NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หลงเงาลวง (ฉบับพิมพ์เล่ม)

    ลำดับตอนที่ #14 : ๖ โจรสกปรก 2/4

    • อัปเดตล่าสุด 7 มิ.ย. 67


    โจรสกปรก

     

    หญิงสาวเริ่มคลางแคลงนึกเอะใจขึ้นมาอีกครั้ง หลายหนที่มันแสดงออกว่ารู้จักเธอ อดไม่ได้ที่จะมองสำรวจไปยังคนตัวใหญ่อย่างพินิจพิเคราะห์ ใบหน้าของใครคนหนึ่งวิ่งปราดเข้ามาในหัวจนปวดหนึบ และแล้วหัวใจดวงน้อยก็ถึงกับหล่นวูบ กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ขอเถอะ...จะเป็นโจรร้าย โจรโรคจิตที่ไหนก็ได้ในตอนนี้ ขออย่างเดียวอย่าให้เป็นใครคนนั้นที่เธอคิดเลย

    “แต่เสียใจด้วยเด็กน้อย ถ้าเธอยกให้ คืนนี้เธอคงไม่ได้นอน...แม้จะง่วงก็เถอะ”

    “แกเป็นใคร! แกคิดจะทำอะไรฉัน” เสียงที่เคยมั่นคงชัดเจนในคราแรกเริ่มสั่นจนขาดห้วง ใบหน้าที่เคยนวลแดงด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์กลับกลายเป็นซีดเผือดจนน่าตกใจ ลมหายใจก็เริ่มติดขัดเหมือนสติจะดับวูบลงเสียตรงนั้น ขาเรียวเล็กก็เหมือนจะไร้เรี่ยวแรงจนขยับแทบไม่ได้ แต่กระนั้นเธอก็ยังฝืนก้าวถอยห่างเป็นพัลวัน จนร่างบางไปติดหนึบอยู่กับผนังมุมห้องในที่สุด

    “อุ๊ย!”

    ในขณะเดียวกันร่างสูงก็ลุกขึ้นก้าวอาด ๆ เข้าหา ใบหน้าคมเข้มส่ายไปมาช้า ๆ ริมฝีปากเหยียดยิ้มอย่างเย้ยหยัน ทำให้คนที่หมดหนทางหนียิ่งหวั่นกลัว หญิงสาวเริ่มหันซ้ายแลขวามองหาตัวช่วย หากก็ไม่เจอสิ่งใดที่พอจะเป็นอาวุธอยู่ใกล้มือ ด้วยความกลัวจนลนลาน เธอเหมือนจะขาดสติอยู่รอมร่อจึงเลือกที่จะวิ่งสวนคนตัวใหญ่ออกมาอย่างสิ้นทางเลือก

    แต่มีหรือคนที่เฝ้าคอยโอกาสอยู่แล้วจะปล่อยให้เหยื่อหลุดมือ ลำแขนแกร่งคว้าเอวบางไว้แม่นยำ ร่างเล็กปลิวเข้าสู่อ้อมแขนเขาเต็มแรง แผ่นหลังบอบบางปะทะกับอกแกร่งดัง พลั่ก! ก่อนที่คนได้เปรียบจะพลิกร่างบางเข้าเผชิญหน้าออกแรงดันจนแผ่นหลังของเธอติดผนังห้องกักขังไว้ในอ้อมแขนเหนียวแน่น

    ใบหน้าที่รกเรื้อไปด้วยหนวดเคราโน้มเข้าหาใบหน้านวลงามอย่างไม่อาจห้ามใจ กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากกายสาวคลุกเคล้ากลิ่นแอลกอฮอล์แตะเข้าจมูกโด่งคมเพิ่มแรงปรารถนาที่มีมากอยู่แล้วให้ยิ่งรุนแรง

    “ปล่อยนะ” เสียงสั่น ๆ เอ่ยสั่งเบาหวิวพลางหอบหายใจรุนแรง ทั้ง ๆ ที่ร่างกายไม่ได้มีความเหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด ใจเธอสั่นรัวแทบไม่กล้าปล่อยลมหายใจออกมาเพราะกลัวจะสัมผัสใบหน้าของอีกฝ่าย ได้เพียงยกสองมือดันอกแข็ง ๆ ของคนตัวใหญ่เอาไว้สุดแรง 

    กลิ่นกายบุรุษผู้นี้คุ้นนัก มันสามารถสะกดเธอให้นิ่งงันได้เพียงแค่สัมผัสแรก จนอดที่จะเงยหน้าขึ้นมองสำรวจอีกครั้งไม่ได้ และนั่นก็ทำให้ใบหน้างามห่างจากใบหน้ารกรุงรังของเขาเพียงไม่ถึงคืบ ติดที่แว่นดำอันใหญ่เท่านั้นที่เป็นอุปสรรค ไม่อย่างนั้นคงได้คลายความสงสัยอย่างตั้งใจ

