ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศิวาราษฎร์

    ลำดับตอนที่ #3 : บททดสอบที่ 3 : เอ่อ...มันมาจากไหนหว่า

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 52


    />

                ร่างยาวพาดขวางแม่น้ำ คำนวนโดยคร่าวๆคงเกือบ 2 เมตร ดวงตาแดงก่ำแลสบมายังสิ่งที่มันคิดว่าเป็นเหยื่อทั้งสอง

                    มันแสยะเขี้ยวเหลืองอ๋อยยาวกว่า 3 นิ้ว คล้ายกับกำลังพบเรื่องที่ขำขันถูกใจ

                    ศิวะผลักเจ้าพ่อแห่งปี 1 ออกไปให้พ้นทางก่อนจะย่างดุ่มเข้าไปหาร่างที่กำลังใช้หางอันทรงพลังตีน้ำเล่น

                    เฮ้ย เอ็งจะเข้าไปทำไมวะ อยากตายหรือไง!” ศาสตรามือเย็นตีนเย็นไปหมด ทำไมเมื่อเขาไปเห็นเจ้าตัวนี้ในสวนสัตว์ขณะที่มีรั้วรอบขอบชิดถึงไม่น่าขนพองสยองเกล้าเท่าตอนนี้กัน

                    ศิวะกระโจนเข้าไปหาเจ้าเขี้ยมร่างใหญ่ทันทีมือจ้วงแทงไปที่กลางหลัง

                    หางใหญ่สะบัดอย่างรวดเร็วกระทบเข้ากับลำตัวของเขาดังปึ๊ก! ร่างศิวะลอยหวือตกลงไปในน้ำจากแรงหางอันทรงพลัง

                    จรเข้ใหญ่กระโจนตามลงไปทันที เมื่อเหยื่อหลุดลงไปในอาณาเขตของมัน

                    เสียงน้ำแตกกระจากลู่เป็นทางยาว ร่างที่โผล่ให้เห็นแค่ตากับจมูกเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วไปยังจุดที่ศิวะตกลง ก่อนจะดำหายลงไปในน้ำ

                    บริเวณผิวน้ำเงียบสงบแต่ใต้ผิวน้ำกลับมีคู่คนกับสัตว์ร้ายกำลังห้ำหั่นกัน คมเขี้ยวที่มาพร้อมขากรรไกรอันแข็งแกร่ง พุ่งเข้ามาหาเขาขณะที่เขารีบหมุนตัวมาเผชิญหน้าหลังจากพลัดตกลงมา มันพยายามจะกัดเข้าที่บริเวณไหล่ขวาของศิวะ เพียงแต่เขาหลบไปได้อย่างฉิวเฉียดแต่นั้นก็ฝากรอยแผลจากคมเขี้ยวยาวกว่าศอก เลือดทะลักออกมาจากแผลทันที

                    เจ้าเขี้ยมดูเหมือนกับจะยิ่งบ้าคลั่งเมื่อได้กลิ่นคาวรีบเลือดวกตัวกลับมา พร้อมอ้าปากอันใหญ่โตตรงดิ่งเข้าหาศิวะ

                    มีดในมือของศิวะกระหน่ำฟันเข้าไปยังบริเวณจมูกที่เห็นได้ชัดก่อน เพียงแต่แรงต้านใต้ผิวน้ำกลับทำให้มีดเล่มนั้นทื่อลงมาก มันทำได้แค่เพียงให้สัตว์ร้ายตรงหน้าชะงักเพียงเล็กน้อย ก่อนจะโถมเข้าใส่ร่างศิวะอีกครั้ง

                    เขาตัดสินใจทิ้งตัวลงไปข้างหลังจนส่วนหัวของมันเลยไปและกระหน่ำแทงเข้าไปบริเวณท้อง

                    ได้ผล!

