คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 01 NEW - K A I - ๑๐๐%
"นี่เด็กใหม่ๆถามอะไรหน่อยสิ"
"อะไรหรอ..."
"มีแฟนยัง?"
"ฮิ้วววววววววววว/หง่ววววววววววว"
นี่ก็ผ่านมาครึ่งวันแล้วที่มีเด็กผู้ชายตากลมมาเพิ่มในห้องเรียนชั้นมอห้าทับสิบแต่
เพื่อนๆคนอื่นๆก็ยังคงให้ความสนใจกับเด็กใหม่จนผมรู้สึกว่ามันจะมากเกินเหตุไป 'มึงนั่นคนนะไม่ใช่ม้ามีนอ' ผมอยากโพล่งคำนี้ไปกลางวงมากแต่เมื่อลองมานับตีนดีๆแล้ว....
อยู่เงียบๆดีกว่า.....ภายใต้การรุมล้อมเห็นเด็กใหม่ทำหน้าเอ๋อๆกับสิ่งที่ไอ้หัวโจกประจำห้องเพิ่งพล่ามออกมา...เอะนั่นๆ
มันกระซิบกระซาบกันภายในวงด้วย...ผมไม่ได้ขี้เสือกอะไรขนาดนั้นเลยนั่งอยู่กับที่แล้วกางหูออก......
สักพักมันก็หัวเราะออกมากัน....สายตาพลันไปเห็นเสี้ยวหน้าคนตัวเล็กยิ้มร่า....
ตึก ตึก ตึก
หัวใจผมมันเต้นแรง...จนแทบจะหลุดออกมาถ้าทำได้
อะไรกัน ผมเป็นอะไรไป....
"ไอ้จงอินมึงเป็นไร...ทำหน้ายังกับไปทำผู้หญิงท้องมา"
"ถุย!บอกมาว่ามึงใช่หูมึงคิด" ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะค้อนเล็กเป็นเชิงตำหนิ
"หูพ่อง! ก็กูเห็นหน้ามึงแปลกๆ"
ปาร์คชานยอล
เพื่อนสนิทของผมครับเด็กที่เรียกได้ว่าหูนี่แทบจะรับสัญญาณดาวเทียมได้....จานหอผมว่าใหญ่แล้ว
มาเจอหูเพื่อนผมนี่แม่งเล็กไปเลย
"เออนั่นดิมึงเป็นไรวะ..."
นี่ก็อีกคน
เซฮุนคนขี้เสือกประจำกลุ่มบอยแบนด์ของผม
เห็นหน้าตาหล่อเหลาแบบนี้แต่แม่งไม่เคยมีคนมาจีบเลยแม้แต่คนเดียว
แต่ช่วงนี้รู้สึกจะมีรุ่นพี่คนหนึ่งกิ๊กๆกับมันอยู่ คล้ายๆว่าจะชื่อ ลู่หาน
อะไรซักอย่าง ผมล้ะสงส้ารสงสารพี่คนนั้นจริงๆ
"ไม่ได้เป็นไรเว่ย...แค่หน่ายๆ"
"?" มันสองคนไม่ได้พูดอะไรแต่ส่งใบหน้าเชิงคำถามโง่ๆมาให้
"ก็ไอเหลือกนั่นแม่งโดนมะรุมมะตุ้มซะยังกับแม่งมีปีก.."
"อิจ?"
"ไม่ใช่โว้ย กูแค่เห็นแล้วเหนื่อยแทน"
ผมตอบมันสองคนไป อิจฉาบ้าบออะไร้ ทำไมผมจึงต้องอิจฉามันด้วย?
"มึงก็ไปช่วยมันดิ เส้นใหญ่ไม่ใช่หรือไง"
ไอเซฮุนพูดเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ ใครจะไปทำแบบนั้นได้วะ
เห็นๆอยู่ว่าไอเหลือกนั่นดูมีความสุขจะตายไป หนะ
ยิ้มจนตาที่เหลือกๆนั่นจะปิดอยู่แล้ว เห็นแล้วหงุดหงิดเป็นบ้า เอะ
แล้วนี่ผมจะโมโหมันทำไม
"ตลกเหอะ กูไม่เอาตัวเองไปช่วยฉุดมันหรอก"
"อ๋อหรอจ้ะ" ไอเพื่อนเวรสองตัวนี่ก็ประสานเสียงกันดีจริง
หึ!รอให้ถึงตาผมเอาคืนเมื่อไหร่พ่อจะเหยียบให้จมเลย...
