “ทำอะไรหรอ...”

     

    “ก็แบบนี้อ่ะ”

     

    “อะไรหรอ...” ทำทีปฏิเสธทั้งๆที่ตัวเองยังคงพยายามคร่อมตัวของไอเหลือกอยู่ โนวววม่ายย ผมไม่ได้หื่น แต่ขาขาวๆที่เมื่อกางเกงถลกขึ้นตอนมันถดหลังหนีไปนั่นน่าจับกินเสียเต็มประดา คุณลองนึกภาพเด็กผู้ชายน่าตาน่ารักจิ้มลิ้มตัวบางๆแต่ไม่ถึงกลับผอมแห้ง ส่วนสูงที่โผล่พ้นระดับน้ำทะเลนิดหน่อย สะโพกกลมๆที่แอบมองแต่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนซึ่งขณะนี้มาสถิตอยู่ใต้ร่างผมเรียบร้อยโรงเรียนไคแถมยังบิดตัวไปมาจนมันถูเข้ากับต้นขาแกร่งของผมอย่างห้ามไม่ได้

     

     

    โอ้คุณพระ

    คิมไคกำเดาจิไหล

     

     

    ก๊อก ก๊อก

     

    หากแต่มีเสียงพรายเคาะมาดักทางขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดของผมซะก่อนที่จะได้ ตั้บๆๆ กับไอเหลือก(ท่ดๆ)จริงผมใสๆไม่ได้หื่นอะไรเล้ย

     

    ผมหยัดตัวขึ้นเต็มความสูงก่อนจะเอี้ยวตัวมาทำท่าปาดคอข่มขู่นุ้งเหลือกของเราให้ทำตัวอยู่ในโอวาทซะก่อนที่จะเดินไปส่องตาแมวที่ประตูห้องว่าใครมา

     

    “สวัสดีครับ คยองซูอยู่ไหมครับ”

     

    หวัดดีจ้าแบคฮยอน

     

    มาโพ่งงงงงงงงงงง

     

    |_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|

     

    “เอาเลยแบคฮยอนคิดซะว่าเหมือนบ้านตัวเองนะ” ไอเหลือกเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วกับเพื่อนตัวสั้นพอกันให้ทำตัวตามสบายเมื่อหมอนั่นเงอะงะและไม่กล้าแม้แต่จะนั่งโซฟาทั้งที่ตัวเองหอบผ้าหอบผ่อนซะอย่างกับจะย้ายสำมโนครัวมาซะเลย โอเคเชิญเลยเพื่อนเอย ห้องกูไงประเด็น

     

    ผมรู้ดีว่าปกติแบคฮยอนไม่ใช่คนนั่งใบ้โง่ๆกับยืนเกร็งแบบนี้หรอกทั้งที่เห็นเวลามันอยู่กับไอหยอยเพื่อนสุดที่รักก็เห็นแว้ดๆตลอดราวกับบ้านไฟไหม้ตลอดเวลา

     

    บางทีมันก็หนวกหูไป แต่มาดูวันนี้เสะ!คุณ แบคฮยอนมันเรียบร้อยผิดปกติอ่ะ

     

    “คยองซูเรามีเรื่องมาปรึกษา...”

     

    โอเคตอนเมื่อวานไอเหลือกไปปรึกษามัน วันนี้มันมาปรึกษาไอเหลือก

     

    โอ้ ชีวิตดี๊ดี


    (60%)



     

    “ว่ามาสิแบคฮยอน” ไอเหลือกเอ่ยขึ้นเป็นพิธีก่อนจะพาเจ้าเพื่อนตัวสั้นนั่งลงข้างๆ จับเข่าของอีกฝ่ายเหมือนทำรายการทอล์กโชว์ตามทีวี

     

    “คือเรารู้สึกสับสนอ่ะ...”

     

    “...”

     

    “มันเหมือนกับว่าเราไม่เป็นตัวเอง...”

