ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ByakuYoru : You Is My REAL Love •

    ลำดับตอนที่ #3 : EP.1 : พบกันอีกครั้ง เบียคุยะและโยรุอิจิ ความรู้สึกวุ้นวายในใจ

    • อัปเดตล่าสุด 5 เม.ย. 56


       คือ... ผมอยากจะบอกว่า...ฟิคนี้อ่ะมันก็มีส่วนเกี่ยวกับอนิเมะอยู่บ้างและไม่เกี่ยวบ้าง...  และฟิคนี้พวกอิจิโกะอาจจะมีบทอยู่บ้าง(แต่ก็ไม่มากเท่าน้องเกะ) ก็แค่นี้แหละครับ จบแล้ว...

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

       ณ หน่วยที่ 6

       เบียคุยะและเร็นจิเพิ่งนั่งเคลียร์เอกสารกองเบ้อเร้อเสร็จไปหมาดๆ ก็มีผีเสื้อนรกบินมาบอกว่ายังเหลืองานของหน่วย 6 ที่หน่วย 8 อีก เนื่องจากยมทูตหน่วยนั้นมันดันยกไปผิดกอง เบียคุยะทำหน้าอารมณ์เสียเล็กน้อย

       “เร็นจิ... เจ้าช่วยไปเอาเอกสารที่หน่วย 8 มาให้ข้าทีสิ”เบียคุยะพูดเสียงเรียบ

       “ได้ครับ งั้นรอเดี๋ยวนะครับ”เร็นจิลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

       “งั้นข้าพักซักเดี๋ยวแล้วกัน”เขาพูดกับตัวเองแล้วฟุบลงไป ไม่นานเบียคุยะก็หลับไปอย่างไม่รู้ตัว

       + ในฝันของเบียคุยะ +

       “เบียคุยะ.. มีแขกมาพบเจ้าน่ะ”เสียงของ คุจิกิ งินเรย์ ผู้เป็นปู่ของเบียคุยะดังขึ้นจากด้านหลัง

       “แขกหรอครับ?”เบียคุยะหันไปมองหาต้นเสียง ทันใดนั้นภูเขานุ่มนิ่ม(?)ขนาดมหึมา(หน่านี้!)ก็พุ่งเข้าชนที่หน้าของเบียคุยะ

       “ไปให้ผ้นเลยนะ..ยัยแมวผี !!!”เบียคุยะตวัดดาบไปหาเจ้าของหน้าอกนั่น  แต่เจ้าของร่างก็หลบได้อย่างชำนาญ

       “ยัยแมวผี... เจ้าบ้านตระกูลคุจิกิทักแขกอย่างนี้หรอเนี่ย” – โยรุอิจิ

       “หนวกหูจริง !!

       “เราอุตส่าห์แวะมาเล่นด้วยทั้งทีนะ.. ~

       “เงียบไปเลย ข้าไม่เคยขอให้เจ้ามาเล่นกับข้าเลยซักครั้ง!

       “จะแน่หรอ...”โยรุอิจิใช้ก้าวพริบตาเข้าไปแย่งเชือกรัดผมของเบียคุยะ

       “แก !”เบียคุยะตวัดดาบใส่

       “เราเอาเชือกรัดผมของเจ้ามาแล้วนะ.. จะยอมงั้นหรอ ?”เธอขึ้นไปยืนอยู่บนหลังคาแล้วยิ้มเยาะให้เบียคุยะ

       “ไม่มีวัน ! อยู่ตรงนั้นนะโยรุอิจิ ถ้าวันนี้ข้าไม่ได้หวดเจ้าข้าต้องนอนไม่หลับแน่ !”เบียคุยะกำดาบไม้ในมือแน่นแล้วกัดฟัดกรอดๆ

       “คุจิกิ เบียคุยะ... พ่ายแพ้แล้ว”พูดจบก็แว๊บหายไปทันที

       “โยรุอิ !!”เบียคุยะตะโกนแต่ความฝันนั้ก็ต้องยุติลง เมื่อ...

