NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หลงเงาลวง (ฉบับพิมพ์เล่ม)

    ลำดับตอนที่ #8 : ๓ เพื่อนสนิท 2/2

    • อัปเดตล่าสุด 4 มิ.ย. 67


    เพื่อนสนิท

     

    “อ๊ะ! ไม่นะคะแม่ขา เมื่อกี้หญิงนกไม่ได้พูดนะคะ ช่อค่ะแม่ ช่อเขาพูดค่ะ”

    “ฮ่า ๆ ๆ ฉันล้อเล่น” 

    ช่อแก้วระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นเมื่อเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเพื่อน และไม่รอให้อีกคนได้ตั้งตัว ร่างบางก็รีบวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำทันที

    “ไอ้ช่อ! ไอ้เพื่อนตัวแสบ ออกมาให้ฉันเตะแกเดี๋ยวนี้นะ”

    ทันทีที่รู้ว่าโดนแกล้ง กรกนกจึงวิ่งตามไปทุบประตูห้องน้ำอย่างเจ็บใจ แต่มีหรือคนข้างในจะยอมทำตามคำสั่งให้ได้เจ็บตัว มีเพียงเสียงน้ำไหลซู่ซ่าเท่านั้นที่ตอบกลับมาให้คนข้างนอกได้ยิน

    ไม่นาน ร่างสะอาดสดชื่นที่พันด้วยผ้าขนหนูผืนเดิมก็เปิดประตูออกมา ทว่าคนที่เคยนั่งรอที่เตียงกลับหายไป

    สงสัยลงไปข้างล่างแล้วมั้ง รอหน่อยก็ไม่ได้

    หญิงสาวนึกบ่นเพื่อนอยู่ในใจก่อนจะเดินไปเปิดดูเสื้อผ้าในตู้ แม้จะทำใจไว้แล้ว แต่เมื่อได้ยลโฉมชุดกรกนกแล้วก็อยากดิ้นพล่านลงเสียตรงนั้น ไม่รู้เพื่อนเธอทนใส่อยู่ได้อย่างไร กระโปรงคุณป้ายังอายแต่ละตัวยาวบรรลัย อย่างสั้นที่สุดก็พอดีเข่า จะปิดอะไรกันนักหนา ร้อนก็ร้อนออกขนาดนี้ โลกเขาไปถึงไหนแล้วคะคุณหญิงอรนุชขา ให้ใส่เป็นคุณป้าของคุณยายแบบนี้ ลูกสาวคุณหญิงคงขายออกหรอกนะ

    “เรื่องอะไรฉันต้องใส่แบบนี้ฮะยัยนก เสียชื่อดีไซเนอร์เด็กนอกอย่างฉันหมดพอดี อย่างฉันมันต้องเหนือเข่าอย่างน้อยคืบครึ่งย่ะ ตามคอนเซปต์”

    เพียงไม่นาน ชุดคุณป้าของกรกนกก็กลายเป็นชุดแฟชั่นสมัยนิยมสุดเก๋สไตล์ช่อแก้วจนได้ ชุดเดรสตัวยาวถูกทำให้เหลือตัวกระจิดรัดรูปพอดีตัวคนใส่ ร่างบางภายใต้ชุดที่เน้นสัดส่วนได้รูปยวนตาหมุนตัวอยู่หน้ากระจกจนมั่นใจในผลงาน แต่งหน้าทำผมให้ดูสบายตาก่อนจะเดินตรงไปทางประตู

    แต่เมื่อเดินลงมายังไม่ถึงบันไดขั้นสุดท้ายด้วยซ้ำ ร่างบางก็ต้องหยุดชะงักลง! 

