คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ๖ โจรสกปรก 4/4
๖
โจรสกปรก
มันเกิดขึ้นเร็วเหลือเกินจนไม่รู้จะต่อต้านด้วยวิธีไหนดี
มาเริ่มรู้ตัวอีกทีก็ทำเอาตกใจแทบช็อก เกาะอกตัวน้อยร่นลงไปแทบถึงเอว เผยให้เห็นนวลเนื้อเปล่าเปลือยแห่งกายสาวลงไปเกือบครึ่งค่อนตัว แถมมือหยาบกร้านนั้นก็กำลังกอบกุมบีบคลึงอยู่กับเนินเนื้ออวบอิ่มที่แสนหวงแหน มันแทบแหลกเหลวคามือเขาอยู่แล้วยังไม่ยอมปล่อย แม้แต่ตัวเธอเองยังไม่เคยล่วงล้ำสัมผัสรุนแรงเช่นนี้ ตรงกันข้ามกลับเฝ้าถนอมไม่ให้แม้สิ่งใดมากระทบหรือเฉียดใกล้ให้ระคาย แต่ตอนนี้ ชายหนุ่มกำลังคิดจะบดบี้ความบอบบางแห่งอิสตรีให้แหลกละเอียดคามือ ทำไมไม่คิดถนอมสิ่งที่เธอหวงแหนสักนิด
“ฉันเจ็บ พอได้แล้ว อย่า...” ความเจ็บปวดทำให้หญิงสาวสะดุ้งตกใจรีบผงกศีรษะขึ้นมอง แต่กลับต้องผวาหนักกว่าเดิม
ไม่เพียงแค่มือเท่านั้นที่เขากำลังใช้เป็นอาวุธทำร้ายเธอ ริมฝีปากแสนร้ายก็กำลังขบกัดดูดดึงอย่างไม่ปรานี ไรหนวดเคราทิ่มแทงลงบนผิวบอบบางจนรู้สึกระคาย หากก็มีความหวามไหววิ่งเข้ามาผสมผสานลงตัว แต่ความหวาดกลัวว่าเขาจะทำร้ายก็ยังไม่มีท่าทีจะลดลง ในใจก็ย้ำเตือนอยู่ตลอดเวลาว่าผู้ชายคนนี้พร้อมที่จะฆ่าเธอได้ทุกเมื่อ มือบางสั่นเทาที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระมานานรีบยกขึ้นปัดป้องตบตีผลักไสร่างหนาออกห่างเป็นพัลวัน
“ฮื้อ...ฮือ ปล่อยฉันนะ อย่าทำแบบนี้” เธอผลักศีรษะเขาออกจากอกอวบ พลางร้องไห้สะอึกสะอื้นเมื่อมันไม่เป็นผล แถมเขายังเพิ่มแรงในการขบกัดยอดทรวงให้ยิ่งเจ็บปวดจนต้องดึงมือกลับอย่างจำยอม ใบหน้าระคายนั้นถึงยอมละห่าง หันมาทิ้งคำพูดแสบสันทำลายกำลังใจและความหวังที่จะรอดพ้นไปหมดสิ้น
“ยังไม่ถึงใจหรือไงฮะ อย่าสะดิ้งให้มาก รำคาญ ยิ่งเธอดิ้นและต่อต้านฉัน เธอจะยิ่งเจ็บตัว”
“พอเถอะนะ ฉันกลัวแล้ว อย่ากลั่นแกล้งฉันแบบนี้เลย”
“ใครบอกว่าแกล้งฮึ เอาจริงขนาดนี้ยังจะบอกว่าแกล้งอีกเหรอ หรือว่าฉันยังจริงจังไม่พอ”
“พอแล้ว ไม่ต้องจริงจังแล้ว พอเถอะ คุยกันดี ๆ เถอะนะ”
“แต่ฉันไม่อยากคุยกับเธอ ฉันอยากทำอยากอื่น”
“ฉันยินดีที่จะทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการเพื่อชดใช้ให้คุณ แต่ไม่ใช่แบบนี้ ไม่ใช่วิธีนี้”
“พร้อมชดใช้หรือยัง...นี่แหละคือสิ่งเดียวที่ฉันต้องการ ทั้ง คืน”