       “หัวหน้าคุจิกิครับ !”เสียงเรียกของเร็นจิปลุกให้ชายหนุ่มผมยาวสีรัตติกาลตื่นขึ้นจากความฝัน

       “เร็นจิ..เจ้ามาทำอะไร”เบียคุยะถามชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า

       “พูดอะไรแบบนั้นล่ะครับ หัวหน้าให้ผมไปเอาเอกสารมานะครับ ว่าแต่หัวหน้าหลับไปตอนไหนหรอครับ ?” - เร็นจิ

       “ข้าเองก็ไม่รู้... “

       “เมื่อกี้ผมเหมือนได้ยินหัวหน้าละเมอว่า โยรุอิจิกับยัยแมวผี อะไรซักอย่างน่ะครับ ฝันอะไรงั้นหรอครับ”เร็นจิถามอย่างสงสัย

       “เปล่าไม่มีอะไร.. ข้าจะออกไปข้างนอกซักเดี๋ยวนะ..”เบียคุยะชะงักเล็กน้อยก่อนพูดแล้วก็ก้าวพริบตาออกไปข้างนอกทันที

       “งานยังไม่เสร็จเลยนะครับ..”เร็นจิพูดแต่ไมทันเบียคุยะไปซะแล้ว

       “เมื่อกี้ได้ยินใช่มั้ยฟูสุเกะ... ที่หัวหน้าคุจิกิละเมอน่ะ”เร็นจิยิ้มกลิ่มแล้วหันไปพูดกับเด็กที่(แอบ)เข้ามาพร้อมเขา

       “อา..เต็มสองหูเลยแหละ ฝันถึงโยรุอิจิแน่ๆ”เด็กน้อยที่ยืนอยู่หน้าประตูยิ้ม

       “เห็นทีปีใหม่ครั้งนี้คงมีอะไรสนุกๆแน่ๆ”

       “นั่นสินะ หึหึหึ .... “

    ------------------------------------------------------------------------------------

       ตัดไปทางด้านเบียคุยะ ..

       เบียคุยะเดินทะเหลทะไหลไปในเมืองลูคอน ท่ามกลางถนนที่เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังจัดเตรียมงานสำหรับคืนนี้เพื่อรอคนที่มาเคาท์ดาวน์ได้เดินเที่ยวเนื่องในวันปีใหม่ บ้านเรือนและต้นไม้ถูกประดับประดาด้วยไฟหลากสีถึงแม้จะยังไม่ได้เปิดก็รู้ได้เลยว่าเมื่อท่อแสงแล้วมันจะงดงามมากๆ

       “สวัสดียามเย็นนะคะ หัวหน้าคุจิกิ ~”เสียงใสของหญิงสาวดังขึ้นต่อหน้าเบียคุยะ นามนั้นคือ มัตสึโมโต้ รันงิคุ

       “อืม.. สวัสดี”เบียคุยะพยักหน้ารับ

       “เอ.. ว่าแต่หัวหน้าคุจิกิมาทำอะไรแถวนี้หรอคะ”เธอถามอย่างเป็นมิตร

       “ข้าแค่มาเดินชมก่อนงานเริ่มน่ะ”เขาตอบเสียงเรียบเหมือนทุกครั้ง

       “นี่ๆ เจ๊รันนี่..เห็นเฮียฮิทสึมั่งเปล่า ?”เสียงห้วนๆเล็กๆใสๆดังขึ้นจากด้านหลังของเบียคุยะ

       “หืม.. ฟูสุเกะหรอ ไม่เห็นหรอกนะหัวหน้าน่ะหายไปตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้วล่ะ กำลังออกตามหาอยู่เหมือนกัน”เธอก้มลงไปพูดกับเด็กน้อย

       “อ้าว แย่จังแฮะ ว่าจะชวนไปวางแผนการเที่ยวงานซะหน่อย เฮ้ ! เฮียเบียคุยะ.. หวัดดีเน้ออ”ฟูสุเกะหันไปทักทายเบียคุยะอย่างเป็นมิตรแบบทุกครั้ง