    อ่ะจ้ะ คือ ตัวเองไม่เป็นตัวเองคืออะไรจ้ะหนูอยากรู้ ผมนั่งฟังมันนั่งจับเข่าคุยกันอยู่บนโซฟา มีบ้างที่สองเตี้ยจะหันมามองแรงจนทำให้คิมไคคนนี้นั่งตัวลีบหดเหลือสองนิ้วอยู่มุมห้อง

     

    ถ้าจะให้นั่งเฉยๆก็ดูขัดกับโรคสมาธิสั้นที่ผมเป็นอยู่เสียเหลือเกินเลยพาร่างตัวเองเดินไปหาอะไรกินในห้องครัวซึ่งพอมานั่งทบทวนตัวเองดีๆก็พบว่ายังไม่ได้ยัดอะไรลงกระเพาะเลยซักอย่าง มือเอื้อมไปหยิบแก้วทรงสูงบนเชลฟ์ก่อนจะค่อยๆรินน้ำส้มแมนดารินแท้ตราถีบอีโก้ลงแก้ว มองสายน้ำส้มที่ค่อยๆเข้าไปแทนที่ความว่างเปล่าในแก้ว

     

    ในหัวก็ชวนนึกถึงวันแรกที่เจอกับไอเหลือก เด็กใหม่หน้าตาทึ่มๆที่ไม่คิดว่าซักวันมันจะทำให้ผมคิดถึงได้ไม่หยุดหย่อนแบบนี้

     

     

    ตาเหลือกทียิ้มที่นี่ใจละลาย ไม่คิดว่าผมกับมันจะมาอยู่หอเดียวกันแบบนี้


    ต้องขอบคุณฟ้าที่ส่งเขามาให้ผม

     

    “เห้ย!” หัวสมองประมวลผลทันทีภาพตรงหน้าเปลี่ยนเป็นน้ำส้มที่ไหลทะลักอกจากแก้ว ผมรีบหยึดการคิดอะไรที่ทำให้ใจลอยก่อนจะไปหาผ้ามาเช็ดซึ่งพอมองไปรอบๆห้องก็ต้องอมยิ้มขึ้นมาเมื่อทันสังเกตว่าข้าวของในห้องครัวกลับไปอยู่ที่เดิมและสะอาดเอี่ยมอ่องอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    เพนกวินน้อยของผมนี่มันน่ารักจริงๆ

     

    สุดท้ายก็กลับมาที่ห้องนั่งเล่นทันทีที่ผมโพล่หน้าออกมาก็เหลือบไปเห็นน้ำใสๆบนหลังมือของหนูแบคฮยอนถึงกระนั้นแล้วผมก็รู้สึกสะเทือนใจไปไม่น้อย

    แบคฮยอนร้องไห้ทำไม?

     

     ไอจะไปปลอบหรือซักถามอย่างที่ในใจคิด ก็ไม่ใช่เรื่อง ผมมีความรู้สึกว่านี่มันเป็นเรื่องที่เคะเขาจะคุยกันเมะอย่างผมไม่ควรเขาไปยุ่งเราแบ่งฝ่ายกันรู้เรื่อง

     

    แต่แล้วสกิลความใส่ใจในชีวิตคนอื่นก็พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ เมื่อก้าวเข้าไปในห้องตัวเองก็รีบวางแก้วน้ำแล้วRunในนั่งเอาหูทาบตรงขอบประตูว่าง เห้ยเขาคุยเรื่องอะไรกันอ่ะ

     

    เพียงแต่ทั้งคู่ก็หยุดคำพูดทุกอย่างไว้ สุ้มเสียงสุดท้ายที่บยอนแบคฮยอนเปล่งออกมานั้นกลับทำให้ผมต้องยกยิ้มที่มุมปากอย่างห้ามไม่ได้

     

    “เราชอบชานยอล...”

    |_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|_|

     

    ช่วงเวลาค่ำคืนผ่านไปไม่ยากนัก ก็ผมนอนคนเดียวไงมันจะไปยากอะไร แล้วอย่าถามว่าทำไมผมถึงนอนคนเดียว เพราะทันทีที่บยอนแบคฮยอนตระหนักได้ว่าที่นั่งสัมภาษณ์ชีวิตกันอยู่นี่มันเป็นห้องของผม สองสั้นจึงอพยพตัวเองเข้าไปนอนในห้องอีกฝั่งเรียบร้อย