โดยไม่สนใจคำร้องขอ มือหนาหันมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตรวดเร็วแทบกระชากออกจากกาย ดวงตากระหายก็จับจ้องทรวงงามราวกับจะกลืนกิน คนหวาดหวั่นมองเขาด้วยหัวใจที่แหลกสลาย แผงอกกำยำมีไรขนจาง ๆ แต่งแต้มให้ยิ่งดูน่ากลัวมากขึ้น เธอรังเกียจขนพวกนั้น ไม่อยากให้มันสัมผัสกายสักนิด เพียงแค่คิดก็จั๊กจี้ เอาแต่สั่นศีรษะเพราะไม่อยากให้เขาเข้าใกล้
ทันทีที่กระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดออก เสื้อเชิ้ตที่เคยปกปิดร่างบึกบึนก็ลอยหวือไปตกเสียไกล ไม่ทันที่เขาจะโน้มกายลงมาทาบทับอย่างตั้งใจ
“กรี๊ด! อย่านะ ฉันไม่ชอบ ฉันเกลียดไอ้ขนนั่น อย่าให้มันโดนตัวฉันนะ”
มือบางยกขึ้นปัดป้อง ผลักอกแกร่งออกห่างไม่ยอมให้ขนน่ากลัวของเขาได้สัมผัสความบอบบางของเธอ ทำเอาคนที่กำลังถูกครอบงำด้วยเพลิงปรารถนาแรงกล้าอยู่ในขณะนั้นถึงกับหัวเสีย ส่ายศีรษะให้กับอาการต่อต้านเอาเป็นเอาตายของหญิงสาวอย่างระอา จะมากลัวอะไรไร้สาระตอนนี้ เขาจะคลั่งอยู่แล้ว
“ยัยบ้าเอ๊ย! ผู้หญิงคนไหนที่ได้สัมผัสขนหน้าอกของฉันก็บอกว่าชอบกันทั้งนั้น เธอนี่มันประสาทจริง ๆ สงสัยจะไม่เคยเจอ ยังไม่ลองก็กลัวซะแล้วหรือไง”
“ฮือ ไม่เอา ออกไปนะ มันน่าขยะแขยงยิ่งกว่าหนวดเคราบนหน้าคุณเสียอีก”
“นี่ปากหรือไงฮะ! เธอกล้าขยะแขยงฉันอย่างนั้นเหรอ ฉันอยากรู้นักว่าไอ้ที่บอกขยะแขยงของเธอ พอได้สัมผัสเข้าหน่อยมันจะออกอาการยังไง อย่าได้เรียกร้องจะเอาจากฉันทั้งคืนก็แล้วกัน”
ไม่รู้ทำไมถึงโกรธนัก แค่ได้ยินเธอบอกขยะแขยงก็ถึงกับร้อนเป็นไฟ ชายหนุ่มจับมือเล็กที่ปัดป้องเขากดลงกับโซฟาอีกครั้ง เปิดทางให้หน้าอกที่ถูกกล่าวหาว่าน่าขยะแขยงเข้าบดเบียดความอวบอูมนุ่มนิ่มของเธอทันที ยิ่งเขาเบียดแนบชิดมากเท่าไรร่างบางก็ยิ่งสั่นสะท้านรุนแรง
เธอพยายามหดตัวให้ลีบเล็กลงเพราะไม่อยากถูกสัมผัสจากเขา หากก็ไม่มีทางหลบพ้น ยิ่งร่างบางส่ายออกห่างกลับยิ่งเพิ่มความพอใจให้คนตัวใหญ่ เสียงร่ำร้องให้ปล่อยที่แสนรำคาญเงียบลงในเวลาถัดมาเพราะถูกปิดด้วยริมฝีปากของเขา
ชายหนุ่มผู้ชำนาญเหนือกว่ารุกหนักหลายจุดจนหญิงสาวสับสน มือซุกซนลูบไล้ไปตามสัดส่วนโค้งเว้ามาหยุดนวดคลึงอยู่ตรงบั้นท้ายงามงอน ก่อนจะซอกซอนเข้าในร่มผ้าสัมผัสจุดอ่อนไหวกลางกายสาวจนร่างบางสะดุ้งวาบหวาม มือที่เขาปล่อยเป็นอิสระไม่สามารถใช้ขัดขืนได้อย่างที่เคย เพราะหนีไปทำหน้าที่จิกขยุ้มโซฟาเพื่อข่มความรัญจวนที่ก่อตัวขึ้นให้เบาลง หากแต่ก็เหมือนจะไม่ช่วยอะไรเลย