       “อย่ามาเรียกข้าห้วนๆแบบนั้นนะฟูสุเกะ”ทำหน้าเย็นเยือกใส่เด็ก =3=

       “เอาน่าๆ  ผมเจอเฮียทีไรก็ทักแบบนี้ทุกทีนี่”ฟูสุเกะตอบ

       “หึ..”ทำหน้าเรียบเนียนกริ๊บ...
       “เอ่อ..งั้นฉันขอตัวนะคะหัวหน้าคุจิกิ ฟูสุเกะ”รันงิคุพูดจบแล้วก็เดินไปปล่อยให้ฟุสุเกะอยู่กับเบียคุยะ

       “อื้อ ! “ฟูสุเกะพยักหน้ารับแล้วโบกมือให้มัตสึโมโต้

       “....”เบียคุยะนิ่งไปซักพักแล้วก้าวเดินต่อไป

       “เดี๋ยวสิ .. ! เออ..นี่ๆเฮีย รู้มั้ยว่าวันปีใหม่อ่ะเป็นวันอะไร ?”ฟูสุเกะวิ่งตามไปแล้วถามขึ้น

       “วันปีใหม่ก็เป็นวันปีใหม่ไงล่ะ..”

       “ไม่ใช่อ่ะ ”

       “แล้วมันเป็นอะไรล่ะ ?”

       “โฮ่.. ไรเนี่ยอุตส่าห์จิ้นมาตั้งนานลืมไปได้ไง.. วันเกิดใครนึกให้ดีๆสิ...”ฟูสุเกะพยายามเตือนความจำที่ไม่รู้ว่าเบียคุยะจะรู้หรือเปล่าก็เถอะ

       “วันเกิดหรอ... “เบียคุยะทำหน้าครุ่นคิดอย่างหนักก่อนจะปิ๊งขึ้นมา

       “โยรุอิจิ..”

       “เหยดดด นั่นแหละอย่าลืมหาของขวัญนะเฮีย.. งั้นฉันขอตัวนะเอ้อ !”พูดจบมันก็วิ่งหายไปในกลีบเมฆ

       “ของขวัญงั้นหรอ...”ดูเหมือนเด็กตัวเล็กๆจะทำให้ป๋าเบียคุยะคิดหนักซะแล้ว

       “หึ..... ฝันเถอะข้าไม่เคยให้ของแบบนั้นกับใคร..แล้วก็จะไม่มีวันให้ด้วย แล้วถึงให้ไปจะได้เจองั้นหรอ..ไม่ได้เจอมาตั้ง 100 กว่าปีแล้วนี่ ”เบียคุยะพูดกับตัวเองแล้วเดินกลับไปที่คฤหาสน์ของตระกูลคุจิกิ

     

       เวลายามเย็นก็ล่วงเลยไปท้องฟ้าที่สีแดงเปลี่ยนสีและมืดลงในที่สุด.. บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยแสงไฟสว่างไสวไปทั่วทั้งเมือง เสียงผู้คนพูดคุยกันให้แซด ร้านอาหาร ร้านขายของ การละเล่นทุกอย่างเต็มไปหมดสมแล้วที่เป็นวันปีใหม่ ... เหล่ายมทูตทุกคนต่างเปลี่ยนเครื่องแบบการแต่งกายจากกิโมโนสีดำเป็นกิโมโนหลากสีและสวยงามทั้งนั้น

       “ฮู้ววว งานวันปีใหม่เนี่ยไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ยังมีอะไรน่าสนใจไม่เปลี่ยนเลยนะ~”อิคาคุพูดเสียงดัง

       “นั่นสินะ”ยูมิจิกะเข้ามาเสริม

       “ก็แบบนี่ทุกปีนี่นะ” – เร็นจิ

       “แต่เหมือนว่าปีนี้จะคึกคักกว่าปีก่อนๆอีกนะ”ลูเคียพูดแล้วมองไปรอบๆ

       “เฮ้.. ! นี่คุณคุจิกิ เร็นจิ ยูมิจิกะ อิคาคุ”หัวหน้าอุคิทาเกะยื่นโบกมือเหย่งๆให้ทั้ง 4 คนอยู่กับหัวหน้าเคียวราคุและหัวหน้าอุโนะฮานะที่อยู่ในคราบกิโมโน สวยๆหล่อๆกันทั้งนั้น

       “คร้าบบบบ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”อิคาคุตะโกนกลับแล้วทั้ง 4 ก็วิ่งไปหาหัวหน้าหน่วยที่ 13 , 8 และ 4