     

    จะว่าไป เช้านี้อากาสบริสุทธิมากๆจนผมอาจจะต้องแจ้นSMSไปในรายการเรื่องเล่าฯเพื่อลุ้นชิงเสื้อยืดอะไรต่อมิอะไร ซึ่งถ้าไม่ติดว่าวันนี้เป็นวันจันทร์ไง พอถึงวันนี้ทีไรผมรู้สึกอยากเอาตีนก่ายหน้าผากขึ้นมาเสียอย่างนั้น

     

    สายตาเหลือบไปเห็นกองหนังสือและสมุดสูงทะมึนทึนทึกแล้วชีวิตก็ยิ่งหดหู่ โธ่ถัง ทำไมชีวิตคิมจงอินต้องเศร้าหมองเหมือนหมึกดองกลางทะเลลึกเช่นนี้

     

    “ไคย่าไปโรงเรียนกันเถอะ” เสียงเจื้อยแจ้วส่งมาทั้งที่ยังไม่ตื่นดี ผมพยักหน้าหงึกๆกับตัวเองก่อนจะเดินไปใส่ชุดฟอร์มโรงเรียน กวาดข้าวของสัมภาระดังกล่าวลงกระเป๋าแฟบๆจนมันตุงขึ้นอย่างน่าประหลาดพลางเดินไปสมทบกับสองสั้นซึ่งแสตนบายรออยู่ก่อนแล้ว

     

    การเดินทางไปโรงเรียนในวันนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นอากาศธาตุ มีบ้างที่ไอเหลือกมันหันมามองตอนผมเรียกร้องความสนใจบนรถเมล์แต่สุดท้ายก็หันไปซุบซิบๆกับไอสั้นแบคฮยอนอีก

     

    ใช่ซี้ กูมันแค่คนดำๆคนหนึ่งนี่เออ

     

     

    เมินกันแบบนี้พ่อจะงอนให้ดู!

     

     

    “สวัสดีครับคุณครู” สิ้นเสียงทำความเคารพ ทุกคนในห้องต่างก็นั่งลงกับเก้าอี้ เลื่อนมันไปมาจนเกิดเสียงครืดคราดไปทั่วเพื่อให้ตัวเองนั่งถนัดและพร้อมที่จะรับความรู้ในเช้าวันแรกของสัปดาห์ ผมนั่งชำเลืองมองคนตัวสั้นสองคนที่ป่านนี้ยังไม่หมดเรื่องที่จะคุยกัน ถ้าจะเสวนากันขนาดนั้นย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันเลยไหมจะได้สิ้นเรื่อง

     

    เบะปากเป็นรูปเรียวเท้าก่อนจะเบนความสนใจไปยังหน้าห้อง อาจารย์ที่ปรึกษายังคงเขียนอะไรยุกๆยิกๆอยู่บนกระดานโดยไม่ได้ละความสนใจมายังนักเรียนในห้องที่ทำตาแป๋วแหวอย่างกับเด็กอนุบาล ความคิดชั่วร้ายผุดเข้ามาในหัวอย่างไม่มีสาเหตุ

     

    เอ๊ะ! หรืออาจเพราะความหมั่นไส้ในตัวก็ได้ที่สั่งให้ผมฉีกกระดาษหน้ากลางสมุดออกมาก่อนจะยัดยางลบเข้าไปเพื่อเพิ่มศูนย์ถ่วงพลางขยำมันให้เป็นก้อนกลมกลม ดึงหนังยางรัดผมจากกบาลผู้หญิงที่นั่งข้างหน้าแล้วเอามันมารัดให้เกิดความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

     

     

    ไอเหลือกจ๋าระวังอุกกาบาตเด้อ

     

     

    สะบัดข้อมือแล้วเหวี่ยงมันไปสุดแรง ความเร็วลมที่ไม่อาจต้านทานได้ราวกับพยายามช่วยส่งเสริมพลังอันมหัศจรรย์ในการขว้างลูกบอลกระดาษและแล้ว...