เธอกำลังจะยินยอมให้เขาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงอย่างง่ายดาย ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาต้องการแค่ความสะใจหากก็ยังหลงใหลไปกับการโลมเล้าของเขา
ช่อแก้ว...เธอจะยอมให้เกิดเรื่องอัปยศนี้ขึ้นกับเธอไม่ได้ เธอจะต้องสู้เพื่อเอาตัวรอดจากอสูรร้ายให้สำเร็จ
เธอจะไม่ยอมเสียท่าให้เขาย่ำยีเล่นเหมือนผักเหมือนปลาจนต้องสูญเสียคุณค่าความบริสุทธิ์ที่สตรียังสาวอย่างเธอพึงมี
“คุณภูวินท์” น้ำเสียงที่เรียกชื่อเขาแสนอ่อนหวานสะกดคนฟังให้หยุดนิ่งได้ในทันที ใบหน้าที่ย้ายมาหยอกล้ออยู่กับอกนุ่มเงยขึ้นสบสายตาเธอ
สายตาแสนเย้ายวนแทบจะหลอมละลายหัวใจแกร่งให้อ่อนยวบลงเสียตรงนั้น ภูวินท์จ้องมองค้างนิ่งอย่างคนลุ่มหลง ดวงตาคู่นี้สวยงามและเร่าร้อนเกินกว่าที่จะต้านทานไหว เกิดความรู้สึกหวงแหนขึ้นมาอย่างมิอาจห้าม เขาไม่อยากให้
ช่อแก้วมองผู้ชายคนไหนด้วยสายตาแบบนี้ นับจากวินาทีที่เธอเป็นของเขา จะไม่มีวันได้มองใครแบบนี้อีกเด็ดขาด นอกจากเขาเพียงคนเดียว
“ฉันยอมแล้ว คุณช่วยเบา ๆ หน่อยได้ไหมคะ ฉันตกใจ ไม่ชอบความรุนแรง นะคะคุณภูวินท์” เสียงหวานเอ่ยเว้าวอน
มือบางลูบไล้ไหล่หนาไปมาแผ่วเบา ดวงตาทรงเสน่ห์จับจ้องไปยังดวงตาคมของเขาอย่างเชิญชวนเร่าร้อน มืออีกข้างยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งออกแรงเหนี่ยวรั้งลงมาน้อย ๆ ให้เขารับรู้ถึงความต้องการ คนที่กำลังตกอยู่ในอาการตะลึงแทบขาดสติ ค่อย ๆ โน้มกายลงตามการเชิญชวนของหญิงสาว พลางริมฝีปากก็เอ่ยบ่นน้อย ๆ แก้เก้อ
“เรื่องมากจริง ๆ ชอบเบา ๆ ก็ไม่บอกแต่แรก”
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวยิ้มหวานกล่าวขอบคุณเสียงพร่า นั่นยิ่งทำเอาหัวใจแกร่งถึงกับสั่นรัวอย่างไม่เคยเป็น ลำคอระหงที่แหงนเงยรอรับสัมผัสของเขาอยู่นั้นช่างเย้ายวนนัก ผู้หญิงอะไรน่ากินไปทั้งตัว
ชายหนุ่มก้มลงจุมพิตซอกคอหญิงสาวหนักหน่วง ฝากรอยสัมผัสเอาไว้เด่นชัด เขาต้องการสร้างตราประทับไว้บนกายเธอทุกจุด เพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าร่างกายนี้เป็นของเขาเท่านั้น
ไม่เพียงลำคอ เขาเริ่มเคลื่อนต่ำลงมาฝากรอยจุมพิตแดงเถือกไปทุกบริเวณที่สัมผัสจนถึงทรวงงามที่อีกคนแอ่นอกให้ได้สัมผัสอย่างเต็มใจ มือนุ่มสัมผัสลูบไล้แผ่นหลังเขาแผ่วเบาปลุกขนทุกเส้นให้ลุกชัน วาบหวามรัญจวนจนเริ่มทนไม่ไหว มือที่ลูบไล้อยู่ตรงท้องน้อยเรียบเนียนค่อย ๆ แทรกเข้าภายใต้ชุดเกาะอกสีแดงเพลิงที่ร่นลงไปกองอยู่ที่เอวบาง แต่ยังไม่ทันจะได้สัมผัสสิ่งที่ใจปรารถนา
โป๊ก!