                    เกิดแผลเป็นทางยาวจากหน้าท้องกว่า 10 นิ้ว ทันใดนั้นมันก็พลิกตัวและลงไปดิ้นอยู่ใต้ท้องน้ำ

                    ศิวะรีบโผล่ขึ้นมาหายใจพร้อมกับว่ายไปริมฝั่ง ฉกาจเห็นดังนั้นจึงรีบเข้ามาพยุง

                    เลือดแดงฉานแผ่ไปทั่วบริเวณแหล่งน้ำ เพียงครู่หนึ่งร่างของนักฆ่าที่โรมรันกับศิวะใต้ผิวน้ำก็ลอยขึ้นมาในสภาพหงายแผ่นท้องขึ้น

                    บาดแผลกว่า 10 นิ้วที่ศิวะฝากไว้มีเลือดทยอยซึมออกมารวมถึงสิ่งที่คล้ายกับจะเป็นลำไส้

                    ศาสตราจ้องมองภาพเบื้องหน้าอย่างตกตะลึงและหันมามองบุรุษผู้ยืนอยู่ข้างเขา

                    จ้างเขาซักล้านให้ทำอย่างมันเขาก็ไม่ทำ!

                    ศิวะเก็บมีดเหน็บไว้ข้างหลังเช่นเดิม สวมใส่ชุดสำหรับดำน้ำอีกครั้ง ก่อนจะพยักหน้าให้ศาสตรารีบไป

                    เอ่อถ้ามันไม่ได้มีตัวเดียวล่ะ?” ศาสตราถามสีหน้ายัระบายไปด้วยความหวาดวิตก

                    ศิวะจับคางนิ่งเงียบเหมือนกำลังใช้ความคิดก่อนสั่นหัว

                    ฉันว่ามันาจะมีตัวเดียว ถ้ามันมีอีกเมื่อกี้เราทำเสียงเอะอะไปตั้งเยอะ แถมฉันยังได้แผล เลือดจากปากแผลของฉันน่าจะเป็นตัวล่อให้พวกรีบมากัน แต่นี่ยังไม่เห็นซักตัวศิวะกระโดลงไปในน้ำอีกครั้งก่อนกวักมือเรียกศาสตราที่ยังไม่ยอมลงไป

                    ฉันเหนื่อยแล้ว ถ้ามันมาอีก คราวนี้ตาแกล่ะ ศิวะพูดเบาๆก่อนดำหายลงไปใต้ท้องน้ำ ศาสตราได้ยินคำพูดสุดท้ายจึงรีบกระโจนตามลงไปก่อนจะดำหายไปอีกคน

                    ระยะทางตอนขากลับเท่ากันกับตอนขามาแต่ศาสตรากับรู้สึกอึดอัดใจ หนึ่งคือภาพการต่อสู้ที่เขาเพิ่งจะเห็นมาจะๆเต็มสองตา มันไม่ใช่การแสดงอย่างที่ในฟาร์มจรเข้เขาเล่นกัน แล้ววลีหนึ่งในภาพยนต์ชื่อดังก็ผุดขึ้นมาในหัว

                    นี่ซินะที่เขาเรียกว่า ไม่ใช้แสตนอินด์ ไม่ใช้ตวแสดงแทน นี่ซิของจริง!

                หลายครั้งที่ศาสตราต้องแอบมองไปยังทางเบื้องหลังที่เพิ่งผ่านมา เขากลัวว่าจะมีไอ้ตัวแบบที่เขาเพิ่งปะหน้ากับมันโผล่มาทักทาย

                    อีกหนึ่งที่เขากังวลคือชายตรงหน้า

                    นิสัยของหมอไม่ค่อยจะพูด แต่รู้สึกว่าเมื่อไหร่ที่เอ่ยปากจะเป็นอะไรที่เราเรียกว่าตลกร้ายเสียมากกว่า

                    หมอนี่มีความเป็นมาอย่างไรไม่มีใครรู้ รู้เพียงวันแรกที่เขาเจอกับหมอ มีอะไรบางอย่างที่เตือนเขาว่าอย่างไปเป็นศัตรูด้วยเป็นดี