    จอมโจรหนุ่มหัวเราะ หึ ๆ ในลำคอ ร่างที่สั่นสะท้านน้อย ๆ ในอ้อมแขนเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเธอกำลังหวาดกลัวขนาดไหน แววตากึ่งหวาดหวั่นกึ่งสงสัยที่จับจ้องใบหน้าเขาอยู่คงอยากรู้เต็มทนว่าเป็นใคร

    “มองอะไรนักหนาครับคุณหนู” เสียงทุ้มลึกเอ่ยถาม ขณะที่ลำแขนแกร่งก็ออกแรงกอดกระชับร่างเย้ายวนเข้าหาตัวแน่นขึ้นอีก

    “คะ คุณเป็นใคร!” คนที่พอรู้คำตอบอยู่แล้วในใจเอ่ยถามเสียงสั่น น้ำเสียงที่เรียกเขาเปลี่ยนไปทันที

    เขายังคิดแค้นเคืองเธออยู่อย่างนั้นหรือ 

    หญิงสาวแทบอยากปล่อยโฮออกมาเสียตรงนั้น แต่ด้วยความหวาดกลัวก็ทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่ขยับกาย ปล่อยให้เขาสัมผัสลวนลามอย่างหยาบคายตามแต่ใจ

    “จำผมไม่ได้หรือไง แหม มันน่าน้อยใจนัก” เจ้าของเสียงละมือจากการลูบไล้บั้นท้ายงามงอนอย่างเสียมิได้ ย้ายมาถอดแว่นโยนทิ้งไปตกบนโซฟาอย่างไม่ไยดี

    “คะ คุณภูวินท์!” เพียงแค่นั้นที่ใบหน้าคมหันกลับมา ร่างบางที่จับจ้องอยู่แล้วก็แข็งทื่อราวกับต้องคำสาป 

    ดวงตาสีสนิมดุดันคู่นี้เธอจำมันได้แม่นยำ เพียงแค่เห็นเท่านั้นแต่ความรู้สึกไฉนไม่ต่างจากถูกคมมีดทิ่มแทงลงตรงกลางอกสักนิด ในที่สุดสิ่งที่เฝ้าภาวนาด้วยความหวังที่ริบหรี่ก็ไม่เป็นผล เป็นเขาจริง ๆ

    หญิงสาวก้มหน้าหลบแทบทันที น้ำใส ๆ ร่วงเผาะจากดวงตาเรียวงามโดยไม่รู้ตัว ส่ายศีรษะอย่างไม่อยากเชื่อ เขารู้ได้ไงว่าเธอกลับมาวันนี้ ความรู้สึกตอนนี้เหมือนจะไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น เธอหูอื้อและตาลายไปหมด ภาพเหตุการณ์ที่เขาบุกไปทำร้ายเธอที่บ้านเมื่อ 5 ปีก่อนหลั่งไหลเข้ามาวนเวียนอยู่เต็มหัว 

    ร่างบางอ่อนแรง หากไม่มีอ้อมกอดของเขาคอยประคอง เธอคงจะร่วงลงกับพื้นไปแล้วตั้งแต่แรกที่ได้สัมผัสดวงตาคู่นั้น ใบหน้าของคนเป็นพ่อลอยเข้ามาในห้วงความคิดเมื่อกำลังอยู่ในอันตราย บิดาที่เคยยื่นอกปกป้องตอนนี้อยู่ที่ไหน

    พ่อขา..ช่วยช่อด้วย เขาจะทำร้ายช่ออีกแล้ว...หญิงสาวนึกถึงบิดาอย่างคนสิ้นหนทาง

    “หึ จำได้แล้วสินะ ไหน ไอ้ปากร้าย ๆ ของเธอมันยังหวานเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า ขอฉันลองดูอีกสักครั้งหน่อยเป็นไง”

    มือหนาจับปลายคางงามให้แหงนเงยรับสัมผัส ลำแขนอีกข้างก็กอดกระชับร่างบางเบียดเข้าหาตัวแนบสนิทราวกับหวงแหนนักหนา สายตาที่มองมาทั้งโลมเลียและดุดันแทบจะฉีกเนื้อเธอออกเป็นชิ้น ๆ ทว่าหญิงสาวก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้เห็นมัน

    ไม่มีโอกาสแม้จะเอ่ยถ้อยคำปฏิเสธ ริมฝีปากบอบบางก็ถูกริมฝีปากดุดันยึดครองไปเสียก่อน เขารุกล้ำเบียดเม้มรุนแรงจนรู้สึกถึงความเจ็บปวด หนวดระคายก็มิวายเสียดสีผิวหน้าบอบบางให้แสบสัน จนเมื่อลิ้นร้อนเข้าซอกซอนสัมผัสเรียวลิ้นเธอได้สำเร็จความวาบหวามรัญจวนก็เริ่มก่อเกิด

    ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้รับ อืม! ไม่สิ เธอเคย หากครั้งนั้นไม่มากมายเท่านี้ จูบนี้กำลังทำให้ช่อแก้วไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่สามารถควบคุมแม้แต่สติให้กลับมา ผู้ชายคนนี้กำลังคิดจะฆ่าเธอด้วยวิธีนี้แน่นอน ความรู้สึกตอนนี้เหมือนกำลังถูกสูบเอาเลือดเนื้อออกจากร่างจนร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัว

    “อ่า หวาน รสชาติเยี่ยมมากคนสวย เธอนี่ดีไม่เปลี่ยนจริง ๆ ไอ้แค่ปาก มันยังยอดเยี่ยมหอมหวานขนาดนี้ ถ้าทั้งตัวมันจะขนาดไหน เสียดาย ถ้าได้...คนแรกฉันคงแทบสำลักความสุขตาย แต่นี่มันคงเละเทะแทบ แต่ไม่เป็นไร โจรสกปรกอย่างฉัน จะเละแค่ไหนฉันไม่เลือกหรอก ขอแค่ได้ก็พอ”

    เสียงพร่ากระซิบคลอเคลียอยู่กับใบหูเล็ก ทันทีที่ได้สำรวจลิ้มลองริมฝีปากที่เคยหลงใหลนั้นอีกครั้ง ความรู้สึกไม่ต่างจากครั้งแรกนัก ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเธอยังหอมหวานและน่าหลงใหลเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง หากไม่เห็นพฤติกรรมเสื่อม ๆ ของเธอกับตาตัวเองวันนี้ เขาคงเชื่อสนิทใจว่าหญิงสาวท่าทางไร้เดียงสาเงอะงะตรงหน้ายังคงความบริสุทธิ์ผุดผ่องไว้รอเขาเพียงผู้เดียว แต่นี่คงเป็นไปไม่ได้ มันคงเป็นมารยาที่ใช้หลอกล่อคู่นอนให้หลงใหลจนเคยตัวเสียมากกว่า

    “คุณภูวินท์ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉะ ฉันขอโทษ” คำขอโทษสั่นเครือหลุดมาจากมโนสำนึกอย่างแท้จริง ความรู้สึกผิดที่มีต่อครอบครัวเขานั้นมากล้น แม้ให้คุกเข่าลงกราบขอโทษแทบเท้าเขาตรงนี้เธอก็เต็มใจ น้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่เธอทำไว้

    ริมฝีปากสั่นระริกที่ขยับพูดยังคงรู้สึกวาบไหวจากรอยสัมผัสล้ำลึกที่อีกคนฝากไว้ น้ำเสียงหื่นกระหายของเขายังดังสะท้านก้องในหู ร่างสั่นงันงกได้เพียงขยับกายต่อต้านน้อย ๆ ในอ้อมแขนแกร่ง ไม่แม้แต่จะกล้าแสดงอาการต่อต้านรุนแรง มือที่เคยยันอกกำยำอยู่ก่อนหน้าเผลอย้ายไปเกาะไหล่หนาเพื่อพยุงกายเมื่อไรนั้นก็ไม่รู้ มารับรู้อีกทีหน้าอกนุ่มนิ่มก็สัมผัสแนบชิดอยู่กับแผ่นอกของเขาราวกับกำลังจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ใบหน้าตื่นตระหนกก้มหลบสายตาที่แสนกลัวนั้นอีกครั้ง อย่าว่าแต่คิดสู้เลย เธอไม่แม้แต่จะกล้ามองสบสายตาหรือด่าทอคนที่ลวนลามอย่างที่ควรจะเป็นด้วยซ้ำ

    ผู้ชายคนนี้เกือบจะพร่าผลาญเอาชีวิตเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง ความกลัวที่มีต่อเขาถึงได้ฝังรากลึกในหัวใจ รู้ว่าอีกฝ่ายสามารถฆ่าเธอได้ในทันทีที่ทำให้เขาไม่พอใจ มากกว่านั้นคือความรู้สึกผิดที่มีต่อเขาและครอบครัวที่ทำให้เธอสับสน แม้จะกลัวแค่ไหน แต่บางครั้งก็อยากให้เขาลงโทษเธอให้สาสมใจ ให้ความคับแค้นที่มีต่อกันได้จบสิ้นลงไปเสียที บางทีมันอาจจะทำให้ความรู้สึกผิดที่ตามหลอกหลอนมากว่าห้าปีหายไปก็เป็นได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×