เลิกเรียน
หนึ่งวันกับการเปิดเทอมอันหน้าเบื่อจบไปด้วยความน่าเบื่อ
ครูนี่ก็สั่งจังเลยการบ้านเนี่ยรู้ก็รู้ว่านักเรียนทำไม่ได้ก็ยังจะสั่งอยู่นั่นแหละ
ผมยัดสมุดใส่กระเป๋าที่เรียกได้ว่าไม่ต่างอะไรกับถังขยะดีๆ
พลันสายตาก็ดันหันไปมองคนตาโต
ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก
พึ่บ
ผมรีบหลบหน้าอย่างรวดเร็วเพราะจู่ๆมันก็แหงนตาขึ้นมาเห็นผมซะอย่างนั้น
ไม่ได้นะคิมจงอินนายห้ามหันไปมองไอ้นั่นอีก
เวรตะไลหัวใจไม่เชื่อฟัง ผมหันไปมองมันอีกรอบ ไอเหลือกก็ดันมองผมอยู่ซึ่งพอผมมองไปหามันมันก็ยิ้มให้ผม..
โอ้มายกอด!คิมจงอินขอยาดมทีรอยยิ้มที่ได้มามันช่างเจิดจ้าอลังการบานตะไท
ผมไม่ปล่อยเวลาให้เลยเปล่าเลยรีบหยิบกระเป๋าออกจากเก้าอี้แล้วชิ่งออกนอกห้องไปเลย
บ้าไปแล้วนะคิมจงอิน นายไม่เคยหวั่นไหวกับใครมาก่อนไหงพอไอเหลือกนั่นเข้ามาในชีวิตเขาถึงกลายเป็นแบบนี้ได้
ใช่แล้วมันต้องทำยาเสน่ห์แน่ๆ ถุย! ผมนี่ชักสมองหายแล้วพอๆหยุดคิดเรื่องไอเหลือกแล้วกลับบ้านดีกว่า
เพราะตอนนี้รถเมล์ก็ใกล้มารับแล้ว
บนรถเมล์
ผมขึ้นรถเมล์ได้ทันมองดูนาฬิกานี่ก็ใกล้เวลารถออกแล้วแต่ก็ยังไม่ขยับไปไหนซักที
พอแหงนตาขึ้นมาก็เห็นคนตัวเล็กคนหนึ่งรีบวิ่งมาขึ้นรถ ผมจะไม่ตกใจเลยถ้าคนนั้นไม่ใช่ไอเหลือก
ชิบ!
เหมือนหนีผีแล้วผีตามมา(ดูมันเปรียบเทียบ)รีบหันไปมองที่นั่งข้างๆ
เอ้าไอห่าเสือกว่างซะงั้น ไอเหลือกก็ขึ้นมาแล้วกำลังมองหาที่นั่งถ้าเกิดมันสแล๋นมานั่งข้างผมล่ะ
"นายๆเราขอนั่งด้วยได้มั้ย"
นั่น!พูดไม่ทันขาดคำฮิมก็มาอยู่ต่อหน้าผมเรียบร้อย
"อะ เอ่อ ดะ ได้ ได้สิ"
ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปผมเลยปล่อยๆให้มันนั่งๆไป
แต่แอบหวั่นไหวอยู่ดี
"ขอบใจนะ"
นั่น
แม่งยิ้มเจิดจรัสอีกแล้วแถมยังส่งตาซึ้งๆมาให้ผมอีก ย่าาาา คิมจงอินจะละลายเอ้ย
บ้าตาย
พอรถออกปุ๊บผมก็รีบหันหน้าออกไปชมนกชมไม้ข้างทางที่ทั้งๆที่รู้ดีว่ามันมีอะไรบ้างจนจะพากย์ได้...ขึ้นมาเป็นปีเป็นชาติไม่รู้ก็แปลกละ
ปกติที่นั่งข้างๆผมจะว่างเสมออาจเป็นเพราะหน้าผมหล่อเกินไป(?)เลยไม่มีใครกล้ามาบดบังรัศมีแต่ก็ได้ยินเค้าพูดกันมาว่ากลัวนั่งข้างๆแล้วสีตกซึ่งอันนั้นผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน
ผมตกอยู่ในห้วงความคิดอันเพ้อฝันเถียงกับตัวเองไปเรื่อยเปื่อยจนแขนของคนข้างๆเริ่มขยับมาชนผม
"โอ้ะ ขอโทษนะพอดีเราจะหยิบหนังสือจากกระเป๋านะ"
พอเห็นผมหันหน้าไปแบบนั้นไอเหลือกก็รีบขอโทษพันลวันจนคนข้างๆเขาหันมามองเชิงว่า'พวกมึงมารยาทดีไปมั้ย'
ผมส่ายหัวไม่เป็นไรพร้อมหันไปมองวิวต่อ
"เอ่อ...เราชื่อโดคยองซู
เรียกว่าโด้ก็ได้"
คนข้างๆเอ่ยประโยคมาทำลายวิวอีกครั้งซึ่งมันก็ได้ผลมากทีเดียวสำหรับผม
"นายล่ะชื่ออะไร?"