    “แม่เคยบอกแล้วใช่ไหมหญิงนก ว่าไม่ให้คบกับเด็กคนนี้ นี่เรายังติดต่อกับเด็กนี่อยู่อีกเหรอ ทำไมดื้อนักนะ เดี๋ยวก็ได้เดือดร้อน เสื่อมเสียมาถึงวงศ์ตระกูลอีกหรอก”

    “โธ่ แม่คะ ช่อแก้วเป็นเพื่อนของนกนะ แม่เห็นใจนกบ้าง เรามีกันอยู่แค่สามคน ถ้าแม่ให้นกเลิกคบกับช่อกับไหม แล้วใครมันจะยอมกระชากหน้ากากมันออกเพื่อมาคบกับลูกสาวแม่ล่ะคะ”

    “หญิงนก! ทำไมพูดจาหยาบคายแบบนี้ฮะ ใครสั่งใครสอน อ๋อ! หรือติดมาจากเด็กนิสัยเสียคนนั้น นี่แค่เจอกันแค่ไม่กี่นาที ความชั่วร้ายก็ไหลมาแปดเปื้อนตัวเราให้มัวหมองแล้วหรือไง แม่ขอสั่งห้ามเด็ดขาดให้เลิกคบเด็กนั่นซะ รู้จักเลือกคบคนหน่อยสิหญิงนก เห็นแก่หน้าพ่อแม่บ้าง...”

    “แม่รู้ได้ยังไงว่าเพื่อนของนกนิสัยไม่ดี แม่เคยสัมผัสตัวตนของช่อแก้วมันดีแล้วหรือไง แม่ก็ดีแต่แบบนี้ ตัดสินคนตามข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ แม่แคร์ข่าวมากกว่าแคร์ความรู้สึกของลูกสาวคนนี้เสียอีก ถ้าแม่คิดว่าสังคมจอมปลอมที่หาความจริงใจต่อกันแทบไม่มีของแม่มันดีนัก ก็เชิญแม่อยู่กับการสวมหน้ากากไปทั้งชีวิตคนเดียวแล้วกัน ขอนกถอดมันบ้างเถอะ นกหนัก นกเหนื่อยที่ไม่เคยได้เป็นตัวของตัวเองเลย ที่ผ่านมานกทำให้แม่มามากแล้ว นับจากนี้นกขอเลือกทางเดินชีวิตของนกเอง”

    “หญิงนก!”

    คุณหญิงอรนุชรีบสาวเท้าตามบุตรสาวที่วิ่งหนีหน้าออกไปพลางร้องเรียกตาม แต่ก่อนไม่เคยเดือดร้อนที่บุตรสาวจะคบใคร แต่พอเข้ามัธยมปลายมารู้จักกับเด็กม่านไหมและเด็กช่อแก้วนั่นที่ทำให้ความเสื่อมเสียเริ่มคืบคลานเข้าหาวงศ์ตระกูล

    บุตรสาวที่ไม่เคยดื้อรั้น เหตุใดถึงมีจดหมายจากอาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียนมาถึงบ้านแทบนับครั้งไม่ถ้วน จนเธออับอายขายหน้าคนอื่นไม่เว้นแต่ละวัน ไปไหนมาไหนแทบต้องหาปี๊บคลุมหัว

    ครั้งแรงสุดก็คงหนีไม่พ้นข่าวดังเมื่อห้าปีที่แล้ว เพราะความแสบสันของเด็กช่อแก้วที่ทำให้ต้องสูญเสียดาราหนุ่มชื่อดังไป ข่าวช็อกวงการบันเทิงครั้งนั้นจะไม่มีผลดีหรือผลร้ายใด ๆ ต่อเธอเลย หากบุตรสาวคนเดียวไม่ใช่หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ 

    ถึงสื่อจะประโคมข่าวไปที่เด็กช่อแก้วตัวร้ายเสียส่วนใหญ่ หรืออาจเรียกได้ว่าทั้งหมด หากแต่ความจริงเธอนั้นรู้ดีอยู่แก่ใจว่ากรกนกก็มีส่วนเกี่ยวข้อง คุณหญิงอรนุชจำได้ดีในวันนั้นกรกนกกลับบ้านมาด้วยตัวอันสั่นเทาและมีอาการหวาดผวาอยู่หลายวัน ทำคนเป็นแม่อย่างเธอเป็นห่วงและกังวลจนต้องคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง

     