       “งานวันนี้เป็นไงมั้งล่ะ ~”หัวหน้าเคียวราคุถาม

       “สวยมากเลยค่ะ”ลูเคียตอบ

       “งั้นหรอๆ”เคียวราคุพูดไปยิ้มไป

       “นี่ ! ซุยฟง โยรุอิจิไปไหนแล้วเนี่ย !?”เสียงฟูสุเกะแหกปากโวยวายมาแต่ไกลเพราะหาโยรุอิจิไม่เจอ

       “ข้าจะไปรู้มั้ยเนี่ย ข้าก็อยู่กับเจ้าตลอดอ่ะ!!”ซุยฟงตะคอกกลับ

       “โถ่โฟ้ยย ดันหลงกันซะได้”ยังคงแหกปากต่อไป

       “หัวหน้าซุยฟง ฟูสุเกะคุงหาอะไรกันอยู่หรอคะ ?”หัวหน้าอุโนะฮานะเอ่ยถามเมื่อทั้งคู่เดินตรงมาเรื่อยๆ

       “อ้อ..หาโยรุอิจิน่ะฮะ เมื่อกี้ผมกับซุยฟงดันหลงกับโยรุอิจิซะได้”ฟูสุเกะบอกกับหัวหน้าสาวผมดำอย่างเป็นมิตร

       “ นั่นก็เป็นเพราะเจ้าดันซักช้าเองนั้นแหละ”ซุยฟงโยนความผิด

        “ที่ช้าน่ะเจ๊ต่างหากเล่า !?”ฟูสุเกะเถียงกลับ

        “ทั้งคู่คะ.. นี่มันใช่...เวลามา..ทะเลาะกัน..งั้นหรอคะ ?”หัวหน้าอุโนะฮานะพูดช้าๆและย้ำๆพร้อมกับยิ้มแสยะ ทำเอาทั้งซุยฟงและฟูสุเกะถึงกับสะดุ้งเฮือกใหญ่

        “ฉันคิดว่าคุณชิโฮอินคงตามหาพวกคุณอยู่แน่เพราะฉะนั้นฉันว่าพวกคุณก็น่าจะลองเดินไปหารอบๆงานพร้อมกับไปเล่นตามบูทต่างๆไปด้วยมันจะไม่ดีกว่าหรอคะ “หัวหน้าอุโนฮานะแนะนำ ซึ่งทั้งคู่ก็พยักหน้ารับอย่างเดียวด้วยความกลัว

        “งั้นฉันขอตัวนะคะ ไปกันเถอะคะหัวหน้าอุคิทาเกะหัวหน้าเคียวราคุ พวกคุณจะไปด้วยมั้ยคะ ? คุณคุจิกิ คุณอิคาคุ คุณยูมิจิกะ คุณเร็นจิ”หัวหน้าอุโนะฮานะหันหลังกำลังจะเดินไปแต่ก็เหลียวกับมาถามทั้ง 4 ก่อน

        “ไม่อ่ะครับ”เร็นจิ

        “อ..เอ่อคือผมคิดว่าจะไปดูบูทแถวนู้นซะหน่อยน่ะว่ามีอะไรเล่นบ้าง”ยูมิจิกะ

        “ผมเองก็จะไปกับเจ้าเร็นจิอ่ะครับ”อิคาคุ

       “ฉันเองก็คิดว่าฉันจะรอท่านพี่น่ะค่ะ”ลูเคีย

       แต่ละคนก็หาข้อแก้ตัวกันมาทั้งนั้นแล้วก็แยกย้ายกันไป

       “งั้นหรอคะ งั้นฉันไปนะคะ”แล้วเจ๊แกก็เดินไปโดยมีหัวหน้าอุคิทาเกะและหัวหน้าเคียวราคุตามไป