แถมยังเปิดประโยคคำถามให้หวั่นไหวอีก
"คิมจงอิน...เรียกไคก็ได้"
"ไค..."
"อืมไค...ชื่อฉันเองมันไม่ค่อยมีคนเรียกเท่าไหร่"
"ดีจัง...ถ้าอย่างนั้นเราขอเรียกนายว่าไคนะมันดูพิเศษดี"
"เอาเหอะ"
ผมพูดเสร็จก็หันไปมองวิวต่อ ส่วนไอเหลือกก็ชอบพูดนั่นพูดนี่
ส่วนมากก็เป็นเรื่องของตัวเอง ถ้าถามว่ารำคาญไหม ตอบได้ว่ามากๆ แต่มันก็รู้สึกดี
สำหรับไอเหลือกนี่นะไม่ว่ามันจะพูดอะไรผมก็รู้สึกไม่เบื่อหรือรำคาญอะไรมันเลย
ทั้งๆที่ปกติจะต้องตวาดแม่งให้หุบปากไปแล้วถ้าเจอแบบนี้ แปลกนะ
มันเหมือนกับเป็นเสียงเพลงเพราะๆ เสียงหวานๆ ใสๆ เล็กๆ
(ทั้งที่ความจริงเสียงแม่งใหญ่ชิบหาย)
เมื่อมันเห็นผมไม่ตอบอะไรกลับไปมันก็เลยเงียบไปบ้าง
ทีนี้ก็เริ่มอึดอัดเลยครับ พอผมเงียบมันเงียบ
มันก็เลยดูมาคุแปลกๆ จะให้ผมพูดอะไรละ เล่าเรื่อง นิทาน อัตชีวประวัติ
มันไม่ใช่สไตล์ผมเลย
5นาทีผ่านไป
อึดอัดโว้ยยยย มันเงียบเกินไปจะหันไปคุยก็ไม่ได้
กลัวตายคาสายตานั่นเห็นทีต้องพล่ามๆอะไรออกมาบ้างแล้ว
"วิวนี่สวยดีจังเลยเนอะ"
เยทททททหลุดไปแล้วผมพูดมันออกมาแล้ว
"ไหนหรอๆ"
เหมือนคิดผิดยังไงไม่รู้ซึ่งเมื่อผมพูดไปแบบนั้นไอเหลือกก็รีบชะโงกหน้าจากที่นั่งด้านนอกเพื่อที่จะมองวิวที่ผมบอก
ต้นคอขาวระหงที่อยู่ในระดับสายตาผมมันช่างยั่วกิเลสเสียเหลือเกิน ช่วยจงอินด้วย
ช่วยระงับฮอร์โมนที่พลุ่งพล่านของจงอินหน่อยเถอะ
ยังดีที่ฟ้าเห็นการอ้อนวอนของผม
ทำให้ต้นคอขาวๆนั่นกลับไปสแตนบายที่เดิม
"สวยจริงด้วยเหมือนที่ไคบอกเราเลย"
"..."
"ไค..."
"...."
"ไคย่าาา"
"เอ๊นี่พูดแบบนี้วอนส้นกูแล้ว.."
"555ในที่สุดไคก็ยอมพูดกับเราแล้วเนอะ
"พูดเพิดอะไรเพ้ออออออ..
"5555"
ไอเหลือกหัวเราะร่าไปตลอดทางกลับบ้านจนผมคิดว่า
แม่งบ้ารึเปล่าว้ะ จนรถเมล์มาหยุดอยู่ที่ป้ายที่ผมต้องลงซักที
"ถึงซอยคอนโดกูละ.."