“โอ๊ย!” มือหนายกขึ้นกุมศีรษะทันที เมื่อความเจ็บปวดวิ่งปราดเข้าหารวดเร็ว
หลังจากที่ตั้งหลักมานาน แผนการของหญิงสาวก็ไม่พลาด เธอพยายามรวบรวมสติและมองหาอาวุธใกล้มือ แจกันที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟาคือสิ่งเดียวที่พอจะเอื้อมถึง เธอจึงเลือกมันเป็นอาวุธทันทีที่คนหื่นกามเผลอไผลไปกับรสสวาท มือข้างที่ว่างจากการลูบไล้แผ่นหลังเขายื่นไปจับแจกันฟาดเข้าศีรษะชายหนุ่มเต็มแรง
หญิงสาวได้โอกาสรีบผลักคนตกใจออกจากตัวสุดแรงก่อนจะลุกขึ้นวิ่ง จุดหมายคือประตูห้องนอนที่อยู่ไม่ไกล เธอจะหนีเข้าไปและล็อกมันให้สนิท
“ฤทธิ์เยอะนักนะ อย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน”
ความโกรธระคนเสียหน้าที่พลาดพลั้งให้มารยาหญิง ทำให้อารมณ์อสูรยิ่งเดือดขึ้นเป็นเท่าทวี ก่อนหน้านั้นก็นึกระแวงอยู่แล้วในความผิดปกติของเธอ แต่เพราะเคลิ้มไปกับเสน่ห์อันเย้ายวนทำให้เขาหลงลืมมันเสียสนิท ดีที่แรงน้อย ๆ นั้นไม่ทำให้ถึงกับเลือดตกยางออก แต่แค่นั้นก็มากพอที่เธอต้องโดนสั่งสอนให้หลาบจำจะได้ไม่กล้าคิดทำร้ายเขาอีก
ทันทีที่ร่างกึ่งเปลือยของหญิงสาวผลักเขาและวิ่งออกไป ความเจ็บปวดที่ศีรษะเหมือนจะหายเป็นปลิดทิ้ง หากมันกลับวิ่งลงมารวมเป็นกระจุกอยู่ที่หัวใจแทน เจ็บที่หัวไม่เท่าไรแต่เจ็บที่ใจนี่สิที่ส่งให้เจ้าของใบหน้าถมึงทึงก้าวอาด ๆ ตามร่างที่วิ่งไปในทันที และก่อนที่ประตูห้องจะถูกปิดสนิทลง มือหนาก็ผลักเอาไว้ทัน สองร่างที่อยู่คนละฝั่งของประตูออกแรงต่อต้านกันไปมา ดูเหมือนคนข้างในจะยื้อไว้สุดกำลัง หากคนที่ยืนผลักอยู่ข้างนอกกลับออกแรงเพียงน้อยนิดก็สามารถบังคับประตูเอาไว้นิ่ง ก่อนที่เขาจะใช้แรงที่เหนือกว่ากระแทกลงไปอย่างจงใจให้คนข้างในได้เจ็บตัว ซึ่งก็ส่งผลทันทีตามคาด คนที่ออกแรงผลักจนหน้าแดงถึงกับกระเด็นล้มไปกองอยู่กับพื้น
“โอ๊ย!”
ปัง!
เสียงประตูปิดลงดังลั่นด้วยแรงโทสะของอสูรหนุ่ม
ความคิดเห็น