คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อาทิบท:การฟื้นคืนของจ้าวอสูร
“ม.....ไม่จริงน่ะ นั่น.....นั่นมันอะไรน่ะ เจ้าเห็นอย่างที่ข้าเห็นมั้ย” โจรป่าคนหนึ่งถามเพื่อน
“ม......ไม่รู้ดิ นั่นมันเครื่อง...กล่อง....หรือ...ข้าก็ไม่รู้ว่าจะเรียกมันว่าอะไรว่ะ” อีกคนตอบ
มันเป็นเครื่องจักรผ่านมิติที่บรรทุกใครบางคน ที่ดูแข็งแกร่ง ทรงพลัง.........และแปลกไปจากผู้คนในยุคสมัยนี้อย่างสิ้นเชิง
และใครคนนั้นจะมาเปลี่ยนแปลงที่นี่ ให้แตกต่างไปจากที่เคย
เช้าวันต่อมา
“อืม.....อากาศบริสุทธิ์ตอนเช้า....” โจวบ้อฮุย ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์หลังจากตื่นนอน นั่นคือสิ่งที่เขาชอบทำที่สุด บ้านไม้ของเขาอยู่กลางป่า เขาไม่อยากอยู่ในเมือง ไม่ใช่ว่าเขาอยากอยู่อย่างสันโดษ แต่เขาอยากจะหนีจากเมือง เมือง...ที่เขามีอดีตกับมันมากมาย ทั้งเรื่องดี และเรื่องร้ายๆ
กี่ปีแล้วนะ ที่เขาสูญเสียในสิ่งที่เขารักไปหลายๆ ในเวลาเดียวกัน ทั้งความสามารถทางกาย ที่เคลื่อนที่ได้เร็วดังใจนึก ดวงตาทั้งสองดวง ที่เคยเป็นสิ่งที่เขาภาคภูมิใจในสิ่งที่เรียกว่า “เนตรหมื่นโยชน์” ที่สามารถมองได้ไกลเป็นไมล์ๆ เป็นนักหนา อีกทั้งพลังปราณ แม้อายุจะยังไม่ถึง 30 แต่ด้วยวิชา “หัตถ์สูบปราณ” ของ “มารขาว” จอมอสูรยุทธภพแห่งศตวรรษ มันดูดพลังปราณของเขาไปจนหมด แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น มารขาวก็สูญสิ้นพลังกายไปอย่างรวดเร็ว จากการโจมตีของเหล่าสหายร่วมยุทธภพของโจวบ้อฮุย ภาพสุดท้ายของมารขาวที่ชาวยุทธได้เห็น นั่นคือ มันค่อยๆยกมืออย่างไร้เรี่ยวแรง ด้วยแรงเฮือกสุดท้ายของมัน มันพยายามสร้างกลุ่มหมอกเล็กๆขึ้นมา....แต่นั่น ก็เพียงพอแล้วสำหรับการหลบหนีของมัน ทว่า มีผู้พบร่างไร้วิญญาณของมารขาวอยู่ที่ใกล้ป่าทางตะวันออกในเวลาต่อมา....
นานเหลือเกิน......สิ่งที่เขาสูญเสียไปนั้น....มันช่างล้ำค่า และในตอนนี้ เขาก็ต้องการนำมันกลับคืนมา ปราชญ์ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า “หากไม่สูญเสียสิ่งใดๆไป ก็มิอาจรู้ถึงคุณค่าของสิ่งๆนั้นได้เลย” แต่ว่าไม่ว่าอย่างไร มันก็คงไม่อาจจะกลับมาหาเขาได้อีกครั้ง แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง เขาก็ได้อีกสิ่งหนึ่งตอบแทนมา นั้นคือ “ความสงบ” ที่จอมยุทธ์หลายๆคนไม่มี เพื่อหลุดพ้นจากวัฏจักรนองเลือดที่ถูกขับเคลื่อนโดย “ความแค้น” ที่ดำเนินต่อๆกันมานานนับศตวรรษ แม้เพื่อนร่วมยุทธภพของโจวบ้อฮุยหลายคนจะได้หายสาบสูญไปในการต่อสู้ครั้งนั้น ทั้ง “หัตถ์ลมเหนือ”เซียวน่ำเฟย ,“ภูผาไร้เงา” หลี่ไท้เจี่ย หรือ “พรตคิ้วขาว” โค่วยู้เก็ง ........สหายเหล่านั้นเป็นทั้งสหายร่วมรบและสหายร่วมวงเหล้าที่เป็นคนสำคัญของโจว เขาควรจะยินดีที่เขาได้ในสิ่งที่ชาวยุทธ์แทบทุกคนควรค่าที่จะได้มันมา แต่เขายอมที่จะใช้ชีวิตแบบชาวยุทธ์ที่ไร้ความสงบ มากกว่าที่จะต้องสูญเสียสิ่งสำคัญมากมายขนาดนี้
“ตุบ....ตุบ....” เขาได้ยินเสียงใครบางคนกำลังเดินมาบ้านเขา และเขาก็ “รู้” ได้โดย “เนตรจิต” ว่าใครกำลังมา
“พี่โจวววววววววววว อยู่มั้ยเอ่ย......” เสียงสดใสดังมาแต่ไกล เซียวฮั่วเซาะ น้องสาวของ “ภูผาไร้เงา” สหายรักของโจว ที่มาหาโจวบ่อยๆ เพื่อมาอยู่เป็นเพื่อนโจวทุกวัน
“ฮั่วเซาะ มาแล้วรึ วันนี้มาแต่เช้าเลยนะ”
“จ้ะ พี่โจว วันนี้เข้าเมืองกับชั้นหน่อยสิ นะๆๆๆๆๆๆๆ”
“......เธอก็รู้ว่าพี่ไม่ชอบที่นั่น......”
“เอ่อ....ชั้นรู้จ้ะ พี่โจว แต่ว่า...ฉันมี “ใครบางคน”ที่อยากให้พี่โจวรู้จักน่ะจ้ะ”
“ใครล่ะ”
“เอ่อ ชั้นก็เพิ่งเคยเห็นเขาอ่ะนะ ที่จริงก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครเห็นเขามาก่อนเลยล่ะ....เขาเป็นคนแปลกๆ สวมชุดแปลกๆ เขาอาจจะมาจากต่างแดนก็ได้นะ แต่ที่แน่ๆ เขาเก่งมากๆ เลยล่ะ เขากำลังเปิดศึกกับ “จอมดาบเมฆาทมิฬ” จ้าวฮั่วเจี่ย อยู่อ่ะจ้ะ แล้วดูท่าเขาจะได้เปรียบด้วยนะ”
“แล้วยังไงล่ะ” โจวถามกึ่งรำคาญ
“แต่ที่สำคัญคือ เขาบอกว่า เขารู้จักมารขาว แล้วเขาก็รู้ด้วยว่า มันยังไม่ตาย.......”
คำพูดสุดท้ายเพิ่งจะทำให้เขาสนใจ มันยังไม่ตายงั้นรึ แต่เขาเป็นคนพบศพมันเป็นคนแรกนี่นา เจ้าคนแปลกหน้านั่นคงจะโกหก แต่มันจะโกหกทำไม หรืออาจจะอยากแค่สร้างกระแส.....
“เอาล่ะ ไปก็ไป...”
“จริงหรอจ๊ะ พี่โจวใจดีจัง ไปกันเถอะๆ”
เสียงของสาวน้อยสดใส แต่จิตใจของโจวกำลังขุ่นมัว
“เป็นไปไม่ได้....มันยังไม่ตายรึ....” โจวคิดในใจ
ความคิดเห็น