                    โชคดีที่เขาเชื่อในสิ่งนั้น ไม่งั้นเขาอาจจะลอยไปตุ๊บป่องอย่างลูกพี่เขาเมื่อครู่ก็ได้

                    ร่างตรงหน้าหยุดกึกลงทำให้ศาสตราหยุดตาม

                    ภาพตรงหน้าคือดวงไฟหนึ่งหนึ่งดวงที่ตอนนี้สาดแสงมากระทบพวกเขา

                    รุ่นพี่ที่มาทำการฝึกพวกเขานั่นเอง

                    รุ่นพี่หยุดลงตรงหน้าสอบถามถึงเหตุการณ์ด้วยภาษามือ ศิวะตอบไปอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นคนมาใหม่จึงส่งภาษาให้พวกเขารีบว่ายตามเขาไป

                    เพียงครู่เดียวทั้งหมดก็โผล่ขึ้นมาเหนือสระที่ใช้ทำการฝึกอยู่ทุกวัน เสียงเฮดังลั่นรอบบริเวณสระ มีคนกว่าสิบล้อมรอบสระส่งภาษากันอย่างเจี้ยวจ๊าว

                    ลูกน้อง 5 คนของศาสตรารีบเข้ามารุมล้อมเขาขณะพวกเขาทยอยขึ้นจากสระ ต่างคนต่างแย่งกันซักถามเนื่องจากลูกพี่ของเขาหายไปกว่า 50 นาที ซึ่งถือว่าเกินกว่าที่กำหนดเอาไว้มากจนรุ่นพี่เกรงว่าทั้งสองจะได้รับอันตรายจึงตัดสินใจดำไปตามหาทั้งคู่

                    ส่วนพวกที่มาล้อมที่เหลือคือผู้ที่อยากจะมาดูปี 1 ในการทดสอบการดำน้ำครั้งแรก เมื่อทราบข่าวก็พลอยมามุงดูยืนลุ้นไปด้วย

                    ศิวะขอตัวเอ่ยปากขอตัวเมื่อหลายคนซักถามเหตุการณ์ ปล่อยให้ศาสตราเป็นคนที่บรรยายกับสิ่งที่พวกเขาไปเผชิญหน้ากันมา

                    เมื่อศาสตราบรรยายเสร็จก็พบว่าสีหน้าของหลายๆคนแปลกไป

                    หลายคนยังมีรอยยิ้มอยู่ในใบหน้าแต่แววตากลับฉายแววกังขา หลายคนมองสำรวจไปทางศิวะที่นั่งพิงฝากินน้ำอยู่ใกล้ๆ หลายคนทำท่าสยดสยอง และอีกหลายคนที่ทำหน้าเบ้คล้ายกับไม่เชื่อแต่เขาก็ไม่แปลกใจ

                    ถ้าเป็นตัวเขา คนอื่นมาเล่าให้ฟังเขาก็ไม่เชื่อเหมือนกัน แม้แต่ตอนนี้ขนาดเขาไปเจอกับตัวองเขายังไม่อยากจะเชื่อเลย!

                    กาญผู้เป็นหนึ่งในผู้คุมการฝึกขมวดคิ้วเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรก่อนจะบอกให้ทั้งหมดกลับไปยังที่พักเพราะพวกเขาจะทำการตรวจสอบเรื่องนี้เอง แต่ต้องเป็นวันพรุ่งนี้และหลังจากตรวจสอบและเก็บกวาดสถานที่เรียบร้อยแล้วจะให้ทำการสอบใหม่อีกครั้ง

                    ศิวะได้ยินดังนั้นจึงลุกขึ้นเดินออกไปเช่นเดียวกับศาสตราที่ขี้เกียจจะตอบคำถามซ้ำซากอีก ส่วนลูกน้องที่เหลือของศาสตราเมื่อเห็นหัวหน้าออกไปจึงค่อยๆทยอยกันกลับที่พักเหลือไว้เพียงพวกรุ่นพี่ที่กำลังถกเถียงกันอย่างสนุกปาก