       “แล้วเราจะเอาไงต่อดีล่ะเจ๊”ฟูสุเกะหันไปถามคนที่อยู่ข้างๆ

       “ก็คงต้องทำแบบที่หัวหน้าอุโนะฮานะพูดแหละนะ”ซุยฟงตอบแล้วลากฟูสุเกะไป

       “ซุยฟงๆ อยากได้หน้ากากอ๊ะ น๊าๆซื้อให้ป๋มหน่อยนะ ”ฟูสุเกะที่โดนลากไปอ้อนให้ซุยฟงซื้อหน้ากากให้เพราะปกติเจ้านี่จะงอแงให้โยรุอิจิซื้อโน้นซื้อนี่ให้แต่ตอนนี้โยรุอิจิไม่อยู่... อ้อนใครได้ตรูก็อ้อนแหละฟร่ะ ฟูสุเกะก็เลยคิดแบบนี้

       “ฝันเถอะย่ะ...”ซุยฟงทำหน้าตาย

       “ง๊ากกกก แม่อ่ะหนูจะเอาๆๆๆ”งอแงร้องแหกปากเสียงดังเข้าไปอีก ทำเอาคนที่อยู่ในงานหันมามองที่ซุยฟงคนเดียว

       “ฟูสุเกะ ! อย่าดังได้มั้ยเนี่ย”ซุยฟงกระซิบ

       “ก็แม่ไม่ยอมซื้อหน้ากากให้หนูอ่ะ หนูจะเอาๆๆๆ”แหกปากไม่พอยังจะลงไปดิ้นกะแด่วๆอยู่กับพื้นอีก

       “โอเคๆ ข้ายอมแล้ว หยุดแหกปากได้แล้ว”ในที่สุดซุยฟงก็ต้องยอมจนได้

       “หึๆๆ”ฟูสุเกะยิ้มยี่ยวนกวนบาทาออกมา

       “เจ้าเล่ห์จริงนะไอเด็กเตี้ย !”ซุยฟงได้แต่กัดฟันกรอดๆในใจแต่ก็ยอมซื้อให้แต่โดยดี นับจากนั้นฟุสุเกะก็อ้อนเอาโน้นเอานี่ไม่หยุดจนตอนนี้เงินที่ซุยฟงมีแทบจะไม่เหลือแล้ว ถ้าไม่ซื้ออะไรให้ก็แหกปากงอแงเสียงดังแล้วลงไปดิ้นกะแด่วๆกับพื้นทุกที

       “ท่ายโยรุอิจิ ท่านอยู่ที่ไหนคะเนี่ยย ซุยฟงคนนี้เงินจะหมดแล้ว”เธอสิ้นหวังคนเดียวในใจ... 

     

       ตัดมาทางโยรุอิจิที่พลัดหลงกับทั้งคู่

       “ให้ตายสิ ฟูสุเกะกับซุยฟงไปไหนกันนะ นี่เราดูเดินทั่วงานแล้วนะเนี่ย”โยรุอิจิเดินวนไปวนมาอยู่ในงานพร้อมกับของที่ซื้อมาเต็มไม้เต็มมือ

       “ช่วยไม่ได้..งั้นไปนั่งรอดูดอกไม้ไฟก็แล้วกันงานจบค่อยตามหาพวกนั้นอีกที คนเยอะแบบนี้หาไม่เจอแน่ๆ”โยรุอิจิพูดแล้วเดินตรงไปที่กลังกระท่อมเก่าหลังนึงซึ่งคิดว่าเจ้าของบ้านคงไปเที่ยวงานหรือไม่ก็ไม่มีเจ้าของประมาณว่าถูกทิ้งร้าง

       “โอ้โห่.. วันนี้พระจันทร์ดวงใหญ่สะใจดีจังเลยนะ ได้มากินของอร่อยๆพร้อมกับชมพระจันทร์แบบนี้เนี่ยมันช่างสบายใจดีจริงๆ”เธอพูดแล้วหยิบของกินในถุงที่ซื้อมาเผื่อซุยฟงกับฟูสุเกะออกมากิน แล้วเธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้

       “ชมจันทร์หรอ... นึกถึงเจ้าหนูเบียคุยะขึ้นมาเลยน้า.. ปานนี้จะโตไปถึงไหนกันเชียว”เธอพูดออกมาแล้วก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงสมัยก่อนที่เธอกับเบียคุยะเล่นไล่จับกัน ในตอนที่เธอกำลังคิดถึงอะไรเพลินๆนั้นก็ได้มีเสียงประหลาด

        แก่ก !