    กรกนกวิ่งหนีมารดาออกมาหวังจะขึ้นไปตามเพื่อนบนห้อง แต่ก็เจออีกคนยืนนิ่งอยู่หน้าประตูทางออกพอดี จึงรีบดึงแขนเพื่อนออกไป

    “ช่อ แกลงมาแล้วก็ดี ไปข้างนอกกัน”

    “หญิงนกกลับมาเดี๋ยวนี้นะ แม่สั่งไม่ได้ยินหรือไง แม่ไม่ให้คบเด็กไร้มารยาทคนนั้น ได้ยินไหมหญิงนก”

    คุณหญิงอรนุชทำได้เพียงยืนร้องเรียกตามรถยนต์ที่บุตรสาวขับออกไป หากก็ไม่เป็นผลเมื่อกรกนกไม่แม้แต่จะหันกลับมามองสักนิด ลากเพื่อนขึ้นรถได้ก็รีบบึ่งรถออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว

    “นก ฉันขอโทษนะ” คนที่นั่งก้มหน้านิ่งสงบตั้งแต่ออกจากบ้านพูดขึ้นทำลายความเงียบเมื่อรถเคลื่อนตัวออกสู่ถนนสายหลักของตัวเมือง

    “มาขอโทษฉันเรื่องอะไร แกบ้าหรือไงฮะ” กรกนกหันมองหน้าเพื่อน ความต้องการของมารดาที่ประกาศชัดเมื่อครู่คงอัดแน่นในโสตประสาทของช่อแก้วหมดทุกถ้อยคำแล้วสินะ ถึงนั่งทำหน้าไร้อารมณ์สุนทรีย์มาตลอดทาง ปกติแม้จะรู้สึกแย่แค่ไหน แต่ช่อแก้วก็มักฝืนทำสีหน้าให้สดใสเสมอ เธอพยายามที่จะทำตัวให้คนอื่นมองว่ามีความสุขเสมอ แม้ทุกครั้งจะเห็นได้ชัดว่ามันเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่แสนเศร้ายิ่งนัก แต่เธอก็ฝืนทำมันจนสำเร็จ หากในยามนี้กลับไม่เลย ดวงตาเศร้านั้นไม่พบรอยยิ้มสักนิด แสดงว่าคำพูดของมารดาคงไปสะกิดเข้าตรงรอยแผลเหวอะหวะที่มีมากอยู่แล้วในหัวใจให้ยิ่งเจ็บปวด

    “แกต้องทะเลาะกับแม่เพราะฉัน”

    “คิดมากน่า แกก็รู้ว่าฉันเป็นยังไง ฉันอึดอัดกับการต้องอยู่ในสังคมแบบนั้นแค่ไหน แกก็รู้ดีนี่ ฉันทนมามากแล้วนะช่อ”

    “ฉันเห็นใจแก แต่ฉันไม่อยากให้แกทะเลาะกับแม่นี่หว่า แกไปขอโทษแม่แกนะ เดี๋ยวคืนนี้ฉันหาที่อยู่ใหม่ก็ได้”

    “แกไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก แม่ห่วงหน้ายิ่งกว่าอะไร ไม่โกรธฉันนานหรอก เดี๋ยวฉันไม่ออกงานด้วย แม่ก็แย่น่ะสิ” กรกนกหันไปยิ้มให้ช่อแก้วพลางก็พูดจาติดตลกเพื่อคลายความตึงเครียด แต่คนฟังพอจะดูออกว่าเพื่อนก็กำลังรู้สึกแย่ไม่ต่างกัน ใครบ้างล่ะจะอยากทะเลาะหรือมีปัญหากับมารดา

    “แต่...”