                    พี่ศาสพี่ศาส แก้วสมุนมือขวาเดินตามมาจนทันและเรียกเจ้าของชื่อไว้

                    ศาสตราหยุดนิ่งและเลิกคิ้วเป็นคำถาม

                    ไอ้หมอนั้นมันมันทำได้เหรอ?” แก้วผู้ที่มีใจนับถือเขาราวกับพี่น้องร่วมสายเลือดหลังกปะทะกันในครั้งแรกที่เจอ ถามขึ้น

                    พวกเอ็งไม่เชื่อข้าเหรอ?” ศาสตราท้าวสะเอวขณะถาม

                    โถ่ ผมรู้ว่าพี่ไม่โกหกหรอก แต่ผมว่าถ้าจะมีเหตุการณ์อย่างนั้นพี่ตังหากที่น่าจะเป็นคนจัดการจรเข้นั่น มูฮัมเหม็ดเสริมมาอีกคน

                ใช่พี่ ดูหุ่นเจ้าศิวะมันซิ ตัวเท่าลูกหมาอย่างนั้นจะไปสู้อะไรใครได้ ตอนผมเห็นมันครั้งแรกที่นี่ยังแปลกใจอยู่เลยว่ามันผ่านการทดสอบคัดเลือกมาได้ยังไง แก้วสัมทับมาอีก

                    ผมก็ว่างั้น ตอนที่พวกผมต่อยกับพี่ก็เหมือนกัน มันก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมว่าจะเอามันสักที สร้อยกล่าวขึ้น มองอย่างเหยียดๆไปยังร่างที่เดินดุ่มอยู่ข้างหน้า

                    ศาสตรามองหน้าลูกน้องของเขาทั้ง 5 อย่างสมเพช ก่อนจะจิ้มไปที่อกตัวเอง

                    ฉันรับรองว่าเรื่องที่เล่ามาน่ะเป็นความจริง ตอนนั้นข้ากลัจนแทบจะฉี่ราดด้วยซ้ำ ไม่เหมือนหมอนั่นหรอก เดินถือมีดดุ่ยๆ ไปฟันไอ้ยักษ์นั้นอย่างไม่พูดพล่ามทำเพลง ไม่สิดูเหมือนมันจะพูดตลกร้ายอะไรบางอย่างอยู่เหมือนกันแต่ฉันจำไม่ค่อยได้ และขอบอกไว้ตรงนี้เลย…”

                    ศาสตราชี้หน้าลูกน้องเขาเรียงตัว

                    หมอนั่นน่ะเก่งแน่นอน และพวกแกทุกคนอย่าได้ไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับมัน ฉันเตือนนี่ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงมัน แต่ฉันป็นห่วงพวกแกมากกว่า!”

                    บรรดาลูกน้องหดหัวลง บ้างก็เสมองพื้น ศาสตราเห็นดังนั้นก็ทอดถอนใจ บางอย่างต้องให้พวกมันรู้ด้วยตัวมันเอง

     

                    รุ่งเช้าทั้งศูนย์ต่างโจทย์จันกันเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ศิวะต้องคอยเดินหลบพวกที่จ้องจะมาถามเขา พวกรุ่นพี่หลายคนเดินทางไปพิสูจน์ในสิ่งที่พวกเขากล่าวอ้างและก็พบซากของจรเข้ตัวนั้นนอนตายอยู่จริง ทำให้คำล่ำลือยิ่งแผ่ขยายไปทุกชั้นทุกปี

                    ที่ศูนย์ฝึกแห่งนี้แบ่งชั้นปีตามความสามารถของแต่ละบุคคลโดยเริ่มต้นทุกคนจะต้องอยู่ในระดับปี1 ก่อนจะเลื่อนขั้นเมื่อมีการสอบประจำปีโดยจะมีการสอบทั้งหมด 3 ครั้ง ผู้ประเมินจะเป็นบรรดาอาจารย์ที่ฝึกสอนในแต่ละวิชา โดยนักศึกษาจะสามารถเลื่อนระดับได้ในทุกครั้งที่มีการสอบ