     

    โต้มมมมมมมมมม

     

     

    HEADSHOT!!!

     

     

    กบาล บึ้ม!!!!!!!

     

    “คิมจงอินไปยืนขาเดียวคาบไม้บรรทัดหน้าห้องโทษฐานแกล้งเพื่อน”

     

    แล้วทำไมไม่มีใครบอกว่าครูหันมาพอดีคะ รักส์พวกมึงจังเพื่อน (ส่งสัญลักษณ์รูปหัวใจไปให้ครู พร้อมกับทำหน้าอบอุ่นให้คนในห้อง)

     

     

    “แกดูดิยืนคาบไม้บรรทัดอย่างกับในการ์ตูนอ่ะ”

    “เออใช่ สมัยนี้ยังมีอยู่อีกหรอ ตลกเนาะ”

    “ใช่5555

     

    คือถ้าแม่คุณจะนินทาก็ช่วยไปคุยกันไกลๆไม่ได้หรอครับ อะไรคือมายืนวิจารณ์กูแบบนี้ ฮัลโหลลล  แถมยังหัวเราะร่วนกันครึกครื้น นี่มึงบันเทิงมากป้ะครับ  โอเคในที่สุดผมก็มายืนแห้งขาเดียวเหนี่ยวกินลมพระพายเอาอาวุธวิเศษพัดเข้ามาออกลูกเป็นหนุมาน เย้!

    ไม่ใช่โว้ย อะไรคือการที่ผมต้องมายินคาบไม้บรรทัดเป็นการ์ตูนสี่ช่องลืมทำการบ้านได้ละคุณ!  อ๋อ เป็นเพราะบุญวาสนาที่คุ้มกะลาหัวไอเหลือกไว้แน่ๆถึงทำให้ผมมาอยู่ในสภาพดูเวทนาเช่นนี้

    เดี๋ยวพ่อมะเหงกให้

     

    เฮ้ย!ไม่ได้ดิ อย่าลืมสิจงอิน ไอเหลือกเป็นแฟนเราๆๆๆๆ จำไว้ ห้ามทำร้ายแฟน

     

    โอเคหลังจากบำบัดจิตเสร็จ เสียงระฆังก็ดังขึ้นช่วยชีวิตที่ติดอยู่กับที่มาแสนนาน ครูที่ปรึกษาหน้ายักษ์เรียกให้ผมเข้าไปในห้องตามเดิม ไม่ลืมที่จะฟาดก้นให้อีกที นี่ถ้าเกิดแบบนี้อีกจะให้ไอชานหยอยมันอัดคลิปประจานลงยูทูบแมร่ง(ท่ดๆ)

    ซึ่งทันทีที่เหยียบเข้าไปในห้องสายตาคมก็พลันไปเห็นร่างเล็กตาแหกที่นั่งติดหน้าต่างมองมาพร้อมยักคิ้วให้อย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า  อดไว้ลูกนั่นแฟนมึงไคนั่นแฟนมึงๆๆ

     

    คิดได้นั้นเลยเดินกลับไปนั่งที่ แต่มิวายตาห่านี่ก็หันไปมองไอเหลือกมรณะเป็นรอบที่สอง

     

    มันแลบลิ้นใส่เอาะ...

     

    ย่นจมูกใส่พลางขยับปากเป็นรูปเรียวตีน ความคิดจรรโลงรังสรรค์ให้ในหัวนึกถึงเรื่องราวในอนาคตที่อีกฝ่ายจะต้องโดนอะไรบ้าง

     

    เสร็จกูแน่ อ้ายเหลือกกกกกกกกก












    100%


    TBC


    ไคย่าจะทำอัลไลอี้ก หนูเหลือกนี่ก็ใช่ย่อย
    1เมนต์ = 1แรงผลักดันในชีวิตเน้ออ
    ขอบคุณทุกยอดวิวและยอดแฟนแฟบ ขึ้นถึงร้อยนี่ก็แทบร้องแล้วจ้า
    ขอบคุณมากๆจริงๆนะ รักส์

    © themy  butter
    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×