    มีเสียงคนเหยียบกิ่งไม้ดังมาจากข้างหลังของโยรุอิจิ

        “ใครน่ะ !?เธอตะโกนถาม

        “นี่เจ้า... “โยรุอิจิเบิกตากว้างเมื่อร่างสูงโปร่งเดินออกมาจากเงามืดเผยให้เห็นชายหนุ่มผมสลวยยาวสีดำใส่ปิ่นปักผมของขุ่นนางชั้นสูงอยู่ด้วย

        “เจ้าหนูเบียคุยะ”เธอเรียกชื่อร่างที่อยู่ตรงหน้าเบาๆ

        “โยรุอิจิ...”เบียคุยะเองก็ตกใจเหมือนกันไม่คิดว่าจะมาได้เจอเธอในที่แบบนี้

        “เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ?”เขาเอ่ยถามโยรุอิจิ

        “ถามได้ เราก็มานั่งชมจันทร์แล้วก็รอดูดอกไม้ไฟไงเล่า”เธอพูดก่อนหันกลับไปนั่งลงตามเดิม

        “งั้นหรอ คงไม่รังเกียจใช่มั้ยถ้าข้าจะ..”เขายังพูดไม่ทันจบ

        “ตามสบาย”โยรุอิจิก็ตอบมาเสียก่อน

        เขาค่อยๆเดินไปนั่งข้างๆเธอและทิ้งระยะห่างไว้พอสมควร

        “เอ่อ.. ข้าไม่คิดเลยนะว่าจะมาเจอเจ้าที่นี่โยรุอิจิ”เบียคุยะชวนคุย

        “เราเองก็เช่นกันน่ะนะ”เธอตอบแล้วยิ้มแบบทุกที

        “นี่เจ้าหนูเบียคุยะ.. กินดังโงะหน่อยมั้ย ?”เธอถามแล้วชูดังโงะให้เบียคุยะ

        “ไม่ละขอบใจ แล้วอีกอย่างนะ..ก็เลิกเรียกข้าว่าเจ้าหนูได้แล้ว”เขาปฏิเสธแล้วหันหน้าหนีไปทางพระจันทร์แต่ก็แอบมีเหลือบๆมองนิดหน่อย

        “เอาน่า เรามีตั้งเยอะนะ.. แล้วไอที่บอกว่าให้เราเลิกเรียกน่ะมันทำไม่ได้หรอก มันติดปากมาตั้งนานแล้ว”โยรุอิจิยังคงยื่นดังโงะให้เบียคุยะอยู่ จนเบียคุยะต้องรับไปนั่งกิน

        “เอ..แล้วเจ้ามาที่แบบนี้ทำไมล่ะ?”โยรุอิจิถามชายที่นั่งกินดังโงะอยู่ข้างๆ

        “ข้าเองก็จะมาชมจันทร์พร้อมกับรอดูดอกไม้ไฟเหมือนกัน..”เขาตอบโดยที่หน้าไม่มองมาที่คนถามด้วยซ้ำ

        “งั้นสินะ”โยรุอิจิเงียบไปซักพัก ทั้งคู่นั่งเงียบกันไปพักใหญ่จน

        “เอ่อคือ.. !”ทั้งคู่พูดออกมาพร้อมกัน

        “เจ้าพูดก่อน”เส้นเสียงยังกระตุกพร้อมกันอีก...

        “เจ้าแหละพูดก่อน”รอบที่ 3 แล้วนะเฮ้ยย

        “เอ่อ.. ข้าว่าเจ้าพูดก่อนดีกว่า” - เบียคุยะ

        “ไม่ๆ เจ้าสิพูดก่อน” - โยรุอิจิ  ตอนที่ทั้งคู่กำลังเถียงกันอยู่นั้นระย่ห่างที่เบียคุยะทิ้งเอาไว้มันก็เริ่มหายไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง

         ตู้มๆๆๆ !