    “ถ้าแกลำบากใจ งั้นคืนนี้แกไปพักที่เพนต์เฮาส์ยัยไหมแทนบ้านฉันก็ได้ โอเคนะ ไม่ต้องคิดมากแล้ว แกก็รู้ว่าแม่ไม่เคยโกรธฉันนาน คืนนี้ฉันกลับบ้าน เดี๋ยวแม่ก็เอานมไปให้ฉันดื่มก่อนนอนเหมือนทุกวันนั่นแหละ”

    “อืม ขอบใจมาก แล้วนี่แกจะพาฉันไปไหน”

    “ไปช็อปไง แกไม่มีอะไรติดตัวมาเลยไม่ใช่เหรอ ฉันบอกไอ้ไหมให้ไปรอที่นั่นแล้ว เพราะที่บ้านสถานการณ์ไม่ปกติ”

    “ฮ่า ๆ นี่อย่าบอกนะว่าแม่แกห้ามคบไอ้ไหมด้วย”

    “ห้ามคบแก แต่ถ้าจะดี ให้เลิกคบทั้งสองคน”

    “มีเพื่อนประเสริฐอย่างฉันกับไอ้ไหม แกก็ต้องทำใจ”

    “ถ้าแม่รู้ว่าฉันนี่แหละที่ประเสริฐสุดในกลุ่ม แม่คงอกแตกตาย”

    เสียงสนทนาของทั้งสองเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ หากแต่ต่างคนก็ต่างรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองและเพื่อนแสดงออกนั้นเป็นเพียงการกลบเกลื่อนความรู้สึกย่ำแย่ที่ต่างก็มีอยู่เต็มหัวใจ

     

    รถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้าสู่ศูนย์การค้าชื่อดังอันเป็นสถานที่นัดหมาย ร่างระหงของสองสาวในชุดต่างสไตล์เดินโฉบเข้าไปข้างในอย่างไม่สนใจจะสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว แต่นั่นกลับเป็นผลดีต่อสายตาสองคู่ที่คอยติดตามทั้งสองตั้งแต่รถวิ่งออกจากรั้วบ้าน

    “นั่นไงนาย ผมบอกแล้วว่าสวยมาก เป็นไงล่ะ มองตาค้างเลยละสิ ยังกับนางฟ้าเลยนะนาย นี่นายจะทำร้ายนางฟ้าได้ลงจริง ๆ หรือครับ อย่าไปแอบหลงเสน่ห์เธอเข้าเสียก่อนล่ะนาย ฮ่า ๆ”

    “หยุดพล่ามสักทีไอ้เกริก หมดหน้าที่แกแล้ว กลับไปหาเมียหาลูกแกโน่นไป ก่อนที่แกจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าเมียกับลูกแกอีก รำคาญ!” สายตาคมที่มองร่างบางไม่กะพริบเมื่อครู่จำต้องละสายตาหันมาทางเสียงน่ารำคาญที่ดังขึ้นขัดจังหวะ บวกกับอารมณ์ปั่นป่วนบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นร่างเย้ายวนในชุดที่เน้นสัดส่วนโค้งเว้าชัดเจน ยิ่งสร้างความหงุดหงิดให้เขาโดยไม่รู้ตัว

    เด็กสาวแสนรั้นและจอมบงการที่แผลงฤทธิ์ใส่เขาตั้งแต่แรกเจอคนนั้น บัดนี้เธอเติบโตเป็นสาวเต็มวัย จากที่เมื่อก่อนแต่งตัวน่ารักสดใส ก็กลับกลายเป็นสวยเซ็กซี่ยวนใจ ยังจำนัยน์ตาคมแสนเอาเรื่องคู่นั้นที่ทำให้เขาหลงใหลตั้งแต่แรกเห็นได้แม่นยำ ทั้งที่พยายามจะลบออกไปจากใจ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเขาไม่เคยลืมมันสักนิดเดียว

    สวย...เธอเป็นผู้หญิงที่มีดวงตางดงามและมีเสน่ห์ชวนมองที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา แพขนตาหนางามงอนกะพริบลงมาคราใดทำเอาใจไหวสั่นจนแทบไม่อยากละสายตา ริมฝีปากฉ่ำหวานแม้เคยล่วงล้ำเข้าไปเชยชมเพียงผ่าน ๆ ด้วยความไม่ตั้งใจ หากเพียงแค่นั้นก็ทำให้คลั่งจนฝันหาแทบทุกคืนวัน เขารอมานาน...รอที่จะได้ลิ้มรสความหวานนั้นอีกครั้ง