                    ระดับที่สูงขึ้นไปจากปี 1 คือระดับ C ระดับ B ระดับ A และระดับ S โดยเรียงความสามารถจากต่ำไปสูง

                    นักศึกษาที่เรียนสามารถจะขอออกในระดับใดก็ได้แต่ห้ามศึกษาเกิน 4 ปี

                    ศูนย์ฝึกแห่งนี้จะรับแต่นักศึกษาหัวกระทิจากหน่วยงานด้านความมั่นคงมาขัดเกลา จากนั้นทางศูนย์จะดูตามความเหมาะสมก่อนจะส่งแต่ละคนไปประจำการยังที่ต่างๆตามภารกิจที่มีขึ้นเพื่อประเทศชาติโดยแท้จริง

                    ศิวะนั้นผ่านการรับรองจากอาจารย์หยางผู้เป็นอาจารย์ของเขา รวมไปถึงท่านเจ้าพระยามหาศาล ธรรมฤทธิ์ ผู้ซึ่งเปรียบประดุจเสาใหญ่ต้นหนึ่งที่คอยป้องกันประเทศ จึงไม่เป็นการยากนักที่จะได้รับการอนุมัติให้เข้าศึกษา ผิดกับผู้อื่นที่กว่าจะเข้ามาได้ต้องผ่านการทดสอบเลือดตาแทบกระเด็น

                เหตุการณ์เมื่อวานไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไร เขาชาชินกับอันตรายมั้งแต่เด็กๆ

                    ศิวะถูกท่านเจ้าพระยามหาศาลขอมาเลี้ยงจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่อายุ 5-6 ขวบ พอ 8 ขวบก็โดยโยกย้ายมาประจำกับลูกชายคนโตของท่าน

                    วรวุติ ธรรมฤทธิ์ ลูกชายคนโตของบ้านธรรมฤทธิ์ผู้ซึ่งมีทุกอย่างอยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทอง หรืออำนาจที่เหลือล้น แต่ดูราวกับว่าเขาไม่เคยพอ

                    ศิวะถูกฝึกศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่ตอนนั้นโดยผู้ที่ฝึกสอนเขาก็คืออาจารย์หยาง อดีตนักฆ่าอันดับหนึ่ง

                    ลูกชายคนโตของธรรมฤทธิ์ต้องการที่จะให้ศิวะแข็งแกร่งจึงได้ไปขอให้อาจารย์มาช่วยฝึกสอน

                    อาจารย์หยางสอนศิลปะในการป้องกันตัวทุกอย่างที่มีรวมถึงศาสตรามืดที่มีไว้สำหรับปลิดชีพคน เพียงแต่จุดประสงค์แค่เพียงต้องการให้ศิวะมาเป็นตัวตายตัวแทนคอยปกป้องตระกูลธรรมฤทธิ์หากอาจารย์ท่านจากไป

                    ผิดกับวรวุติ!

                ดูเหมือนจุดประสงค์ในครั้งแรกของวรวุติจะต้องการให้ศิวะมาคอยปกป้องและคอยคุ้มครองเขา เพราะนับวันวรวุติจะยิ่งเพิ่มศัตรูให้กับตน ซึ่งอาจารย์หยางเป็นคนของพ่อจึงไม่สามารถดึงตัวาได้ประกอบกับศิวะเป็นคนที่ตระกูลเขาชุบเลี้ยงมาแต่เล็ก ดูจะน่าไว้วางใจมากกว่าการต้องจ้างผู้อื่น แต่เมื่อวรวุติเห็นฝีมือของเด็กน้อยที่นานวันยิ่งเก่งนานวันยิ่งพัฒนานั่นอาจทำให้จุดประสงเขาเปลี่ยนไป

                    ศิวะต้องขึ้นชกกับคู่ต่อสู้ต่างทั้งอายุและน้ำหนักตั้งแต่ 10 ขวบ โดยวรวุติบอกกับเขาและอาจารย์หยางว่าต้องการให้เขาสนุกและได้ประสบการณ์การต่อสู้ที่แท้จริง