        เสียงจุดพลุดังขึ้นหลายๆครั้ง จนพลุเต็มทองฟ้า ทั้งคู่ก็หันควับไปดูพลุทันที และเงียบไปซักพักผ่านไปไม่กี่นาทีคูคาคุก็จุดพลุลูกใหญ่ที่เตรียมไว้ในสำหรับงานวันเกิดของโยรุอิจิโดยเฉพาะแล้วก็ตามมาอีกชุดใหญ่ ท้องฟ้าตอนนี้มีตัวหนังชื่อตัวเบ้อเร้อเขียวไว้ว่า                                                

        “Happy Birth Day Yoruichi From Fuusuke Soifon Kuukaku “ทำให้เจ้าของดวงตาสีอำพันอดที่จะยิ้มบางๆไม่ได้  

       “สวยจัง..”เธอพูดขึ้นลอยๆ

       “ใช่..สวย... สวยมากๆเลยด้วย”เบียคุยะเสริมแต่ดวงตานั้นไม่ได้มองไปยังพลุเลยแม้แต่น้อยกลับจับจ้องเพียงแค่ใบหน้าของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาและเธอเขยิบเข้ามาใกล้กันขนาดนี้

       “หือ...”โยรุอิจิหันไปมอง แต่เธอกลับหันกลับไม่ได้... ทั้งคู่สบตากันอยู่นานจนพลุโรยราและคูคาคุก็จุดใหม่อีกหลายดอก ดวงตาสีเทาจับจ้องไปยังดวงตาสีอำพันคู่นั้น ทั้งคู่เหมือนถูกต้องมนต์สะกดไม่สามารถเบี่ยงเบนสายตาหรือขยับไปไหนได้ ในใจต่างเต้นระรัวกันทั้งสองฝ่าย

        “ฮึ่ยๆ อย่ามัวแต่จ้องตาได้มั้ยเนี่ย !”พวกถ้ำมองบนต้นไม้อันไกลโพ้นบ่มพึมพำเมื่อเห็นภาพที่ทั้งคู่เอาแต่จ้องมองกันไม่ขยับไปไหน  

        “ไหนๆๆ ฟูสุเกะเอามาดูมั่งสิ”ถ้ำมองอีกคนพูดแล้วแย่งกล่องไป

        “อย่าเพิ่งสิ เร็นจิ!”เด็กน้อยแย่งกล้องคืน

        “นี่เงียบๆกันหน่อยสิถ้ำมองภาษาอะไรแหกปากซะเสียงดังเชียว”รันงิคุที่นั่งอยู่พูดขึ้นแล้วใช้กล้องที่เธอเตรียมมาเอาออกมาส่อง

        “เอ่อ... แล้วทำไมถึงได้มากันเต็มต้นไม้ต้นนี้เลยเนี่ย ต้นอื่นไม่มีแล้วรึไง”ฮิทสึกายะหันไปถามพวก ลูเคีย อิคาคุ ยูมิจิกะ  ยาจิรุ และคนอื่นๆอีกเยอะ

        “ก็ต้นนี้มันเห็นชัดที่สุดนี่ครับ..”ยูมิจิกะพูด

        “แล้วเรา..มาจิ้นเบียคุโยรุตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ?”ฮิทซึกายะถามอีก

        “ก็ตั้งแต่ที่ฟูสุเกะมาบอกว่าวันนี้จะมีฉากเลิฟซีนของหัวหน้าคุจิกินั่นแหละค่ะ~”รันงิคุตอบ

        “เอ... ว่าแต่มีใครเห็นเจ๊ซุยฟงมั่งป่ะ ?”ฟูสุเกะมองหาซุยฟงที่ไม่ได้เห็นมาตั้งแต่โยรุอิจินั่งจ้องหน้ากับเบียคุยะ

        “ไม่เห็นเลยนะ..”เร็นจิตอบ

        “ฮือววววว์ ม่ายน๊าาา ท่านโยรุอิจิ”เสียงกระซิกๆของซุยฟงดังขึ้นจากโคนต้นไม้

        “อ้าว..เจ๊ไปนั่งทำไรอยู่ตรงนั้นน่ะ”ฟูสุเกะห้อยหัวลงไปถาม

        “ท่านโยรุอิจิ ~~~”น้ำตาเล็ดน้ำตาล้วง

       “ช่างเหอะดูต่อดีฟ่า”ฟูสุเกะกลับขึ้นไปถ้ำมองตามเดิม

     
     -กลับไปหาโยรุอิจิกับเบียคุยะ-

      ทั้งคู่ยังคงจ้องตากันอยู่อย่างนั้น และบรรยากาศรอบๆก็เป็นใจลมโซยมาพัดเอาดอกไม้หอมปลิวมากับลม(จริงๆก็ฝีมือไอพวกถ้ำมองนั่นแหละ)