ผมบอกไอเหลือกที่แม่งนั่งยิ้มอยู่พลางเดินลงจากรถเมล์เนื่องจากที่นั่งผมใกล้กับประตูทางออกจึงสามารถลงได้อย่างรวดเร็ว
"นี่ป้ายไหนหรอ..."
"xxx"
"เฮ้ย นี่มันซอยคอนโดเรานิ
ไปด้วยๆ"เสียงตะโกนไล่หลังพร้อมกับมันที่รีบวิ่งตามผมลงมาจากรถเมล์แล้วก็เรียกให้รอมันด้วยๆอยู่นั่น...คือเป็นโรคขาดความอบอุ่นหรือไงครับ
"ไคอ่ะ..."
มันเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงหวานๆ
ไอผมก็ดันโง่เลยเขินกันไป ตามๆกัน
แต่มันก็ไม่นานเมื่อผมเร่งสปีดการเดินเพิ่มขึ้นเพื่อหนีไอเหลือกถนนลาดยางอย่างดีมันทำให้การเดินสบายขึ้นจนตอนนี้ผมแทบจะวิ่ง
แต่มันก็วิ่งมาตามทันจนได้พร้อมทั้งเอามือมากุมชายเสื้อย้วยๆของผมอีก
ผมเลยหันไปมองมัน
"ตะมายเหยอคิมไค.."
"...."
"แหะๆ"
ถึงจะมองไปด้วยสายตาคาดโทษแบบนั้นมันก็ยังไม่ยอมปล่อยชายเสื้อผมสักที
ผมเลยปล่อยเลยตามเลย
"ไค บ้านนายอยู่ไหนหรอ..."
เออว่ะแล้วนี่คอนโดผมอยู่ไหน
นี่ผมเดินมาเรื่อยเปื่อยไม่รู้ซอยไหนอยู่ไหนแล้วเนี่ย...
"เอ่อ..."
"หื้ม?"
ไอเหลือกทำหน้าทำตาคาดคั้นเมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมตอบมันไปซักที...
"..."
"ไค.."
"ไร?"
"นายความจำเสื่อมใช่มั้ย.."
เงิบแปป...
"ถึงว่า...จำคอนโดตัวเองไม่ได้"
จำไม่ได้พ่องงง
ก็เป็นเพราะมึงนั่นแหละที่เอาแต่อ้อนกูจนกูลืมว่าคอนโดกูอยู่ไหน(?)
"ถถถถถถ..น่าสงสารจังเลย
คิมไคตัวเล็กที่ลืมคอนโดตั..."
"ไม่ได้ลืมโว้ยยยย"ผมแหกปากกรอกหูไอเหลือกสายตาโง่ก็ดันไปเห็น...
หูขาวๆ...
"-///-"
"ไคย่าน่าแดงอ่ะ.." ไอเหลือทำหน้ากลั้นยิ้มส่งมาไอผมก็ดันเป็นคนขี้อ่อนไหวเลยเอามือสากๆมาลูบเบ้าหน้าตัวเอง
"หน้าแดงห่าไร...มึง เพ้อละๆ"
"โอเคๆ...ไม่แดงก็ไม่แดง.."
ถามจริงนะมึงพูดเฉยๆไม่เป็นช้ะ...แม่งทำหน้ายิ้มๆ
เหมือนมีความลับตลอดเวลา..ไหนจะตาโตๆอะไรนั่นอีก โอ้ยยยเห็นแล้วจะบ้า
เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรต่อเราเลยเดินเงียบๆลืมไปว่าต้องกลับบ้าน
พอคิดได้เลยใช้เวลานั้นมองไปรอบๆและพอดีที่สองขาของผมก็หยุดลงเมื่อรู้ว่าถึงบ้านแล้ว...
"นี่คอนโดกู..."
"อ่าวนี่มันก็คอนโดเราหนิ"
TALK:: ครบร้อยเปอร์เซนต์แล้ววจย้าาาาา รู้สึกว่าหนึ่งตอนเรามันน้อยมากเลอออ ยังไงก็ฝากติดตามฟิคบ้านๆตลาดๆเรื่องนี้ด้วยน้า
ด้วยรักและแทคแคร์
(เข้ามาจัดหน้าใหม่และตรวจคำผิดงับบบ) 31/5/15
ความคิดเห็น