                    เขาชนะบ้างแพ้บ้างตามเรื่อง ระยะแรกก็ไม่เป็นอะไร แต่พอมาหลังๆหากนัดไหนที่เขาแพ้วรวุติจะโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยงและเฆี่ยนตีเขาทุกครั้ง จนในที่สุดเขาก็บอกตนเองว่าจะแพ้ไม่ได้อีกต่อไป

                    เขามาทราบในภายหลังว่าการต่อสู้ของเขาทุกครั้งมีเดิมพันเป็นตัวเงินที่สูงจนน่าตกใจ

                    หลังจากนั้นเขากย้ายที่ในการต่อสู้ไปเรื่อยๆ ในประเทศบ้าง นอกประเทศบ้าง แล้วแต่การประลองในโลกมืดจะจัดขึ้นที่ไหน

                    บางครั้งเขาไม่ได้สู้กับคน

                    งูจงอางตัวสูงท่วมหัวถูกปล่อยมาในเวทีที่ถูกกั้นไว้ด้วยลูกรงที่มีเพียงเด็กชายอายุ 14 กับมีดยาวเล่มเดียว เสือลายพาดกลอนตัวสูงรองจากน้องม้า หรือแม้แต่ไอ้พันธุ์เดียวกับเมื่อคืน เขาก็ผ่านมาหมด

                    ยิ่งนับวันยิ่งดูเหมือนจะมากขึ้นๆ จนในที่สุดเขาก็ต้องฆ่าคน!

                เป้าหมายแรกที่เขาไม่มีวันลืมเป็นเพียงฝรั่งอันธพานคนหนึ่งที่บังเอิญมามีเรื่องกับวรวุติในร้านเหล้า              

                    ด้วยคำสั่งเพียงง่ายๆ ในวัย 15 ปี

                    ศิวะยังจำได้ติดตาถึงภาพของร่างที่นอนกระตุกพยายามจะกุมรอบคอที่ไหลทะลักออกมาจากปากแผลที่เป็นทางยาว

                    หิมะรอบตัวชายผู้นั้นถูกย้อมด้วยสีเลือดจนแดง

                    หลายคืนที่ภาพนั้นติดตาจนเก็บไปฝันร้าย ต้องสะดุ้งตื่นกลางดึกอยู่บ่อยครั้ง

                    แต่หลังจากนั้นรายที่สองและสามก็ตามมาจนเริ่มชิน

                    ศิวะเหม่อลอยเมื่อคิดถึงเรื่องในอดีต

                    มือทั้งคู่ของเขาเปื้อนเลือดจนไม่สามารถจะล้างกลิ่นคาวของมันออกได้

                    เฮ้ย! ศิวะเสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง

                    ผู้ชายร่างใหญ่ที่เขาเห็นในโรงอาหารคุ้นๆว่าชื่อฉกาจ เป็นผู้ที่ศาสตราไปท้าสู้แล้วก็แพ้ยับเยินกลับมา เขาตรงมาหยุดยืนอยู่ข้างหน้าก่อนเอียงคอมอง

                    ท่าน ผอ. เรียกใหไปพบ

                    ศิวะพยันหน้าก่อนยันตัวขึ้นมาจากพื้น อยู่ๆร่างที่ยืนค้ำอยู่ก็สวนแข้งเข้ามา

                    ข้างหลังเขาติดต้นไม้ทำให้ไม่สามารถกระโดดหลบจึงตัดสินใจยกแขนขึ้นมากัน

                    ปึ๊ก!! แรงเตะอันหนักหน่วงของชายแปลกหน้ากระทบเข้ากับต้นแขนศิวะอย่างจังส่งผลให้ตัวเขากระเด็นจนล้มลง

                    เหอๆ ขอโทษที ไม่รู้เป็นไงว่ะเห็นหน้าแกแล้วอยากกระทืบจริงๆ ฉกาจยักคิ้วให้ร่างที่ล้มอยู่ก่อนจะกระโจนเข้าหา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×