       “เอาเลยสิ... บรรยากาศขนาดนี้แล้วจูบสิ จูบ !”พวกถ้ำมองก็ลุ้นเต็มที่

       คราวนี้คงได้สมดั่งใจถ้ำมองเป็นแน่เมื่อเบียคุยะค่อยๆโน้มหน้าเข้าหาโยรุอิจิอย่างช้าๆ จนเกือบจะเมาท์ทูเมาท์แล้ว แต่..

       “ม๊ายยยยยย ท่านโยรุอิจิ !!!!”ซุยฟงดันเผลอโวยออกไปซะก่อน ขนาดที่ว่าทั่งทั้งโลกยังได้ยิน(เว่อ!)

       “ห๊ะ...”เบียคุยะตกใจชักหน้าของเขากลับมาอย่างรวดเร็วในขณะที่โยรุอิจิเองก็ตกใจไม่แพ้กัน

        “โถ่... ซุยฟง!”ถ้ำมองที่กำลังลุ้นหนักทำหน้าดุใส่คนข้างล่าง

        “พวกเจ้า..บังอาจซะจริงนะ...”เสียงเรียบเย็นเฉียบที่คุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลัง ...

        “เฮีย บ..เบียคุยะ”ฟูสุเกะเรียกชื่อคนที่อยู่ด้านหลัง “เผ่นละเด้อออ”เจ้าเปี๊ยกตัวต้นคิดวิ่งจู๊ดไปอย่างว่องไวในทันที

        “เฮ้ยย รอด้วยเซ่ฟูสุเกะ !!”เร็นจิ

        “อย่าหวังเลยว่าพวกเจ้าจะรอดเจ้าพวกถ้ำมอง..”เฮียแกพูดเสียงเรียบก่อนจะ... “จงโปรยปราย  เซมบงซากุระ”

        “จ๊ากกกกกกกกกกก”แล้วพวกก้ำมองก็เละ(เป็นโจ๊ก)

        จนกระทั่งงานเลิกทุกคน(ที่สะบัดสะบอม)ต่างแยกย้ายกันกลับ ฟูสุเกะและซุยฟงก็เจอตัวโยรุอิจิแล้วโยรุอิจิก็ลงโทษที่ฟูสุเกะไปถ้ำมองโดยการจับไปให้คูคาคุฟัดให้ตาย  ส่วนซุยฟงนั้นไม่ได้ถูกลงโทษอะไรเพียงแค่ขอโทษแล้วเรื่องก็จบกัน

       ณ คฤหาสน์คุจิกิที่อห้องของเบียคุยะ

          เบียคุยะนอนพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับเนื่องจากความกระวนกระวาย(เรื่องไรไม่รู้)

          “นอนไม่หลับเลย..ความรู้สึกว้าวุ่นในใจนี่มันคืออะไรกัน... “เขาพูดกับตัวเองที่นอนไม่หลับเพราะหลับตาลงทีไรก็เห็นแต่หน้าและดวงตาของหญิงสาวคนที่เขาไปนั่งด้วยในงานคนนั้น  “โยรุอิจิ..รู้แบบนี้ข้าน่าจะเตรียมของขวัญไว้ให้เจ้าซะก็ดี”เขาพูดแล้วข่มตาหลับ

     

    +++++++++++++++++++++ To Be Continue +++++++++++++++++++++


    อ๊ากกกก ในที่สุดตอนนี้ก็จบซักที พิมพ์ใน Word หมดไปตั้ง 9 หน้า ตอนนี้มันเยอะจังแฮะ .. เหอะๆ... แถมเขียนย่อหน้ายังไม่ตรงกันอีกเวรกรรม ..... ดันรีบจัด แต่ช่างมันเต๊อะ ไงก็ฝากติดตามด้วยนะครับ... 



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×