    ไม่เพียงแค่นั้นที่ใจร่ำร้องต้องการในตัวเธอ เรือนร่างสมส่วนนั้นอีกที่เขาหมายปองและเฝ้ารอให้ถึงวันที่เหมาะสมจะครอบครอง อีกไม่นานหรอก เขารู้ว่าสิ่งที่ต้องการกำลังคืบคลานเข้าใกล้เรื่อย ๆ หากหญิงที่เขามีใจปรารถนามากล้นอยู่ในขณะนี้ไม่ใช่คนเดียวกับคนที่ก่อเรื่องจนเป็นเหตุให้แฝดผู้น้องต้องจากไป มันคงให้ความรู้สึกที่วิเศษที่สุดในชีวิต เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยคิดจะผูกมัดเธอผู้นี้ไว้เป็นคู่ชีวิตชั่วนิรันดร์ แต่นับจากนี้...ไม่มีวัน!

    ฉันจะไม่มีวันหลงใหลในตัวเธอ ยัยเด็กปีศาจ เสียงย้ำเตือนสติดังชัดขึ้นในใจ

    “โธ่ หมดประโยชน์แล้วถีบหัวส่งเลยนะครับ” นายเกริกที่กำลังเปิดประตูจะลงจากรถตามคำสั่งอดค่อนขอดผู้เป็นนายไม่ได้

    “กลับไปช่วยไอ้นพมันดูแลฟาร์มโน่น ทางนี้ฉันจะจัดการของฉันเอง ที่สำคัญ พวกแกห้ามปริปากบอกพ่อเด็ดขาด ถ้าพ่อรู้เรื่องที่ฉันจะทำกับยัยเด็กนี่ พวกแกขุดหลุมไว้รอฝังศพตัวเองได้เลย”

    “ไม่กล้าหรอกครับนาย ผมกลัวไอ้กล้ามันเป็นกำพร้า สงสารเด็กที่ต้องมาขาดพ่อตั้งแต่เล็กแต่น้อย”

    “กลัวอะไร แกตายก็ให้เมียแกหาผัวใหม่ ลูกแกก็มีพ่อเหมือนคนอื่นเขาเอง” ชายหนุ่มพูดโพล่งออกไปอย่างไม่ใส่ใจต่อความรู้สึกคนฟังที่ถึงกับตาเบิกโพลงเป็นเดือดเป็นร้อนขึ้นมาทันที

    “เฮ้ย! ได้ไงกันครับ ลองถ้านายมีเมียแล้วเมียนายไปมีผัวใหม่ นายจะรู้สึกยังไง พูดมาได้นะครับ ถึงตายผมก็จะลุกขึ้นมาหักคอมัน ไม่ยอมให้มันได้เมียผมหรอก”

    “มีมงมีเมียอะไรของแก ฉันไม่เอาหรอก ผู้หญิงปากมากน่ารำคาญ อยู่คนเดียวแบบนี้ดีกว่าเป็นไหน ๆ ถ้าเกิดฉันต้องการขึ้นมาจะหาเอาที่ไหนก็ได้ ก็แค่ผู้หญิง เปลี่ยนวันละคนยังได้ ง่ายพอกันกับเตะปากแกนั่นแหละ เสร็จแล้วก็หมดความสำคัญ เหมือนแกตอนนี้ไง ไสหัวไปได้แล้ว”

    “ผมจะคอยดู สักวันที่นายมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วนายจะรู้สึก อย่าให้ผมเห็นนะว่านายก็หวงเมีย” นายเกริกรีบเลี่ยงลงจากรถเพื่อให้อยู่ในระยะปลอดภัยพลางพูดเหน็บแนมผู้เป็นนายไม่ยอมลดละ

    “เฮ้อ! เชิญแกรอไปถึงชาติหน้าเถอะ ไม่มีโว้ย!” ภูวินท์สบถตามหลังนายเกริกที่พูดจบก็รีบปิดประตูรถวิ่งหนีเอาตัวรอด

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×